วิวาห์ บ้านไร่
ภีม ภาสกร โชติโยธิน
ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาของเขา
หน้าที่การงานอันมั่นคง มีความสมบูรณ์ทั้งฐานะและชาติตระกูล
และที่สำคัญ ... คาสโนว่าตัวพ่อ

น้ำฟ้า ฟ้าลดา รัตนรักษ์
สาวสวยแต่..แสนแสบ..
เป็นคนไม่ยอมและต้องทำให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ
ไม่ว่าจะกรณีใดๆ “ฉันต้องชนะ”

*-*
แต่ทว่า...เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากัน
แต่ต้องมาแต่งงานกันด้วยเหตุผลที่สุดแสนจะจำเป็น
เธอและเขาจะทำอย่างไรต่อไป....

**********************

เขาทั้งสองคือผู้ช่วย
+++++
วายุ อัครวรากูล เพื่อนชี้ของนายภีมเขา นิสัยก้อจะร้ายๆเฉพาะกับหนูดรีม
ดรีม ดารินยา เพื่อนชี้ของน้องน้ำฟ้า ปากเก่งไม่ยอมใครโดยเฉพาะนาย นายวายุ

*-*
กรี๊ดดดด ทั้งสองสาวคลั่งกันใหญ่
“นี่อ่านบรรทัดนี่ สาวในฝัน : เป็นที่คนที่จิตใจดี พูดจาดี คุยเก่ง และที่สำคัญเป็นกันเองด้วยครับ กรี๊ดด เลิศอะโดนเลยเต็มๆ” สองสาวกรี๊ดกันสนั่นร้านดีที่ไม่ค่อยมีลูกค้าไม่งั้นคงหันไปมองกันเป็นตาเดียวแน่นอน
“ชั้นว่าเขาคงกินสตอฯเยอะไปแน่ๆเลย”ดารินยาเอ่ยขึ้นพลางเปิดหนังสืออีกเล่มอ่านโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองสองสาวที่กำลังกรี๊ดกร๊าดกันอยู่
คนคำนี้มันชักแสลงหูเสียแล้วซิ หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ลุกจากที่นั่งแล้วเดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลังของดารินยา ในขณะที่หญิงสาวกำลังพูดว่าร้ายใส่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง
แต่ดูเพื่อนๆของเธอสิเห็นแล้วยังไม่ยอมทักเพื่อนให้หยุด เฮ่อ มัวแต่ค้างกันอยู่นั่นแหละ ไม่รู้เหรอว่าเพื่อนกำลังจะมีเคราะห์ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้
“ชั้นว่านะนายนี่ก็เกย์ดีดีนั่นแหละ ดูสิแต่งตัวนี่เนี้ยบชะ...”ดารินยายังพูดไม่ทันจะจบประโยค ก็มีเสียงเข้มๆพูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง และนั่นก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว
“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ผม กรุณาให้ความเป็นกลางหน่อยสิคุณ อ่อแล้วอีกอย่างผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันกับคุณนั่นแหละ มีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ เจ็บเป็น และก็โกรธเป็นนะ เพราะฉะนั้นกรุณาช่วยทำอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่าการมานั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาอยู่อย่างนี้น่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาทันทีที่เดิมมาถึง แต่คำพูดของเขามันทำเอาหญิงสาวปรี้ดขึ้นสมองทันที เพราะตอนนี้ควันเริ่มจะออกมาทางหูแล้ว หญิงสาวจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้ามาทางชายหนุ่ม เพื่อที่จะได้ต่อว่าให้มันถูกตัวถูกตน
“แล้วที่ชั้นพูดมันไม่จริงตรงไหนกัน ที่ชั้นพูดมันเป็นความจริงทุกประการ นี่ถ้าไม่มีมูลชั้นไม่พูดหรอกนะ” หญิงสาวเถียงต่ออย่างไม่ลดละ

Tags: วิวาห์ บ้านไร่

ตอน: บทที่ 3 บทลงโทษของคนปากดี(นายวายุ นายจะทำอะไร กรี๊ดดดด)

“หนูน้ำฟ้าตกลงยอมแต่งงานแล้วเหรอลูก โอป้าดีใจที่สุดเลยลูก”
แผนการนี้สำเร็จ เสร็จสิ้นไปแล้วหนึ่งราย เหลือพ่อตัวดีนี่สิ วันๆไม่รู้ไปขลุกอยู่ที่ไหน
“เอาอย่างนี้ดีกว่า เราไปเดินเล่นกันดีกว่านะลูก เดี๋ยวป้าจะพาไปเก็บสตอเบอรี่กินกันสดๆไปเลย”
“ค่ะ”

