รักสุดท้าย...ที่ปลายดาว
เพราะความเข้าใจผิดในสัมพันธภาพระหว่างสาวสวย ปากจัด กัดเจ็บ อย่าง “ปลายดาว” กับ เพื่อนหนุ่มคาสโนว่า ทำให้เธอต้องตกเป็นจำเลยในสายตาของ “เตชิต” วิศวกรหนุ่มที่(เขาว่ากันว่า) ปากจัด ซ้ำยังกัดเจ็บยิ่งกว่า ผลที่ตามมาก็คือการปะทะคารมกันแบบดุเด็ดเผ็ดร้อนทุกทีที่ประจันหน้า....เรื่องจะยอมเพลี่ยงพล้ำตกเป็นรองอีกฝ่ายน่ะรึ...ไม่มีทางซะหร้อกกกก

แต่เรื่องวุ่นๆชุลมุนหัวใจก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อสนามรบทำท่าจะเปลี่ยนเป็นสนามรัก(ตามสูตรนิยายคลาสสิค^^) ท่ามกลางความอึดอัดขัดใจของเพื่อนหนุ่มคาสโนว่าที่ยุยงส่งเสริมมาแต่ทีแรก แต่ดันเกิดอาการ “หวงของ” ขึ้นมาเสียอย่างนั้น งานนี้ก็เลยมี “ก้าง” ชิ้นใหญ่โผล่ขึ้นมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

วิศวกรหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหนทาง “สุดท้ายที่ปลายดาว” ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด มิหนำซ้ำยังมีเรื่องรัก(ลึกลับ)ในอดีตโผล่ขึ้นมาให้ปวดหัวเพิ่มอีก...

งานนี้เห็นทีต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อยล่ะ!

Tags: กุ๊กกิ๊ก โรแมนติค ปลายดาว เตชิต

ตอน: สุดท้ายที่ปลายดาว(ตอนจบ)


ตอนจบ.

หลังจากวางสายทางไกลจากเมืองไทย ปลายดาวตัดสินใจรออยู่ด้านนอก แต่เป็นนานสองนานเพื่อนหนุ่มก็ยังไม่โผล่หน้าออกมาจนแล้วจนรอด กำลังว่าจะเดินกลับเข้าไปอีกครั้ง แต่เขาก็เดินสวนกลับออกมาพอดีพร้อมสัมภาระหอบใหญ่ในอ้อมแขน

“พี่เดือนโทรมาเรอะ”

วรนนท์เอ่ยถาม แต่ดวงตามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ปลายดาวพยักหน้ารับ

“อืม โทรมาสั่งซื้อของ ฉันเดาไม่พลาดจริงๆเสียดายซื้อหวยไม่เคยถูก พรุ่งนี้เธอไปเป็นเพื่อนหน่อยนะที่เกอเธ่ สตราซ น่ะ ของแพงทั้งนั้น เผื่อตังค์ไม่พอจะได้ยืมเธอก่อน” พูดพลางก็หยิบใบเสร็จค่าสินค้ามาดู “ทำไมถูกจัง...ในร้านมีเซลส์รึ ฉันไม่ทันสังเกต”

“บังเอิญได้เจอเจ้าของร้าน แบบว่า...ถูกอัธยาศัยกันนิดหน่อย เขาเลยลดให้”

“แล้วของฉันได้ครบหรือเปล่า”

“ของฉันน่ะครบ...แต่ของเธอไม่แน่ใจ”

“อ้าว!”

“ไม่ต้องมาอ้าว...ก็เธออยากตัดสินใจไม่ได้เอง อยากได้อะไรพรุ่งนี้ก็ค่อยแวะมาซื้อเพิ่มละกัน ไม่ต้องห่วง เจ้าของร้านเขาใจดี คงได้ลดเพียบล่ะงานนี้”

“จริงดิ” เธอยิ้มสมหวัง

“จริง...นอกจากใจดี แล้วก็ยังหน้าตาดีอีกด้วย”

ปลายดาวเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเขาพูดมาถึงตรงนี้...รักไม่มีพรหมแดนฉันใด ก็ไม่มีอาณาเขตสำหรับคนเจ้าชู้ประตูดินฉันนั้น

