พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก
ตอน: บทนำ : เขตพื้นที่เริ่มต้น...ของหัวใจ
คุยกันก่อนเริ่มเรื่องหน่อยนะจ๊ะ :)
เพราะคิดถึงเลยเอามาลงอย่างรวดเร็วกว่ากำหนดที่ตั้งใจไว้ค่ะ เรื่องนี้มีสต๊อคไม่เยอะเหมือนเรื่องที่แล้วนะคะ พูดง่ายๆก็คือปอแก้วโพสไปแต่งไปค่ะ ความจริงกะให้ได้สัก 2 เรื่องย่อยแล้วค่อยโพส แต่รู้สึกว่ามันไม่มีแรงกระตุ้น เลยต้องเอามาลงเพื่อให้เพื่อนๆช่วยกันกระตุ้นหน่อยค่ะ ฮาาาาาาา
ก่อนอ่านรบกวนเข้าลิ้งค์ family tree เพื่อประกอบการเข้าใจก่อนนะคะ (แหะๆ) ปอแก้วกลัวคนอ่านงง
http://i218.photobucket.com/albums/cc263/prporkaew/familytree-1.jpg
เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปอแก้วอยากแต่งแบบว่ามีพระนางหลายๆคู่ แล้วมีปมที่เกี่ยวพันกันอยู่น่ะค่ะ (คิดว่าจะแต่งไว้นานหลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยอยู่ปี 1 ซึ่งก็นานมากแล้ว ฮา... เลยเอามาปัดฝุ่นเสียใหม่) ถ้าไม่เข้าใจ งงๆกับครอบครัวญาติเยอะครอบครัวนี้ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ คิดว่าพอเข้าเรื่องของแต่ละคู่น่าจะไม่งงแล้ว เพราะตัวละครจะไม่ได้รวมญาติเยอะเหมือนบทนำนี้ค่ะ ^^"
อยากลองแต่งแบบนี้ดูบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะออกมาดีหรือเปล่า คงต้องให้ทุกคนช่วยกันติ-ชมนะคะ (เพิ่งเคยเขียนแบบนี้ครั้งแรกเลยค่ะ)
เรื่องนี้มีทั้งหมด 4 คู่ค่ะ คู่แรกคือเรื่อง "ผลิดอก...ออกรัก" จ้า... :)
ฝากด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดน้อมรับทุกประการค่ะ :)
ปล. เรื่องนี้โพสอาทิตย์ละตอนนะคะ (เพราะปอแก้วใช้เวลาแต่งแต่ละตอนนานเหลือหลาย T T) แต่ตอนแรกให้เป็นกรณีพิเศษ จะเอามาโพสให้วันศุกร์นะคะ ฝากคุณปู่คุณตาและหลานๆตัวแสบไว้กับคนอ่านทุกคนด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
พื้นที่ชุ่มรัก : เขตพื้นที่เริ่มต้น...ของหัวใจ
บ้านทรงไทยริมคลองมหาสวัสดิ์ถูกตบแต่งด้วยกล้วยไม้หลายพันธุ์ทั้งตระกูลหวาย แวนด้า หรือแม้กระทั่งแคทรียาแข่งกันออกดอกหลากหลายสีสัน ดอกบัวหลวงสีชมพูที่หลานสาวเจ้าของบ้านสวนอุตส่าห์มานะช่วยกันพายเรือออกไปเก็บและนำมาพับจนเห็นแกนเกสรสีเหลืองด้านในถูกปักเล่นระดับไว้ในชามปากกว้างทรงเตี้ยกลางโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม ส่วนผู้เป็นเจ้าของบ้านนั้นกำลังนั่งคุยกับน้องชายที่เกิดห่างกันเพียงไม่กี่นาที
คุณรันทร์และคุณรินทร์เป็นผู้ที่อาวุโสและมีอำนาจที่สุดในตระกูล ‘ตตินรากรณ์’ ซึ่งประกอบธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ทำรายได้ติดอันดับต้นๆของประเทศ เป็นที่นับหน้าถือตาทางสังคมด้วยความสามารถทางด้านการทำงานและทางด้านการกุศลที่ท่านทั้งสองได้ช่วยเหลือตลอดมามิได้ขาด โดยทางฝั่งของคนเป็นพี่ คุณรันทร์มีลูกชายหนึ่งคนคือกวินทร์และลูกสาวอีกคนคือกณิฐฏา ส่วนทางฝั่งของน้องชายฝาแฝด คุณรินทร์มีลูกชายสองคน คนโตชื่อรณเรศซึ่งเป็นลูกติดของภรรยาที่เสียชีวิตไป ส่วนคนเล็กชื่อเชนทร์เป็นลูกชายแท้ๆของท่านกับภรรยา และบรรดาเหล่าลูกๆหัวแก้วหัวแหวนของท่านทั้งสองก็ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นกันเรียบร้อย แถมทุกคนยังมีหลานๆที่น่ารักมาให้พวกท่านชื่นใจคลายเหงาทั้งหลานสาวและหลานชาย
ทางฝั่งคุณรันทร์ได้เป็นทั้งคุณปู่และคุณตาเพราะลูกชายคนโตมีลูกชายเพียงคนเดียวและเป็นหลานชายคนเล็กของท่าน ส่วนลูกสาวคนเล็กมีลูกสองกำลังพอเหมาะเป็นชายหนึ่งคนและหญิงอีกหนึ่งคน ส่วนทางฝั่งน้องชายได้เป็นแค่คุณปู่เพราะมีแต่ลูกชาย ส่วนหลานก็มีแค่หลานชายหลานสาวอย่างละคนเพราะลูกชายทั้งสองของคุณรินทร์พอใจที่จะมีลูกแค่ลูกโทน
“นานๆได้มาพักผ่อนทีก็ดีนะครับพี่รัน” ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายฝาแฝดเอ่ยขึ้น สายตาที่เห็นโลกมามากทอดมองหลานๆที่กำลังเตรียมอาหารและจัดโต๊ะกันอย่างขะมักเขม้น
“นั่นน่ะสิ แต่เสียดายที่ลูกแกกับลูกพี่ไม่มีใครมาได้สักคน” พี่ชายฝาแฝดซึ่งเกิดก่อนไม่กี่นาทีเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกเสียดายที่บรรดาลูกๆของท่านและน้องชายต่างพร้อมใจติดงานกันหมด หากน้องชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวข้างๆกลับหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
“แต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งหลานๆมากันครบนะครับ”
“ก็ลองพวกมันส่งมาไม่ครบสิ พี่จะเผ่นกบาลให้เรียงตัว ขนาดบอกก่อนเป็นเดือน ดูพวกมันทำ ไม่มีใครว่างมาสักคน”
“ถ้าพวกตาวิน งานคงหนักน่ะครับ เพิ่งจะเปิดตัวโครงการคอนโดไปด้วย คงวิ่งวุ่นกันน่าดู ส่วนพวกหมอแบบตาเรศ พี่รันก็รู้ว่าแทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย”
คุณรินทร์แก้ต่างให้ทั้งลูกของตัวเองและลูกของพี่ชาย เพราะที่ท่านพูดมานั้นไม่ผิดสักคำ ลูกหลานตระกูลนี้ ไม่ว่าจะเขยหรือสะใภ้ก็งานรัดจนตัวแทบจะเป็นเกลียวหัวแทบจะเป็นน็อตกันอยู่แล้ว ทั้งกวินทร์ กณิฐฏา ลูกรักของพี่ชายรวมถึงเชนทร์ลูกชายของตนเองที่ต้องดูแลบริษัททางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ตนและพี่ชายร่วมก่อร่างสร้างตัวกันมา ส่วนรณเรศลูกชายคนโตของท่านก็ต้องทำหน้าที่ดูแลคนป่วยในฐานะที่เป็นหมอจนแทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย
“ก็นั่นน่ะสิ ฉันถึงได้บอกพวกมันว่าช่วยแต่งเขยแต่งสะใภ้ให้มันมีเวลาว่างให้ครอบครัวหน่อยได้ไหม แต่นี่อะไร ไม่มีใครว่างสักคน” คุณรินทร์ยังคงบ่นต่อไปประสาคนแก่ เพราะทั้งลูกเขยลูกสะใภ้ที่ท่านได้มานั้นก็ล้วนที่จะหาเวลามาพักผ่อนตากอากาศได้ยากทั้งสิ้น
“ถ้าเป็นตาภีม...รายนั้นก็เหมือนตาเรศแหละครับพี่ริน...ยุ่งอยู่กับคนไข้” คุณรันทร์เอ่ยถึง ‘นพ. ภีมวัจน์’ ชายหนุ่มผู้มีฐานะเป็นลูกเขยของพี่ชาย
“คงไม่ต่างกับหนูนิชแล้วก็หนูอัญลูกสะใภ้แกล่ะสิ” คราวนี้เป็นพี่ชายย้อนถามถึง ‘พญ. กานต์ชณิช’ และ ’อัญชิสา’ ลูกสะใภ้ของน้องชายบ้าง ยังไม่วายที่จะกระหวัดนึกถึงลูกสะใภ้ของตัวเอง ท่านเองก็ ‘เคย’ มีลูกสะใภ้เช่นเดียวกับน้องชายแต่ ‘กัลวรา’ คงทำบุญมาน้อยถึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้สั้นนัก
“ครับ หนูนิชก็วุ่นกับคนป่วยแทบทุกวัน ส่วนหนูอัญคงยุ่งอยู่กับร้านเพชรน่ะครับ ได้ข่าวว่าตอนนี้มีออเดอร์ใหม่เข้ามามาก” ผู้เป็นน้องชายตอบรับด้วยรอยยิ้ม “ถึงจะบ่นไป แต่ก็ยังมีหลานๆให้ชื่นใจไม่ใช่หรือครับ” จบคำพูดของน้องชายบรรดาหลานๆที่จัดการกับโต๊ะและอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ส่งตัวแทนมารับคุณปู่และคุณตาอย่างละคน
“คุณตาขา...พายด์หิวแล้วไปเถอะค่ะ” หลายสาวคนโปรดของคุณรันทร์ค่อยๆพยุงคุณตาให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกพร้อมกับคอยประคองอยู่ข้างๆ
“คุณปู่คะ...เรก็หิวแล้วเหมือนกัน เราไปกันเถอะค่ะ” คุณรินทร์ส่งยิ้มเอ็นดูให้หลานสาวหัวแก้วหัวแหวน ปล่อยให้นางฟ้าตัวน้อยในสายตาท่านค่อยๆพยุงไปที่โต๊ะอาหารอีกคน
...ลูกไม่มาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ในเมื่อมีหลานๆที่คอยเอาอกเอาใจห้อมล้อมอย่างนี้ คนแก่...จะต้องการอะไรไปมากกว่านี้เล่า...
