ดั่งดวงหทัยฟาโรห์
ข้าจะสมรักกับเจ้าตามที่หัวใจปรารถนาในทุกที่ที่ข้าต้องการ
Tags: เสน่หา มนต์ตรา

ตอน: มนตรา

ฝ่ายเพคานักบวชวัยสิบแปดปี ผู้มีเบื้องหลังคือเขาเป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งที่ต้องเก็บประวัติเป็นความลับ เขาหนีตายไปยังวิหารหลวงแห่งอียิปต์ใต้ เพียงเขาบอกเล่าเรื่องต่อหัวหน้านักบวชเท่านั้น เพคาก็ได้รับรองเข้าเป็นนักบวชรับใช้อย่างเงียบๆ สิ่งหนึ่งที่เขาจำคำสอนของหัวหน้านักบวชชราจนขึ้นใจคือ
“เจ้าต้องแข็งแกร่ง และรู้เวทมนต์ การทำพิธีการทุกอย่างให้แตกฉานเพคา แล้วสิ่งนั้นจะทำให้มารดาที่ล่วงลับของเจ้าไปแล้วจะอยู่อย่างเป็นสุขในโลกหน้า”
“ท่านลุง”
“มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ และมีแต่เราเท่านั้นที่ต้องกำจัดคน”
“กำจัดคน”
“ข้าเห็นเจ้าคนที่อยู่เคียงข้างเซมาอู มันคืออูเซเรค เจ้าคนนี้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอาลักษณ์คนสำคัญ และความสำคัญของมันจะขึ้นชั้นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ สูงเท่ากับฐานะของวิเซียหรือของพระ ตำแหน่งสูงขนาดนั้นจะให้มันขึ้นมาได้ยังไง ต้องหาทางฆ่ามันให้ได้ เพราะมันผู้เดียวที่นำความตายมาสู่เซเรต”
เพคากำมือจนแน่นด้วยความแค้น เขาต้องซุกอยู่ในวิหารเพื่อปิดบังความจริง ไม่ให้อูเซเรคซึ่งเขาได้ยินชื่อก็จำได้ว่าอีกฝ่ายเคยบวชอยู่ในวิหารอียิปต์เหนือ และชายคนนั้นคือผู้สร้างความหายนะ อูเซเรค เป็นคนสนิทแม่ทัพสองแผ่นดิน ที่ฟาโรห์ไว้วางพระทัยกว่าใคร
คำทำนายของนักบวชผู้เป็นลุงอีกคนหนึ่งของเขา อูเซเรคจะเป็นคนสำคัญของแผ่นดิน... เขาต้องกำจัดอีกฝ่ายให้พ้นไปจากตำแหน่งสูงส่งนั้นให้จงได้...!!
การคิดกำจัดคนต้องมีการเรียนรู้ให้มากขึ้น สิ่งที่เพคามุ่งมั่นคือเวทมนต์ดำ มหามนต์ที่ไม่อาจมีใครลบล้าง!!

