ทะเลรัก สีเพลิง
ความเจ็บปวดในอดีต ทำให้เขากลับมาทวงคืนเอากับเธออย่างสาสม ทว่าเมื่อได้อยู่ใกล้กัน หัวใจเขากลับยังไหวหวั่นอยู่เช่นเดิม...แล้วเขาจะทำเช่นไร เมื่อมั่นใจว่ายัง 'รัก' อยู่ แต่เธอกลับเป็นฝ่ายเกลียดเขาเสียเอง...^^


Tags: Romance ^O^

ตอน: บทที่ 1 จับตัว


1.



ความรู้สึกโคลงเคลงที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายกับจะเรียกสติให้กับร่างเล็ก ๆ ที่นอนขดตัวอยู่บริเวณท้องเรือ ร่างนั้นเริ่มขยับตัวช้า ๆ ดวงตาหรี่ปรือขึ้นทีละนิด ก่อนเบิกกว้างเมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าวิ่งเข้าสู่สมองและความทรงจำของตน เธอพยายามขยับตัวอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้ใครก็ตามที่อาจเฝ้าดูอยู่รู้ตัว

สายลมที่ปะทะเข้าหน้าและเสียงคลื่นที่กระทบเข้ากับลำเรือทำให้เธอรับรู้ว่าเวลานี้เธออยู่ท่ามกลางท้องทะเล แสงไฟริบหรี่ที่มองเห็นลิบ ๆ บอกให้เธอรู้ว่า ใกล้จะถึงฝั่งแล้ว หญิงสาวจึงล้มตัวลงไปนอนทำให้เหมือนตนเองยังหมดสติอยู่อีกครั้ง เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมในการหนี

ร่างสูงใหญ่ของผู้ทำหน้าที่ขับเรือหันมามองร่างไร้สติของ ‘เหยื่อ’ ด้วยแววตาว่างเปล่า อีกไม่นานเวลาแห่งการแก้แค้นก็จะมาถึง...เขายิ้ม เป็นยิ้มที่ส่งให้ใบหน้าดกครึ้มไปด้วยหนวดเครายิ่งดูน่ากลัว เหี้ยมเกรียมมากขึ้นไปอีก

เสียงเครื่องยนต์ที่ดับลงบอกให้หญิงสาวรู้ว่าได้ถึงที่หมายแล้ว มือบางเอื้อมหยิบอาวุธที่ตนหมายตาไว้แล้วมาถือไว้มั่น และทันทีที่รู้สึกถึงการมาของใครอีกคน เธอก็หยิบมันฟาดไปยังร่างนั้นเต็มแรง

“ตายซะเถอะ”

“โอ๊ย!”เสียงร้องดังขึ้นเรียกความฮึกเหิมให้หญิงสาวอย่างคาดไม่ถึง เธอกระหน่ำตีลงไปสุดแรงอีกนับไม่ถ้วน จนกระทั่งร่างนั้นทรุดลง เธอจึงโยนอาวุธในมือทิ้งหันหลับกระโดดลงจากเรือและออกวิ่งสุดกำลัง

“ฤทธิ์เยอะนักนะ”ร่างสูงใหญ่ที่ทรุดลงกับพื้นเมื่อครู่พยุงตัวลุกขึ้นช้า ๆ มือกุมศีรษะที่เริ่มมีเลือดซึมออกมา นัยน์ตาคมวาวมองไปยังร่างเล็ก ๆ ที่อยู่ลิบ ๆ อย่างหมายมาด

“ถ้าคิดว่าหนีพ้นก็ลองดู”เขาพูดกับตัวเองก่อนก้าวลงจากเรืออย่างไม่รีบร้อน


“ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า ฉันบอกให้ไงเล่า ไม่ได้ยินหรือไง”เสียงเล็ก ๆ ที่ดังแว่วมาจากด้านนอก เรียกให้คนที่นั่งจิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์หลังทำแผลให้กับตัวเองเรียบร้อยแล้วขยับตัวเปลี่ยนท่านั่ง รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้า

“มาแล้วครับนาย”เสียงของชายฉกรรจ์หนึ่งในสี่ผู้ทำหน้าที่พาตัวหญิงสาวมา รายงานกับเขาก่อนปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ


“ไปถึงไหนล่ะ”

“ป่าฝั่งโน้นครับ”คำตอบที่ได้ยินเรียกให้คนถามเลิกคิ้วสูง เหลือบมองร่างเล็กที่อยู่ในสภาพดูไม่ได้ยืนหายใจฟืดฟาดอย่างคาดไม่ถึง

“เก่ง!”

