ดั่งดวงหทัยฟาโรห์
ข้าจะสมรักกับเจ้าตามที่หัวใจปรารถนาในทุกที่ที่ข้าต้องการ
Tags: เสน่หา มนต์ตรา

ตอน: สืบสายโลหิต

วันนี้อูเซเรคแต่งกายด้วยชุดขาว เดินทางไปบ้านแม่ทัพเซมาอู ซึ่งแต่งกายด้วยชุดแม่ทัพเต็มยศ เนเฟอร์ธิดาสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพ ประคองบิดา อูเซเรคค้อมกายเคารพแม่ทัพอย่างนอบน้อม แม่ทัพวัยหกสิบกว่าหัวเราะชอบใจ
“ขุนนางอูเซเรคช่างเป็นคนนอบน้อมอะไรเช่นนี้ เจ้ามีฐานะใหญ่โตดูแลราชกิจต่างพระเนตรพระกรรณแล้วยังมาเคารพข้าถึงบ้านอีกหรือ”
“ฐานะเป็นเพียงสิ่งที่ถูกแต่งตั้ง แต่หัวใจของข้าย่อมเหมือนเดิมนายท่าน ข้ามารับนายท่านไปรับเสด็จฟาโรห์ที่วิหารแคโนฟัส”
“เนเฟอร์จะประคองข้าไปเอง”
“ค่ะท่านอาจารย์ เวลานี้ข้าได้ลางานจากวังมาดูแลท่านพ่อ ข้าได้เข้าไปในวังอาทิตย์ละสองครั้งเท่านั้นค่ะ”
“งานในวังคงทำให้เจ้าเบื่อเต็มทีกระมัง เพราะเจ้าชอบเก็บตัวอ่านแต่หนังสือเท่านั้น”
เนเฟอร์พยักหน้ารับ นางควรเป็นคุณหนูอยู่กับบ้านดูแลบิดาวัยชรา แต่แม่ทัพเซมาอูกลับต้องการให้นางทำงานเป็นนางข้าหลวง เพื่อจะได้สืบข่าวความเป็นไปของราชวงศ์ แม้เนเฟอร์ไม่ชอบ แต่จำต้องทำทั้งนี้เพราะแม่ทัพเป็นห่วงแผ่นดินนั่นเอง
ที่วิหารแคโนฟัส วิหารที่ก่อสร้างด้วยหินทรายรอบวิหารมีหินวางเรียงรายเป็นแถว สืบเนื่องจากความเชื่อในโลกหน้า อีกชั้นของแนวหิน มีสระกว้างเรียกว่าทะเลสาบทั้งที่ไม่ใหญ่มากพอ มีการผันน้ำมาจากแม่น้ำไนล์ หน้าวิหาร มีรูปสลัก ฟาโรห์ เซเนบ ประทับนั่ง สองรูปทั้งซ้ายขวา เหนือรูปสลักเป็นรูปเทพรา ทรงเครื่องกษัตริย์ทรงมงกุฎรูปวงกลม ภายในวิหาร แบ่งออกเป็นหลายห้อง ด้านในแบ่งเป็นห้องต่างๆ ตรงกลางทางเดินมีรูปแกะสลักทำเป็นเสา เป็นพระพักตร์ของฟาโรห์เซเนบ อยู่ในท่าทางเหมือนมัมมี่ คลับคล้ายให้พระองค์อยู่ในรูปเค้าของโอซิริส เทพแห่งความตาย บนฝาผนังจะเป็นรูปแกะสลักของฟาโรห์เซเนบประทับบนรถม้าศึก
พิธีกรรมบวงสรวงในฤดูเก็บเกี่ยว จะทำพิธีโดยนักบวชหญิงซึ่งมีตำแหน่งสูงศักดิ์ ในวิหาร นักบวช ยืนเรียงรายเป็นสองข้างทาง นักบวชหญิงแต่งกายด้วยชุดขาว คลุมผ้าหมดทั้งร่าง เหลือให้เห็นเพียงดวงตาคู่เดียวเท่านั้นเป็นผู้ทำพิธี นักบวชหญิงกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ติดตาม
“ฟาโรห์เสด็จแล้ว”
