กลรัก สลับหัวใจ
เมื่อเพื่อนสาวจอมยุ่ง จับผลัดจับพลูให้เธอนัดไปดูตัวกับคาสโนว่าหนุ่มแลกกับค่าจ้างหนึ่งหมื่น ม่านนทีจึงยอมเซย์เยส แปลงร่างเป็นนางซินวางแผนตัดสัมพันธ์แทนเพื่อนสาวเสียดิบดี แต่ที่ไหนได้เขาทั้งหล่อ เท่ แถมยังมีรอยยิ้มบาดใจ ทำเอาเธอชักหวั่นไหวซะแล้วสิ
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานๆ,รักใส ๆ

ตอน: ตอนที่ 29 วิวาห์อลเวง

บทที่ 29
วิวาห์อลเวง

“หลีกไป พวกแกทำบ้าอะไร”

ราเมศตะโกนเสียงดัง ทันทีที่เขาขับรถมาถึงบริเวณหน้าโรงแรมชื่อดังระดับห้าดาว กลุ่มชายฉกรรจ์สองสามคนก็เดินตรงดิ่งเข้ามาล็อกแขน พยายามบังคับพาตัวเขาขึ้นรถ พาตรงไปยังงานวิวาห์ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่ถึงสองชั่วโมงข้างหน้า

“ขออภัยด้วยครับ แต่พวกเราได้รับคำสั่งมาว่าให้พาคุณไปเดี๋ยวนี้” หนึ่งในสามคนกล่าวเสียงเข้ม

ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจัด ถึงยามปกติราเมศจะไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบมีเรื่องสักเท่าไหร่ แต่หากถึงเวลาต้องลงมือจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะยอมกันง่าย ๆ ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับฉวยข้อมือของอีกฝ่ายจับบิดไพล่หลังโดยแรง

“ให้ตายเถอะ เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับชีวิตของฉันซะที” ชายหนุ่มสบถน้ำเสียงหงุดหงิด

“กรุณาไปกับพวกเราเถอะ”

“ฉันบอกให้หลีกไป”

คำตอบของชายหนุ่ม ทำให้อีกฝ่ายกันไปพยักหน้าให้กัน

“ถ้างั้นคงต้องใช้กำลังกันหน่อยแล้ว”

เมื่อการเจรจาโดยสันติใช้ไม่ได้ผล ชายฉกรรจ์ทั้งสามก็ตรงดิ่งเข้ามารวบตัว ราเมศจึงเหวี่ยงหมัดเข้าใส่คนหนึ่งจนล้มคว่ำ ก่อนจะสวนเข่าเข้าที่กลางลำตัวของชายร่างเล็กอีกคน ที่พุ่งตรงเข้ามาช่วยเพื่อนจนหมอบลงกับพื้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหน้าโรงแรมส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมวิ่งกรูออกมา ราเมศจึงกลิ้งตัวข้ามกระโปรงหน้ารถหลบไปอีกทาง ฉายโอกาสตอนเหตุการณ์ชุลมุนวิ่งอ้อมไปยังประตูฝั่งตะวันออกโรงแรมหรู พร้อมกับถอนหายใจยาว

“ฝีมือคุณหญิงป้าอีกละสิท่า ให้มันได้ยังงี้สิ”

คาสโนว่าหนุ่มส่ายหน้าระอาใจ ทำท่ายกมือขึ้นจะเปิดประตูเข้าไปภายใน ทว่ายังไม่ทันก้าวพ้นขอบประตู วัตถุหนัก ๆ ก็กระแทกลงมายังหลังต้นคอ จนเจ้าตัวถึงกับทรุด

“...ให้ตายสิ” ชายหนุ่มกระซิบลอดไรฟัน นัยน์ตาพร่าเลือนก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะมืดมิดลง...

