หัวใจซ่อนรัก *สนพ.บีไมน์ตีพิมพ์*
การแต่งงานที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยที่ฝ่ายหนึ่งไม่เต็มใจ แต่อีกฝ่าย (แอบ) เต็มใจอยู่เงียบๆ จะเป็นอย่างไม่เมื่อฝ่ายเต็มใจไม่อยากจะจบชีวิตคู่นี้ลง และฝ่ายที่ไม่เต็มใจเองก็เริ่มสับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่เริ่มจะพอใจกับชีวิตคู่นี้เข้าแล้ว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตัวค้ำประกัน
ตอนที่ 1 ตัวค้ำประกัน
“เฮ๊ย! อะไรวะ เซ็งๆๆ ทำไมวันนี้มันมีแต่เสียกับเสียวะเนี่ย”
นางมดหรือใครๆ ในบ่อนแห่งนี้ ต่างรู้จักดีในนามเจ๊มด ตะโกนโหวกเหวกโวยวายเป็นหมีกินผึ้งออกจากวงไพ่อย่างหัวเสีย เหตุเพราะเงินกู้ก้อนสุดท้ายที่เพิ่งได้มา หายไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทั้งที่นางตั้งใจจะนำมันมาต่อทุนคืนสักหน่อย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อวันนี้นางมือตกมากอย่างไม่น่าให้อภัย
และอาการเช่นนี้ของนางมดก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศภายในบ่อนเสีย เพราะอาการเหล่านี้เป็นที่คุ้นตาดีของคนในบ่อนจึงไม่มีใครคิดที่จะสนใจ ใครมีเงินก็เล่นต่อส่วนใครหมดตัวก็เดินโวยวายออกไปบ้าง คอตกกลับบ้านไปบ้าง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของเหล่าผีพนัน
“ว่าไงเจ๊”
ชายรูปร่างใหญ่ยักษ์หน้าตาดุเหี้ยม ที่ทำหน้าที่คุมบ่อนและปล่อยเงินกู้ให้กับเหล่านักพนันในบ่อน ถามนางมดอย่างคุ้นเคย
“ฉันอยากได้เงินเพิ่มน่ะ”
“ของเก่ายังไม่จ่ายเลยนะเจ๊”
“เออน่า เจ๊ขอเอาไปต่อทุนก่อน เดี๋ยวเล่นได้เจ๊จะมาจ่าย”
“มันไม่ได้หรอกเจ๊ เพราะเครดิตของเจ๊มันเต็มแล้ว”
บอกเสร็จนายหน้าเหี้ยมก็เดินเลี่ยงออกไปดูความเรียบร้อยในส่วนอื่น แต่นางมดก็ยังไม่ละความพยายาม
“เดี๋ยวสิ ถ้าฉันอยากได้เครดิตเพิ่มต้องทำยังไง”
คนถูกเรียกหันมาเลิกคิ้วมองนางมด แล้วนิ่งไปพักใหญ่เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า
“งั้นตามมา แต่ไม่รับประกันนะว่าจะได้”
นางมดไม่คิดจะถามต่อให้มากความรีบเดินตามชายหน้าเหี้ยมขึ้นไปชั้นบนสุดของบ่อน ซึ่งเป็นห้องทำงานของเจ้าของบ่อนอย่างอนล ที่จะเข้ามาดูความเรียบร้อยของบ่อนอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูสามครั้งหนักๆ เหมือนเป็นสัญญาณระหว่างคนในห้องกับคนเคาะ ทำให้คนที่อยู่ข้างในเอ่ยปากอนุญาตทันทีโดยไม่ต้องถามไถ่ให้มากความ
“เข้ามา”
“ลูกค้าต้องการเครดิตเพิ่มครับ”
มือใหญ่ที่กำลังเปิดเอกสารเพื่อตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายอาทิตย์ที่แล้วของบ่อนหยุดชะงัก ใบหน้าเหลี่ยมเงยขึ้นพลางเลิกคิ้วมองนางมดที่ยืนก้มหน้าตัวลีบเล็กอยู่มุมห้อง
