เลือดรักทระนง
เด็กหญิงคนหนึ่งซ฿งถือกำเนิดมาจากโจร ปล้นฆ่า และเลือดอีกส่วนมาจากแม่ที่ไม่ยอมรับในความเป้นลูกของเธอ กระถินยังยืนหยัดที่จะอยู่อย่างทระนงในศักดิ์ศรีและค่าแห่งความเป้นคน ด้วยความรัก และซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณ
Tags: ศักดิ์ศรี คือสิ่งที่ต้องรักษา

ตอน: สองศรีพี่น้อง


แม้สร้อยสนคิดถึงนิธิมาก จนอยากทำร้ายตัวเอง แต่สร้อยสนยังหวาดกลัวมารดาไม่คลาย เพราะพุดกรองไม่เหมือนคนอื่นที่อ่อนให้ลูกแม้ลูกจะข่มขู่เรื่องเป็นเรื่องตาย หากเธอตาย คงได้ตายสมใจ แต่วันข้างหน้าของเธอจะมีอะไรให้เหลืออีกเล่า ถ้าร่างนี้ไร้วิญญาณไปเสียแล้ว
วันเวลารักษาแผลสดให้จางเป็นแผลเป็น เมื่อถูกสะกิด เธออดคิดถึงความหลังไม่ได้ หากว่า ในที่สุดความรักของหนุ่มสาวแรกรุ่นถูกเวลากลืนหายไปให้เหลือแต่ความทรงจำในที่สุดนั่นเอง

หลายเดือนผ่านไป
บนเครื่องบินอังกฤษสู่เมืองไทย
รามเข้ามาหาที่นั่งตามบัตรหมายเลขของตน เขากล่าวขอโทษต่อสตรีที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว กับชายชาวเอเชียเป็นชายจีน ท่าทางของเธอดูอึดอัดไม่น้อย
“ขอโทษนะครับ”
“มิได้ค่ะ ดีจังคุณเป็นคนไทย”เธอยิ้มยินดีขยับกายนิด ทั้งที่อยู่บนเก้าอี้กว้างกว่าตัวเธอเสียอีก รามพาร่างใหญ่ของตนเองลงนั่งพร้อมกับยิ้มเป็นไมตรีให้กับสาวทันสมัยคนที่ยิ้มให้กับเขา
“ดิฉันชื่อปาริชาติค่ะ”
“ผมชื่อรามครับ”
“กลับไปเยี่ยมบ้านหรือว่า เรียนจบแล้วคะ”
“ปิดภาคเรียนครับ คุณล่ะครับ”
“ปิดภาคเรียนค่ะ แหมช่างตรงกันทีเดียว”ปาริชาติชวนรามคุย ซึ่งแทนที่เธอจะอึดอัด กลับกลายเป็นชาวเอเชียคนที่นั่งข้างในอึดอัดแทน
รามลอบยิ้มเพราะนึกเดาเอาว่า ชายชาวเอเชียคนนั้นคงจีบสาวสวยคนนี้อย่างที่ปาริชาติไม่พอใจมากแน่ ดังนั้นเมื่อมีรามมาเป็นก้างขวางคอ ปาริชาติจึงได้ย้อนรอยคุยกับเขาแทนชายคนนั้นจนอีกฝ่ายต้องหันหน้ามองหน้าต่างซึ่งปิดสนิทเพราะเป็นเวลากลางคืน และเมื่อชายคนนั้นกระวนกระวายมากเข้า เขาใช้หน้ากากปิดตาทำเป็นหลับ เพื่อให้สองหนุ่มสาวชาวไทยรักษามารยาทด้วยการหยุดคุย
“ดูทีคุณรามมาเรียนหลายปีแล้วกระมัง”
“ครับ นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่กลับไปเยี่ยมบ้าน พอดีเด็กส่งข่าวไปว่าคุณพ่อมีสุขภาพไม่แข็งแรง”
“โอ้ เสียใจด้วยนะคะ เอ่อแล้วคุณแม่ล่ะคะ”
“ผมมีแม่เลี้ยงครับคุณปาริชาติ”
“เรียกว่าปูเป้ดีกว่าค่ะคุณราม”
“เช่นนั้นเรียกผมว่ารามก็พอครับปูเป้ ชื่อน่ารักดีจริงครับ”เขาเอ่ยชมจากใจ เพราะอีกฝ่ายเหมือนตุ๊กตาฝรั่งเศสดังชื่อเสียด้วย
