หัวใจรักใต้บงการ
จะเกิดอะไรขึ้น!

เมื่อคุณย่าหมายยื่นมือเข้ามาบงการหัวใจของหลานชายทั้งสาม
ด้วยการส่งสาว ๆ เข้ามาในชีวิตโดยที่พวกเขาไม่ได้ร้องขอ
Tags: สามหนุ่มพี่น้อง,ซูสีไทเฮา

ตอน: ตอนที่ 37


บทที่ 37


หลังจากนั้นสามชั่วโมง ธัญเทพก็ไปปรากฏตัวที่หน้าประตูรั้วบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดสองชั้น เนื้อที่ราว 50 ตรว. บริเวณหน้าบ้านก่อนถึงตัวบ้านมีการจัดแบ่งเนื้อที่ส่วนหนึ่งไว้ปลูกพุ่มไม้ดอก ชายหนุ่มยิ้มนิด ๆ เมื่อเห็นว่าเป็นดอกมะลิลา ด้วยจำได้ว่าเป็นดอกไม้ที่บัวบุษบาบอกว่าชอบ ตอนที่เขาออกปากถามในเช้าวันหนึ่งขณะนั่งดื่มกาแฟด้วยกัน

ดอกไม้เล็ก ๆ สีขาวบริสุทธิ์ น่าทนุถนอม ขณะเดียวกันก็ให้กลิ่นหอมเย็น ชื่นใจ
ธัญเทพยิ้มเศร้า เมื่อเพิ่งสำนึกได้ว่าลักษณะของดอกมะลิลา ก็คล้ายกับบัวบุษบา...ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อ่อนโยน และซื่อบริสุทธิ์ หากเขาก็ทำลายลงด้วยการเด็ดขยี้ทิ้งอย่างไม่รู้ค่า

เธอจะยอมยกโทษให้เขาไหม

ชายหนุ่มมัวแต่ยืนจมกับความคิดของตัวเอง จนไม่รับรู้ว่ามีใครกำลังเดินเข้ามาหา กระทั่ง...

“มาหาใครคะคุณ”

เด็กสาวอายุราว 18-19 ปี หน้าตาเรียบ ๆ แต่งกายด้วยเสื้อยืดและกางเกงสามส่วน มองปราดเดียว ธัญเทพก็ได้ข้อสรุปว่าคงเป็น ทับทิม เด็กสาวซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ กับป้านภา คนสนิทของคุณรัมภา ซึ่งย่าของเขาติดต่อให้มาอยู่เป็นเพื่อนและคอยรับใช้บัวบุษบาที่นี่

“เราชื่อทับทิมใช่ไหม”

ทับทิมทำตาโตอย่างแปลกใจ ก่อนตั้งคำถามกลับ

“คุณรู้จักหนูได้ยังไง”

“ผมเป็นหลานชายคนรองของคุณรัมภา ชื่อธัญเทพ ผมจะมาหาบัวบุษบา ช่วยเปิดประตูให้ผมหน่อยได้ไหม”

ทับทิมทำตาปริบ ๆ หลังอีกฝ่ายแนะนำตัวว่าเป็นใคร วูบหนึ่งเด็กสาวคิดจะไขกุญแจแล้วเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้ามา ทว่า คำสั่งของป้านภาที่ย้ำนักย้ำหนาตอนพาเธอมาทำงานที่นี่ ก็พลันหวนมายับยั้ง

‘จำเอาไว้ให้ดี อย่าได้เที่ยวเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้าให้ใครง่าย ๆ คนเราสมัยนี้ยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้ ฉวยเป็นขโมยขโจรขึ้นมา จะพากันลำบาก’

“เอ่อ...หนูจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเป็นหลานของคุณท่านจริง ๆ”

ยิ่งตอนนี้ พี่บัวก็ยังไม่กลับเสียด้วย

ธัญเทพฟังแล้วยิ้ม ไม่ได้นึกเคืองเลยสักนิด ตรงกันข้ามชายหนุ่มชอบด้วยซ้ำที่เด็กสาวมีความรอบคอบ เพราะอย่างน้อยบัวบุษบาก็จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง

