พี่ชายขา (โดย ริมฝั่งฝัน)
... รักแท้...
แม้กาลเวลาล่วงเลยผันผ่าน เนิ่นนานสักเพียงใด...
แต่รักนั้นจะยังคงอยู่ตราบนิรันดร์... ตราบฉันและเธอเข้าใจกัน...


Tags: มนัส จิรวรรณ นุชนาฏ ดารา รักหวาน

ตอน: บทที่ 1 น้องสาว (ตัวแสบ)

แวะมาแปะอีกเรื่องก่อนสุดสัปดาห์ค่ะ
ตามอ่านเรื่องน้องมูนกันไปพักใหญ่แล้ว มาลองเรื่องหวานๆ ใสๆ ของหนูจ๊ะจ๋ากันบ้างนะคะ เรื่องนี้ออกแนวปรกติค่ะ (ที่คนเขียนไม่ค่อยจะเขียนเท่าไร^^) ฝากตัว ฝากหัวใจ ด้วยนะคะ



สิบสี่ปีต่อมา...

วันนี้คือวันแสนปวดหัวของนุชนาฏหรือน้องเนย ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือของตัวเอง มีสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ กางอยู่ เด็กสาวใช้ปากกาแดงหัวใหญ่ขีดฆ่าชื่อชื่อหนึ่งด้วยความไม่พอใจ
ศูนย์ เอาไปศูนย์คะแนนเลยสำหรับแฟนคนใหม่ของพี่ชาย นุชนาฏไม่ชอบเพื่อนสาวคนใหม่ที่พี่ชายพามาบ้านวันนี้เอาเสียเลย ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้แต่งตัวโป๊ขนาดนั้น นี่คงกะจะมายั่วพี่ชายล่ะสิ
ก็แหม ดูคุณเธอแต่งเข้าสิ กระโปรงยาวเสียเปล่าแต่ดันผ่าสูงขึ้นมาจนถึงต้นขา แถมยังเสื้อสายเดี่ยวสีแสบสัน ดูยังไงๆ ก็ไม่เห็นเข้ากันเลย

คะแนนการแต่งกายจึงเอาไปติดลบสาม...

ส่วนหน้าตา... ก็งั้นๆ แหละ เล่นแต่งหน้าซะจัดขนาดนั้น เลยไม่รู้ว่าถ้าล้างเครื่องสำอางออก จะมีอะไรซ่อนอยู่หลังแป้งพอกหน้าหนาเตอะรึเปล่า เฮ้อ ไม่รู้ทำไมพี่ชายถึงได้ตาต่ำขนาดนี้ คิดจะเอายายนี่มาเป็นพี่สะใภ้เธอจริงๆ เหรอ นุชนาฏคิดด้วยความว้าวุ่นใจ

หลายสัปดาห์มานี้ เธอเริ่มต้นแผนการจับคู่ให้พี่ชายมาได้พักใหญ่แล้ว ด้วยสาเหตุหลักเป็นเพราะการอดไปเที่ยว!
‘ทำไมล่ะ เนยไม่อยากไปเที่ยวกับพวกเราเหรอ เป็นคนบอกเองนี่นาว่าอยากไปเกาะช้าง’ เสียงเพื่อนร้องโวยวายมาตามสายทันทีเมื่อรู้ว่านุชนาฏเบี้ยวนัดพวกเธออีกแล้ว

‘อยากไปจะตาย แต่พี่ชายเราไม่อนุญาต’ นุชนาฏบอกกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
‘อะไรกัน โตจะแย่แล้ว แค่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนแค่นี้ พี่ชายไม่ยอมปล่อยให้ไปเหรอ’ ปลายสายบ่นกลับมาด้วยความไม่เข้าใจนัก
‘อืม พี่น้ำเห็นเราเป็นเด็กตลอดล่ะ ไม่ว่าอะไรก็เป็นห่วงไปซะทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องขับรถไปเที่ยวทางไกลแบบนี้ พี่น้ำยิ่งไม่ยอมใหญ่ เฮ้อ น่าเบื่อจะตาย...’ นุชนาฏบ่นด้วยความเซ็งสุดๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มนัสไม่ยอมให้เธอออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ แม้นุชนาฏจะชินกับความเป็นห่วงเป็นใยของคนเป็นพี่ชาย แต่บางครั้งเธอก็อดเบื่อหน่ายไม่ได้ เมื่อความเป็นห่วงนั้นมีมากเกินไปจนเธอเริ่มทนไม่ไหว
‘ฮิฮิ คงเป็นเพราะพี่น้ำของเนยไม่มีใครให้ห่วงมั้ง ลองพี่เธอมีแฟนดูสิ รับรองน้องสาวอย่างเธอคงถูกทิ้ง’ เพื่อนของเธอพูดขึ้นขณะฟังนุชนาฏบ่นเรื่องพี่ชายมาจนเกือบครบชั่วโมง

เพราะคำพูดของเพื่อนในวันนั้น ทำให้นุชนาฏนึกอยากให้มนัสมีแฟนขึ้นมาทันที อย่างน้อยพี่ชายเธอจะได้มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งให้คอยมานั่งห่วง บางทีอาจทำให้เธอมีเวลาได้หายใจ ออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้บ้าง แต่แผนการจับคู่ของเธอกลับไม่เป็นไปอย่างใจคิดเอาเสียเลย เพราะบรรดาผู้หญิงทั้งหลายรอบตัวมนัสไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่ง ‘พี่สะใภ้’ เลยสักคน

ก๊อกๆๆ ... เสียงเคาะประตูห้องหยุดความคิดของเด็กสาวลง
นุชนาฏแทบซ่อนสมุดบันทึกไม่ทันเมื่อมนัสหรือพี่น้ำของเธอเปิดประตูเข้ามา
“กำลังทำอะไรอยู่ยายตัวแสบ” มนัสร้องถามน้องสาวเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของอีกฝ่าย
“เปล่านี่คะ เนยกำลังเขียนบันทึกอยู่ พี่น้ำเข้ามาทำไม” นุชนาฏส่งค้อนให้
“หน็อย เดี๋ยวนี้พี่เข้ามาต้องมีธุระอย่างเดียวเลยรึไง เมื่อเย็นก็เหมือนกัน ทำไมไปชักสีหน้าใส่คุณเก๋แบบนั้น” มนัสดุน้องสาวด้วยท่าทางไม่จริงจังนัก

“ก็เนยไม่ชอบแฟนใหม่ของพี่นี่นา”
“อะไรกัน คุณเก๋ไม่ใช่แฟนพี่สักหน่อย เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเฉยๆ อย่าคิดมากซิคะ” เขาบอกน้องสาวเสียงอ่อน
หากนุชนาฏกลับไม่เชื่อในคำแก้ตัวของมนัส
“สำหรับพี่น้ำไม่ใช่ แต่สำหรับเธอคนนั้นคงเกินใช่แล้วล่ะค่ะ เนยว่าแม้แต่เด็กสิบขวบยังรู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นจ้องจะจับพี่น้ำอยู่” น้องสาวบ่นเมื่อนึกไปถึงท่าทางของเกศนภาในขณะนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน
ก็จะไม่ให้นุชนาฏคิดเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อตลอดเวลาที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน เกศนภามีท่าทีสนใจแต่มนัส จนถึงขนาดตักข้าวป้อนชายหนุ่มทั้งๆ ที่อีกฝ่ายมีสีหน้ากระอักกระอ่วน เมื่อยังมีน้องสาวอย่างนุชนาฏร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