เพราะมัวแต่ถกเถียงกันอยู่หน้าร้าน นายหนอนซึ่งพะรุงพะรังไปด้วยข้าวของหอบใหญ่ก็ไม่ทันระวัง จนถูกใครคนที่เดินผ่านมาชนเข้าให้จังเบ้อเริ่ม ข้าวของบางอย่างหล่นกระจายลงพื้น ต่างฝ่ายต่างเอ่ยขอโทษในขณะที่ปลายดาวก้มลงเก็บสิ่งของที่ตกลงบนพื้นให้อย่างหวังดี

เหมือนเข็มนาฬิกาหยุดเดินเมื่อปลายดาวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง สาวสวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่างมีใบหน้าคุ้นตาละม้ายคล้ายใครสักคนที่เธอเคยรู้จัก แต่ว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก เธอเหลียวมองหาเพื่อนหนุ่มอย่างต้องการจะหาตัวช่วย ก็พบว่าเขาตกอยู่ในอาการเดียวกัน แต่แววตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มอันเป็นสัญชาติญาณของคาสโนว่าอย่างเขาก็ยังไม่เคยจางไปจากใบหน้า

แล้วน้ำเสียงไพเราะหวานหูของสาวสวยก็สร้างความกระจ่างให้กับทุกฝ่ายในนาทีถัดมา...

“คุณวรนนท์”

รอยยิ้มนายหนอนกว้างไปถึงใบหู จนปลายดาวต้องแอบหัวเราะ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นายหนอนโกอินเตอร์ถึงขั้นมีแฟนคลับอยู่ต่างประเทศ!

“ฮะ...” เขาพยักหน้ารับ ดีใจที่หล่อนเป็นคนไทยเหมือนกัน “เราเคยเจอกันมาก่อนแน่เลย”

“จำพายไม่ได้หรือคะ” หล่อนยิ้มเจ้าเล่ห์ นัยน์ตามีแววขบขัน “ภารดี...ลูกสาวคุณอลงกตไงคะ”

คำตอบของหล่อนทำให้อีกสองคนในที่นั้นหันขวับมามองหน้ากันราวกับนัด รู้สึกเหมือนโดนรถสิบล้อเหยียบเท้าก็ไม่ปาน นายหนอนหน้าเหรออย่างตั้งตัวไม่ติด ในขณะที่ปลายดาวอยากจะหัวเราะให้ฟันหักอยู่ตรงนั้น...

ก็ใครจะคิด ว่าหญิงสาวรูปร่างอวบอ้วนเมื่อปีก่อน จะกลายเป็นสาวหุ่นเพรียวบางได้ขนาดนี้ หล่อนน่าจะผอมลงเฉียดๆสิบกิโลเห็นจะได้ สังเกตได้จากเรือนร่างสมส่วนและใบหน้าเรียวมนอันประกอบไปด้วยเครื่องหน้าหวานสนิท จิ้มลิ้มเข้าตำราปากนิดจมูกหน่อย วรนนท์คงเพิ่งมองเห็น...ความสวยของหล่อนคงเริ่มเตะตาเขาให้แล้ว

“เอ่อ....คือ....” เขาเป็นใบ้ไปชั่วคราว “ผม...คือ...เอ่อ...”

“มาเที่ยวเหรอคะ” หล่อนเป็นฝ่ายถามกลับเมื่อเห็นเขาใบ้รับประทาน

“อ๋อ...เปล่าฮะ ผมมาดูงานที่สเปนแทนคุณแม่ ก็เลยแวะมาหาปลายดาวที่แฟรงเฟิร์ตนี่จะได้กลับพร้อมกัน เอ่อ...ปลายดาวเขาเป็นเพื่อนสนิทผมครับ เป็นเพื่อนนะฮะ คุณพายน่าจะจำได้”

แม้หางเสียงเขาจะแผ่วลงอย่างคนที่มีชนักติดหลัง แต่ปลายดาวก็เริ่มเดาได้ว่าความเป็นคาสโนว่าคนเดิมเริ่มกลับคืนมาแล้ว

“จำได้สิคะ” นัยน์ตาหล่อนยังมีแววล้อเลียน “ลูกโตกี่ขวบแล้วคะ”

“คือเรื่องนั้น....เอ่อ....คือ...ผมคิดว่า เอ่อ...เกรงว่าคุณพายจะเข้าใจผิดนะฮะ เรื่องมันมีอยู่ว่า...”