สองปีผ่านไป
สายน้ำแห่งแม่น้ำไนล์สีครามแห่งนี้ยังคงนำพาความอุดมสมบูรณ์มาสู่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ชนอารยะธรรมที่สูงสุดคืออียิปต์แห่งนี้ ในราชวงศ์แห่งการแย่งชิง และการปกป้องฐานะของตนเอง นำมาซึ่งความโหดร้ายทารุณ และการเข่นฆ่า
ฟาโรห์มีนิมิตร้าย ถึงอโพฟิส(งูใหญ่ ที่เป็นศัตรูกับเทพฮอรัส)กลืนกินร่างของพระองค์ จากนั้นคายออกมาเป็นเศษเนื้อ พระองค์ฝันเช่นนี้ติดต่อกันเจ็ดวัน เจ็ดคืน ในวันที่แปดพระองค์เกิดอาการประชวรหนักอย่างไม่ทราบสาเหตุ แพทย์หลวงถวายการรักษาเต็มความสามารถ แต่ไม่อาจผ่อนคลายอาการประชวรประหลาด เสียงครางอย่างน่ากลัวดังตลอดเวลา
“อ้า อ่ะ อ้าก อ้า อ๊า”
พระโอษฐ์เปิดกว้าง พระวรกายกระสับกระส่ายไม่เป็นสุข
ราชินีเมเดตทุกข์ร้อนพระทัยยิ่งนัก เพราะหากฟาโรห์ประชวรอย่างกะทันหัน อำนาจการเมืองอาจแบ่งเป็นสองฝ่าย แม่ทัพเซมาอูอาจจะไม่เข้าข้างพระนาง แต่ไปสนับสนุนเจ้าชายบาอูเฟรซึ่งเกิดแก่พระมเหสี ดังนั้นพระนางจึงเรียกมหาเสนาบดีอีมาอูเข้าเฝ้าเพื่อแก้ทุกข์ร้อนของพระองค์ หากว่าในเวลาที่พระนางต้องการมหาเสนาบดีอีมาอู เขากลับกำลังปรึกษากับแม่ทัพเซมาอู และอูเซเรคได้ติดตามแม่ทัพมาอย่างใกล้ชิดทำให้ราชินีเมเดตไม่อาจเข้าใจได้ว่า แท้ที่จริงคนที่เป็นฐานแห่งบัลลังก์ให้การสนับสนุนทางใดกันแน่ เพราะตลอดมาทั้งสองมีความใกล้ชิดฟาโรห์
พระนางมีความร้อนพระทัย แต่ยังไม่อาจแสดงท่าทีที่อาจจะสร้างความหวาดระแวงให้เกิดกับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองได้ว่าคิดไปถึงความตายของฟาโรห์แล้ว พระนางจึงได้แต่แสดงให้เห็นว่าทรงห่วงฟาโรห์ในอาการพระประชวร จนต้องไปสวดมนต์วิงวอนที่วิหาร
ฝ่ายสองขุนนางชั้นผู้ใหญ่ปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด เพราะสภาพของฟาโรห์มีอาการประชวรประหลาดอย่างที่ไม่น่าเป็นอาการประชวรธรรมดา
“ทรงประชวรด้วยโรคประหลาด เราต้องประกาศหาหมอฝีมือดีมาจากทุกสารทิศแล้วท่านแม่ทัพ”
“ท่านมหาเสนาบดี การทำเช่นนั้นเป็นดาบสองคม อาจจะเป็นช่องทางให้ศัตรูเข้ามาทำร้ายพระองค์ได้ ซึ่งอาจไม่ใช่แค่ศัตรูภายนอกเท่านั้น”
“ท่านแม่ทัพหมายความว่า...”มหาเสนาบดีกล่าวแล้วนิ่งงันไปในทันที การที่ยังไม่มีการแต่งตั้งรัชทายาท อาจมีการแย่งชิงราชสมบัติกัน
ข่าวการประชวรหนักไม่อาจปกปิดไว้ได้ ในที่สุดก็รั่วไหลออกไปทางพ่อค้าที่เข้ามาขายของในราชสำนัก ทำให้ ต่างชาติได้นสดับฟังข่าวร้ายของอียิปต์แต่เป็นข่าวดีของพวกคิดรุกราน
