กรงรักแดนเถื่อน
เขา...เจ้าป่ายักษ์ใหญ่ เขาเถื่อน เขาโหด เขาเหี้ยม แต่เมื่อสบตาสีมรกตงดงามคู่หวานนั่นแล้วก็กลับกลายเปลี่ยนแปลงให้เขาต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของสาวน้อยแสนสวยนั่น...“คุณจะทำอะไร ปล่อยนะ จะพาฉันไปไหนดอม!!” “ไปทำเมีย!!”
Tags: กรงรักแดนเถื่อน ลดา ลัลลดา แก้วจอมขวัญ

ตอน: ตอนที่ 2...คนคุ้นเคย & ยักษ์ใหญ่เจ้าของกระท่อม



บทที่ 2...คนคุ้นเคย & ยักษ์ใหญ่เจ้าของกระท่อม







ความรู้สึกอุ่น ๆ ที่สัมผัสเผ่วเบาไปตามใบหน้าและลำคอทำให้คนที่สลบไสลไปนานหลายชั่วโมงเริ่มรู้สึกตัว และทันทีที่รู้สึกตัวความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วสัพพางค์ทำให้เผลอส่งเสียงครางออกมา มือหนายกขึ้นกุมบาดแผลที่หน้าท้องไว้แน่น ทั้งหน้าท้องทั้งหัวไหล่ เอาตรง ๆ เลยคือเขารู้สึกปวดไปทั่วทั้งตัวเลยตอนนี้ เชนทร์พยายามฝืนความเจ็บปวดเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก ตาคู่หวานราวกับหญิงสาวสีเขียวมรกตค่อย ๆ ลืมขึ้นก่อนจะกระพริบถี่ ๆ เพื่อปรับสายตาเมื่อแสงสว่างจ้าจากหลอดไฟกลางเพดานกระทบเข้าสู่สายตา







“อย่าเพิ่งลุกดอกเตอร์ ร่างกายคุณอ่อนล้ามากนะคะ คุณควรนอนพัก ไม่ต้องกังวลหรอกที่นี่ปลอดภัย ฉันรับรอง”







เสียงหวานที่ฟังดูคุ้นเคยดังเข้าสู่โสตประสาทพร้อมกับสัมผัสนุ่ม ๆ จากฝ่ามือบอบบางที่แตะเข้าที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของเขา ก่อนจะดันให้ลงนอนตามเดิม ทำให้เชนทร์หรี่ตาเพ่งมองใบหน้าที่ก้มลงมาเกือบจะชิดจนมองไม่ถนัด







“ดอกเตอร์วาเรีย? แค่ก ๆ ” เสียงแหบแห้งดังออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผากตามมาด้วยเสียงไอติดกันถี่ ๆ จนคนฟังต้องรีบหันไปรินน้ำจากเหยือกที่วางอยู่ข้างเตียงมาจ่อที่ริมฝีปากบางเฉียบคล้ายผู้หญิงนั่น







วาเรียค่อย ๆ ประคองศรีษะของคนบาดเจ็บให้ลุกขึ้นเพียงนิดให้พอที่จะจิบน้ำได้ คอยกระซิบบอกอีกฝ่ายให้ค่อย ๆ จิบเพราะเขาทำท่าราวกับขาดน้ำมานาน รีบร้อนดื่มเอา ๆ จนแทบสำลัก







“ค่อย ๆ จิบสิคะดอกเตอร์เชนทร์...พอก่อนค่ะ เดี๋ยวคุณได้ตายเพราะสำลักน้ำแทนที่จะเป็นลูกปืนกันพอดี” นำแก้วน้ำที่เหลือน้ำอยู่เล็กน้อยกลับไปวางไว้ที่เดิม แล้วประคองศรีษะได้รูปลงนอนตามเดิม ก่อนจะเปิดปากพูดขึ้นอีกครั้งเพราะเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมาเต็มไปด้วยคำถาม







“เมื่อคืนฉันเจอคุณนอนจมอยู่กลางหิมะที่ชายป่าห่างจากที่นี่ประมาณครึ่งไมล์ได้ เลยพาคุณมาที่นี่...บ้านเก่าพ่อฉันเองค่ะ” ขยายความให้รู้ว่าที่แห่งนี้คือที่ไหน หลังจากที่เห็นตาคู่หวานสีเขียวมรกตงดงามกวาดตามองรอบกายเมื่อได้ฟังเธอบอก “ตอนแรกฉันนึกว่าคุณจะไม่รอดแล้วเสียอีก คุณตัวเย็นมาก”วาเรียนำผ้าที่ยังอุ่น ๆ ที่ตกลงข้างกายเขาก่อนหน้าที่เขารู้สึกตัวขึ้นมาเช็ดไปตามลำคอแกร่งอีกครั้ง