“พายทราบเรื่องจากคุณป้าทั้งหมดแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง พายเข้าใจ ไม่มีใครอยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักหรอกค่ะ”

“คุณพายโกรธผมหรือเปล่าฮะ”

“โกรธสิคะ โกรธมากด้วย”

“งั้น ผมต้องทำยังไงให้คุณพายหายโกรธดีฮะ” นายหนอนทำหน้าครุ่นคิด แต่ขุนแผนก็เริ่มออกลายอีกแล้ว “ไม่ทราบว่าคุณพายจะพอมีเวลา...”

“พายมาต่อเครื่องที่นี่ มีเวลาเหลือนิดหน่อยก็เลยออกมาเดินเล่น เดี๋ยวต้องเข้าไปเช็คอินแล้วค่ะ...”

“ไม่เป็นไรฮะ ผมจะกลับพรุ่งนี้ ยังไงถึงเมืองไทยแล้ว จะชวนคุณแม่ไปสวัสดีคุณพ่อ เอ่อ...ท่านอธิบดีที่บ้านนะฮะ”

“งั้นก็โทรนัดคุณพ่อเอาเองนะคะ” เธอดักคออย่างรู้ทัน

“ผมว่านัดผ่านคุณพายจะสะดวกกว่านะครับ”

เขาสบตาเธอยิ้มๆกรุ้มกริ่มตามสไตล์ หญิงสาวไม่ตอบแต่ส่งรอยยิ้มมุมปากให้เขาแทน เพียงเท่านี้ปลายดาวก็เดาได้ว่าศึกครั้งนี้คงไม่ใหญ่หลวงจนเกินไปนัก หากได้แม่ทัพที่เชี่ยวชาญการศึกแบบเขา

และโดยไม่ทันตั้งตัววรนนท์ก็ยื่นสมบัติที่กอดอยู่เต็มอ้อมแขนมาทางเพื่อนสาว ก่อนจะกระวีกระวาดตามหล่อนไปทันที

“คุณพายจะเข้าไปซื้ออะไร เดี๋ยวผมเดินเป็นเพื่อน ปลายดาว...เธอกลับไปก่อนนะ ขอบใจ แล้วเจอกันตอนเช้า”

อย่างไม่มีทางเลือก...ปลายดาวจำต้องรับข้าวของเหล่านั้นมาถือไว้เสียเอง แล้วมองดูเพื่อนหนุ่มเดินลับหายเข้าไปด้านในพร้อมกับหญิงสาวที่สวรรค์เสริฟมาให้ถึงที่ และอดที่จะยิ้มให้กับโชคชะตาฟ้าลิขิตเสียไม่ได้

เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของคำว่า รักไม่มีพรหมแดน และคู่แล้วไม่แคล้วกันจริงๆ...

วันสุดท้ายในแฟรงเฟิร์ต...

ปลายดาวตื่นแต่เช้า เพื่อเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวลงกระเป๋า หญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมตอนเช้านี้เลย แล้วจะฝากกระเป๋าไว้ที่เคาน์เตอร์เพื่อจะออกไปตระเวนหาซื้อของฝากอย่างที่ตั้งใจ กะเวลาให้พอดีกับที่จะต้องกลับมาเช็คอินสองชั่วโมงก่อนเครื่องออก เธอก็ยังมีเวลาอีกถมเถ

หญิงสาวยืนเคาะประตูห้องของวรนนท์อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เปิดมันออกอย่างเชื่องช้า ที่น่าแปลกใจก็คือดูเหมือนว่าเขาจะยังอยู่ในชุดเดิม สภาพเดียวกับที่ปลายดาวเห็นเขาตั้งแต่เมื่อคืน

“เฮ้ย!” ปลายดาวอุทานออกมาอย่างผิดคาด เพราะเดาว่าเขาน่าจะแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว “ยังไม่อาบน้ำอีกเหรอเนี่ย”

“หนาว” เขาตอบสั้นๆ

“ฮีทเตอร์เสียเรอะ”

