The Authority วังวนกลรัก
แฟนตาซีการเมือง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ

เนิ่นนานมาแล้ว สมัยที่ผืนแผ่นดินยังคงรวมกันภายใต้นามของอาณาจักรเพียงหนึ่ง หากความวุ่นวายของสงครามกลางเมืองได้ฉีกกระชากผืนแผ่นดินเดียวกันให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ นายพลรัตเลดจ์ หนึ่งในทหารระดับสูงของอาณาจักรที่ล่มสลายได้เข้ายึดครองผืนแผ่นดินที่ราบลุ่มแม่น้ำทางทิศเหนือและสถาปนาราชวงศ์รัตเลดจ์ขึ้น พร้อมกันนี้เขายังได้ขนานนามแผ่นดินของตนว่า ราชอาณาจักรเอเวอเรีย อันมีรากศัพท์มาจากภาษาโบราณที่หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง


สำหรับท่านนายพลผู้ได้เห็นสงครามที่เต็มไปด้วยการนองเลือดมาจากครั้งอาณาจักรเดิม เขาได้เห็นการผลัดเปลี่ยนราชบัลลังก์ถึงสามครั้งในช่วงเวลาเพียงแค่สิบปี ความเหลวแหลกของผู้ครองนคร การคิดคดของเหล่าขุนนาง ความไม่พอใจของประชาชน และสุดท้ายคือการล้มล้างราชวงศ์และตามมาด้วยสงครามที่เต็มไปด้วยการบาดเจ็บล้มตาย เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่นายพลรัตเลดจ์ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เหล่าชนชั้นปกครองควรจะเรียนรู้ นั่นคือ อันตรายของการที่อำนาจตกอยู่ในมือของคนเพียงผู้เดียว


จริงอยู่ว่าหากอำนาจอยู่ในมือของคนที่เหมาะสม นั่นก็ย่อมจะเป็นเรื่องดีและนำมาซึ่งยุคอันรุ่งโรจน์ ทว่าหลังจากนี้เมื่อผ่านไปสิบปีร้อยปี จะมีสักกี่ครั้งกันเล่าที่อำนาจจะตกอยู่ในมือของผู้ที่เหมาะสมอย่างแท้จริง...มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงที่จะมีแต่ผู้เหมาะสมที่จะได้รับสืบทอดอำนาจนั้นสืบต่อมาทุกรุ่น ด้วยเหตุนั้นเองอดีตนายพลผู้ปรีชาจึงได้ทำในหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งกลายเป็นการวางรากฐานให้แก่อาณาจักรเอเวอเรียในยุคหลังอย่างมั่นคง


ด้วยเหตุนี้ นายพลรัตเลดจ์จึงได้ตัดสินใจมอบรางวัลชิ้นหนึ่งให้แก่ ไนซ์ และ เซน ขุนพลฝาแฝดใต้บังคับบัญชาของตน ซึ่งได้ทำความดีความชอบอย่างใหญ่หลวงในการช่วยสถาปนาราชวงศ์นี้ขึ้นมา รางวัลที่ว่านั้นคือสิ่งที่ไม่เคยมีเจ้าผู้ครองนครคนใดจะประทานให้แก่ข้ารับใช้มาก่อน นั่นคือ อำนาจในการปกครอง


ไนซ์ ฝาแฝดคนพี่ ได้กลายมาเป็นต้นตระกูลของตระกูลตะวันออก ดูแลรับผิดชอบในด้านการติดต่อกับอาณาจักรอื่นๆ การคลัง และกำลังรบ


เซน ฝาแฝดคนน้อง ได้กลายมาเป็นต้นตระกูลของตระกูลตะวันตก ดูแลรับผิดชอบในด้านความสงบสุขเรียบร้อยของชาวเมือง สาธารณูปโภค การศึกษา และด้านพัฒนาการทางเทคโนโลยี


