วิวาห์อารมณ์
เมื่อรักนั้นไม่ได้มาด้วยหัวใจ การครองเรือนจึงเต็มไปด้วยความร้าวรานใจ
Tags: อย่า ยอม แพ้

ตอน: คนจองหอง


วันหนึ่งมีคนจากบางกอกมาบอกหลวงพานิชญี่ปุ่นแพ้สงครามพวกเขาดีใจจะได้กลับบ้านกัน ดารกาบ่นออกมาให้ทุกคนได้ยิน
“แดงยังไม่อยากกลับค่ะคุณแม่ แดงอยากอยู่ที่นี่ค่ะ”
“หนูแดง บ้านเราอยู่ที่โน่นนะจ๊ะ”
“บ้านโน้นไม่มีพี่เปรมนี่คะคุณแม่”เด็กหญิงร้องไห้งอแงเสียดื้อ
ผู้ให้กำเนิดพากันหัวเราะด้วยความเอ็นดู เปรมส่งตุ๊กตาดินเผาให้เด็กหญิง
“พี่ปั้นแต่เมื่อวาน เผาเมื่อคืนเก็บไว้ให้คุณแดงเอาไปสิคนเก่งอย่าขี้แยนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เปรม”เด็กหญิงรับตุ๊กตารูปเด็กผมจุกมาถือไว้ มืออีกข้างปาดเช็ดน้ำตาจนเป็นคาบติดแก้มป่อง เงยหน้าอ้อนเด็กชายตัวโตว่า
“พี่เปรมเจ้าขา ถ้าคุณพ่อไม่พาแดงมา พี่เปรมให้แม่วาดพาพี่เปรมไปหาแดงได้มั้ยคะพี่เปรมเจ้าขา”
“อีกไม่กี่ปีพี่จะเข้าไปเรียนต่อครับ”
“เป็นปี นานมั้ยคะพี่เปรมขา”
คุณเลื่อน ก้มลงบอกลูกสาวตัวป้อมของท่านเองว่า
“ไม่นานจ้ะหนูแดง ตอนนี้ไหว้ลาผู้ใหญ่ก่อนนะ แล้วไปขึ้นเรือกัน”
“แดงยังไม่อยากไปนี่คะคุณแม่”เด็กหญิงเงยขึ้นบอกมารดาน้ำตาเอ่อคลอ ทำให้ปริก แม่วาด และเปรมนึกเอ็นดูยิ่งนัก
หลวงราช เอ่ยกับลูกสาวว่า
“แล้วพ่อจะมาทอดกฐินอีกนะ ไปทำตามคุณแม่บอกก่อนนะหนูแดง”หนูแดงยกมือไหว้สวย ทุกคนอำลาจากกัน หนูแดงหันมาโบกมือลาเด็กชายรุ่นพี่อีกครั้ง เขายกมือโบกตอบ แม้น อุ้มร่างอ้วนกลมของหนูแดงไว้ในอ้อมแขนรีบนำขึ้นเรือไปโดยเร็ว
คุณหลวง ตบบ่านายปริกกล่าวขอบใจอีกฝ่ายที่มีน้ำใจ
“ฉันไม่ได้พูดเล่นเรื่องทอดกฐินดอกนะ ปริก และเรื่องเรียนของเจ้าเปรมก็เหมือนกัน ถ้าอยากเข้าเรียนในบางกอกเมื่อไหร่ให้ไปพักอยู่กับฉัน ฉันจะส่งเสียให้เต็มที่”
“ขอบพระคุณท่านเสียเจ้าเปรม”
เด็กชายนบนิ้วไหว้นอบน้อม หลวงพานิชตบบ่าเด็กรุ่น สำทับหนักแน่นว่า
“แล้วรีบไปที่บางกอกนะเปรม ไปอยู่ที่นั่น จะได้เรียนตามที่เราหวังเอาไว้”
หนูแดงตะโกนเสียงแจ้วมาจากเรือ
“รีบไปนะพี่เปรม แดงจะเล่นตั๊กแตนและแดงจะทำสร้อยบัวเผื่อนด้วย”
เด็กหญิงวิงวอนน่ารัก เปรมโบกมือให้อีกครั้ง นางแม้นทำปากบูดเบี้ยวนินทาว่าร้ายเปรมมากมาย
“ชิชะบังอาจตีเสมอคุณหนูแดง ดูรึช่างไม่กระดากปากมาเรียกตัวว่าพี่ ใครจะให้เป็นพี่คุณหนูแดง ลูกคนบ้านนอกคอกนาถึงจะเป็นคนรวย ก็รวยอย่างบ้านนอก ไม่มีชาติมีสกุลมาเทียบคุณหนูแดงได้”
“เอาเถอะ ๆ ฉันว่าเลิกพูดเถอะ อย่างไรก็ได้หลบร้อนที่บ้านเขานานสองนาน”คุณเลื่อออกปาก
“คุณผู้หญิงไม่กระดากเลยหรือเจ้าคะ แล้วนี่คุณท่านจะรับฝากให้มาเรียนที่บางกอก เจ้าเปรมต้องมาอยู่ฐานะอะไรล่ะเจ้าคะ จะขึ้นชั้นเทียบเท่านายหรือเจ้าคะ”
“เขามาคนอาศัยก็เป็นคนอาศัยสิแม้น”
“ก็นั่นสิค่ะ คนอาศัยเท่านั้นบังอาจเทียบชั้นคุณหนูแดง”
ผู้ใหญ่ต่างคิดกันไปอย่างไร ดารกาไม่รับรู้ แต่เธอมองตุ๊กตาดินเผา ราวกับมองเป็นตัวแทนของเด็กชายรุ่นพี่ ที่แสนใจดี
พี่เปรมของแดง....