เธอลางานหนึ่งอาทิตย์เพื่อกลับมาที่บ้านเก่าเมื่อวาน เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันตายของบิดากับพี่ชาย ไม่คิดว่าหลังจากกลับจากไปซื้อของใช้และอาหารสำหรับช่วงที่พักอยู่ที่นี่จะพบกับเชนทร์เข้า ตอนแรกที่ขับรถลัดเข้ามาทางแคบ ๆ ที่เป็นทางลัดกลับมาที่บ้าน เธอเห็นเพียงร่างตะคุ่ม ๆ ของอะไรสักอย่างที่ไม่แน่ใจว่าเป็นคนหรือว่าสัตว์หรืออะไร ฟุบคว้ำหน้าอยู่ข้างทาง







กว่าจะตัดสินใจลงจากรถไปดูก็ใช้เวลาคิดนานพอสมควร เพราะแม้ที่นี่จะอยู่นอกเมืองแถมติดชายป่า แต่มันก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะไม่มีคนร้ายหรือมิจฉาชีพ ดีที่เธอพกปืนอยู่ตลอดเวลาทำให้กล้าพอที่จะลงจากรถไปดู และก็ต้องทั้งตกใจและแปลกใจที่พบว่าสิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นคือเชนทร์ ดอกเตอร์หนุ่มลูกครึ่งเพื่อนร่วมงานของตัวเอง







กว่าจะแบกจะลากเขาขึ้นรถลงรถ และพาเข้ามาในบ้านได้ก็สูญเสียพลังงานไปเยอะพอดู เพราะดอกเตอร์เชนทร์ที่เธอเคยเห็นว่าเป็นคนรูปร่างสูงโปร่งดูเพียวนั้น แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็ง ๆ ที่ให้ความรู้สึกของความเป็นผู้ชายมากกว่าภาพภายนอกที่เห็นมากนัก และอีกอย่างเขาก็รู้สึกตัวเร็วเหลือเชื่อเมื่อเปรียบเทียบกับอาการบาดเจ็บที่ได้รับ ซึ่งในความเป็นจริงคนทั่ว ๆ น่าจะสลบไปสักวันสองวันไม่ใช่สองสามชั่วโมงอย่างดอกเตอร์หนุ่มคนนี้







“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมคุณถึงมานอนบาดเจ็บอยู่แถวนี้”







“คุณแน่ใจหรือว่าไม่รู้จริง ๆ ดอกเตอร์วาเรีย” เชนทร์ยันตัวเองลุกนั่งพิงหัวเตียง จับผ้าขนหนูสีขาวที่อีกฝ่ายใช้เช็ดหน้าและลำคอให้มาถือไว้เสียเอง เสียงหายใจดังแรงกว่าปกติพลางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อการขยับตัวทำให้รู้สึกปวดแปลบที่บาดแผล “แต่ยังไงผมก็ต้องขอขอบคุณดอกเตอร์มากที่ช่วยชีวิตผมไว้ หรือ...นี่ผมกำลังนอนรอความตายจากใครบางคนอยู่? ” นั่นสินะ จะมั่นใจได้ยังไงว่าเป็นการช่วยเหลือ ก็ในเมื่อดอกเตอร์สาวคนนี้เป็น...







“พักผ่อนให้สบายเถอะค่ะดอกเตอร์เชนทร์ ฉันว่าฉันบอกคุณไปแล้วว่าที่นี่ปลอดภัย...จากทุกสิ่ง รวมทั้งจากคนที่ตามล่าคุณด้วย แล้วเราค่อยคุณกันต่อพรุ่งนี้” วาเรียถอนหายใจออกมาเบา ๆ กับสายตาระแวงที่ผู้ชายตรงหน้ามองมา ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน เก็บผ้าและอุปกรณ์ทำแผลทุกอย่างขึ้นมาถือไว้ สบสายตากับนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่เธอเคยลอบมองอยู่บ่อย ๆ ช่วงที่ทำงานใกล้ชิดกันตลอดสามปีมานี่ “...แล้วนี่ ถ้าคุณไม่ไว้ใจ...ฉัน” เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะเตี้ย ๆ ข้างเตียงนอน หยิบปืนของตัวเองที่เก็บไว้มาวางไว้ข้างตัวเขา แต่ก่อนที่จะได้หันหลังเดินออกไปก็ถูกมือหนาของอีกฝ่ายจับข้อมือไว้เสียก่อน







“ขอโทษด้วยดอกเตอร์ ถ้าผมพูดจาเสียมารยาททั้ง ๆ ที่คุณช่วยผมไว้แท้ ๆ ” เชนทร์มองสบตาสีน้ำทะเลที่ฉายแววเหมือนน้อยใจอย่างขอโทษ “ผม...ในเวลานี้ผมไม่กล้าไว้ใจใคร โดยเฉพาะ...” เขาหยุดเสียงพูดเปลี่ยนเป็นถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายนั่งลงที่ขอบเตียงตามเดิม