เออแฮะ ผู้หญิงสมัยนี้ท่าจะไร้ยางอายกันหมดแล้วรึไง
“แก่แดดจริงๆ นะเราเนี่ย” มนัสพูดพลางยกมือขึ้นเขกหัวน้องสาว
“ไม่ได้แก่แดดสักหน่อย สมัยนี้แม้แต่เด็กประถมก็มีแฟนกันแล้วทั้งนั้น จะมีก็แต่พี่น้ำของเนยนี่แหละยังหาแฟนไม่ได้ แต่ก็นะ...ถ้าพี่น้ำคิดจะมองผู้หญิงสักคน ขออย่าเป็นแบบยายสะพานคอนกรีตคนนี้เลย”
“สะพานคอนกรีตอะไร?” มนัสมีสีหน้างงงวยกับคำเปรียบเปรยของน้องสาว

“อ้าว ก็คุณเก๋ไง น่าจะเรียกว่าสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กมากกว่า เนยเห็นคุณเธอทอดสะพานเสริมทั้งเหล็กทั้งคอนกรีตมาให้พี่เดินไปหาแบบนั้น ไม่รู้ที่บ้านทำธุรกิจก่อสร้างรึไง ถึงได้หาปูนหาเหล็กมาเสริมง่ายจัง” นุชนาฏลอยหน้าลอยตาบอก ก่อนจะร้องโอดโอยเมื่อหลบไม่ทันกำปั้นหนาของคนเป็นพี่ชาย
“เอาเข้าไปยายตัวแสบ ทำไมปากถึงได้จัดขึ้นทุกวัน” มนัสว่าอย่างระอา

“ไม่ต้องเฉไฉเลยพี่น้ำ สัญญามาก่อน ห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด ถ้าเป็นยายนี่ เนยไม่อนุมัติให้เป็นแฟนพี่นะ” นุชนาฏบอกเสียงแข็ง กอดแขนอีกฝ่ายไว้แน่น
“ขอรับ คุณน้องสาว ว่าแต่ประเภทไหนล่ะที่เนยชอบ พี่จะได้หามาได้ถูกใจ” มนัสล้อ ทั้งๆ ที่ความจริงไม่ได้บอกนุชนาฏหรอกว่าผู้หญิงแบบเกศนภา ถ้าไม่ใช่เพราะต้องทำร่วมงานกัน เขาเองก็ไม่ได้อยากเสวนาด้วยเท่าไหร่หรอก

“อืม... ขอคิดก่อน... เนยชอบผู้หญิงหวานๆ น่ารักๆ ที่สำคัญต้องเข้ากับเนยได้ เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนของ
เนย ไม่ใช่แบบประเภทพี่สะใภ้กดขี่น้องสามีแบบนี้” นุชนาฏย่นจมูกให้เมื่อนึกถามท่าทางวางอำนาจของเกศนภา
ส่วนมนัสแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ยามเมื่อนึกตามคำพูดน้องสาว คนอย่างนุชนาฏน่ะเหรอจะมีใครมากดขี่ได้
“งั้นเนยก็หาให้พี่เลยดีไหมคะ จะได้ถูกใจ” มนัสแกล้งประชด
หากคำพูดของเขากลับจุดแววลิงโลดขึ้นในดวงตากลมโต

“หึ ถ้าหาได้จริงพี่น้ำก็อย่าปฏิเสธแล้วกัน” นุชนาฏรับคำท้าอย่างยินดี
“บอกไม่ได้แฮะ เอาไว้หาให้ได้ก่อน แล้วพี่จะบอกว่าคนที่เนยคิดว่าใช่ จะเป็นคนที่ใช่สำหรับพี่รึเปล่า” มนัสบอกขณะก้มลงหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ ก่อนเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนเป็นน้องสาวนั่งมองตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างหมายมาด

ไม่รู้ทำไม นุชนาฏรู้สึกหวงแหนพี่ชายคนนี้เหลือเกิน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเธอมีพี่ชายอยู่เพียงคนเดียว แม้จะต่างมารดา แต่มนัสก็เป็นทั้งพ่อ ทั้งพี่ และเพื่อนให้กับเธอในเวลาเดียวกัน เพราะเธอและมนัสแทบจะเรียกได้ว่ามีกันอยู่เพียงลำพังสองคนพี่น้อง เนื่องจากแม่แท้ๆ ของชายหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถยนต์จนเสียชีวิตเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน หลังจากนั้นบิดาของมนัสก็แต่งงานใหม่กับมารดาของเธอ เมื่อนุชนาฏเริ่มโตขึ้น พวกเขาทั้งสองเลยมักใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับธุรกิจ ซึ่งกำลังขยายกิจการอยู่ในประเทศโซนยุโรป ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางกลับมาเยี่ยมลูกๆ ที่เมืองไทยเท่าใดนัก

ดังนั้นหากเธอคิดจะหาใครสักคนมาให้มนัสดูแลแทนเธอ เพื่อลดอาการห่วงและหวงน้องสาวจนเกินเหตุ เธอเองก็ยังอยากจะแน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะดีพอสำหรับพี่ชาย และเข้ากับเธอได้จริงๆ
เฮ้อ ท่าทางงานนี้เธอควรจะลงมือทำอะไรมากกว่านี้

เมื่อคิดได้ดังนั้นเด็กสาวจึงจัดแจงเปิดลิ้นชัก หยิบสมุดบันทึกที่เริ่มเขียนมาได้ประมาณครึ่งปีขึ้นเปิดดู ในสมุดบันทึกเล่มนี้มีบรรดารายชื่อเพื่อนๆ ทั้งของตัวเธอเองและของมนัสจดไว้อย่างละเอียด หลายชื่อถูกขีดทิ้งเช่นเดียวกับเกศนภา เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการซึ่งไม่เหมาะสมกับคำว่า ‘พี่สะใภ้’ ตามแบบฉบับของนุชนาฏ แต่ก็ยังมีอีกหลายชื่อจดไว้คร่าวๆ เนื่องจากไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหญิงสาวเหล่านั้น มีอยู่ชื่อหนึ่งค่อนข้างสะดุดตาเด็กสาว ชื่อที่เขียนด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า ‘พี่จ๊ะจ๋า’

นุชนาฏนั่งนึกถึงพี่สาวคนสวยที่เพิ่งเคยเห็นหน้าเมื่อไม่นานมานี้ พี่จ๋าเป็นเพื่อนทางอินเตอร์เน็ตรู้จักกันมาเกือบสามปี แต่เด็กสาวเพิ่งมีโอกาสพบตัวจริงของเธอในงานมิ้ตติ้งของเวปไซด์แห่งหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน จิรวรรณหรือจ๊ะจ๋าเป็นหญิงสาวรูปร่างสูงประมาณร้อยหกสิบกว่าๆ ใส่แว่นตาหนา รูปร่างบอบบาง แต่งตัวเชยๆ ไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาอะไร ทำให้เมื่อตอนเจอกันครั้งแรกนุชนาฏหลงเข้าใจผิด คิดว่าอีกฝ่ายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายเช่นเดียวกับเธอ