หลังอาหารเย็นทั้งคุณปู่รันทร์และคุณปู่รินทร์ก็กลับมานั่งบนเก้าอี้โยกตัวเดิม คุยกันเรื่องสับเพเหระตามประสาคนแก่ มองดูหลานๆที่นั่งคุยและส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
“ริน...แกอยากให้ครอบครัวเราครึกครื้นกว่านี้ไหม” จู่ๆพี่ชายฝาแฝดที่นั่งอยู่ข้างๆก็เกริ่นขึ้น ดวงตาที่ล้อมรอบด้วยรอยเหี่ยวย่นฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันควัน
“พี่รันหมายความว่าอะไรครับ” ถามไปอย่างนั้น...เพราะคุณรินทร์รู้ดีว่าผู้เป็นพี่ชายหมายความเช่นไร พี่น้องที่เกิดห่างกันไม่กี่นาที แค่มองตาก็รู้ใจกันแล้วไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยบอก
“พี่อยากเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้” พี่ชายยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“วิธีนี้กะแก้เผ็ดบรรดาลูกๆของพี่กับผมด้วยใช่ไหมครับ”
“แกนี่มันรู้ใจพี่จริงๆ” คุณรันทร์ตบตักอย่างถูกใจ เพราะถ้าบรรดาหลานๆของท่านเริ่มที่จะเดือดร้อน แล้วบรรดาพ่อแม่จะไม่เดือดร้อนตามได้อย่างไร
“ตามแต่พี่รันเถอะครับ ผมก็เป็นห่วงทั้งหลานชายหลานสาวผมเหมือนกัน ไม่มีเป็นตัวเป็นตนจริงๆจังสักที” คุณรินทร์ตัดสินใจลงเรือลำเดียวกับพี่ชาย เพราะแผนนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร เผลอๆท่านอาจจะได้แววเห็นหน้าเหลนเร็วกว่าเดิม
“ได้เลยไอ้น้องชาย งานนี้เจ้าพวกหลานตัวแสบของพี่กับของแกไม่มีใครกล้าปฏิเสธแน่!”
ริมชานเรือนเหล่าบรรดาหลานชายหลานสาวนั่งกันเรียบร้อยเป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งเพราะถูกคุณปู่คุณตาเรียกมารวมพล สงสัยไม่น้อยว่าทำไมท่านทั้งสองถึงนัดเรียกมาพร้อมองค์ประชุมเช่นนี้ แต่คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าใดแน่เพราะลางสังหรณ์บอกว่านี่ไม่ใช่การพูดคุยธรรมดาประสาครอบครัว หากเป็นการพูดคุยเพื่อสั่งการอะไรเสียมากกว่า
“จะให้พวกเราทำอะไรให้ครับคุณตา” ‘ภูมิรพี’ หลานชายคนโตของคุณรันทร์ถามขึ้นอย่างรู้ทันในความคิดของผู้เป็นตา ถ้ายกให้คุณตาของเขาเป็นอัจฉริยะในการคิดแผนแผลงๆแล้ว ชายหนุ่มก็คงเป็นคู่ปรับที่อ่านความคิดของท่านออกว่าท่านต้องการอะไร
“ฉันล่ะเบื่อไอ้พวกหัวไวรู้ดีอย่างแกจริงๆเจ้าไวน์” คุณตารันทร์ค่อนขอดหลานชาย
“จัดมาเลยครับคุณตา จะให้พวกผมทำอะไรว่ามาได้เลยครับ” หลานชายพูดด้วยสีหน้าทะเล้นจนคนเป็นตาอยากจะฝากมะเหงกไว้บนหัวของมันจริงๆ
“ฉันอยากได้หลานสะใภ้กับหลายเขย”
“อะไรนะครับ/อะไรนะคะ” หลานทั้งหมดตะโกนขึ้นมาพร้อมกันเมื่อผู้เป็นทั้งคุณตาและคุณปู่บอกความต้องการออกมา
“คุณปู่ครับ คุณปู่รันพูดจริงหรือครับ” ‘ชิษวัศ’ หลานชายคนโตของคุณรินทร์และเป็นหลานชายคนโตของตระกูลหันมาถามปู่ของตนซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆของคุณปู่รันทร์
“นั่นสิคะคุณปู่ คุณปู่รันเอาจริงหรือคะ” คราวนี้เป็น ‘เรศิกานต์’ หลานสาวคนเดียวของคุณรินทร์ถามขึ้นมาบ้าง แม้จะรู้ดีว่าคุณปู่รันทร์ชอบคิดแผนการอะไรแปลกๆอยู่เสมอ แต่แบบนี้มันไม่ล้อกันเล่นแรงไปหรือ
“จริง” คุณปู่รินทร์ตอบ และคำตอบก็ทำให้ทั้งหลานชายและหลานสาวของท่านมีสีหน้าคิดหนัก ผิดกับหลานชายคนเล็กของคุณรันทร์ที่ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด
“ผมขอปฏิเสธครับคุณปู่” ‘กันตวิชญ์’ หลานชายคนเล็กของคุณรันทร์และเป็นหลานชายที่ท่านเป็นห่วงมากที่สุด สาเหตุคงเพราะมารดาเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก กันตวิชญ์จึงเติบโตมากับครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายเลยทำให้มีนิสัยหัวแข็งไม่ยอมใคร ไม่มีความอ่อนโยน ที่สำคัญเจ้าหลานคนนี้มันไม่มีท่าทีที่จะชอบผู้หญิงคนไหนเลยสักคน
“เงียบไปเลยนายเกม!” ‘กีรตา’ ที่นั่งข้างๆกันตวิชญ์หันมาสั่งลูกพี่ลูกน้องหนุ่มเสียงเขียว ก่อนที่จะเอ่ยปากถามคุณตาบังเกิดเกล้าอย่างคุณรันทร์
“ข้อตกลงล่ะคะคุณตา ถ้าพวกเราทำได้คุณตาจะให้อะไร แล้วถ้าทำไม่ได้พวกเราจะเสียอะไร”
คุณรันทร์ยิ้มอย่างภูมิใจ ในบรรดาหลานๆทั้งโปรดปรานกีรตาที่สุด เพราะหลานสาวคนนี้เหมือนถอดแบบท่านมาออกมาไม่มีผิดเพี้ยน ฉลาด รู้จักแก้ปัญหาในสถานการณ์คับขัน และที่สำคัญ...รู้จักการต่อรอง
“ถ้าพวกเจ้าทั้งหมดทำได้ตามที่ตาตั้งไว้...เงินสด 10 ล้าน ที่ดินกลางกรุงเทพฯคนละ 1 แปลง บ้านพักตากอากาศคนละ 1 หลัง คอนโดนแถวสุขุมวิทอีกคนละห้อง...ว่าไงของรางวัลแค่นี้พอไหม”
“หุ้นของทุกบริษัทในเครืออีก 5% ด้วยค่ะคุณตา” เมื่อถูกหลานสาวต่อรองแทนที่คุณตาจะโมโหกลับหัวเราะเสียเสียงลั่นบ้าน
...แล้วจะไม่ให้ตาชอบหนูที่สุดได้ยังไงเล่าหนูพายด์ ดูสิดู...เคี่ยวไม่น้อยเชียว!!...
