กรงรักมายาหัวใจ
ความรักที่เย็นฉ่ำดุจละอองเกล็ดหิมะ หัวใจที่รุ่มร้อนดังเพลิงเพราะรัก

ฟ้าได้ลิขิตให้ทั้งสองมาเจอกัน ก่อนจะพลัดพราก เมื่อหญิงคนรักทิ้งเขาไปอย่างเลือดเย็น เขามีแต่ความเจ็บปวด เจ็บแค้น อันแน่นในหัวใจ เมื่อต้องกลับมาเจอเธออีกครั้ง เขาจะจัดการกับเธออย่างไร ในเมื่อไม่เคยลืมรักครั้งแรก

ปารีส (พระเอก) ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-แคนาดา เขารักปาริสาอย่างหมดหัวใจ ทว่าหล่อนกลับทิ้งเขาไป เมื่อต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งที่ยังรัก และไม่เคยลืมจากหัวใจ อยากจะคว้าตัวหล่อนมากอด แต่ทำเพียงแค่แสดงความโกรธ และเย็นชาเท่านั้น โดยเก็บรักขังไว้ในกรงหัวใจ
ปาริสา (นางเอก) หรือที่ใครๆ หลายคนมักเรียกว่า ริสา เพียงแค่ไม่กี่เสี้ยววินาทีได้ตัดสินใจ เดินออกมาจากชีวิตของเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง ทว่าหล่อนกลับใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมเขา การต้องกลับมาเจอกับเขาอีกครั้งสร้างความไหวหวั่น หัวใจเหมือนโดนเศษแก้วบาดลึก ต่อความเย็นชา และอารมณ์โกรธของเขา หญิงสาวเก็บกักความรู้สึกซ่อนลึกในกรงหัวใจ ทำตัวเองประหนึ่งเป็นกระจกสะท้อนเงา เมื่อเขาร้ายหล่อนร้ายตอบ เจอความเย็นชา หล่อนก็พร้อมจะเป็นน้ำแข็งขั้วโลกใต้ ทว่าสิ่งที่ทำให้กลัวจับใจ คือความลับที่ปกปิดไว้ไม่ให้เขารู้
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 1 ลิขิตแรกเจอ

ท่ามกลางพายุหิมะพัดกระหน่ำ ความแรงลมได้หอบเอาละอองเกล็ดหิมะปกคลุมขาวโพลนไปทั่วบริเวณกว้าง และท้องถนน จนรถยนต์ไม่สามารถใช้งานสัญจรไปมาได้ ทำให้หลายคนตัดสินใจที่จะเก็บตัวแต่ในเคหะสถาน มากกว่าที่จะออกมาเผชิญ กับสภาพอากาศที่เป็นอยู่ตอนนี้ หากแต่มีหญิงสาวคนหนึ่ง สมัครใจจะเดินฝ่าอุปสรรคทางธรรมชาติอย่างเต็มใจ เพราะต้องการพาตัวเองหลีกหนีให้พ้นจากสถานที่ ที่เคยแสนจะอบอุ่น แต่บัดนี้มันทำให้ร้อนรุ่ม จนไม่สามารถทนอยู่เผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายได้อีกต่อไป ช่างเป็นคริสต์มาสอีฟ ที่แสนเศร้า

กระแสลมที่โหมหนัก พัดกระหน่ำร่างเล็ก ๆ ที่บอบบางเพรียวระหง จนหล่อนแทบไม่มีแรงที่จะก้าวเดิน หยุดงอตัวหอบหายใจจนไอความร้อนพวยพุ่งออกมาจากเรียวปากงาม อวบอิ่ม ชมพูระเรื่อโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยสีสันปรุงแต่ง ปากสั่นจนฟันกระทบ เรี่ยวแรงแทบไม่มีเหลือ ร่างกายกำลังจะกลายเป็นหินเพราะพิษหิมะกำลังกัดกิน หญิงสาวไม่รู้สึกเจ็บปวด เพราะหัวใจรวดร้าวยิ่งกว่า น้ำตาไหลรินพร้อมกับความรู้สึกตัวหนักอึ้ง เหมือนโดนกดทับด้วยสิ่งที่มีน้ำหนักมหาศาล เธอไม่สามารถทรงตัวยืนได้อีกต่อไป จบสิ้นกันเสียที บัดนี้หญิงสาวหมดสตินอนนิ่งไม่ไหวติง