วันเวลาไม่เคยซับซ้อน มันยังคงทำหน้าที่ซื่อสัตย์อยู่เรื่อยไปด้วยการหมุนเวียนไม่มีหยุดพัก
เปรมเติบโตเป็นเด็กรุ่นหนุ่มหน้าตาคมสัน จัดว่าดีมาก รางกายสูงดูเหมือนจะสูงมากกว่านี้หากวัยเติบ
โตถึงขีดสุด
แม่วาดจัดของกินใส่ชะลอม ซึ่งเป็นของกินที่ค้างคืนได้ ทั้งผลไม้และขนมกวน ห่อใบตองอย่างดี นั่งสนทนากันถึงเรื่องความเป้นอยู่ของลูกชาย ซึ่งพ่อแม่วางแผนไว้อีกอย่างแต่เมื่อถึงเวลาที่เปรมเข้าไปเรียนต่อตามใจหวังจริงๆเปรมกลับวางแผนให้กับตัวเองเสร็จสรรพ
“ฉันจะไม่ไปอาศัยใบบุญคุณพระดอกครับพ่อ ฉันจะไปอาศัยอยู่กับหลวงตา”
“แต่คุณพระเอ่ยปากว่าจะดูแลส่งเสียเจ้า”
“ทำไมต้องให้คุณส่งเสียฉันด้วยล่ะพ่อในเมื่อพ่อกับแม่ส่งเสียฉันได้อยู่แล้วจริงมั้ย”
นายปริกถอนใจยาว ลูกชายถือทระนงมาตั่งแต่ยังเด็กเขาไม่ยอมให้ใครได้จิกกระหม่อมเรียกเช่นเดียวกับเขาจะไม่ดูถูกใคร
“ไปอาศัยอยู่บ้านท่านฉันก็อยู่แบบคนใช้ ฉันไม่สะดวกใจนัก”ใบหน้าคมขมวดคิ้ว ท่าทางครุ่นคิดเรื่องวันวานไม่เคยลืมได้ ปากเต็มหนา เอ่ยเล่าความในใจไผยังผู้ให้กำเนิดได้รับทราบว่า “ฉันยังจำคำจนของคุณหลวงได้เรื่องที่ต่อว่าฉันไปตีเสมอคุณแดง ฉันคงหายใจไม่สะดวกถ้าต้องไปอาศัยบ้านของเขาครับพ่อ”
“พ่อเคยเป็นลูกน้อง”นายปริกอ่อนโยนเสมอ “เปรมเป็นลูกพ่อเขาจึงขีดขั้นฐานะไว้ให้เสมอพ่อเมื่อครั้งเก่า เราจะไปแค้นเคืองเขาก็ไม่ถูกนะลูก”
“ฉันยอมรับไม่ได้หรอกพ่อ”
“เปรม อย่างจองหองไม่เข้าเรื่องไปนักเลย”
“ฉันไม่ได้จอมหองพองขนดอกนะพ่อ แต่คิดเสมอว่า พอเป็นลูกน้องของเขาก็เพราะสายงาน เรื่องเงินเดือนพ่อกินเงินเดือนหลวงนี่ครับ”
“ตกลงเปรจะเอายังไงล่ะ”ปริกอับจนทางที่จะให้เปรมเปลี่ยนใจไปพักบ้านคุณหลวง
“ฉันตัดสินใจแล้วจะไปอยู่กับหลวงตากินข้าวก้นบาตรท่านดีกว่าข้าวก้นครัวคนอื่นนะครับ”
“คิดอะไรผิดคนเสียจริงเจ้าเปรมคนนี้”แม่วาดระอาใจกับความทระนงของลูกชาย “แทนที่จะได้อาศัยเส้นสายทางคุณหลวง”
“ไม่ดอกครับแม่ ถ้าฉันเข้าโรงเรียนดี ๆ ไม่ได้จะกลับมาทำไร่นาจ๊ะ” เด็กรุ่นเอ่ยอย่างเชื่อมั่นในตัวเอง และเป็นสัจจะวาจาที่มีอย่างมั่นคง

