เพราะเธอคือความรัก
สิ่งที่จะผูกมัดดวงใจของเขาเอาไว้ได้ คือความรักจากใจเธอ
Tags: ความรัก สายธาร กรวิท

ตอน: ตอนที่ 1

“เราเลิกกันเถอะ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพูดประโยคนี้ แต่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดมันกับผู้หญิงตรงหน้า และเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกคอแห้งใจแห้งอย่างประหลาดหลังจากบอกเลิกใครสักคน

ดวงหน้าที่ก้มต่ำนิดๆเห็นแต่หน้าผากขาวสะอาด มืออูมขาววางช้อนส้อมลงบนจานอย่างเรียบร้อยก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาดำใหญ่ที่ผมเคยชมว่าสวยนักหนาไร้แววกราดเกรี้ยวหรือตัดพ้อเหมือนเช่นผู้หญิงคนอื่นที่ผมเคยผ่านมา หากมันกลับสงบนิ่งเสียจนผมแทบจะมองไม่เห็นความรู้สึกใดๆในนั้นเลย แล้วก็เป็นผมเองที่อดมองเธอด้วยความรู้สึกตัดพ้อไม่ได้

‘ที่ผ่านมา ผมคงไม่มีความสำคัญสำหรับเธอเลยสินะ’

“ค่ะ” เธอตอบรับคำบอกเลิกของผมด้วยถ้อยคำสั้นๆเพียงคำเดียว ริมฝีปากอิ่มเต็มแย้มน้อยๆยามเมื่อเธอตักอาหารมาใส่จานของผมด้วยอาการปกติ

“ลองทานหน่อยนะคะ ร้านนี้เขาทำอร่อย” ผมมองลึกลงไปในดวงตาคู่เดิมอีกครั้ง หวังว่าจะได้เห็นร่องรอยประชดประชันหรือความเสียใจบ้าง แต่ก็ไม่มีเลย..ไม่มีเลยจริงๆ สิ่งที่ผมเห็น..มีเพียงแค่ความจริงใจเหมือนเช่นทุกครั้งเท่านั้น

ผมกลืนน้ำลาย รู้สึกได้ถึงก้อนแข็งๆที่แล่นมาจุกอยู่ที่คอ เธอทำราวกับว่าการเลิกกับผมเป็นเรื่องปกติ และเธอก็เต็มใจที่จะเลิกกับผมเสียเต็มประดา อีกทั้ง..เธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับผมต่อไปได้ แม้ว่าจะเพิ่งถูกผมบอกเลิกก็ตาม เรารับประทานอาหารด้วยกันต่อไปเงียบๆ โดยมีเธอคอยพูดแทรกขึ้นบ้างเป็นบางครั้งด้วยเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไป แม้แต่ตอนจากกัน เธอก็ยังไม่ลืมกล่าวลาผมด้วยรอยยิ้มหวานเหมือนเช่นทุกครั้ง

“ขับรถกลับดีๆนะคะ”

ผมมองร่างเล็กป้อมผ่านทางกระจกมองหลังของรถ ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็วราวกับจะหนีให้พ้นความรู้สึกแปลบปลาบที่กำลังสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้ในเวลานี้

‘เอาเถอะวะ ไม่เกินวันพรุ่งนี้ก็หาใหม่ได้’

มันไม่ใช่ความคิดเพ้อฝันหรือปลอบใจตัวเองแม้แต่น้อย สำหรับผม..การหาผู้หญิงสักคนมาอยู่ข้างกายไม่ใช่เรื่องยากเลย ใบหน้าคมเข้มที่ได้รับการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างตะวันตกและตะวันออกทำให้ใครต่อใครมักจะมองผมด้วยสายตาชื่นชมเสมอ เรือนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนที่หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำทำให้ผมได้รับการทาบทามให้เป็นนายแบบตามงานแฟชั่นโชว์ต่างๆตลอดทั้งปี และด้วยฐานะครอบครัวที่จัดอยู่ในระดับมหาเศรษฐี มันทำให้ผู้หญิงแทบทุกคนต่างหลงใหลและอยากเป็นคู่ควงของผมด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เธอ..สายธาร