“นี่มันอะไรกัน”

ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้น ราเมศก็พบว่าตัวเองเสียท่าคุณหญิงป้าจอมบงการเข้าแล้ว ชายหนุ่มไม่รู้สึกตัวเลยว่าหลับไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกที ก็พบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่มาถูกเปลี่ยนออกไปกลายเป็นชุดทักซิโดสีขาวนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาในห้องสูทหรูภายในโรงแรม โดยมีทีมงานสองคนตระเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อมสรรพ ชายหนุ่มถลันลุกออกจากเตียงยืนอยู่บนพรมเต็มความสูง เตรียมจ้ำอ้าวเดินออกจากประตูด้วยความกรุ่นโกรธ

“เดี๋ยวสิฮะ จะรีบไปไหนคุณราเมศ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสอง รีบปรี่เข้ามาห้ามปราม ถึงแม้ว่าใจจะเป็นจริงแต่ด้วยรูปร่างบึกบึนและเรี่ยวแรงเกินชายอกสามศอก จึงทำให้ราเมศฝ่าออกไปไม่ได้ง่าย ๆ

“ปล่อยผม หลีกไป”

“ไม่ได้นะฮะ เพิ่งแต่งหน้าทำผมเสร็จเมื่อสักครู่นี้เอง อีกเดี๋ยวก็จะถึงเวลางานพิธีแล้วด้วย ขืนออกแรงดิ้นมาก ๆ เดี๋ยวไม่หล่อเอานะฮะ”

ไม่พูดเปล่า แต่สาวน้อยร่างใหญ่ยังเบียดกายเข้าเกาะแขนอย่างมีเจตนาแอบแฝงอีกด้วย ราเมศทำหน้าตาอธิบายไม่ถูก รีบยกมือขึ้นแกะปลายนิ้วเหนียวแน่นออกทันควัน

“ปล่อยผม ไม่ได้ยินเรอะ”

“ปล่อยไม่ได้ฮ่ะ ขืนปล่อยคุณหญิงท่านฆ่าเดี๊ยนตายแน่”

“ปัดโธ่ บอกให้ปล่อย”

ราเมศตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้ายตรงหน้ายังไงดี ครั้นจะใช้วิธีเดียวกับพวกก่อนหน้านี้ก็ใช่ที่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิง ขณะที่คาสโนว่าหนุ่มกำลังห่วงหน้าพะวงหลังอยู่นั้น จู่ ๆ บานประตูก็เปิดผัวะออก พร้อมกับร่างของคุณหญิงวิมลชื่นในชุดผ้าไหมสีเขียวปีกแมลงทับ เยื้องกรายเข้ามาภายในห้องท่ามกลางแสงเพชรวูบวาบ

ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

“กะอยู่แล้วเชียว...”

“อะไรอีกล่ะตาเมศ พิธีใกล้จะเริ่มอยู่แล้วยังจะออกไปไหนอีก”

“คุณหญิงป้าก็รู้ว่ายังไง ๆ ผมก็ไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก”

“แล้วยังไง”

ใบหน้าหล่อเหลาเข้มขึ้นตามสภาวะอารมณ์ จริงอยู่ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยหาเรื่อง งัดข้อกับคุณหญิงวิมลชื่นมากนัก แต่กับเรื่องนี้เรื่องเดียว ที่ไม่ว่าเป็นตายยังไงก็ยอมไม่ได้เป็นอันขาด

“ถ้าคิดว่าจะเอาเรื่องแต่งงานบ้า ๆ นี่มาเป็นข้ออ้างเรื่องตัดผมออกจากกองมรดกล่ะก็เชิญเลย ผมเองก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการมีชีวิตเป็นของตัวเอง อย่าว่าแต่เรื่องทรัพย์สมบัติล้นฟ้าพวกนั้นเลย ต่อให้ครั้งนี้ผมต้องสูญเสียทุกอย่าง แล้วไปเริ่มต้นใหม่ก็ยังดีซะกว่า”

