เจ็บใจนัก รักซะดีมั๊ย
คนสองคนที่ตอนแรกไม่ถูกกันเลย แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ได้ใกล้ชิดและเริ่มเรียนรู้ตัวตนของอีกฝ่าย และการจากกันด้วยการ(เกือบ)จะเข้าใจผิด สุดท้ายจะลงเอยอย่างไรร่วมลุ้นได้เลยค่ะ
Tags: รักหวานแหวว

ตอน: เวลาที่ผ่านกับความรู้สึกของซากุระ

5 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก

ฉันในตอนนี้เป็นบัณฑิตจบใหม่จาก The University of Tokyo ฉันเลือกเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ วันนี้ฉันมาเดินเล่นผ่อนคลายที่สวนชิโดริกาฟุชิ ช่วง 5 ปีที่นายไคซ์ไม่อยู่ ทำให้ฉันเริ่มเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น ฉันคิดถึงนายไคซ์มากขึ้น การส่งอีเมลล์ หรือโทรศัพท์คุยกันไม่ได้ช่วยให้ความคิดถึงของฉันลดน้อยลงเลย ตรงข้าม มันกลับมากขึ้นๆ จนฉันต้องมานั่งคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มาได้สติก็ตอนที่ขาทั้งสองข้างของฉันมันพาฉันมาหยุดอยู่หน้าร้าน sweet time ซึ่งเป็นร้านเค้กเจ้าประจำของฉันนั่นเอง

ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในร้านเค้กเจ้าประจำ โดยมีชาซีลอนซึ่งเหมือนจะกลายเป็นชาโปรดอย่างหนึ่งของฉันนอกจากชาเขียวไปแล้ว กับสตอเบอร์รี่ช๊อตเค้กของโปรดวางอยู่ตรงหน้าอย่างเคย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาผสานกับรสชาติของเค้กทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก พี่เคียวโกะเจ้าของร้านร่างเล็กเดินมาทักทายและนั่งพูดคุยกับฉันเนื่องจากช่วงนี้ลูกค้ายังไม่เยอะมากนัก

“ว่าไงเรา นั่งคิดอะไรอยู่”

“ป่าวหรอกค่ะ แค่นั่งคิดทบทวนว่ารู้สึกยังไงกับนายไคซ์กันแน่ เพราะตอนนี้ยังไม่ค่อยมั่นใจความรู้สึกของตัวเองเท่าไหร่”

“แล้วได้คิดว่ายังไงละ”

“ไม่รู้ซิค่ะ พอขาดเขาแต่เราก็ยังอยู่ได้ เพียงแต่รู้สึกเหงา ขาดคนที่เข้าใจเราน่ะค่ะ แต่คิดว่าชอบเขาเข้าแล้วละค่ะ แต่ถ้าถามว่ารักไหม บอกตรงๆ ว่ายังถามตัวเองอยู่ว่ามีคุณสมบัติดีพอจะอยู่ข้างกายเขาหรือป่าว เพราะรู้สึกว่าเหมือนเขาจะอยู่ใกล้จากเราเกินเอื้อมถึงยังไงไม่รู้ แล้วอีกอย่างก็ทำไม่ดีกับเขาไว้เยอะเหมือนกันเลยยังกลัวอยู่”

“ถ้ามั่นใจว่าชอบเขาเราควรบอกให้เขารู้ไว้นะ ว่าเราคิดยังไงกับเขาก่อนทุกอย่างจะสายเกินที่จะย้อนไปแก้ไข เวลาไม่มีทางเรียกย้อนคืนมาได้ แต่เราสามารถทำทุกอย่างให้ดีที่สุดอย่างสุดความสามารถของเรา เพื่อเราจะได้ไม่เสียใจในภายหลังนะ”

ฉันฟังแล้วก็ได้แต่เก็บคำพูดเหล่านั้นมานั่งคิดทบทวน เพราะคำพูดจะปล่อยเลยไปไม่ได้ มันกระทบใจฉันอย่างมากจนไม่สามารถทำใจปล่อยมันผ่านเลยไปได้อีก แล้วเสียงหวานๆ ของหญิงสาวตรงหน้าก็ถามต่อมาอีก

“ว่าแต่ไคซ์ไปนานแล้วเหมือนกันนะ แล้วจะกลับมาบ้างไหมละ”

“ก็ไปได้ 5 ปีแล้วค่ะ เห็นบอกว่าอยากกลับ แต่ยังกลับไม่ได้ เห็นว่างานยุ่งมาก”