“ไอ้บ้า พวกแกจับฉันมาทำไม ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”

เจ้าของร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นนายหาได้สนใจกับคำพูดของเธอแต่อย่างใด เขาหันไปพูดกับลูกน้องตนเองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“พวกนายไปพักผ่อนกันได้แล้วไป เหนื่อยมาเยอะแล้ว”ท้ายประโยคอดไม่ได้ที่จะหันไปแขวะใส่ร่างเล็กนั้นอีกสักนิด


เมื่อได้อยู่กันตามลำพัง ชายหนุ่มก็ได้โอกาสมองพิจารณาหญิงสาวอย่างถ้วนถี่เป็นครั้งแรก ร่างเล็ก ๆ ที่มีความสูงไม่น่าเกิน 160 เซนติเมตรจากการคะเนของเขา แม้เวลานี้จะดูมองแมม ขมุกขมัวไม่น่ามอง แต่ดวงตากลมโตและจมูกปากที่รับกันอย่างลงตัวก็ทำให้เขารู้ได้ว่า ‘เธอสวย น่ารัก’ ในระดับหนึ่งทีเดียว

“มองอะไร! แกจับตัวฉันมาทำไม ไอ้ชั่ว”

“จุ จุ พูดจาไม่น่าฟังเลยนะคุณ”

“ไอ้บ้า! ทำไมฉันต้องพูดดีกับคนอย่างแกด้วย ไอ้คนชั่ว คอยดูนะถ้าฉันหนีไปได้ ฉันจะเอาตำรวจมาลากคอพวกแกทุกคนเขาคุกให้หมด”หญิงสาวตวาดเสียงกร้าว

“อืม...แล้วจะรอก็แล้วกัน แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาของเธอ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเจ็บตัว ก็ตามมา!”

ร่างสูงลุกเดินไปหยุดตรงหน้าและไม่รอให้เธอไหวตัวได้กระชากร่างเล็ก ๆ นั้นให้เดินตามตนไปยังบริเวณลานกว้างด้านหลังบ้านของตน

ลมที่ปะทะเข้าใบหน้าส่งให้ขนกายของหญิงสาวลุกตั้งชันด้วยความหนาว เธอมองไปโดยรอบอย่างหวาดกลัว ความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วยิ่งทำให้บรรยากาศบริเวณดังกล่าวดูน่าวังเวงมากขึ้นไปอีก

“อาบน้ำซะ!”

“อะไรนะ?”หญิงสาวร้องถามเสียงดังอย่างลืมตัว

“หน้าตาก็ใช่ว่าจะขี้เหล่นะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นพวก ‘หูตึง’”

“ไอ้บ้า...ใครหูตึงไม่ทราบ”

“แล้วถามทำไมว่า ‘อะไรนะ?’”ชายหนุ่มเลียนเสียงหญิงสาวออกไป เรียกเสียงกรีดร้องให้ดังขึ้นอีกครั้ง

“ไอ้บ้า ฉันไม่อาบ”

ชายหนุ่มเขม้นมองหญิงสาว นับจำนวนในใจกับคำที่ตนไม่ชอบ ก่อนย่างก้าวเข้าหาเธออย่างหมายมาด

“ไอ้ชั่ว 2 ครั้ง ไอ้บ้า 4 ครั้ง...รู้ไหมไม่เคยมีใครพูดอย่างนี้กับคนอย่างผมมาก่อน”

“ก็แล้วทำไม ฉันต้องรู้สึกเป็นเกียรติไหมที่ได้เป็นคนแรก”หญิงสาวเชิดหน้าสูงอย่างถือดี โดยไม่รู้เลยว่า การกระทำของตนเป็นเหมือนดั่งน้ำมันที่ราดลงไปบนกองไฟให้มันลุกโชนขึ้น

“ก็ไม่ทำไมหรอก แค่จะบอกว่าคนที่พูดแบบนี้กับผม มันคนนั้นจะโดนอะไรบ้างก็เท่านั้น”จบประโยคเสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังขึ้นพร้อมกับที่ร่างทั้งร่างปลิวถลาเข้าหาร่างสูงใหญ่และถูกกักกั้นไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่ง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นหมายจะต่อว่าการกระทำของเขา ทว่าสิ่งที่เธอทำเหมือนจะยิ่งเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้กระทำการลงโทษได้ง่ายขึ้น ริมฝีปากหยักลึกโฉบลงปิดปากช่างพูด ช่างด่าของเธอ บดขยี้รุนแรงหมายให้เธอรับรู้ว่านี่คือ การลงโทษ หาใช่เกิดจากแรงพิศวาส

นานตราบเท่าเขารู้สึกพอใจ ร่างเล็กในอ้อมแขนจึงถูกปลดปล่อย หญิงสาวนิ่งงันตกอยู่ในภวังค์ที่ถูกอีกฝ่ายสรรค์สร้างไว้ ก่อนที่เธอจะเรียกสติของตนเองให้กลับคืนมา