‘พี่อยู่มหาวิทยาลัยแล้วค่ะ’ จิรวรรณบอกชื่อมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่งในเมืองไทยให้เธอฟัง
‘โห เห็นหน้าแล้วไม่รู้เลยนะคะเนี่ยว่าพี่เป็นนักศึกษา แล้วพี่เรียนอยู่คณะอะไรคะ’ นุชนาฏถามด้วยความสนใจ
‘บริหารค่ะ เอกการตลาด’
‘เหรอคะ ดีจัง แสดงว่าพี่ต้องเก่งเรื่องวางแผนการตลาดสิ เนี่ย เทอมหน้าอาจารย์ที่โรงเรียนกำลังจะให้เนยทำโครงงานชิ้นหนึ่งอยู่ ต้องผลิตหรือไม่ก็หาของไปขายเพื่อมาเขียนรายงาน กลุ่มเนยยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรดี’ เด็กสาวได้ทีเริ่มออกอาการร้องโอดโอยหาคนเห็นใจ
แหงสิ ก็อยู่บ้านเธอบ่นเรื่องนี้ให้พี่น้ำฟังไม่ได้นี่นา เพราะพี่น้ำมักรู้ทันความเจ้าเล่ห์ของเธอเรื่องหาคนช่วยทำรายงาน

‘ฟังดูน่าสนุกดีออก พี่ช่วยคิดเอาไหม’ พี่สาวคนสวยดูเหมือนจะยังไม่ทันเกมเธอ ตกหลุมพรางเข้าอย่างจัง ขันอาสาช่วยด้วยความเต็มใจ
หลังจากวันนั้นมา นุชนาฏก็ดูเหมือนจะมีเรื่องให้ออนไลน์คุยกับหญิงสาวแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นไอเดียเกี่ยวกับการเขียนโครงงาน การวางแผนขายสินค้า รวมไปถึงการเขียนรายงานออกมาเป็นรูปเล่ม เธอได้จิรวรรณเป็นทั้งคนช่วยคิดแล้วก็คนช่วยตรวจทานแก้ไข เรียกได้ว่าเกรดสี่ของวิชานี้มาจากจิรวรรณล้วนๆ

“อืม... จะว่าไป พี่สาวคนนี้ก็ดูดีทีเดียว ทั้งใจดี ทั้งน่ารัก เหมาะกับตำแหน่งพี่สะใภ้ของเรา” เด็กสาวนั่งพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับแผนการใหม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในหัวสมองน้อยๆ
คอยดูนะงานนี้เธอจะเป็นนางมาร..เอ๊ย ไม่ใช่ นางฟ้า เสกซินเดอเรล่าให้มาพบเจ้าชายให้จงได้ นุชนาฏคิดด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ


จิรวรรณกำลังนั่งเช็คอีเมลกว่าห้าสิบฉบับ เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมาเธอมัวแต่วุ่นวายอยู่กับรายงานและการเตรียมตัวสอบปลายภาค ทำให้ไม่มีเวลาว่างมานั่งเช็คเมลมากนัก หญิงสาวขยับตัวบิดขี้เกียจเล็กน้อย พลางเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้อง เมื่อตระหนักได้ว่าท้องของเธอเริ่มเกิดอาการเรียกร้อง
โธ่ นี่มันเกือบจะบ่ายสองแล้วนี่นา ถึงเวลาหาอะไรใส่ท้องได้แล้ว เธอขยับตัวหันกลับมายังหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ขออีกสักฉบับแล้วกัน ก่อนจะเข้าครัวไปทำกับข้าวกิน
ว่าแล้วมือบางก็คลิกเข้าไปยังอีเมลฉบับใหม่ซึ่งกำลังนอนรออยู่ในช่องใส่จดหมาย

สวัสดีค่ะพี่จ๋า...
แปลกใจไหมคะที่เห็นเมลของเนย ช่วงนี้พี่จ๋าเป็นไงบ้าง ยุ่งมากรึเปล่า รบกับรายงานมาตลอดทั้งเทอมสนุกไหมเอ่ย ส่วนเนยเองกำลังวุ่นๆ อ่านหนังสือสอบอยู่ เลยไม่ได้คุยกับพี่เลย จริงสิ ลืมบอกไปว่าโครงงานที่พี่เคยช่วยเนยเมื่อคราวก่อนทำให้เนยได้เกรดสี่วิชานี้มาด้วยล่ะ หุๆ ขอบคุณมากเลย พี่จ๋าเหมือนแม่พระมาโปรดจริงๆ
แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เมลฉบับนี้เนยไม่ได้มาขอความช่วยเหลืออะไรนะคะ เนยตั้งใจมาชวนพี่ไปเที่ยวค่ะ เดือนหน้าจะมีงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ พี่จ๋าไปไหมเอ่ย เนยอยากไปหานิยายสนุกๆ อ่านแก้เครียด ช่วงสอบนี้เนยปวดหัวกับหนังสือเรียนมากๆ
รอคำตอบของพี่นะคะ
เนย


จิรวรรณอดยิ้มกับอีเมลฉบับนี้ไม่ได้ เมื่อนึกถึงเด็กสาวหน้าตาน่ารักซึ่งรู้จักกันผ่านทางเวปบอร์ดนิยาย จะว่าไปเธอเองก็ถูกชะตากับน้องคนนี้อยู่ไม่น้อย เนื่องจากทั้งสองมีงานอดิเรกเหมือนกันคือการอ่านนิยาย ทั้งเธอและน้องเนยต่างเป็นหนอนหนังสือและแฟนนิยายตัวยง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทั้งสองมีเรื่องมากมายให้คุยและแลกเปลี่ยนกัน
ไปเดินซื้อหนังสือกับน้องเนยก็ท่าจะไม่เลวแหะ จิรวรรณคิดขณะตอบอีเมลของเด็กสาว อีกอย่าง เธอเองก็จะไปงานหนังสืออยู่แล้ว

ประมาณสองทุ่มของวันนั้น ขณะหญิงสาวกำลังนั่งตอบอีเมลฉบับสุดท้ายอยู่ บนหน้าจอมุมขวาล่างก็ปรากฏชื่อของบุคคลหนึ่งขึ้น
‘น้องเนย has just signed in’
ยังไม่ทันจะเข้าไปทักเด็กสาว อีกฝ่ายหนึ่งกลับส่งตัวการ์ตูนยิ้มหวานมาทักทายเสียก่อน