“เอ้า! เอาก็เอาคราวนี้ตากับตารินยอมเฉือนเนื้อตัวเองเลยเอ้า...หุ้นอีก 5% ว่าไง พอใจไหม”
กีรตาพยักหน้า ใช่ว่าเธอชอบกับเกมนี้ของคุณตาเธอเสียเมื่อไหร่ แต่เมื่อเห็นลู่ทางว่าหลีกหนีไม่ได้ มันก็ต้องขอรางวัลให้สมน้ำสมเนื้อกับ ‘อิสระ’ ที่เหล่าหลานๆอย่างพวกเธอต้องเสียไปกันหน่อยล่ะ
“แล้วถ้าทำไม่สำเร็จล่ะคะ” มาคราวนี้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคุณรันทร์ปรากฏบนใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลา รอยยิ้มที่บรรดาหลานๆเห็นแล้วรู้สึกกว่ากำลังนั่งอยู่กลางขั้วโลกใต้ก็ไม่ปาน...ก็มันรู้สึกเย็นสันหลังวาบไปถึงกระดูกอย่างไรชอบกล
“ชดใช้คืนด้วยเงินสดคนละ 20 ล้าน อสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นชื่อพวกเจ้า ตากับตารินขอเอาคืน บัตรเครดิตทุกใบ...ขอระงับ แล้วสุดท้าย...หุ้นทุกหุ้นของพวกเจ้าในทุกบริษัทในเครือ ตาขอริบคืน 5%” ‘ค่าชดใช้’ ของคุณรินทร์ทำเอาหลานๆที่นั่งหน้ากระดานเรียงหนึ่งแทบจะล้มพับแบบโดมิโน่ไปตรงนั้น โดยเฉพาะชิษวัศที่ครางออกมาเสียงดังกว่าเพื่อน
“โอย...คุณปู่รัน ทำแบบนี้กะเอาพวกผมล้มละลายกันเลยนี่ครับ”
“แค่พวกเราที่ไหนคะพี่อาร์ม พ่อกับแม่ของพวกเราด้วยต่างหาก เงินสด 20 ล้าน แค่พวกเราจะไปหาได้ที่ไหนกัน” เหมือนว่าเรศิกานต์จะเริ่มเข้าใจอะไรได้มากขึ้นว่าแผนการคราวนี้คุณปู่ทั้งสองได้ผลพลอยได้เป็นการแก้เผ็ดเล็กๆน้อยๆลูกของตัวเอง
“ระยะเวลาล่ะคะคุณตา” คนที่ตั้งสติได้ดีทุกสถานการณ์อย่างกีรตายังคงเป็นผู้นำดำเนินการเจรจาต่อไป
“สิ้นปีนี้เป็นยังไง ถ้าพวกเจ้าทำได้คนเป็นปู่เป็นตาจะได้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขไปอีกปี แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ถือซะว่าพวกเจ้าเสียทรัพย์รับปีใหม่เป็นยังไง” ผู้เป็นตากำหนด ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าบรรดาหลานสุดที่รักนั่งทำหน้าปั้นยากจะกลืนก็กลืนไม่เข้าจะคายก็คายไม่ออกกันอย่างนี้ หากถ้านับเวลากว่าจะถึงสิ้นปีก็มากพอดู ซึ่งเวลานานเกินครึ่งปีขนาดนี้คุณรันทร์คิดว่าตัวเองใจดีกับหลานๆมากแล้ว
“ขอเวลานอกค่ะ” สัญญาณจากกีรตาเป็นที่รู้ๆกันดีในเหล่าหลานๆว่าแปลว่าอะไร ทั้งหลานชายหลานสาวสามัคคีกันลุกพรึ่บ ไปรวมตัวกันอีกวงสนทนาหนึ่งที่ไม่ไกลจากพวกท่านมากนัก แต่ก็ห่างพอที่ท่านจะไม่ได้ยินว่าเจ้าพวกนั้นประชุมกันว่าอย่างไร
“ผมไม่เล่นนะตามเกมคุณปู่นะพี่พายด์” กันตวิชญ์ประกาศกร้าว หากก็โดนสายตาเฉือดเชือนของกีรตาส่งไปให้ราวกับต้องการหั่นน้องชายให้แยกส่วนมากกว่าร้อยชิ้น
“แล้วนายมีปัญญาจ่ายค่าตอบแทนให้คุณตาหรือยังไง คิดซะบ้างนายเกม ก็รู้กันหมดทุกคนว่าคุณตารินเป็นคนยังไง แล้วนี่ยังมีคุณตารันลงเรือลำเดียวไปอีก ไม่ต้องหวังหาคนมาช่วยเลย ไม่สำเร็จหรอกย่ะ!” กีรตาเอ่ยอย่างหัวเสีย แค่ปัญหาของคุณตาจอมวางแผนเธอก็ปวดประสาทจะตายอยู่แล้ว ดันมาเจอลูกพี่ลูกน้องหัวแข็งอีก อย่าให้เธอได้ฟิวส์ขาดเชียว เดี๋ยวจะเหวี่ยงแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมให้แหลกกันไปเลย
“พี่อาร์มกับเรจะเอายังไง ผมน่ะยังไงก็ได้แล้วครับตอนนี้ เพราะถ้าผมกับยัยพายด์ไม่รับปากคุณตา บ้านผมก็ฟาดไป 40 ล้าน...ไม่ไหวล่ะครับ”
ภูมิรพียอมแพ้ เพราะดูจากผลเสียที่พวกเขาต้องจ่ายมันก็แทบทำให้ล้มละลายอย่างที่ชิษวัศบอกได้จริงๆ เพราะเงินส่วนใหญ่ก็เป็นเงินของกองกลางของตระกูลทั้งนั้น จะถอนออกยังไงก็ต้องผ่านการอนุมัติจากผู้อาวุโสทั้งสองทั้งสิ้นส่วนเงินสดที่เป็นชื่อบัญชีของบิดามารดารวมกับทั้งของหลานๆแต่ละคนมีถึงที่คุณตารินทร์เรียกค่าชดใช้ที่ไหนกัน
ชิษวัศถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จริงอย่างที่ภูมิรพีและกีรตาบอก คุณปู่ฝาแฝดทั้งสองวางแผนกันมาดี ท่านรู้ว่าจะปิดทางหนีทีไล่ของหลานๆอย่างไร ยิ่งคนที่ต้องทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารบริษัทในเครือของตระกูลอย่างเขา ภูมิรพี กีรตา รวมถึงกันตวิชญ์ด้วยแล้ว การเอาหุ้นคืน 5% นี่มันก็เท่ากับการลิดรอนอาจทางการบริหารกันชัดๆ ส่วนเรศิกานต์ที่เป็นทันตแพทย์ แม้การริบหุ้นคืนจะดูไม่มีผลต่อหญิงสาวเท่าใดนัก แต่การยึดอสังหาริมทรัพย์ก็มีผลต่อคลินิกของเธออย่างมากเช่นกัน
“เรจะเอายังไง” ชิษวัศหันมาถามลูกพี่ลูกน้องสาวที่ตอนนี้กำลังระดมสมองคิดไตร่ตรองอย่างหนัก
“คลินิกเป็นเหมือนทั้งชีวิตของเรค่ะพี่อาร์ม เรสียไปไม่ได้” คำตอบของเรศิกานต์ทำให้ชิษวัศตัดสินใจอะไรๆได้
“ถ้ายัยเรโอเค...พี่ก็โอเค เพราะพี่ก็ไม่ยอมเสียหุ้นของพี่ไปเหมือนกัน!” ชิษวัศประกาศหนักแน่น เพราะขืนเสียหุ้นไปมันก็เหมือนกับเสียเก้าอี้ในบริษัท...ไม่ต่างกัน
“สี่เสียงชนะขาดครับไอ้คุณเกม...ตามกฎ” ภูมิรพีหันไปบอกน้องชายที่ดื้อและหัวแข็งที่สุดในกลุ่ม แม้กันตวิชญ์จะไม่เห็นด้วยอย่างไรแต่เมื่อผลโหวตออกมาเป็นเสียงข้างมาก ต่อให้ไม่เต็มใจทำก็ต้องยอม
“แต่ถ้าผมทำไม่ได้ก็อย่ามาว่าทีหลังแล้วกัน” กันตวิชญ์ไหวไหล่คล้ายไม่สนใจ แล้วอาการนั้นก็ทำให้กีรตาหันมาจัดการกับน้องชายด้วยมาตรการเด็ดขาด
“ถ้านายทำทุกอย่างพัง 40 ล้านที่บ้านพี่ต้องจ่าย พี่จะโยนให้ลุงวินทั้งหมด!” กีรตราประกาศกร้าว เธอพูดจริงและสามารถที่จะทำอย่างที่พูดได้ทุกคำ!
