ดวงใจมาเฟีย
เมื่อ “มนฌิฏา” สัตวแพทย์สาว ไปเข้าตากรรมการ เขาถูกตาต้องใจเธอตั้งแต่แรกพบ “อังเดร อัลโทเน่” มาเฟียหนุ่ม จะทำอย่างไรเพื่อเอาชนะใจเธอ เมื่อเธอเกลียดแสนเกลียดพวกฝรั่งหัวทองยิ่งกว่าอะไรดี

Tags: ซึ้งกินใจ

ตอน: ตอนที่ 4

ตอนที่ 4
แผนร้าย แผนรัก

รถกระบะสีดำแล่นอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ มณฌิฏามองอะไรแทบไม่เห็นเมื่อฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงรถดับลงอย่างไม่มีสาเหตุ มณฌิฏาเริ่มหงุดหงิด


“รถเสียหรอ”


ดวงตาคู่หวานมองไปด้านหน้าอย่างนึกโมโห อยู่ๆฝนก็ตกลงมาซะอย่างนั้น แถมรถยังมาเสียอีก
อังเดรมองอาการหงุดหงิดของคนข้างๆก่อนจะพูดขึ้น


“รถเสียไปไม่ได้แล้ว”


มณฌิฏาหันไปมองเขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น


“ฉันรู้แล้ว”


เธอบอกเสียงแข็ง อังเดรนิ่ง ท่าทางเธอกำลังอารมณ์เสียไม่น้อย เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ ดวงตาคู่คมมองไปรอบๆ มีเพียงสายฝนที่ตกกระหน่ำเท่านั้นที่เขามองเห็น


“เฮ้อ”


เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอนหลังลงไปกับเบาะ ดวงตาคู่คมหลับลงช้าๆ ในรถเงียบกริบ มณฌิฏามองไปรอบๆ ความมืดกับสายฝนทำให้เธอรู้สึกกลัวไม่น้อย แล้วยังความเงียบกริบภายในรถอีก มันดูวังเวงชอบกล มือบางเอื้อมไปสะกิดคนที่นอนหลับตาอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆจากเขา ดวงตาคู่หวานมองคนที่หลับไม่รู้เรื่อง ก่อนจะกระซิบเรียกเบาๆ


“อังเดร อังเดร อังเดร”


หลายครั้งที่เรียกแต่เขาก็ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา ร่างบางเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้อย่างลืมตัว สองมือคล้องแขนคนที่หลับตาอยู่อย่างต้องการหาที่ปลอดภัย ใบหน้าดวงงามชิดติดกับใบหน้าคมของอังเดร สัมผัสที่ได้รับทำให้อังเดรขยับตัว ใบหน้าหันกลับมาปลายจมูกแตะลงบนแก้มนวลอย่างไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาคมดุสบกับดวงตาคู่หวานอย่างจัง ความกลัวทำให้มณฌิฏาขยับเข้ามาใกล้อีก ใบหน้าทั้งสองแนบชิดกันจนไม่มีช่องว่าง ปลายจมูกโด่งแตะซึ่งกันและกัน ริมฝีปากอยู่ห่างกันเพียงนิดเดียว สบตากันอยู่นานก่อนที่มณฌิฏาจะขยับถอยออกไป อังเดรได้สติ เขาหันหน้ากลับไปทางเดิม


“คุณกลัวหรอ”


อังเดรถามเสียงทุ้ม มณฌิฏาไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้าให้เท่านั้น อังเดรมองฝนที่เริ่มซาลง กระท่อมหลังเล็กที่อยู่ไม่ไกลทำให้เขายิ้มออกมา


“ตรงนั้นมีกระท่อม เราลงไปหลบฝนในนั้นกันก่อนเถอะ รถเสียแบบนี้ยังไงก็ไปไม่ได้”


พูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที มณฌิฏาวิ่งตามมาติดๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกฝนจนเห็นชั้นในสีฟ้าเผยออกมาอย่างชัดเจน ดวงตาคมดุหลบไปอีกทางเมื่อเห็นร่างกายที่เปียกฝนของคนตรงหน้า ทั้งสองคนเข้ามาหลบฝนด้านใน มณฌิฏานั่งตัวสั่นอยู่มุมหนึ่ง อังเดรถอดเสื้อที่เปียกฝนออกก่อนจะบิดและผึ่งเอาไว้ใกล้ๆ เขาหันหน้ามามองเธอนิดหนึ่ง ก่อนจะยืนหันหน้าออกไปทางประตู สองมือกอดอกและไม่หันมามองคนที่ตัวสั่นอยู่ด้านในอีกแม้แต่น้อย ดวงตาคู่หวานมองร่างสูงที่ยืนอยู่ ก่อนจะพูดเสียงสั่น


“ฉันหนาว”


เสียงนั้นทำให้อังเดรนิ่ง เขาถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันมามองร่างบางที่นั่งขดตัวอยู่ ภาพที่เห็นทำให้เขารู้ว่าเธอคงหนาวมาก ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ๆ พยายามไม่มอง และไม่คิดสิ่งที่ตัวเองเห็น บางครั้งเขาก็เกลียดตัวเองที่ต้องรู้สึกอะไรแบบนี้ แต่จะห้ามยังไง ในเมื่อเป็นเรื่องธรรมชาติที่ห้ามกันไม่ได้


“คุณหนาวมากหรอ”


อังเดรถามเสียงเรียบ มณฌิฏาพยักหน้าให้ ร่างกายสั่นไปทั้งตัว


“ถอดเสื้อออก”


เขาบอกเสียงนิ่ง


“จะบ้าหรอ ให้ฉันถอดเสื้อ”


มณฌิฏาถามเสียงกร้าว


“เดี๋ยวผมจะหันหลังให้ ถอดเสื้อออก แล้วผมจะเอาไปบิดให้แห้ง คงจะช่วยให้คุณหนาวน้อยลง”


คำพูดนั้นทำให้มณฌิฏานิ่ง อังเดรยืนหันหลังให้ตามที่บอก ไม่นานเสื้อเชิ้ตสีขาวก็ถูกส่งมาให้ ชายหนุ่มเดินออกไปบิดเสื้อข้างนอก บิดอยู่นานจนไม่เหลือน้ำสักหยด แล้วเอากลับมาให้เธอใส่ เพราะเธอคงไม่ยอมเปลือยรอจนกว่าเสื้อจะแห้งแน่ หลังจากที่มณฌิฏาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเขาก็เข้ามานั่งบนแคร่ไม้ที่มีอยู่อันหนึ่งในห้อง เวลานานเท่าไรไม่รู้ที่ทั้งสองคนนั่งอยู่ในกระท่อมนั้นฝนก็ยังไม่หยุด ดวงตาคมดุมองไปนอกหน้าต่างที่ฟ้าเริ่มมืด ฝนเริ่มตกหนักอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมามองมณฌิฏาที่นั่งหลับพิงอยู่ตรงข้างฝา ร่างสูงเดินมาหา เขานั่งยองๆ แล้วพิจารณาใบหน้าดวงงามของคนตรงหน้า รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเรียบขรึมของเขาอีกครั้ง มือหนาทั้งสองช้อนร่างบางขึ้นไว้ในอ้อมกอด


“หนาว”


เสียงครวญที่ดังขึ้นทำให้เขาชะงักมือที่กำลังจะวางเธอนอนลงบนแคร่ มือบางยกขึ้นกอดต้นคอของเขาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าคมขรึมของอังเดรแดงขึ้นทันที เมื่อเจ้าร่างบางเบียดตัวเข้าหาเขาจนสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นของทรวงอกที่เสียดสีกับแผ่นอกกว้างยามที่เธอขยับตัว อังเดรจะวางร่างนั้นลงบนแคร่แต่เธอกลับกอดรัดเขาไว้แน่น ร่างสูงนั่งลงบนแคร่ทำให้มณฌิฏานอนอยู่บนตักของเขาโดยอัตโนมัติ ริมฝีปากบางที่เริ่มแห้งขยับน้อยๆ หัวใจมาฟียเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวเม็ดบนเปิดเผยให้เห็นชั้นในสีฟ้าอีกครั้ง อังเดรดึงมือที่คล้องคอเขาออก แล้ววางร่างนั้นลงบนแคร่ก่อนจะลุกขึ้น


……………………………………….