“ฉัน...ที่เป็นผู้หญิงของเขาใช่ไหมค่ะ” วาเรียต่อให้เสียเอง ตามมาด้วยเสียงหัวเราะขืน ๆ นั่นสินะผู้หญิงอย่างเธอ จะมีสิ่งใดให้น่าเชื่อถือกัน โดยเฉพาะกับผู้ชายตรงหน้า ตาคู่คมสีฟ้าทะเลที่หลุบมองมือหนาของเขาที่จับมือเธออยู่ตวัดขึ้นมองแล้วก็ต้องอุทานอย่างตกใจ “บ้าจริง!! นี่คุณจะทำอะไรดอกเตอร์ ฉันเพิ่งบอกให้คุณนอนพักไปหยก ๆ นะ”







วาเรียทิ้งของในมือลงอย่างไม่ใยดี เมื่อเห็นคนเจ็บอย่างเชนทร์ปล่อยมือเธอแล้วพยายามทรงตัวลุกจากเตียงนอน ทั้ง ๆ ใบหน้าขาวซีดจะหมดสติอีกรอบอยู่แล้ว และการขยับตัวทำให้แผลเริ่มปริ จุดแดง ๆ เริ่มซึมบนผ้าพันแผล







“นอนลงไปดอกเตอร์เชนทร์!! ยังไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่าฉันช่วยคุณเอาไว้ และฉันจะไม่บอกเลโอหรือวิคเตอร์ โอเคไหม” เผลอตวาดออกไปด้วยความเป็นห่วง ใช่ เธอเป็นห่วงเขา เป็นห่วงดอกเตอร์หนุ่มลูกครึ่งรัสเซีย-ไทยคนนี้ ทำไมถึงเป็นห่วงน่ะหรือ...







แต่วาเรียก็ไม่มีเวลาจะนึกคิดอะไรมากไปกว่านั้น เมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่เชื่อฟังเธอเอาเสียเลย เชนทร์ปัดมือเธอที่กดไหล่เขาให้นอนลงตามเดิมออก เขาพยายามใช้แขนข้างที่ไม่ได้ถูกยิงจับหัวเตียงไว้แล้วพยายามลุกขึ้นยืนข้าง ๆ เตียงจนเป็นผลสำเร็จ ตอนนี้ทั้งหน้าท้องและหัวไหล่เลือดสีแดงเข้มเริ่มออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ







“ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้น ผมเชื่อที่คุณพูดแม้ว่าจะไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงก็ตาม แต่ตอนนี้ผมต้องไป ต้องไปช่วยน้องสาวผม” น้ำเสียงขาดเป็นห้วง ๆ เพราะคนพูดต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดและฝืนกำลังตัวเองมากไป







สายตาของเชนทร์เต็มไปด้วยความกังวลอย่างที่เจ้าตัวเอ่ยปาก เขาไม่รู้ว่าตอนนี้น้องสาวของเขาจะเป็นยังไงบ้าง เขาเห็นแค่ว่าชินานางค์เข้าไปในป่านั่น...ผืนป่าสนหนาทึบที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่ก็เป็นที่ที่เขาหวังว่าชินานางค์จะหลบซ่อนตัวได้อย่างปลอดภัยที่สุด







“ขอโทษนะดอกเตอร์ แต่ฉันคงต้องพูดว่าก่อนที่คุณจะได้ช่วยน้องสาว ตัวคุณเองนั่นแหละที่คงได้ตายอยู่กลางหิมะข้างนอกนั่นเสียก่อน” เสียงแข็งบอกออกไป จากความห่วงเริ่มจะปนไปด้วยความหมั่นไส้ในตัวคนเจ็บที่ไม่เจียมสังขารตัวเอง มือที่พยายามแตะที่ไหล่หนาเพื่อดันเขาในนอนลงที่เตียงในคราแรกออกแรงทุบดังปึก จนคนเจ็บหลุดเสียงอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด







“โอ๊ย!! นี่คุณ!! จะฆ่าผมหรือไง” เชนทร์จำต้องยอมนั่งลงที่เตียงก่อนจะนอนลงตามเดิมในที่สุด เมื่อมือบางยังไม่หยุดออมแรงทั้งผลักทั้งดันเขา จนเมื่อเห็นว่าเลือดที่หัวไหล่ข้างที่ถูกยิงซึมออกมานั่นแหละวาเรียถึงได้หยุด แล้วเปลี่ยนมาค่อย ๆ ลูบ แตะอย่างเผ่วเบา “ไม่ช้าไปหน่อยหรือคุณ มาแตะเหมือนกลัวผมจะเจ็บทั้งที่เพิ่งจะทั้งทุบทั้งผลักไปหยก ๆ ” ตอนนี้คำเรียกสุภาพแต่ดูห่างเหินว่าดอกเตอร์ ๆ ไม่มีเหลือ มีเพียงน้ำเสียงขุ่นเคืองต่อว่าพร้อมกับสายตาขุ่นมัว