คุณหญิงจอมเผด็จการเลิกคิ้วสูง

“ที่พูดมานั่นคิดดีแล้วหรือตาเมศ” เจ้าตัวซ่อนรอยยิ้ม “ถึงแม้ว่าฉันจะตัดแกออกจากกองมรดก ไม่เหลือทรัพย์สมบัติไว้ให้แม้แต่สตางค์แดงเดียว ก็จะไม่ยอมแต่งงานจริง ๆ หรือ”

ถ้าพูดถึงความแรงแล้วละก็ คนอย่างราเมศเองก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ คนอย่างเขาลองได้ตัดสินใจแล้วต่อให้ชักแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาหว่านล้อม ก็คงหมดสิทธิ์

“จะให้พูดอีกกี่ครั้ง คำตอบก็เหมือนเดิม”

“พูดได้น่าฟังดีนี่ สมกับเป็นลูกผู้ชายดี” คุณหญิงวิมลชื่นเอ่ยปากชม

“ผมไปได้แล้วหรือยัง” ชายหนุ่มถอนหายใจยาว

“ยังก่อน”

ราเมศชะงักปลายเท้า “ยังมีอะไรอีก”

“น่าเสียดาย ที่แกมัวแต่คิดช้าไปหน่อย”

“เฮ้ เดี๋ยวก่อน จะทำอะไร”

ขาดคำ ช่างแต่งหน้าสองคนก็ช่วยกันรวบแขนราเมศ พาออกไปจากประตูท่ามกลางความคาดไม่ถึง ชายหนุ่มออกแรงสะบัดตัว เหวี่ยงแขนขาร้องตะโกนให้ปล่อย แต่ให้ตายเถอะ ไม่รู้ว่าคุณหญิงป้าไปคัดเลือกตัวทีมงานพวกนี้มาจากไหน ถึงได้แรงเยอะมหาศาลถึงขั้นล็อกตัวเขาเสียจนอยู่หมัด

ภายในห้องแต่งตัวบนโรงแรมชื่อดัง เจ้าสาวแสนสวยสวมชุดประโปรงลูกไม้จับจีบสีขาวบริสุทธิ์งดงาม ในมือถือช่อดอกไม้สีสดนั่งบนเก้าอี้หน้ากระจกบานใหญ่ ใบหน้าหวานแต่งแต้มสีสันโทนดอกกุหลาบ เส้นผมเกล้าสลวยเหนือต้นคอประดับด้วยช่อดอกไม้สีหวาน บนศีรษะมีผ้าคลุมผมลูกไม้บิดปังใบหน้าบางส่วน แต่ถึงกระนั้นก็ยังแลเห็นว่าปิ่นแก้วเป็นเจ้าสาวแสนสวยที่งดงามราวกับนางฟ้า

แต่ทว่า...สีหน้าของเธอกลับไม่ปรากฏริ้วรอยความสุข สมหวังเฉกเช่นที่เจ้าสาวทั่วไปควรจะมี

ปิ่นแก้วมองดูตัวเองในกระจกบานใหญ่ ภาพที่สะท้อนออกมาแม้จะแลดูสวยงามน่าภูมิใจ แต่สำหรับหญิงสาวทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็น ล้วนแต่เป็นภาพลวงตาที่ไม่อาจบันดาลความสุขให้แก่เธอได้แม้แต่เสี้ยวนาทีเดียว ปิ่นแก้วมองดูช่อดอกไม้ในมือผ่านม่านน้ำตาใส ๆ ก่อนที่เพื่อนเจ้าสาวจะเปิดประตูเดินเข้ามาวางมือบนไหล่มนเบา ๆ

“จวนจะได้เวลาแล้วจ้ะ ปิ่นแก้ว”

ม่านนทีเอ่ยปากบอกเพื่อนรักเบา ๆ ร่างบางสวมชุดเดรสสีครีมและมาร่วมงานแต่งในฐานะเพื่อนเจ้าสาว แต่ปิ่นแก้วไม่มีทีท่าว่าจะยอมขยับตัว เธอจึงได้แต่ถอนหายใจยาว

“ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ”

“ไม่รู้สิ” หญิงสาวกระซิบตอบ “ฉันไม่รู้จริง ๆ นะน้ำ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริง ๆ เพื่อให้ลืมเขาได้”

“ปิ่น”

“ฉันควรทำยังไงดี” ปิ่นแก้วเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อนรัก ม่านนทีจึงก้มลงโอบกอดร่างบางแทนคำปลอบโยน

“ถ้าลืมเขาไม่ได้ ก็ไม่ต้องลืมสิ”

คำตอบของม่านนที สร้างความประหลาดใจให้กับคนฟังอย่างคาดไม่ถึง

“ว่ายังไงนะน้ำ”

“ฉันพูดจริง ๆ นะปิ่น” ม่านนทีเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง ความรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเฝ้าโกหกตัวเองนั้นเป็นยังไง เธอรู้ดี “ถ้าเธอรักเขามากขนาดนั้น แล้วทำไมต้องฝืนทนเจ็บปวด แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รักด้วยล่ะ”

ปิ่นแก้วพูดอะไรไม่ออก รู้สึกคล้ายกับมีก้อนแข็ง ๆ จุกอยู่ในลำคอ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยตระหนักถึงความจริงข้อนี้ นอกเหนือไปจากกำแพงทิฐิที่เธอและเขามีต่อกัน ม่านนทีพูดถูก ความรักที่เธอมีต่อราเมศนั้นคือความจริง...แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเขาไม่เคยเป็นฝ่ายพูดคำนั้นกับเธอเลยสักครั้ง

“ถ้าเธอไม่อยากแต่งงาน เราออกไปจากที่นี่ตอนนี้เลยก็ได้นะ” ม่านนทีพูดออกไปตามอย่างที่ใจคิด แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อปิ่นแก้วส่ายศีรษะช้า ๆ

“ไม่ได้หรอก”

“ทำไมล่ะ”

“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้” เธอกระซิบแผ่ว “งานแต่งคราวนี้คุณพ่อท่านหวังเอาไว้มาก ท่านเป็นคนดำเนินการเองทั้งหมด ทั้งยังเชิญแขกเหรื่อมาร่วมงานตั้งมากมาย ถ้าฉันทำอะไรตามใจโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ท่านคงต้องเสียใจและเสียหน้ามากแน่ ๆ”

ปิ่นแก้วเงยหน้ายิ้มให้เพื่อน ความเข้มแข็งในตัวของเพื่อนสาว ที่มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้แต่ม่านนทีเองก็ยังอดทึ่งไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

“เธอแน่ใจเหรอปิ่น”

“แน่ใจสิ” อีกฝ่ายพยักหน้ารับ “ถึงงานแต่งครั้งนี้ ฉันจะไม่เต็มใจก็เถอะ แต่ถ้าเขาเป็นคนที่คุณพ่อเลือกให้ ฉันเชื่อว่าฉันต้องเป็นคนดีแน่ ๆ”

“ปิ่นแก้ว...”

ม่านนทีรู้สึกสงสารเพื่อนสาวขึ้นมาจับใจ ปิ่นแก้วเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ และยังเป็นบุตรสาวที่ห่วงใยและกตัญญูต่อบิดาผู้ให้กำเนิดมากอีกด้วย ทั้งสองให้กำลังใจกันและกันอีกครู่ใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ ก่อนที่นายเดชาจะแทรกตัวเข้ามาหาบุตรสาวภายในห้อง

“ใกล้จะได้เวลาทำพิธีแล้ว พ่อก็เลยเข้ามาดูว่าลูกพร้อมแล้วหรือยัง” ชายสูงวัยยิ้มกว้าง พร้อมกับเดินตรงเข้าไปกางแขนโอบกอดบุตรสาว “ลูกสาวพ่อคืนนี้สวยที่สุดในโลกเลยรู้หรือเปล่า”