เพคานักบวชผู้ติดตามนักบวชชราสวดมนต์งึมงำในห้องลับที่เพคาสร้างเอาไว้ ห้องที่มีความมืด ไร้แสงสว่าง ห้องที่คับแคบเป็นสถานที่บูชาเทพที่เพคาถวายชีวิตให้ เพคาคุกเข่าหมอบกับพื้น กายสั่นเทาขณะที่เปล่งเสียงสวดมนต์ เป็นเวลาเก้าวันวันนี้แล้ว
“อ้า...อ๊ากกกก”ฟาโรห์เปล่งสุรเสียงออกมาอย่างทุกข์ทรมาน ในพระวรกายราวกับถูกใครสักคนม้วนบิดอวัยวะทั้งมวลให้หลุดขาดจากกัน พระเนตรที่ปิดสนิทเบิกค้าง โลหิตสีแดงจะพุ่งออกมาเป็นฟู่ฝอยน่าสยดสยองยิ่งนัก
“ฟาโรห์แย่แล้ว ฟาโรห์แย่แล้ว”หมอหลวงวิ่งวุ่นเข้าไปซับพระพักตร์ และบีบนวดตามพระวรกาย ที่นำโอสถถวายนั้นจนปัญญา
องครักษ์รีบออกมาจากห้องประชวร
มหาเสนาบดีอีมาอู แม่ทัพเซมาอู ต่างสะอึกเข้าไปถามองครักษ์นายนั้นทันที
“ข้าได้ยินเสียงร้องของฝ่าพระบาท”
“แย่แล้วท่าน ฟาโรห์แย่แล้ว ข้าจะไปทูลราชินีและพระมเหสีก่อนจะสายเกินไป”กล่าวจบ องครักษ์นายนั้นรีบไปในทันที
“เราจะทำอย่างไรดี”มหาเสนาบดีกล่าวอย่างวิตก จากนั้นแม่ทัพเซมาอู เดินลิ่วเข้าห้องประชวร อูเซเรคตามเข้าไป หากแล้วชายหนุ่ม โดนแรงปะทะอย่างแรง จนผงะถอยออกมาชนกับประตูปังใหญ่
ปัง
“อะไรอูเซเรค”แม่ทัพเซมาอูหันไปตะคอกถามคนสนิท ที่ทำเหมือนไม่สำรวมในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ “เจ้าควรระวัง”
อูเซเรคยันกายขึ้นตรง เพ่งมองไปที่แท่นบรรทมเขาได้เห็นภาพที่คนธรรมดาสามัญมิอาจมองเห็น งูตัวหนึ่งอยู่ในพระโอษฐ์ หางกระดิ่งของมันควงไปมาราวกับมันกำลังหมุนตัวเองเป็นเกลียวเชือกก็ไม่แผกกัน
“มิใช่โรคธรรมดา”อูเซเรคเปล่งเสียงอุทานอย่างตกใจ มหาเสนาบดีอีมาอู และแม่ทัพเซมาอูหันไปมองพร้อมกัน
“เจ้าพูดอะไรของเจ้าอูเซเรค”
“ให้ข้ารักษาเถิดท่าน กั้นม่านเป็นสามชั้น กันคนออกไปจากห้องนี้ โปรดเชื่อข้า”อูเซเรคเอ่ยอย่างร้อนรน “หากช้าอีกเพียงไม่ถึงชั่วโมงฟาโรห์ต้องสิ้นพระชนม์แน่”
“เจ้าพูดอะไรรู้ตัวหรือไม่อูเซเรค”
“เชื่อข้าเถิดท่านแม่ทัพ ท่านมหาเสนาบดี โปรดไว้ใจข้า”
สองผู้มีตำแหน่งรองจากฟาโรห์มองหน้ากันอย่างใช้ความคิด และเป็นไปอย่างรวดเร็ว เวลาต่อมา ห้องนั้นจึงถูกปิดสนิท โดยที่มหาเสนาบดีอีมาอู และแม่ทัพสองแผ่นดิน ออกมายืนเฝ้าหน้าห้องด้วยความวิตกกับการตัดสินใจครั้งสำคัญ
ภายในห้องนั้นฟาโรห์มีความทุกข์ทรมานเต็มที่ เลือดออกมาจากดวงเนตรทั้งสองราวกับน้ำตารินหลั่ง อูเซเรค ยืนหน้าเตียง เงยหน้าสู่เพดาน ดวงตากลิ้งขึ้นไปจนเหลือกขาว แต่ริมฝีปากของเขายังกำกับมนต์เสียงดังอึงอนอยู่ภายในห้องนั้น
“อูเซเรคนีอังเร เซคเคมคาเร เรเอมสาส ดาจาอูอิสเฟต
ข้าขออัญเชิญเทพเจ้าราเป็นสักขีพยาน