“มีเบอร์ติดต่อป้านภาไหม หรือเบอร์ของบ้านเทพประทานก็ได้ ถ้ามี...ก็โทร. ไปถามป้านภาดู หรือจะถามกับคุณย่าของผมก็ได้ เพราะท่านรู้ว่าผมมาที่นี่”

เด็กสาวมีท่าทีอึกอักต่อคำบอกตอนท้ายของชายหนุ่ม ก่อนตัดสินใจ

“ถ้าอย่างนั้น คุณรอสักครู่นะคะ ขอหนูโทร. ไปถามป้าก่อน”

คล้อยหลังเด็กสาวซึ่งเดินแกมวิ่งกลับเข้าไปในตัวบ้าน ธัญเทพก็หันหลังยืนอิงแผ่นหลังกับประตูรั้วพลางทอดสายตามองตรงไปยังถนนที่ทอดสู่ปากทางออก กระทั่งมีรถแท็กซี่คันหนึ่งแล่นเข้ามาก่อนจะหยุดลงใกล้ ๆ

บัวบุษบาใจสั่นเมื่อมองผ่านกระจกรถแท็กซี่แล้วเห็นหน้าคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านเธอ หญิงสาวมือสั่นขณะจ่ายค่าโดยสาร ใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อปรับจังหวะหัวใจตนเองจนเป็นปกติ แล้วจึงก้าวลงจากรถ

“บัว...”

ธัญเทพเรียกเมื่อเห็นหน้าคนที่ก้าวลงมาจากรถแท็กซี่ อารามดีใจทำให้เขาลืมตัวขยับจะก้าวไปหา หากต้องชะงักเมื่อบัวบุษบาถอยหลังหนี

“พี่กลางมาที่นี่ได้ยังไงคะ”

“พี่...”

เห็นท่าทีอึกอักของธัญเทพ บัวบุษบาก็แค่นยิ้มก่อนเอ่ยต่อเสียงขื่น

“บัวน่าจะรู้ ยังไงคุณย่าก็ต้องช่วยพี่กลางอยู่แล้ว”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะบัว คุณย่าไม่ตั้งใจจะบอกที่อยู่ของบัวกับพี่ แต่...เป็นเพราะท่านสงสารพี่ ก็เลย...”

คำพูดตอนท้ายหายไปในลำคอ เมื่อธัญเทพเห็นหยาดน้ำใส ๆ ที่เอ่อคลอในดวงตาของบัวบุษบา

คุณย่าสงสารพี่กลาง แล้วทำไมคุณย่าไม่สงสารเธอบ้าง

บัวบุษบานึกน้อยใจ หากไม่ปริปากพูด ซึ่งเป็นจังหวะที่ทับทิมเดินแกมวิ่งจากตัวบ้านมาถึงประตูรั้ว

“อ้าว! พี่บัวกลับมาแล้วเหรอคะ”

ทับทิมทัก พลางไขกุญแจเปิดประตูให้นายจ้างสาวเข้ามา ก่อนหันไปเอ่ยต่อกับชายหนุ่ม

“หนูต้องขอโทษคุณด้วยนะคะ ป้านภาบอกหนูแล้วล่ะค่ะ”

บัวบุษบายังคงปิดปากเงียบ กระทั่งก้าวผ่านประตูรั้วบ้านเข้าไป

“ทับทิม ปิดประตูบ้านซะ ถ้าพี่ไม่อนุญาต ก็ไม่ต้องให้ใครเข้ามา”

คำสั่งนั้นมีผลให้คนฟังทั้งสองต่างพากันชะงัก ก่อนพร้อมใจกันมองตามหลังคนออกคำสั่งที่กำลังเดินตรงเข้าไปในตัวบ้านอย่างไม่สนใจใคร

“เอ้อ...”

