รอยรักแรงพยาบาท
ที่แค้นนักเพราะรักมากนั่นเอง
Tags: รัก ชิงชัง พยาบาท

ตอน: ผู้ไม่ลืมอดีต

คำท้ายิ่งสร้างความแค้นมากเป็นทวีคูณพระองค์ท่าน แผดสุรเสียงดังกึกก้อง
“กูจักส่งวิญญาณมึงไปให้ชู้รักบัดเดี๋ยวนี้นางหญิงทรยศ”
อัสนีบาศฟาดเปรี้ยงใส่กลุ่มชาวเมือง ความร้อนแรงของไฟจากเบื้องบนทำให้คนเคราะห์ร้ายถูกเผาเป็นตอตระโก สายฟ้ายังฟาดใส่ต้นไม้ใหญ่จนเกิดเปลวเพลิงขึ้นมาได้โดยฉับพลัน ดังนั้นในท่ามกลางพายุฝน กลับเกิดไฟนรกที่ถูกส่งมาจากท้องฟ้าได้เผาผลาญซ้ำ จนเกิดความพินาศเพิ่มไปอีก
การตายอย่างน่าอนาถดำเนินไปไม่หยุด เสียงร้องดังโหยหวน ดังไม่ขาดระยะ
ทันใดนั้นผืนแผ่นดินได้ยุบตัวลง ก่อนจะแผ่เป็นวง กว้าง กว้าง ขึ้นเรื่อยๆ เกิดน้ำประหลาดจากพื้นดินผุดขึ้น ขณะเดียวกับที่กระแสน้ำจากน้ำป่ายังไหลบ่าเชี่ยวกราก พัดพา เอาท่อนไม้ ซากบ้านเรือน จนเกิดเสียงปะทะกันครืนครัน เสียงนั้นน่ากลัวราวกับเป็นเสียงเพรียกหา มาจากนรกกระนั้น!
เมื่อซากท่อนไม้ท่อนซุงไหลมาทับถมกันมากขึ้น ทำให้เกิดการปิดกั้น ของทางน้ำธรรมชาติ จึงทำให้เกิดกระแสน้ำเปลี่ยนทิศทาง สายน้ำเชี่ยวกรากถาโถมเข้าท่วมทั้งเมืองในชั่วพริบตา ผู้คนชาวเมืองผู้มีกำลังกล้าแข็งไม่ถูกพายุพัด หากบัดนี้กำลังแหวกว่ายในกระแสน้ำ ความเชี่ยวมากขึ้นจึงเกิดกระแสน้ำวน กระจายไปทั่ว พลังอำนาจที่มองไม่เห็นจากใต้ผืนน้ำ เริ่มดึงชาวเมืองทั้ง ชาย-หญิง ซึ่งไม่เลือกว่าอยู่ในวัยใด สังขารเป็นเช่นไร เพราะในขณะนี้ ทุกคนมีความตายอย่างเท่าเทียมกัน แม้แต่องค์รังสิมันตุ์พ่อเจ้า และอุษาวดีเทวีก็ไม่อยู่ในข้อยกเว้น ทั้งสองพระองค์ถูกกระแสน้ำฉุดดึง รังสิมันตุ์เจ้าทั้งแหวกว่ายฝ่ากระแสน้ำเพื่อไปให้ถึงองค์เทวี ในพระหัตถ์กุมพระแสงดาบไว้มั่น จวนถึงองค์อุษาวดี พลันกระแสน้ำกลับพัดพาให้ห่างออกไปอีก
ภัยธรรมชาติปฏิบัติการด้วยความโหดร้าย ไร้ความปรานี ผู้คนที่หมดแรงว่ายในกระแสน้ำเชี่ยวค่อยจมหายไปทีละคน ทีละคน น้ำยิ่งเพิ่มสูงขึ้น สูงขึ้น ในที่สุดทั้งเมืองจมอยู่ในผืนน้ำกว้าง จนกลายเป็นบึงขนาดกว้างใหญ่
ความอ่อนล้ามาเยือนอุษาวดีเทวี พระนางทอดสายพระเนตรมองพระผู้เป็นที่รัก เปล่งคำพูดที่มิอาจไปถึงรังสิมันตุ์
“หัวใจของอุษาเป็นของพี่เจ้าเพียงพระองค์เดียว พี่เจ้า”ร่างอุษาวดีถูกกระแสน้ำพัดออกไปยิ่งห่าง ต่อเบื้องพระพักตร์ แม้รังสิมันตุ์เจ้า ผนึกกำลังทุกส่วนที่มีอยู่ว่ายน้ำทวนเข้าไป หากถูกแรงประหลาดผลักดันออกมาอีก