ปิ่นแก้วกอดตอบเบา ๆ “ขอบคุณค่ะพ่อ”

“ขอบใจมากนะหนูปิ่น ที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งในคืนนี้ ถ้าไม่มีหนูมาด้วยยายปิ่นคงจะเหงาแย่” เจ้าบ้านตระกูลวัฒนะเอกดำรงหันไปเอ่ยปากกับม่านนที

“อย่าพูดอย่างนั้นสิคะคุณลุง เพื่อนรักแต่งงานทั้งที ปิ่นจะไม่มาแสดงความยินดีด้วยได้ยังไง”

หลังจากพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ม่านนทีก็ขอตัวออกไปจากห้อง ปล่อยให้พ่อกับลูกใช้เวลาพูดคุยกันตามประสาครอบครัว นายเดชาเอ่ยปากชมบุตรสาวไม่ขาดปาก ดวงตาเป็นประกายแช่มชื่นด้วยความภาคภูมิใจ นานมากแล้วที่เธอไม่เคยเห็นบิดามีความสุขแบบนี้ ถึงแม้ความสุขนั้นจะต้องแลกมาด้วยหัวใจของเธอก็ตามที

“พ่ออยากเห็นหนูมีความสุขที่สุดเลยลูกรัก”

นายเดชากล่าว พร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอเบา ๆ

“จำไว้นะลูกปิ่น ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ลูกก็ยังเป็นลูกสาวที่พ่อรักเสมอ เอาล่ะ...อีกเดี๋ยวก็จะได้เวลาเริ่มพิธีแล้ว พวกเราออกไปกันเถอะ”

เป็นครั้งแรกที่ปิ่นแก้ว รู้ซึ้งถึงการฝืนยิ้มทั้ง ๆ ที่ใจร้องไห้นั้นเป็นอย่างไร

“...ค่ะพ่อ”


ม่านนทีนั่งอยู่บนเก้าอี้รอคอยพิธีการอย่างใจจดใจจ่อ ดวงตากลมโตกวาดไปรอบ ๆ บริเวณงานเพื่อหาร่างของใครบางคน หญิงสาวเอี้ยวคอมองไปยังประตูทางเข้าแล้วก็ต้องสะดุ้งเบา ๆ หลังสัมผัสฝ่ามืออบอุ่นที่ทาบทับบนหลังมือ ม่านนทีหันไปสบตาและยิ้มให้กับเตชิตอย่างโล่งใจ

“คิดว่าคุณจะไม่มาแล้วซะอีก”

“งานแต่งของสองคนนั่นทั้งที มีหรือที่ผมจะไม่มาร่วมงาน” เตชิตโน้มใบหน้าลงกระซิบแผ่ว ดวงตาสีน้ำตาลทอประกายอ่อนโยน คืนนี้ชายหนุ่มดูหล่อเหลาเป็นพิเศษภายใต้ชุดทักซิโดสีดำ ติดช่อดอกไม้เล็ก ๆ บนกระเป๋าเสื้อ

“ทุกอย่างโอเคหรือเปล่าคะ” ม่านนทีถามน้ำเสียงเป็นกังวล

“เรียบร้อยดีทุกอย่าง” เขาหันมายิ้มให้เธอ “งานพิธีกำลังจะเริ่มแล้ว เรามาคอยนั่งลุ้นกันดีกว่า ว่าเจ้าราเมศจะทำหน้าตายังไง”

ทั้งสองนั่งตัวตรง ทอดสายตามองไปยังแสงไฟบนเวทีที่สาดส่องไปยังร่างของเจ้าสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์ โดยมีญาติฝ่ายหญิงเดินจูงมือออกมาด้วยท่วงท่าสง่างาม ความงามของปิ่นแก้วตรึงตาตรึงใจแขกเหรื่อในงานที่พร้อมใจกันมาร่วมยินดีในงานแต่ง ท่ามกลางเสียงของพิธีกรที่กำลังทำหน้าที่อยู่บนเวทีประดับตกแต่งด้วยช่อดอกไม้และเค้กงานแต่งสีสันอลังการ