“ฉันขอโทษ แต่คุยทำให้ฉันโมโหเอง” ตาคู่คมของดอกเตอร์สาวชาวรัสเซียนฉายแววเป็นเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป วาเรียต่อว่าตัวเองที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์จนทำให้เขาเจ็บมากกว่าเดิม “ขอโทษนะคะ ฉันรู้ว่าคุณห่วงน้องสาว แต่เชื่อฉันสักครั้งเถอะคุณทำอะไรไม่ได้หรอกในเวลานี้ เอาเป็นว่ารอให้สาย ๆ หน่อยฉันจะลองสืบข่าจากวิคเตร์มาให้ว่าเขาได้ตัวน้องสาวคุณหรือเธอหนีรอดไปได้”







“คุณรู้จริง ๆ สินะว่าใครตามล่าผมกับน้อง” สายตาหวาดระแวงไม่ไว้ใจกลับสู่ดวงตาสีเขียวมรกตอีกครั้ง เชนทร์จ้องมองอีกฝ่ายอย่างคาดคั้นในคำตอบ







ดอกเตอร์วาเรีย...หรืออีกฐานะหนึ่งผู้หญิงของเลโอนิค เบซาเนฟ ลูกชายคนเดียวของวิคเตอร์ เบซาเนฟ เจ้าของธุรกิจด้านยาปฏิชีวนะรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย แต่นั่นเป็นแค่ฉากหน้าเพราะในขณะที่สองพ่อลูกนั่นสวมหน้ากากนักบุญที่ทุ่มเทคิดค้นตัวยาใหม่ ๆ ให้กับวงการแพทย์นั้น เบื้องหลังกลับเป็นเจ้าพ่อนักค้าอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธชีวภาพรายใหญ่คนหนึ่งของโลก







บอสใหญ่ที่เขาทำงานให้มาตลอดสามปีที่ผ่านมา!!







“ถ้าคุณรอได้ พรุ่งนี้เราจะคุยกันอีกที และฉันจะตอบทุกคำถามของคุณดอกเตอร์เชนทร์ คราฟต์ชอฟ” เธอเรียกเขาเต็มยศด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะลุกขึ้น หยิบผ้าห่มผืนหนาที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาห่มให้เขาแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป







เชนทร์มองตามร่างระหงจนกระทั่งประตูถูกปิดลงด้วยแววตาครุ่นคิด เขาควรจะรีบออกไปจากที่นี่หรือนอนพักอย่างที่เธอพูดดี ยอมรับว่าฐานะและความสัมพันธ์ของดอกเตอร์สาวที่มีต่อเลโอนิคยังทำให้เขาระแวง ถ้าเขายังอยู่ที่นี่ต่อไม่แน่ว่าพอสว่างอาจจะมีมัจจุราชมาจ่อหัวเขาก็ได้







แต่...แววตาจริงจังที่ฉายแววบางอย่างของเธอทำให้เขาอยากจะลองเชื่อใจเธอดูสักครั้ง







ความคิดของเชนทร์กระหวัดย้อนไปถึงครั้งแรกที่ได้รู้จักกับดอกเตอร์สาวคนสวยที่ชื่อวาเรียคนนี้ วันนั้นเป็นวันที่สามที่เขาเข้าไปทำงานในแลปของเลโอนิค แลปลับที่คิดค้นทดลองเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพร้ายแรงเพื่อส่งให้กับกลุ่มประเทศที่ทำสงครามแถบตะวันออกกลาง รวมถึงคิดค้นอาวุธสงครามพิเศษและนิวเคลียร์ให้กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลบางกลุ่มที่เขาเพิ่งจะได้รายชื่อมาก่อนที่จะถูกตามล่า ดอกเตอร์วาเรียเป็นผู้หญิงหนึ่งในสามคนของจำนวนนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดยี่สิบคน และนอกจากหญิงสาวจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ร่วมทีมเดียวกันกับเขาแล้ว ทุกคนในทีมต่างก็รู้ดีว่าดอกเตอร์สาวคนนี้เป็นคนใกล้ชิดมีความสัมพันธ์ยังไงกับบอสใหญ่...เลโอนิค เบซาเนฟ







เขากับวาเรียไม่ถึงกับสนิทสนมกันมากนัก เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานกันธรรมดาเท่านั้น วัน ๆ หนึ่งแทบจะไม่เอ่ยปากพูดอะไรกันนอกจากเรื่องงาน อีกอย่างเขาก็เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์หนุ่มยันแก่ทุกคนที่ไม่คิดจะเข้าไปวอแวกับผู้หญิงต้องห้ามอย่างวาเรีย แม้ว่าจะเป็นเพียงฐานะเพื่อนก็ตาม เพราะการที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของบอสใหญ่ที่โหดร้ายนั้นเสมือนเป็นกำแพงหนา ๆ ไม่ให้พวกเขาเสี่ยงเข้าใกล้







