รักแท้...แม้ไม่ใกล้ชิด
สายป่านสาวน้อยจอมโก๊ะที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองชอบใครสักที ทั้งที่ก็มีคนเข้ามามากมาย ก็ใช่สิในหัวใจของเธอมีพี่วินอยู่แล้วตั้งแต่แรกเห็น แต่เรื่องราวกับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่อมีอีกคนทำให้ความรักของเธอต้องสั่นคลอน เธอจะทำอย่างไร อยากตัดใจ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จสักที
วิทวิน หนุ่มมาดนิ่งรุ่นพี่ที่โรงเรียนของสายป่าน เขามอบหัวใจดวงนี้ให้เธอตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า เมื่อหอบความกล้าทั้งหมดไปบอกเธอว่าชอบ แต่เอกลับวิ่งหนีเสียดื้อๆ แต่หลายอย่างทำให้เขารอ รอ และรอ เมื่อวันหนึ่งเดินทางมาถึง เขาได้เจอเธอในที่ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ และเป็นวันที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เขาจะทำอย่างไรเพื่อตามทวงหัวใจที่ควรจะเป็นของเขากลับคืนมา


ตามเป็นกำลังใจให้คู่รัก คู่นี้กันนะคะ ใน รักแท้จะไม่แพ้ใกล้ชิด

^^ เป็นกำลังใจให้คนเขียน ทุกคอมเม้นจะเป็นแนวทางและกำลังใจในการเขียนงานของผู้เขียนต่อไป

นางสาวปลาดาว....
Tags: รักแท้

ตอน: ตอนที่ 1

ความรัก .... สำหรับฉันมันหมายความว่าอย่างไรนั้นฉันก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ ฉันรู้แต่เพียงว่าถ้าความรักได้เกิดขึ้นกับใคร คนคนนั้นคงมีความสุขมากมายเหลือเกิน ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าความสุขที่เกิดจากความรักเป็นอย่างไร ....

สำหรับฉัน ความรักก็แค่ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับหัวใจ ไม่ได้มีอิทธิพลมากมายนัก แต่วันนี้มันกลับไม่ใช่ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นที่ฉันเพียรบอกตัวเองเสมอตั้งแต่เริ่มแรกที่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้น ว่านี่ไม่ใช่ความรักแต่เป็นเพียงความรู้สึกชื่นชม ในความสามารถและความเป็นตัวเองของเขาเท่านั้น แต่แล้วก็มีบางอย่างมาสะกิดต่อมความรู้สึกนั้นให้เกิดขึ้นเมื่อมีบางคนกำลังพยายามเดินเข้ามาหาเขา ในวันที่เขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ที่เดิมข้างๆกันเหมือนวันวาน และเหมือนว่าความพยายามนั้นกำลังจะเป็นผลซะด้วย หรือที่เขาว่ารักแท้ยังไงๆก็แพ้ความใกล้ชิดวันยังค่ำ....