“โหย...นี่พี่พายด์มั่นใจสุดๆเลยใช่ไหมว่าจะหาหลานเขยให้คุณปู่ได้น่ะ อย่างพี่เรผมไม่ห่วงหรอก หนุ่มๆต่อแถวกันเพียบ แต่อย่างพี่พายด์เนี่ย...ผมว่า...เข้าขั้นโคม่า”
“ไอ้เกม!” ถ้ากีรตาใส่สรรพนามหน้าชื่อเล่นกันตวิชญ์นั่นคือหญิงสาวกำลังโกรธ “อย่าคิดว่ามีแต่ผู้ชายที่เลือกได้นะยะ ผู้หญิงก็เลือกได้เหมือนกัน...คอยดู!” กีรตาท้า เธอมักจะเป็นไม้เบื่อไม่เมากับกันตวิชญ์เสมอตั้งแต่เล็กจนโต ไม่มีเปลี่ยนไปเลย
...ก็จะให้เปลี่ยนไปได้อย่างไร ดูปากมันสิ ดูมันพูด!!!...
“โอเค...งั้นเป็นอันว่าพวกเราตกลง” ภูมิรพีเป็นคนสรุปมติในครั้งนี้ ก่อนหันมาพูดกับน้องสาว “ไปเลยยัยพายด์ ในฐานะหลานโปรดของคุณตา ไปให้คำตอบท่าน แล้วก็...ต่อรองมาอย่าให้ขาดทุน” คนเป็นพี่ชายสั่ง หากคนเป็นน้องสาวหน้าหงิก แค่ต่อรองไปเมื่อครู่ก็รวบรวมความกล้ากลั้นใจขอไป ขืนมากไปกว่านี้ไม่รู้คุณตาจะตลบหลังอย่างไร
“จะพยายามก็แล้วกัน แต่ไม่รับปากนะ” น้องสาวบอกว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินนำขบวนลิ่วเข้าไปนั่งห้อมล้อมคุณรันทร์และคุณรินทร์ที่นั่งยิ้มรอ
“ว่าไง...คำตอบของตาล่ะหนูพายด์” คุณรันทร์ยิ้มกริ่มถามหลานสาวคนโปรด ไม่ต้องพึ่งหมอดูที่ไหนท่านก็รู้ว่าคำตอบจะออกมาอย่างไร...แบบนี้มันต้องฉลอง
“ค่าชดใช้ลดลงครึ่งหนึ่งไม่ได้หรือคะคุณตา” กีรตาลองต่อรอง
“เจ้าไวน์ค้างปีสั่งให้มาต่อรองไม่ให้ขาดทุนใช่ไหมนี่” คุณรันทร์ดักทางอย่างรู้ทัน เหล่ตามอง ‘เจ้าไวน์ค้างปี’ ที่มักชอบเล่นโกงกับท่านเสมอ
“งั้นผมไม่ต่อรองแล้วก็ได้ครับ แค่หาหลานสะใภ้มาให้คุณตาให้ได้ภายในสิ้นปี...แค่นั้นพอใช่ไหมครับ” ภูมิรพีหรือเจ้าไวน์ค้างปีของคุณตารันทร์พูดคล้ายว่าจะยอมแพ้ทุกประตู หากในใจกลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ ชายหนุ่มคิดหาทางออกไว้แล้ว มันก็แค่เรื่องง่ายๆ แค่หาผู้หญิงมา ‘สวมรอย’ เป็นหลานสะใภ้ให้คุณตาเห็น...ทุกอย่าง...จบ
...ก็คุณตาอยากเล่นอะไรพิสดารแบบนี้ทำไม โกงได้ก็ต้องโกงกันหน่อยล่ะ...
คุณรันทร์หรี่ตามองหลานชายคนโต ไอ้เจ้านี่มันหัวไว แถมยังฉลาดแกมโกงอ่านเกมท่านได้แทบจะทั้งหมด แต่ก็ยังเด็กนักมีหรือจะสู้ท่านที่ผ่านมาหลายสมรภูมิแถมยังอาบน้ำร้อนมาก่อนหลายบ่อ ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าเจ้าหลานชายตัวแสบคิดจะโกงอะไร
“แล้วก็อย่าคิดที่จะมา ‘ย้อมแมว’ หลอกกันเชียว” สายตาที่มองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งปรายตามองมายังภูมิรพี
“เวลาเสือมันหลับอย่าริจะย่องเข้าไปกระตุกหนวด... เพราะฉะนั้นใครที่มันกำลังคิดจะโกงตา อย่าคิด...ว่าตาจะไม่รู้ไม่เห็น เพราะถ้าตาจับได้...ทุกอย่างจบกัน...และค่าชดใช้ทั้งหมด...คุณสอง”
“คูณสอง!!” หลานๆตะโกนขึ้นพร้อมกัน แทบจะเป็นลมล้มพับไประลอกสอง กีรตาหันมาส่งสายตาอาฆาตให้พี่ชายที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด พูดออกไปอย่างนั้นมีหรือที่คุณตารันทร์จะไม่รู้
“คุณปู่ปล้นพวกผมชัดๆ” ชิษวัศโอดเสียงอ่อน คำนวณมูลค่าความเสียหายแล้วลมจะใส่ เมื่อพบว่าถ้าแพ้ในเกมนี้เท่ากับคำว่า ‘ล้มละลาย’ อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ
“งั้นแกก็เลิกลอยไปลอยมาเป็นพ่อสายบัวแล้วไปหาหลานสะใภ้น่ารักๆมาให้ปู่สิเจ้าอาร์ม”
“แล้วมันหาง่ายอย่างนั้นหรือยังไงล่ะครับ”
“พวกแกมีเวลาตั้งครึ่งค่อนปี”
ชิษวัศถอนหายใจอย่างยอมแพ้ และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ชิษวัศคนเดียวที่ยอม บรรดาหลานๆที่เหลือก็ต่างยกธงขาวยอมแพ้ก้มหน้าก้มตาลงเล่นในสนามตามเกมนี้เช่นกัน เมื่อต่อรองมากกว่านี้ไม่ได้ และไม่ทำก็ไม่ได้เพราะอำนาจทุกอย่างของ ‘ตตินรากรณ์’ อยู่ในมือของท่านทั้งคู่ทั้งหมด ต่อให้ท่านชี้นกแล้วบอกว่าเป็นไม้ทุกคนก็ต้องบอกว่าเป็นไม้ ไม่มีใครกล้าพอที่จะขัดใจ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าท่านบอกว่าอยากเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ บรรดาหลานๆสุดที่รักจะทำอย่างไรได้นอกเสียจากจะปฏิบัติการตามหาหลานเขยหลานสะใภ้มาให้ผู้เป็นปู่เป็นตาได้ยล!
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าเริ่มเรื่องของคู่แรกค่ะ >> ผลิดอก...ออกรัก <<
ความรักของหลานชายคนโตจะมีวิธีพิชิตใจผู้หญิงที่ตัวเองปฏิเสธมาตลอดอย่างไรต้องติดตามค่ะ :)
คำโปรยค่ะ...
ทั้งที่ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะไม่เข้าสมาคม 'กินเด็ก' แต่ไหงไปๆมาๆสายตาเขาถึงได้มองแต่ยัยเด็กหน้าหวานนี่ได้เล่า!
ทั้งๆที่เธออยู่ใน 'ข้อต้องห้ามของชิษวัศ' แต่ยิ่งพอรู้จักเขากลับอยากที่จะแหกข้อต้องห้ามนั่นเสียดื้อๆ
พยายามออกห่างก็แล้วแต่ยัยเด็กไม่รู้อะไรนี่ก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆไม่ไปไหน ช่างไม่รู้อะไรเลยว่าเขาพยายามแค่ไหนที่จะออกห่าง ไม่มอง ไม่สนใจเธอ
แล้วยิ่งมาใกล้ชิดแบบนี้...เขาจะห้ามใจให้ 'ไม่รัก' ได้อย่างไร!!
ริอาจหาญกล้าเข้ามาปลูกต้นรักในหัวใจผู้ชายอย่างชิษวัศ เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องรับผิดชอบด้วยการรดน้ำพรวนดินไปตลอดชีวิต...มุกตาภา!
* ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจจากเรื่องที่แล้วมากมายค่ะ *
เพราะคิดถึงเลยเอามาลงอย่างรวดเร็วกว่ากำหนดที่ตั้งใจไว้ค่ะ เรื่องนี้มีสต๊อคไม่เยอะเหมือนเรื่องที่แล้วนะคะ พูดง่ายๆก็คือปอแก้วโพสไปแต่งไปค่ะ ความจริงกะให้ได้สัก 2 เรื่องย่อยแล้วค่อยโพส แต่รู้สึกว่ามันไม่มีแรงกระตุ้น เลยต้องเอามาลงเพื่อให้เพื่อนๆช่วยกันกระตุ้นหน่อยค่ะ ฮาาาาาาา
ก่อนอ่านรบกวนเข้าลิ้งค์ family tree เพื่อประกอบการเข้าใจก่อนนะคะ (แหะๆ) ปอแก้วกลัวคนอ่านงง
http://i218.photobucket.com/albums/cc263/prporkaew/familytree-1.jpg
เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปอแก้วอยากแต่งแบบว่ามีพระนางหลายๆคู่ แล้วมีปมที่เกี่ยวพันกันอยู่น่ะค่ะ (คิดว่าจะแต่งไว้นานหลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยอยู่ปี 1 ซึ่งก็นานมากแล้ว ฮา... เลยเอามาปัดฝุ่นเสียใหม่) ถ้าไม่เข้าใจ งงๆกับครอบครัวญาติเยอะครอบครัวนี้ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ คิดว่าพอเข้าเรื่องของแต่ละคู่น่าจะไม่งงแล้ว เพราะตัวละครจะไม่ได้รวมญาติเยอะเหมือนบทนำนี้ค่ะ ^^"
อยากลองแต่งแบบนี้ดูบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะออกมาดีหรือเปล่า คงต้องให้ทุกคนช่วยกันติ-ชมนะคะ (เพิ่งเคยเขียนแบบนี้ครั้งแรกเลยค่ะ)
เรื่องนี้มีทั้งหมด 4 คู่ค่ะ คู่แรกคือเรื่อง "ผลิดอก...ออกรัก" จ้า... :)
ฝากด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดน้อมรับทุกประการค่ะ :)
ปล. เรื่องนี้โพสอาทิตย์ละตอนนะคะ (เพราะปอแก้วใช้เวลาแต่งแต่ละตอนนานเหลือหลาย T T) แต่ตอนแรกให้เป็นกรณีพิเศษ จะเอามาโพสให้วันศุกร์นะคะ ฝากคุณปู่คุณตาและหลานๆตัวแสบไว้กับคนอ่านทุกคนด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
พื้นที่ชุ่มรัก : เขตพื้นที่เริ่มต้น...ของหัวใจ
บ้านทรงไทยริมคลองมหาสวัสดิ์ถูกตบแต่งด้วยกล้วยไม้หลายพันธุ์ทั้งตระกูลหวาย แวนด้า หรือแม้กระทั่งแคทรียาแข่งกันออกดอกหลากหลายสีสัน ดอกบัวหลวงสีชมพูที่หลานสาวเจ้าของบ้านสวนอุตส่าห์มานะช่วยกันพายเรือออกไปเก็บและนำมาพับจนเห็นแกนเกสรสีเหลืองด้านในถูกปักเล่นระดับไว้ในชามปากกว้างทรงเตี้ยกลางโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม ส่วนผู้เป็นเจ้าของบ้านนั้นกำลังนั่งคุยกับน้องชายที่เกิดห่างกันเพียงไม่กี่นาที
คุณรันทร์และคุณรินทร์เป็นผู้ที่อาวุโสและมีอำนาจที่สุดในตระกูล ‘ตตินรากรณ์’ ซึ่งประกอบธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ทำรายได้ติดอันดับต้นๆของประเทศ เป็นที่นับหน้าถือตาทางสังคมด้วยความสามารถทางด้านการทำงานและทางด้านการกุศลที่ท่านทั้งสองได้ช่วยเหลือตลอดมามิได้ขาด โดยทางฝั่งของคนเป็นพี่ คุณรันทร์มีลูกชายหนึ่งคนคือกวินทร์และลูกสาวอีกคนคือกณิฐฏา ส่วนทางฝั่งของน้องชายฝาแฝด คุณรินทร์มีลูกชายสองคน คนโตชื่อรณเรศซึ่งเป็นลูกติดของภรรยาที่เสียชีวิตไป ส่วนคนเล็กชื่อเชนทร์เป็นลูกชายแท้ๆของท่านกับภรรยา และบรรดาเหล่าลูกๆหัวแก้วหัวแหวนของท่านทั้งสองก็ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นกันเรียบร้อย แถมทุกคนยังมีหลานๆที่น่ารักมาให้พวกท่านชื่นใจคลายเหงาทั้งหลานสาวและหลานชาย
ทางฝั่งคุณรันทร์ได้เป็นทั้งคุณปู่และคุณตาเพราะลูกชายคนโตมีลูกชายเพียงคนเดียวและเป็นหลานชายคนเล็กของท่าน ส่วนลูกสาวคนเล็กมีลูกสองกำลังพอเหมาะเป็นชายหนึ่งคนและหญิงอีกหนึ่งคน ส่วนทางฝั่งน้องชายได้เป็นแค่คุณปู่เพราะมีแต่ลูกชาย ส่วนหลานก็มีแค่หลานชายหลานสาวอย่างละคนเพราะลูกชายทั้งสองของคุณรินทร์พอใจที่จะมีลูกแค่ลูกโทน
“นานๆได้มาพักผ่อนทีก็ดีนะครับพี่รัน” ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายฝาแฝดเอ่ยขึ้น สายตาที่เห็นโลกมามากทอดมองหลานๆที่กำลังเตรียมอาหารและจัดโต๊ะกันอย่างขะมักเขม้น
“นั่นน่ะสิ แต่เสียดายที่ลูกแกกับลูกพี่ไม่มีใครมาได้สักคน” พี่ชายฝาแฝดซึ่งเกิดก่อนไม่กี่นาทีเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกเสียดายที่บรรดาลูกๆของท่านและน้องชายต่างพร้อมใจติดงานกันหมด หากน้องชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวข้างๆกลับหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
“แต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งหลานๆมากันครบนะครับ”
“ก็ลองพวกมันส่งมาไม่ครบสิ พี่จะเผ่นกบาลให้เรียงตัว ขนาดบอกก่อนเป็นเดือน ดูพวกมันทำ ไม่มีใครว่างมาสักคน”
“ถ้าพวกตาวิน งานคงหนักน่ะครับ เพิ่งจะเปิดตัวโครงการคอนโดไปด้วย คงวิ่งวุ่นกันน่าดู ส่วนพวกหมอแบบตาเรศ พี่รันก็รู้ว่าแทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย”
คุณรินทร์แก้ต่างให้ทั้งลูกของตัวเองและลูกของพี่ชาย เพราะที่ท่านพูดมานั้นไม่ผิดสักคำ ลูกหลานตระกูลนี้ ไม่ว่าจะเขยหรือสะใภ้ก็งานรัดจนตัวแทบจะเป็นเกลียวหัวแทบจะเป็นน็อตกันอยู่แล้ว ทั้งกวินทร์ กณิฐฏา ลูกรักของพี่ชายรวมถึงเชนทร์ลูกชายของตนเองที่ต้องดูแลบริษัททางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ตนและพี่ชายร่วมก่อร่างสร้างตัวกันมา ส่วนรณเรศลูกชายคนโตของท่านก็ต้องทำหน้าที่ดูแลคนป่วยในฐานะที่เป็นหมอจนแทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย
“ก็นั่นน่ะสิ ฉันถึงได้บอกพวกมันว่าช่วยแต่งเขยแต่งสะใภ้ให้มันมีเวลาว่างให้ครอบครัวหน่อยได้ไหม แต่นี่อะไร ไม่มีใครว่างสักคน” คุณรินทร์ยังคงบ่นต่อไปประสาคนแก่ เพราะทั้งลูกเขยลูกสะใภ้ที่ท่านได้มานั้นก็ล้วนที่จะหาเวลามาพักผ่อนตากอากาศได้ยากทั้งสิ้น
“ถ้าเป็นตาภีม...รายนั้นก็เหมือนตาเรศแหละครับพี่ริน...ยุ่งอยู่กับคนไข้” คุณรันทร์เอ่ยถึง ‘นพ. ภีมวัจน์’ ชายหนุ่มผู้มีฐานะเป็นลูกเขยของพี่ชาย
“คงไม่ต่างกับหนูนิชแล้วก็หนูอัญลูกสะใภ้แกล่ะสิ” คราวนี้เป็นพี่ชายย้อนถามถึง ‘พญ. กานต์ชณิช’ และ ’อัญชิสา’ ลูกสะใภ้ของน้องชายบ้าง ยังไม่วายที่จะกระหวัดนึกถึงลูกสะใภ้ของตัวเอง ท่านเองก็ ‘เคย’ มีลูกสะใภ้เช่นเดียวกับน้องชายแต่ ‘กัลวรา’ คงทำบุญมาน้อยถึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้สั้นนัก
“ครับ หนูนิชก็วุ่นกับคนป่วยแทบทุกวัน ส่วนหนูอัญคงยุ่งอยู่กับร้านเพชรน่ะครับ ได้ข่าวว่าตอนนี้มีออเดอร์ใหม่เข้ามามาก” ผู้เป็นน้องชายตอบรับด้วยรอยยิ้ม “ถึงจะบ่นไป แต่ก็ยังมีหลานๆให้ชื่นใจไม่ใช่หรือครับ” จบคำพูดของน้องชายบรรดาหลานๆที่จัดการกับโต๊ะและอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ส่งตัวแทนมารับคุณปู่และคุณตาอย่างละคน
“คุณตาขา...พายด์หิวแล้วไปเถอะค่ะ” หลายสาวคนโปรดของคุณรันทร์ค่อยๆพยุงคุณตาให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกพร้อมกับคอยประคองอยู่ข้างๆ
“คุณปู่คะ...เรก็หิวแล้วเหมือนกัน เราไปกันเถอะค่ะ” คุณรินทร์ส่งยิ้มเอ็นดูให้หลานสาวหัวแก้วหัวแหวน ปล่อยให้นางฟ้าตัวน้อยในสายตาท่านค่อยๆพยุงไปที่โต๊ะอาหารอีกคน
...ลูกไม่มาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ในเมื่อมีหลานๆที่คอยเอาอกเอาใจห้อมล้อมอย่างนี้ คนแก่...จะต้องการอะไรไปมากกว่านี้เล่า...