ข้าขออำนาจท่านกำจัดสิ่งชั่วร้าย ขอขออำนาจแห่งทวยเทพทั้งมวลจงเสด็จมาปัดเป่าเวทมนต์ดำอันชั่วร้าย
ข้าขออำนาจแห่งทวยเทพ จงบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ให้ประจักษ์ณ บัดนี้

ฉับพลันทันใดที่สิ้นมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ แสงสว่างพุ่งวาบอาบร่างของอูเซเรค ก่อนแผ่เป็นรัศมี หลุดเป็นวงกลม ก่อนรวมเป็นก้อน เสียงดังราวฟ้าผ่า
เปรี้ยง เปรี้ยง
สองผู้มีตำแหน่งสูง ต่างใจหายวาบ เพราะเสียงนั้นย่อมไม่ใช่มาจากการปรุงยาธรรมดา แต่เหมือนเสียงแห่งการต่อสู้ของสิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไรสักอย่าง เสียงผนังแตกลั่นดั่งออกไปให้คนภายนอกใจหาย พวกเขาเพ่งตามองฝาผนัง แต่ไม่มีรอยแยกให้เห็นเช่นเสียง เปี๊ยะลั่นออกมาไม่ขาดระยะ
“ท่านแม่ทัพ เอายังไงดี”มหาเสนาบดี โคลงตัว แม่ทัพสองแผ่นดินเกาะเสาไว้มั่น
เมื่อได้ตัดสินใจลงไปแล้วบัดนี้เขาไม่อาจคืนคำ จำต้องยอมรับ ตายเป็นตาย เดินหน้าให้เป็นหน้าที่ของอูเซเรค
แม้แต่หมอหลวงยังอดกลัวตายตามฟาโรห์เสียไม่ได้ หากการรักษาของอูเซเรคไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
“ถวายการรักษายังไงถึงมีเสียงประหลาดราวกับมีการสู้รบ ด้วยแสนยานุภาพ”พึมพำ กระซิบกระซาบแก่กัน อาการสะเทือนสิ้นสุดลง
แต่เสียงแปลกดังออกมาอีก ครานี้เสียง
โครม คล้ายกับว่ามีวัตถุใหญ่สักอย่างพุ่งปะทะบางอย่างโดยแรง
“ท่านแม่ทัพ ถอยคืนไม่ได้แล้ว อูเซเรคคงจะไม่ใช้ยา หรืออาจจะ”มหาเสนาบดีกลืนน้ำคำที่ว่าอาจใช้เวทย์มนต์ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นนักบวชมากกว่าคนธรรมดาอย่างอูเซเรคจะทำได้
“ข้าเคยรอด ข้าย่อมเชื่อว่าบารมีของฟาโรห์สูงส่งกว่า พระองค์ต้องไม่เป็นอะไร”แม่ทัพสองแผ่นดินแทบกัดฟันพูด
ส่วนภายในนั้นเล่า อูเซเรคเปล่งเสียงสวดมนต์ดังกังวาน คลื่นเสียงม้วนคว้างราวกับกระแสของสายน้ำหมุนวน
ฟาโรห์หันขวับไปทางอูเซเรค ถลึงตาใส่เหลือกโพลง ราวกับว่านั่นไม่ใช่ดวงเนตรของพระองค์เอง จากนั้นทรงล้วงงูออกจากพระโอษฐ์ จนพ้นออกมาหมด เลือดไหลออกมาจากพระโอษฐ์ ราวกับทำนบกั้นน้ำทลาย
ตลอดลำตัวของงูประหลาดมีแต่โลหิตชุ่มโชก งูนั้นแผ่พังพานเข้าใส่อูเซเรค ชายผู้เงยหน้ามองเพดานหลุบลงมามองงูร้ายด้วยดวงตาดำสนิทไร้สีขาวเขาเปล่งเสียงรัวเร็วในภาษาที่ไม่อาจแปลได้ภาษาที่ได้มาจากคัมภีร์มหาเทพ
“อูเร มาลูลื กาเซมาเลอูอูมาอี เฟเนตกาตาลู”กล่าวจบเขาสะบัดปลายมือ งูร้ายพุ่งเข้ามาหาอูเซเรค เขาจับมันด้วยมือจากนั้นกัดกินมันอย่างรวดเร็ว