รังสิมันตุ์พ่อเจ้าตกตะลึง พระองค์ไม่ปรารถนาให้อุษาวดีเทวีหายไปเช่นนี้ พระองค์ต้องการเห็นพระนางสิ้นพระชนม์ ต่อเบื้องพระพักตร์
“อุษาวดี เจ้าขึ้นมาให้พี่ได้ปลิดชีพเจ้าบัดเดี๋ยวนี้ อุษาวดี อุษาวดี”
พระหัตถ์ใหญ่ปล่อยพระแสงดาบให้หลุดจากพระหัตถ์ในที่สุด ทรงจับสายพระเนตรจ้องไปบึงน้ำกว้างสุดตา เมืองน่านฟ้าอันยิ่งใหญ่ ได้ล่มสลายลงไม่ทันข้ามวัน แต่ที่เจ็บพระทัยยิ่งกว่าการล่มสลายของบ้านเมือง คือ พระองค์มิได้เห็นอุษาวดีเทวีตายต่อเบื้องพระพักตร์ ในพระทัยร้าวรานน้ำพระเนตรของจอมกษัตริย์จึงหลั่งริน
....................................
ในคืนหนึ่งของศตวรรษที่21
คิมหันต์ กำลังอยู่ในห้วงแห่งนิทรารมย์ เตียงนอน หนานุ่ม ในห้องสี่เหลี่ยม ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยราคาแพง ภาพในความฝันแจ่มชัดราวกับว่านั่นไม่ใช่เป็นแต่เพียงความเลื่อนลอยแห่งกระแสความคิด หากมันดูเหมือนจริง อิสตรี ผู้มีความงดงามอย่างน่าหลงใหล นางแต่งกายด้วยอาภรณ์ดังสตรีสูงศักดิ์โบราณ หากว่านางถูกจองจำด้วยโซ่ตรึงพระหัตถ์ทั้งสองติดผนังกำแพง พระบาททั้งสองข้างจองจำด้วยโซ่ตรวจหนักอึ้ง มีทหารแต่งกายโบราณยืนยามอยู่สองนาย และในมือของพวกเขามือถือดาบโค้งยาวใหญ่ ความแน่นหนาของที่คุมขังกั้นด้วยกรงเหล็ก ยากยิ่งจะหนีรอดออกมาได้ และห้องนั้นนางมิได้อยู่เพียงลำพัง เพราะที่พื้นใกล้ๆกับนางมีบุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้างามเยี่ยงสตรีเพศ เรือนกายสูงโปร่ง แต่งกายเช่นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง เขาอยู่ในอิริยาบถยอบกายอยู่ตรงเบื้องหน้าสตรีผู้มีความงาม ร่างของเขาถูกโซ่คล้องรอบคอโดยแน่น ความยาวของโซ่มากพอที่จะรัดมือทั้งสองไขว้ไปเบื้องหลังเป็นการพันธนาการอีกครั้ง เวลานี้ปากของชายรูปงามเอ่ยเอื้อนวาจา อ้อนวอนต่อนางผู้มีความงาม หากสิ่งที่เขาได้รับตอบกลับคือนางถลึงตาใส่ด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง
เสียงฟ้าร้องครืนครัน อัสนีบาศฟาดเปรี้ยง มันทำให้ชายผู้กำลังนิทราสะดุ้งตื่น ผวาลุกขึ้นนั่งโดยฉับพลัน
เขาหอบหายใจเหนื่อยหนัก ก่อนจะ ยกมือขึ้นกุมศีรษะนึกทบทวนความฝันซ้ำซาก
...ทำไมเขาต้องฝันถึงเรื่องนี้บ่อยๆ ทั้งที่เขาเคยไปรักษาจากจิตแพทย์เพื่อหาทางรักษา แพทย์จ่ายยามาให้กิน กินแล้วก็หลับ ไม่กี่วันเขาก็ฝันอีก ความฝันที่ตามมาหลอกหลอนเนิ่นนานหลายปี!