ผมขับรถมุ่งตรงไปยังร้านอาหารที่มีคาราโอเกะครบวงจรแยกเป็นห้องๆตามคำเชิญของเพื่อน พวกมันรู้เหมือนที่ผมรู้..ผมไม่มีทางคบกับใครเกินสองอาทิตย์ มันเป็นกฎเหล็กในการคบผู้หญิงของผม เพราะผมไม่อยากจะผูกพันกับใครจนตัดสัมพันธ์ไม่ลง ถ้านานเกินกว่านั้น ผมอาจจะใจอ่อนไม่กล้าทิ้งพวกเธอ แล้วก็ต้องมาคอยนั่งปวดหัวกับอาการแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือเหตุการณ์รถไฟชนกันเหมือนอย่างที่เพื่อนผมบางคนเคยเจอมา ด้วยเหตุนี้เราจึงนัดมากินข้าวฉลองความโสดให้กับผมเป็นประจำทุกๆสองอาทิตย์

“เฮ้ย หนุ่มโสดเนื้อหอมแห่งปีมาแล้วเว้ย” พวกมันเอ่ยแซวเหมือนทุกครั้งทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในห้อง แต่น่าแปลกที่คราวนี้ผมกลับยิ้มไม่ออก

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นวะไอ้วิท ถูกสาวเอาส้นสูงฟาดปากมาหรือไง” ผมไม่ตอบ แต่กลับยกแก้วเหล้าที่พนักงานเสิร์ฟเพิ่งรินให้ขึ้นดื่มจนหมด

“ท่าทางจะจบไม่สวยว่ะ” ณวัตน์..เพื่อนที่สนิทที่สุดของผมพูดขึ้น ในขณะที่ผมยกเหล้าแก้วต่อไปขึ้นดื่มเงียบๆ

“เป็นไรวะไอ้วิท ขนาดตอนนั้นแกโดนยัยซาร่าตบกลางงานอีเว้นท์ แกยังยิ้มได้เลย”

ใช่..ผมเคยถูก ’ซาร่า’ นางแบบสาวลูกครึ่งที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ตบกลางงานอีเว้นท์ ทันทีที่ผมบอกเลิกกับเธอ แต่ผมก็ยังยิ้มออก และหัวเราะกับเพื่อนราวกับเห็นเป็นเรื่องขำขัน แต่ในครั้งนี้...ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกหงุดหงิดใจนักหนา เพียงแค่เห็นเธอทำท่าราวกับไม่สนใจผม และยอมเลิกกับผมแต่โดยดี

“เปล่า ฉันแค่อารมณ์เสียเรื่องรถติดนิดหน่อย” ผมตอบเสียงห้วนเพื่อกลบความสงสัยของเพื่อนก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง

“ว่าแต่ธารเป็นยังไงบ้างวะ” เพื่อนผมคนหนึ่งถามขึ้นเหมือนจะเป็นการย้ำเตือนให้ผมนึกถึงชื่อเธอ ผมนิ่งเงียบ ไม่ยอมตอบคำถามนั้น เพื่อนอีกคนที่นั่งข้างๆเลยตอบให้แทน

“จะเป็นยังไงวะ ก็คงร้องไห้ไปตามระเบียบ”

“เปล่า เธอก็แค่ตอบตกลง” ผมเอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบทันทีที่เพื่อนผมพูดจบ และดูเหมือนมันคงจะผิดคาดน่าดู เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

เรานั่งดื่มสลับกับร้องเพลงและพูดคุยกันอีกสักพัก จนผมเกือบจะลืมเรื่องของเธอ แต่แล้วก็เหมือนกับสวรรค์กลั่นแกล้ง เมื่อใครสักคนพูดขึ้นมาว่า