ด้วยความคิดอันแยบคายของนายพลรัตเลดจ์ ทั้งตระกูลตะวันออกและตะวันตกต่างก็ได้รับอนุญาตให้มีกองกำลังทหารที่ขึ้นตรงต่อตนเอง และพระองค์ยังทรงจัดตั้งสภาขุนนางซึ่งมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการปกครองขึ้น จุดมุ่งหมายคือเพื่อให้แน่ใจว่าความคิดของเหล่าขุนนางที่หลุดลอดออกไปย่อมได้รับการกลั่นกรองก่อนหนึ่งชั้น แต่ว่าแม้จะเป็นสภาที่ประกอบด้วยเหล่าขุนนางที่ชาญฉลาดหรือมากประสบการณ์แค่ไหน สภาก็ยังต้องการสิ่งที่เรียกว่าผู้นำ และผู้ที่เป็นผู้นำของสภาขุนนางก็คือ ผู้นำของตระกูลตะวันออกและผู้นำของตระกูลตะวันตกนั่นเอง


โดยเปลือกนอกมันเป็นการมอบรางวัลให้อย่างไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แต่แท้จริงแล้วทั้งหมดต่างมีเพื่อทำให้เกิดระบบที่อำนาจถูกแบ่งออกเป็นสองโดยตระกูลตะวันออกและตะวันตก ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีการคานอำนาจกันเกิดขึ้น จริงอยู่ว่าเวลานี้ไนซ์และเซนอาจจะเป็นฝาแฝดที่รักกันแค่ไหน แต่เมื่อแยกตระกูลกันแล้ว สักวันหนึ่งทั้งสองตระกูลก็จะไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอีก แต่จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ต่างก็จะทำหน้าที่เพื่อตระกูลของตน และเพราะอำนาจที่ได้รับมาเทียบเท่ากันนี้ ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถเผยอตัวขึ้นเหนืออีกฝ่ายได้ ทั้งตระกูลตะวันออกและตระกูลตะวันตกจะทำได้แค่จับจ้องมองกัน ระแวดระวังกัน คานอำนาจซึ่งกันและกัน และด้วยเหตุนี้บัลลังก์แห่งราชันย์ก็จะมั่นคงด้วยสองตระกูลนี้ตราบนานเท่านาน


จากวันนั้น...กาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปี วันเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความคิดของจอมราชันย์นั้นถูกต้อง แม้ว่าในยุคแรก ด้วยสายสัมพันธ์แห่งพี่น้องและความภักดีแก่นายเหนือจะทำให้หนึ่งราชาและสองตระกูลต่างก็สมัครสมานสามัคคีกันเป็นอย่างดี แม้ตามกฎหมายจะทำให้องค์ราชามีอำนาจต่อสภาเพียงน้อยนิด แต่พระองค์ก็สามารถใช้อำนาจนั้นผ่านตัวแทนอันได้แก่สองตระกูลได้ ทว่าเมื่อสิ้นยุคสมัยนั้น วันเวลาได้ผันผ่านไป..จิตใจของผู้คนก็เปลี่ยนแปลง


หากยุคใดราชาเข้มแข็ง พระองค์ก็จะทรงใช้อำนาจผ่านทางสองตระกูล หากยุคใดที่ราชาอ่อนแอ อำนาจนั้นก็จะถูกใช้โดยสองตระกูล..เช่นเดียวกับที่มีการผลัดเปลี่ยนยุคสมัย ในช่วงเวลาเหล่านั้นตระกูลตะวันออกและตะวันตกก็ได้ผลัดเปลี่ยนผู้นำมาหลายต่อหลายคน สายเลือดที่เคยเป็นหนึ่งเดียวได้จืดจางลงท่ามกลางวันเวลาหลายร้อยปีนั่น กฎที่ห้ามไม่ให้ทายาทสายตรงของสองตระกูลแต่งงานข้ามตระกูลกันนั้น ยิ่งทำให้พวกเขากลายเป็นแค่คนรู้จักที่บังเอิญมีบรรพบุรุษเป็นพี่น้องกัน แต่ไม่อาจนับว่าเป็นเครือญาติกันได้อีก


แต่บางทีอาจเพราะสายเลือดอันเข้มข้นในสมัยอดีต จึงทำให้ในทุกรุ่นของทั้งสองตระกูลต่างก็มีฝาแฝดชายถือกำเนิดขึ้นเสมอ จนมันกลายเป็นกฎที่รับรู้กันโดยทั่วว่า ผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปจะต้องเป็นคู่แฝดชายทั้งสองเท่านั้น!


