“Always keep me in your mind” ห้ามลืมฉัน นี่คือคำสั่ง!!
หากความทรงจำที่งดงาม กำลังจะถูกทำลายไปพร้อมๆกับความทรงจำที่เเสนเลวร้าย ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันขอเลือกที่จะรื้อฟื้นความทรงจำเหล่านั้นเพื่อตามหาหัวใจของตัวเอง เเม้มันจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดอย่างเเสนสาหัสก็ตาม

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: INTRODUCTION

ท่าามกลางความวุ่นวายและตื่นตระหนกของผู้คน สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งคนทั่วไปให้นิยามว่า เป็นสถานที่อันไม่พึงประสงค์ เพราะสถานที่แห่งนี้นี่เองพร้อมจะนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมแห่งความโศกเศร้า ทุกอณูพื้นที่ของโรงพยาบาลแผ่ซ่านปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตึงเครียด ด้านหนึ่งของโรงพยาบาล มีตึกอาคารที่รถพยาบาลส่งเสียงกรีดร้องสัญญาณบ่งบอกถึงวินาทีแห่งชีวิต วิ่งเข้าและวิ่งออกวนเวียนอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ณ ห้องหนึ่งที่ด้านบนติดประดับป้ายชื่อห้องไว้อย่างชัดเจน ‘ห้องฉุกเฉิน’ หญิงสาวหน้าตางดงามกำลังยืนจ้องมอง ผู้ให้กำเนิดตนกำลังร่ำไห้ น้ำตาของผู้เป็นแม่ที่ได้ถูกกลั่นกรองจากความตื่นตระหนกตกใจ ความโศกเศร้า และความหวาดกลัว กำลังไหลรินกระทบพื้นกระเบื้องหน้าห้องหยดแล้วหยดเล่า ด้วยความงุนงงปนสงสัยในสิ่งที่ได้เห็น เธอจึงต้องการเรียกถามผู้เป็นแม่ที่อยู่ตรงหน้า แต่แล้วเหมือนมีบางสิ่งที่ฉุดรั้งร่างของเธอให้ผ่านประตูห้องเข้าไป
สิ่งที่ได้เห็นต่อจากนั้น ทำให้เธอถึงกับขาอ่อนแรง ไม่สามารถคุมสติของตนเองได้ เนื่องมาจากภาพที่ได้เห็นคือร่างของเธอนอนหายใจอย่างรวยรินอยู่บนเตียง รายล้อมไปด้วยทีมแพทย์และพยาบาล ที่กำลังช่วยฉุดรั้งชีวิตเธอไว้อย่างสุดความสามารถ เวลานี้ไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยดจากดวงตากลมโตคู่นั้น เพียงแต่ส่ายหน้าซ้ำไปซ้ำมา บ่งบอกถึงความหวาดกลัวที่ต้องจากโลกนี้และบุคคลเป็นอันเป็นที่รักไป รวมถึงความพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาที่ไม่อาจยอมรับได้
‘5 4 3 2’ เสียงนับถอยหลังของทีมแพทย์และพยาบาล ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยชีวิตเธอ ดูเหมือนจะไร้ผล ก่อนใกล้สิ้นเสียงนับสุดท้าย จังหวะการเต้นของหัวใจกำลังหยุดลง อันเป็นเครื่องหมายของความตาย หญิงสาวทำได้เพียงนั่งคุกเข่าก้มหน้าเหมือนยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่แล้วเพียงชั่วอึดใจ แสงจากเพดานของห้องกลับส่องสว่างจ้าขึ้นดูดกลืนร่างของเธอหายไปในพริบตา
ราวกับความฝัน เพราะสถานที่และผู้คนที่เธอเห็นอยู่ ณ ตอนนี้เหมือนกับย้อนอดีตกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว เธอกำลังหมายถึง ‘โรงเรียนประถมศึกษาโซคิวท์’ สถานที่แห่งความทรงจำอันงดงามของเธอนั่นเอง และแล้วสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็น บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้สระน้ำของสวนหย่อมด้านข้างของอาคารเรียน สาวน้อยหน้าตาแสนน่ารักในวัย 12 ปี มัดผมแกละสองข้างผูกโบและริบบิ้นลายสตอร์เบอรี่สลับกับสีชมพู ในมือจับสมุดวาดเขียนที่ถูกแต่งแต้มลวดลายด้วยดินสอ พร้อมๆกับทอดสายตาไปยังตึกอาคารเรียนที่อยู่ด้านขวามือของเธอ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ปากอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