“แต่จะว่าไปก็สงสารธารเหมือนกันว่ะ เธอดีเกินไปที่จะมาคบกับคนอย่างแก”

ผมตวัดสายตามองเจ้าของคำพูดทันที ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแสดงความไม่พอใจ

“สวยก็ไม่สวย จืดชืดก็เท่านั้น ตรงไหนที่แกว่าดี”

“แกมันก็มองแค่ความสวยแหละว้าไอ้วิท” เพื่อนผมพูดพลางส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะพูดต่อด้วยประโยคที่ทำเอาผมวาบลึกในอกอย่างประหลาด

“ผู้หญิงบางคนมีค่ามากกว่านั้นเว้ย อย่างธาร..เธอเหมาะจะแต่งงานด้วย”

จริงสินะ...เธอและเขาเป็นอิสระต่อกันแล้ว จากนี้ไป เธอก็คงทำตามสิ่งที่เธอเคยฝันไว้

‘ฉันฝันอยากแต่งงานกับผู้ชายดีๆสักคน แล้วก็มีครอบครัวที่อบอุ่นค่ะ’

ผมบีบแก้วเหล้าในมือจนแน่น ในขณะที่เสียงของเธอยังคงดังก้องไปมาในโสตประสาทไม่คลาย








“เราเลิกกันเถอะ” ถ้อยคำสั้นๆที่เขาพูดขึ้นในระหว่างที่เรากำลังรับประทานอาหารร่วมกันในร้านเล็กๆบรรยากาศดีแห่งหนึ่งทำให้ฉันถึงกับต้องวางช้อนส้อมลงบนจานเพื่อตั้งสติ

ตั้งแต่วันแรกที่ตอบตกลงคบกรวิทเป็นแฟน ฉันเองก็คอยเตือนและพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอว่าสักวันเวลานี้จะต้องมาถึง ดังนั้นทุกคืนก่อนเข้านอน ฉันจะนั่งฝึกซ้อมการวางสีหน้าและท่าทางอยู่หน้ากระจกโดยสมมติว่าตัวเองกำลังถูกเขาบอกเลิกอยู่เป็นประจำ เผื่อไว้วันใดที่เหตุการณ์นี้มาถึง ฉันจะได้เดินออกจากชีวิตของเขาได้อย่างมั่นคงและไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก แต่ถึงกระนั้น พอเหตุการณ์นี้มาถึงจริงๆ ฉันกลับรู้สึกใจหายปนปวดปร่าอย่างประหลาด

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยรอยยิ้มอย่างที่เคยฝึกซ้อมหน้ากระจกมาเป็นอย่างดี พลางตักอาหารใส่ลงในจานของเขาก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำอีก ถึงแม้เราจะต้องเลิกกัน ฉันก็ยังอยากให้เขาหลงเหลือความรู้สึกที่ดีต่อฉันอยู่บ้าง

เรานั่งรับประทานด้วยกันต่อไปตามปกติ โดยที่เขาไม่ลุกเดินหนีไปอย่างที่ฉันนึกกลัว แต่ก็เงียบลงด้วยสีหน้าเรียบขรึมอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันพยายามหยิบยกเรื่องราวต่างๆขึ้นมาชวนคุยหวังผ่อนคลายบรรยากาศ หากเขาก็ยังคงเงียบเฉย ต่างจากทุกครั้งที่มักจะหัวเราะหรือไม่ก็คอยออกความเห็นที่ทำให้ฉันยิ้มได้อยู่เสมอ

‘นี่สินะ ความจริงที่ฉันต้องเจอ’

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ฉันก็เดินไปส่งเขาที่รถเหมือนเมื่อครั้งที่เรายังเป็นแฟนกัน กล่าวลาเขาด้วยคำอวยพรที่คงมีโอกาสได้พูดเป็นครั้งสุดท้าย