“ฝนตกหนักแบบนี้ ไม่รู้ว่าคุณมณกับนายทองมาจะเป็นยังไงบ้างนะคะคุณนนท์”


ป้านิ่มพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง พอภัทรไปรับมาจากสวนยายจันทร์ฝนก็ตกหนัก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุด แถมณฌิฏากับนายทองมาก็ยังไม่กลับมา


“นั่นน่ะสิ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ฝนตกหนักขนาดนี้”


วรนนท์พูดขึ้นอย่างเป็นห่วงไม่แพ้กัน ดวงตาคู่คมมองออกไปนอกหน้าต่าง รอว่าเมื่อไรฝนจะหยุดตก เมื่อไรน้องสาวของเขาจะกลับมาซะที

…………………………………………..

เสียงครวญว่า ”หนาว” ยังคงดังให้ได้ยินตลอดเวลา ดวงตาคมดุมองร่างที่สั่นบนแคร่อย่างนึกเป็นห่วง ร่างสูงเดินเข้ามาหา มือหนาจับร่างบางอย่างเบามือ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อสัมผัสได้กับความร้อน


“มณ มณฌิฏา ได้ยินผมไหม”


อังเดรเรียกเสียงดัง มณฌิฏาลืมตาขึ้นน้อยๆ เธอยิ้มให้เขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน


“อังเดร ช่วยฉันด้วย ฉันหนาว หนาวเหลือเกิน เหมือนกำลังจะตาย”


เสียงครวญที่บอกทำให้อังเดรวูบไหวไปในทันที


“หนาวมากหรอ”


อังเดรถามเสียงนิ่ง เขารั้งร่างบางเข้ามากอดไว้เพื่อมอบความอบอุ่นให้ นานเท่าไรไม่รู้ที่เธออยู่ในอ้อมกอดเขา เสียงครวญค่อยๆหายไปและเงียบในที่สุด ดวงตาคมดุมองร่างที่หายสั่นแล้วนิ่งๆ ก่อนจะคลำตัว เมื่อเห็นว่าเธอหายร้องคร่ำครวญแล้วก็เอนตัวลงนอนบนแคร่พร้อมกับกอดร่างนั้นไว้เหมือนเดิม ดวงตาคมดุมองร่างบางในอ้อมกกอดแล้วยิ้มออกมา จมูกจูบลงบนเรือนผมสีดำขลับอย่างอ่อนโยน เส้นผมยาวสลวยแผ่สยายเต็มแผ่นอกกว้าง ลมหายใจเบาๆเป่ารดต้นคออย่างอบอุ่น ดวงตาคมดุมองริมฝีปากบาง ก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงไปอย่างละมุนละไม แล้วยิ้มให้กับใบหน้าที่งดงามของเธออีกครั้ง


“ถ้าคุณจะหอมแบบนี้ ผมคงห้ามใจได้อีกไม่นาน”


…………………………………………….


แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ดวงตาคู่หวานค่อยๆลืมขึ้น มณฌิฏาจะขยับตัว แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างหนักๆอยู่ตรงเอว ร่างเปลือยท่อนบนของคนที่นอนกอดเธอมาตลอดทั้งคืนทำให้หญิงสาวเบิกตากว้าง ก่อนจะเด้งตัวขึ้นจากที่นอน ไข้ที่ขึ้นสูงเมื่อคืนทำให้เธอปวดหัวไม่น้อย แต่ก็ไม่ลืมคนที่กล้านอนกอดเธอมาทั้งคืน


“ไอ้ทองมา ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ”