“แล้วมึงว่าไงไอ้หาญ มึงน่าจะรู้ดีว่าใครควรได้เพิ่มหรือไม่ได้เพิ่ม”
ไอ้หาญไม่ออกความเห็น แต่มันเดินไปกระซิบอะไรบางอย่างกับผู้เป็นเจ้านาย และนั่นทำให้อนลถึงกับเหยียดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ นัยน์ตาเรียวเล็กฉายแววความพึงพอใจออกมาอย่างไม่ปกปิด
“ต้องการเท่าไหร่”
“ค่ะ...คะ”
“ฉันถามว่าต้องการเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่”
“หะ...ห้าหมื่นค่ะ”
พูดจบนางมดก็กลับไปก้มหน้ามองพื้นพรมราคาแพงด้วยใจเต้นระทึกตามเดิม ทั้งตื่นเต้นที่มายืนต่อหน้าเจ้าของบ่อนและตื่นเต้นกับการลุ้นว่าการขอเครดิตเพิ่มของนางในครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ คิดแล้วมือแห้งเหี่ยวก็ไม่วายที่จะยกขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมออกมาท่ามกลางห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำ
“ห้าหมื่น ถ้ารวมกับของเก่าแสนห้าก็เท่ากับสองแสน แต่ถ้ารวมดอกเบี้ยเข้าไปด้วยก็สองแสนห้า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันให้มันจำง่ายๆ หน่อย ฉันให้เจ๊แสนหนึ่งก็แล้วกัน รวมแล้วก็สามแสนพอดิบพอดี จำง่ายไหม”
คำว่า ‘แสน’ ทำให้ใบหน้าแห้งตอบเพราะการอดตาหลับขับตานอนอยู่กับการเล่นไพ่ติดต่อกันมานานไม่ต่ำกว่าสามวัน เงยขึ้นอย่างตกใจระคนดีใจ ร่างผอมแห้งถึงกับถลาไปยืนตรงหน้าอนลอย่างลืมตัว แล้วถามย้ำเพื่อความมั่นใจว่าที่ตัวเองได้ยินไม่ใช่เรื่องโกหก
“คุณบอกว่าจะให้เงินฉันเพิ่มแสนหนึ่งหรือคะ”
“ใช่!”
“จริงเหรอคะ! โอ๊ย...ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่เมตตาคนแก่ เดี๋ยวฉันจะรีบหามาคืนนะคะ”
นางมดละล้ำละลักบอกพลางยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างนอบน้อม ราวกับเขาเป็นเจ้าชีวิตหรือผู้มีพระคุณเป็นล้นพ้น
“แต่...เงินจำนวนสามแสนมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ ฉันว่ามันน่าจะมีอะไรค้ำประกันสักเล็กน้อย ก็ยังดีน่ะว่าไหม”
อนลเอ่ยพลางยกเท้าขึ้นพาดบนโต๊ะแล้วกระดิกอย่างสบายใจ สายตาก็คอยเหลือบมองลูกหนี้อย่างเจ้าเล่ห์
“ค้ำประกัน! ฉะ...ฉันจะเอาอะไรมาค้ำล่ะคะ บ้านก็บ้านเช่าเขาอยู่รถหรือว่าที่ดินก็ไม่มี จะมีก็แต่มอเตอร์ไซค์เก่าๆ ของลูกชายคันเดียวเท่านั้นแหละค่ะ”
คนที่เพิ่งดีใจได้ไม่ถึงห้านาทีถึงกับหน้าเสีย เงินจำนวนมากที่เกือบจะมาอยู่ในมืออยู่แล้ว แต่เพราะไอ้สิ่งค้ำประกันที่ว่านี้กำลังจะทำให้มันหลุดลอยไปในชั่วพริบตา
“ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของก็ได้”
“คุณหมายความว่า...”
นางมดถามอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังบอกเป็นนัยๆ
“มีลูกสาวไม่ใช่เหรอ นั่นแหละตัวค้ำประกันชั้นดีเลยล่ะ”
“ตะ...แต่ฉันคิดว่านังต้นข้าวมันคงไม่พอใจและไม่เต็มใจแน่ๆ ถ้ามันรู้ว่าฉันจะเอาตัวมันมาค้ำประกันกับคุณ”
ถึงจะอยากได้เงินจำนวนมากนั้นจนตัวสั่น นางมดก็ยังไม่กล้าตบปากรับคำไม่ใช่เพราะว่ารักและเอ็นดูลูกนอกไส้อย่างพีรยามากมายนัก ติดจะไม่ค่อยถูกกันเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะนางรู้จักนิสัยไม่ยอมคนของลูกเลี้ยงดีว่าถ้าหญิงสาวรู้เรื่องนี้เข้ามีหวังต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ
“เต็มใจหรือไม่มันไม่สำคัญ แต่มันสำคัญตรงที่ว่าถ้าไม่มีสิ่งค้ำประกัน เงินก็ไม่ต้องเอาและหนี้เก่าก็ใช้มาซะ ทุกอย่างจบ”
ชายหนุ่มผายมือพลางยักไหล่เหมือนไม่แยแสอะไร แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันกำลังต้อนนางมดให้จนมุม
“ตะ...ตกลงค่ะ ฉันจะเอานังต้นข้าวเป็นตัวค้ำประกัน”
‘หนี้เก่า’ เป็นสิ่งที่นางกลัวและเป็นแรงผลักดันให้นางตัดสินใจนำลูกเลี้ยงมาเป็นตัวค้ำประกันอย่างไม่รีรอลังเล
“ฮ่าๆๆ ดีมาก ไอ้หาญเอาเงินให้เจ๊เขาไปต่อทุนซักแสนซิ”
สิ้นเสียงสั่งชายร่างใหญ่หน้าเหี้ยมนามว่าหาญก็หยิบซองสีน้ำตาล ที่ข้างในบรรจุเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทไปยื่นให้กับนางมดแบบรวดเร็วทันใจ นางมดรับและเปิดดูข้างในแล้วต้องตาโต เงินแบงค์พันเรียงเบียดเสียดกันอยู่ในซองเป็นตับ แค่นี้สำหรับนางก็ถือว่าคุ้มแล้วกับการเอาตัวลูกเลี้ยงมาค้ำประกัน
เมื่อตกลงเงื่อนไขกันต่ออีกเล็กน้อยนางมดก็เดินถือเงินหน้าบานออกจากห้องไป และแน่นอนเงินจำนวนนี้ก็จะถูกนำไปต่อทุนในวงไพ่ด้านล่างนี้เอง ตอนนี้ภายในห้องทำงานสุดหรูจึงเหลือแค่ไอ้หาญกับผู้เป็นนายที่จะมีการสั่งงานเพิ่มเติม
“วันนี้และพรุ่งนี้ปล่อยให้มันเล่นได้ไปก่อน แต่ในวันมะรืนนี้ให้ทยอยเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ของฉันคืนมาให้หมด แล้วหลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ให้พวกแกไปเรียกเก็บคืนทั้งต้นทั้งดอกทันที โดยไม่มีข้อต่อรองหรือข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น”
“ครับนาย”
ไม่ต้องอธิบายซ้ำหลายครั้งให้มากความไอ้หาญคนรู้ใจที่ทำงานร่วมกันมานานหลายปี น้อมตัวรับคำสั่งแล้วเดินออกไปพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในทันที ปล่อยให้เจ้านายจอมวางแผนนั่งเหยียดยิ้มอย่างสะใจอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง
หญิงสาวรูปร่างเล็กกะทัดรัดแต่สิ่งที่ผู้หญิงควรจะมีกับไม่เล็กอย่างที่ควรจะเป็น อกเป็นอกเอวเป็นเอวสะโพกเป็นสะโพกบวกกับหน้าตากลมมนเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มปากนิดจมูกหน่อย นั่นทำให้หญิงสาวสะดุดตาเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น และที่ยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวเป็นคนเดียวที่กล้าปฏิเสธคำเชิญชวนของเขา แถมยังด่าเทสาดเทเสียทันทีที่เขาแสดงตัวให้เธอรู้ว่าเขาเป็นใครและยิ่งใหญ่ขนาดไหน คราวนี้แหละเธอไม่รอดมือเขาแน่