ทับทิมได้แต่อึกอัก ขณะมองผู้ชายร่างสูงที่ยังคงยืนอยู่ด้านนอกประตูรั้วด้วยสายตาบอกถึงความลำบากใจ จนธัญเทพต้องยิ้มปลอบ

“ไม่เป็นไร วันนี้ผมจะกลับก่อน แล้ววันหลังค่อยมาใหม่”

ฟังแล้วทับทิมค่อยยิ้มออก ก่อนจัดการล็อคประตูจากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน โดยมีสายตาของธัญเทพมองตามเข้าไปในตัวบ้านที่บัวบุษบาเดินหายเข้าไปก่อนหน้านี้

วันนี้เขาควรจะถอยกลับไปตั้งหลักก่อน อย่างน้อยก็เพื่อให้เวลาบัวบุษบาบ้าง

ธัญเทพบอกกับตัวเอง ก่อนเดินกลับไปขึ้นรถยนต์ด้วยความมุ่งมั่นในใจ

แต่นับจากนี้ เขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีกแล้ว!



เมื่อเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง บัวบุษบาก็ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาฟ้องความอ่อนแอของหัวใจ

ทำไมถึงเจ็บแล้วไม่จำนะบัวบุษบา

คนเจ็บไม่จำคร่ำครวญกับตัวเองอย่างปวดร้าว เมื่อภาพที่ธัญเทพมองมาด้วยแววตาปวดร้าวตอนเธอก้าวถอยหลังหนี ปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิด

แค่เห็นเขาทำหน้าเจ็บปวด หัวใจเธอก็พลอยเจ็บปวดตาม ยิ่งตอนบอกทับทิมให้ปิดประตู เธอก็รู้สึกเหมือนถูกเฆี่ยนด้วยแส้ ทั้งที่เป็นคนออกคำสั่งไปเองแท้ ๆ ไม่มีใครรู้ว่าเธอต้องพยายามฝืนใจมากแค่ไหนที่จะไม่หันกลับไปมองคนข้างหลัง

หากยังเจอกันอยู่แบบนี้ เธอจะตัดใจจากเขาได้อย่างไร

นั่นคือคำถามที่หญิงสาวตั้งกับตัวเอง ขณะทิ้งร่างลงบนพื้นห้องพร้อม ๆ กับเม็ดน้ำตาที่ค่อย ๆ หยดลงมา...หยดแล้วหยดเล่า



เย็นวันนั้น ขณะจะเดินผ่านเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อเดินทางกลับบ้าน ทั้งคุณกวินและกวินธิดาต่างก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกรออยู่

“ผมจะขออนุญาตพากวินธิดาไปทานอาหารครับ”

แม้น้ำเสียงและท่าทางของธราเทพดูนอบน้อม หากแต่สีหน้าแววตาที่ทอดมองมานิ่ง ๆ นั้นกลับทำให้คุณกวินรู้สึกหมั่นไส้จนสวนกลับเสียงแข็ง

“ไม่ได้! ลูกดาต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน”

“ถ้าอย่างนั้น ผมขออนุญาตไปทานข้าวที่บ้านด้วยนะครับ”

คุณกวินสะอึกไปนิดเมื่อเจอกับการออกปากขอตรง ๆ เช่นนั้น ก่อนโต้กลับเสียงขุ่นเข้ม

“ฉันจำได้ว่าบอกนายไปแล้วนะ ว่าอย่ามาวุ่นวายกับลูกดา เพราะตอนนี้นายไม่ได้เป็นคู่หมั้นกับลูกสาวของฉันแล้ว”

“ครับ คุณลุงบอกแล้ว แต่ผมก็จำได้ว่าผมยังไม่ได้รับปาก”

เจอคำตอบตรง ๆ แบบไม่มีอ่อนข้อให้ คุณกวินก็อึ้งไป หากในใจอดค่อนขอดไม่ได้

หน็อย! ไอ้หมอนี่ มันจะมาง้อลูกสาวของเขาหรือจะมาหาเรื่องเขากันแน่

ธราเทพลอบถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าแววตาบอกถึงความไม่สบอารมณ์ของชายสูงวัย หากเมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของกวินธิดา ชายหนุ่มก็นิ่งไปครู่ ก่อนเอ่ยต่อด้วยสุ้มเสียงอ่อนลง

“ผมขอโทษ หากคำพูดของผมทำให้คุณลุงไม่พอใจ แต่ผมอยากเรียนให้คุณลุงทราบว่า ผมจริงใจกับกวินธิดา และที่มาที่นี่ก็เพื่อจะมาขอโอกาสจากคุณลุงและกวินธิดาอีกครั้ง”

“ขอโอกาสอะไร”

