วิวาห์อารมณ์
เมื่อรักนั้นไม่ได้มาด้วยหัวใจ การครองเรือนจึงเต็มไปด้วยความร้าวรานใจ
Tags: อย่า ยอม แพ้

ตอน: คุณหนูวายร้าย


คุณหลวงราชพานิชมองสองข้างทางปีติกว่าทุกครั้งที่ได้ทำบุญ คุณเลื่อนอดกริ่งเกรงเรื่องสถานที ที่ต้องพักอาศัยบ้านนายปริก หรือข่าวบอกมาว่าเป็นกำนัน อีกครั้งเสียไม่ได้ จึงเอ่ยกับสามีว่า
“ไม่รบกวนเขามากไปหรือคะ ที่เราจะทำกับข้าวที่บ้านกำนันปริกเพื่อไปทำบุญที่วัด”
“กำนันปริกเขาบอกเตรียมของไว้แล้ว เขาดีใจมากเสียอีกที่เราจะไปทำบุญกัน”
ส่วนแม้นแอบค่อนด้วยความรังเกียจพื้นเพเดิมที่นายปริกเคยเป็นทหารลูกน้องคุณหลวงราชพานิชเบื้องหลังความรังเกียจของแม้น คือ แต่รุ่นสาวแม้นรักพลทหารปริกมาก แต่พลทหารปริก ไม่เคยมีใจให้เลยสักนิดเดียว กระทั่งไม่ได้รับราชการแล้ว และได้หนีไฟสงคราม แม้นจึงได้เห็นแม่เรือนของปริกว่าทั้งสวย ทั้งรวย
เรือยนต์แล่นไปตามลำคลองกว้าง ผ่านเรือกสวนริมน้ำซึ่งบางสวนมีต้นไม้ใกล้ริมคลองเป็นที่น่าชื่นชม กระทั่งผ่านมาปลายสวนของกำนันปริก มีต้นชมพู่นาคเป็นแถวเป็นแนว ออกผลเป็นพวงสุกแดงเต็มต้น ดารการ้องออกมาอย่างตื่นเต้นเกินระงับใจได้
“แดงอยากได้ชมพู่จังเลย”
คุณเลื่อนโคลงศีรษะไปมาด้วยความเอ็นดูกับความแก่นแก้วของลูกสาว
“คุณหนูขาระวังค่ะ คุณหนู”
“แม้นละก็ทำเหมือนแดงจะกะโจนลงเรือไปอย่างนั้นละ”
“แม้นกลัวใจคุณหนูนี่เจ้าคะ คิดเหมือนใครที่ไหน”
“คิดเหมือนคนอื่นก็ไม่เป็นตัวของตัวเองสิแม้น”
พี่เลี้ยงวัยกลางคนนั่งงงกับถ้อยคำที่นางฟังแล้วไม่รู้เรื่อง จึงบ่นกับนายผู้อาวุโสมากแล้วว่า
“คุณหนูแดงเธอพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ แม้นฟังไม่ถนัดหู เป็นตัว เป็นตนอะไรนะเจ้าคะคุณผู้หญิง”
“หมายถึงเขามีความเชื่อมั่นในตัวเอง”
“เชื่อหรือไม่เชื่ออะไรหรือเจ้าคะ”แม้นฟังไม่รู้ความหมายเอาเสียจริงจัง คุณเลื่อนจึงนั่งแปลไทยให้เป็นไทยอีกครั้ง
“คนดื้อรั้นนั่นล่ะแม้น แปลอย่างนั้น”
“อ้าวแปลง่ายอย่างนั้นทำไมคูณหนูพูดไทยเสียไม่ใช่ไทยเชียวเจ้าคะ”
“แม้นไม่ทันสมัยเอง อย่าว่าแดงสิจ๊ะ”คนสวยหันไปต่อว่าพี่เลี้ยง “แดงได้ดื้อแต่เป็นตัวของตัวเอง”
แม้นเมินหน้าไปเสีย จากคำที่นางได้แต่จำว่า ‘เป็นตัวเป็นตน’ มากกว่าจะจำข้อความยืดยาวและดูทันสมัยเสียจนนางไม่เข้าใจ
เรือโดยสารจอดท่าน้ำไม้ขนาดกว้าง ตลิ่งมีหินก้อนจับกันดินหมู่เรือนไทยหลายหลังกว่าเคยมาเมื่อสิบปีก่อนลานบ้านกว้างปลูกไม้ดอกไม้ประดับเป็นระเบียบบ่าวใช้หลายคนตระเตรียมต้อนรับคณะกฐินที่จะมาพักกันที่บ้านก่อนคุณชลรานำคณะขึ้นบันไดท่าน้ำ นายปริกชายวัยห้าสิบออกไปต้อนรับพร้อมแม่วาดซึ่งยังชอบนุ่งผ้าซิ่นเสื้อทรงกระบอก
“คุณพระเชิญบนเรือนครับ”
“โอ่โถงมากขึ้นนะปริกได้ข่าวว่าเป็นกำนัลแล้วหรือ”
“ได้พ่อเปรมเป็นสมองขอรับคุณหลวงทำมาค้าขึ้นบ้าง”
“อืม...คงเป็นหนุ่มมากแล้วละสิอยู่ไหนหรือ”
“รับราชการอยู่บางกอกขอรับวันหยุดจึงกลับมาบ้านกลับพรุ่งนี้ครับ”
“น่าภูมิใจแทน หนูแดงจำได้มั้ยลูกนี้ พ่อปริกแม่วาด”
“จำได้สิคะ แดงเป็นเด็กจะทำเป็นลืมผู้ใหญ่ได้อย่างไรคะ”
ดารกากล่าวออกมาจากใจจริง แล้วก้าวออกมายืนข้างบิดามารดากระพุ่มมือไหว้สองเศรษฐีบ้านนอก
“คุณหนูสวยมากเลยนะคะ”แม่วาดทักทายออกมาจากใจ เพราะเห็นหญิงสาวสวยงามยากหาใครมาเทียบจริงๆ
หญิงสาวยิ้มรับคำชมแล้วจึงก้าวเข้าไปใกล้มารดาของเปรม สวมกอดอย่างประจบเอาใจ แม่วาดยิ่งนึกเอ็นดู และคาดหวังไปถึงลูกชายหัวแก้วหัวแวนของตน
หากสองหนุ่มสาวนี้ได้ครองครัวกันแล้ว คงไม่มีใครเมาะสมเกินไปกว่านี้อีก!