เสียดาย...ผู้หญิงสวย ๆ อย่างเธอทำไมถึงได้เอาตัวเข้าไปพัวพันกับไอ้คนสารเลวอย่างสองพ่อลูกเบซาเนฟได้



++++++++++++++++++++++++++







++++++++++







ความรู้สึกหนัก ๆ ที่เหมือนตกอยู่ในบ่วงรัดอะไรสักอย่าง ทำให้ร่างบอบบางที่กำลังนิทราอยู่บนเตียงกว้างที่คลุมด้วยขนสัตว์หนานุ่มพยายามพลิกกายอย่างอึดอัด แต่ยิ่งขยับตัวบ่วงที่ว่านั่นก็ดูเหมือนจะรัดแน่นเข้าทุกที มันทั้งอึดอัดและอบอุ่นจน...ร้อน







เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามหน้าผากและไรผม ใบหน้าเล็ก ๆ พยายามหันหนีจากไอร้อนที่แนบชิด ชินานางค์เริ่มรู้สึกตัวก้ำกึ่งเหมือนอยู่ในความฝัน ความฝันที่ทรมานเพราะอากาศหายใจเริ่มจะเหลือน้อยลงทุกที คิ้วเรียวได้รูปย่นเข้าหากันก่อนที่เปลือกตาบางจะขยับยุกยิก กระพริบติด ๆ กันแล้วลืมตาขึ้นในที่สุด







“กรี๊ด!! ”







แต่เพียงแค่ลืมตาขึ้นมาเท่านั้นก็กรีดเสียงร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ปลุกใครบางคนให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงตามด้วยเสียงสบถยาวเหยียด ก่อนที่เจ้าของเสียงจะมายืนตระหง่านอยู่ข้างเตียงกว้างด้วยใบหน้าถมึงทึง







โดมินิคมองภาพตรงหน้าแล้วอยากจะยกเท้าขึ้นถีบเจ้าเลมสัตว์เลี้ยงแสนรักของตนเสียเหลือเกิน เกิดมามันไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือยังไงถึงได้อยากจะผสมพันธ์ข้ามสายพันธ์อย่างนั้น ดวงตาสีสนิมเหล็กที่ตอนนี้จะฉายประกายดุดันก็ไม่ใช่จะขำก็ไม่เชิงเมื่อเห็นว่าเจ้าเสือดาวหิมะตัวโตกำลังกอดรัด ใช่ ต้องใช้คำว่ากอดรัดนั่นแหละถึงจะถูกเพราะมันใช้เท้าทั้งสี่รัดร่างบอบบางของผู้หญิงที่เขาเปรียบเป็นตุ๊กตารัสเซียไว้แน่น หน่ำซ้ำยังแลบลิ้นเลียใบตามใบหน้าและซอกคอขาว ๆ อย่างรักใคร่ ส่วนฝ่ายแม่ตุ๊กตารัสเซียนั่นก็ทำหน้าซีดเผือดอ้าปากค้าง มองหน้าผู้ลวนลามเหมือนจะช๊อคไปแล้ว







“ไอ้เลม” โดมินิคเรียกสัตว์คู่กายด้วยเสียงหนัก ๆ หวังให้มันปล่อยร่างบางเสียที แต่เจ้าเลมคงจะตกอยู่ในวังวนแห่งรักเข้าเสียแล้ว เพราะนอกจากมันจะไม่หันมามองตามเสียเรียกอย่างที่เคยทำเป็นประจำแล้ว ยังเปลี่ยนจากแลบลิ้นเลียใบหน้าและซอกคอเป็นใช้จมูกโต ๆ ของมันสูดดมไปตามเนื้อตัวของสาวน้อยในอ้อมกอด และสุดท้ายเสื้อคลุมขนสัตว์สีน้ำตาลตัวใหญ่ที่เคยเป็นของเจ้าของบ้านแต่ตอนนี้อยู่บนร่างบางของสาวน้อยตุ๊กตารัสเซีย ก็ถูกฟันคม ๆ ของเจ้าเสือดาวหิมะงับแล้วกระชากฉีกขาด...