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ใช่ตอนนี้ฉันยืนอยู่ที่หน้าเจ้ายักษ์ตัวสูงใหญ่ตัวนั้น ในมือคือพาสปอร์ต และตั๋วเครื่องบิน กระเป๋าเป้ใบเก่งถูกหยิบขึ้นมาใช้งานอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้แตะมันเลยหลังจากที่ไม่ได้ออกค่ายอาสามาแรมปี วันนี้ได้ฤกดิ์งามยามดีหยิบมันขึ้นมาใช้ เป้าหมายปลายทางของการเดินทางในครั้งนี้คือ ดินแดนที่ห่างไกลแค่เพียงทะเลกลั้น ดินแดนที่ได้ชื่อว่าได้เห็นพระอาทิตย์เป็นที่แรกในโลก
หลายวันกับการนั่งคิดว่าจะเอายังไงดี เดินไปข้างหน้าอย่างที่หัวใจมันสั่ง หรือจะนั่งอยู่อย่างนี้เผื่อว่ามันจะดีกว่า และสุดท้ายแม่เพื่อนตัวดีก็ออกแรงยุยงแกมส่งเสริมว่าเดินไปข้างหน้าตามที่หัวใจต้องการดีที่สุด ไม่ว่าเดินไปแล้วจะเจอกับอะไรแม่เพื่อนตัวดีก็ยังจะยืนอยู่เคียงข้างเสมอถึงแม้ว่าคำพูดที่ว่าจะอยู่เคียงข้างจะทำให้ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ก็เถอะ
‘ฉันขอแนะนำว่าไปเหอะ ไปทำตามที่หัวใจแกมันเรียกร้อง หรือแกจะยอมปล่อยพี่เขาให้ยัยเด็กนั่น สิบปีมันไม่พอหรอกับการที่เก็บงำความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้เพียงคนเดียว ถ้าแกโดนปฏิเสธกลับมาอย่างน้อยแกได้บอกความรู้สึกของแกให้พี่เขารู้และฉันสัญญาว่าตลอดช่วงที่แกยังทำใจไม่ได้ฉันจะยอมไปกินข้าวกับแกทุกมื้อแถมเลี้ยงด้วยเอ้า...’
นี่เป็นคำพูดที่แม่เพื่อนตัวดีบอกและทำให้ฉันตัดสินใจในวันนั้น แต่ไม่ใช้เห็นแกกินหรอกนะฉันเห็นแกหัวใจมากกว่า และนั่นก็ทำให้ฉันมายืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ หลังจากเคลียร์งานในส่วนที่เหลือเสร็จ การเป็นนักศึกษาฝึกงานก็จบลง พร้อมกับงานวิจัยที่พร้อมส่งแต่ยังไม่พร้อมนำเสนอ ชีวิตนักศึกษากำลังจะจบลง แต่ภารกิจหัวใจของฉันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ฉันกำลังจะพาหัวใจดวงนี้ข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อให้มันได้ทำหน้าที่ของมันอย่างจริงจังเสียที แต่ฉันยังไม่แน่ใจว่ามันจะพร้อมหรือไม่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากภารกิจนั้นเสร็จสิ้นลง....

10 กว่าปีก่อนหน้านี้....

“ตื่นได้แล้วป่าน สายแล้วนะ ไม่โรงเรียนวันแรกก็จะไปสายแล้วหรอเราฮะ”
เสียงปลุกของแม่เป็นแบบนี้เสมอเมื่อถึงวันจันทร์วันแรกของสัปดาห์ และนี่ก็เป็นสัปดาห์สำคัญเสียด้วย สัปดาห์แรกของการเปิดเทอม สัปดาห์แรกของชีวิตระดับมัธยมของฉัน
“สายขนาดนี้ครูเขาจะให้เข้าโรงเรียนมั้ยลูก ไปพ่อไปได้แล้วเดี๋ยวก็ได้สายกันทั้งคู่หรอก”
แม่เตือนอีกครั้งพร้อมกับดันหลังฉันขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านข้างคนขับซึ่งหน้าที่นี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อ
“ตั้งใจเรียนนะลูก”
ฉันไม่ได้ตอบเพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น

โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอใครว่ามันไม่ใหญ่ ถ้าเทียบกับโรงเรียนที่ฉันจบมาแล้วล่ะก็แทบเทียบไม่ติดเลยที่เดียว ขนาดของโรงเรียนก็ใหญ่กว่ามาก นักเรียนน่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน คุณครูยืนที่หน้าประตูโรงเรียน รุ่นพี่ระดับมัธยมปลายยืนข้างๆคุณครู และพาน้องน่าจะเป็นมัธยมต้น หรือ ม. หนึ่ง เดินไปในโรงเรียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน พ่อส่งเสียงเตือนเมื่อเห็นว่าฉันยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงทำเอาคนที่กำลังเหม่ออยู่นั้นสะดุ้งนิดหนึ่งก่อนหันไปไหว้ทำความเคารพผู้เป็นบิดาแล้วลงจากรถไป
“น้องครับน้อง น้องคนที่ใส่แว่นคนนั้นน่ะม.หนึ่งใช่มั้ย”
น้องคนที่ใส่แว่น ก็ฉันน่ะสิ พี่คนนั้นเขาเรียกฉันหรอ ฉันพยายามชี้มาที่ตัวเองอย่างงงๆ
“ครับน้องนั่นแหละอยู่ทับไหนหรอครับ”
“ทับสามค่ะ”
“ออทับสามเฮ้ยวินใครดูแลน้องทับสามวะพาน้องไปที”
“เดี๋ยวน้องเดินไปตรงใต้ต้นไม้ต้นนั้นนะครับเดี๋ยวจะมีคนพาน้องไปที่ห้องเรียน”
“ที่จริงแล้วหนูเห็นห้องเรียนแล้วนะคะตอนวันประถมนิเทศ”
“ออ คือตอนนี้เค้าเปลี่ยนห้องใหม่ครับน้องมันเลยยังมั่วนิดหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับเดี๋ยวพวกพี่จะพาน้องไปที่ห้องเรียนเอง”
“...........”
ใต้ต้นไม้ แล้วมันต้นไหนกันเนี่ยมีตั้งหลายต้นแล้วจะรู้ได้ไง
“น้องครับทางนี้ครับ”
รุ่นพี่คนหนึ่งเรียกฉันในขณะที่มีนักเรียนจำนวนหนึ่งประมาณหกถึงเจ็ดคนได้เดินตามพี่คนนั้นไป แต่ที่ดูแล้วพี่คนนี้ไม่ใช้มัธยมปลายเนื่องจากกางเกงที่ใส่ก็แบ่งชัดเจนอยู่แล้ว โรงเรียนแห่งนี้ผู้ชายม.ต้น ม.ปลายจะแตกต่างกันตรงที่กางเกงเนื่องจากม.ปลายจะใส่กางเกงสีดำ ส่วนม.ต้นจะใส่กางเกงสีน้ำตาล และพี่คนนี้ก็ใส่กางเกงสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกชัดเจนว่าเขาอยู่ ม.ต้น
“หวัดดีเราเมย์นะเธอชื่ออะไรหรอ”
“..........”
“ก็เธอนั่นแหละ”
“ออ...เราป่าน”
“เราอยู่ทับสามนะเธออยู่ทับไหนหรอ”
“เหมือนกันเราก็อยู่ทับสาม”
“งั้นดีเลยเรานั่งด้วยกันนะ”
“น้องครับน้องสองคนนั้นน่ะเดินให้เร็วกว่านี้หน่อยสิจะเข้าแถวแล้วนะ”
คนอะไรดุเป็นบ้าเลย นี่ถือว่าเป็นรุ่นพี่หรอกนะไม่งั้น.....
“ป่านเราว่าพี่คนนั้นโออ่ะ ถึงจะหน้าตี๋ไปหน่อยแต่เราว่าพี่แกโอสุดๆเลย เธอรู้มั้ยว่าพี่แกอยู่ม.ไหน”
“ไม่รู้สิ...แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” ประโยคหลักดูเหมือนจะเบามากจนเหมือนการบ่นไปแค่คนเดียวมากกว่าที่จะเรียกได้ว่าเป็นการสนทนาระหว่างกัน

เข้าแถวหน้าเสาธง.....

“ป่านนั่นไงพี่คนนั้น”
“ใคร....”
“พี่โอไง”
“พี่โอไหนจะรู้ด้วยมั้ยเนี่ย”
“ก็พี่โอคนที่พาเราไปที่ห้องเรียนไง พี่เค้าอยู่ม. 2 แหละ นั่นไงคนสุดท้ายของแถวเลย เฮ้ยนั่นมันแถว 2/1 นี่”
“รู้ได้ไงว่าพี่เค้าชื่อโอ”
“ไม่รู้ฉันเป็นคนตั้งให้เองแหละ”
“เธอนี่ท่าจะบ้า”
ไอ้พี่โอของยัยเมย์โถ่เอ้ยขนาดยืนเข้าแถวยังเก็กได้ขนาดนี้ ไม่รู้จะเก็กให้มันได้อะไรขึ้นมา ถือว่าหล่อตายล่ะ แต่ก็โออย่างที่ยัยเมย์ว่าอ่ะนะ....
หลังจากนั้นประธานโรงเรียนก็เริ่มพิธีหน้าเสาธง และกล่าวต้อนรับนักเรียนใหม่ ตามมาด้วยการกล่าวของท่านผู้อำนวยการและครูอีกหนึ่งท่าน สรุปแล้วเราใช้เวลาหน้าเสาธงทั้งหมดเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ให้ตายเถอะ จากที่ดำอยู่แล้วดำกว่านี้อีกหน่อยก็ไม่แปลกหลอกมั้งสายป่าน



นางสาวปลาดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ต.ค. 2554, 13:59:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ต.ค. 2554, 13:59:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 1607





   ตอนที่ 2 >>
นางสาวปลาดาว 26 ต.ค. 2554, 17:54:45 น.
เรื่องนี้เนื้อเรื่องอิงประสบการณ์ของผู้เขียนเอง อาจมีเสริมเติมแต่งบ้างเพื่อความเหมาะสมค่ะ ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account