มณฌิฏาเรียกเสียงกร้าว อังเดรที่เพิ่งได้หลับเมื่อตอนรุ่งสางลืมตา งัวเงียขึ้นมา แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ร่างหนาหนักก็ถูกถีบลงไปกองที่พื้น


“โอ้ย”


มาเฟียหนุ่มร้องลั่น ก่อนจะลุกขึ้นยืน ดวงตาคมดุมองต้นเหตุที่นั่งอยู่บนแคร่


“นี่คุณทำอะไร”


อังเดรถามเสียงกร้าวอย่างโมโห ผู้หญิงคนนี้ไว้ใจไม่ได้จริงๆ เขาอุตส่าช่วยไม่ให้หนาวตายแต่เธอตอบแทนเขาแบบนี้น่ะหรอ


“ก็ลงโทษนายไง กล้าดียังไงขึ้นมานอนกับฉัน แถมยังกอดฉันอีก นายนี่มันตัวฉวยโอกาสจริงๆเลยนะ”


มณฌิฏาพูดอย่างเอาเรื่อง


“ฮึ ๆ ผมเนี่ยนะฉวยโอกาสกับคุณ ผมจะบอกอะไรให้นะ เมื่อคืนคุณหนาว หนาวมาก คุณเรียกผมไปหา แล้วก็กอดผมเอาไว้แน่น บอกว่าช่วยฉันที ฉันหนาว แบบนี้”


อังเดรพูดจบพร้อมกับยืนกอดอก ยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท มณฌิฏากัดริมฝีปากแน่น


“ไม่จริง ฉันไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่”


มณฌิฏาบอกอย่างมั่นใจ


“ถ้าคุณไม่เชื่อ จะให้ผมสาธิตให้ดูก็ได้ ผมพร้อมเสมอ ผมจำได้หมดทุกฉอดเลยนะว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง แม้แต่ตอน…”


อังเดรหยุดไว้แค่นั้น ดวงตาคมดุมองใบหน้าของคนตรงหน้า ก่อนจะหยุดนิ่งตรงทรวงอก มณฌิฏาหน้าแดงก่กับสายตาจาบจ้วงที่มองมา


“แม้แต่อะไร”


เธอถามอย่างโมโห อังเดรนิ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง


“แม้แต่ตอนที่หน้าอกของคุณมาเสียดสีกับตัวผมนะสิ มันช่างรัญจวนใจผมเหลือเกิน”
“อ๊ายยยยย ไอ้อังเดร ไอ้บ้า ไอ้หัวทอง ไอ้ทองมา ไอ้เลว ไอ้ชั่ว”


มณฌิฏาด่าทอเสียงกร้าว อังเดรยิ้มอย่างสะใจ ผู้หญิงอย่างมณฌิฏาต้องเจอผู้ชายอย่างนายอังเดรมันถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน


“ฉันเกลียดแก”


มณฌิฏาเอ่ยเสียงแผ่ว ร่างบางทรุดลงกับแคร่อย่างหมดแรง อังเดรรีบวิ่งเข้ามาหาทันที


“คุณมณ คุณเป็นอะไร”
“อย่ามายุ่งกับฉันนะ”


มณฌิฏาบอกเสียงแข็ง มือบางผลักร่างของอังเดรออกอย่างแรง ดวงตาคมดุมองร่างบางที่กำลังลุกขึ้นยืนนิ่งๆ เมื่อเห็นว่าเธอจะล้มก็ทำท่าจะเข้าไปรับ แต่ดวงตาโกรธเคืองที่ส่งมาทำให้เขาได้แต่ยืนนิ่ง มองดูเธอเดินออกจากกระท่อมไป อังเดรเดินไปหยิบเสื้อที่ผึ่งไว้มาใส่ ก่อนจะเดินตามออกมา


มณฌิฏาเดินมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงรถ แต่เพราะพิษไข้ทำให้เธอหมดแรง ร่างบางทรุดลง ดวงตาพร่ามัวมองอะไรแทบไม่เห็น อังเดรรับร่างที่กำลังจะล้มลงพื้นเอาไว้ทัน ใบหน้าซีดเซียวที่เห็นทำให้เขารู้สึกใจหายไม่น้อย


“คุณมันดื้อจริงๆเลยนะมณฌิฏา”


พูดจบก็อุ้มร่างที่หมดสติไปแล้วขึ้นสู้อ้อมกอด อังเดรวางร่างนั้นไว้ด้านข้างคนขับ ก่อนที่ตัวเองจะไปขึ้นด้านคนขับ เขาพยายามสตาร์ทรถอยู่นาน รอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างดีใจเมื่อสตาร์ทรถติด เขาหันกลับมามองมณฌิฏาอีกครั้ง ก่อนจะขับรถพาเธอกลับไร่อนิชคุณ


……………………………..


ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องหลายสิบรอบ พิมพ์ลดากำลังคิดอยู่ว่าเธอจะหนีไปจากที่นี่ได้อย่างไร เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีคนเฝ้าอยู่ทุกด้าน ทุกประตู


“ทำไมต้องมีคนเฝ้าเต็มไปหมดแบบนี้นะ เป็นมาเฟียหรือยังไง”


หญิงสาวนึกถามอยู่ในใจ เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียง เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้เธอนิ่ง ก่อนจะเดินไปเปิดประตู


“คุณแอนดรูให้เอาของมาให้คุณพิมพ์ลดาครับ”


โทนี่บอกขึ้นพร้อมกับส่งถุงหลายใบให้ พิมพ์ลดารับมาอย่างงๆ


“แล้วคุณแอนดรูไปไหนหรอ”
“คุณแอนดรูรออยู่ข้างล่างครับ บอกว่าให้คุณแต่งตัวแล้วลงไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน”


พูดจบก็เดินลงไปด้านล่าง พิมพ์ลดามองตามหลังโทนี่ไปจนลับตา เธอปิดประตูห้อง ก่อนจะดูของในถุงใบต่างๆที่พึ่งได้รับมา เป็นเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้หญิงทั้งหมด


“เอาน่าพิมพ์ลดา เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ ตอนนี้ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปเอาอะไรใส่ท้องก่อนดีกว่า”


หญิงสาวพูดกับตัวเอง พร้อมกับมือที่ลูบไปตามหน้าท้อง เพราะรู้สึกหิวไม่น้อยตั้งแต่เมื่อวานก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักอย่าง

…………………………….


ร่างบางในชุดกระโปรงสั้นสีขาวกับเสื้อเกาะอกสีชมพูสดที่เดินลงมาจากชั้นบนเรียกความสนใจให้กับชายหนุ่มที่กำลังนั่งดื่มกาแฟได้ไม่น้อย แอนดรูมองร่างนั้นก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ พิมพ์ลดาที่ถูกมองก็หน้าแดงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ


“มาทานข้าวด้วยกันสิ”


แอนดรูบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร พิมพ์ลดาเดินตามไปอย่างว่าง่าย


“เหลืออีกสองวัน”


แอนดรูพูดขึ้นมาเฉยๆ มือเอื้อมไปตักกับข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วมาใส่จานข้าว แล้วตักใส่ปากกินอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาคมนัยน์ตาหวานมองคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่


“ทำไมไม่กิน หรือต้องให้ป้อน”
“เออ ไม่ต้องหรอกค่ะ พิมพ์กินเองได้”


พูดจบก็เริ่มตักอาหารกิน แอนดรูมองหญิงสาวที่ร่วมโต๊ะอาหารกับเขานิ่งๆ ไม่มีบทสนทนาใดอีก จวบจนการรับประทานอาหารเช้าสิ้นสุดลง


“จะไปไหน”


แอนดรูถามเสียงดัง เมื่อพิมพ์ลดาจะลุกจากโต๊ะอาหาร


“จะขึ้นห้องน่ะค่ะ คุณแอนดรูมีอะไรรึเปล่าคะ”
“มี”