เสียงขานบอกต่อๆกันดังมาถึงพิธีบวงสรวงเทพเจ้าในช่วงเวลาแห่งการเพาะปลูกมาถึง พิธีกรรมได้ทำที่ที่วิหาร แคโนฟัส นักบวชหญิงผู้ทรงศักดิ์ ได้นำข้าวสาลี ผสมโคลนสูตรพิเศษ แล้วนะเมล็ดข้าบาร์เล่ นักบวชหญิงได้นำส่วนผสมทั้งนำไปวางยังอ่างศักดิ์สิทธิ์ นางสวดคาถาด้วยเสียงทุ้มต่ำ สลับเสียงสูง ขณะที่ฟาโรห์ประทับนิ่ง พระกรขวาถือไม้นวดข้าว พระกร ซ้าย ถือแส้สองพระกรไขว้ทับที่พระอุระ
ที่ประทับเคียงข้างทางขวา คือราชินีเมเดต ทางซ้ายคือพระมเหสี เซตนาผู้ซึ่งมีพระราชโอรสสองพระองค์ พระโอรสองค์น้อยเพิ่งได้ชันษาเดียว
รอยแย้มสรวลของราชินีเมเดตฉาบทา เพื่อกลบรอยริษยาไว้ในพระอุระแน่นสนิท แม้ยังไม่มีการประกาศรัชทายาท แต่บัลลังก์ราชินีของพระนางกำลังสั่นคลอนเพราะไม่ทรงมีพระราชโอรสนอกจากพระธิดาวันสี่ปีองค์เดียวและฟาโรห์เคยดำรัสไว้ จะให้อภิเษกกับโอรสองค์ใหญ่ของพระนางเซตนา
ภาพแม่ลูกกระซิบกระซาบหลังจากทำพิธีเสร็จสิ้น ทำให้พระนางเมเดตแสลงพระทัยเป็นที่สุด และยิ่งเมื่อพระสวามีหันไปส่งรอยแย้มสรวลให้กับพระมเหสีเซตน่า พระนางเมเดตยิ่งชอกช้ำพระทัย
หนทางที่ต้องทำให้ฐานะของพระนางมั่นคง คือมีพระราชโอรส แต่จะทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อ ฟาโรห์ไม่เสด็จมาประทับยังวังของพระนางเลยหลังจากประสูติพระราชธิดาแล้ว
สองโอรสต้องตาย และพระนางต้องมีพระราชโอรส...สิ่งเดียวที่พระนางเมเดตต้องรีบทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
วันหนึ่งพระนางได้เข้าเฝ้าฟาโรห์เซเนบยังห้องรโหฐาน และยิ่งน้อยพระทัย เมื่อฟาโรห์ประทับอยู่กับ พระนางเซตนา
“ราชินีเมเดตขอเข้าเฝ้า”
“ให้เข้ามา”
ราชินีเมเดตได้รับอนุญาตจากฟาโรห์ ซึ่งเป็นพระเชษฐาในสายเลือดเดียวกัน พระนางทันได้เห็นรอยเย้ยหยันมาจากพระนางเซตน่า ราชินีเมเดตฝืนยิ้มรับรอยยิ้มเย้ยนั้นด้วยความเยือกเย็น
“มีเรื่องอะไรหรือเมเดต”
“เสด็จพี่ทรงเมตตาเพคะ ลูกหญิงประชวรหนักมากแล้ว หมอหลวงกำลังรักษาอยู่เพคะ”
“อะไรกัน อาเมสป่วยหนักทำไมข้าไม่รู้เล่า”
“น้องไม่ทราบเพคะ ถึงน้องเป็นราชินี แต่น่าประหลาดนัก เพราะคำสั่งที่ส่งมายังเสด็จพี่กลับเงียบหาย จนน้องต้องมาด้วยตัวเอง หาไม่”พระนางเมเดต ซับน้ำพระเนตรที่กำลังถูกบีบเคล้นอย่างหนักให้มันไหลออกมาให้ได้ น้ำตาแห่งความเจ็บใจก็ยังดี
“เมเดต ไม่มีใครคิดแกล้งเจ้าแน่”
“เสด็จพี่รับสั่งปกป้องคนอื่น น้องไม่ได้รู้สึกริษยาสักนิด เพียงแต่เวลานี้ น้องอยากเชิญเสด็จพี่ไปดูลูกหญิงอาเมส น้องไม่อยากให้นางไม่เห็นเสด็จพ่อแม้ว่านางอาจจะ..”