หลังอาหารเย็นทั้งคุณปู่รันทร์และคุณปู่รินทร์ก็กลับมานั่งบนเก้าอี้โยกตัวเดิม คุยกันเรื่องสับเพเหระตามประสาคนแก่ มองดูหลานๆที่นั่งคุยและส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
“ริน...แกอยากให้ครอบครัวเราครึกครื้นกว่านี้ไหม” จู่ๆพี่ชายฝาแฝดที่นั่งอยู่ข้างๆก็เกริ่นขึ้น ดวงตาที่ล้อมรอบด้วยรอยเหี่ยวย่นฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันควัน
“พี่รันหมายความว่าอะไรครับ” ถามไปอย่างนั้น...เพราะคุณรินทร์รู้ดีว่าผู้เป็นพี่ชายหมายความเช่นไร พี่น้องที่เกิดห่างกันไม่กี่นาที แค่มองตาก็รู้ใจกันแล้วไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยบอก
“พี่อยากเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้” พี่ชายยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“วิธีนี้กะแก้เผ็ดบรรดาลูกๆของพี่กับผมด้วยใช่ไหมครับ”
“แกนี่มันรู้ใจพี่จริงๆ” คุณรันทร์ตบตักอย่างถูกใจ เพราะถ้าบรรดาหลานๆของท่านเริ่มที่จะเดือดร้อน แล้วบรรดาพ่อแม่จะไม่เดือดร้อนตามได้อย่างไร
“ตามแต่พี่รันเถอะครับ ผมก็เป็นห่วงทั้งหลานชายหลานสาวผมเหมือนกัน ไม่มีเป็นตัวเป็นตนจริงๆจังสักที” คุณรินทร์ตัดสินใจลงเรือลำเดียวกับพี่ชาย เพราะแผนนี้มันก็ไม่เสียหายอะไร เผลอๆท่านอาจจะได้แววเห็นหน้าเหลนเร็วกว่าเดิม
“ได้เลยไอ้น้องชาย งานนี้เจ้าพวกหลานตัวแสบของพี่กับของแกไม่มีใครกล้าปฏิเสธแน่!”
ริมชานเรือนเหล่าบรรดาหลานชายหลานสาวนั่งกันเรียบร้อยเป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งเพราะถูกคุณปู่คุณตาเรียกมารวมพล สงสัยไม่น้อยว่าทำไมท่านทั้งสองถึงนัดเรียกมาพร้อมองค์ประชุมเช่นนี้ แต่คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าใดแน่เพราะลางสังหรณ์บอกว่านี่ไม่ใช่การพูดคุยธรรมดาประสาครอบครัว หากเป็นการพูดคุยเพื่อสั่งการอะไรเสียมากกว่า
“จะให้พวกเราทำอะไรให้ครับคุณตา” ‘ภูมิรพี’ หลานชายคนโตของคุณรันทร์ถามขึ้นอย่างรู้ทันในความคิดของผู้เป็นตา ถ้ายกให้คุณตาของเขาเป็นอัจฉริยะในการคิดแผนแผลงๆแล้ว ชายหนุ่มก็คงเป็นคู่ปรับที่อ่านความคิดของท่านออกว่าท่านต้องการอะไร
“ฉันล่ะเบื่อไอ้พวกหัวไวรู้ดีอย่างแกจริงๆเจ้าไวน์” คุณตารันทร์ค่อนขอดหลานชาย
“จัดมาเลยครับคุณตา จะให้พวกผมทำอะไรว่ามาได้เลยครับ” หลานชายพูดด้วยสีหน้าทะเล้นจนคนเป็นตาอยากจะฝากมะเหงกไว้บนหัวของมันจริงๆ
“ฉันอยากได้หลานสะใภ้กับหลายเขย”
“อะไรนะครับ/อะไรนะคะ” หลานทั้งหมดตะโกนขึ้นมาพร้อมกันเมื่อผู้เป็นทั้งคุณตาและคุณปู่บอกความต้องการออกมา
“คุณปู่ครับ คุณปู่รันพูดจริงหรือครับ” ‘ชิษวัศ’ หลานชายคนโตของคุณรินทร์และเป็นหลานชายคนโตของตระกูลหันมาถามปู่ของตนซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆของคุณปู่รันทร์
“นั่นสิคะคุณปู่ คุณปู่รันเอาจริงหรือคะ” คราวนี้เป็น ‘เรศิกานต์’ หลานสาวคนเดียวของคุณรินทร์ถามขึ้นมาบ้าง แม้จะรู้ดีว่าคุณปู่รันทร์ชอบคิดแผนการอะไรแปลกๆอยู่เสมอ แต่แบบนี้มันไม่ล้อกันเล่นแรงไปหรือ
“จริง” คุณปู่รินทร์ตอบ และคำตอบก็ทำให้ทั้งหลานชายและหลานสาวของท่านมีสีหน้าคิดหนัก ผิดกับหลานชายคนเล็กของคุณรันทร์ที่ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด
“ผมขอปฏิเสธครับคุณปู่” ‘กันตวิชญ์’ หลานชายคนเล็กของคุณรันทร์และเป็นหลานชายที่ท่านเป็นห่วงมากที่สุด สาเหตุคงเพราะมารดาเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก กันตวิชญ์จึงเติบโตมากับครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายเลยทำให้มีนิสัยหัวแข็งไม่ยอมใคร ไม่มีความอ่อนโยน ที่สำคัญเจ้าหลานคนนี้มันไม่มีท่าทีที่จะชอบผู้หญิงคนไหนเลยสักคน
“เงียบไปเลยนายเกม!” ‘กีรตา’ ที่นั่งข้างๆกันตวิชญ์หันมาสั่งลูกพี่ลูกน้องหนุ่มเสียงเขียว ก่อนที่จะเอ่ยปากถามคุณตาบังเกิดเกล้าอย่างคุณรันทร์
“ข้อตกลงล่ะคะคุณตา ถ้าพวกเราทำได้คุณตาจะให้อะไร แล้วถ้าทำไม่ได้พวกเราจะเสียอะไร”
คุณรันทร์ยิ้มอย่างภูมิใจ ในบรรดาหลานๆทั้งโปรดปรานกีรตาที่สุด เพราะหลานสาวคนนี้เหมือนถอดแบบท่านมาออกมาไม่มีผิดเพี้ยน ฉลาด รู้จักแก้ปัญหาในสถานการณ์คับขัน และที่สำคัญ...รู้จักการต่อรอง
“ถ้าพวกเจ้าทั้งหมดทำได้ตามที่ตาตั้งไว้...เงินสด 10 ล้าน ที่ดินกลางกรุงเทพฯคนละ 1 แปลง บ้านพักตากอากาศคนละ 1 หลัง คอนโดนแถวสุขุมวิทอีกคนละห้อง...ว่าไงของรางวัลแค่นี้พอไหม”
“หุ้นของทุกบริษัทในเครืออีก 5% ด้วยค่ะคุณตา” เมื่อถูกหลานสาวต่อรองแทนที่คุณตาจะโมโหกลับหัวเราะเสียเสียงลั่นบ้าน
...แล้วจะไม่ให้ตาชอบหนูที่สุดได้ยังไงเล่าหนูพายด์ ดูสิดู...เคี่ยวไม่น้อยเชียว!!...