ฟาโรห์ฟุบลงไปกับแท่นบรรทม เลือดสีแดงหายวับไปในพริบตา
อูเซเรคงูตัวลงกุมท้อง โผเผไปที่ประตู คราบเลือดสีดำออกจากมุมปากของชายหนุ่มผู้มีความสามารถเปี่ยมล้น ร่างสูงของเขาออกไปนอกห้อง สภาพอิดโรย และเหมือนป่วยหนักของอูเซเรคทำให้แม่ทัพถลันเข้ามาประคอง พร้อมถาม
“ฟาโรห์เล่า ฟาโรห์”
“ทรงปลอดภัยแล้วท่านแม่ทัพ ข้า ข้าขอตัวก่อน ท่านเข้าไปเฝ้าพระองค์เถิด”
“อูเซเรค เจ้าเป็นอะไร”
อูเซเรคไม่อาจตอบคำได้ เขาพยุงกายเดินโซเซ จากไป แม่ทัพเซมาอูมองตามคนที่ท่านไว้ใจ แม้ว่าอยากช่วยเหลือ แต่ถ้าให้เลือกเวลานี้ ท่านเลือก ฟาโรห์ ดังนั้นท่านจึงมองอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง แต่เข้าไปเฝ้าฟาโรห์ ทุกคน
ภาพที่ทุกคนได้พบต่างพากันพิศวง งุนงงยิ่งนัก เพราะฟาโรห์ ทรงบรรทมสนิท หายพระทัยตามปกติ โลหิตที่ทรงพุ่งออกมาจากกายนั้นไม่ปรากฏว่าเปรอะเปื้อนที่ใด
หรือก่อนหน้านี้ฟาโรห์ไม่ได้มีอาการประชวรหนักอย่างที่หมอหลวงทุกคนถวายการรักษากันอย่างยอมถวายชีวิต
ราชินีเมเดตกำลังสวดมนต์อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกปักรักษาพระสวามี พระนางได้รับการกราบทูลจากองครักษ์ ว่าฟาโรห์อาจจะได้รับอันตราย พระนางรีบมาเข้าเฝ้าทันที เช่นเดียวกับพระมเหสีเซตนา ซึ่งสวดวิงวอนเทพเจ้ายังวิหาร พระนางรีบมาเช่นกัน
แต่เมื่อมาถึง ได้ปรากฏว่าทั้งแม่ทัพสองแผ่นดิน และมหาเสนาบดี มารอเฝ้าสองพระนาง อยู่หน้าห้องบรรทม
“ฟาโรห์เป็นเช่นไร”
“ทรงหายดีแล้วกระหม่อม อูเซเรคได้รักษาพระองค์ราวกับได้รับการประทานพร”
“โอ้ ย่อมเป็นเพราะข้าสวดวิงวอน”สองพระนางเปล่งเสียงออกมาด้วยประโยคเดียวกัน จากนั้นทั้งสองพระนางเฝ้าพระสวามี
เสนาบดีอีมาอู และแม่ทัพสองแผ่นดิน รวมทั้งบรรดาแพทย์หลวงต่างพากันออกมายืนห่างจากแท่นบรรทม ทุกคนต่างรู้ดีว่า ฟาโรห์หายประชวรด้วยโรคประหลาด เพราะอูเซเรครักษาด้วยวิธีที่ทุกคนไม่อาจมองเห็นได้ แต่ฟาโรห์คืนกลับมาแล้วอย่างที่ไม่เหมือนคนมีพระอาการประชวรหนักมาก่อนหน้านี้ให้เห็นเลย
ฟาโรห์บรรทมสนิทเช่นเดิม แต่คนที่ช่วยนั้นโซเซไปยังริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เขาล้มลง ก่อนรู้สึกร้อนไปทั้งกาย สิ่งหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากช่วงท้องผ่านมาถึงลำคอ ก่อนที่จะเกิดอาการสำรอกออกมาเป็นสีเขียวคล้ำลงสู่แม่น้ำ จากนั้นสิ่งที่เขาสำรอกได้กลับกลายเป็นงูตัวหนึ่ง งูทะเลทรายที่เป็นงูหางกระดิ่ง ลงสู่แม่น้ำไนล์ได้ไม่เท่าไหร่ มันก็จมดิ่งหายไป...