“เมเดต อย่าเสียใจ พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้”
พระมเหสีเซตน่าย่อมไม่วางพระทัย ดังนั้นจึงขอตามเสด็จไปด้วย องค์ฟาโรห์หันมาทำท่าราวกับจะอนุญาต แต่ ราชินีเมเดตรับสั่งดักขึ้นมาเสียก่อนว่า
“บารมีของฟาโรห์ บุตรแห่งเทพเจ้า แผ่ไปถึงพระธิดาได้ แต่น้องขอเป็นเพียงเสด็จพี่เท่านั้นเพคะ เสด็จเพียงครั้งเดียว”
“เซตนาเจ้าอยู่ดูแลลูกทางนี้ ข้าจะไปดูลูกหญิงกับเมเดต”
ตรัสจบ องค์ฟาโรห์ได้เสด็จสู่วังของราชินีเมเดต
ในห้องรโหฐานของราชินีเมเดต มีร่างผ่ายผอมของเจ้าหญิงอิอาเมสนอนป่วยหนักอยู่จริง ฟาโรห์เซเนบถึงกับพระทัยหายวับ ปรี่เข้าไปดูพระราชธิดาองค์โปรด
“ทำไมผอมอย่างนี่อาเมส ทำไมป่วยมากขนาดนี้พ่อยังไม่ได้รับข่าว”
“เห็นทีสองเราพี่น้องคงห่างกันเพราะบัลลังก์ของหม่อมฉันไม่มั่นคงเสียแล้วเพคะเสด็จพี่”พระนางเมเดตทรุดพระวรกาย คุกพระชงฆ์กับพื้น จูบพระหัตถ์ของฟาโรห์ ซึ่งทอดพระเนตรด้วยความเมตตา
“เมเดต คิดแต่เรื่องของตัวเองไม่ได้น้องรัก ยามนี้ดูลูกเสียก่อน อาเมส โธ่ หมอหลวงมันไปมุดหัวที่ไหน ทำไมไม่รักษาลูกข้า เหอะลูกข้าตายพวกเจ้าจะตายทั้งหมด”
หมอหลวงหลายคนรีบเข้ามาถวายพระโอสถ ซึ่งรู้ทั้งรู้ นั่นคืออาหารบำรุงร่างกาย เพราะก่อนหน้านี้ ราชินีเมเดตจับองค์หญิงอิอาเมสอดอาหาร และให้ปิดเงียบเป็นความลับ จนได้กำหนดเวลาจึงได้ไปทูลฟาโรห์ให้มาดูการเล่นบทบาทที่แนบเนียน โดยเอาชีวิตพระธิดาเป็นเดิมพันไม่มีการกระจายข่าว หรือการส่งข่าวแต่แรก แต่ที่ทรงทูลต่อพระสวามีเพื่อบิดเบือนความจริง
ไม่สู้ก็ตาย สู้ยังมีทางรอด นั่นคือการรักษาตำแหน่งของตนเองของพระนางเมเดตต่อให้ใช้วิธโหดร้ายกว่านี้ก็ทรงยอม
หมอหลวงถวายพระโอสถให้ราชินี องค์ฟาโรห์หันไปมองอย่างสงสัย
“เจ้าไม่สบายหรือเมเดต”
“น้องไม่ได้ป่วยมากนัก เพียงแต่ไม่ได้พักผ่อนเพราะห่วงลูกหญิง ดูสิเพคะ นางเริ่มทานอาหารได้ นี่คงเป็นเพราะบารมีของพระองค์โดยแท้”
“เมเดต”
องค์ฟาโรห์ประทับเคียงข้าง แตะพระหัตถ์ที่นลาฏของพระน้องนางผู้มีตำแหน่งราชินี
“ดื่มยาให้มาก”
หมอหลวงซึ่งเป็นสตรีทูลแทรกมาว่า
“ทรงดื่มทีไรก็อาเจียนออกมาทุกครั้ง ข้าเห็นว่า องค์ฟาโรห์คงมีพระเมตตาต่อองค์ราชินีเพคะ”
“พวกเจ้าจะให้พี่ข้าป้อนยาข้าหรือ เหลวไหลจริง ถึงข้าอาเจียนออกมา เจ้าก็ต้มมาให้ข้าใหม่ได้ ข้าจะพยายามกลืนมันลงไปเอง”
“แต่ทรงทำไม่ได้นี่พะย่ะค่ะ”
ฟาโรห์ได้ยินดังนั้นจึงฉวยแก้วยาจากมือราชินีแล้วจึงเสวยเข้าไปก่อน ประกบริมพระโอษฐ์องค์ราชินี ป้อนพระนาง ซึ่งทำท่าราวกับจะอาเจียนออกมา แต่พระองค์กดไว้แนบแน่น องค์ราชินีจึงได้กลืนเข้าไปจนหมดสิ้น
“เอายามาอีก”ฟาโรห์มีรับสั่งด้วยความยินดีที่สามารถช่วยชีวิตของราชินีผู้เคยเป็นพระขนิษฐาร่วมอุทร ความเป็นห่วงย่อมมาก ตามสายเลือด แต่นั่นพระองค์ทรงตกหลุมพรางเสียแล้ว