“ให้ผมได้เป็นคนดูแลกวินธิดา ผมสัญญา ผมจะไม่ทำให้คุณลุงและกวินธิดาต้องผิดหวังในตัวของผมอีก”

ท่ามกลางการยืนมองหน้ากันราวกับจะวัดใจของสองหนุ่มสองวัย กวินธิดาที่ยืนเงียบมานานก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายยุติ

“คุณพ่อคะ ให้พี่ใหญ่ไปทานข้าวที่บ้านด้วยเถอะค่ะ อย่างน้อยคุณย่าจะได้ไม่มาว่าได้ว่าเราไร้น้ำใจกับหลานชายของท่าน เพราะตอนที่ดาไปพักอยู่ที่บ้านของท่าน ท่านก็ดูแลดาเป็นอย่างดี”

เหตุผลที่ลูกสาวหยิบยกขึ้นมา ทำให้คุณกวินจนใจจะโต้แย้ง จำต้องยอมตกลงอย่างไม่เต็มใจนัก

“ก็ได้ ถ้าอยากจะไปนัก ก็ตามมา”

ธราเทพไม่โต้ตอบอะไร นอกจากมองกวินธิดาด้วยแววตาละมุน จนคนถูกมองเริ่มทำตัวไม่ถูก

“ขอบคุณ”

รอยยิ้มที่กวินธิดาส่งมาให้นั้นช่างสดใสเสียจนธราเทพใจเต้นแรง ความรู้สึกอ่อนโยนถูกถ่ายทอดผ่านแววตาที่ทอดมองหญิงสาว ส่งผลให้คนถูกมองต้องเสมองไปทางอื่นอย่างขัดเขินและทำตัวไม่ถูก

“จะยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม หรือเปลี่ยนใจจะไม่ไปแล้ว”

คุณกวินเอ่ยแทรกหลังจากจับตามองท่าทีของลูกสาวกับธราเทพ แล้วเริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ฝ่ายชายขึ้นมาตงิด ๆ

ธราเทพนิ่งมองสีหน้าบึ้งตึงของคุณกวิน พลางคิดในใจว่าถึงแม้เขาจะได้ใจของกวินธิดาแล้วก็ตาม แต่หากยังไม่สามารถทำให้คุณกวินยอมรับในตัวของเขาได้ มันก็ไร้ความหมาย เพราะดูแล้วสองพ่อลูกคู่นี้ผูกพันกันไม่น้อย กวินธิดาคงไม่มีความสุขนักหากเขากับพ่อของเธอยังเข้ากันไม่ได้แบบนี้

เพราะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงตอบกลับอย่างสุภาพ ก่อนขยับก้าวตามคุณกวินและกวินธิดาออกไปยังลานจอดรถ



“คุณอดิศรมารอได้เกือบชั่วโมงแล้วค่ะ”

คุณกวินชะงัก เมื่อก้าวลงมาจากรถยนต์ แล้วเจอเข้ากับคำรายงานของอรุณี หญิงร่างท้วมวัย 50 ปี คนสนิทของภรรยาที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลงานทุกอย่างภายในบ้านตามที่เขามอบหมายให้ ชายสูงวัยนิ่งไปนิดก่อนหันไปมองลูกสาว จากนั้นจึงมองต่อไปยังคนที่เพิ่งก้าวลงมาจากที่นั่งทางตอนหลังของรถยนต์

รอยยิ้มสะใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณกวิน ก่อนบอกกับลูกสาวด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ

“ลูกดา คุณอดิศรมาหาแน่ะ”

ธราเทพขมวดคิ้วฉับทันทีที่ได้ยินว่ามีผู้ชายมาหากวินธิดา ดวงตาคมเข้มตวัดมองหญิงสาวราวกับจะขอคำตอบ ทว่าฝ่ายถูกมองไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่ขบคิด

กวินธิดานิ่งไปเป็นครู่ขณะพยายามทบทวนใบหน้าของคนที่ผู้เป็นพ่อเอ่ยถึง หากจนแล้วจนรอดเธอก็นึกไม่ออก จนสุดท้ายต้องยอมแพ้

“คุณอดิศรนี่...เป็นใครกันคะคุณพ่อ ดานึกไม่ออกเลยค่ะ”