น้องเนย says : สวัสดีค่ะพี่จ๋า แหมวันนี้โชคดีจัง กำลังนึกอยู่เชียวว่าออนไลน์มาจะได้เจอพี่รึเปล่า
จ๊ะจ๋า says : ดีจ้าน้องเนย ช่วงนี้พี่กำลังเร่งทำรายงานอยู่ เลยออนไลน์คุยกับเพื่อนทั้งวัน ได้อ่านเมลแล้วนะ เนยจะไปวันไหนเอ่ย?
น้องเนย says : ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ น่าจะเป็นเสาร์อาทิตย์มากกว่า แล้วพี่จ๋าล่ะคะ ว่างวันไหนบ้าง
จิรวรรณนั่งนิ่งทวนคำถามที่เด็กสาวถามกลับมา อืม จะว่าไปแล้ว ช่วงจัดงานหนังสือก็เป็นช่วงปิดเทอมพอดีนี่นา ถึงเวลานั้นเธอคงเคลียร์รายงานต่างๆ ส่งอาจารย์หมดแล้ว
ไม่ถึงนาทีต่อจากนั้น หญิงสาวก็จรดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ตอบกลับไป
จ๊ะจ๋า says : พี่ว่างเกือบทุกวันแหละค่ะ เอาเป็นว่าถ้าเนยจะไปวันไหนโทร.หาพี่ดีไหม
น้องเนย says : ดีเลย แต่เนยยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์พี่เลยนะคะ เราคุยกันแต่ในเอ็มมาตลอด คราวนี้ขอเบอร์พี่ไว้ได้ไหมคะ จะได้โทร.หากัน
จิรวรรณกดแป้นพิมพ์หมายเลขมือถือของเธอลงไป
น้องเนย says : ขอบคุณค่ะพี่จ๋า นี่เบอร์ของเนย ...
นุชนาฏตอบกลับมา ในขณะที่จิรวรรณรีบคว้ามือถือมาบันทึกเบอร์ใหม่เข้าไปก่อนจะลืม
จ๊ะจ๋า says : พี่จะรอโทรศัพท์เนยน้า ^_^
เธอส่งท้ายก่อนบอกลาเนื่องจากวันนี้ใช้อินเตอร์เน็ตมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมงจนเกินอัตราที่ตัวเองตั้งไว้เสียแล้ว

“แล้วเจอกันค่ะพี่จ๋า” นุชนาฏพึมพำกับตัวเองอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เด็กสาวมองดูตัวเลขสิบหลักบนหน้าจอเครื่อง ในใจเริ่มคิดแผนการบางอย่าง
ฮาฮ่า ในที่สุดนางฟ้าก็จะเริ่มร่ายมนตร์แล้ว...

จิรวรรณเดินทางมาถึงร้านกาแฟที่นัดกับเพื่อนๆ ไว้ช้ากว่าใคร นัยน์ตาหวานหลังกรอบแว่นมองผ่านประตูกระจกเข้าไปในร้านมองเห็นบรรดาเพื่อนของเธอกำลังสาละวนอยู่กับการเปิดโน้ตบุ๊คอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน
“มาสายเชียวนะยายจ๋า” ศศพินทุ์ เพื่อนคนหนึ่งในโต๊ะเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวเปิดประตูเข้าร้านมา
“โทษที เมื่อวานนอนดึกไปหน่อยก็เลยตื่นสาย” จิรวรรณบอกพลางนั่งแปะลงบนเก้าอี้ว่าง
“ท่าทางแกเหมือนยังไม่ตื่นเลย ไปหากาแฟกินก่อนดีไหม” ชลธารบุ้ยใบ้ไปทางเคาน์เตอร์ที่มีคนยืนรอต่อคิวอยู่แค่คนเดียว

“ก็ดี งั้นฝากเปิดคอมพ์ให้ฉันด้วยนะ”
“ย่ะ มาสายแล้วยังมาใช้เพื่อนอีกนะ” มุจรินทร์ หญิงสาวปากร้ายประจำกลุ่มค่อนขอด
จิรวรรณได้แต่ยิ้มรับ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนของเธอปากร้ายไปอย่างนั้นเอง หญิงสาวเดินตรงมายังเคาน์เตอร์กาแฟภายในร้าน ขณะกำลังเงยหน้ามองเมนูเครื่องดื่มอย่างใจลอย เธอก็รู้สึกถึงแรงกระแทกตรงหัวไหล่ด้านซ้าย ก่อนความเย็นของกาแฟและน้ำแข็งแก้วใหญ่จะหกใส่เสื้อตัวสวย

“อุ๊ย!” จิรวรรณอุทานด้วยความตกใจ เสื้อแขนยาวสีขาวตัวสวยยามนี้กระดำกระด่างไปด้วยคราบกาแฟ
“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรรึเปล่า” ชายหนุ่มเจ้าของกาแฟเย็นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ เขาก้มลงเก็บแก้วกาแฟที่ตกอยู่บนพื้นก่อนจะหันกลับมาเอ่ยขอโทษหญิงสาวอีกครั้ง
เพราะน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของอีกฝ่าย ทำให้เธอหันกลับมามองใบหน้าของคนตรงหน้า ดวงหน้าคมเข้มภายใต้กรอบแว่นตาสีชาไม่ได้ช่วยบดบังความหล่อของชายผู้นี้ได้เลย นัยน์ตาหวานเบิกโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผู้ชายต้นเหตุที่ทำให้เสื้อผ้าเธอเปรอะเปื้อนนั้น หล่อเหลาไม่ต่างจากเทพบุตร

แม่เจ้า ผู้ชายเบื้องหน้าเธอคนนี้มนุษย์หรือเทวดากันแน่ ทำไมถึงได้หล่อแบบไม่เกรงใจใครแบบนี้ จิรวรรณกรีดร้องอยู่ในใจด้วยความตกตะลึง สายตาหลุบต่ำลงด้วยความเขิน ไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
“ยายจ๋าเป็นอะไรรึเปล่า” ก่อนจิรวรรณจะทันได้เอ่ยปากอะไรออกไป บรรดาเพื่อนๆ ซึ่งกำลังสุ่มหัวกันอยู่ที่โต๊ะก็กรูกันเข้ามาหาเธอด้วยความเป็นห่วง เช่นเดียวกับพนักงานในร้านกาแฟ เดินไปหยิบกระดาษทิชชู่มาส่งให้เธอ

“ไม่เป็นไร แค่กาแฟเย็น” จิรวรรณบอกเมื่อเห็นหน้าตื่นๆ ของแต่ละคน
“แต่เสื้อแกเลอะหมดแล้ว ไปห้องน้ำไหม” ศศพินทุ์ถามด้วยความเป็นห่วง
“อืม ก็ดี” หญิงสาวพึมพำบอกเพื่อน ก่อนขอตัวเดินตรงไปยังห้องน้ำ
อาจเป็นความซวยซ้ำสองในรอบวันนี้เพราะเธอดันใส่เสื้อสีขาวออกจากบ้านมา ทำให้คราบกาแฟดวงใหญ่ที่เลอะอยู่บริเวณบ่าซ้ายไม่มีท่าทีจางออกไปได้เลย
เมื่อไม่สามารถล้างคราบกาแฟออกไปได้มากกว่านี้ จิรวรรณเลยเริ่มถอดใจคว้ากระดาษทิชชู่มาซับเสื้อให้พอแห้งก่อนเก็บข้าวของเดินออกจากห้องน้ำมา

