วิวาห์ บ้านไร่
ภีม ภาสกร โชติโยธิน
ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาของเขา
หน้าที่การงานอันมั่นคง มีความสมบูรณ์ทั้งฐานะและชาติตระกูล
และที่สำคัญ ... คาสโนว่าตัวพ่อ

น้ำฟ้า ฟ้าลดา รัตนรักษ์
สาวสวยแต่..แสนแสบ..
เป็นคนไม่ยอมและต้องทำให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ
ไม่ว่าจะกรณีใดๆ “ฉันต้องชนะ”

*-*
แต่ทว่า...เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากัน
แต่ต้องมาแต่งงานกันด้วยเหตุผลที่สุดแสนจะจำเป็น
เธอและเขาจะทำอย่างไรต่อไป....

**********************

เขาทั้งสองคือผู้ช่วย
+++++
วายุ อัครวรากูล เพื่อนชี้ของนายภีมเขา นิสัยก้อจะร้ายๆเฉพาะกับหนูดรีม
ดรีม ดารินยา เพื่อนชี้ของน้องน้ำฟ้า ปากเก่งไม่ยอมใครโดยเฉพาะนาย นายวายุ

*-*
กรี๊ดดดด ทั้งสองสาวคลั่งกันใหญ่
“นี่อ่านบรรทัดนี่ สาวในฝัน : เป็นที่คนที่จิตใจดี พูดจาดี คุยเก่ง และที่สำคัญเป็นกันเองด้วยครับ กรี๊ดด เลิศอะโดนเลยเต็มๆ” สองสาวกรี๊ดกันสนั่นร้านดีที่ไม่ค่อยมีลูกค้าไม่งั้นคงหันไปมองกันเป็นตาเดียวแน่นอน
“ชั้นว่าเขาคงกินสตอฯเยอะไปแน่ๆเลย”ดารินยาเอ่ยขึ้นพลางเปิดหนังสืออีกเล่มอ่านโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองสองสาวที่กำลังกรี๊ดกร๊าดกันอยู่
คนคำนี้มันชักแสลงหูเสียแล้วซิ หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ลุกจากที่นั่งแล้วเดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลังของดารินยา ในขณะที่หญิงสาวกำลังพูดว่าร้ายใส่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง
แต่ดูเพื่อนๆของเธอสิเห็นแล้วยังไม่ยอมทักเพื่อนให้หยุด เฮ่อ มัวแต่ค้างกันอยู่นั่นแหละ ไม่รู้เหรอว่าเพื่อนกำลังจะมีเคราะห์ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้
“ชั้นว่านะนายนี่ก็เกย์ดีดีนั่นแหละ ดูสิแต่งตัวนี่เนี้ยบชะ...”ดารินยายังพูดไม่ทันจะจบประโยค ก็มีเสียงเข้มๆพูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง และนั่นก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว
“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ผม กรุณาให้ความเป็นกลางหน่อยสิคุณ อ่อแล้วอีกอย่างผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันกับคุณนั่นแหละ มีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ เจ็บเป็น และก็โกรธเป็นนะ เพราะฉะนั้นกรุณาช่วยทำอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่าการมานั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาอยู่อย่างนี้น่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาทันทีที่เดิมมาถึง แต่คำพูดของเขามันทำเอาหญิงสาวปรี้ดขึ้นสมองทันที เพราะตอนนี้ควันเริ่มจะออกมาทางหูแล้ว หญิงสาวจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้ามาทางชายหนุ่ม เพื่อที่จะได้ต่อว่าให้มันถูกตัวถูกตน
“แล้วที่ชั้นพูดมันไม่จริงตรงไหนกัน ที่ชั้นพูดมันเป็นความจริงทุกประการ นี่ถ้าไม่มีมูลชั้นไม่พูดหรอกนะ” หญิงสาวเถียงต่ออย่างไม่ลดละ