ธราเทพลอบผ่อนลมหายใจออกมาหลังจากฟังคำพูดของกวินธิดา อารมณ์ขุ่นมัวที่เมื่อครู่เริ่มก่อตัวเป็นริ้ว พลันจางหายไป หากความรู้สึกบางอย่างทำให้อดไม่ได้ต้องหันไปมองคนที่เขาหมายมั่นจะให้เป็นพ่อตา

สีหน้าเจื่อน ๆ ของคุณกวินที่แลเห็น ก่อนที่อีกฝ่ายจะปรับสีหน้าเป็นปกติ ทำให้ธราเทพต้องหรี่ตาลงนิด ๆ พลางใคร่ครวญบางอย่างในใจ

“ก็...คุณอดิศรที่เป็นน้องชายคุณอดิศักดิ์ ที่เราเจอเมื่อวานตอนที่จะกลับบ้านยังไงล่ะ”

กวินธิดายิ้มนิด ๆ เมื่อเริ่มนึกออกหลังจากฟังบิดาเท้าความถึงเรื่องเมื่อวาน ในตอนที่พ่อและเธอกำลังเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางก็ได้พบกับรถยนต์ของคุณอดิศักดิ์ เจ้าของรีสอร์ทที่อยู่ติด ๆ กันซึ่งจอดเสียอยู่ข้างทาง พ่อของเธอจึงตัดสินใจลงจากรถเพื่อไปช่วย ทำให้ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับน้องชายของเขา ซึ่งก็คืออดิศร ชายหนุ่มหน้าตาดี แต่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ นาน ๆ ครั้งจึงขึ้นมาพักที่บ้านของพี่ชายเหมือนอย่างเช่นครั้งนี้ หลังใช้ความพยายามอยู่เป็นครู่ ก็ยังไม่สามารถแก้อาการรถยนต์ได้ พ่อของเธอจึงชักชวนสองพี่น้องให้โดยสารรถไปด้วยกัน

ในขณะที่ลูกสาวกำลังทบทวนเรื่องเมื่อวาน คนเป็นพ่อก็นึกย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเช่นเดียวกัน

เพราะสายตากรุ้มกริ่มที่จับจ้องลูกสาวเขาชนิดไม่วางตาของอดิศร นับจากวินาทีแรกที่ถูกแนะนำให้รู้จัก ทำให้คุณกวินไม่ชอบใจและนึกเขม่นอีกฝ่ายทันที ด้วยรู้สึกขัดตากับบุคลิกที่ค่อนข้างหลุกหลิก อีกทั้งแววตาที่ส่อถึงความเป็นคนเจ้าชู้

แม้ลึก ๆ ไม่ชอบใจนักกับการมาเยือนของอดิศร หากยามนี้อารมณ์ขวางปนหมั่นไส้ธราเทพมีมากกว่า คุณกวินจึงตัดสินใจจะยืมมืออดิศรมาปั่นหัวธราเทพเล่น

มาลองดูกันสักตั้งนะ ไอ้หลานชาย!

ชายสูงวัยปรายตามองคนข้างตัวลูกสาวแวบหนึ่ง พลางจุดยิ้มที่ราวจะเยาะตรงมุมปาก

“ไป...ลูกดา รีบเข้าบ้านกันเถอะ ป่านนี้คุณอดิศรคงรอแย่แล้ว”

กวินธิดารับคำบิดา ก่อนหันไปมองคนข้างตัว พลางออกปากชักชวน

“เข้าไปในบ้านกันเถอะค่ะพี่ใหญ่”

ธราเทพไม่ได้พูดอะไร นอกจากก้าวตามสองพ่อลูกไปเงียบ ๆ พลางขบคิดบางอย่างอยู่ภายในใจ


***********************


สวัสดีค่ะ วันนี้เอานิยายตอนใหม่มาส่งให้แล้วค่ะ แต่ก็ยังได้แค่ตอนเดียวเหมือนเดิม เพราะช่วงวันหยุดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา คนแต่งมีเหตุให้ตะลอนทัวร์ออกนอกบ้านตลอด...