เผยให้เห็น...ทรวงอกขาวผ่องอวบอิ่มต่อหน้าต่อตามันและ...เจ้านายของมันที่ยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง







“อะ ไอ้เลม!! ” กว่าจะหาเสียงตัวเองที่หายเข้าไปในลำคอหลังจากที่เห็น ‘ สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเห็น ’ เจอ โดมินิคก็ใช้เวลาไปเกือบนาที เสียงเข้มตวาดสัตว์เลี้ยงที่เขาเริ่มคิดว่ามันชักจะไม่น่ารักขึ้นทุกที ก่อนจะใช้มือใหญ่ ๆ ของตนเองจับที่ปลอกคอเงินแวววาวบนลำคอของเจ้าเสือดาวจอมหื่น ดึงกระชากออกจากร่างบางแล้วโยนลงพื้นปลายเตียง







กรรรรร...เจ้าเลมทำเสียงเหมือนยามที่มันโกรธ พร้อมกับตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่คนที่ประทุษร้ายมันทีเผลอ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครดวงตาสีเขียวอ่อนของก็มันมองเจ้านายเหมือนจะค้อน ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วทำท่าจะขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งแต่ก็ถูกเท้าหนัก ๆ ของโดมินิคเหยียบหางไว้เสียก่อน ตามด้วยสายตาคมที่ส่งประกายว่าเริ่มไม่พอใจ เจ้าเลมถึงได้หยุดแล้วหมอบลงส่งเสียงครืดคราดอยู่ในลำคออย่างจำนน







โดมินิคส่ายหัวให้กับท่าทางแสนงองของสัตว์เสี้ยง ก่อนจะตะหวัดสายตาไปมองคนบนเตียงที่ยังเงียบอีกครั้ง แล้วก็ต้องหลับตาลงนับหนึ่งถึงสิบช้า ๆ จากนั้นจึงลืมตาขึ้นมองด้วยแววตาราบเรียบ แล้วตะหวัดผ้าห่มขึ้นคุมร่างบางที่นอนนิ่งจนถึงคาง







“จะนอนรอให้ไอ้เลมมันปล้ำให้เสร็จเลยมั๊ย ลุก!! แล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ฉันจะรออยู่ข้างนอก” สั่งเสียงเข้มจนคนที่ช๊อคสะดุ้งได้สติ ชินางนางค์ลุกพรวดขึ้นอย่างตกใจโดยลืมไปว่าสภาพของตัวเองในตอนนี้มันล่อแหลมหน้าหวาดเสียวแค่ไหน







“ฉะ ฉัน ฉัน...”







“จัด-การ-ตัว-เอง-ให้-เรียบ-ร้อย” เขาเน้นย้ำทีละคำเสียงห้วน หากดวงตาสีสนิมเหล็กนั่นกลับจ้องนิ่งที่ความขาวผ่องยองใยของทรวงอกอิ่มที่ผลิพ้นออกมาอวดสายตา







“ว๊าย!! ” เมื่อมองตามสายตาดุดันแต่ฉายแววแปลก ๆ ของยักษ์ตรงหน้า ชินานางค์ก็คู้ตัวนอนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองแทบไม่ทัน ใบหน้างามแดงก่ำ ตัวสั่นงันงกอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา







“ให้เวลาสิบนาที จัดการตัวเองแล้วไปพบฉันด้านนอก” บอกเสร็จก็ยื่นมือไปตบหัวสัตว์เลี้ยงคู่กายแล้วเดินนำออกไปจากห้อง







เจ้าเลมมองสาวน้อยบนเตียงที่ทำหน้าซีดมองมันอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะตัดใจหันหลังเดินตามเจ้านายร่างยักษ์ออกไป หลังจากเสียงประตูห้องปิดลง ชินานางค์ก็ยกมือขึ้นกุมศรีษะนึกทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนอีกครั้ง เมื่อคืนหลังจากแยกจากพี่ชายเธอก็กระโดดเข้ามาในป่าสน แล้วเจอบ้านที่อยู่ท่ามกลางหิมะสีขาว เจอเขา...ผู้ชายคนเมื่อกี้







++++++++++







สายตาสีสนิมเหล็กที่มองมานั่น มันทั้งดุดันและน่ากลัวจนเธอตัวสั่นไปหมด







ชินานางค์นั่งพับเพียบก้มหน้ามองพื้นพรมสีน้ำตาลเข้มตรงหน้านิ่ง หญิงสาวไม่กล้าขยับไม่กล้าแม้จะหายใจเสียงดัง กลัวเหลือเกินว่าถ้าทำให้ผู้ชายหน้าดุที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวหน้าเตาผิงตรงหน้าไม่พอใจขึ้นมาเขาจะบีบคอเธอเสีย หรือไม่ก็สั่งให้เจ้าเสือดาวหิมะที่นั่งหมอบอยู่ข้าง ๆ ที่ทำสายตาหยาดเยิ้มมองเธออยู่นั้น...กินเธอเสีย