หากเมื่อเดินพ้นจากประตูห้องน้ำมา ร่างสูงของผู้ชายที่ชนกันเมื่อครู่กลับกำลังยืนรอเธออยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ
“เสื้อคุณเป็นยังไงบ้าง” เสียงนุ่มๆ เอ่ยปากถาม จิรวรรณไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้มายืนรอเธออยู่หน้าห้องน้ำหญิงนานเท่าไหร่ หรืออาจจะตั้งแต่ตอนเธอเดินเข้ามาก็เป็นได้ และเมื่อดูจากสีหน้าเขาแล้ว เขาเองก็คงเสียใจไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอากลับไปซักก็คงหาย คุณไม่ต้องรู้สึกผิดขนาดนั้นก็ได้” เสียงหวานตอบกลับไปพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้ใส่เสื้อตัวเก่งนี้อีกก็ตาม แต่ท่าทางของผู้ชายตรงหน้าทำให้เธอไม่นึกโกรธเคือง
โธ่ ใครจะกล้าโกรธคนหล่อได้ลงคอล่ะ จริงไหม

“ผมขอโทษจริงๆ ถ้าหากมีอะไรที่ผมพอช่วยได้” เขาถามด้วยท่าทีเสียใจ นัยน์ตาคมงอนยาวไปด้วยแพขนตาหนามองรอยด่างบนตัวเสื้อด้วยความไม่สบายใจนัก
“เรื่องแค่นี้เอง วันนี้คงเป็นวันไม่ดีของฉันมากกว่า แถมฉันเองก็ยังซุ่มซ่ามด้วย ยืนอยู่ข้างหลังคุณแท้ๆ กลับไม่ทันระวังตอนคุณถอยหลังมา” เธอพยายามพูดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดไปมากกว่านี้
แค่กาแฟหกใส่ ไม่ได้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเสียหน่อย อย่างน้อยเธอก็มีโอกาสได้เห็นหน้าคนหล่อๆ แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เมื่อคิดเช่นนี้ จิรวรรณจึงขอตัวเลี่ยงจากมา

“เดี๋ยวครับ ถ้ายังไงคุณเปลี่ยนมาใส่เสื้อตัวนี้แทนดีกว่า” เขาบอกพลางยื่นเสื้อยืดคอกลมสีขาวตัวหนึ่งให้
เพียงแค่มองปกเสื้อก็รู้แล้วว่าเสื้อยืดในมือเธอเป็นเสื้อมียี่ห้อ ราคาของเสื้อตัวนี้คงไม่ต่ำกว่าหลักพันเป็นแน่
โห นอกจากหล่อแล้วยังใจดีอีก จิรวรรณนึกชื่นชมเขาอยู่ในใจ แต่ก็ยังไม่กล้ายื่นมือออกไปรับของจากอีกฝ่าย
“เสื้อราคาแพงขนาดนี้ฉันว่าคงไม่ค่อยเหมาะหรอกค่ะ” เมื่อคิดถึงความสมเหตุสมผลแล้ว เสียงหวานจึงเอ่ยปากค้าน
“เถอะครับ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ผมเสียมารยาทกับคุณ ลองไปเปลี่ยนดูเผื่อพอใส่ได้”
“แต่ฉันว่ามันก็ไม่ควรอยู่ดี จู่ๆ คุณเอาเสื้อมาให้ฉันแบบนี้ เจ้าของเขาไม่ว่าเอาเหรอคะ” เธอถามเพราะดูจากขนาดเสื้อและแบบเสื้อในมือชายหนุ่ม ร้อยทั้งร้อยต้องเป็นเสื้อผู้หญิงอย่างแน่นอน
น่าแปลกผู้ชายจะมีเสื้อผ้าผู้หญิงติดรถได้ยังไงกัน
“ไม่หรอกครับ เสื้อตัวนี้ของน้องสาวผมเอง แต่เธอคงไม่เอา เพราะตั้งแต่ซื้อมาก็กองอยู่บนรถผมมาหลายเดือนแล้ว”

เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของอีกฝ่าย สุดท้ายจิรวรรณเลยไม่กล้าขัด ยอมเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เสื้อที่ชายหนุ่มให้เธอมาค่อนข้างตัวเล็ก บ่งบอกว่าเจ้าของคนเก่าคงมีรูปร่างไม่ต่างจากเธอนัก จิรวรรณจึงสามารถสวมใส่เสื้อตัวนั้นได้อย่างพอดีราวกับเขาเลือกมาให้เธอ
“ขอบคุณนะคะสำหรับเสื้อ แต่ฉันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี เสื้อของคุณตัวนี้มันแพงกว่าของฉันตั้งไม่รู้กี่เท่า” เธอบอกด้วยท่าทีเป็นกังวล ในเมื่อเสื้อของเธอตัวราคายังไม่ถึงสองร้อยเลยด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่าแทนคำขอโทษของผมแล้วกัน” เขาบอกด้วยท่าทีสุภาพก่อนขอตัวจากไป
ปล่อยให้คนข้างหลังยืนมองตามด้วยแววตาเคลิ้มฝัน หากเพียงไม่นานจิรวรรณก็จำต้องเอ็ดกับตัวเองเบาๆ
“บ้าน่ายายจ๋า ยังไม่เข็ดเรื่องผู้ชายอีกหรือไง หลงละเมอเพ้อพกอีกแล้ว” เธอส่ายหน้ากับอารมณ์เคลิ้มฝันของตัวเอง พยายามซุกซ่อนมันไว้ยังส่วนลึกสุดของหัวใจ ขณะเดินกลับมาหาเพื่อนๆ ในกลุ่ม

“เป็นไงบ้างยายจ๋า อ้าว แล้วนั่นไปเอาเสื้อตัวใหม่มาจากไหนกัน” ศศพินทุ์เอ่ยถามขึ้นทันที
“ผู้ขายคนนั้นให้ฉันมา เขาคงรู้สึกผิดที่ทำเสื้อฉันเลอะ”
“ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นย่ะ รู้ไหมว่าคนที่ทำกาแฟหกใส่แกน่ะเป็นใคร เขาเป็นถึงดาราเชียวนะ” มุจรินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“จริงรึ ทำไมฉันไม่เห็นรู้จักเลย”
“ไม่แปลกสำหรับหนอนหนังสืออย่างเธอหรอก ก็เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นานนี่นา เขาขื่อมนัส ตอนนี้กำลังเล่นละครเรื่องรักนี้แด่เธอ เป็นพี่ชายของนางเอก แต่ฉันว่าเขาหล่อมากเลยนะ ยิ่งได้เห็นตัวจริง ยิ่งรู้สึกว่าทั้งหน้าตาดี นิสัยก็ดี” มุจรินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคลิ้มฝัน

“ใช่ๆ ฉันว่าอีกหน่อยเขาต้องได้รับบทเป็นพระเอกแน่ๆ ยายจ๋า แกโชคดีแล้วล่ะ ได้เสื้อมาจากเขาแบบนี้ อีกหน่อยพอเขากลายเป็นดาราดัง เสื้อยืดที่เขาให้แกมาก็คงพลอยขายได้ราคาไปด้วย” ศศพินทุ์แซวเพื่อน
“บ้า เลิกพูดเรื่องนี้แล้วมาทำรายงานกันต่อเถอะ วันนี้ฉันไม่อยากกลับบ้านดึก” กว่าจิรวรรณจะดึงพวกเพื่อนๆ ให้กลับมาจดจ่อกับรายงานได้ก็เสียเวลาไปกว่าชั่วโมง หลายคนยังคงอดพูดถึงชายหนุ่มเจ้าของเสื้อต่อไม่ได้
แม้กระทั่งตัวจิรวรรณเอง หลายครั้งเธอก็เผลอนึกถึงไปถึงนัยน์ตาคมเข้มของมนัส จนเป็นเหตุให้สมาธิของเธอหลุดลอยไปเสียหลายครั้ง

มนัสรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันค่อนข้างเลวร้ายสำหรับเขา ตั้งแต่ขับรถออกมาจากบ้านมามีแต่เรื่องผิดพลาดตลอดเวลา เขาจำสถานที่นัดคุยงานกับผู้จัดละครผิดจนต้องโทร.ไปขอโทษและขอเลื่อนนัดเป็นวันอื่น แถมเมื่อตอนบ่ายขณะกำลังขับรถกลับบ้าน เขาตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในร้านกาแฟเพื่อหาอะไรดื่มแก้ง่วง แต่ตัวเองกลับซุ่มซ่ามทำกาแฟหกใส่ผู้หญิงคนหนึ่ง ยังโชคดีอยู่หน่อยตรงที่เธอไม่มีท่าทีโมโหหรือต่อว่าเขาเลยแม้แต่น้อย แถมยังปฏิเสธเสียงแข็งเมื่อเขายื่นเสื้อราคาแพงให้แทนเสื้อตัวเก่าที่เลอะคราบกาแฟ สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาอดรู้สึกประทับใจในตัวหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ น้อยครั้งเหลือเกินเขาจะเห็นน้ำใจและการให้อภัยจากคนแปลกหน้าสักคน

ที่สำคัญ นัยน์ตาหวานภายใต้แว่นตาหนาของเธอคนนั้นทำให้เขาหวนคิดไปถึงเด็กหญิงตัวน้อยที่เคยรู้จักในอดีต

นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินชื่อนี้...จ๋า... ชื่อนี้หวนกลับมาสู่ความทรงจำอีกครั้ง

ภาพเด็กหญิงตัวน้อยผูกแกละสองข้าง แก้มตุ้ยนุ้ยและรอยยิ้มหวานที่มองเขาไม่ต่างจากฮีโร่คนหนึ่งยังคงเด่นชัด แม้ว่าวันเวลาเหล่านั้นจะล่วงเลยมาถึงสิบสี่ปีแล้วก็ตาม
มนัสยังจำวันแรกที่ได้พบกับเด็กหญิงน้อยคนนั้นได้ดี ในฤดูร้อนปีแรกเมื่อเขากลับมาอยู่เมืองไทย ช่วงปิดเทอมเป็นเวลาแสนเปลี่ยวเหงา เพราะเขาไม่มีเพื่อนคอยเล่น คอยชวนทะเลาะ แต่ละวันในฤดูร้อนผ่านพ้นไปพร้อมกับความน่าเบื่อ เบื่อทั้งเมืองไทย เบื่อทั้งบ้านที่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน เมื่อมารดาเลี้ยงของเขาให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อย เขาแทบไม่มองหน้าน้องสาวต่างมารดาคนนี้เลย แม้ว่าจะอยู่ร่วมบ้านกันมานานถึงสามปี ทุกๆ วันนับตั้งแต่เด็กคนนี้ลืมตาดูโลกขึ้นมา มนัสรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงแค่ส่วนเกินของครอบครัว ยามเมื่ออยู่อังกฤษ เขามักหาเรื่องออกไปเที่ยวเล่นกับกลุ่มเพื่อน จนถึงขั้นไปมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนต่างโรงเรียน แต่เมื่อย้ายมาอยู่เมืองไทย ด้วยความไม่คุ้นชินกับประเทศนี้บวกกับภาษาไทยที่ยังไม่คล่องนัก มนัสจึงใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหมกตัวเองอยู่แต่ในห้องนอน หรือไม่ก็ตระเวนขี่จักรยานไปทั่วหมู่บ้าน

วันหนึ่งในช่วงปิดเทอมอันแสนน่าเบื่อ มนัสขับจักรยานออกไปนั่งเล่นในสวนสาธารณะประจำหมู่บ้านเพียงลำพัง สายตาของเขาเหม่อลอยออกไปเห็นบรรดาสมาชิกคนอื่นๆ ในหมู่บ้านต่างพาครอบครัวออกมาเดินเล่นยังสวนสาธารณะ ในขณะกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น จู่ๆ ลูกบอลยางลูกหนึ่งก็กลิ้งมาชนแผ่นหลังของเขา เมื่อหันกลับไปมอง เขาเห็นร่างเล็กตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อยคนหนึ่งยืนมองเขาอยู่ด้วยนัยน์ตากลมโต

นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับเด็กหญิงตัวน้อย และยิ่งเมื่อรู้ว่าบ้านของเธอและเขาตั้งอยู่ติดกัน ชีวิตช่วงปิดเทอมฤดูร้อนต่อจากนั้นก็ไม่ได้เงียบเหงาอีกเลย เมื่อเขาได้รู้จักครอบครัวของเด็กน้อยที่คอยชักชวนเขาทำนู่นทำนี่ โดยมีเด็กหญิงขี้อายคนหนึ่งคอยเมียงมองเขาจากด้านหลังมารดา ความน่ารัก ไร้เดียงสาของเด็กหญิงข้างบ้านช่วยเปิดใจซึ่งเคยปิดตายของเด็กหนุ่มออก ให้เริ่มต้นยอมรับกับความเป็นจริง และครอบครัวใหม่ที่พร้อมจะให้ความอบอุ่นแก่เขาไม่ต่างจากมารดาผู้ให้กำเนิด
น่าเสียดาย เรื่องราวในวันวานนั้นผ่านมาแสนนานเหลือเกิน เขาในวันนี้ก็ไม่กล้าถามเธอคนนั้นออกไปว่า เธอจะใช่เด็กหญิงในความทรงจำของเขารึเปล่า

เกือบสองสัปดาห์มาแล้ว นุชนาฏมัวแต่หมกมุ่นกับการอ่านหนังสือสอบ เด็กสาวแทบจะลืมเรื่องนัดหมายกับจิรวรรณไป จนกระทั่งวันสุดท้ายของการสอบ ขณะกลับมาถึงบ้าน เธอมองไปเห็นรองเท้าส้นตะปูสีแดงคู่หนึ่งถอดวางอยู่หน้าบ้าน นุชนาฏเบ้ปากด้วยความไม่ชอบใจนัก รองเท้าเลิศหรูยี่ห้อดังแบบนี้คงเป็นของใครไปไม่ได้หรอก นอกจากยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กคนนั้น
จะมาล่อลวงอะไรพี่ชายของเธออีกล่ะ