พื้นไม้ขัดมันวับ ดารกาเดินเบาเธอนุ่งกางเกงขายาวซึ่งคนกรุงเริ่มนิยมใส่ หากชาวหัวเมืองยังเห็นแปลก บริวารทั้งที่มาจากบางกอกและจากที่อยู่บ้านอก ต่างดูงานยุ่งด้วยตระเตรียมของ คุณหลวงและคุณเลื่อนไปวัดพร้อมกำนันปริก และแม่วาดเพื่อปรึกษาหารือกับเจ้าอาวาส เรื่องการกำหนดงานกฐิน ซึ่งแม้จะกะทันหัน แต่เงินมาพร้อมแล้วจึงไม่ต้องอาศัยเวลาระดมทรัพย์กันมากนัก
นางแม้นวัยสี่สิบรับหน้าที่ดูดารกา หากนางก็ช้าเกินจะตามทัน ดารกาไม่ได้พูดเล่นว่าอยากได้ชมพู่สีสวยทซึ่งอยู่ริมน้ำระหว่างที่ผ่านไป เธอหมายมั่นว่าจะไปเก็บให้ได้ ดังนั้นเมื่อแม้นเผลอ ดารกาจึงเดินลดเลี้ยวไปตามลำคลอง มองจากที่เธอเดินเข้าสวนไปนั้นเห็นต้นไทรใหญ่สูงตระหง่าน ดุเหมอนแผ่กิ่งก้านสาขาระโยงรยางค์กว่าเก่า
ใต้ต้นไทรต้นนั้นเคยเป็นที่นั่งดูพี่เปรมของเธอทำของเล่นให้นานชนิด ตามแต่หนูแดงบอกอยากได้ คิดแล้วหญิงสาวรู้สึกอกวาบในอกกับความหลังที่ฝังใจถึงพี่เปรมแสนดีของเธอ
ผ่านถึงต้นชมพู่นาค สีแดงคล้ำสุกเต็มต้น ปลูกเรียงร้ายใกล้น้ำ ซึ่งดารกาไม่เข้าใจว่าทำไมจึงปลูกใกล้น้ำอย่างนั้น และเมื่อเธอเห็นกิ่งใหญ่เต็มไปด้วยพวงชมพู่สุกเป็นช่อใหญ่ๆ ระย้าลงไปใกล้ผืนน้ำ ห่างไม่ถึงสองศอก ทำให้ เธอนึกอยากปีนป่ายเล่น คิดแผลงแล้วปีนขึ้นต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว เพราะเมื่ออยู่ทั้งที่บ้านและโรงเรียน เธอแอบปีนที่บ้านอยู่บ่อยไป
เด็กสาว เอื้อมมือเด็ดลูกใกล้มือมากัดเล่นนิดแล้วปาทิ้งลงน้ำไม่สนใจ ขยับออกไปปลายกิ่งอีกนิด โดยที่เธอนั้นไม่รู้ว่าธรรมชาติของกิ่งชมพู่แล้วเปาะยิ่งนัก เมื่อดารกาขยับออกไปกิ่งชมพู่ไม่อาจทานน้ำหนักได้ จึงหัก เสียงดัง เป๊าะ ทำให้ร่างอรชรร่วงหล่นจากต้น พร้อมร้องอุทานเสียงดังทันใด
“ว้าย...พระช่วยแดง”
แทนที่จะดังตูมหากดังพลั่ก เพราะร่างของดารกา ตกลงบนกาบเรือโกนลำน้อย และเมื่อร่างเธอกระทบกาบเรือ จึงทำให้เรือลำนั้นพลิกคว่ำทันที
“โอ๊ะ..แย่ละ.”
ชายหนุ่มผมตัดสั้นเรียบร้อยอุทาน ตกน้ำตูมใหญ่เฉกเดียวกัน เขาด่าลั่นคลองด้วยความโมโห
“บ้าชะมัด เด็กบ้าเอ๊ย”
หากเมื่อคว้าเสื้อคนก่อเหตุหิ้วขึ้นจึงพบว่าเป็นผู้หญิงสาว หนำซ้ำเธอยังพ่นน้ำจากปากใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ
“อะไรกันนี่” ชายหนุ่มวักน้ำล้างตัวเอง พลางลูบให้แห้ง ดารกาเป็นอิสระ จึงว่ายน้ำหนี
เขาเห็นหญิงสาวแหวกว่ายน้ำหนีไปขึ้นฝั่ง เขามองตามจึงเห็นการแต่งกายแปลกตา จากคนที่บ้านของเขา ซึ่งนุ่งผ้าซิ่นกันมากกว่าจะเป็นกางเกงสี่ส่วนอย่างทันสมัยเช่นนี้
เด็กสาวใบหน้าสวยใสผมเปียเปียกลู่ ท่าทางยังตกใจอยู่ ชายหนุ่มร่างใหญ่ไม่ถาม แต่ค่อย ๆ กู้เรือขึ้นด้วยตนเอง
ดารกาหอบหายใจจนหายเหนื่อยแล้ว จึงเห็นว่าตนเป็นต้นเหตุ ดังนั้นหญิงสาวกลับลงน้ำ หวังจะไปช่วย แต่ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มดุขึ้นมาทันที
“กลับลงมาทำไม”เขาแลปกใจ และเมื่อเธอมาเกาะเรือเขายิ่งไม่พอใจ “นั่น จะทำอะไร”
“จะช่วยไงฉันทำเรือคว่ำฉันก็ต้องรับผิดชอบ”
“อ้อไม่ต้องหรอก ทำก๋ากั่นอย่างนี้ไม่เข้าท่าเสียเลย”
“เอ๊ะ”ดารกา ขึ้นเสียงสูง สาดน้ำเข้าใส่อีกฝ่าย ต่อว่าไม่ขาดเสียง “ตัวเป็นใครจึงปากดีมาว่าเค้า
“แล้วเธอเป็นใคร หน้าตาก็ไม่เหมือนลิงแต่ซุกซนเหลือเกิน”
“ตายแล้วเรื่องอะไรมาว่าเค้าอย่างนี้นะ”
เธอส่งเสียงแหลมสูงลั่นคลอง ก๋ากั่นมากพอที่จะหาเรื่องอีกฝ่ายด้วยการ พลิกเรือพึ่งกู้ ให้คว่ำไปใหม่ ทำเขาได้แล้วจึงว่ายน้ำหนี หากอีกฝ่ายไม่ปล่อยให้เธอหนีง่าย รีบว่ายน้ำตาม ด้วยความไวที่ผิดกัน ชายหนุ่มตามจับตัวเธอจนได้ ชายหนุ่มล็อกคอลากมาอย่างไม่ปราณี กลับมายังที่จุดเรือล่ม สั่งอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างชายชาติทหาร
“กู้เรือขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
“เอ๊ะ” เธอไม่ยอม เขาข่มขู่ ด้วยการหักกิ่งชมพู่ วางท่าทางขึงขัง จนดารกาขวัญฝ่อ เกรงว่าจะโดนตีถ้าเธอยังขืนดื้อดึงอยู่
ดังนั้นเด็กสาวรีบทำตามคำสั่ง ด้วยความเจ็บใจ เพราะตั้งแต่เกิดมามีแต่คนพะเน้าพะนอ ไม่เคยมีสักคนทำท่าราวกับจะหักคอเธอได้เช่นนี้มาก่อนเลย เธอบูดบึ้งเข้าใส่อีกฝ่าย จำกู้เรืออย่างทุลักทุเล กระทั่งเปรมทนมองไม่ได้จึงต้องช่วยอีกแรงหนึ่ง เพราะไม่เช่นนั้น ชายหนุ่มคิดว่าครึ่งวันหญิงสาวไม่มีทางกู้เรือได้สำเร็จ ดารกาเห็นว่าเรือกลับมาลอยลำได้แล้ว จึงว่ายน้ำไปขึ้นฝั่ง แล้วหันมาตะโกนว่า
“คนบ้านนอกใจดำเหมือนถ่าน”
ชายหนุ่มเขม่นอีกฝ่ายด้วยไม่ชอบใจในความแก่นแก้วซึ่งเขาเห็นว่าเกินงามไป