เด็กชายรุ่นหนุ่ม หน้าตาคมสัน มีเค้าว่างามจัด เมื่อเติบใหญ่เป็นหนุ่มเต็มตัว ผิวขาวของเขา ทำให้ดูผิวแผกจากคนบ้านนอก เวลานี้เปรมถือชะลอมพะรุงพะรังลงเรือ เขากราบลามารดาอีกครั้ง แม่วาดอวยชัยให้พรเป็นอันมากทั้ง ๆ ที่ใจหายเมื่อลูกชายเพียงคนเดียวจะไปจากอก
การจากไปเรียนในที่ไม่ห่างกันมาก แต่การสัญจรไม่สะดวกสบายมากนัก ดังนั้นไม่ไกลจึงเหมือนไกล นานทีสองปีครั้งจะได้กลับบ้านหรือเปล่าแม่วาดไม่อาจคาดเอาได้เลย
นายปริกนั่งเรือเมล์ไปกับลูกชายเขายังนึกถึงคำสนทนาเมื่อหลายวันก่อนเสียไม่ได้ผู้ให้กำเนิดเอ่ยปากจะให้ลูกชายโทนไปอาศัยอยู่บ้านของคุณหลวงราชพานิชหากเด็กหนุ่ม ปฏิเสธโดยไม่ยอมรับโดยไม่ยอมพึ่งใต้ใบบุญของคุณหลวง

เวลาต่อมานายปริกได้พาลูกชายไปกราบหลวงตาที่วัดใหญ่
เปรมแต่งกายสุภาพนั่งพับเพียบเรียบร้อย หลวงตามองแววดีของอีกฝ่ายแล้วเอ่ยกับนายปริก
“จะได้เป็นใหญ่เป็นโตลูกชายของโยมปริก”
“กระผมขอฝากด้วยขอรับหลวงพ่อ กระผมมีเจ้าเปรมสืบสายอยู่คนเดียวเท่านั้นขอรับ”
“เด็กที่นี่ไม่มีเสียดอกโยม เป็นนายพลก็หลายคน นักการเมืองก็มาก ถ้าเจ้าคนนี้ตั้งใจจริงมันจะเอาดีได้”
นายปริกฟังคำด้วยความปลาบปลื้มใจยิ่งนัก เขาลูบศีรษะลูกชายไปมาด้วยความเอ็นดูและภาคภูมิใจ หวังว่าจะมีชีวิตอยู่ได้เห็นความสำเร็จของเปรม
ส่วนเปรมมีใจถือมั่นในความสำเร็จของตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งให้กับบิดามารดาต่อไปในอนาคต
วันเวลาไม่เคยหยุดรอคอยใคร มันหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกเมื่อเชื่อวันจวบจนหลายปีผ่านไปแล้ว