ชายหนุ่มทิ้งกายลงนอนอีกครา หากมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ เขายังคงวนเวียนนึกถึงแต่ความฝันประหลาด หญิงสาวสวยคนนั้น ต่อให้เขานึกแทบตายว่าเคยพบหญิงในฝันมาก่อนหรือเปล่า แต่เขาแน่ใจว่า ไม่เคยพบมาก่อนเลยในชีวิตนี้
ฝนกระหน่ำ สาดใส่บานหน้าตา น้ำไหลลงเป็นทางรวดเร็ว ดั่งธารน้ำหลาก สายฟ้าฟาดเปรี้ยง ประกายแปลบแลบผ่านหน้าต่างกระจก คิมหันต์สะดุ้ง ดึงผ้าห่มขึ้นมาพันร่าง นอนนิ่งเงียบ เหน็บหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ภาพความลังของเขาผุดขึ้นมาในห้วงแห่งความทรงจำ
เขามีพี่ชายร่วมสายโลหิตผู้มีอายุต่างกันเกินรอบ และพี่ของเขาช่างมีอิทธิพลต่อบ้านสยมภูนักหนา บิดามารดาเป็นฝ่ายเดินตาม ไม่ว่ารังสิมันตุ์จะคิด อ่านทำสิ่งใด พวกท่านไม่เคยขัด และบิดามักย้ำเตือนคิมหันต์เสมอ เมื่ออยู่ลับหลังรังสิมันตุ์
“ทุกอย่างเป็นของคุณพี่ อย่าได้คิดแก่งแย่ง สิ่งใดที่คุณพี่ไม่ชอบ อย่าลองดี”
เมื่อบิดา มารดาตายจากไปก่อนเวลาอันควรด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก คิมหันต์จึงลองดี โดยการท้าทายพี่ชายผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยการแอบเสพยา และมั่วสุมผู้หญิง
หากว่า ไม่เคยรอดพ้นสายตารังสิมันตุ์ แม้จะไปในที่ๆสกปรก และไม่คิดว่าคนอย่างรังสิมันตุ์จะก้าวเข้าไป คิมหันต์คิดผิดถนัด
บนที่นอนเก่า สกปรก ในบ้านเช่าโกโรโกโส คิมหันต์เกลือกกลั้วกามรมย์กับเด็กหญิงวัยรุ่นใจแตก หลังจากอัพยากันอย่างบ้าคลั่ง
วัยรุ่นหลายคนมั่วสุม ทั้งเซ็กส์ และยา รังสิมันตุ์บุกเข้าไป สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับบรรดาโจ๋ หาก รังสิมันตุ์ก้าวผ่านไปอย่างไม่สนใจ มันคนหนึ่งลุกขึ้นหมายขัดขวาง แต่เพียงแค่รังสิมันตุ์ผลักอก มันไปทีเดียว แต่มันกับรู้สึกเหมือนถูกแรงช้างถีบใส่ จนกระเด็นไปติดข้างฝา แล้วกระดอนกลับมานั่งจุกแอด โดยไม่มีปัญญาลุกขึ้นแสดงความกักขฬะได้ต่อไปอีก
ร่างใหญ่ของรังสิมันตุ์บุกเข้าไปถึงในห้องอับชื้น เขาเดินตรงแน่ว เข้าไปคว้าร่างเปลือยของน้องชาย โดยไม่ใส่ใจว่า คิมหันต์กำลังทำอะไรอยู่กับคู่ขา เขาลากอีกฝ่ายขึ้นมา แล้วแบกใส่บ่าเดินออกมาทั้งที่คิมหันต์ยังอยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน คิมหันต์ร่ำร้องอาละวาด ดีดดิ้นให้พ้นการนำพาของพี่ชาย เขาทั้งทุบทั้งตีเพื่อให้เป็นอิสรภาพ
“ปล่อยคิม ปล่อยคิมเดี๋ยวนี้ คุณพี่ไม่มีสิทธิ์ทำกับคิมอย่างนี้”