“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าวันนี้พายุหิมะจะเข้า ก็ไม่เชื่อ แกก็ยังคะยั้นคะยอให้ฉันขับรถออกมาอีก”

ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถแล่นฝ่าหิมะตกหนัก เพื่อพาเพื่อนสนิทไปให้ทันนัดบ่นอุบ เมื่อรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อคันเก่งของตน ต้องมาติดหิมะกลางทางไม่สามารถขับเคลื่อนไปไหนได้อีก ทำให้คนที่กำลังเป็นกังวล คอยมองแต่นาฬิกาข้อมือมาตลอดทาง เริ่มจะหงุดหงิด

“นี่ นายปารีส ไอ้คนไม่มีแฟนอย่างแก จะมาเข้าใจหัวอกคนมีแฟนอย่างฉันได้ไงวะ”

“แล้วหัวอกคนมีแฟนอย่างนายมันดีตรงไหน ถ้ามีแฟนแล้วต้องมาดิ้นพล่าน ตัวร้อนนั่งไม่ติดอยู่แบบนี้ ฉันไม่มีดีกว่า” ปารีสพูดกับเพื่อนสนิท ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ทำให้ทวีปเกิดความหมั่นไส้อย่างช่วยไม่ได้

“เอ้อ...ฉันจะคอยดู แกมีแฟนเมื่อไร แล้วจะรู้สึก แล้วทีนี้จะทำไงดี รถมาติดหิมะอยู่แบบนี้” ทวีปหันไปขอความคิดเห็นด้วยสีหน้าร้อนรน

“ตอนนี้มาได้ครึ่งทาง อยู่ที่นายจะตัดสินใจ ว่าจะเดินต่อไปหาแฟนที่กำลังรอนายให้เป็นประธานเปิดพิธีกินไก่งวง หรือจะเดินหันหลังกลับบ้านเช่าของเรา”

ปารีสออกความเห็นเสียงเรียบ พอ ๆ กับสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน สมกับฉายานาม ที่บรรดาพวกพ้องเอ่ยเรียกยามนึกสนุกว่า ‘เจ้าชายหิมะ’

“นี่เราต้องเดินหรือวะเพื่อน” ทวีปทำสีหน้าแหย ๆ เหมือนไม่สู้

“ก็ใช่น่ะสิ หรือนายจะวิ่งไปฉันก็ไม่ว่า”

ปารีสตอบเสร็จก็ผลักประตูก้าวลงจากรถ ตัดสินใจแทนเพื่อน ก้าวเดินไปในทิศทางข้างหน้า ไม่คิดจะย้อนกลับไปทางเดิม

“เฮ้ย! รอด้วยสิวะ”

ทวีปรีบเปิดประตู แล้วเร่งฝีเท้าก้าวให้ทันเพื่อน การเดินย้ำไปตามเส้นทางที่มีหิมะหนา เป็นไปด้วยความลำบาก การลงเท้าไปแต่ล่ะครั้งจมมิดไปจนเกือบถึงข้อเท้า ทำให้กินแรงน่าดู ประกอบกับที่ต้องปะทะสายลมโหมหนัก ความกดอากาศต่ำเพราะอากาศหนาว เล่นเอาสองหนุ่มพยายามหายใจลึก ๆ เข้าไว้ เพื่อสูดอากาศเข้าปอด

“โอ๊ย! ทำไมมันหนาวชะมัด เมื่อไรจะถึงวะ ขาฉันแข็งจนจะก้าวไม่ออกแล้ว” ทวีปบ่นอย่างหมดความอดทน

“บ่นเข้าไป อย่าหยุดพูดล่ะ เดี๋ยวปากจะแข็ง ตามขานายไปด้วย”

ปารีสพูดกลั้วหัวเราะ แต่ไม่หยุดเดิน ยังคงก้าวต่อไปเรื่อย ๆ นึกในใจ...ไอ้ทวีปบ่นยังกับผู้หญิง

“ปารีส นี่นายกำลังจะบอกว่า ฉันพูดมากใช่ไหมวะ”