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และโหวต like ที่มอบให้กันค่ะ

saralun : ตอนนี้คงไม่ทำให้น้ำตาซึมแล้วนะคะ เพราะไม่ค่อยเศร้าเท่าไหร่...

รัชต์ : ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะพี่ใหญ่เข้าข่ายพวกท่ามาก มาดจัดค่ะ ก็เลยดูเหมือนจะข่มคนอื่นตลอด

ณัฐวีร์ : ขอบคุณค๊า

anOO : ก็ต้องดูกันไปค่ะว่านายกลางจะใช้ความพยายามในการง้อมากแค่ไหน

เพลา : ก็อยากให้พี่ใหญ่หวานได้อีกนะคะ แต่ดูจากลักษณะท่ามาก ปากหนักอย่างพี่ใหญ่แล้ว คาดว่าอาจจะยาก..หุ หุ

xeve : ขอบคุณค๊า

Pat : ต้องมีวันที่บัวแพ้ใจตัวเองแน่ ๆ ค่ะ แต่กว่าจะถึงวันนั้น พี่กลางอาจต้องซดน้ำใบบัวบกไปอีกพักใหญ่ ^___^

nickelodon : ขอบคุณเช่นกันค๊า สำหรับคอมเม้นท์ที่ให้กัน ^____^

หมูอ้วน : พี่กลางฝากมาขอบคุณสำหรับแรงใจค๊า

XaWarZd : นั่นสิคะ จะเอายังไงดีหนอกับเรื่องของนายกลางกับหนูบัว ถ้าเอาคืนนายกลางก็ต้องแลกกับน้ำตาของหนูบัว ลำบากใจจัง หุ หุ... ส่วนเรื่องพี่ใหญ่ มีบททดสอบรออยู่ค่ะ ซึ่งพอผ่านบททดสอบไปแล้ว คงต้องให้คุณ XaWarZd ช่วยมาตัดสินใจด้วยคนว่า พี่ใหญ่ผ่านการทดสอบหรือเปล่า

violette : ถ้าไม่ข่ม ก็ไม่ใช่พี่ใหญ่สิคะ หุ หุ ขอแอบกระซิบนิดหนึ่ง ลักษณะของหนูดาเนี่ยถอดแบบมาจากคนแต่งเองล่ะค่ะ (ช่างกล้าจริง จริ๊ง พันวลี 555) แต่เรื่องของนายกลางเนี่ย ถึงจะเริ่มน่าสงสาร แต่ก็เข้าสู่ช่วงใช้กรรมค่ะ เพราะทำตัวเอง ส่วนพี่เล็กกับหนูแก้วเนี่ย คาดว่าคู่นี้คงเป็นกามเทพให้นายกลางไม่ได้หรอกค่ะ เพราะแค่ทำตัวดี ๆ ไม่ทะเลาะกันเหมือนเด็ก ก็ยากเต็มที่แล้ว 555

แพม : ใช่ค่ะ หนูบัวเป็นแบบอ่อนนอกแข็งใน เพราะงั้นพี่กลางคงไม่โชคดีอย่างพี่ใหญ่แน่

nunoi : ไม่ดุ ไม่ข่ม ก็ไม่ใช่พี่ใหญ่ค๊า...ส่วนหนูบัวเนี่ย ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะดูท่าจะไม่ใจอ่อนง่าย ๆ แน่

kaero : อย่างนี้ล่ะค่ะพี่ใหญ่ของเรา วัน ๆ มีแต่เรื่องงาน พอมาเจอเรื่องสาว ก็เลยออกแนวทื่อ ๆ ซะงั้น

Setia : 555 เอาให้นายกลางอ่วมเลยเหรอคะ...หุ หุ กลัวจังว่าหนูบัวจะไม่กล้าจัดให้

หญิงใหญ่ : หุ หุ ...สงสัยว่าคุณกลางจะทำให้คุณหญิงใหญ่ต้องกลุ้มไปอีกพักใหญ่

ป้าภา : ขอบคุณค๊า




พันวลี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2554, 22:42:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2554, 22:42:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 3423





<< ตอนที่ 36   
pattisa 20 ก.ย. 2554, 23:03:21 น.
เย้ มาแล้ว ลุ้นคู่ของบัวอยู่นะคะ :D