ปาริชาติหัวเราะเบาๆด้วยความพอใจ และพึงใจในตัวชายหนุ่ม ดังนั้นทั้งสองจึงสนทนากันอย่างถูกอัธยาศัย แลกเปลี่ยนรายละเอียดส่วนตัวอย่างไม่ปิดบังกันตลอดการเดินทาง จนกระทั่งได้เวลานอนจริงๆ ปาริชาติเผลอเอนอิงพิงไหล่ชายหนุ่มอย่างตั้งใจ รามรู้สึกแปลกในอก เพราะนี่เป้นครั้งแรกที่มีหญิงสาวมาแนบข้างเช่นนี้
การกลับบ้านของรามทำอย่างเงียบๆ เขาเข้าไปกราบบิดา ถึงบริษัทที่ทำการ คุณพระดีใจมาก สวมกอดลูกชายอยู่พักใหญ่ ก่อนนั่งสนทนากันตามประสา ก่อนกลับเข้าวังมาด้วยกัน รามขึ้นตึกไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้วจึงลงจากตึกไปที่เรือนริมน้ำ
แม่นิ่มร้อยพวงมาลัยรีบผุดลุกมารับเด็กหนุ่มซึ่งเธอเลี้ยงดูมาแต่เยาว์วัย
“คุณของนม ตายจริงกลับจากเมืองนอกแล้วหรือคะ”
“กลับแล้ว คิดถึงนมจังเลย ขอรามกอดหน่อยนะครับ”
“โธ่คุณราม” แม่นิ่มกอดตอบน้ำตาเอ่อคลอด้วยความคิดถึงและตื้นตันใจ
กระถินล้างมือจากโอ่งน้ำหน้าเรือน เดินขึ้นไปที่ห้องนั่งเล่นจึงได้เห็น ภาพแม่นมกอดชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว คลับคล้าย คนรู้จัก กระถินมักมองอย่างคนช่างสังเกต จึงมองจ้องอย่างนิ่งๆ ก่อนเบือนสายตาไปทางอื่น
รามหันมามองร่างบอบบาง...สวยมาก ชายหนุ่มอดบอกตัวเองไม่ได้ ผิวพรรณผ่องใส ใครหนอช่างงามสะดุดตาเสียจริง
แม่นิ่มหันไปบอกกระถินด้วยน้ำเสียงอ่อน แฝงความยินดี
“คุณรามไงคุณกระถิน จำไม่ได้หรือคะ จึงเงียบเสียไม่ทักทาย”
กระถินยกมือไหว้อีกฝ่าย ส่วนรามรับไหว้ด้วยหัวใจหวั่นไหวเล็กน้อย คิดว่าสาวคนนี้กับใช่เด็กจอมซน และแสนดุจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่? แต่ไม่วายคิดย้ำอีกว่า ไม่น่าจะสวยได้มากขนาดนี้
รามซ่อนความยินดีไว้ไม่แสดงออกว่า พอใจในรูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงของกระถิน จากเด็กจอมซน เถียงคำไม่ตกฟาก กลายมาเป็นสาวงามพริ้ม ท่วงทีอ่อนช้อยอย่างคนได้รับการอบรมมาอย่างดี
ชายหนุ่มเอ่ยต่างจากใจคิดออกด้วยทุ้มต่ำเสียงน่าฟัง
“ไงเด็กขี้ตู่ ท่าทางจะยังหลงแม่ไม่วายนะกระถิน”
“กระถินรู้หรอกว่าแม่นมรักคุณรามกว่าใคร ๆ มาถึงยังกอดกลมไม่ยอมห่าง กระถินยังตกใจคิดว่าอุณรุจจะมาอุ้มสมแม่นมของกระถินไปเสียแล้ว”
นั่นไงคิดว่าไม่ช่างเถียงเสียแล้ว ที่ไหนได้ เสียงหวานยังเอาเรื่องเหมือนเดิม
“ฟังว่า”แม่นมยิ้มเยื้อนในสีหน้า เอ่ยเสียงอ่อนเอ็นดูคนช่างประชดนักหนา
“เอาความละครนอกละครใน ที่อ่านให้คุณท่านมาต่อว่าทั้งนมทั้งพี่รามอย่างนี้จะดีหรือคุณกระถิน”
“พอลูกรักกลับมาก็ลืมลูกหลง”กระถินยังเหน็บแนม
“ดูสิคะคุณราม ฤทธิ์ยังมากเหมือนเดิม แต่น่ารักมากขึ้น”
เขาหัวเราะในลำคอไม่ถือสา กระถินนั่งเท้าแขนเกลี่ยพื้นกระดานเล่นหากหน้าบูดปากเชิด
“พี่คงจะมาแย่งของรักของหวงคนแถวนี้จริงเสียแล้วกระมัง เขาจึงทำหน้าตึงเหมือนพอกแป้งหนาเชียว”