ทวีปตะโกนถามขณะพยายามก้าวขาที่ล้าจนเกือบเป็นเหน็บ เพื่อรักษาระยะห่าง ไม่ให้ไกลจากเพื่อนมากนัก...เสียงของทวีปที่โต้กลับมาทำให้ปารีสกระตุกยิ้มเล็กน้อย หยุดเดินแล้วหันไปถามเพื่อนสนิท

“แล้วตกลงนายจะไปหรือไม่ไป”

“ไปไหนวะ”

ทวีปทำหน้างงถามกลับไป ในใจคิดว่าปารีสอาจจะพูดชักชวนไปที่แห่งใด แล้วไม่ได้ยิน เพราะเสียงแรงลม เหมือนมันเข้าไปพัดหมุนก้องอยู่ในช่องหู ทำให้เกิดอาการหูอื้อเป็นครั้งคราว แม้แต่การพูดขณะนี้ยังต้องตะเบ่งเสียงมากกว่าปกติ

“อ้าว! ก็ไปหาแฟนนายไง ไม่ไปก็ได้นะ จะได้กลับ”

“อ๋อ นึกว่าอะไร ไปสิวะ ขืนไม่ไปตามนัด ยายนั่นเล่นงานฉันตายแน่ ๆ”

“งั้น นายก็เก็บแรงไว้เดินอย่างเดียว ห้ามบ่นล่ะ” ปารีสสั่งความเสียงเรียบ แล้วก็หันหลังก้าวเดินนำไปข้างหน้า

“เออน่ะ ก็ได้ ก็ได้ นี่ถ้าฉันมีรถขับ มีใบขับขี่สากลแบบแกนะนายปารีส ฉันคงไม่ง้อให้ช่วยขับรถมาส่งหรอก”

ทวีปบ่นส่งท้าย ก้มหน้าก้มตาเดินฝ่าหิมะตามหลังปารีสไปติด ๆ ไม่วายสบถฮึดฮัดอยู่คนเดียวเบา ๆ ทุกครั้ง ที่ย้ำเท้าลงไปบนพื้นหิมะที่ไม่เสมอกัน ทำให้เท้าพลิกต้องเสียหลักหกล้ม

ขณะที่ปารีสเดินอย่างมาดมั่น ไม่มีอาการเซเสียหลัก หรือเหนื่อยล้าให้เห็น เพราะพื้นฐานที่ดี จากการเป็นนักเล่นสกีน้ำแข็งตัวยง จนได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยไรเยอร์สันที่เขากำลังเรียนอยู่ เข้าแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งชาติของแคนาดาในปีที่ผ่านมา และแน่นอนชายหนุ่มไม่มีทางที่จะพลาดเหรียญทอง

ภาพตรงหน้าไม่ไกลจากระยะสายตามองเห็น เป็นที่สะดุดตาของปารีส ท่ามกลางหิมะขาวบริสุทธิ์ กลับมีจุดดำเล็ก ๆ มาแต้มให้เห็นเป็นที่แปลกตา พยายามเพ่งพิศดูขณะก้าวเท้าในระยะใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ จากที่คิดว่าเป็นเพียงแค่ขอนไม้ท่อนหนึ่งเท่านั้น บัดนี้เขาได้เปลี่ยนความคิดใหม่ กับสิ่งที่เห็น เริ่มแน่ใจว่าสิ่งนั้นคือมนุษย์ กำลังนอนตะแคงแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่บนพื้นหิมะ

ปารีสรีบพาตัวเองออกวิ่งไปนั่งย่อตัวอยู่ข้าง ๆ เพื่อทำการช่วยเหลือเร่งด่วน จึงรับรู้ได้ว่าเป็นมนุษย์เพศหญิง เพราะรูปร่าง และเส้นผมที่ยาวเหยียดตรงแผ่กระจายมันฟ้อง กะด้วยสายตาคงยาวถึงระดับกลางแผ่นหลัง มีละอองหิมะเริ่มปกคลุมร่างเจ้าหล่อนบาง ๆ คงจะมานอนสลบอยู่ตรงนี้ยังไม่นานนัก ปารีสรีบช้อนตัวหญิงสาวตรงหน้า มาพิงแนบแผงอก ใช้มือปัดเส้นผมให้พ้นจากกรอบใบหน้า เธอเป็นผู้หญิงน่าตาดีคนหนึ่งและคงเป็นคนเอเชีย แต่ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนเป็นคนชาติใด เพราะคนเอเชียคล้าย ๆ กันไปหมด อย่างที่คนยุโรปบอก ส่วนคนเอเชียอย่างคนไทยก็จะเรียกเหมารวมพวกยุโรปตัวขาวทั้งหมดว่าฝรั่ง