การคาดเดาของเด็กสาวเป็นดังคาด เพราะเมื่อเปิดประตูเข้ามา เสียงหัวเราะคิกคักดังแทรกผ่านมาจากทางหลังบ้าน ช่างชวนให้คลื่นไส้เสียเนี่ยกระไร
“พี่น้ำขา เนยกลับมาแล้ว” นุชนาฏส่งเสียงแจ๋วๆ ขณะชะโงกหน้าไปยังบริเวณห้องครัวของบ้าน
“อ้าว น้องเนยกลับมาแล้วเหรอคะ คุณน้ำออกไปซื้อของข้างนอก เดี๋ยวก็เข้ามา น้องเนยเหนื่อยรึเปล่าคะ”เกศนภาหันมาถามพร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าสะพาย

เออแหะ วันนี้มาแปลก ทำไมจู่ๆ ถึงพูดกับเธอแสนดีแบบนั้นล่ะ ปรกติผู้หญิงคนนี้ไม่เคยสนใจเธอด้วยซ้ำไป อ๊ะ แต่อย่าคิดนะว่าคนอย่างยายเนยจะหลงกลแม่สุนัขจิ้งจอก ก็แหม ดูสิ ปากออกจะหวานปานนั้น แต่สองตาคุณเธอหันมามองคู่สนทนาเสียที่ไหน
“สวัสดีค่ะพี่เก๋ ทำไมวันนี้ถึงมาอยู่บ้านเนยได้ล่ะ บ้านพี่ไม่มีหรือไง” เด็กสาวเริ่มต้นสงครามยกที่หนึ่ง
“อะไรกันน้องเนย ทำไมพูดจาแบบนี้ วันนี้พี่มาช่วยทำอาหารให้เนยกับคุณน้ำทานไงคะ ตามที่เคยสัญญาไว้” เสียงหวานจีบปากจีบคอบอก

“เหรอคะ ทำไมเนยจำไม่เห็นได้เลย ว่าแต่ไหนล่ะคะข้าวเย็น เนยยังไม่เห็นพี่เตรียมอะไรสักอย่าง” นุชนาฏถาม เมื่อเหลือบไปเห็นห้องครัวในบ้านยังปราศจากร่องรอยการเตรียมอาหาร
“แหม สมัยนี้เขาไม่ต้องลงมือทำอาหารกันเองหรอก ยุคเร่งรีบแบบนี้แค่ยกหูโทรศัพท์ก็มีอาหารมากมายมาส่งถึงที่ แถมอร่อยอีกต่างหาก” เกศนภาว่า ขณะชูโทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วในมือให้อีกฝ่ายดู
“อ้อ ที่แท้ก็ทำไม่เป็นนี่เอง ถึงได้ต้องพึ่งบริการส่งอาหาร” นุชนาฏแกล้งพึมพำเสียดัง
“เอ๊ะ น้องเนย นี่พี่พูดด้วยดีๆ แล้วนะ ทำไมถึงได้พูดจาน่าเกลียดแบบนี้” เกศนภาเริ่มขึ้นเสียง ความจริงความอดทนของเธอก็มีอยู่ไม่มากนัก

นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ามนัสรักน้องสาวมากแค่ไหน เธอเองคงไม่คิดจะมาญาติดีกับยายเด็กแสบคนนี้หรอก
‘ไม่ได้หรอกยายเก๋ ถ้าคิดจะจับคุณน้ำล่ะก็ ด่านแรกคือเธอต้องฝ่าน้องสาวคนเดียวของเขาไปให้ได้เสียก่อน’ ธิดา เพื่อนสาวผู้เคยร่วมงานกับมนัสมาก่อนเพิ่งบอกกับเธอผ่านสายโทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้
‘น้องสาวมาเกี่ยวอะไรด้วย สมัยนี้มันยุคอะไรแล้ว ชายหญิงจะแต่งงานกันอยู่ที่คนสองคนไม่ใช่ครอบครัวหรือญาติๆ ของเขาสักหน่อย’ หญิงสาวตอบด้วยความมั่นใจ

‘แต่รายนี้เกี่ยวย่ะ คุณน้ำขึ้นชื่อจะตายว่าเป็นพี่ชายแสนดีรักน้องสาวเอามากๆ ถึงขนาดเคยได้ยินคุณน้ำเปรยๆ เลยด้วยซ้ำว่าถ้าคิดจะมีแฟนจริง สงสัยคงต้องให้น้องสาวหาให้’ ธิดาบอก
‘บ้าไปแล้ว น้องก็อยู่ส่วนน้อง พี่ก็อยู่ส่วนพี่สิ’ เกศนภาพูดอย่างไม่สบอารมณ์นัก นึกถึงวันที่เคยมีปากเสียงกับยายเด็กแก่แดด
ถ้าคำพูดของเพื่อนสาวเป็นความจริง ป่านนี้คะแนนเธอคงหล่นวูบไปถึงไหนต่อไหน
‘ก็เขามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้องนี่นา พ่อกับแม่ไปอยู่เสียต่างประเทศ ทิ้งน้องสาวคนเดียวไว้ให้ดูแล แล้วผู้ชายแสนดีแบบคุณน้ำ เธอคิดว่าเขาจะทิ้งน้องสาวได้ลงเหรอ’ อีกฝ่ายถาม

นั่นคือสาเหตุทำให้เกศนภาต้องจำใจหันมายิ้มหวานใส่เด็กสาว ทั้งๆ ที่ในใจกำลังนึกสาปแช่งอยากให้ยายเด็กตัวแสบย้ายสังขารตัวเองไปอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองนอก เธอจะได้ไม่ต้องมาเป็นมารผจญความสุขในขณะนี้
“ไม่ต้องมายิ้มหวานใส่เนยหรอกค่ะพี่เก๋ รู้ๆ กันอยู่ว่าพี่เองก็ไม่ได้ปรารถนาดีกับเนยสักเท่าไหร่” นุชนาฏบอกขณะเปิดตู้เย็นเทน้ำหวานใส่แก้วดื่มดับกระหาย
ทั้งๆ ที่อากาศไม่ร้อน แต่ไม่รู้ทำไมในใจกลับร้อนรุ่ม ผู้หญิงคนนี้มาบ้านของเธอเป็นครั้งที่สองแล้ว สองครั้งเชียวนะยายเนย ถือเป็นสถิติน่ากลัวเอามากๆ ทั้งๆ ที่เคยเอ่ยปากเรื่องนี้กับพี่น้ำแล้ว แต่ทำไมคราวนี้ดูเหมือนว่าพี่ชายกลับไม่ฟังเธอ

“หึ ก็ดี ในเมื่อรู้แล้วนี่นาว่าพี่ต้องการอะไร หวังว่าคงไม่มายุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่ชายหรอกนะ” เกศนภาบอก ขณะเหยียดยิ้มอย่างเป็นต่อ
“ใครว่า เรื่องของพี่น้ำก็คือเรื่องของเนยด้วยเหมือนกัน พี่น้ำเคยออกปากแล้วว่าแฟนของเขาจะต้องเป็นคนที่เนยหาให้”
“ได้ไง เธอไม่ใช่แม่ของเขานะยายเด็กบ้า” คราวนี้อารมณ์ของเกศนภาเริ่มพุ่งสูงจี๊ด
ดูท่างานนี้เธอจะเสียเปรียบเสียแล้ว
“ได้ไม่ได้พี่น้ำก็เอ่ยปากมาแล้ว และจะบอกอะไรให้นะคะ คนอย่างพี่เก๋อยู่ต่ำกว่ามาตรฐานของเนยเยอะมากกกก” เด็กสาวแกล้งลากเสียงยาว ทำสีหน้ายียวนอีกฝ่าย
ทำให้อารมณ์ของเกศนภาพุ่งสูงขึ้นเกินขีดจำกัด
นุชนาฏยังไม่ทันได้ตั้งตัว จู่ๆ มือเรียวบางอันประกอบไปด้วยเล็บสีแดงสดก็ยกขึ้น เตรียมฟาดลงบนแก้มนวลของเด็กสาว

“นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ” เสียงตะโกนก้องของมนัสหยุดสองร่างที่กำลังเผชิญหน้ากันให้หันไปมองต้นเสียงด้วยความรู้สึกต่างกันออกไป หนึ่งสาวเกิดความรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องใจ ส่วนอีกหนึ่งสาวกลับหนาวยะเยือกลงไปถึงขั้วหัวใจเมื่อสบสายตาเย็นชาของชายหนุ่ม
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” มนัสถามซ้ำเสียงเย็นขณะกวาดสายตาไปยังบุคคลทั้งสอง
หากจะมีใครสักคนบอกนุชนาฏว่าเมื่อชาติก่อนยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กคนนี้เคยเกิดเป็นปลาไหลมาก่อนล่ะก็ เธอคงปักใจเชื่อได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ก็แหม ดูคุณเธอทำเข้าสิ นี่ขนาดยังไม่ได้มาเป็นพี่สะใภ้เลยนะ

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะน้ำ เราสองคนก็แค่คุยกันตามประสาลูกผู้หญิงเท่านั้น” เกศนภาชิงตอบขึ้นก่อน
“แต่เมื่อกี้ที่ผมเห็นมันไม่ใช่แบบนั้น คุณจะตบหน้าน้องสาวผมทำไม” เสียงของมนัสเข้มขึ้นจนคนฟังเริ่มขนลุก
“โธ่ น้ำคะ เก๋ไม่ได้คิดจะทำจริงเสียหน่อย อย่าทำท่าซีเรียสแบบนั้นสิ” เกศนภาบอกเสียงอ่อย
“ถ้าผมเข้ามาไม่ทันคุณก็คงลงมือไปแล้ว แบบนี้ยังบอกว่าไม่ต้องซีเรียสอีกรึ” เสียงดุๆ หันมาถาม
“ก็...เก๋... เออ...” ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังอึกอัก นุชนาฏได้โอกาสแทรกขึ้นอย่างไม่ไว้หน้า

“พี่น้ำขา เนยไม่รู้นะว่าพี่น้ำคิดยังไงกับเหตุการณ์วันนี้ เนยรู้อยู่อย่างเดียวว่าพี่น้ำต้องจัดการเรื่องนี้ให้เนยด้วย เนยขอตัวก่อนนะคะ” นุชนาฏตัดสินใจทิ้งระเบิดลูกสุดท้ายลง ก่อนเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเอง
ไม่มีใครรู้หรอกว่า หลังปิดประตูเข้าห้องนอนมา เด็กสาวแทบจะเผลอกรีดเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ
ทำไมน่ะหรือ เพราะเธอรู้ดีน่ะสิว่า แผนการคราวนี้ต้องได้ผลอย่างแน่นอน ผู้หญิงคนนั้นไม่มีวันได้มาเป็นแฟนพี่ชายเธอแน่



ริญจน์ธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ม.ค. 2555, 14:39:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ม.ค. 2555, 14:39:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 20435





<< บทนำ - รักแรก   
ริญจน์ธร 13 ม.ค. 2555, 14:45:41 น.
ตอบคอมเม้น
คุณ suejeab เรื่องนี้จะออกหวานใสค่ะ พล็อตอาจเบาหน่อย แต่อ่านง่ายๆ เหมาะกันวันเครียดๆ ค่ะ

คุณ Neferretti บุคคลิกหนูจ๋าอาจไม่แสบนัก เพราะมีคนแสบกว่านั้นค่ะ เป็นใคร อ่านตอนนี้แล้วน่าจะพอทราบนะคะ^^

คุณ Malassia ขอบคุณมากค่ะ จะทยอยอัพเรื่อยๆ นะคะ

คุณ หมูอ้วน ดีใจที่เจอชื่อคนอ่านคนนี้ทุกเรื่องเลย (ปลื้ม) เอาบทเต็มๆ มาให้แล้วค่ะ

คุณ ann บทนำสั้นไปนิด เอาตอนเต็มๆ มาแล้วค่ะ

คุณ ใบบัวน่ารัก ประมาณประถมต้นค่ะ รักใสๆ ของเด็กค่ะ แต่จะลึกซึ้งต่อจากนี้ไหม ต้องติดตาม

คุณ XaWarZd ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้นางเอกออกแนวน่ารัก เป็นผู้ถูกกระทำ อิอิ แต่จะโดนกระทำไรบ้าง ต้องติดตามต่อนะคะ


XaWarZd 13 ม.ค. 2555, 15:59:07 น.
เนยได้ใจยกให้เต็มร้อย รักแรกจะกลับมาเจอกันแล้วซินะ


Zephyr 13 ม.ค. 2555, 17:29:40 น.
อ่าฮะ ทราบแล้วค่ะว่าใครแสบกว่า หึหึ องครักษ์พิทักษ์นางเอกนี่เอง น่าร้ากกก จังเลยเรื่องนี้ค่ะอ่านแล้วเคลิ้มอ่ะค่ะ ขอเอาพี่น้ำไปฝันหวานหน่อย เลือกไม่ถูกแล้วระหว่างพี่น้ำกะคุณวาริท ^^


jink 13 ม.ค. 2555, 19:51:40 น.
เป็นน้องสาวที่แสบสันต์จริงๆ อิอิ


ann 13 ม.ค. 2555, 20:06:49 น.
สุดแสบจริงๆ น้องสาวพระเอก 555


ใบบัวน่ารัก 13 ม.ค. 2555, 22:19:08 น.
อ่านยังงง ในตัวละคร แต่ละคน
มาเยอะจัง เด็กหญิงตัวน้อยโตแล้วยัง..


หมูอ้วน 14 ม.ค. 2555, 06:49:38 น.
หมูอ้วนก็ดีใจที่ได้อ่าน นิยายของไรเตอร์เหมือนกานนนค่ะ หุหุ
หนูเนย เก่งจริง ๆ ไม่ธรรมดานะเนี่ย หาคู่ให้หนูเนยด้วยนะค่ะ


nako 14 ม.ค. 2555, 07:54:40 น.
แสบน่าดูเลยน้องเนย


เทียนจันทร์ 14 ม.ค. 2555, 16:54:10 น.
สุดแสบน่ารักนะคะ มีใครคู่ยายตัวแสบรึเปล่า


lookAme 14 มี.ค. 2555, 16:27:34 น.
น้องสาวคนนี้ได้ใจจริงๆ น่าจะมีคู่ด้วยนะ


KeeRa 2 ก.พ. 2556, 21:21:01 น.
อยากมีไว้ซักคนแฮะน้องสาวอย่างนี้ ^-^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account