อูเซเรค นอนหมดแรง ขณะเดียวกับเพคาโดนแรงประหลาดสะท้อนกลับปะทะร่างสูงของเขาอย่างแรง
ผลัก เสียงร่างของเขาถูกพลังแรงโถมเข้าใส่ทั้งตัวจน ผนังห้อง จากนั้นร่างของเขารูดร่วงลงมากองกับพื้น
“โอยยย”นักบวชหนุ่มครวญคราง ปวดร้าวไปทั้งกาย
“อ้า...เจ้าอูเซเรค เจ้าคนชั่ว เจ้ากล้าขวาง เจ้าคนชั่ว เจ้าย่อมไม่ตายดี เจ้าย่อมไม่ตายดี”เพคากู่ร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น และอาฆาตยิ่งนัก
ความชั่วของเพคาปกปิดเงียบของห้องลับในวิหาร
แต่ความดีของอูเซเรคได้รับการกราบทูลแด่ฟาโรห์ เมื่อพระองค์ได้บรรทมตื่นจากฝันร้ายอันยาวนานถึงเก้าวัน
เซมาอูและมหาเสนาบดี รวมทั้งหมอหลวงทุกคน ต่างน้อมรับความจริงที่เกิดขึ้นว่า อูเซเรคได้ช่วยชีวิตฟาโรห์ จึงได้กราบทูลเสนอให้ แต่งตั้งอูเซเรคขึ้นรับตำแหน่งขุนนางด้วยความไว้วางใจในสิ่งยิ่งใหญ่ที่อูเซเรคได้กระทำลงไป
ฟาโรห์มีความยินดีจึงมอบหมายให้อูเซเรค ดูแลงานต่างพระเนตรพระกรรณด้วยความไว้วางใจ!!




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ธ.ค. 2554, 10:54:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ธ.ค. 2554, 10:54:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1725





<< ฟ้าประทาน   สืบสายโลหิต >>
แพม 16 ธ.ค. 2554, 11:57:00 น.
อืม ๆ เท้าความอูเซเรค เป็นพ่อของเมริอังค์ใช่ป่ะ


Zephyr 16 ธ.ค. 2554, 13:00:52 น.
อ่านไปอ่านมา หรือจะเปลี่ยนให้อูเซเรคเป็นพระเอกเลยคะ หึหึ เท้าความรุ่นพ่อก่อนแล้วค่อยไปรุ่นลูก เอ หรือ....อ้าาาา ไม่อยากเดาแล้วอ่ะ สนุกมากกกกก ลุ้นๆต่อๆๆๆ มาเร็วๆๆนะคะ พลีส พลีส _/|\_


นางแก้ว 16 ธ.ค. 2554, 13:33:07 น.
ใช่ค่ะ อูเซเรคเป้นพ่อเมริอังค์นางเอก และอูเซเรคเป้นตัวเอกตัวหนึ่งของเรื่องค่ะ ส่วนพระรองน่ารักมาตื๊บมากมากเลยค่ะ ติดตามนะคะ ได้โปรด พลีส


minafiba 16 ธ.ค. 2554, 21:39:04 น.
^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account