บ้านชายน้ำเป็นตึกทรงยุโรปทันสมัย คุณหลวงราชพานิชมีศีรษะหงอกขาวโพลนป่วยกระเสาะกระแสะ คุณเลื่อนแม้จะอายุมากหากยังงาม เลิศชายได้ดีหลังสงครามญี่ปุ่น
ชายหนุ่มได้ทำงานในกระทรวงสำคัญ แม้ภายหลังถูกคณะรัฐประหารเข้ามาบีบให้ลดบทบาทตัวเอง กระทั่งเลิศชายหันไปเล่นการเมือง และเขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ ร่ำรวยจากอาชีพการเมืองและมีอิทธิพล เขาสมรสกับนักเรียนนอกผู้ฟุ่มเฟือย ชื่อวัลย์วิไล หญิงสาวมีความทันสมัยจนดูกระด้างมาก
เมื่อต้องการสิ่งใดเธอร้องขอจากสามี และบงการอีกฝ่ายได้ดังใจ
คุณเลื่อนถือถ้วยยามาส่งให้ผู้เป็นสามี คุณหลวงเปรยถึงเรื่องทำบุญกฐินวัดต่างจังหวัด
“ฉันนี่ช่างลืมเสียสนิทเรื่องงานทอดกฐิน เคยเอ่ยปากกับเจ้าอาวาสครั้งเมื่อหนีไฟสงคราม เห็นทีต้องไปแก้บนกันละไม่อยากติดสินบนจนตาย”
“พูดอะไรอย่างนั้นคุณหลวง”
“ฉันอายุปูนนี้แล้ว เรื่องเป็นเรื่องตายไม่ได้กล่าวโดยพล่อยหรอกแม่เลื่อน เออเธอไปบอกพ่อเลิศซิเขาจะว่าอย่างไร”
คุณเลื่อนปรึกษากับลูกชายและลูกสะใภ้ เลิศชายออกตัวทันทีว่า
“ผมไม่ว่างดอกครับคุณแม่ไปค้างอ้างแรมยิ่งไม่ได้ เวลานี้งานผมมากปลีกตัวไปงานที่ไม่ได้อะไรคืนกลับมาเลยไม่ได้หรอกครับ”
“วัลย์ก็ขอตัวนะคะเพราะงานการกุศลที่เป็นหน้าเป็นตาต้องออกพร้อมคุณเลิศ”
คุณเลื่อนมีท่าทีหม่นหมองลงไปเมื่อคนเป็นลูก คิดมีความคิดอย่างเห็นแก่ตัวเต็มที การทำบุญไม่ได้หน้าเป็นไม่ทำ
ท่านเดินออกไปจากห้องโถงได้ยินลูกสะใภ้กล่าวแว่ว ๆ
“เราจัดงานเลี้ยงคนที่เป็นหัวคะแนนให้คุณที่บ้าน ในช่วงที่คุณพ่อ คุณแม่ไม่อยู่ก็ได้นะคะคุณเลิศ เอาคะแนนเสียงให้หนักทีเดียว”
คุณเลื่อนต้องรีบเดินไปเสียให้พ้นโดยเร็ว กับการคิดอย่างรวบยอดของสะใภ้