ณ โรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างใหญ่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราสมราคาแสนแพง ร่างใหญ่ที่นอนกอดก่ายร่างบอบบางขาวนวลด้วยสภาพเปลือยเปล่าบนเตียงขนาดคิงไซด์ มีอันต้องสะดุ้งตื่นดีดตัวลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที ที่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่เขาตั้งไว้เป็นพิเศษสำหรับผู้เป็นแม่ดังขึ้น และแน่นอนถ้าเขาไม่รีบรับชะตาอาจขาดโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่กดรับสายคุณนายสมรก็ไม่ได้ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างขัตติยะได้ตั้งตัวนางสวดยับชนิดที่ชายหนุ่มได้แต่อ้าปากค้างฟังอย่างเดียว และก่อนวางสายนางยังกำชับไว้ว่ากลับให้ถึงบ้านภายในครึ่งชั่วโมง ดังนั้นสิ่งที่ชายหนุ่มพอจะทำได้นั่นก็คือตอบว่า ‘ครับ’ แล้วรีบกระโจนลงจากเตียงนอนไปเข้าห้องน้ำอย่างทำเวลา
“จะกลับแล้วเหรอคะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มตอบโดยไม่คิดจะหันไปมองหญิงสาวที่นั่งตัวเปลือยเปล่าอวดหน้าอกหน้าใจมหึมาของตนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะเขายังคงวุ่นอยู่กับการแต่งตัว ที่มีเวลาอยู่จำกัดอย่างเร่งรีบ
“แล้วเก่งจะมาหาลักษณ์อีกเมื่อไหร่ล่ะคะ”
ลักษณ์หรือลักษณ์นาราคู่ควงคนล่าสุดของชายหนุ่มเอ่ยเสียงออดอ้อน
“เอาไว้ผมโทรหาอีกทีแล้วกันนะครับ...แล้วนี่เอาไปช็อปปิ้งแก้ขัดไปก่อน ไว้วันหลังผมจะพาไปทานข้าวนะครับ”
ขัตติยะหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกจากกระเป๋าหนังราคาแพง แล้ววางลงบนมือของหญิงสาว ก่อนจะก้มลงจูบปากอวบอิ่มนั้นเป็นการส่งท้าย แล้วรีบหันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ
“แกมาช้าไปสิบนาที”
นี่คือคำทักคำแรกทันทีที่ชายหนุ่มโผล่หน้าเข้ามาในบ้านกิตติกร ที่มีคุณนายสมรนั่งเฉิดฉายรอลูกชายตัวดีตั้งแต่เช้ายันสาย จนต้องโทรตามตัวถึงโผล่หัวกลับบ้านได้
“แม่คร๊าบบบ จากนู้นมานี่มันไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อยเมตรนะครับ มันตั้งหลายสิบกิโลนะครับกว่าจะมาถึง”
ขัตติยะโอดครวญพร้อมกับพาร่างสูงของตัวเองเข้าสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างออดอ้อน เผื่อมันจะทำให้คนที่นั่งหน้าตึงอยู่บนโซฟาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“ไม่ต้องมาแก้ตัว เมื่อคืนแกหายหัวไปไหนมาบ้านช่องไม่ยอมกลับ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ”
“โธ่แม่ นานๆ ทีนะครับไม่ใช่ทุกวันสักหน่อยอย่าบ่นไปเลยน่า และอีกอย่างผมก็ผู้ชายนะครับท้องไม่ได้”
“เฮ๊อ! ก็ใช่ซี่...แกเป็นผู้ชายท้องไม่ได้ แต่อย่าลืมนะว่าแกสามารถทำให้ผู้หญิงท้องได้”
ประโยคนี้ทำให้ขัตติยะถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งเหมือนกัน แต่พอคิดว่าตัวเองไม่เคยเผลอไผล และมีความรอบคอบป้องกันทุกครั้ง เรื่องทำนองนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นกับเขาแน่นอน
“ผมไม่เคยพลาด!”