เด็กหนุ่มที่กำลังเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆอยู่บริเวณสนามฟุตบอลข้างอาคารเรียนเยื้องจากสระน้ำของสวนหย่อม ลูกฟุตบอลที่ถูกเขาเตะลอยลิ่วไปไกล และมีทีท่าว่าจะไปตกยังบริเวณสระน้ำนั้น เด็กหนุ่มวิ่งตามลูกฟุตบอลดังกล่าวมา ประจวบกับสาวน้อยที่นั่งวาดภาพอย่างเหม่อลอยอยู่ขอบสระพอดี ลูกฟุตบอลกำลังพุ่งตรงมาหาสาวน้อย ทันใดนั้นเอง
‘เห้ย!! หลบไปเร็ว’ เด็กหนุ่มกระโจนตัวพุ่งไปหาสาวน้อย เพื่อไม่ให้ถูกลูกฟุตบอลกระแทก
‘ฮือๆ นายเป็นใครกัน ผลักฉันทำไม จะแกล้งกันหรือไง!!’ เมื่อประคองตัวได้ สาวน้อยร้องไห้ด้วยความตกใจตามประสาเด็ก เชิดหน้าขึ้นมองอย่างหาเรื่อง และพูดประโยคแรกกับเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
‘เธอนั่นแหละ ยัยขี้แง ถ้าฉันไม่มาช่วยเธอ เธอต้องโดนลูกบอลกระแทกหน้า ตีลังกาสิบแปดตลบตกน้ำไปแล้วแน่ๆ’
‘อ่าว 0_0 จริงหรอ.. งั้นฉันขอบ.. ไม่ๆ ฉันไม่ขอบใจนายหรอก นายดูนั่น’ สาวน้อยชี้ไปที่สระน้ำ ‘เพราะนายนั่นแหละ ทำให้สมุดวาดเขียนกับดินสอของฉันตกน้ำไปหมด ฮือๆ’ สาวน้อยแกล้งบีบน้ำตา และแอบแลบลิ้นปริ้นตาอย่างไม่ยอมแพ้
‘โอเคๆ หยุดร้องไห้ได้แล้ว เห้อ…งั้นถือซะว่าหายกันนะ ฉันไปล่ะ’ เด็กหนุ่มกำลังจะหันหลังกลับและเดินจากไป
‘เฮ่!! เดี๋ยวสิ มาคุยกันก่อน นายชื่ออะไรหรอ แล้วเรียนชั้นไหน ทำไมฉันไม่เคยเจอเลยล่ะ’ สาวน้อยถามขึ้นด้วยความสงสัย
‘โอ๊ย เธอนี่เรื่องมากจริงๆเลย ฉันชื่ออินดี้ อยู่ ป.6 และเท่าที่ดูฉันน่าจะเป็นรุ่นพี่เธอด้วยนะ ยัยขี้แง’
‘ฉันไม่ได้ชื่อขี้แง ฉันชื่ออินเลิฟต่างหาก เชอะ!! เอ่อ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับที่นายมาช่วยฉันละกัน แล้วก็…’
อินเลิฟก้มหน้าไม่ยอมพูด ดูคล้ายกับอาการเขินอาย
‘แล้วก็อะไรหรอ’ อินดี้ถามย้ำด้วยความสงสัย
‘ขอโทษที่ไม่ได้เรียกนายว่าพี่นะ แหะๆ’ อินเลิฟตอบออกมาอย่างตะกุกตะกัก
‘อ่อ ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงซะวันนี้ ฉันต้องย้ายไปเรียนที่อื่นแล้วล่ะ’ อินดี้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเฮฮา แต่แอบถอนหายใจเบาๆ
‘ห๊ะ!! จริงหรอ‘ อินเลิฟถามขึ้นด้วยความตกใจ
‘ก็จริงอ่าเดะ โกหกแล้วได้หยิกแก้มเธอหรือไงเล่า’ อินดี้ตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
อินเลิฟมองไปยังคนที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความคิดตอนนี้ที่ยังเด็กมาก แต่เธอก็รับรู้ได้เลยว่าคนๆนี้ช่างมีความเป็นมิตรและเป็นคนสนุกสนานเฮฮา เมื่อยามที่เขายิ้มทำให้ใบหน้าของเขาที่มีสีชมพูอ่อน กลับมีสีเข้มขึ้นเหมือนกับโบมัดผมของเธอเลยก็ว่าได้ ประกอบกับลักยิ้มที่มีเสน่ห์นั่น ประดับบนใบหน้าของเขาได้อย่างเหมาะสมและลงตัวจริง เธอรู้สึกเสียดายที่รู้จักคนๆนี้ช้าไป
‘งั้นฉันขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมอ่ะ เอิ่ม… ได้ไหมคะพี่’
‘หืม ขออะไรหรอ’
‘ฉันขอวาดรูปพี่ ปกติฉันวาดแต่รูปธรรมชาติ นี่เป็นครั้งแรกของฉัน พี่ได้รับสิทธิอันสูงสุดและแสนพิเศษเลยนะเนี่ย’