“เปล่า...ฉันบอกว่าหนาวเฉยๆ”

เธอพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกับคำตอบนั้น จะโกรธหรือก็รู้ว่าไม่ควร แต่จะขำก็ยังพบว่าหัวเราะไม่ออก

“เออ ก็หนาว...แต่ฉันคิดว่าเราจะเช็คเอาท์โรงแรมเช้านี้เลย แล้วค่อยฝากกระเป๋าไว้ข้างล่าง ก่อนเช็คอินที่แอร์พอร์ตค่อยแวะมาเอา อุตส่าห์วางแผน แล้วเธอ...ยังอยู่ในสภาพนี้เลย กี่โมงแล้วเนี่ย...”

“ก็มันหนาว”

“วะ!” คราวนี้เธอเริ่มโมโห “ก็มันวินเทอร์อยู่นิ หิมะตกโครมๆนั่นจะไม่หนาวยังไงไหว ตกลงเธอจะเอาไง จะให้รอหรือเปล่า”

หญิงสาวหงุดหงิด พอลากกระเป๋าเข้าไปในห้องได้แล้วเธอก็เหวี่ยงเสื้อโค้ทลงบนที่นอนอย่างขัดใจ วรนนท์ตามมานั่งใกล้ๆอย่างเงื่องหงอย แต่สาบานได้ว่าเธอยังไม่เห็นแววตารู้สึกผิดจากเขาเลยให้ตายเหอะ...

“ฉันง่วงมากเลย เมื่อคืนกลับมาดึก ขอนอนต่ออีกหน่อยได้ป่ะ”

เขาถามเสียงอ่อย ทำเอาปลายดาวต้องถอนใจออกมาอย่างหงุดหงิดที่ บทเขาจะงอแงขึ้นมาก็ดันมาเบี้ยวเธอง่ายๆเสียอย่างนั้น แม้จะไม่คาดคิดมาก่อนแต่เธอก็ไม่แปลกใจ แทนการต่อล้อต่อเถียงอย่างที่เคย หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อโค้ทขึ้นมาสวมพร้อมกระชับผ้าพันคอให้แน่นขึ้น ชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเดินทางของตัวเองอย่างออกคำสั่ง

“ฉันต้องไปซื้อของให้พี่เดือน เธอจะนอนต่อก็ตามใจ งั้นดูกระเป๋าให้ฉันด้วย ถ้ากลับมาทันก่อนเธอเช็คเอาท์จะขึ้นมาช่วย ยังไงฉันจะโทรหา อย่าไปแร่ดที่ไหนไกลล่ะ”

วรนนท์ยิ้มแป้นที่เธอไม่พิรี้พิไร พร้อมส่งบัตรเอทีเอ็มให้เธออย่างมีเลศนัย

“ถ้าตังค์ไม่พอก็ให้ยืมก่อนได้ ไว้ค่อยเคลียร์กันทีหลัง หาคนช่วยหิ้วเอาเองละกัน...หน้ากลม นมเล็ก สเป็คฝรั่งอย่างเธอ ไม่น่าหายากนะ”

“แหม...ไม่อยากเป็นหนี้เธอเลย แต่ก็นะ...เผื่อไว้” หญิงสาวไม่สนใจถ้อยคำค่อนขอดนั้น พร้อมยื่นมือไปรับบัตรเอทีเอ็มมาแต่โดยดี “ฉันติดหนี้อะไรเธอไว้บ้างหรือเปล่าเนี่ย ถ้ามีก็บอกนะ เผื่อฉันลืม”

“ติดสิ หนี้ฉันน่ะเยอะโคตร...ชาตินี้เธอก็ใช้ไม่หมด”

“ขนาดนั้นเลยรึ”

“ใช่...แต่ฉันขอยกประโยชน์ให้เธอไปใช้ฉันชาติหน้าได้ เราจะได้เจอกันอีกไง”

“หนี้อะไรของเธอ มากมายถึงกับต้องชดใช้ข้ามชาติกันเชียวเรอะ”

“หนี้รัก”

เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอน พร้อมฮัมเพลงออกมาดังๆอย่างตั้งใจ โดยไม่สนใจกับสายตาเขียวปั้ดของเธอเลยแม้แต่น้อย

“หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้เป็นหนี้รักเถิด หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริดแสนหวาน....”