เพลา 20 ก.ย. 2554, 23:23:55 น.
พี่ใหญ่ สู้ๆ ว่าแต่จะทำอะไรเหรอเห็นคิดบางอย่างอยู่ในใจ พี่กลางน่าสงสารแล้วหนูบัวสงสารพี่กลางเถอะ เค้าอยากอ่านตอนหวานๆแระ อิอิ ส่วนคุณเล็กกะหนูแก้วหายไปไหนเนี่ย


Pat 20 ก.ย. 2554, 23:32:10 น.
สงสัยท่าจะชินคราวละสองตอน เลยรู้สึกว่าตอนนี้ทำไมมันสั้นจัง คู่นายกลางยังจัดได้อีกฮะ เริ่มเห็นใจแต่ยังไม่สาแก่ใจ อิอิ


XaWarZd 21 ก.ย. 2554, 00:28:52 น.
มาแล้วใช่มั้ยบททดสอบๆ 555 จัดหนักเลยนะค่ะ คุณพ่อตา
เฮ้อ หนูบัวก็ยังคงเสียน้ำตาอยู่เรื่อยๆ น่าสงสาร จัดหนักต่อไปดีมะเนี่ย


violette 21 ก.ย. 2554, 01:45:23 น.
พี่ใหญ่นี่ข่มได้ข่มดีนะเฮียนะ ดีแต่หนูดาออกจะหัวอ่อน ตาพี่ใหญ่เลยสบาย(มั้ย)ไป
ไม่น่าเชื่อว่าคุณพันวลีจะแนวหนูดานะคะเนี่ย แต่ดีค่ะใครๆก็ชอบผู้หญิงแบบนี้เนอะ อิอิ
ยังดีนะคะ ที่ไม่แต่งให้หนูบัวท้องไม่งั้นคงกินน้ำใบบัวบกกันเป็นถังๆแน่ๆทั้งพี่กลางทั้งหนูบัว
คู่ตาเล็กกับหนูแก้ว เห็นจะจริงค่ะ ง้องแง้ง แง้วๆกันอยู่แบบนี้คงยังสามัคคีกันเล่นบทกามเทพไม่ไหว เอาคู่ตัวเองให้รอดก่อนเนอะ


หมูอ้วน 21 ก.ย. 2554, 06:20:53 น.
พี่ใหญ่ จะผ่านด่านพ่อตามั้ยเนี่ย


รัชต์ 21 ก.ย. 2554, 06:48:02 น.
ใครเป็นนายกวินก็คงคันหลังเท้ากันแน่ๆ ว่าที่ลูกเขยดูอยู่สูงกว่าทุกกรณีแบบนายใหญ่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ


nunoi 21 ก.ย. 2554, 10:07:22 น.
เริ่มสงสารพี่กลาง ซะแล้ว หนูบัว แกล้งให้ช้ำใจ อีกพอประมาณก็แล้วกันเนอะ
พี่ใหญ่ ถ้าจะโดนพ่อตาแกล้งซะแล้ว


kaero 21 ก.ย. 2554, 11:26:19 น.
ศึก ว่าที่พ่อตา กะ ว่าที่ลูกเขย ไม่รู้ใครแพ้ใครชนะ รอลุ้นกันต่อไป


anOO 21 ก.ย. 2554, 11:26:52 น.
พี่กลางสู้ๆ ทำกับบัวไว้เยอะ ก็ต้องสู้เยอะๆๆๆๆๆๆ
พี่ใหญ่ก็สู้ๆ ยังไงดาก็อยู่ข้างพี่ใหญ่อยู่แล้ว


แพม 21 ก.ย. 2554, 15:26:53 น.
อ่า...ไม่ได้สิ หมั่นไส้คุณใหญ่เป็นที่สุด อย่าเพิ่งใจอ่อน


ณัฐวีร์ 21 ก.ย. 2554, 21:01:02 น.
งอนนานขนาดนี้ ระวังคนง้อเค้าจะท้อก่อนนะจ๊ะ


ป้าภา 26 ก.ย. 2554, 09:55:53 น.
สิ้นปีงบประมาณเหมือนสิ้นใจงัยไม่รู้ ป้าหล่ะเหนื่อย ขอแอบมาอ่านนิยายนิดนึง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account