“เอ้า! เอาก็เอาคราวนี้ตากับตารินยอมเฉือนเนื้อตัวเองเลยเอ้า...หุ้นอีก 5% ว่าไง พอใจไหม”
กีรตาพยักหน้า ใช่ว่าเธอชอบกับเกมนี้ของคุณตาเธอเสียเมื่อไหร่ แต่เมื่อเห็นลู่ทางว่าหลีกหนีไม่ได้ มันก็ต้องขอรางวัลให้สมน้ำสมเนื้อกับ ‘อิสระ’ ที่เหล่าหลานๆอย่างพวกเธอต้องเสียไปกันหน่อยล่ะ
“แล้วถ้าทำไม่สำเร็จล่ะคะ” มาคราวนี้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคุณรันทร์ปรากฏบนใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลา รอยยิ้มที่บรรดาหลานๆเห็นแล้วรู้สึกกว่ากำลังนั่งอยู่กลางขั้วโลกใต้ก็ไม่ปาน...ก็มันรู้สึกเย็นสันหลังวาบไปถึงกระดูกอย่างไรชอบกล
“ชดใช้คืนด้วยเงินสดคนละ 20 ล้าน อสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างที่เป็นชื่อพวกเจ้า ตากับตารินขอเอาคืน บัตรเครดิตทุกใบ...ขอระงับ แล้วสุดท้าย...หุ้นทุกหุ้นของพวกเจ้าในทุกบริษัทในเครือ ตาขอริบคืน 5%” ‘ค่าชดใช้’ ของคุณรินทร์ทำเอาหลานๆที่นั่งหน้ากระดานเรียงหนึ่งแทบจะล้มพับแบบโดมิโน่ไปตรงนั้น โดยเฉพาะชิษวัศที่ครางออกมาเสียงดังกว่าเพื่อน
“โอย...คุณปู่รัน ทำแบบนี้กะเอาพวกผมล้มละลายกันเลยนี่ครับ”
“แค่พวกเราที่ไหนคะพี่อาร์ม พ่อกับแม่ของพวกเราด้วยต่างหาก เงินสด 20 ล้าน แค่พวกเราจะไปหาได้ที่ไหนกัน” เหมือนว่าเรศิกานต์จะเริ่มเข้าใจอะไรได้มากขึ้นว่าแผนการคราวนี้คุณปู่ทั้งสองได้ผลพลอยได้เป็นการแก้เผ็ดเล็กๆน้อยๆลูกของตัวเอง
“ระยะเวลาล่ะคะคุณตา” คนที่ตั้งสติได้ดีทุกสถานการณ์อย่างกีรตายังคงเป็นผู้นำดำเนินการเจรจาต่อไป
“สิ้นปีนี้เป็นยังไง ถ้าพวกเจ้าทำได้คนเป็นปู่เป็นตาจะได้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขไปอีกปี แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ถือซะว่าพวกเจ้าเสียทรัพย์รับปีใหม่เป็นยังไง” ผู้เป็นตากำหนด ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าบรรดาหลานสุดที่รักนั่งทำหน้าปั้นยากจะกลืนก็กลืนไม่เข้าจะคายก็คายไม่ออกกันอย่างนี้ หากถ้านับเวลากว่าจะถึงสิ้นปีก็มากพอดู ซึ่งเวลานานเกินครึ่งปีขนาดนี้คุณรันทร์คิดว่าตัวเองใจดีกับหลานๆมากแล้ว
“ขอเวลานอกค่ะ” สัญญาณจากกีรตาเป็นที่รู้ๆกันดีในเหล่าหลานๆว่าแปลว่าอะไร ทั้งหลานชายหลานสาวสามัคคีกันลุกพรึ่บ ไปรวมตัวกันอีกวงสนทนาหนึ่งที่ไม่ไกลจากพวกท่านมากนัก แต่ก็ห่างพอที่ท่านจะไม่ได้ยินว่าเจ้าพวกนั้นประชุมกันว่าอย่างไร
“ผมไม่เล่นนะตามเกมคุณปู่นะพี่พายด์” กันตวิชญ์ประกาศกร้าว หากก็โดนสายตาเฉือดเชือนของกีรตาส่งไปให้ราวกับต้องการหั่นน้องชายให้แยกส่วนมากกว่าร้อยชิ้น
“แล้วนายมีปัญญาจ่ายค่าตอบแทนให้คุณตาหรือยังไง คิดซะบ้างนายเกม ก็รู้กันหมดทุกคนว่าคุณตารินเป็นคนยังไง แล้วนี่ยังมีคุณตารันลงเรือลำเดียวไปอีก ไม่ต้องหวังหาคนมาช่วยเลย ไม่สำเร็จหรอกย่ะ!” กีรตาเอ่ยอย่างหัวเสีย แค่ปัญหาของคุณตาจอมวางแผนเธอก็ปวดประสาทจะตายอยู่แล้ว ดันมาเจอลูกพี่ลูกน้องหัวแข็งอีก อย่าให้เธอได้ฟิวส์ขาดเชียว เดี๋ยวจะเหวี่ยงแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมให้แหลกกันไปเลย
“พี่อาร์มกับเรจะเอายังไง ผมน่ะยังไงก็ได้แล้วครับตอนนี้ เพราะถ้าผมกับยัยพายด์ไม่รับปากคุณตา บ้านผมก็ฟาดไป 40 ล้าน...ไม่ไหวล่ะครับ”
ภูมิรพียอมแพ้ เพราะดูจากผลเสียที่พวกเขาต้องจ่ายมันก็แทบทำให้ล้มละลายอย่างที่ชิษวัศบอกได้จริงๆ เพราะเงินส่วนใหญ่ก็เป็นเงินของกองกลางของตระกูลทั้งนั้น จะถอนออกยังไงก็ต้องผ่านการอนุมัติจากผู้อาวุโสทั้งสองทั้งสิ้นส่วนเงินสดที่เป็นชื่อบัญชีของบิดามารดารวมกับทั้งของหลานๆแต่ละคนมีถึงที่คุณตารินทร์เรียกค่าชดใช้ที่ไหนกัน
ชิษวัศถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จริงอย่างที่ภูมิรพีและกีรตาบอก คุณปู่ฝาแฝดทั้งสองวางแผนกันมาดี ท่านรู้ว่าจะปิดทางหนีทีไล่ของหลานๆอย่างไร ยิ่งคนที่ต้องทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารบริษัทในเครือของตระกูลอย่างเขา ภูมิรพี กีรตา รวมถึงกันตวิชญ์ด้วยแล้ว การเอาหุ้นคืน 5% นี่มันก็เท่ากับการลิดรอนอาจทางการบริหารกันชัดๆ ส่วนเรศิกานต์ที่เป็นทันตแพทย์ แม้การริบหุ้นคืนจะดูไม่มีผลต่อหญิงสาวเท่าใดนัก แต่การยึดอสังหาริมทรัพย์ก็มีผลต่อคลินิกของเธออย่างมากเช่นกัน
“เรจะเอายังไง” ชิษวัศหันมาถามลูกพี่ลูกน้องสาวที่ตอนนี้กำลังระดมสมองคิดไตร่ตรองอย่างหนัก
“คลินิกเป็นเหมือนทั้งชีวิตของเรค่ะพี่อาร์ม เรสียไปไม่ได้” คำตอบของเรศิกานต์ทำให้ชิษวัศตัดสินใจอะไรๆได้
“ถ้ายัยเรโอเค...พี่ก็โอเค เพราะพี่ก็ไม่ยอมเสียหุ้นของพี่ไปเหมือนกัน!” ชิษวัศประกาศหนักแน่น เพราะขืนเสียหุ้นไปมันก็เหมือนกับเสียเก้าอี้ในบริษัท...ไม่ต่างกัน
“สี่เสียงชนะขาดครับไอ้คุณเกม...ตามกฎ” ภูมิรพีหันไปบอกน้องชายที่ดื้อและหัวแข็งที่สุดในกลุ่ม แม้กันตวิชญ์จะไม่เห็นด้วยอย่างไรแต่เมื่อผลโหวตออกมาเป็นเสียงข้างมาก ต่อให้ไม่เต็มใจทำก็ต้องยอม
“แต่ถ้าผมทำไม่ได้ก็อย่ามาว่าทีหลังแล้วกัน” กันตวิชญ์ไหวไหล่คล้ายไม่สนใจ แล้วอาการนั้นก็ทำให้กีรตาหันมาจัดการกับน้องชายด้วยมาตรการเด็ดขาด
“ถ้านายทำทุกอย่างพัง 40 ล้านที่บ้านพี่ต้องจ่าย พี่จะโยนให้ลุงวินทั้งหมด!” กีรตราประกาศกร้าว เธอพูดจริงและสามารถที่จะทำอย่างที่พูดได้ทุกคำ!
“โหย...นี่พี่พายด์มั่นใจสุดๆเลยใช่ไหมว่าจะหาหลานเขยให้คุณปู่ได้น่ะ อย่างพี่เรผมไม่ห่วงหรอก หนุ่มๆต่อแถวกันเพียบ แต่อย่างพี่พายด์เนี่ย...ผมว่า...เข้าขั้นโคม่า”
“ไอ้เกม!” ถ้ากีรตาใส่สรรพนามหน้าชื่อเล่นกันตวิชญ์นั่นคือหญิงสาวกำลังโกรธ “อย่าคิดว่ามีแต่ผู้ชายที่เลือกได้นะยะ ผู้หญิงก็เลือกได้เหมือนกัน...คอยดู!” กีรตาท้า เธอมักจะเป็นไม้เบื่อไม่เมากับกันตวิชญ์เสมอตั้งแต่เล็กจนโต ไม่มีเปลี่ยนไปเลย
...ก็จะให้เปลี่ยนไปได้อย่างไร ดูปากมันสิ ดูมันพูด!!!...