ออกมาจากห้องของเพื่อนหนุ่ม ปลายดาวก็กดลิฟท์ลงมาด้านล่าง อากาศภายนอกยังคงหนาวจัดและหิมะก็ยังตกโปรยปรายมาไม่ขาดสาย พื้นถนนหน้าโรงแรมเต็มไปด้วยหิมะหนาที่จับกันเป็นแผ่นน้ำแข็งแม้บางส่วนจะถูกรถกวาดหิมะจัดการไปบ้างแล้วก็ตาม ก่อนเดินออกมาจากล็อบบี้ ปลายดาวหยุดชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งเหมือนรวบรวมสติและกำลังใจทั้งหมด แม้ว่าการเดินทางในต่างแดนอาจไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าตื่นเต้นสำหรับเธอ แต่กับวันนี้...ปลายดาวกลับรู้สึกแปลกๆอย่างหาสาเหตุไม่ได้ มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่คอยยึดเหนี่ยวเธอไว้ที่นี่...แล้วถ้าเธอจากไป ก็จะไม่มีอะไรเหลือไว้ให้เธอได้นึกถึงอีก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรือว่าลมหายใจของใครอีกคน

ในความทรงจำของคุณเตชิต...คงไม่มีเรื่องราวของเธอหลงเหลืออยู่อีก หรือหากมี...มันก็คงจะน้อยจนแทบไม่ต่างอะไรกับเศษฝุ่นผงที่ลอยอยู่ในอากาศ ในเมื่อเธอคืออดีตและชีวิตยังต้องดำเนินไปข้างหน้า มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเขาเลือกที่จะลืมเลือนเรื่องราวในอดีตเสียบ้าง...และเธอก็คงมีหน้าที่ต้องทำอย่างเดียวกัน

หญิงสาวสูดลมหายใจของแฟรงเฟิร์ตเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินสวนออกมาด้านนอก ทันทีที่ประตูหมุนอัตโนมัติเคลื่อนออก ร่างบางในชุดเสื้อโค้ทตัวใหญ่ก็ปะทะเข้ากับความเย็นจัดของอากาศและหิมะที่ยังโปรยปรายมาไม่ขาดสายจนต้องหยุดเดินแล้วควานหาถุงมือให้วุ่น เพื่อที่จะพบว่ามันซุกอยู่ในกระเป๋าด้านในของเสื้อโค้ทนั่นเอง

ท่ามกลางหิมะโปรยปราย...ใครคนหนึ่งเดินฝ่าหิมะเข้ามาด้วยท่าทีสมาร์ทผึ่งผาย หัวไหล่เขายังตั้งตรงแม้ว่าฝีเท้าจะก้าวฉับๆอย่างเป็นจังหวะจะโคน...เขาอยู่ในชุดเสื้อโค้ทสีน้ำตาลตัวใหญ่แบบเดียวกับเธอไม่ผิดเพี้ยน ต่างกันก็ตรงที่เขาดูเหมือนจะไม่ได้อนาทรร้อนใจกับความหนาวเย็นจากอากาศและหิมะที่โปรยปรายนั่นเลยสักนิด

เหมือนโลกหยุดหมุน และปลายดาวก็ก้าวขาไม่ออกเมื่อใครคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าในระยะที่ห่างกันไม่ถึงเมตร แววตาภายใต้แว่นตากรอบดำนั้นเหมือนคุณเตชิตไม่มีผิด ซ้ำท่าทีผึ่งผายมั่นใจแต่แอบแฝงไว้ด้วยความถือดีนิดๆแบบนั้นก็ไม่อาจทำให้เธอจินตนาการเป็นใครอื่นไปได้...แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขาได้เดินออกไปจากชีวิตเธออย่างสมบูรณ์ และโอกาสที่เขาจะกลับมาก็เป็นศูนย์ ที่สำคัญ...แฟรงเฟิร์ตกว้างจะตายชักต่อให้โลกกลมขนาดไหนก็คงเป็นเรื่องยาก ถ้าเธอจะมาบังเอิญเจอกันที่นี่ เธอคงนึกถึง...และคิดถึงคุณเตชิตมากไปจนมองใครต่อใครเป็นเขาเสียหมดก็เท่านั้นเอง