เพียงแค่มองหน้าสบตาเขาแวบเดียว เธอก็รู้สึกใจสั่นเสียแล้ว เธอไม่รู้ว่าใบหน้าภายใต้เครารกครึ้มนั้นเป็นอย่างไร แต่เพียงแค่สายตาสีสนิมเหล็กนั้น มันก็ดุดันแผดเผาจนเธอไม่กล้าจะเงยหน้า ไหนจะยังเท้าทั้งสองข้างก็ปวดตุบ ๆ จากบาดแผลถลอกที่ได้รับเมื่อคืน เธอไม่รู้ว่าเป็นเขา ผู้ชายหน้ากลัวตรงหน้านี่หรือเปล่าที่ใส่ยาและทำแผลให้ แต่ดูแล้วมันไม่น่าจะใช่เพราะท่าทางของเขาถ้าบอกว่าขาขาเธอยังจะน่าคิดน่าเชื่อกว่าบอกว่าเป็นคนล้างแผลใส่ยาที่เท้าให้







“เงยหน้า แล้วบอกมาให้หมดว่าเธอเป็นใคร ไอ้พวกที่ไล่ลาเธอเป็นพวกไหน แล้วเข้ามาที่นี่ทำไม”







คำสั่งเข้ม ๆ ที่ดังขึ้นทำให้ใบหน้าสวยของคนที่จมอยู่ในความคิดของตัวเองเงยขึ้นอัตโนมัติ ตากลมโตสีเขียวมรกตสบสายตาดุดันสีสนิมเหล็กของร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเพียงครู่ก่อนจะหลบตาวูบ มองแค่แผงอกของเขาเท่านั้น ภาพลักษณ์ของเขามันดูน่ากลัวมากเหลือเกิน เขามีร่างกายที่สูงใหญ่ที่คงจะเฉียดสองเมตรเป็นแน่ ดูแล้วเหมือนยักษ์ดี ๆ นี่เอง ร่างกายภายใต้เสื้อแขนยาวขนาดพอดีตัวที่ค่อยข้างบางนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าเขาเธอไม่รู้ว่าเป็นยังไงเพราะมันเต็มไปด้วยเครารก ๆ แต่เพียงแค่สายตาของเขาก็เดาได้ไม่ยากว่าผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้คงจะเป็นคนที่มีใบหน้าดุดันหน้ากลัวเพียงใด







“อย่าให้ต้องพูดซ้ำ” โดมินิคย้ำเสียงห้วน นึกรำคาญท่าทางหวาดกลัวตัวสั่นของร่างบางที่นั่งกับพื้นนั่นเหลือเกิน เขาเกลียดอะไรก็ตามที่ดูอ่อนแอ เปราะบาง และหญิงสาวตรงหน้าก็เข้าข่ายนั้น เธอตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขา ลำคอเล็ก ๆ นั่นเชื่อเถอะว่าเขาใช้มือเดียวกำรอบได้สบาย ๆ







โดมินิคไล่สายตามองร่างบางตรงหน้าอย่างสำรวจรายละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้ยัยตุ๊กตารัสเซียที่ทำท่าเหมือนลูกแมวนี่ยังสวมเสื้อคลุมสีดำของเขาที่คงจะเป็นตัวใหม่ที่วางอยู่ในห้องนอน เธอสวมใส่แน่นหนาเสียจนเขารู้สึกร้อนแทนเพราะภายในบ้านหลังนี้เปิดฮีสเตอร์ให้ความอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ







“ฉัน...ชื่อชินานางค์ เอ่อ สั้น ๆ ว่าซินค่ะ” รีบพูดขึ้นเมื่อเห็นสายตาสีสนิมเหล็กนั่นวาวขึ้นเหมือนไม่ชอบใจในการรอคอย “ฉันมาจากประเทศไทย มาเยี่ยมพี่ชายที่นี่ค่ะ แต่เมื่อสองวันก่อนเราสองคนถูกคนที่ทำงานของพี่ฉันตามล่า แต่ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าคนพวกนั้นตามล่าเราสองคนทำไม” ตัดสินใจพูดความจริงส่วนหนึ่งให้เขารับรู้ เมื่อคืนนี้เท่าที่เห็นก็รู้ว่าเขาไม่ใช่พวกเดียวหรือรู้จักกับกลุ่มคนที่ไล่ล่าเธอ แต่ถ้าจะให้บอกทั้งหมดเธอก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีกับตัวเองและพี่ชายหรือเปล่า







“ก่อนที่ฉันจะเข้ามาที่นี่ พวกนั้นตามฉันกับพี่มาจนทันก่อนจะถึงป่าแห่งนี้ เชนทร์...พี่ชายฉันบอกให้ฉันเข้ามาที่นี่ส่วนเขา...เขา ก็สู้กับพวกมันอยู่ด้านนอกนั่น” คิดมาถึงพี่ชาย ตาคู่หวานก็หมองลง ป่านนี้ไม่รู้ว่าเชนทร์จะเป็นยังไงบ้าง แต่เธอเชื่อว่าพี่ชายฝาแฝดของตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกและสายใยของความเป็นฝาแฝดที่เชื่อมถึงกันบอกเธออย่างนั้น