หญิงสาวตรงหน้ามีขนตาที่ยาวงอนงาม ช่างรับกันอย่างเหมาะเจาะกับวงหน้านวลใสเรียวเล็ก ที่ใครหลายคนบอกกันว่าผู้หญิงที่มีใบหน้ารูปไข่จะดูสวยที่สุด ปารีสนึกอยากเห็นนัยน์ตาของเธอที่ปิดสนิทว่ามันจะสวยซึ้งสักแค่ไหน

“เฮ้! คุณตื่น คุณผู้หญิงครับ ได้ยินผมไหม”
ปารีสเรียกสติหญิงสาวไป เขย่าตัวไป แต่ไร้วี่แววว่าเธอจะรู้สึกตัวตื่น

“ตายหรือยังวะ”

ประโยคเด็ด ถามลอยมาจากปากทวีปที่เพิ่งมาหยุดยืนดู เพราะไม่คิดจะวิ่งตามเพื่อน แต่อาศัยเดินตามมาเรื่อย ๆ

“ยัง ยังไม่ตาย” ปารีสตอบขณะกำลังใช้นิ้วพิสูจน์สมหายใจใต้ปลายจมูกโด่งเชิดรั้นของหญิงสาว

“สวยดีนี่หว่า สงสัยสวรรค์คงประทานเจ้าหญิงหิมะ มาให้เจ้าชายหิมะอย่างนายแน่ ๆ” ทวีปพูดแซวเพื่อน

“คนจะเป็นจะตาย นายก็ยังมีอารมณ์จะมาพูดเล่นอีก”

สีหน้าเครียดจริงจังของปารีส กับน้ำเสียงที่ไม่เย็นชาเหมือนที่ผ่านมา ทำเอาทวีปนึกแปลกใจ เพราะหมอนี่ไม่เคยทุกข์ร้อนกับเรื่องอะไรมาก่อน สงสัยผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษ

ชักน่าสนใจแฮะ....

ปารีสไม่เคยให้ความสนใจในตัวผู้หญิงคนไหนมาก่อน....

“นายสนเธอเหรอ” ทวีปถามยิ้ม ๆ

“ทำไมฉันต้องสนเธอ” ปารีสถามเป็นเชิงตอบปฏิเสธ

“ไม่รู้สิ ก็ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้ ท่าทางนายแคร์เธอน่าดู”

“นายนี่ก็พูดแปลก ๆ คนมานอนสลบกลางหิมะ เป็นนาย นายจะไม่สนเหรอ จะเดินผ่านไปเฉย ๆ หรือไง ไม่ต้องพูดมากเลย มาช่วยฉันหน่อย”

“ให้ช่วยยังไง” ทวีปถามอย่างไม่เข้าใจว่าเขาจะช่วยอะไรได้

“ช่วยพยุงเธอขึ้นบนหลังหน่อย ฉันจะแบกเธอไป” ปารีสอธิบาย

“แล้วนายจะพาเธอไปไหน” ทวีปถามขณะที่กำลังประคองหิ้วปีกหญิงสาวขึ้นไปแปะอยู่บนแผ่นหลังกว้างของปารีส ที่กำลังย่อตัวลงรับ

“ก็ไปหาแฟนนายไง” ปารีสตอบเสร็จ กระชับขาเรียวงามของหญิงสาวภายใต้กางเกงยีนเนื้อหนา พาเดินไปพร้อมๆ กัน ไม่สนใจเพื่อนที่กำลังยืนอ้าปากค้าง

“อะไรนะ นายจะพาเธอไปที่นั่นเหรอ ไม่ได้เด็ดขาดแกก็รู้นิ ว่ายายมิกาน่ะ ขี้หึงขนาดไหน เอาไปส่งโรงพยาบาลเถอะว่ะเพื่อน” ทวีปรีบวิ่งมาเดินดักหน้าดักหลังปารีส พูดรัวถี่