‘เผียะ’ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นในความเงียบอันน่ากลัว พร้อมทั้งน้ำตาเม็ดโตที่ร่วงรินออกจากดวงตาของเธอ

“แก ไอ้ชั่ว ไอ้บ้า....กรี๊ด”

ร่างเล็กเซถลาเข้าหาร่างสูงอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะจู่โจมเข้าที่จุดเดิม ทว่าในครั้งนี้มันไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านั้น มือใหญ่ล๊อคมือเล็กที่กำลังทุบตีตนอยู่เป็นพัลวันไว้ด้วยมือข้างเดียว อีกมือหนึ่งก็เริ่มรุกรานเข้าไปภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขมุกขมัวของเธอ

“อื้อ อื้อ”

มือใหญ่หยุดลงเมื่อพบกับสิ่งที่ตนตามหา เสียงกริ๊กเบา ๆ ที่ได้ยินบอกให้หญิงสาวรู้ว่า พันธนาการชิ้นน้อยของเธอถูกรุกราน และมันกำลังจะเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ให้ชายหนุ่มได้เชยชม แรงบีบเคล้นหนักหน่วงที่เธอรับรู้เป็นคำตอบที่ดีว่า เวลานี้สิ่งที่เธอหวงแหนอันดับต้น ๆ ได้ถูกเขาสัมผัสมันไปแล้ว และมันก็เป็นเหมือนแรงมหาศาลที่ทำให้เธอลุกขึ้นดิ้นรน ขัดขืนยิ่งกว่าเก่า จนกระทั่งร่างสูงต้านทานไม่ไหวเสียหลักล้มลงโดยมีร่างเล็ก ๆ ทาบทับอยู่ด้านบน

“ฤทธิ์เยอะจริง ๆ นะ” ชายหนุ่มบอก รัดเอวคอดของอีกฝ่ายไว้จนแน่น ไม่ยอม
ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แม้เธอจะดิ้นรนไม่หยุดก็ตาม

“เอ้า ดิ้นเข้าไป ดิ้นเยอะ ๆ เข้านะ คืนนี้เราจะได้มีความสุขด้วยกันทั้งคืน”
คำบอกที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเขาที่หญิงสาวรับรู้ได้โดยไม่ต้องให้เขาขยายความ บังคับให้เธอจำต้องหยุดดิ้นรน เธอพยายามยันตัวขึ้นแต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งตัวไว้ไม่ยอมปล่อย

“ฉันไม่ได้ดิ้นแล้ว ทำไมยังไม่ปล่อยอีก”

ใบหน้าภายใต้หนวดเครายิ้มน้อย ๆ กับน้ำเสียงสั่นของเธอ เขาแกล้งขยับส่วนนั้นขึ้นลงเบา ๆ เพื่อเรียกดูปฏิกิริยาของเธอและมันก็ได้ผล หญิงสาวดูเหมือนจะไม่โง่เสียจนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ใบหน้าแดงก่ำที่ได้เห็นบ่งบอกได้เป็นอย่งดีว่าเธอรู้เรื่อง และก็คงรู้อยู่ไม่น้อยเสียด้วย

“ถ้าอยากอยู่ด้วยกันแบบสงบ ๆ อย่าท้าทายกันอีกเข้าใจไหม”เสียงดุเข้มกระซิบบอกข้างหู และแถมส่งท้ายด้วยการขบเม้มติ่งหูเล็ก ๆ ของเธอแผ่วเบา เรียกขนในกายของหญิงสาวให้ลุกชันด้วยความรู้สึกเสียดเสียว ก่อนดันตัวเองลุกขึ้นพร้อม ๆ กับร่างเล็กด้านบน สองมือจับร่างเล็กยกขึ้นราวกับเธอเป็นเพียงสิ่งของที่ไม่มีน้ำหนักอะไรเลย

“จะอาบน้ำได้หรือยัง”

“อาบที่ไหนล่ะ ห้องน้ำก็ไม่เห็นจะมี”หญิงสาวถามเสียงแผ่ว ไม่คิดกล้าท้าทายเขาอีกแล้วในเวลานี้

“ถ้าสังเกตุสักนิดนะ นั่น...โอ่ง มีน้ำเต็มเปี่ยม เห็นข้าง ๆ ไหม ขัน สบู่ วางไว้เรียบร้อย”

“อะไรนะ จะให้ฉันอาบตรงนี้นี่นะ”หญิงสาวเผลอแหวใส่ด้วยความลืมตัว ก่อนต้องกระถดถอยหนีไม่เป็นท่าเมื่ออีกฝ่ายสืบเท้าเข้าหา

“จะอาบเอง หรือจะให้อาบให้ เลือกเอา”