ไม่มีการตอบโต้ และไม่มีการปลดปล่อยจากรังสิมันตุ์ เขายังคงนำคิมหันต์กลับบ้าน เมื่อมาถึงรังสิมันตุ์ก็กักขังเขาไว้ในห้องว่างเปล่า ซึ่งมองดูก็รู้ว่าได้ถูกอย่างเตรียมการณ์อยู่ก่อนแล้ว
เวลานั้น เขาถูกให้หักดิบ จากสิ่งเสพติด
เด็กหนุ่มร้องร่ำด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เขาใช้กำปั้นทุบทำลายห้องหวังจะหลุดพ้นออกมา แต่เขาก็ได้แต่ความเจ็บเป็นการตอบแทน
ทุกคนปล่อยให้คิมหันต์ต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เขาปวดท้องเหมือนถูกใครสักคนบีบลำไส้แทบขาด ร่างกายราวกับถูกหนอนนับล้านๆตัวชอนไชไปทั่วทั้งกายจนเจ็บปวดรวดร้าว เขาอาเจียนกากอาหารออกมาอย่างน่าสังเวช เขาเหน็บหนาวร้าวไปถึงกระดูกจนห่อตัวลงมาสั่นสะท้านราวกับเขาเปียกฝน หากจริงๆแล้วเขากำลังเสี้ยนยาอย่างรุนแรง เขารู้สึกว่าคงตายแน่ถ้าไม่ได้เสพยา ดังนั้นเขาจึงร้องตะโกนขอสิ่งที่ต้องการ หากว่าเขาได้รับเสียงร้องสะท้อนกลับไปมา ช่วงเวลานั้นราวกับเขาอยู่ผู้เดียวบนโลกแห่งความปวดร้าว อย่างแสนสาหัสโดยลำพัง
ร่างผอมนอนขดตัว กายสั่นสะท้านสิ้นเรี่ยวแรงอยู่มุมหนึ่งของห้อง
นานเท่าไหร่เจ้าตัวไม่รับรู้ จนกระทั่งประตูถูกเปิดออก พร้อมกับร่างใหญ่ย่างกรายเข้ามา ตามด้วยหญิงร่างค่อม และร่างสูงของเดชา คิมหันต์เปิดตามองอีกครั้ง เขาได้เห็น เดชาซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เลี้ยง หากเวลาอยู่กับรังสิมันตุ์ เดชาไม่เคยเผยอตัวเทียบชั้น ทั้งเดชาและค่อมต่างช่วยกันทำความสะอาดโดยเงียบงัน
รังสิมันตุ์ทอดสายตามองน้องชาย เมื่อคิมหันต์แหงนเงยขึ้นสานสบ จึงพบแววตาคู่นั้นมองเขาราวกับมองเศษขยะโสมมสักชิ้นก็ไม่ปาน
เด็กหนุ่มไม่คิดถึงความชิงชัง และไม่มีศักดิ์ศรีใดๆหลงเหลืออยู่อีก เขาเป็นทาสของยาเสพติด ดังนั้นเมื่อเขาทนการรบเร้าของความอยากไม่ได้ เขาจึงคลานเข้ามากอดขาชายผู้พี่ วิงวอนขอด้วยน้ำตานองหน้า
“คุณพี่ ขอยาให้คิมเถอะครับ คิมจะตายอยู่แล้ว ขอยาให้คิม”
แทนที่จะได้สิ่งที่ร้องขอ รังสิมันตุ์กลับสั่งเฉียบขาดให้อย่างอื่นตอบแทน
“เอาน้ำเย็นมาอาบให้คิมเดี๋ยวนี้”เขาไม่เจาะจงต้องเป็นผู้ใดไปทำ แต่เดชาเป็นฝ่ายรีบไปดำเนินการ ครู่เดียวเขาหิ้วน้ำถังใหญ่มาให้รังสิมันตุ์ เขาฉวยไปราดโครมลงบนร่างคิมหันต์จนหมดถัง คิมหันต์ยิ่งเหน็บหนาว เหมือนลูกหมาเปียกฝน ริมฝีปากซีดขาวจนดูเขียวรำไร หากสิ่งเสพติดยังมีอำนาจอยู่เหนือจิตใจเขานัก เขาจึงต้องทำตามการเรียกร้องของมันอีก ด้วยหวังว่าคงจะได้ในสิ่งที่ตนต้องการ เขาจับขารังสิมันตุ์ เงยขึ้นสบตาเย็นชาของอีกฝ่าย อย่างไม่ได้ร็สึกว่านั่นเขาจะไม่มีวันได้สิ่งที่ขอ แต่คิมหันต์ก็ยังทู้ซี้อยู่อีก