“ว่าแต่เขาทำงานอะไรละ”

“เขาเรียนจบทางด้านธรณีวิทยาจาก Lomonosov Moscow State University ค่ะ ก็ทำงานทางด้านนั้นที่กรมสำรวจธรณีวิทยาของยุโรป (EUGS) ที่รัสเซียนั้นแหละค่ะ”

“ไม่เบาเลยนี่ เก่งจริงๆ ตอนแรกยังคิดอยู่ว่าเขาอาจเอาทุนไปเรียนด้านดาราศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดซะอีก”

“ตอนแรกหนูก็คิดว่าเขาจะเลือกเรียนทางด้านดาราศาสตร์ที่เขาทำได้ดีมากซะอีก แต่พอถามเขาก็บอกว่าไม่อยากทำงานเหมือนพ่อกับแม่เขานะค่ะ ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้วค่ะพอดีลืมใส่นาฬิกามาอ่ะ”

“นี่ก็สี่โมงกว่าแล้วนะ พี่ว่าซากุระรีบกลับบ้านเถอะกว่าจะถึงบ้านคงเกือบมืดแล้ว พี่เป็นห่วง”

“ค่า” เสียงใสๆ ตอบรับกลับไป พร้อมๆ กับส่งเงินค่าชากับเค้กให้แล้วโค้งให้อย่างสวยงาม ก่อนเจ้าตัวจะรีบร้อนเดินจากไปเพื่อขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน ทิ้งให้หญิงสาวอีกคนยืนมองตามไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือ ความเห็นใจที่มีให้อีกฝ่าย พี่สาวที่ผ่านโลกมากกว่าอย่างเธอหวังอย่างยิ่งว่าน้องสาวคนนี้ของเธอจะรับรู้ กล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตนเองและเผยความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

วันนี้หลังจากได้คุยกับพี่เคียวโกะที่ฉันนับถืออย่างพี่สาวแล้ว ฉันก็กลับมาถึงบ้านโดยความรู้สึกที่หนักอึ้ง ฉันนั่งเขียนไดอารี่ตามปกติแล้วจึงนั่งคิดเรื่องความรู้สึกในตอนนี้ของฉันค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าฉันชอบนายไคซ์ แต่เรื่องจะบอกอีกฝ่ายยังไงนั้นยังเป้นเรื่องที่คิดไม่ตกอยู่ดี หลังจากคิดไปคิดมาหลายรอบ ก็อดถอดหายใจออกมาดังๆ ไม่ได้

“เฮ้ย นายเนี้ยไปแล้วยังไม่วายทิ้งเรื่องน่าปวดหัวไว้ให้อีก น่าโมโหชะมัดเลย เอาไว้พรุ่งนี้ไปปรึกษาแม่ดูดีกว่า”

เย็นวันต่อมาแม่กลับบ้านเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ฉันจึงสบโอกาสตอนแม่เข้าครัวไปช่วยแม่ทำกับข้าวและถือโอกาสปรึกษาเรื่องหนักใจของฉันทันที โดยปกติครอบครัวของฉันค่อนข้างให้อิสระเสรีอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่ฉันจะสามารถจึงสามารถแม่ในเรื่องนี้ได้ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากครอบครัวอื่นๆ อยู่บ้าง

“แม่ค่ะ คือหนูมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ”

“เรื่องอะไรละ แม่ก็ว่าอยู่ว่าวันนี้ดูแปลกๆ ที่เข้าครัวมาช่วยแม่เตรียมอาหารเย็น”

“คือ หนูมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีกับไคซ์แล้วค่ะ แต่ไม่รู้จะบอกกับเขายังไงให้เขาเข้าใจ แล้วอีกอย่างเขาเองก็ยังไม่มีกำหนดที่จะมาเลยด้วย แม่ว่าหนูควรทำยังไงดีค่ะ”

“ก็บอกออกไปตามความรู้สึกจริงๆ ของหนูนั้นแหละ แล้วอย่าลืมเอาใจใส่ลงไปด้วยนะ”

“จริงด้วยซิค่ะ งั้นเอาอย่างนี้ดีไหมค่ะแม่ หนูจะชวนฟูตะไปเป็นเพื่อนที่รัสเซีย หนูขอเวลาแค่ 4 วันได้ไหมค่ะแม่”