หญิงสาวรีบพยักหน้าเร็ว ๆ ไม่บอกว่าตนจะเลือกอย่างไหน แต่ใช้วิธีปฏิบัติแทนเลย เธอรีบวิ่งไปที่โอ่งใบดังกล่าว ก่อนหันหลังกลับมาที่เขาอีกครั้ง

“มีอะไรอีก”

“จะให้อาบยังไงล่ะ อาบทั้งชุดนี้เลยหรือไงเล่า”

“เอ้า! ผ้าถุง”ชายหนุ่มหันไปหยิบผ้าชิ้นหนึ่งโยไปให้ ก่อนบอกเสียงเข้ม

“อย่าคิดอะไรโง่ ๆ ด้วยการหนีอีกล่ะ ขอเตือนไว้ก่อน”พูดจบเขาก็หันหลังเดินกลับเข้าตัวบ้านไป ทิ้งให้เธอทำภารกิจของตนเองตามลำพังโดยไม่เกรงกลัวว่าเธอจะ ‘หนี’ อีก


“ไอ้บ้า คอยดูก็แล้วกัน วันนี้ฉันหนีไม่ได้ วันหน้าฉันจะก็ต้องหนีให้ได้!”ร่างเล็กค่อย ๆ สวมผ้าถุงอย่างทุลักทุเล ปากก็พร่ำบ่นด้วยความแค้นใจ

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็ถูกพาไปยังที่พัก หญิงสาวกวาดตามองห้องพักขนาดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่มีเพียงแคร่ไม้ไผ่ขนาดใหญ่กว่าตัวเธอเพียงนิดวางตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมหมอน ผ้าห่มอีกอย่างละหนึ่ง ก่อนหันกลับมามองหน้าคนที่ยืนกอดอกนิ่งอยู่ด้านหน้าห้องพักอย่างโกรธแค้น

“นี่มันใช่ห้องคนหรือเปล่าเนี่ย”

“มันต้องใช่สิ ไม่งั้นเธอจะนอนได้ยังไงกันล่ะ”ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ ไม่สะทกสะท้ายกับสายตาที่จ้องอย่างอยากจะกินเลือดกินเนื้อกันของเธอ

“นอนซะ! หรือถ้ายังเหนื่อยไม่พอ จนทำให้นอนไม่หลับก็บอก จะช่วยทำให้เหนื่อยเอง สนใจไหม”

“ไอ้....”นิ้วเรียวชี้หน้าคนพูดสั่นระริก ทว่าเมื่อเจอเข้ากับสายตาเอาจริงที่จ้องตอบมา ทั้งคำพูดและท่าทางก็จำต้องแปรเปลี่ยนไป

“ไปนอนได้แล้ว”

หญิงสาวจำต้องถอยหลังไปหย่อนตัวลงนั่งบนแคร่ตัวดังกล่าวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่มไม่กระพริบ กระทั่งเขาหันหลังเดินจากไป

เสียงคลิกเบา ๆ ที่ได้ยินเรียกให้เธอรีบวิ่งมาหยุดที่ประตูห้อง พร้อมทั้งพยายามที่จะเปิดมันออกให้ได้ แต่ไม่ว่าทำยังไงมันก็เปิดไม่ออก

“จำไว้เลยนะ ถ้าฉันหนีไปได้ ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่”หญิงสาวตะโกนบอกดังลั่น มั่นใจว่าเขาต้องได้ยินอย่างแน่นอน



--------------------------------------------------------

ลองเอามาลงให้อ่านชิมลางดูก่อนค่ะ เรื่องนี้คงไม่ได้เข้ามาลงให้อ่านบ่อย ๆ นะคะ ( ลงไป เขียนไปค่ะ...เขียนได้เยอะก็จะรีบเอามาลงให้อ่านกันนะคะ ถ้าเขียนไม่ได้ก็จะลงให้อ่านช้าหน่อย อย่าว่ากันนะจ๊ะ )



ภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ม.ค. 2555, 15:15:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.พ. 2555, 13:58:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 3002





   บทที่ 2 หนี >>
Oleang 26 ม.ค. 2555, 15:30:17 น.
ไม่กล้าว่าคนแต่ง เค้าจะคอยยยยยย ... 555


ภัทร 26 ม.ค. 2555, 15:32:56 น.
5555....กะว่าจะเอาอีกเรื่องมาหย่อนไว้ด้วย เลยไม่กล้าเลยอ่ะ...-_-"


เทียนจันทร์ 26 ม.ค. 2555, 15:39:21 น.
เหมือนกันเลยค่ะ ยังกลัวอยู่ว่าจะตลอดรอดฝั่งรึป่าว ฮ่า ๆ ๆ


anOO 28 ม.ค. 2555, 17:46:54 น.
น่าติดตามค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account