เธอเหลือกตามองนิดแล้วทำตึง ก่อนจะคลาน ไปที่ประตู แม่นิ่มรีบรั้ง
“จะไปไหนนั่น ยังไม่ได้ทานของว่างเลย มาค่ะ นมจัดไว้ให้แล้ว”
“อ้อ ที่แท้ก็หิวเลยหน้าบูด” เขาเย้ายั่ว กระถินมิอาจบังคับมิให้ท้องร้องโครกขณะผ่านอายจึงยิ้มแหะหมดความขุ่นเคืองแหนหวงในทันใด
รามนั่งทานอยู่ด้วย หากกระถินตักแบ่งไปทานตามลำพังไม่ตีเสมอ
“ดูสิคะคุณราม ดื้อไม่มีใครเกินสักนิดเลย แต่เธอก็น่ารักไม่มีใครเท่าเหมือนกันนะคะ”
“เห็นจะเชื่อตรงดื้อมากกว่าครับแม่นม”รามเอ่ยหยอกเย้า กระถินหันมามองค้อน ก่อนก้มหน้าทานอาหารในส่วนของตน
รามเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบของบ้าน ซึ่งเขาดูแล้วเปลี่ยนไปไม่น้อย สำคัญ เขาเห็นความชราในตัวบิดามากขึ้น
“คุณพ่อสุขภาพไม่ค่อยดีเลยหรือครับนม”
“ก่อนหน้านี้สักสามเดือน อาการของคุณท่านหนักมาก ทำใจหายเชียวค่ะ ดีว่าคุณกระถินเธอให้ส่งโรงพยาบาลนะคะ”
กระถินเงี่ยหูฟังความดีของตัวอย่างไม่ยอมรับ จึงได้หันมาเอ่ยว่า
“คุณผู้หญิงค่ะแม่นมที่ส่งคุณลุงไม่ใช่กระถิน”
แม่นิ่มและรามส่งยิ้มอย่างรู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากแบกรับความดีไว้ จึงไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก รามนั่งรับลมเย็น บางครั้งแม่นิ่มเผลอและกระถินไม่ทันระวังตัว ชายหนุ่มแอบลอบมองอยู่หลายครั้งทีเดียว
“รามไปพักก่อนนะครับแม่นม เย็นๆ รามจะมาใหม่ครับ”
“ค่ะคุณราม”
รามผุดลุกจากที่นั่ง กระถินหันมามอง แล้วส่งยิ้มอย่างเสียไม่ได้ให้กับราม ทำให้ชายหนุ่มคิดถึงคนเขียนจดหมายให้เขาหายเหงา โดยบอกว่าทำเพราะหน้าที่
ท่าทางตัวจริงกับในจดหมาย ไม่ได้ผิดสักนิดเดียว เด็กจอมแก่น ที่แม่นิ่มชมนักหนาว่า น่ารักเหลือเกิน!!

พุดกรองกลับจากธุระแล้ว นางรู้จากละมุดสาวใช้คนสนิทรายงานว่าราม ปิดภาคเรียนกลับมาพักที่บ้าน พุดกรองจึงหาเรื่องใกล้พระศานต์เพื่อหาโอกาสดูลูกเลี้ยงโตแล้วยังกระด้างอีกหรือไม่ เขายังคงเป็นรามคนเดิมที่ไม่สนทนาพาทีและถือตัว โดยไม่เห็นแม่เลี้ยงอยู่ในสายตาเช่นเคย เดินผ่านไปไม่ใยดี
“คุณราม ยังเหมือนเดิมนะเจ้าคะคุณพี่”
“เขาโตมากขึ้น สุขุมมาก รามนี่แหละประมุขคนต่อไป”
“คุณพี่”พุดกรองหลุดปากอย่างตกใจ ก่อนเกลื่อนไปว่า “เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้วนี่เจ้าคะคุณพี่ คุณรามเธอเป็นทายาทโดยชอบธรรม”
“ใช่ ฉันคงต้องมองหาเจ้าสาวที่เหมาะสมให้กับรามเสียเลยในคราวนี้ สาวสังคมก็มองอยู่หลายคนเหมือนกัน”
ฮึ...เรื่องอะไรจะให้สร้อยสนพลาดการเป็นคุณผู้หญิงของวังนี้ อย่างหวังเลยว่าฉันจะยอมให้ผู้หญิงอื่นเข้ามาเชิดหน้าเป็นคุณผู้หญิงที่นี่ได้!