เขาบอกย้ำผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ก็ดี๊! ฉันจะได้สบายใจที่จะได้ไม่ต้องรับผู้หญิงใจแตกมาเป็นสะใภ้ รู้ไว้เลยนะตาเก่งผู้หญิงที่จะมาเป็นสะใภ้ของบ้านกิตติกร จะต้องเป็นคนนิสัยและจิตใจดี ที่สำคัญต้องรักลูกของแม่จากใจใช่ที่ทรัพย์สมบัติที่ลูกมีอยู่”
“เรื่องนั้นผมทราบดีครับ และผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังแน่นอน”
“ดีมากจ๊ะ และก่อนที่แกจะหาผู้หญิงอย่างนั้นเจอ แม่ก็อยากแนะนำใครคนหนึ่งให้แกได้ทำความรู้จักเอาไว้ เผื่อจะเป็นคนที่ใช่...เธอชื่อน้องปาล์มเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่เอง เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเป็นผู้หญิงน่ารักนิสัยดี…”
และก่อนที่ผู้เป็นแม่จะร่ายคุณสมบัติอันเลิศหรูของน้องปาล์มอะไรนั่นมากไปกว่านี้ ขัตติยะยกมือขึ้นเป็นการห้ามและพูดแทรกขึ้น
“พอก่อนครับคุณแม่ ผมว่านี้คงไม่ใช่การแนะนำให้รู้จักกันธรรมดาหรอกมั้งครับ เท่าที่ฟังคุณแม่สาธยายมาดูเหมือนคุณแม่อยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ให้ได้นะครับ”
“ก็เออนะสิ”
คุณนายสมรยอมรับหน้าตาย
“แต่แม่ครับเด็กนอกนะครับ เท่าที่ผมเคยได้ยินมา ส่วนมากใจแตกกันทั้งนั่น นิสัยจะดีและน่ารักจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“น่ารักสิแม่เคยเจอน้องมาแล้วครั้งหนึ่ง”
“ก็แค่ครั้งเดียวแสดงละครตบตาหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“แล้วแกจะเอายังไงคนโน้นก็ไม่ดีคนนี้ก็ไม่เอา เอ๊ะ! หรือที่แกปฏิเสธเวลาที่แม่แนะนำผู้หญิงให้รู้จัก เพราะแกมีแฟนอยู่แล้วหรือว่าแกเป็นเกย์ห๊าตาเก่ง”
คุณนายสมรมองลูกชายอย่างคาดคั้น
“เฮ๊ย! จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว ผมผู้ชายทั้งแท่งนะครับแม่...เป็นอย่างแรกมากกว่า อย่างที่คุณแม่พูดมาแหละครับว่าผมมีแฟนแล้ว และคุณสมบัติของเธอตรงตามที่คุณแม่ต้องการเป๊ะ”
คนถูกกล่าวหาว่าเป็นเกย์รีบปฏิเสธหน้าตื่นพร้อมกับแก้ข้อกล่าวหา โดยการรีบเออออห่อหมกไปตามการคาดเดาอย่างแรกของผู้เป็นแม่ทันที
“จริงเหรอ! แล้วทำไมแกไม่บอกแม่เสียตั้งแต่แรก ปล่อยให้แม่แอบเข้าใจผิดๆ”
“กะ...ก็ผมไม่คิดว่าแม่จะหาผู้หญิงให้ผมนี่ครับ กะว่าถ้าพร้อมแต่งเมื่อไหร่จะพามาเซอร์ไพรส์ที่เดียวเลย ฮ่าๆๆๆ”
พูดจบชายหนุ่มก็แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน ภาวนาให้ผู้เป็นแม่เชื่อเรื่องโกหกที่เขาแต่งขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ ด้วยเถิด
“เฮ้อ...แก่นี่มันน่าตีจริงๆ เลย เอาเป็นว่าเรื่องของแกกับหนูปาล์มแม่ตัดใจก็แล้วกัน แต่เรื่องนัดทานข้าวสิ้นเดือนนี้กับสองแม่ลูกนั้นก็ยังคงต้องมีอยู่ดี และวันนั้นแกก็ต้องอยู่ทานข้าวกับพวกเราด้วยนะ”
คุณนายสมรบ่นอย่างอดที่จะเสียดายลูกสาวของเพื่อนสนิทนิดๆ ไม่ได้ แต่นางก็ไม่อยากจะเข้าไปบงการชีวิตของลูกชายมากมายนัก แค่รู้ว่าเขากำลังคบอยู่กับผู้หญิงดีๆ แค่นี้นางก็ดีใจแล้วล่ะ
“คร๊าบบบ แล้วที่นี้ผมขอตัวขึ้นไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้หรือยังล่ะครับ”
“ยัง! เพราะแม่เพิ่งคิดอะไรดีๆ อย่างหนึ่งออกแล้วล่ะ คืองี้นะวันนั้นแม่หมายถึงวันสิ้นเดือนที่พวกเรานัดทานข้าวกันที่บ้านน่ะ ซึ่งมันก็ตรงกับวันอาทิตย์พอดีแม่ว่าวันนั้นแกน่าจะถือโอกาสเปิดตัวแฟนแกกับแม่และทุกคนไปเลยดีกว่านะ เพราะที่จริงเพื่อนของแม่คนนี้เขาก็หวังจะได้แกไปเป็นเขยเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าแกมีแฟนแล้วเขาจะได้ตัดใจเรื่องแกไงล่ะ นะตกลงตามนี้แล้วกัน”
“ห๊าพามาเปิดตัว! ผะ...ผมว่าไม่ดีมั้งครับ คือเธอต้องทำงานน่ะครับคงจะไม่ว่าง”
ขัตติยะอุทานเสียงหลง เริ่มตระหนักแล้วว่าเขากำลังหาเรื่องใส่ตัวเองแล้วไหมล่ะ
“ก็แม่บอกแล้วไงว่าวันนั้นเป็นวันอาทิตย์”
“แต่ว่า...”