“แค่นี้? ” โดมินิคถามขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้าหยุดพูดไปเสียเฉย ๆ แต่ดวงตากลมโตนั่นแดงก่ำคลอไปด้วยน้ำใส ๆ “แล้วพี่ชายเธอทำงานให้ใคร ที่ไหน”







“พี่ฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ค่ะ ทำงานที่บริษัทผลิตยารายใหญ่ที่มอสโคว์ แต่ฉันไม่รู้ว่าพี่มีเรื่องอะไรกับคนที่ทำงานเพราะเราไม่มีเวลาได้คุยกันถึงเรื่องนี้เลย” เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเชนทร์ไปมีเรื่องหรือทำเรื่องอะไรไว้ถึงได้ถูกตามล่าอย่างนั้น แล้วไหนจะแผ่นดิสที่เชนทร์ให้เธอเก็บเอาไว้นั่นอีกล่ะ







“นักวิทยาศาสตร์? บริษัทยางั้นหรือ? ” โดมินิคทวนคำพลางครุ่นคิด “ชื่อบริษัทอะไร”







“บริษัทเบซาเนฟ เจวิซ บูท ในเครือเบซาเนฟ กรุ๊ป ค่ะ” ชินานางค์เห็นนัยน์ตาสีสนิมเหล็กของคนตรงหน้าวาวโรจน์ขึ้นทันทีที่เธอพูดชื่อบริษัทจบ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น ทำท่าจะก้าวผ่านเธอไปเสียด้วยซ้ำ แต่ก็หยุดชะงักยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ ในที่สุด







“รออยู่นี่ ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินเอาในครัว ฉันจะออกไปธุระแล้วเราจะคุยกันอีกทีเมื่อฉันกลับมา” เขาไม่รอฟังคำตอบรับเหมือนคนที่คุ้นชินอยู่เสมอกำการสั่ง และมั่นใจว่าคนที่ถูกสั่งจะต้องทำตามอย่างที่เขาต้องการทุกอย่าง







ส่วนคนรับคำสั่งอย่างชินานางค์ก็นั่งมองร่างสูงใหญ่ที่เดินกลับเข้าไปในห้องนอนที่เธอนอนมาตลอดทั้งคืน นั่งอยู่อย่างนั้นไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านี้ สักพักไม่ถึงห้านาทีร่างสูงก้ออกมาให้ชุดใหม่ที่รัดกุมและดูอบอุ่นกว่าเดิมมาก เขาสวมกางเกงสีเขียวขี้ม้าที่มีกระเป๋าอยู่รอบด้านเหมือนกางเกงทหาร ส่วนเสื้อด้านในเป็นสเวตเตอร์คอเต่าสีดำสนิท สวททับด้วนโค๊ทขนสัตว์สีดำอีกชั้นที่ตอนนี้คนสวมกำลังติดกระดุมตรงช่วงอกและลำคอให้แน่นหนา







โดมินิคเดินเข้ามาหยุดยืนใกล้ ๆ ร่างบางที่ยังนั่งอยู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง พร้อมกับดึงถุงมือหนังสีดำสนิทจากกระเป๋าเสื้อโค๊ทมาสวม







“เธอ ซินใช่ไหม” เขาถามขึ้นขณะเอื้อมมือไปดึงฮู้ดเสื้อโค๊ทขึ้นสวมศรีษะ และเมื่อเห็นใบหน้าเล็ก ๆ พยักหน้ารับโดมินิคก็พูดต่อ







“เรียกฉันว่าดอม”







............................................................................................





11/1/2012

15/1/2012





คู่พระรองนางรองออกมาแล้ววววว อิอิ







ไม่รู้ว่าคนอ่านชอบคู่ไหนมากกว่ากันน้อ ^^











ปล.อย่าลืมติดตามไปให้กำลังใจฟรานเชสโก้ ที่ มาเฟียร้ายพ่ายไฟรัก ด้วยนะคะ ^^



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ม.ค. 2555, 14:36:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ม.ค. 2555, 14:36:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 3037





<< ตอนที่ 1...เจ้าป่า   
nutcha 16 ม.ค. 2555, 20:43:54 น.
นึกว่าซินตื่นมาในอ้อมกอดของนายดอมที่ไหนได้กลายเป็นเจ้าเลมตัวร้ายซะนี่ สงสัยเจ้าเลมจะหลงรักซินตั้งแต่แรกพบ 555


หมูอ้วน 17 ม.ค. 2555, 14:12:48 น.
ชอบทั้งสองคู่เลยค่ะ


ปูสีน้ำเงิน 20 ม.ค. 2555, 01:36:41 น.
ชอบคู่นี้จัง


25140 4 มี.ค. 2555, 23:36:34 น.
ชอบคู่ซินกับดอมค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account