นั่นเป็นกฎที่ฟังดูแปลกๆแต่เพราะทั้งสองตระกูลต่างก็ไม่เคยขาดฝาแฝดชายในทุกรุ่น กฎข้อนี้จึงกลายเป็นเรื่องดี ซึ่งทำให้ภาระหน้าที่อันมากมายของตระกูลได้ถูกแบ่งเบาด้วยมือของคนสองคน ไม่เคยมีปรากฏว่าฝาแฝดคู่ใดไม่ว่าจะเป็นตระกูลตะวันออกหรือตะวันตกที่จะทรยศหรือแย่งชิงอำนาจกันเอง บางทีมันอาจเป็นความรักระหว่างพี่น้อง หรือบางทีมันอาจเป็นเพราะพวกเขาต่างก็รู้ว่าไม่อาจจะทะเลาะกันได้ เพราะการทะเลาะของพวกตนย่อมจะทำให้ตระกูลมีช่องโหว่ และเวลานั้นอีกตระกูลที่เฝ้าดูอยู่ก็จะยื่นมือเข้ามาทำลายพวกเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พวกเขาจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น!


จากวันที่สถาปนาราชอาณาจักรเอเวอเรียมาจนถึงเวลานี้ เป็นเวลา 462 ปีแล้ว ปัจจุบันบัลลังก์ตกอยู่ภายใต้อำนาจของราชาเอ็ดเวิร์ด วัย 43 พรรษา ผู้นิยมในสุรา อิสตรีและดนตรีกาล ความพึงพอใจของพระองค์มีเพียงการจัดงานเลี้ยงและรับสนมเพิ่มเข้ามาในวัง นั่นทำให้อำนาจด้านการเมืองการปกครองแทบทั้งหมดตกอยู่ในการควบคุมของสภา หรือหากจะพูดในอีกแง่...ในการควบคุมของตระกูลตะวันออกและตระกูลตะวันตก


“...นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว”


ขุนนางวัยชราผู้รับใช้เจ้าแผ่นดินมาสี่สมัยและมีที่นั่งในสภานานกว่า 60 ปีเคยพูดให้เหล่าสหายต่างวัยฟังด้วยความขบขัน ก่อนจะขยายความต่อว่าสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานนั้นไม่ใช่การที่อาณาจักรถูกปกครองโดยสองตระกูล แต่เป็นการที่ทั้งสองตระกูลต่างก็กำลังช่วงชิงอำนาจกันออย่างซึ่งหน้า ด้วยการปะทะคารมบนเวทีที่มีชื่อว่า สภาขุนนาง


อาจเพราะก่อนหน้านี้ ผู้นำของทั้งสองตระกูลแทบไม่เคยเลยที่จะอยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน บางครั้งก็เป็นผู้นำตระกูลตะวันออกวัยชรากับผู้นำตระกูลตะวันตกที่อายุยังไม่ถึงสิบเจ็ด หรือบางครั้งก็เป็นฝ่ายตะวันออกที่ยังอ่อนเยาว์และฝ่ายตะวันตกที่เต็มไปด้วยอาวุโสและเล่ห์กล นั่นทำให้ขั้วอำนาจในสภาขุนนางเปลี่ยนข้างไปมาอย่างรวดเร็วและไม่แน่นอนอยู่เสมอ จนกระทั่งเวลานี้หลังจากผ่านมากว่าหกสิบปี บนโต๊ะกลมที่ทรงอำนาจที่สุดแห่งราชอาณาจักร ก็ได้มีผู้นำของทั้งสองตระกูลที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกันนั่งเผชิญหน้ากันอยู่ แม้ว่าวัยไล่เลี่ยกันที่ว่านั้นจะหมายถึงการที่ผู้นำคนปัจจุบันทั้งสองแห่งตระกูลตะวันออกจะมีอายุมากกว่าผู้นำคนปัจจุบันแห่งตระกูลตะวันตกถึงห้าปีก็ตาม แต่มันก็กลายมาเป็นที่จับตามองของเหล่าฝูงชนอย่างรวดเร็ว เหมือนดังเช่นทุกครั้งที่ไม่ว่าตระกูลตะวันออกหรือตะวันตกจะทำอะไรก็มักจะตกอยู่ในความสนใจของสาธารณชนเสมอ


...และบางทีนี่อาจเป็นเค้าลางบ่งบอกถึงความสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต...




- - - - TBC. - - - -



Langlae
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ย. 2554, 15:00:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.ย. 2554, 15:00:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1496





   บทที่ 1 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account