พุดกรอง ทนนั่งฟังพระศานต์ชื่นชมลูกชาย ฟังดูแล้วรู้ได้ทันทีว่า มีมากกว่าตอนเป็นเด็กเป็นร้อยเท่า สิ่งนั้นยิ่งทำให้พุดกรองเริ่มได้คิดจะอยู่เฉยคงไม่ได้แล้ว วันหนึ่งข้างหน้าสมบัติจะตกเป็นของรามหมดทุกชิ้น เขาเกลียดเธอมีหรือจะเลี้ยงดูต่อ
เมื่อสามเดือนก่อนจัดการกับพระศานต์ไม่สำเร็จ ครั้งนี้ เธอจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว เวลาของเธอเหลือน้อยเต็มที เพราะหากรามกลับไปคราวนี้ อีกไม่เท่าไหร่ รามจะกลับมาครอบครองบ้านอย่างเต็มภาคภูมิ
...ยิ่งช้าเธอยิ่งเสีย กับเสีย

ยามเย็น สายลมพัดพลิ้วจากคลองใกล้บ้าน นอกจากหอบความเย็นอย่างชื่นใจแล้วยังนำกลิ่นหอมของดอกไม้ไทยซึ่งส่งกลิ่นหอมมากในยามเย็นและกลางคืน
ร่างสูงเดินไปที่เรือนแม่นิ่ม แม่นมวัยเกือบห้าสิบปียิ้มในสีหน้าแล้วผุดลุกหาของว่างด้วยตัวเอง กระถินถือขันเงินใส่มะลิมาค่อนขันชะงักเท้ากึกเมื่อเห็นราม รามเอ่ยเรียบ ๆ
“เป็นไรนั่นจู่ ๆ ก็จะยืนที่หน้าเรือนไม่ขึ้นมา”
คนถูกต่อว่าจึงค่อยก้าวเท้าซึ่งยืนขาตายไปเป็นครู่ กว่าจะก้าวออกมาได้เดินขึ้นมาบนเรือน วางขันลง แล้วเดินเลยไปหยิบพานโตกออกมา พร้อมเข็มร้อย ใบตองตัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
รามมองดูความคล่องแคล่วของอีกฝ่ายจึงนึกเดาว่ากระถินคงจะทำอยู่บ่อยจึงคล่อง แม่นิ่มถือของว่างมาตั้งบนโต๊ะไม้หน้าคุณชายของบ้านพร้อมน้ำมะตูมหอม
“ได้มะลิมากเชียววันนี้ ร้อยให้คุณรามไหว้พระด้วยนะคุณกระถิน”
“ค่ะแม่นม แต่คนเมืองฝรั่งเขาไม่เข้ารีตหมดแล้วหรือค่ะ”
“ฟังว่าสิเดี๋ยวนมตีให้” แม่นิ่มเข้าใจกิริยาแข็งของกระถินได้ดีว่า เธอคงขามเขิน จึงแสดงออกเป้นกระด้างแทน เพราะกลัวอีกฝ่ายจะรู้และต่อว่าเอาได้ แม่นิ่มนึกแล้วอดแอบยิ้มคุณกระถินของนางเสียไม่ได้
“คุณรามอย่าถือนะคะ นมแก้ไม่หายเสียทีกับความปากร้ายของคุณกระถิน”
“ไม่ถือดอกครับนม เห็นอยู่บ่อยๆ”รามกล่าว มือหยิบมะลิมาหมุนก้านเล่น แล้ววางลง กระถินหยิบใบตองซึ่งพับไว้เพื่อกรองดอกจำปี รามฉวยเอาไปก่อน
กระถินเลื่อนมือมาหยิบดอกจำปีใหม่ รามเสหยิบไปเสียอีก
“พี่รามตู่ มาเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตัวอยู่ตั้งอังกฤษหรือมีแว่นทิพย์อย่างพระอินทร์คะ”
“ใช่มีตาทิพย์ หูทิพย์ด้วยนะ ได้ยินล่วงหน้าว่าจะโดนใครสักคนต่อว่า”
กระถินหยิบดอกไม้ รามฉวยเอาก่อนทุกครั้ง กระถินทนไม่ไหวจึงฟ้องพี่เลี้ยง
“ใครจะว่าลับหลัง เขาว่าจะว่าต่อหน้าต่างหาก แม่นิ่มขาดูสิคะ พี่รามแกล้งจริงๆค่ะแม่นมดูสิ ร้อยมาลัยไม่เสร็จสักที”
แม่นิ่มไม่นำพาคำฟ้องของทั้งสองฝ่าย เพราะต้องเป้นคนกลางให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นคืนนี้คงเห็นคนงอนมากทีเดียว นางเอ่ยถามรามไปอีกเรื่อง คนตอบตั้งใจตอบ คนฟังอีกคนจ้องหาช่องโหว่มาตอกกลับ
“คุณรามพักนาน ๆ นะคะ”