Tags: วิวาห์ บ้านไร่

ตอน: บทนำ

“อะไรนะครับ...คุณแม่จะให้ผมแต่งงาน”
“ใช่...แม่อยากให้แกแต่งงาน”
“แล้วแต่งกับใครก็ไม่รู้นะเหรอครับ..ไม่ยังไงผมก็ไม่แต่งเด็ดขาด” คนเป็นลูกเถียงแบบหัวชนฝา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดละกันเลย
“ใครที่ไหน...ได้ยังไงกันล่ะลูก ก็น้องเขาเป็นลูกสาวของเพื่อนรักของคุณพ่อ แล้วตอนนี้เขาก็กำลังลำบาก แกก็เคยเล่นกับน้องเขาสมัยเด็กๆ แกจำไม่ได้หรือไง”
“ไม่!... ไม่มีทางครับคุณแม่ ผมไม่มีวันยอมแต่งงานกับยัยเด็กกะโปโล ลูกเป็ดขี้เหล่นั่น ไม่มีวัน”
“ต้องมีวันสิ เพราะแกจะปฏิเสธแม่ไม่ได้ตาภีม น้องออกจะสวย น่ารัก จบจากเมืองนอกเมืองนา แล้วแกไปรู้ได้ยังไงว่าน้องเค้าขี้ริ้วขี้เหล่ หืม”
“ก็ตอนเด็กหน้าตาเป็นยังไง โตมากก็ต้องอย่างนั้นแหละครับคุณแม่”
“แล้วแกจะต้องเสียใจที่ไปว่าน้องเค้าอย่างนั้น แต่ที่แน่พรุ่งนี้แกต้องไปรับหนูน้ำฟ้าที่สนามบินแต่เช้า ”
“แต่วะ...” ยังไม่ทันที่ภาสกรจะได้พูดอะไรต่อ ผู้เป็นแม่จึงดักคอขึ้นก่อนที่เจ้าลูกชายตัวดีจะปฏิเสธก่อน
“ เข้าใจที่แม่สั่งนะ ‘พรุ่งนี้เช้า’ ” ผู้เป็นแม่สั่งเสร็จก็เดินออกไปจากห้องนั้นทันที ปล่อยให้ลูกชายนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่คนเดียว
‘คอยดูนะยัยขี้แย ชั้นจะแกล้งให้เธอวิ่งแจ้นกลับบ้านจนแทบไม่ทันเลย หึหึ’ ยิ้มที่มุมปากเล็กๆเหมือนมีแผนการอะไรสักอย่าง

เมื่อสมัยเขายังเด็ก เขาเคยแกล้งเธอสารพัด เอาตุ๊กตาไปซ่อน พาไปท้ายไร่แล้วหนีกลับก่อน แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เขาโดนพ่อตีไปหลายทีที่ทิ้งน้องไว้คนเดียว จะทำไงได้ล่ะก็คนมันหมั่นไส้นี่ก็เลยแกล้งเพื่อความสะใจเล่นๆ ก็ว่าอย่าได้เจอกันอีกเลยชาตินี้ เพราะเธอทำให้เขาโดนพ่อตีให้เจ็บตัว แต่ไหงกลับเป็นอย่างนี้ล่ะ ต้องได้เจอกันอีกแล้วยังแถมต้องแต่งงานกับยัยนั่นอีก เฮ่อ...
...ก็อย่างว่า เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น...อย่างเช่นคู่นี้ที่ต้องเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน...*-*