…………………………………………………


ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

ร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาด้านในของห้างสรรพสินค้าชื่อดังเรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่น้อย โดยเฉพาะสาวๆ การ์ดหลายคนที่เดินตามมาด้านหลังทำให้เขาดูโดดเด่นเป็นพิเศษ แล้วที่พิเศษไปกว่านั้นคงเป็นหญิงสาวข้างกายที่เขากุมมือไว้แน่น ทำเอาสาวๆหลายคนต่างมองกันตาร้อนไปตามๆกัน เพราะรูปร่าง หน้าตาและท่าทางที่สง่างามของแอนดรูทำผู้หญิงหลงเสน่ห์ได้ไม่ยาก แล้วยังดวงตาคมที่มีแววหวานระยิบระยับนั่นอีกที่เพิ่มเสน่ห์ให้เขาได้อย่างมากมาย


พิมพ์ลดามองไปรอบๆห้างอย่างนึกสงสัย เขาพาเธอมาที่นี่ทำไม


“คุณพาพิมพ์มาที่นี่ทำไมคะ”


พิมพ์ลดาถามเสียงนิ่ม แอนดรูไม่ตอบอะไร นอกจากเดินไปยิ้มไปเท่านั้น
พิมพ์ลดาหน้าหงิกอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเขาถึงได้เผด็จการและเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้นะ


“นี่มันอะไรกันคะ”


พิมพ์ลดาถามอย่างไม่เข้าใจ เมื่อแอนดรูพาเธอเข้ามาในร้านเสื้อผ้าหรูร้านหนึ่ง


“พาคุณมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ไง”


แอนดรูพูดเรียบๆก่อนจะนั่งลงและหยิบหนังสือขึ้นมาดู


“ซื้อใหม่อีกทำไมคะ ที่คุณซื้อให้ก็พอแล้ว พิมพ์คงไม่อยู่กับคุณนาน ขนาดที่คุณต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้เยอะๆหรอกนะคะ”


พิมพ์ลดาพูดอย่างที่รู้สึก แต่แอนดรูทำท่าไม่สนใจ


“ผมให้ซื้อก็ซื้อเถอะน่า อย่าเรื่องมาก”


พูดแค่นั้นแล้วดูหนังสือต่อ พนักงานที่เดินเข้ามายิ้มให้พิมพ์ดาอย่างอ่อนโยนก่อนจะพาเธอเดินดูเสื้อผ้า ดวงตาคู่สวยหันมองแอนดรูอย่างไม่เข้าใจ ผู้ชายคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรอยู่นะ เธอดูเขาไม่ออกจริงๆ
พิมพ์ลดาเลือกเสื้อผ้ามาสามสี่ชุด ก่อนจะเข้าไปลองในห้องลองชุด ขณะที่เธอกำลังลองชุดอยู่นั้นความคิดหนึ่งก็วูบเข้ามาในหัว


“หนี”


……………………






แพลม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ต.ค. 2554, 21:48:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ต.ค. 2554, 21:53:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 2246





<< ตามหา   
nongnong79 31 ต.ค. 2554, 23:17:16 น.
ชอบค่ะรอตอนต่อไป


nunoi 31 ต.ค. 2554, 23:20:10 น.
จะหนีรอดไหม๊จ๊ะหนูพิมพ์


ริมทาง 1 พ.ย. 2554, 00:57:26 น.
น่าจะหนีม่ายรอดน้าาา


แว่นใส 1 พ.ย. 2554, 08:33:52 น.
น่านซิ จะหนีได้เหรอจ๊ะ


หมูอ้วน 1 พ.ย. 2554, 11:59:11 น.
ตื่นเต้นค่ะ จะหนีพ้นมั้ยเนี่ย


anOO 1 พ.ย. 2554, 15:38:06 น.
หนีไม่พ้นหรอก อย่าพยายามเลย


เจ้าหญิงสุเอะ 2 ม.ค. 2555, 12:09:43 น.
จะรอดไหมน้าาาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account