ชายหนุ่มถอดแว่นตาดำออกเหน็บไว้ที่คอเสื้อ เผยให้เห็นใบคร้ามสะอาดและผิวขาวผ่องอย่างคนที่คุ้นชินกับไอหนาว ความรู้สึกแบบที่ปลายดาวเคยคิดว่ามันเลือนหายไปแล้วฉายชัดออกมาจากดวงตาคู่นั้นจนเธอใจหายวาบ อารามตกใจทำให้เธอก้าวถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งเพื่อจะตั้งสติและมองหน้าเขาได้ถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น

เป็นคุณเตชิตจริงๆ...

หญิงสาวสบตาเขานิ่ง เธออยากพูด อยากทัก อยากเข้าไปกอดแน่นๆให้สาสมกับที่เขาปล่อยให้เธอคิดถึงมานาน ทว่ายังไม่ทันจะเอ่ยทักทายอย่างที่ตั้งใจ ปลายดาวก็พบว่าร่างบางระหงของเธอปลิวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแน่นหนาของเขาเสียแล้ว

อ้อมกอดของคุณเตชิตรัดแน่น...แน่นจนปลายดาวแทบหายใจไม่ออก หิมะยังคงร่วงพราวแต่น่าแปลกที่ความหนาวเย็นนั้นไม่อาจซึมแทรกผ่านอ้อมกอดของเขาเข้ามาได้ ปลายดาวกระพริบตาถี่ๆหลายครั้งให้รู้ว่านี่คือความจริง และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ไม่ใช่ความฝัน แล้วลมหายใจร้อนผะผ่าวของเขาก็ช่วยยืนยันความจริงทั้งหมด

“คิดถึงจะตาย...ไปอยู่ไหนมา”

เขาพูดเสียงแผ่วเมื่อค่อยๆดันตัวเธอออกอย่างสุภาพ แต่ปลายดาวนิ่วหน้า...คนที่จะพูดประโยคนั้นต้องเป็นเธอมากกว่านะ

“ดาวก็อยู่ที่เดิม แล้วคุณล่ะคะ...”

เธอพูดได้เท่านั้น เขาก็บอกให้หยุดแล้วพาเธอเดินกลับเข้ามาด้านในโรงแรมเพื่อพึ่งความอบอุ่นของฮีทเตอร์อีกครั้ง ปลายดาวไม่ขัดขืน แต่ความอยากรู้ก็มีมากกว่า

“คุณมาที่นี่ทำไมคะ มางานหรือว่า…”

“กลับมาช่วยแม่...ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่คุณเข้าไปเมื่อวานนั่นไง ผมไม่เคยเล่าให้คุณฟังหรือ”

ปลายดาวขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะเคยเกริ่นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่ามันก็นานมาแล้ว แล้วเธอก็ลืมมันไปแล้วด้วย

“มิน่าล่ะ ดาวติดต่อคุณไม่ได้เลย ไหนคุณเคยบอกว่าจะอยู่เมืองไทย จะไม่ไปไหนไงคะ”

“ที่จริงก็ตั้งใจไว้อย่างนั้น...แต่ก็มีคนทำให้ผมเปลี่ยนใจจนได้” เขาสบตาเธอหวานเชื่อม ไม่มีหน้ากากแห่งความเย็นชาอย่างที่เธอเคยเห็นอีก “ตอนที่เราทะเลาะกันคราวนั้น ผมตัดสินใจไม่ถูกเลย รู้ตัวอีกทีผมก็มาอยู่แฟรงเฟิร์ตแล้ว ผมเสียใจนะที่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแบบนั้น”

“จู่ๆคุณก็หายสาบสูญไปเลย จะล่ำลากันหน่อยก็ไม่ได้ ใจร้ายชะมัด ดาวรอให้คุณมาง้ออยู่ทุกวัน”

“จริงหรือ” เขาหัวเราะดวงตาเป็นประกายหวานล้ำ

“จริงสิ...อุตส่าห์ว่าจะเลิกเล่นตัวซะหน่อย แต่คุณก็เล่นหายหน้าหายตาไปเลย”

“ทำไมน่ะรึ” เขายึดหัวไหล่เธอไว้ สบตาเธอด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ “ก็เพราะว่าผมอยู่ทนเห็นคุณไปรักคนอื่นไม่ได้น่ะสิ”

“เรื่องนายหนอน...ความจริงแล้วเขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย...ดาวเสียใจ...”

เขาใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากเธอไม่ให้พูดต่อ แววตาเขายอมรับผิดทั้งหมด และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก

“ผมผิดเอง...ที่รีบร้อนแล้วก็เร่งรัดคุณมากเกินไป มันก็เลยล้มลุกคลุกคลานอย่างที่เห็น แทนที่ผมจะอธิบายเรื่องทั้งหมด ผมกลับขอให้คุณเป็นฝ่ายยอมรับ ผมต่างหากที่เห็นแก่ตัว...ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่า ถ้าเราต้องเลือกอะไรสักอย่างในสภาพหัวใจไม่ปกติ...มันง่ายมากเลยที่เราจะเลือกผิด…ผมนึกว่าจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเสียแล้ว”

เขาจุ๊บเบาๆตรงหน้าผากหนึ่งที ปลายดาวจะเบี่ยงตัวหนีก็ทำได้ แต่เธอก็ไม่ทำ(ก็รอโอกาสแบบนี้มาตั้งนาน ฮิฮิ)

“แล้วใครบอกคุณคะ ว่าคุณจะได้โอกาสนั้น”

“ผมเจอวรนนท์เมื่อวาน เขาแนะนำให้ผมเสี่ยง” เขาเลื่อนมือที่บีบกระชับหัวไหล่เธอทั้งสองข้างลงมาบีบมือเธอไว้แทน

“เสี่ยง?”

“ใช่...เขาบอกผมว่าคุณไม่ได้รักเขาและถ้าผมอยากรู้ว่าคุณรักใคร ผมต้องเสี่ยง และเขาคิดว่าผมน่าจะพอมีโอกาส”

“แค่คำเชิญชวนของนายหนอน ทำให้คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอคะ”

“เปล่าหรอก...แต่ผมเชื่อในสิ่งนี้มากกว่า” เขาชูข้อมือเธอขึ้น มองเห็นนาฬิกาเรือนหรูที่รัดรึงข้อมือแน่นจนแทบจะเป็นห้อเลือดเพราะเธอใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา “ถ้าคุณยังใส่มันอยู่ ก็แปลว่าคุณยังพร้อมที่จะให้เวลา...ผมหมายถึงให้โอกาสผมด้วย ขอโอกาสให้ผมนะดาว”

“โอกาสสุดท้ายนะ”

“ครับ” เขาพยักหน้าอย่างยินดี “ผมเคยบอกคุณไปแล้ว สุดท้ายที่ปลายดาว...คุณยังจำได้หรือเปล่า ถึงตอนนี้ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิม”

“ดาวก็นึกว่าคุณลืมไปแล้วเสียอีก”

เขาเอามือแตะริมฝีปากเธอไว้อีก ราวกับไม่อยากให้เธอตอกย้ำความผิดเขามากไปกว่านี้ ความอบอุ่นจากปลายนิ้วแล่นขึ้นไปประทับอยู่ตรงพวงแก้มเมื่อเขาเลื่อนฝ่ามือไปประคองดวงหน้าเธอไว้ แววตาเขาเปิดเผยจริงใจไม่มีวี่แววของความดื้อดึงเอาชนะอย่างเมื่อครั้งก่อนหลงเหลืออยู่อีก

ปลายดาวยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา ก่อนจะปล่อยให้เขาทาบทับริมฝีปากลงมาแทนคำตอบที่เธอควรจะเป็นฝ่ายยืนยัน และเป็นครั้งแรกที่เธอปล่อยให้เขาพรมจูบไปทั้งใบหน้าตามอำเภอใจโดยไม่ขัดขืน ซ้ำสองมือของเธอก็โอบรอบเอวเขาไว้ด้วยความเต็มใจเสียด้วย