++++++++++++
“ฮือๆๆ คุณพ่อไม่รักน้ำฟ้าแล้ว คุณพ่อจะให้ฟ้าแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ฮือๆๆๆๆๆ” หญิงสาวตัวเล็กร่างบางพูดไปร้องไห้ไป “คุณแม่ คุณแม่ขาช่วยน้ำฟ้าด้วยน้ำฟ้ายังไม่อยากแต่งงาน คุณแม่ช่วยพูดให้น้ำฟ้าทีนะคะคุณแม่ น้ำฟ้ายังไม่อยากแต่งงานจริงๆ ฮือๆๆ”
“เชื่อคุณพ่อเถอะลูกฟ้าคุณพ่อเขาหวังดีต่อลูกนะที่ให้ลูกแต่งงานกับพี่เขา แล้วอีกอย่างพี่เขาก็มีการมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่งสามารถดูแลลูกสาวของแม่ได้ พี่เขาเป็นคนดีนะลูก” ผู้เป็นแม่ช่วยพูดปลอบประโลมอีกแรง
“แต่น้ำฟ้าก็ไม่อยากแต่งงาน น้ำฟ้าเพิ่งเรียนจบกลับมายังไม่ทันไรเลยนะคะ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ผลักไสน้ำฟ้าให้ไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ฮือๆๆ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยความน้อยใจ
“ใครที่ไหนได้ยังไงลูกน้ำฟ้าพี่ภีมนะเขาเป็นลูกชายของคุณลุงวีระ ซึ่งเป็นเพื่อนรักของคุณพ่อ และยังเป็นหุ้นส่วนของบริษัทเราด้วย” ผู้เป็นพ่ออธิบายให้ลูกสาวฟัง
“แล้วยังไงคะ การที่คุณลุงเขามีหุ้นส่วนของบริษัทของเราแล้วทำไมน้ำฟ้าต้องแต่งงานกับลูกชายของคุณลุงด้วย” หญิงสาวถามด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เธอแต่งงานกับนายภีมอะไรนี่
เมื่อฟ้าลดาพูดประโยคที่จี่จุด ผู้เป็นพ่อและแม่เลยจำใจต้องเล่าความจริงให้ฟัง
แต่อันที่จริงแล้วคุณวินัยพ่อของฟ้าลดาได้ติดหนี้สินคุณวีระพ่อของภาสกรเป็นจำนวนมากเพราะบริษัทกำลังจะล้มละลาย คุณวีระจึงยื่นมือเข้าช่วย โดยการที่คุณวินัยนำบ้านและบริษัทมาเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเพราะรู้สึกเกรงใจเพื่อนที่ให้เงินมาเป็นจำนวนมากเพื่อให้บริษัทอยู่รอด
“นี่คุณพ่อกำลังจะขายลูกสาวอยู่นะคะ”
“ลูกน้ำฟ้าฟังพ่อนะลูก พ่อไม่ได้ขายลูกสาวแต่พินัยกรรมของคุณลุงวีระเขาทำไว้ว่า ให้ลูกน้ำฟ้าของพ่อแต่งงานงานกับพี่ภีมลูกชายของคุณลุงวีระสินทรัพย์ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นของลูกทั้งหมด เพราะคุณลุงได้ยกบ้านรัตนารักษ์หลังนี้เป็นของขวัญวันแต่งงานของลูกกับพี่ภีมเขาไงลูก”
“แต่ว่าน้ำฟ้ากับเขาไม่ได้รักกัน และที่สำคัญไม่เคยเห็นหน้ากันเลยนะคะ”หญิงสาวอ้างเหตุผล
“เดี๋ยวก็ได้รู้จักแล้วลูก ไม่ต้องห่วง เพราะลูกน้ำฟ้าจะต้องเดินทางไปไร่วีระกิจในวันพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้”หญิงสาวทำหน้าตาตื่นๆ
“ไม่น้ำฟ้าไม่ไปนะคะ น้ำฟ้าไม่ไป”จากที่น้ำตาเริ่มหดหายก็เริ่มไหลมาอีก
“ไม่ได้ลูกยังไงก็ต้องไป เพราะคุณป้าโทรมาว่าอยากให้ลูกไปที่ไร่”ผู้เป็นแม่พูด
“อย่าลืมนะลูกถ้าลูกไม่แต่ง ลูกฟ้าของพ่อจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว”
เมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อพูดหญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าเธอจะไม่ยอมเสียอะไรให้ใคร เพราะเธอคือคุณหนูไฮโซ ลูกสาวของคุณวินัย รัตนารักษ์ เธอไม่มีวันที่เป็นผู้ที่ไม่เหลืออะไรเลยไม่มีวัน
“ก็ได้ค่ะ น้ำฟ้าจะไปเชียงใหม่พรุ่งนี้”
คำตอบของหญิงสาวทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ดีใจกันยกใหญ่
“ไปลูกไปพักผ่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี่จะได้เดินทาง”
“...” หญิงสาวไม่ตอบอะไรเดินตามมารดาที่เดิมมาส่งที่ห้องนอน
+++++