“ก็เหลือไม่กี่วันดอกครับนม รามต้องจับเครื่องบินกลับไปเรียนต่อให้จบ อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น” เขาตอบอ่อนโยนหากคนฟังที่นั่งห่างมือ ร้อยเงี่ยหูฟังตลอดแปร่งหูจนทักท้วง
“ทำไมไม่ขึ้นเครื่องบิน แค่จับเดี๋ยวก็ตก” กระถินกล่าวยวนมากกว่าไม่รู้ความหมาย รามเอ่ยแก้ว่า
“ทับศัพท์เข้าใช้คำว่าจับภาษาอังกฤษเรียกว่า แคช อะ เพลน”
“แปลเป็นสำนวนไทยสิคะคุณราม แค่จับฟัง ๆ เหมือนโหนเครื่องบิน”
“คุณกระถินไม่เอาค่ะไม่” แม่นิ่มปรามเสียงดัง ไม่ให้กระถินลามอีกฝ่าย
รามหัวเราะหึ ๆกับคนเจ้าความคิด จึงเอ่ยกลับไปว่า
“จริงด้วยสินม อย่าว่าเขาเลย เพราะเราเป็นคนไทย ถึงจะแปลว่าจับ แต่ความหมายองคนไทยไม่น่าจะจับจะโหนเครื่องบินได้ นอกจากนั่งมันไป ควรใช้คำให้เหมาะสมจริงอย่างกระถินพูด หลังจากนี้ผมจะขึ้นไปนั่งเครื่องบินกลับ ไม่จับเพราะเดี๋ยวจะตกอย่างกระถินเขาว่า”
กระถินยิ้มรับที่ชนะเสียได้อีกครั้ง แม่นิ่มค้อนกระถินด้วยความเอ็นดูที่จ้องจะเอาชนะคนให้ได้ ผู้สูง
วัยเปลี่ยนเรื่องสนทนาหันไปเอ่ยถามชายหนุ่มว่า
“เป็นหนุ่มแล้วมี สาว ๆให้คิดถึง บ้างมั้ยคะคุณราม”
“ไม่เคยมองใครเลยครับ แต่กลับมานี่ เจออยู่คน ให้แอดเดรสกัน เธอชื่อปาริชาติ เจอบนเครื่องบินครับแม่นม ดูเธอเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล”
กระถินเห็นประกายตาวาวของรามขณะเอ่ยถึงสตรีนามว่าปาริชาติ รามตอบแม่นิ่มไปแล้วจึงกลับมาถามถึงอนาคตของกระถิน
“เขาจะเรียนเป็นอะไรล่ะลูกสาวแม่นม” เขาถามผ่านแม่นิ่มแทนเจ้าตัว ซึ่งนั่งร้อยพวงมาลัยวางบนพานเล็ก ๆ สวยประณีตทีเดียว
“อย่าบอกว่าเป็นครูล่ะ เพราะพี่คงเห็นลูกศิษย์หล่อนเป็นนักรบหมดแน่ นักรบญวนด้วย”
“กระถิน อยากเป็นพยาบาล”
“คนไข้คงพากันหนีตายหมด”
“แหม ไม่ดีสักอย่าง อย่างนี้เรียนจบไปขายข้าวแกงก็ได้ แม่นมสอนหมดทุกอย่างเลยดีมั้ยคะแม่นม อีกหน่อยพี่รามไล่กระถินออกจากบ้านเราออกไปขายข้าวแกงกันนะคะ”
“พี่จะไล่เราทำไมล่ะกระถิน”
กระถินนิ่งอึ้งไปทันที ก่อนจะปิดปากไม่พูดโพล่ง เพราะถ้าคุณรามรู้ว่าแม่พุดกรองกับทนายทด เป็นชู้กัน มีหรือจะได้อยู่บ้านนี้ได้อีก และเธอเองก็เป็นลูกสาวของพุดกรอง เธอไม่อาจทนอยู่ได้ถ้าพุดกรองโดนไล่ออกไป
“เอ้า บอกเหตุผลให้ฟังซิ ว่าพี่มีเหตุอันใดจะไล่เรา”
“ถ้ากระถินมีงานทำ กระถินก็ต้องปลูกบ้านเองอยู่ดี กระถินจะเอาแม่นมไปด้วย ไม่ให้คุณรามหรอก”
“โกงกันนี่ แม่นมเป็นแม่ของพี่มาก่อนเราตั้งหลายปี เรื่องอะไรพี่จะให้เราพาแม่นมไปให้ลำบาก”
“ถ้าอย่างนั้น แม่นมก็คงเลือกพี่ราม ไม่เลือกกระถินแน่ ๆ”
“อยู่ที่นี่เถอะจะไปไหนถึงมีงานก็อยู่ได้”
“ไม่อยากอยู่หรอก คนเราต้องมีบ้านเองอยู่แล้ว”กระถิ่นเอ่ยอย่างทระนง แม่นิ่มยิ้มในสีหน้าแล้วเอ่ย
“เอาล่ะแม่นมจะไปกับคุณกระถิน”
“จริงนะ” เด็กหญิงตัดด้วยฉับถลาไปกอดแม่นมซับหน้ากับอ้อมอกอุ่น ยิ้มเย้ยชายหนุ่ม