“หรือว่าเรื่องทั้งหมดที่เล่ามา มันเป็นเรื่องที่แกแต่งขึ้นเพื่อหลอกแม่เท่านั้นห๊า แต่ที่จริงแล้วแกเป็นเกย์”
คุณนายสมรหันมาหรี่ตามองลูกชาย ที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างจับผิด
“โธ่แม่…ผมมีแฟนแล้วจริงๆ...ก็ได้ๆ ครับวันนั้นคุณแม่เตรียมตัวพบว่าที่ลูกสะใภ้ผู้เพียบพร้อมได้เลย”
ขัตติยะครางออกมาอย่างอ่อนใจ เมื่อคนเป็นแม่พยายามจะยัดข้อหาการเป็นผู้ชายไม่เต็มร้อยให้เขาเสียเหลือเกิน ดังนั้นเพื่อลบข้อกล่าวหาเขาจึงจำต้องรับปากผู้เป็นแม่ว่าจะพาผู้หญิงที่ไม่มีอยู่ในโลกความเป็นจริง ณ ตอนนี้มาพบท่านไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“โล่งอก...แล้วแม่จะรอ ที่จริงแกน่าจะพามาทำความรู้จักกับแม่ก่อนด้วยซ้ำนะ”
“โอ๊ย! ไม่ได้หรอกครับช่วงนี้เธอไม่ว่างเลย เอาเป็นวันนั้นแหละดีแล้วครับ”
ขัตติยะรีบบอกปัดเป็นพัลวัน
“ก็ได้ รอมาได้ตั้งนานรออีกสักนิดจะเป็นไรไป...แล้วนี้แกทานข้าวเช้ามาหรือยังล่ะ”
“ยังเลยครับ แม่โทรเรียกผมก็ตรงเข้าบ้านเลย”
“แม่ก็รอแกอยู่...งั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะให้เรียบร้อย แล้วลงมาทานข้าวพร้อมกันนะ...เดี๋ยวแม่จะไปดูในครัวก่อนมาต้องสั่งทำอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า”
“ครับ”
ขัตติยะรับคำพลางเดินถอนหายใจขึ้นห้องด้วยท่าทีอ่อนระโหยโรยแรง เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปหาผู้หญิงที่ดีพร้อมทั้งกายและใจได้จากที่ไหน ถ้าญาตาวีผู้หญิงที่เขาเคยรักข้างเดียวมานานหลายปี ยังอยู่ก็ดีสิจะได้ขอความช่วยเหลือจากเธอ แต่น่าเสียดายมันเป็นไปไม่ได้เพราะเธอแต่งงานและได้ย้ายไปอยู่บ้านสามีที่เป็นนักธุรกิจได้หลายปีแล้ว เหลือก็แต่ยัยลิงทโมนเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของหญิงสาวและคู่กัดตลอดกาลของเขา อย่างพีรยาเอาไว้เท่านั้น และดูท่าจะไม่มีประโยชน์และช่วยเหลืออะไรเขาไม่ได้สักนิด
แต่ก็เอาเถอะกว่าจะถึงวันนั้นก็เหลือเวลาอีกตั้งอาทิตย์กว่าๆ ฟ้าอาจจะเห็นใจดลบันดาลให้เขาเจอผู้หญิงดีๆ แบบที่ผู้เป็นแม่ต้องการสักคน และระหว่างนี้เขาก็อาจจะเฟ้นหาเอาจากผู้หญิงทั้งหลายของเขาด้วยว่าใครที่พอจะแสดงบทบาทอันแสนดีนี้ได้เนียนบ้าง
********************************************************************************************************************
แล้วพบกันตอนหน้านะคะ ^_^
เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2554, 12:47:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ส.ค. 2554, 09:26:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 2930
อัศวินของหัวใจ >> |