“คุณพี่ สงสารคิมเถอะครับ ขอยาให้คิมนิดเดียวก็ได้ครับ”
“เอามาอีก”เขาสั่งห้วน เดชารีบไปทันที ครานี้กลับมาพร้อมน้ำสองถัง
“คุณพี่ ทำไมใจร้ายกับคิมอย่างนี้”น้องชายร้องไห้โฮ เมื่อเขาร้องขอยา เขาจะได้รับน้ำเย็นเหมือนน้ำแข็งแทน ถังสาม ถังสี่ ตามมาไม่หยุด คิมหันต์ขดกายงอก่องอขิง ริมฝีปากเขียวคล้ำ นอนสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บจนรู้สึกเหมือนกระดูกทุกท่อนกำลังหลุดออกจากกัน ทั้งค่อมและเดชาผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่ตักน้ำมาให้รังสิมันตุ์ ค่อมร้องไห้อย่างเงียบๆด้วยความสงสารนายน้อย หากเกรงรังสิมันตุ์มากกว่าหลายเท่านัก จึงไม่อาจช่วยอะไรคิมหันต์ได้ แม้แต่คำพูดสักคำนางยังไม่กล้าเอ่ยออกมา
เด็กหนุ่มถูกทรมานจนรู้ว่า ถ้ายังต้องการเสพยาอยู่ เขาจะต้องถูกรังสิมันตุ์ทรมานจนกว่าจะตาย ดังนั้นเขาจึงวิงวอนต่อพี่ชายโดยการกราบแทบเท้า น้ำตารินร่วงรดหลังเท้าผู้พี่ ค่อมและเดชาพากันเบือนหน้าหนีด้วยความสงสาร
“คิมไม่ต้องการยาอีกแล้ว คิมกลัวแล้ว คิมหนาว พอแล้วครับคุณพี่ คิมจะตายอยู่แล้ว”
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วไปพบพี่ที่ห้อง”รังสิมันตุ์สั่งด้วยท่าทีเย็นชา โดยเฉพาะสีหน้ายิ่งนิ่งเหมือนรูปปั้น ดึงเท้ากลับจากการกราบของคิมหันต์ พลางหันกายออกจากห้อง ทิ้งภาระการดูแลคิมหันต์ให้เป็นของเดชาและค่อม
หลังจากนั้นไม่นาน คิมหันต์ในเครื่องแต่งกายสุภาพ เดินไปหาพี่ในสายเลือดที่ห้องส่วนตัว เขาเห็นอีกฝ่ายยืนเอามือไพล่หลัง โดยไม่หันมามองน้องชาย แต่ถามเสียงเย็นเยียบออกมาว่า
“เธอจะทำอย่างไรกับชีวิตเธอหลังจากนี้คิม”
“คิมจะกลับไปเรียน แต่ คิมไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”คิมหันก้มหน้าตอบ
รังสิมันตุ์หันขวับทันทีที่น้องชายตอบออกไปเช่นนั้น ซึ่งคิมหันต์กำลังเงยหน้าขึ้นมองพอดี จึงสบกับความน่าเกรงขามของพี่ชาย ทำให้คิมหันต์ใบหน้าเผือดซีดผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะทำอันตรายแก่เขา หากเปล่าเลย เพราะ รังสิมันตุ์เพียงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของน้องชาย และล้วงลึกนิ่งสนิทจนคิมหันต์เริ่มกลัวอย่างหนัก ร้องร่ำอื้ออึงในอก อยากไปให้พ้น ไม่อยากเห็นหน้า ทั้งแค้นและแสนเกลียดรังสิมันตุ์ ครู่เดียวชายผู้พี่หันหลังกลับให้เช่นเดิม แล้วกล่าวเสียงหนัก พร้อมเรียกสรรพนามแทนตัวเปลี่ยนไป