ยาทุกถ้วยที่ทรงป้อนนั้นมียากำหนัดใส่อย่างเต็มที่ หลังจากเพลานั้นขณะที่สุขภาพของเจ้าหญิงอิอาเมสหายดี ทางพระมเหสีได้ทราบข่าว ฟาโรห์อยู่ตำนักราชินีเวลานานหลายสัปดาห์แม้ออกว่าราชการยังมีองค์ราชินีเคียงข้าง
ราตรีอันเงียบสงัด ฟาโรห์รู้สึกพระองค์กลางดึก พระองค์ เห็นแสงสว่างเป็นรัศมี สว่างยิ่งกว่าแสงตะเกียง หรือคบไฟ
แสงนั้นค่อยสว่างและสูงขึ้นเป็นรูปร่าง จากเท้าขึ้นไป ร่างบุรุษหนุ่ม หนุ่มรูปงาม แล้วภาพนั้นซ้อนทับเป็นรูปเหยี่ยว ชั่ววูบคืนกลับเป็นหนุ่มรูปงามเกินกว่าบรรยาย องค์ฟาโรห์ตกตะลึงค้างนิ่ง แล้วฉับพลันทันใดนั้น แสงสว่างทั้งหมดรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนเล็กเพียงกำปั้นของพระองค์ พุ่งวูบเข้าสู่พระนาภีของราชินีเมเดต โดยไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับพระนาง
ฟาโรห์แม้ทรงเป็นคนเหนือคน เจอเหตุเช่นนี้ยังทำให้พระองค์ขนลุกชันไปทั้งพระวรกาย ดังนั้นรุ่งเช้าจึงมีพระราชโองการบวงสรวงต่อมหาเทพ ที่วิหารเพตาร์
นักบวชชราเป็นหัวหน้าผู้ทำพิธี เครื่องบวงสรวงมีอย่างพร้อมมูล และมากเท่าที่หัวหน้านักบวชเรียกร้อง นอกจาก อาหาร ซึ่งมี ขาแพะ ห่าน ขนมปังรูปเห็ด น้ำมันหอม ยังมียางไม้หอมจากดินแดนโพ้นทะเลสำหรับจุดเป็นกำยาน และมีเครื่องเพชร พลอย ทับทิม อัญมณีมีค่ามากถึงหนึ่งถาดพูน ฟาโรห์สั่งให้วิซัยอูเซเรคจัดการ ซึ่งแม้อูเซเรคจะรู้สึกว่า หัวหน้านักบวชขอสิ่งมีค่าเกินกว่าทวยเทพต้องการ แต่เขาไม่อาจจะจักการได้ในขณะนี้ เนื่องจากเขายังไม่มีอิทธิพลมากพอที่จะดำเนินการกับนักบวชผู้หาความร่ำรวยเข้าใส่ตัวเองได้ในขณะนี้
ดังนั้นเมื่อมีการร้องขอจากการเอ่ยอ้างให้สมกับการบวงสรวง อูเซเรคจึงต้องจัดอย่างจำใจเต็มที
ในวิหาร ค่อนข้างอับแสง นักบวชหลายร้อยคนยืนเป็นแนวเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เพคาซ่อนอยู่ในกลุ่มนักบวช มิได้เผยตัวให้เด่นออกมาจนอูเซเรคไม่ทันสังเกตเห็นเพคาจึงยังสามารถปิดบังตัวเองให้รอดสายตาคนรู้จักไปได้
ขณะ บวงสรวงอยู่ในวิหารที่ไม่มีแสงสว่างจากภายนอกเข้าไปได้ แต่เกิดเหตุที่ทำให้เหล่าขุนนาง หรือนักบวชชรา ได้ประจักษ์แก่สายตา คือ แสงแห่งรา สาดเข้ามาทุกบานประตู ส่องสว่างทุกทิศอย่างน่าประหลาด และยิ่งประหลาดสุด แสงนั้นค่อยไปจับนิ่งที่เทวรูปอมอนรา รา และรูปของฟาโรห์เซเนบ
ทันใดนั้นเอง จู่ๆ นักบวชชราทรุดนั่ง กายสั่น ครู่หนึ่งดวงตาเบิกค้าง เปล่งเสียงหนุ่ม และทุ้มกังวาน ซึ่งไม่ใช่เสียงของเขาอย่างแน่นอนเพราะวัยชราของเขาควรที่จะเปลี่ยนฐานะของนักบวชไปให้ผู้อื่นแล้ว
“รับโองการจากเรา เราได้ส่งบุตรแห่งเรามาเป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์นี้ซึ่งได้รวมเป็นผืนเดียวกัน นามฟาโรห์ในภายภาคหน้า อเมเนมเฮต นีอังเร บัดนี้เขาได้อยู่ในครรภ์ราชินีแห่งอียิปต์แล้ว”
ราชินีเมเดตปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ พระนางเปล่งเสียงกรรแสงออกราวกับคนเสียสติ การรอคอย และการวางแผนเพื่อให้กำเนิดโอรสได้สำเร็จเท่านั้นไม่พอที่ พระนางยังจะเป็นมารดาของฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่เหนือใคร
“เมเดต เมื่อคืนเรามีนิมิตไม่ผิดเลยน้องรัก เราจึงมาบวงสรวงเพื่อรับโองการเทพเจ้า”
“เสด็จพี่ทรงเมตตา ประทานบุตรแก่หม่อมฉัน”
ฟาโรห์เปล่งเสียงสรวลลั่นวิหาร เหล่าขุนนางแซ่ซ้องสรรเสริญ ขุนนางล้วนชื่นชมยินดี โองการเทพเจ้าได้เกิดขึ้น ย่อมหมายความว่า องค์รัชทายาทย่อมเป็นผู้มีบุญญาธิการที่จะปกป้องอียิปต์ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ทุกสิ่งทุกอย่างได้ ไม่เว้นแม้แต่ภัยธรรมชาติอย่างแน่นอน
สิ่งที่คนอียิปต์กลัวที่สุด มิใช่การรุกรานจากเพื่อนบ้าน แต่พวกเขากลัวภัยแล้งที่มิอาจทำการเพราะปลูกได้ต่างหาก
เมื่อข่าวดีออกมาเช่นนี้ มีหรือโอรสแห่งเทพจะไม่นำความเจริญมาสู่แผ่นดิน บัดนี้อย่าว่าแต่ตำแหน่งราชินีจะมั่นคงเท่านั้น องค์ราชินีจะย่างกายไปที่ใด ล้วนอยู่ในสายพระเนตรของพระสวามีตลอดเวลา
พระสนมทุกนางถูกทอดทิ้ง เพียงเพื่อฟาโรห์ต้องการปกป้องราชินีให้มีพระประสูติกาล และนั่น จิตใจที่ดุร้ายของราชินีเมเดตจึงได้มีคำสั่ง กำจัดศัตรูหัวใจออกไปทีละคน ข่าวว่าเจ็บป่วย หากแท้ที่จริงพวกนางโดนยาพิษที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ บางนาง หายลึกลับ
ครบกำหนดการประสูติ ของพระโอรสที่ร่ำลือกันทั้งแผ่นดินว่าเป็นโอรสแห่งเทพ
เหยี่ยว ที่ไม่เคยบินเป็นฝูง กลับบินมารวมตัวกันอยู่เหนือราชวัง ทุกตัวส่ายสายตาราวกับว่า หากมีสิ่งผิดปกติเพียงนิดเดียวเท่านั้น พวกมันจะถลาร่อนลงไปกำจัดให้สิ้นซาก
แม่น้ำไนล์สาดซัดเข้าฝั่งอย่างแรง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำกำลังเอ่อท้นขึ้นมาสูงถึงตำหนักของราชินีที่กำลังมีพระประสูติกาล
ใต้แสงแห่งรา เกิดรัศมีทรงกรดอย่างไม่น่าเป็นไปได้ และเมื่อนั้น เหยี่ยวทุกตัวพากันบินสู่ท้องฟ้าอีกครั้งก่อนลับหายไปราวกับว่า ทุกตัวนั้นไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์แห่งนี้
เสียงทารกแรกเกิด ดังจนทั้งพระราชวังได้ยินกันโดยทั่ว!!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ธ.ค. 2554, 09:08:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ธ.ค. 2554, 09:08:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1485





<< สืบสายโลหิต   โอรสแห่งเทพ กับอูเซเรค >>
Zephyr 17 ธ.ค. 2554, 11:58:29 น.
ซ้ำป่ะคะ


นางแก้ว 17 ธ.ค. 2554, 15:59:59 น.
ซ้ำค่ะ


แพม 18 ธ.ค. 2554, 11:59:02 น.
ซ้ำเนอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account