ต่อมาในเวลาสี่โมงครึ่งรถเก๋งยุโรปราคาแพงจอด คนขับรถเปิดประตูให้สตรีร่างอรชรผูกเปียลงจากรถ คุณหญิงเปิดยิ้มอย่างชื้นใจ เมื่ออีกฝ่ายเหลือบเห็นแล้วรีบวิ่งมาหา กราบสวัสดีแล้วสวมกอดประจบประแจง
“คุณแม่ขาคิดถึงจัง”
“อะไรกันไปเรียนเมื่อเช้านี้เอง”
“แต่แดงก็คิดถึงนี่คะ แล้วนี่คุณแม่ทำท่ากลุ้ม”
“ไม่มีอะไร” ท่านปฏิเสธ
“พี่เลิศหรือพี่วัลย์เป็นต้นเหตุคะ แดงจะไปต่อว่าเสียหน่อยมารังแกคุณแม่”
“จุ๊ๆ เป็นสาวเป็นนางอย่าทำก๋ากั่นไม่ดีหรอกลูก ไปเถอะไปเปลี่ยนผ้าก่อน”
คุณเลื่อนรีบปรามลูกสาว เพราะรู้นิสัยดีว่า ดารการักคุณแม่นักหนา เธอกล้าต่อกรกับทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้อย่างจริงจังเสียด้วย แต่คุณเลื่อนไม่ต้องการเช่นนั้น เพราะเกรงใจลูกชายคนโต ซึ่งดื้อรั้น ท่านไม่อยากให้พี่น้องต้องมาแตกหักกันเพราะคนนอกที่เข้ามาร่วมสกุล เลี่ยงได้คุณเลื่อนจึงเลี่ยงเสียดีกว่า
แม้เลิศชายจะไม่ไป แต่คุณหลวงก็ไม่ล้มความตั้งใจท่านให้ส่งข่าวไปที่บ้านนายปริก ซึ่งได้รับการเลือกจากชาวบ้านจากผู้ใหญ่ให้เป็นกำนันมาสามปีแล้ว หลวงพานิชส่งข่าวไปบอกกำนันปริกเพื่อนัดหมายกับทางวัดให้เป็นที่เรียบร้อย
ดารกามีความยินดีปรีดายิ่งนักเมื่อทราบว่าจะไปทอดกฐินในจังหวัดใกล้ๆ ที่มีความหลังฝังใจ แม้ยามนั้นเธอจะมีอายุเพียงห้าขวบ เด็กห้าขวบบางคนนั้นอย่างได้ดูถูกความทรงจำของพวกเขาเด็ดขาดว่าไม่มีปัญญาคิดหรือจำสิ่งใดได้ เพราะบางคนมีสมองช่างจำเสียยิ่งกว่าผู้ใหญ่ที่ชอบใจในสิ่งที่ตนพอใจ และทำเป็นลืมในสิ่งที่ตนอยากลืม ซึ่งเรียกได้ว่าคนเช่นนี้แก่ กะโหลกกะลา
ดารกาไปโรงเรียนด้วยหัวใจเบิกบาน เธออารมณ์ดีจนไม่คิดแกล้งเพื่อน ๆ ดังเช่นเคย อิทธิฤทธิ์ของเธอเพื่อน ๆ รู้ว่าร้ายนักไวทั้งปากทั้งมือ ราตรีเพื่อนหญิงรุ่นเดียวกันกระแซะไหล่สีรี
“ดูยายแดงเพื่อนเรา ดีใจที่ได้เล่นละครโรงเรียนจนนอกหน้า”
“นั่นสิทั้งที่คนดีใจที่สุดหน้าจะเป็นยายชิดสมัยมากกว่าเพราะนายร้อยหนุ่มจะมาทำตาปอยมองยอดดวงใจของเขารำละคร”
เพื่อนวิพากษ์วิจารณ์กันจนพอใจดารกาเชิดหน้านิด เกลื่อนยิ้มเย้ยว่า
“จ้างก็ไม่ใช่ดีใจเรื่องนั้น ฉันดีใจเรื่องจะไปงานทอดกฐินต่างหาก”
“ต๊าย...ช่างใจบุญใจกุศล”ราตรีกับสุดาโพล่งออกมาพร้อมกัน
ชิดาสมัยพาร่างบอบบางใบหน้าสวยเข้ามาหาเพื่อน ๆ จึงถูกสุดาล้อเลียนเรื่องเพื่อนชาย เธอหน้าแดงไล่ทุบตี ดารกาสะบัดหน้าอย่างแง่งอนเมื่อไม่มีใครถามเพราะอะไรจึงดีใจที่จะไปทอดกฐิน เธอจึงผละจากเพื่อนไป
นักเรียนหญิงส่งเสียงจอแจ และหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างคิกคักเมื่อเห็นชายร่างสูงสง่ากับอีกชายร่างสันทัดมาที่รั้วโรงเรียน เพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งวิ่งมาหาชิดสมัยบอกข่าวดีมายังเพื่อนสาว
“นายร้อยหนุ่มมายืนหน้าคมสัน รอเธอไปหาที่ริมรั้วโน่นแล้วจ้ะชิดสมัย”
“แหม” เด็กสาวอายจัดทำให้สีหน้าเปลี่ยนเป็นชมพูระเรื่อ ด้วยความเก้อเขิน
แต่ในใจชิดสมัยนั้นเล่าแสนยินดียิ่งนัก สองเพื่อนสาวรู้ใจ ทั้งราตรีและสุดารีบผลักไสให้ไปพบนายทหารรูปหล่อที่มารอคอยอยู่หน้าโรงเรียน
ดารกามิอาจเก็บอาการดีใจไว้ได้จึงเผลอยิ้มบ่อย นึกถึงเรื่องวันวานอย่างไม่เคยลืม ไปคราวนี้เธอจะได้พบพี่เปรมของเธออีกแล้ว พี่เปรมผู้ใจดี ที่เธอยกให้เป็นที่หนึ่งเสมอมา เรื่องซูบซิบของเพื่อนหญิงเกี่ยวกับคนรัก จึงไม่ได้ทำให้ดารกาสนใจสักนิดเดียว