“ชีวิตเป็นของเธอ ฉันจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับความต้องการของเธออีก ไปได้คิมหันต์ เธอจะได้ตามที่เธอขอ”
“คุณพี่”เขารำพึงเรียกรอดริมฝีปาก หากพี่ชายยังยืนนิ่งดังขุนเขาตระหง่าน แทนที่คิมหันต์จะดี เขากลับรู้สึกสูญเสียอะไรไปบางอย่าง เขาเสียมันไปเพราะดวงตาว่างเปล่าที่มองดูเขาเป็นครั้งสุดท้าย ...ความรัก...จากพี่ชาย ไม่มีอีกแล้ว
วันเดินทางออกจากบ้าน รังสิมันตุ์ไปทำงานแต่เช้า ไม่รับรู้การจากไปของน้องชายเพียงคนเดียว
“คุณหนู”เดชาบังคับเสียงไม่ให้สั่น ขณะพูดต่อ “คุณท่านรักคุณหนูมากนะครับ”
“กลับมาเร็วๆนะคะ”ค่อมวิงวอน
พรรษาวิ่งจากบนเรือน ตรงเข้าไปสวมกอดเด็กหนุ่ม เขารีบดึงเด็กหญิงออกห่าง ด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ เพราะเด็กหญิงคนนี้พี่ชายอุ้มชูเข้ามาเลี้ยง ซึ่งเขาไม่ต้องการให้รังสิมันตุ์รักใครมากกว่าเขา
เด็กหญิงวัยสิบกว่าขวบ น้ำตารินไหลอาบแก้ม คิมหันต์แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะเขาแสดงความรังเกียจเด็กหญิงอย่างออกนอกหน้าตั้งแต่เด็กหญิงเข้ามาอาศัยบ้านหลังนี้ จนถึงเวลาที่เขากำลังจากไป พรรษาทำไมถึงแสดงความเสียมากขนาดนี้ เด็กหญิงวิงวอนเด็กหนุ่มด้วยความร้าวรานใจ
“คุณคิม กลับมาบ้านเรานะคะ กลับมานะคะ”
อิสรภาพเท่านั้นที่คิมหันต์คิดถึงมากกว่าสิ่งใดทั้งหมด
หกปีแล้วกลับการหันหลังให้ครอบครัว บัดนี้เขาย่อมรู้ความต้องการของจิตใจในส่วนลึก สิ่งที่เขาต้องการคือ การหวนกลับไป ชีวิตที่ทุกคนเห็นว่าเขาเพียบพร้อม หลายคนยังอิจฉา คิมหันต์แสนสุขสบาย มีเงินจับจ่ายใช้สอยดั่งลูกเศรษฐี หากใครเล่าจะเข้าใจ ที่ผ่านมา เงินสร้างความสบาย หากมันไม่ได้ทำให้เขาอบอุ่นสักนิด เมื่อเขาปิดประตูไม่ติดต่อทางบ้าน ฝ่ายนั้นก็ไม่ติดต่อกับเขาเช่นกัน แต่เรื่องเงินนั้น ไม่ว่าคิมหันต์จะถอนออกมาใช้มากเท่าไร ในเวลาต่อมาตัวเลขถูกเติมจนเต็ม เขาจึงแกล้งใช้ไม่ยั้ง...เพื่อหวังว่าจะมีจดหมายสักฉบับส่งตักเตือนให้รู้จักประหยัด...แต่เปล่าเลย...ทางบ้านเงียบดังเงา...ทิฐิทำให้คิมหันต์ฝืนใช้ชีวิตมาโดยลำพัง จนถึงเวลานี้ที่เขารู้สึก อ้างว้าง แสนเหงา จนเขารู้สึกว่าไม่มีที่แห่งไหนในโลกนี้จะมีความสุขเท่ากับที่บ้านของเขาอีกแล้ว....




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 เม.ย. 2554, 09:16:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 เม.ย. 2554, 09:16:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 2795





<< ความงามที่เป็ยภัย   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account