“ขับรถกลับดีๆนะคะ” เขาไม่พูดอะไรสักคำเดียวในขณะที่ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็วราวกับต้องการบอกให้รู้ว่าอยากออกไปจากชีวิตฉันให้เร็วที่สุด ฉันมองรถยนต์คันสวยที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้ขึ้นไปนั่งลับหายไปจากสายตา ความรู้สึกวิบโหวงในอกก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันเดินตรงไปหยุดอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน ภาพที่สะท้อนกลับมาคือร่างเล็กค่อนข้างท้วมของหญิงสาวคนหนึ่ง ผิวพรรณขาวผุดผ่องตามเชื้อสายคนจีนที่ได้รับมาจากผู้เป็นแม่ ดวงตากลมดำใหญ่คล้ายจะมีเงาของน้ำตา ใบหน้ากลมรับกับแก้มค่อนข้างป่องดูคล้ายสาวน้อยเยาว์วัย เส้นผมสีดำสนิทถูกปล่อยยาวลงถึงกลางหลังทำให้ร่างนั้นแลดูบอบบางขึ้น

‘ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่สวยเหมือนใครๆที่เขาเคยคบมา แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว’

ฉันยิ้มเศร้าปลอบใจตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเหมือนซินเดอเรล่าที่เขามาพบเข้าโดยบังเอิญ เขาเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงามที่ทำหน้าที่แทนนางฟ้าด้วยการยื่นข้อเสนอให้ฉันเป็นแฟนกับเขา แม้จะรู้ดีว่าพรข้อนี้จะต้องหมดลงหลังจากเที่ยงคืน แต่ซินเดอเรล่าที่อยู่แต่ก้นครัวอย่างฉันก็เลือกที่จะตอบตกลง เพียงเพื่อให้มีโอกาสได้ใช้ช่วงเวลาดีๆร่วมกันกับเขาแม้เพียงชั่วครู่ ก่อนจะต้องจมอยู่กับกองน้ำตาและกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมหลังจากเวทมนต์ทุกอย่างเสื่อมคลาย

แล้วตอนนี้ ก็ได้เวลาแล้วที่ฉันจะต้องกลับไปเป็น’สายธาร’คนเดิม สายธารที่เคยอยู่ได้โดยลำพังคนเดียว




roseolar
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ย. 2554, 16:36:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ส.ค. 2558, 17:50:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1598





   ตอนที่ 2 >>
roseolar 14 พ.ย. 2554, 16:38:45 น.
ขอโทษที่เคยทิ้งคนอ่านทุกท่านให้ค้างคา แล้วหนีหายไปอย่างไม่ไยดี ตอนนี้ว่างแ้ล้ว เลยอยากกลับมาสานต่อความฝันตัวเอง โดยจะโพสต์นิยายทุกวันจันทร์และวันเสาร์ค่ะ หวังว่าทุกคนคงให้อภัยและยังไม่ลืมกันนะคะ ^ ^


pattisa 14 พ.ย. 2554, 17:56:56 น.
กำลังจะทักว่าเคยอ่านอะไรประมาณนี้ 55


grazioso 15 พ.ย. 2554, 00:12:54 น.
กรี๊ดดดดดดดดดดด ในที่สุดม่าก็กลับมา ต้องปล่อยให้บรรดาแฟนคลับรอคอยกันนานมาก ใช่ซี้! เธอลงไปอยู่minor มันว่างแล้วนิ่ ไม่เหมือนเราขึ้นศัลย์ TT___TT เหนื่อยไม่ไหวจะเคลียร์


violette 15 พ.ย. 2554, 02:48:29 น.
อยากอ่านต่อค่า
รอๆๆวันเสาร์


mhengjhy 15 พ.ย. 2554, 09:30:28 น.
มีภาคต่อมั้ยอ่ะค้าาาาาา


wind 19 พ.ย. 2554, 07:50:13 น.
ก็ว่าเคยอ่านน้า ^^


nateetip 19 พ.ย. 2554, 09:22:26 น.
ดีใจที่ได้เห็นเรื่องนี้อีกครั้งค่ะ ชอบมากนะคะ....


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account