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 พ.ย. 2554, 09:14:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 พ.ย. 2554, 09:14:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 2997





<< ตอนที่1 เริ่มต้นที่สงคราม   คุณหนูวายร้าย >>
นางแก้ว 1 พ.ย. 2554, 09:15:27 น.
ลืมวิธีลงนิยาย ปล้ำอยู่ครู่ใหญ่ทีเดียว เอ็อกว่าจะได้ เรื่องนี้นางเอกปล้ำพระเอกตามแนวถนัดค่า


saralun 1 พ.ย. 2554, 09:31:28 น.
เป็นกำลังใจให้ค่า


nutcha 1 พ.ย. 2554, 10:59:56 น.
แฟนของชิดสมัยใช่พี่เปรมอ่ะเปล่า ชอบนิยายของคุณนางแก้วค่ะสนุกดี เป็นกำลังใจให้ค่ะ


คิมหันตุ์ 1 พ.ย. 2554, 14:53:58 น.
โว๊ะโอ...น่ารักค่ะคุณนางแก้ว แนวปล้ำพระเอกยิ่งชอบจะได้หาแนวไปปล้ำในชิวิตจริงบ้าง...ห้าห้า


นางแก้ว 1 พ.ย. 2554, 17:11:32 น.
555


Zephyr 1 พ.ย. 2554, 18:39:12 น.
หนูแดงจะตามไปปล้ำพี่เปรมแล้วววววว นายร้อยคนนั้นใช่พี่เปรมป่าวน้า


minafiba 1 พ.ย. 2554, 19:55:40 น.
^____________^


นางแก้ว 1 พ.ย. 2554, 20:05:36 น.
ใครยิ้มใหญ่คะ สงสัยจะแม่แดง


nunoi 1 พ.ย. 2554, 20:44:03 น.
ชอบๆ ค่ะ สนุกตั้งแต่เริ่มเรื่องเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account