“เห็นมั้ยแม่นมรักกระถินมากกว่า”
รามส่ายหน้าเอ็นดู
“ถ้าเราจะเอาแม่นมไปจริง พี่คงต้องผูกทั้งสองคนให้อยู่ในเรือนนี้ละ และพี่จะให้เงินเดือนแลกกับงานขายข้าวแกงของเรานะแม่กระถิน”
“เดือนละห้าร้อย”เด็กสาวว่าเรียกค่าตัวแพงลิบ
“อะไรตั้งห้าร้อย ข้าวแกงจานละเท่าไหร่กันแพงจริง ๆ ที่อื่นขายจานละไม่กี่สตางค์ กระถินจะขายตั้งบาทเชียว”
“ทองบาทละสี่ร้อย กระถินจะเก็บไว้ซื้อทองให้แม่นมนี่นา”
แม่นิ่มฟังคำต่อล้อต่อเถียงของคนทั้งคู่อย่างเพลิดเพลินมีความสุขล้นเต็มหัวใจ

สร้อยสนค่อย ๆ ย่องเข้าบ้าน พุดกรองทักจากมุมมืดลูกสาวสะดุ้งสุดตัว
“ไปไหนมาสร้อย”
“เออ เดินเล่นค่ะคุณแม่”
“เดินที่ไหนมืดค่ำดึกดื่น เรานี่จะเอาใหญ่แล้วนะ”
สร้อยสนก้มหน้า พุดกรองฉุดลากลูกไปที่เตียงนอนเพ่งพิศลูกงามรับกันทุกส่วนแม้แต่ผิวพรรณ ถ้า จับให้แต่งงานกับราม สมบัติต้องเป็นของสร้อยสน และของเธออย่างไม่ต้องสงสัย
“ต่อไปนี้เอาอกเอาใจคุณลุงพระให้มาก ๆ ห้ามไปไหนอีก”
“แต่”
“แม่สร้อย” พุดกรองลดเสียง
“หันไปมองคุณรามโน่น เขาทั้งหล่อและรวย อีกหน่อยสมบัติบ้านนี้ก็เป็นของเขา ถ้าแม่สร้อยได้เป็นลูกเป็นเมียเขา เราจะได้ที่นี่ วังแห่งนี้จะเป็นของเรา จำเอาไว้ แม่สร้อยต้องทำเพื่อแม่”
“แต่คุณรามเกลียดสร้อย แม้แต่หน้ายังไม่เคยมองเลยนะคะ”
“เรื่องการหันมามองหรือการแต่งงานกับแก แม่จะจัดการเอง”พุดกรองพูดด้วยความหวังเต็มเปี่ยมหัวใจ
พุดกรองจับปลายคางลูกสาวเพ่งพิศถึงความสวยงามอย่างหาตัวจับยาก
“คนสวยใครจะไม่ชอบ แกสวยขนาดนี้ จริตจกร้านความเป็นหญิงมีเท่าไหร่แม่สร้อยนำมาใช้ได้ ยิ่งเขาไม่ชอบแม่สร้อย แม่สร้อยต้องทำให้คุณรามสงสารให้มาก”
สร้อยสนก้มหน้างุด เหนื่อยหน่ายต่อคำสั่งของมารดา ซึ่งให้จับผู้ชายคนที่ไม่เคยมองสร้อยสนคนนี้สักนิดเดียว
จันทร์และละมุดเสิร์ฟอาหารเช้า สร้อยเดินตามหลังมารดาเหลือบแลชายหนุ่มผู้นั่งสนทนาอยู่กับคุณพระอย่างไม่กล้ามองเต็มตานัก
หน้าคมแม้จะผิวขาว เคราครึ้มเขียวเป็นรำไร จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ริมฝีปากเต็มเกือบหนาหยิกริมปากเหมือนยักยิ้ม หากเขาไม่เคยยิ้มวางตัวหนัก พุดกรองทักทายลูกเลี้ยงอย่างอ่อนหวาน
“คุณรามตื่นแต่เช้าเชียวค่ะ”
“ใส่บาตรกับคุณพ่อ”
“โถ ช่างดีเหลือเกิน พรุ่งนี้น้าคงจะต้องมาร่วมทำบุญบ้างแล้วล่ะจ้ะจะได้พึ่งใบบุญคุณรามในภายภาคหน้า เอ้า สร้อยตักข้าวให้คุณพี่สิจ้ะ”
เธอถลึงตาใส่ละมุด ซึ่งรีบส่งโถข้าวให้สร้อยสนแทน เด็กสาวค่อย ๆ ตักตามมารยาทที่เคยถูกสั่งสอนมาให้เป็นผู้ดี รามเอ่ยขอบใจ เขาไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจต่ออีกฝ่ายดังวัยเยาว์ ทำให้สร้อยสนรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาไม่น้อย