“มันไม่เห็นเกี่ยวนี่ ก็ฉันเป็นคนพาไป” ปารีสแย้ง

“มันก็ใช่ แต่นี่เราเสียเวลาเลยนัดมามากแล้ว เราโผล่ไปช้า พร้อมกับพาผู้หญิงไปด้วย ยายนั่นต้องวีนแตกแน่ ๆ และกว่าคุณเธอจะรับรู้เหตุผล ฉันนี่แหละต้องเจ็บตัวก่อนทุกที”

ทวีปยังนึกกลัวไม่หาย คราวก่อนแค่เขาเสนอตัวไปช่วยปฐมพยาบาลสาวรุ่นน้องที่กำลังเลือดกำเดาไหล โดยมีแฟนของเจ้าหล่อนเองยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ยังโดนยายมิกาต่อว่า หาว่าเขาไปให้ท่าสาว ๆ ผู้ชายที่ไหนจะไปให้ท่าผู้หญิง ในสถานการณ์แบบนั้น ขนาดบอกว่าเธอคนนั้นมีแฟนแล้ว ก็ยังไม่เชื่อ งอนไปสองวัน

“น่า อย่าเรื่องมาก อีกนิดเดียวก็ถึงห้องมิกาแล้ว โรงพยาบาลอยู่อีกไกล สภาพแบบนี้ รถก็วิ่งไม่ได้ นายจะให้ฉันแบกผู้หญิงคนนี้ ไปถึงโรงพยาบาลหรือไงวะ”

ปารีสส่ายหน้า รู้เกียรติศัพท์ดี ว่าหมอนี่กลัวแฟนขนาดไหน เขมิกาถึงจะขี้โวยวายไปบ้าง แต่เธอก็เป็นผู้หญิงนิสัยดีคนหนึ่ง เขากลับชอบความตรง ที่แสดงความรู้สึกออกมาโดยไม่ปิดปัง มากกว่าผู้หญิงเจ้ามารยาเสียอีก โดยเฉพาะบรรดาผู้หญิงที่วิ่งตามตื้อเขา ที่เอะอะอะไร ก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดจนน่ารำคาญ

“พาไปก็พาไป แต่งานนี้นายรับผิดชอบเจ้าหญิงหิมะคนนี้ด้วยนะ อย่าให้เดือนร้อนมาถึงฉันล่ะ”

ทวีปพูดเสร็จก็เดินนำหน้าตัวเบาไปคนเดียว

เจ้าหญิงหิมะตอนนี้ก็ยังคงไม่ได้สติ อยู่บนหลังเจ้าชายหิมะ......

ปารีสรับรู้ว่ามีผู้หญิงแนบชิดอยู่บนแผ่นหลังของเขา แผ่นหลังกว้างที่ไม่เคยแบกรับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอตัวเบาราวกับขนนก กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเส้นผมของเธอที่ปลิวตามแรงลมมาปะทะกับใบหน้าชายหนุ่ม โชยมาเตะจมูกทำเอาสะดุ้ง ใจเขว เหมือนมันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวเขา ทั้งที่สัมผัสที่แนบชิดมิได้ทำให้รู้สึกถึงส่วนเว้าส่วนโค้งของความเป็นผู้หญิงแต่อย่างใด ด้วยเสื้อผ้ากันหนาวเนื้อหนาระหว่างหญิงชายขวางกั้นไว้เป็นเกราะอย่างดี

เธอเป็นใคร....

แล้วเหตุใดถึงไปนอนสลบจมกองหิมะอยู่ตามลำพัง....



มุกมาดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.พ. 2555, 11:22:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.พ. 2555, 21:46:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1981





   ตอนที่ 2 เพื่อนใหม่ในต่างแดน >>
แพรพริมา 5 ก.พ. 2555, 09:25:25 น.
เจ้าหญิงหิมะบนหลังเจ้าชายหิมะ ---> คำนี้น่ารักจังเลย


Auuuu 10 ก.พ. 2555, 21:37:40 น.
น่ารัก ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account