“โอเค...งั้นเป็นอันว่าพวกเราตกลง” ภูมิรพีเป็นคนสรุปมติในครั้งนี้ ก่อนหันมาพูดกับน้องสาว “ไปเลยยัยพายด์ ในฐานะหลานโปรดของคุณตา ไปให้คำตอบท่าน แล้วก็...ต่อรองมาอย่าให้ขาดทุน” คนเป็นพี่ชายสั่ง หากคนเป็นน้องสาวหน้าหงิก แค่ต่อรองไปเมื่อครู่ก็รวบรวมความกล้ากลั้นใจขอไป ขืนมากไปกว่านี้ไม่รู้คุณตาจะตลบหลังอย่างไร
“จะพยายามก็แล้วกัน แต่ไม่รับปากนะ” น้องสาวบอกว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินนำขบวนลิ่วเข้าไปนั่งห้อมล้อมคุณรันทร์และคุณรินทร์ที่นั่งยิ้มรอ
“ว่าไง...คำตอบของตาล่ะหนูพายด์” คุณรันทร์ยิ้มกริ่มถามหลานสาวคนโปรด ไม่ต้องพึ่งหมอดูที่ไหนท่านก็รู้ว่าคำตอบจะออกมาอย่างไร...แบบนี้มันต้องฉลอง
“ค่าชดใช้ลดลงครึ่งหนึ่งไม่ได้หรือคะคุณตา” กีรตาลองต่อรอง
“เจ้าไวน์ค้างปีสั่งให้มาต่อรองไม่ให้ขาดทุนใช่ไหมนี่” คุณรันทร์ดักทางอย่างรู้ทัน เหล่ตามอง ‘เจ้าไวน์ค้างปี’ ที่มักชอบเล่นโกงกับท่านเสมอ
“งั้นผมไม่ต่อรองแล้วก็ได้ครับ แค่หาหลานสะใภ้มาให้คุณตาให้ได้ภายในสิ้นปี...แค่นั้นพอใช่ไหมครับ” ภูมิรพีหรือเจ้าไวน์ค้างปีของคุณตารันทร์พูดคล้ายว่าจะยอมแพ้ทุกประตู หากในใจกลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ ชายหนุ่มคิดหาทางออกไว้แล้ว มันก็แค่เรื่องง่ายๆ แค่หาผู้หญิงมา ‘สวมรอย’ เป็นหลานสะใภ้ให้คุณตาเห็น...ทุกอย่าง...จบ
...ก็คุณตาอยากเล่นอะไรพิสดารแบบนี้ทำไม โกงได้ก็ต้องโกงกันหน่อยล่ะ...
คุณรันทร์หรี่ตามองหลานชายคนโต ไอ้เจ้านี่มันหัวไว แถมยังฉลาดแกมโกงอ่านเกมท่านได้แทบจะทั้งหมด แต่ก็ยังเด็กนักมีหรือจะสู้ท่านที่ผ่านมาหลายสมรภูมิแถมยังอาบน้ำร้อนมาก่อนหลายบ่อ ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าเจ้าหลานชายตัวแสบคิดจะโกงอะไร
“แล้วก็อย่าคิดที่จะมา ‘ย้อมแมว’ หลอกกันเชียว” สายตาที่มองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งปรายตามองมายังภูมิรพี
“เวลาเสือมันหลับอย่าริจะย่องเข้าไปกระตุกหนวด... เพราะฉะนั้นใครที่มันกำลังคิดจะโกงตา อย่าคิด...ว่าตาจะไม่รู้ไม่เห็น เพราะถ้าตาจับได้...ทุกอย่างจบกัน...และค่าชดใช้ทั้งหมด...คุณสอง”
“คูณสอง!!” หลานๆตะโกนขึ้นพร้อมกัน แทบจะเป็นลมล้มพับไประลอกสอง กีรตาหันมาส่งสายตาอาฆาตให้พี่ชายที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด พูดออกไปอย่างนั้นมีหรือที่คุณตารันทร์จะไม่รู้
“คุณปู่ปล้นพวกผมชัดๆ” ชิษวัศโอดเสียงอ่อน คำนวณมูลค่าความเสียหายแล้วลมจะใส่ เมื่อพบว่าถ้าแพ้ในเกมนี้เท่ากับคำว่า ‘ล้มละลาย’ อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ
“งั้นแกก็เลิกลอยไปลอยมาเป็นพ่อสายบัวแล้วไปหาหลานสะใภ้น่ารักๆมาให้ปู่สิเจ้าอาร์ม”
“แล้วมันหาง่ายอย่างนั้นหรือยังไงล่ะครับ”
“พวกแกมีเวลาตั้งครึ่งค่อนปี”
ชิษวัศถอนหายใจอย่างยอมแพ้ และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ชิษวัศคนเดียวที่ยอม บรรดาหลานๆที่เหลือก็ต่างยกธงขาวยอมแพ้ก้มหน้าก้มตาลงเล่นในสนามตามเกมนี้เช่นกัน เมื่อต่อรองมากกว่านี้ไม่ได้ และไม่ทำก็ไม่ได้เพราะอำนาจทุกอย่างของ ‘ตตินรากรณ์’ อยู่ในมือของท่านทั้งคู่ทั้งหมด ต่อให้ท่านชี้นกแล้วบอกว่าเป็นไม้ทุกคนก็ต้องบอกว่าเป็นไม้ ไม่มีใครกล้าพอที่จะขัดใจ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าท่านบอกว่าอยากเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ บรรดาหลานๆสุดที่รักจะทำอย่างไรได้นอกเสียจากจะปฏิบัติการตามหาหลานเขยหลานสะใภ้มาให้ผู้เป็นปู่เป็นตาได้ยล!
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าเริ่มเรื่องของคู่แรกค่ะ >> ผลิดอก...ออกรัก <<
ความรักของหลานชายคนโตจะมีวิธีพิชิตใจผู้หญิงที่ตัวเองปฏิเสธมาตลอดอย่างไรต้องติดตามค่ะ :)
คำโปรยค่ะ...
ทั้งที่ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะไม่เข้าสมาคม 'กินเด็ก' แต่ไหงไปๆมาๆสายตาเขาถึงได้มองแต่ยัยเด็กหน้าหวานนี่ได้เล่า!
ทั้งๆที่เธออยู่ใน 'ข้อต้องห้ามของชิษวัศ' แต่ยิ่งพอรู้จักเขากลับอยากที่จะแหกข้อต้องห้ามนั่นเสียดื้อๆ
พยายามออกห่างก็แล้วแต่ยัยเด็กไม่รู้อะไรนี่ก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆไม่ไปไหน ช่างไม่รู้อะไรเลยว่าเขาพยายามแค่ไหนที่จะออกห่าง ไม่มอง ไม่สนใจเธอ
แล้วยิ่งมาใกล้ชิดแบบนี้...เขาจะห้ามใจให้ 'ไม่รัก' ได้อย่างไร!!
ริอาจหาญกล้าเข้ามาปลูกต้นรักในหัวใจผู้ชายอย่างชิษวัศ เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องรับผิดชอบด้วยการรดน้ำพรวนดินไปตลอดชีวิต...มุกตาภา!
* ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจจากเรื่องที่แล้วมากมายค่ะ *

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 พ.ย. 2554, 14:40:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 เม.ย. 2555, 10:15:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 2632
เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 1 >> |

WallyValent 30 พ.ย. 2554, 14:44:49 น.
เจิมจ้า สู้ๆ นะ ^^
เจิมจ้า สู้ๆ นะ ^^

Amata 30 พ.ย. 2554, 16:17:42 น.
ยังไม่ได้อ่านค่ะ ต้องรีบไปธุระ เข้ามาช่วยเขาเจิมไว้ก่อนค่ะ ^^
ยังไม่ได้อ่านค่ะ ต้องรีบไปธุระ เข้ามาช่วยเขาเจิมไว้ก่อนค่ะ ^^

anOO 30 พ.ย. 2554, 19:46:27 น.
มารอตอนต่อไปจ้า
มารอตอนต่อไปจ้า

ปลาวาฬสีน้ำเงิน 30 พ.ย. 2554, 21:22:18 น.
เนื้อหาน่าสนใจ น่าติดตามมากว่าต่อไปจะยุ่ง ..... มั๊ย น้อ ตั้ง 4 คู่แนะ
เนื้อหาน่าสนใจ น่าติดตามมากว่าต่อไปจะยุ่ง ..... มั๊ย น้อ ตั้ง 4 คู่แนะ

nunoi 1 ธ.ค. 2554, 15:28:26 น.
รอตอนต่อไปด้วยคนค่ะ
รอตอนต่อไปด้วยคนค่ะ