หลังทานอาหาร รามปลีกตัวไปเดินเล่นตามลำพัง พุดกรองรีบผลักไสลูกสาวให้ก้าวตาม เธอกลัวหากจำกล้าเพราะมารดาถมึงทึงเข้าใส่อย่างดุดัน
“คุณราม” เธอเรียกเบาหวิว ชายหนุ่มร่างสูงชะงักเท้าเอี้ยวคอมามอง ตามเสียง สร้อยสนสาวเท้าไปยืนเคียง
“จะไปเรือนคุณนมหรือคะ”
“อืม นี่เธอกำลังจะไปไหนหรือ”
สร้อยสนเยื้อนยิ้มนิดส่งให้ใบหน้างามดูสวยสว่างจนชายหนุ่มเบือนสายตาไปที่สุมทุมพุ่มไม้แทนหน้าเด็กสาวคนนี้ ซึ่งเธอช่างถอดพิมพ์รูปร่างหน้าตามาจากพุดกรองไม่มีผิดสักส่วนเดียว
“สร้อยขอไปเรือนคุณนมด้วยนะคะ จะไปคุยกับกระถินค่ะ กระถินมีเรื่องสนุกมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ”
“เธอกับน้องสาวของเธอสนิทกันดีหรือ”
“ค่ะคุณราม กระถินเรียนเก่ง ส่วนสร้อยเรียนไม่เอาไหนเลยค่ะ ต้องเป็นภาระของกระถินอยู่บ่อยๆ ในห้องเรียนต้องลอกข้อสอบกระถินค่ะ”
รามฟังไปเรื่อยๆด้วยหัวใจเปิดรับเรื่องของกระถินมากกว่าจะเป็นเรื่องอื่น เขาอยากรู้ อยากได้ยินเรื่องของกระถิน
“กระถินเขาไม่มีคนมาสนใจหรือแม่สร้อย”
“กระถินตั้งใจเรียน ปลีกเวลามาทำงานให้คุณลุงทุกวัน สร้อยไม่เห็นกระถินสนใจหนุ่มคนไหนเลยนะคะคุณราม”
เขาไม่ว่าอะไรแต่ เบือนหน้าไปทางอื่น ซ่อนยิ้มในสีหน้าไม่ให้สร้อยสนได้รู้ สร้อยสนเองก็ลืมที่จะบอกว่าเธอไม่ได้เรียนต่อแล้วนับแต่พุดกรองสั่งห้ามคบกับนิธิ และกักเธอไว้ในบ้านเป็นเวลานานแล้ว
ก้าวเดิน ผ่านต้นมะม่วงมีลูกออกประปราย เสียงกิ่งหักโผง พร้อมกับกระถินกรีดร้อง เสียงโผงผางของร่างคนกระทบกิ่ง ก่อนร่วงหล่นตุ้บลงมากองอยู่กับพื้นไม่เป็นท่า ผลมะม่วงดิบร่วงกราวลงมาเกลื่อนพื้นดิน
สร้อยสนอุทานอย่างตกใจ
“ตายแล้วกระถิน”
เด็กสาว ใช้มือกดสะโพกด้วยความเคล็ดยอก หลังมองมะม่วงสองพวงใหญ่ตกเกลื่อน รามเข้าไปดูอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรมากหรือเปล่ากระถิน”
“กระถินคว้ากิ่งไว้ทันแล้วเชียวดันหักเสียได้ เดี๋ยวหาเรื่องโค่นทิ้งเสียนี่”คนเก่งพาลพาโล
“เจ็บมั้ยกระถิน” สร้อยสนถามน้องสาว ซึ่งถูกพุดกรองห้ามไม่ให้ใกล้ชิด แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ากระถินเป็นน้องมาตลอด เป็นเรื่องเดียวที่พุดกรองห้ามไม่ได้
“พี่สร้อยลองร่วงดูบ้างมั้ยล่ะ” คนเป็นน้องย้อนหน้าง้ำ พี่สาวยิ้มแหย
“ไม่ล่ะ ขนาดคนเก่งอย่างกระถินยังร่วงลงมาได้นี่นะ
“ซนไม่เข้าเรื่อง โตแล้วยังปีนป่ายเป็นลิงเป็นค่างไปได้ยังไงนะ” รามดุหลังจากดูอาการไม่หนัก
“แม่นมจะทำน้ำปลาหวานให้พี่รามนั่นละ กระถินเลยเจ็บตัว ยังมีหน้ามาว่ากระถินอีก” กระถินโต้คืน รามละอายใจที่เด็กสาวต้องเจ็บตัวเพราะแม่นมทำเพื่อเขา
“เราใช้ผู้ชายมาเก็บก็ได้กระถิน”
“นายมากก็ไปโน่นเลยค่ะ จีบแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเรือ ไม่มีใครว่างสักคน จะให้พี่จันทร์มาสอยให้ เห็นทีว่าพรุ่งนี้จะได้ทานค่ะพี่ราม”
“ขาหักจะว่ายังไง”