‘อื้อหือ ขนาดนั้นเลยหรอ ถือซะว่าให้เด็กขี้แงอย่างเธอเก็บรูปฉันไว้ดูต่างหน้าละกัน คิดดูนะ ชีวิตนี้ได้วาดรูปคนหน้าตาดีแบบฉันเป็นโอกาสที่หายากนะ โฮะๆ’ อินดี้เออออตาม ทั้งที่ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าเด็ก ป.5 จะวาดภาพได้
อินเลิฟส่ายหัว ไม่สนใจกับคำกล่าวชมตนเองของเด็กหนุ่ม จัดแจงหยิบสมุดวาดเขียนและดินสอสำรองที่พกเก็บไว้ในกระเป๋าออกมา ลงมือวาดรูปคนที่อยู่ตรงหน้า ในขณะเดียวกันอินดี้กำลังอึ้งในความจริงจังของสาวน้อย และมองเธออย่างไม่อาจละสายตาได้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจของเด็กหนุ่ม ป.6 ตอนนี้คือ คนที่อยู่ตรงหน้าช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ แววตาที่มุ่งมั่นคู่นั้นที่มองมา มันไม่เหมือนสายตาของเด็กประถมแบบเรา เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่แรงกล้า ทำให้เขาอยากดูแลและปกป้องคนๆนี้ แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง
ในที่สุดเธอก็วาดเสร็จ ผลงานที่ออกมาถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบทุกรายละเอียดเหมือนศิลปินมืออาชีพ แต่นี่เป็นเพียงเด็กประถมเท่านั้นแต่กลับมีพรสวรรค์อย่างเต็มเปี่ยม เด็กหนุ่มมองดูผลงานของสาวน้อยอย่างตะลึงเพราะคาดไม่ถึงว่านี่คือฝีมือของเธอ สาวน้อยโปรยยิ้มอย่างภูมิใจกับผลงานของตัวเอง แต่ในทันใดนั้นเอง ก็มีประกาศเสียงตามสายของโรงเรียนดังขึ้น
‘ประกาศ ขอให้เด็กชายองครักษ์ โชติช่วงไพศาล มาพบผู้ปกครองที่ห้องประชาสัมพันธ์ด้วยค่ะ’
‘อินเลิฟ พี่ต้องไปแล้วนะ เก็บรูปพี่ไว้ดีๆล่ะ ยัยขี้แย’ เด็กหนุ่มพูดพร้อมขยี้หัวสาวน้อย
‘แบมือมาก่อน’ อินเลิฟสั่ง อินดี้ไม่ขัด แบมือโดยไว ‘เอานี่ไป นี่คือตัวแทนของฉัน หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะคะพี่’ อินเลิฟวางดินสอวาดรูปที่มีสติ๊กเกอร์สีแดงติดอยู่เป็นคำว่า ‘IN LOVE’ ไว้ในมือของอินดี้
‘เช่นกันครับ พี่หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะ พี่สัญญา’ อินดี้พูดประโยคสุดท้ายก่อนที่จะหันหลัง และเดินจากไปในที่สุด
อินเลิฟ มองตามหลังคนที่ตัวสูงและอายุมากกว่าหนึ่งปี นึกถึงคำพูดที่เขาได้ให้สัญญาไว้เมื่อครู่
เรื่องราวของเด็กสองคนนี้ทำให้คนที่เพิ่งโศกเศร้าจนขั้วหัวใจแทบขาดสลายที่โรงพยาบาล เผยอมุมปากยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก็เพราะสาวน้อยอินดี้เมื่อครู่ก็คือ ‘ตัวเธอ’ นั่นเอง มันเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษและไม่อาจเสื่อมหายไปได้ด้วยกาลเวลา
หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาทีเธอก็รู้สึกราวกับว่าโลกหมุนและมีแสงสว่างจ้าจากบนท้องฟ้าส่องแสงลงมาล้อมรอบตัว ในตอนนี้จิตใจและสมองของเธอล้วนสัมผัสได้แต่ความว่างเปล่าเท่านั้น นี่มันเกิดอะไรกับตัวเธอกันแน่ แต่ไม่ทันมีแม้แต่เวลาให้เธอได้ครุ่นคิด ทุกอย่างก็ดับลง มืดสนิท และหายไปในที่สุด…




SMACGA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ธ.ค. 2554, 01:44:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ธ.ค. 2554, 01:45:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 1526





   CHAPTER 1 : WHO ARE YOU ? >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account