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ย. 2554, 07:05:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 พ.ย. 2554, 07:05:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 2816





<< คนจองหอง   ผู้ชายทระนง >>
nutcha 2 พ.ย. 2554, 07:38:43 น.
พี่เปรมกับหนูแดงเจอหน้าก็ฉะกันซะแล้ว คงจะเป็นคู่กัดกันมากกว่าคู่รักซะละมั้งเนี้ย ลุ้นต่อว่าแฟนชิดสมัยจะใช่พี่เปรมอ่ะเปล่า รอตอนต่อไปค่ะ


คิมหันตุ์ 2 พ.ย. 2554, 11:37:23 น.
อ่าว ...


nunoi 2 พ.ย. 2554, 11:52:49 น.
หนูแดง ถ้ารู้ว่าเป็นพี่เปรม จะทำหน้ายังไงน๊า
รอตอนต่อไปค่ะ


Zephyr 2 พ.ย. 2554, 18:55:31 น.
หนูแดงแผลงฤทธิ์แบบนี้ เดี๋ยวพี่เปรมไม่ปลื้มหรอก คะแนนติดลบเลย


minafiba 2 พ.ย. 2554, 19:55:07 น.
^___________^


teaw 2 พ.ย. 2554, 21:16:45 น.
ขอตอนต่อไปด่วยเลยจ้า


อริสา 4 พ.ย. 2554, 05:58:35 น.
หนูแดงน่ารักจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account