เวลา 20.00 น.
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
“ฮัลโหล ว่าไงครับคนสวย”
“แหม พี่ภีมปากหวานตลอดเลยนะคะ”
“ก็พี่พูดความจริงนี่ครับ แฟนของพี่เนี่ยสวยที่สุดในโลกเลย”
อี๋ อีตาภีมนี่จะน้ำเน่าไปถึงไหนเนี่ย
“....”
“....”
“....”
“....”
และหลังจากนั้นก็พูดอะไรกันต่อก็ไม่อาจทราบได้
“โอเค ครับฝันดีนะครับกอหญ้า”
หลังจากวางสายแล้วก็เดินอารมณ์ดีเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย หลังจากนั้นไม่นานก็ออกมาล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนที่หนานุ่ม คิดถึงวันพรุ่งนี้ว่าจะจัดการยังไงกับยัยขี้แยนั่นให้รีบเผ่นแนบกลับบ้านไป คิดแล้วก็เผลอหลับไปในที่สุด

เช้าวันใหม่อากาศสดใสภาสกรตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วลงไปข้างล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้า
“ว่าไงตาภีม อารมณ์ดีแต่เช้าเชียวนะ” ผู้เป็นแม่เห็นอาการของเจ้าลูกชายแล้วอดแซวไม่ได้
“ก็วันนี้ต้องไปรับว่าที่ลูกสะใภ้คุณแม่นี่ครับ”ภาสกรก็แซวผู้เป็นแม่กลับเช่นกัน
“แกมีแผนอะไรหรือป่าวเจ้าภีม”คุณหญิงเห็นสายตาของภาสกรมีพิรุจจึงถามดักไว้ก่อน
“ป้าว...”
“แหม เสียงสูงเชียวนะ”
“ไม่มีอะไรจริงๆครับคุณแม่”
“อย่าให้แม่รู้นะว่าแกคิดจะแกล้งน้อง ตาภีม” ผู้เป็นแม่คาดโทษไว้ก่อน
“ผมลูกคุณแม่นะครับ เข้าข้างคนอื่นทำไมครับ”
“ก็แม่รู้จักแกดีไงแม่ถึงรู้ทันแก ตาภีม”
“ครับครับ ผมจะไม่แตะต้องเลยครับ ‘ถ้าไม่จำเป็น’ ” ไอ้คำหลังเนี่ยพูดอยู่ในใจถ้าพูดออกมาละก็ตายแน่ภีมเอ๋ย
“แล้วคุณแม่จะให้ผลไปรับตอนไหนครับ”
“ตอนนี้”
“แต่ผ...”
“ไม่มีแต่ ไปเดี๋ยวนี้”
“ผมจะรู้ได้ยังไงครับหน้าตาเป็นยังไง”
“เอ้า เอาไป” ผู้เป็นแม่ส่งมือถือให้เจ้าลูกชายตัวดี
“เอามาทำอะไรครับคุณแม่”
“ก็แกไม่เคยเห็นน้องเขาไม่ใช่เหรอ”
“ครับ”ตอบแบบงง
“ก็ดูสิในมือน่ะ เมื่อวานนี้ทางโน้นเขาส่งรูปมาให้แม่”
โอ้โห! คุณแม่ก็ทันสมัยเหมือนกันนะเนี่ย
“ละทีนี่แกจะไปได้หรือยังเจ้าภีม”
“โอเค ครับคุณแม่ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”
พูดจบภาสกรก็มุ่งหน้าไปยังโรงจอดรถ และขับออกไปทันที



sexygirl
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มี.ค. 2555, 17:36:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มี.ค. 2555, 17:36:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 1372





   บทที่ 1 แรกพบสบตา (คู่กัด คู่เหวี่ยง) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account