“จ้า ไปได้แต่ต้องรีบกลับนะ แล้วก็ห้ามทำตัวเหลวไหลนะจ๊ะ เพราะแค่ลูกไปเองแม่ก็เป็นห่วงแย่แล้ว”

“เจ้าค่า ใครจะกล้าทำตัวเหลวไหลละค่ะ มีคุณแม่เป็นถึงควีนแห่งวงการกฎหมายเชียวนะค่ะ ไม่มีใครกล้าลองหรอกค่า” ฉันว่าพร้อมทำหน้ายิ้มกว้างอวดฟันขาวกับแม่

“งั้นแม่ค่ะ ช่วยสอนทำเชอร์รี่ชีสพายให้หน่อยได้ไหมค่ะ รู้สึกว่าไคซ์จะชอบกินมากเลยละค่ะ”

“ได้ซิ แต่พรุ่งนี้แม่คงจะกลับบ้านช้าหน่อย ซากุระแวะซื้อของจำเป็นกลับมาด้วยได้ไหมละ”

“ได้อยู่แล้วค่ะ พรุ่งนี้ซะกุระไม่ได้เข้าชมรมเดียวแวะไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับอาหารเสร็จ แวะซื้อของจำเป็นก็น่าจะพอดีแม่กลับบ้านนะค่ะ”

“จ้า งั้นก็เอาตามนั้นแล้วกัน”

แล้วเย็นวันต่อมาหลังเลิกงาน ฉันก็ลากเมลอนมาร้านหนังสือด้วยกันจนได้ จนเดินหาหนังสือตามมุมที่พนักงานแนะนำมาแล้วก็ได้หนังสือกลับมาหลายเล่ม ก่อนที่เมลอนจะขอตัวกลับบ้านก่อน ฉันแวะห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้กันเพื่อซื้อของที่จำเป็นแล้วรีบตรงดิ่งกลับบ้านทันที

“กลับมาแล้วค่ะ” เสียงหวานใสกล่าวขณะเดินเข้าไปในครัวเพื่อวางของต่างที่ซื้อมา แล้วรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อทำเชอร์รี่ชีสพายทันที

หลังจากหัดทำเชอร์รี่ชีสพายมาได้ 2 อาทิตย์แล้ว วันนี้ฉันตัดสินใจโทรศัพท์หาฟูตะเพื่อชวนไปรัสเซียด้วยกัน หลังจากฉันทั้งบังคับทั้งออดอ้อน ฟูตะก็ตกลงไปรัสเซียกับฉัน วันรุ่งขึ้นฉันจึงจัดการจองตั๋วเครื่องบินไปรัสเซีย ซึ่งกำหนดวันเดินทางไว้ก็อีกสองวันข้างหน้า วันนี้ฉันจึงแวะมาที่ร้าน sweet time

“ดีจ้า” พี่เคียวโกะทักทายฉันและพยักหน้าให้ฉันไปนั่งที่มุมโปรด คือข้างหน้าต่างที่เป็นมุมค่อนข้างส่วนตัวด้วยลูกค้าที่เข้ามาค่อนข้างแน่นร้าน จึงยังไม่สามารถปลีกตัวมานั่งคุยกับฉันได้ ฉันนั่งรอได้ไม่นานนักพี่เคียวโกะก็เดินมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามแล้วเปิดปากถาม

“ลมอะไรพัดเราได้เนี้ยวันนี้”

“ก็ไม่อะไรหรอกค่ะ วันนี้หนูจะมาบอกพี่ว่าหนูตัดสินใจไปรัสเซียในอีก 2 วันข้างหน้าน่ะค่ะ”

“หรอจ๊ะ งั้นก็แสดงว่าหนูหาคำตอบให้กับตัวเองได้แล้ว” พี่เคียวโกะกล่าวพร้อมเผยรอยยิ้มยินดีออกมา จากนั้นบทสนทนาของเราก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องทั่วๆ ไปสบายๆ จนได้เวลากลับบ้าน

อีกซีกโลกหนึ่งขณะนี้ไคซ์เพิ่งเลิกงานและลำกังจะไปเตะฟุตบอลที่เขาชื่นชอบกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่นัดกันไว้ เขาไม่รู้สักนิดว่าอีกสองวันข้างหน้าเขาเองจะมีเรื่องให้เซอร์ไพร์ แบบไม่คาดฝันกันเลยทีเดียว




จินามิ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ม.ค. 2555, 15:09:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ม.ค. 2555, 15:09:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1243





<< ความจริงที่ถูกเปิดเผย   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account