“ถ้าขาหัก กระถินจะขอรถเข็นจากแม่นมค่ะ” เธอตอบโต้ทันควัน
“กระถินตลกจังเลย มาพี่จะช่วยถือนะจ้ะ”สร้อยสนหัวเราะเบาๆ ช่วยเก็บมะม่วงที่หล่นเกลื่อน รามช่วยอีกฝ่าย
กระถินทำท่าจะเดิน แต่รู้สึกเคล็ดที่สะโพกจึงร้องออกมาอย่างไม่ตั้งใจ สร้อยสนรีบประคองน้องสาว กระถินยิ้มให้พี่สาวก่อนเอ่ย
“เก่งสู้พี่สร้อยไม่ได้เนอะ ต้องพึ่งพี่สร้อยพากลับเรือนเสียแล้ว”
รามได้ยินสองพี่น้องโต้ตอบกัน จึงได้รู้ว่ามีความสนิทสนมกันอย่างใจจริง จากนั้นทั้งสามคนจึงพากันไปที่เรือนริมน้ำ
แม่นมเตรียมเครื่องพร้อม แต่พอเห็นสร้อยสนประคองกระถินเดินมาที่เรือนก็ตกใจรีบเข้ามาดูถามร้อนรน
“คุณกระถินเป็นอะไรคะนั่น”
“ตกต้นมะม่วงค่ะแม่”
“อีกแล้วชอบปีนป่ายเป็นผู้ชาย เดี๋ยวนมจะตีซ้ำ นมบอกให้ตามเจ้ามากทำไมไม่ตามล่ะ”
“น้ามากชักช้านี่คะแม่นม กระถินเก็บเองเร็วดีได้ดังใจ”
“และได้ตกต้นไม้ด้วยใช่มั้ยคะ” คนเก่งยิ้มเจื่อน ก่อนอุบอิบเถียงว่า
“ตรงตกนี่กระถินไม่ตั้งใจค่ะแม่นม”
“แล้วเจ็บตรงไหนบ้าง มาค่ะจะไปใส่ยา มะม่วงเอาวางก่อน”
“สร้อยทำให้นะคะคุณนม” เด็กสาวรับอาสา ยกไปจัดทำในครัวเล็กซึ่งแม่นมจัดไว้ทำขนมต่างหาก
กว่าจะจัดทำความสะอาดให้กระถิน ทั้งทำแผลให้ลงเรือนมาที่ซุ้มสะบันงา (กระดังงา)
เวลาต่อมา มะม่วงถูกฝานไว้ได้จานพูน รามนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับสร้อยสน แม่นมอดเปรียบเทียบเสียไม่ได้ เธอไม่สนิทกับสร้อยสนเพราะอีกฝ่ายไม่ค่อยคลุกคลีกับใคร ซึ่งน่าจะเป็นเพราะคำสั่งคุณพุดกรอง สร้อยสนยิ่งโตยิ่งสวย ผิวเนื้อเนียนขาวละเอียด เรียบร้อยดูหงิม หากคุณนมมองว่าสนิมกินให้
ส่วนกระถินของแม่นม สวยคม ตากลมฉลาดเฉลียว มีพิษสงรอบตัว แม่นิ่มก็รักและเอ็นดูไม่น้อยกว่ารามเลย หรือบางทีแม่นมไม่รู้ตัวว่าหลงรักกระถินมากกว่ารามเสียแล้ว!!
รามเอ่ยชวนทุกคนให้ทานพร้อมเขา สร้อยสนยินดีที่เขาไม่รังเกียจเธออย่างเมื่อตอนเยาว์วัย
“กระถินขอเหรียญตราจากแม่นมแน่ะ”
“แม่นมจะให้เหรียญตีนี่ไง” ท่านซัดเผียะที่ขา เด็กสาวทำหน้ายู่ ถูเนื้อที่ถูกตีไปมา
“ช่างซนจริง ๆ โตแล้วนะคะ”
“ก็ ทันใจนี่คะแม่นม เห็นมั้ยคะ เก็บมะม่วงได้เกือบตะกร้า”
“นั่นแหละดีนักแต่เสียดายเวลาจะเสียขาไม่เข้าการ”
“ถึงพิการก็จะเลี้ยงแม่นม”
“ฟังเข้าเถอะค่ะคุณราม ยอมโตที่ไหน ยังติดแจอย่างนี้”
แม่นิ่มเอ่ยต่อว่ากระถินด้วยความเอื้อเอ็นดู สร้อยสนแอบเหลือบแลชายหนุ่มผู้นั่งตรงข้าม เขายิ้มบางในสีหน้าคมคาย หญิงสาวไม่รู้ตัวว่า ถูกสายตาผู้อาวุโสลอบมองกิริยาเช่นกัน




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2554, 11:20:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2554, 11:20:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 3647





<< พรากรัก   พินัยกรรม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account