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งราวขัดจังหวะพร้อมใบหน้าสวยสะของพี่สาวโชว์หราอยู่เต็มจอ...ปลายดาวอมยิ้มเธอขอทำผิดกับพี่สาวสักครั้งด้วยการเก็บมันลงในกระเป๋าอย่างเดิม...ดูเหมือนว่านาทีนี้จะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องของหัวใจที่ควรจัดการให้ลงตัวเสียก่อนไหนๆเธอก็อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาปิดเคสถึงที่นี่แล้วนี่นะ...เรื่องของฝาก เอาไว้จัดการทีหลังก็ยังไม่สาย

เพราะดูเหมือนว่า...วันนี้คงจะไม่ใช่วันสุดท้ายในแฟรงเฟิร์ตสำหรับเธอเสียแล้วล่ะ....


--------------------------- จบบริบูรณ์ -----------------------------------



สิริเสาวภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 พ.ย. 2554, 09:52:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 พ.ย. 2554, 09:52:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2668





<< ตอนที่ 17 << ก่อนจบ >>   
Canopus 8 พ.ย. 2554, 10:35:56 น.
อยากอ่านตอนพิเศษแบบหวานๆของคู่นี้จัง


sirynth 8 พ.ย. 2554, 12:34:12 น.
narak ka, definitely worth the wait.


น้องแสตมป์ 8 พ.ย. 2554, 13:01:12 น.
น่ารักจัง


violette 8 พ.ย. 2554, 15:46:24 น.
กรี๊ดๆๆๆๆ ขอตอนพิเศษๆๆค่า อิอิ
อยากรู้ว่านายหนอนจะคู่กับหนูพายด้วยวิธียังไงน้า....



แว่นใส 8 พ.ย. 2554, 17:24:34 น.
สมหวังแล้วอะดิ


anOO 8 พ.ย. 2554, 17:40:07 น.
ดีนะที่ดาวเลิกเล่นตัวแล้ว แบบนี้ค่อยคุ้มกับที่เสี่ยงหน่อย
อีตาหนอนนี่ ไม่ทิ้งลายเก่าๆ เลยนะ


อริสา 8 พ.ย. 2554, 23:43:29 น.
สมหวังกันซะที ลุ้นแทบแย่


wane 9 พ.ย. 2554, 01:18:45 น.
ขออ่านตอนพิเศษด้วยคนค๊า ...


สิริเสาวภา 9 พ.ย. 2554, 11:44:22 น.
มาขอบคุณทุกคนนะคร้าที่อุตส่าห์ติดตามกันมาจนจบ...รู้สึกดีจริงๆค่ะ
เรื่องตอนพิเศษ สงสัยจะต้องพิจารณาเป็นการเร่งด่วนเสียแล้ว จะจัดให้ตามคำขอ
แต่ว่าโปรดรอหน่อย เพราะตอนนี้กำลังปั่นเรื่องใหม่อยู่ค่ะ
นายหนอนของเราได้เป็นพระเอก ฮิฮิ (เป็นภาคต่อจากเรื่องนี้)

คุณ Canopus : เราเคยสัญญากันไว้ คุณตอบถูกว่าอีหนอนจะได้เป็นพระเอก เดี๋ยวเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อไหร่ เราจะส่งให้คุณเป็นของขวัญนะคะ Thanks หลายๆค่า _/\_
คุณ sirynth : Thanks a lot for your comments, appreciated ka :)
คุณน้องแสตมป์ : คนเขียนหรือ นิยายคะ ^^
คุณ violette :ตอนพิเศษ รอหน่อยนะคะ ส่วนเรื่องของนายหนอน ขอแนะนำเรื่องต่อไป จัดหนักค่ะ
คุณแว่นใส : คิกๆ ก็แหมคนอ่านลุ้นกันซะ
คุณanOO : เล่นตัวมากเดี๋ยวอด 555
คุณอริสา : ^^ หายเหนื่อยมั้ยคะ
คุณ wane : จัดให้คร่า



นางสาวปลาดาว 9 พ.ย. 2554, 17:10:36 น.
สนุกค่ะแอบมาอ่านตอนจบ เดี๋ยวจะย้อนกลับไปอ่านตอนแรกหใม่แล้วล่ะ ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account