ไม่ช้าพิธีการก็กล่าวเชิญฝ่ายเจ้าบ่าวเพื่อเข้าร่วมพิธีรดน้ำสังข์ แต่หลังจากผ่านไปหลายนาทีทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็ยังไม่ปรากฏตัว จนกระทั่งสร้างความหงุดหงิดให้แก่นายเดชาจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่

“ป่านนี้แล้ว ทำไมเจ้าบ่าวทำไมยังไม่มาอีกนะ”

ปิ่นแก้วก้มหน้านิ่งพนมมือวางอยู่บนหมอน ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สีหน้าแววตาไร้ความสุขของบุตรสาวทำให้ผู้เป็นบิดาอดห่วงไม่ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่าลูกปิ่น” ชายสูงวัยโน้มตัวกระซิบถาม

“ปะ เปล่าค่ะ ปิ่นไม่ได้เป็นอะไร” หญิงสาวฝืนยิ้ม ทั้งที่เสียงยังสั่น

นายเดชาชำเลืองหางตามองไปยังแขกเหรื่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้าเวที จนกระทั่งสะดุดเข้ากับคู่ชายหนุ่มหญิงสาวที่นั่งจับมือเคียงคู่กันพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ เจ้าบ้านตระกูลวัฒนะเอกดำรงก็ค่อยหายใจหายใจโล่งอกขึ้นมาหน่อย ชั่วขณะที่พิธีกรกำลังประกาศเชิญตัวเจ้าบ่าวเป็นครั้งที่สอง ประตูด้านข้างก็เปิดออกพร้อมกับร่างของใครบางคนกำลังถูกผลักเข้ามา เมื่อนายเดชาเหลือบไปเห็นเข้าก็ถึงกับออกปากบ่นเบา ๆ อย่างอดทนรนไม่ไหว

“ชักช้าจริง ๆ ไอ้ลูกเขยคนนี้”

“มีอะไรเหรอคะคุณพ่อ” ปิ่นแก้วได้ยินแว่ว ๆ จึงเงยหน้าขึ้นถามด้วยความสงสัย

“ฟังไม่รู้เรื่องหรือยังไง บอกแล้วไงว่าผมไม่แต่ง”

เสียงตะโกนดังก้องไปกังวานไปทั่วห้อง สร้างความตื่นตกใจให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานจนพากันเหลียวมองไปยังต้นเสียงราวกับนัดกันไว้ ที่นั่นเจ้าบ่าวสวมชุดทักซิโดสีขาวถูกผลักดันให้ออกมายืนอยู่ด้านล่างบริเวณขอบเวที ด้วยสีหน้าท่าทางบ่งบอกถึงความไม่เต็มใจขนาดหนัก การปรากฏตัวชนิดคาดไม่ถึงของราเมศกับประโยคที่ดังลั่นที่ออกมาจากปากของชายหนุ่ม ส่งผลให้คุณหญิงวิมลชื่นต้องออกโรงก้าวออกมารักษาหน้าตาเอาไว้สุดชีวิต

“หยุดเสียงดังได้แล้วตาเมศ พิธีสำคัญกำลังจะเริ่มอยู่แล้วนะ มัวทำอะไรอยู่” คุณหญิงจอมบงการถลึงตาเข้าใส่หลานชายตัวดี

ทว่า ราเมศไม่คิดที่จะสนใจชื่อเสียงหน้าตาอะไรอีกแล้ว

“เลิกบงการชีวิตผมซะทีเถอะครับคุณหญิงป้า ยังไง ๆ ผมก็ไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมไม่ได้รักเป็นอันขาด”

“พูดอะไรออกมาน่ะ”

“ผมพูดจริง ผู้หญิงที่ผมจะร่วมชีวิตด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้น” ชายหนุ่มประกาศเสียงดังฟังชัด “ถ้าไม่ใช่คุณปิ่นแก้ว ผมจะไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด”

ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางงานแต่ง ถ้อยคำที่ประกาศออกมาจากปากของราเมศส่งผลให้ทุกคนที่มาร่วมงานตะลึงงันตาค้างไปตามกัน ๆ ความกล้าบ้าบิ่นของอดีตคาสโนว่าหนุ่มหล่อแห่งเมืองไทย ทำให้เตชิตกระตุกยิ้มมุมปาก ในขณะม่านนทีเองก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจไม่แพ้กัน

“...คุณราเมศ” เสียงหวานใสที่ดังขึ้น กระตุกหัวใจของชายหนุ่มให้สั่นไหวโดยแรง…

*******************

อุตส่าห์ดิ้นรนเกือบตาย
สุดท้ายก็หนีกันไม่พ้นจนได้...คู่นี้

เบลินญา








เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2554, 09:13:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ธ.ค. 2554, 09:13:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 3035





<< ตอนที่ 28 เดิมพันหัวใจ   
Gingfara 9 ธ.ค. 2554, 09:59:14 น.
ฮ่าๆๆๆน่ารักมากเลยค่ะ
เอาคืนบ้างที่ใช้คำไม่ดี
แต่เอ...คุณเบลินญาคะ ชื่อของตัวละคร สลับกันหลายจุดนิดนึงนะคะ^^ ตอนก่อนหน้าก็มีค่ะ^^ ช่วยๆกันดูเนอะ


เบลินญา 9 ธ.ค. 2554, 10:20:39 น.
ขอบคุณ Gingfara มากเลยค่ะ
เบลินญา มึนมาก ๆ ช่วงนี้..


ameerahTaec 9 ธ.ค. 2554, 10:48:33 น.
ลุ้นแทบแย่กลัวราเมศไม่ได้แต่งกะปิ่นแก้ว 555


XaWarZd 9 ธ.ค. 2554, 11:03:56 น.
ฮาอ่ะ ไม่แต่ง ดีไม่ต้องแต่งแล้วนายราเมศ


wind 9 ธ.ค. 2554, 11:48:35 น.
สรุปว่าไม่แต่งช่ายม้ายยยย


Zephyr 9 ธ.ค. 2554, 13:31:33 น.
เอาไงล่ะเนี่ย จะแต่งมั้ยตาเมศ เห็นเจ้าสาวแล้ว รีบกระโดดคว้าแน่ๆๆเลย
แต่ ฮือ ไมคุณเบลินญา จบแบบนี้อ่ะ ไม่ยอมๆๆๆๆๆ ค้างอ่ะๆๆๆๆ มาเร็วๆนะคะ นะ นะ นะ พลีส พลีส


anOO 9 ธ.ค. 2554, 16:42:16 น.
นายราเมศ อย่าลืมมองเจ้าสาวก่อนตัดสินใจอีกครั้งนะ
ว่าแต่ไอ้ที่พูดไป ปิ่นเค้าได้ยินด้วยไหมนะ


pattisa 9 ธ.ค. 2554, 17:15:38 น.
เเจ๊คพอตตตต :D


หญิงใหญ่ 9 ธ.ค. 2554, 18:12:05 น.
มาต่อเลย ค้างอย่างแรงงงงงง


sirynth 10 ธ.ค. 2554, 05:23:46 น.
555 Ramade got tricked, love Te, he's definitely evil.


violette 11 ธ.ค. 2554, 01:33:26 น.
ฮ่าๆ คุณเต้ร้ายยยยยมาก แกล้งเพื่อนนินา...แต่จริงๆคือช่วยเนอะ


nunoi 14 ธ.ค. 2554, 12:59:05 น.
มาต่อให้ด่วนเลยนะคะ ค้างมากก อ่ะ


Asian 12 พ.ย. 2555, 21:49:06 น.
แต่งไม่แต่งเด๋วตอนหน้าได้รู้กัน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account