หลังจากที่ทั้งสองพากันออกไปแล้วก็พากันเก็บลูกนั้นลูกนี้ชิมลูกนี้ลูกนั้นจนอิ่มไปตามๆกัน เพราะการปลูกของที่นี่ไม่ได้ใช้สารพิษแต่อย่างได้ อาจเป็นเพราะการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ผลผลิตที่ได้ก็ต้องดีเป็นธรรมดา
“นี่ก็เที่ยงแล้วนะหนูน้ำฟ้า ป้าว่าเราเข้าร่มกันก่อนดีกว่านะแดดมันแรงเดี๋ยวผิวสวยๆจะเสียหมด”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ”

“ดื่มน้ำเย็นๆก่อนจะได้สดชื่นนะ”หญิงสาวรับน้ำมาดื่มทันทีเพราะรู้สึกว่าหิวน้ำมาตั้งนานแล้ว
“เอ้า เบาๆ ค่อยๆดื่มสิเดียวก็สำลักหลอก”
“แค๊ะ แค๊ก แค๊ก”
“เป็นยังไงล่ะว่ายังไม่ทันขาดคำเลย จะรีบไปถึงไหน แล้วก็ไม่มีใครมาแย่งดื่มเสียหน่อย”
“ก็น้ำฟ้าหิวนี่คะ”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ป้าว่าอีกสักพักเราค่อยกลับกันนะ กลับตอนนี้คงไม่ไหวแน่”
“ว่าแต่คุณป้าเตรียมอะไรมาทานบ้างคะ น้ำฟ้าหิวม๊ากมาก”
“ก็หลายอย่างเลยนะ เดี๋ยวเอาออกมาทานกันเลยแล้วกันจะได้กลับ แต่เอทำไมหนูน้ำฟ้าเก็บสตอเบอรี่มาเยอะจะล่ะจ๊ะ”คนเป็นป้าถามออกมาด้วยความสงสัยเพราะลำพังหญิงสาวคนเดียวคงกินไม่หมดแน่นอน
“อ๋อพอดีว่า น้ำฟ้าอยากทำขนมค่ะ เห็นมันสดดีก็เลยอยากเก็บไปทำ”
“หนูน้ำฟ้าทำเป็นเหรอจ๊ะ”
“ก็พอได้ค่ะไม่ถึงกับเก่งเลย น้ำฟ้าชอบเข้าครัวไปเป็นลูกมือของคุณแม่บ่อยๆค่ะ”
หลังจากที่รับประทานอาหารไปก็คุยกันไปจนเวลาเริ่มคล้อยบ่าย ทั้งสองจึงเดินทางกลับ

*-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-*

ณ ร้านคอฟฟี่อินเลิฟ เป็นร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจแห่งนี้ และจะเป็นร้านที่ดูมีระดับเพราะจะมีบุคคลระดับผู้บริหารเข้ามานั่งดื่ม ร้านนี้ค่อนข้างเงียบมีคอมเป็นส่วนตัวและอีกอย่างบรรยากาศภายในร้านก็ร่มรื่นเย็นสบาย ร้านนี้เป็นที่โปรดปรานของดารินยาและเพื่อนๆที่ชอบมานั่งเล่นกันในยามช่วงพักเที่ยง แต่ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพนักงานระดับล่างๆอย่างดารินยาและกลุ่มเพื่อนๆเข้ามานั่งชูคอกันได้ ทั้งๆที่เธอออกจะขี้เหนียวเสียอีก อิอิ เพราะร้านนี้เป็นร้านของเพื่อนสาวของหญิงสาวนั่นเอง
และนี่ก็เป็นช่วงเวลาที่พวกสาวๆจะมานั่งเม้าท์กันแล้ว เพราะเป็นช่องเวลาที่พวกหล่อนจะมานั่งพักเทียงกัน
“นี่ๆๆๆแกดูนี่สิยัยดรีมคุณวายุเขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือ ดูรูปนี้สิหล่ออะ”เพื่อนสมัยเรียนอยู่มหาลัยฯเอ่ยขึ้น
“ก็งั้นๆแหละแก อย่าเว่อไปได้ป่ะ ขอร้องเก็บอาการหน่อย” ขณะที่หญิงสาวพูดขึ้นมันทำให้ใคคนหนึ่งเกิดอาการหูผึ่งขึ้นมาทันที เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะบุคคลที่ถูกพลาดพิงถึงนั่นก็คือเขา (วายุ อัครวรากูล) เป็นเพราะเขามีนัดกับลูกค้าไว้ตอนบ่ายเขาเลยมาก่อนเวลา จึงทำให้ได้รู้ว่ามีคนที่ชอบนินทาชาวบ้านเขาอยู่แถวนี้นี่เอง
ปกติเขาก็มาร้านนี้เป็นประจำแต่จะมาช่วงเย็นๆของทุกวัน แต่วันนี้มาก่อนช่วงเย็น แจ๊คพลอตเลยแตก
“ดูสิพี่แพร หล่อนะ”เมื่อดารินยามีท่าทีว่าไม่สนใจเธอจึงหันมาหาลูกคู่กับพรรษาทันที
“เออก็จริงอย่างที่ยัยเกรซว่านะยัยดรีม มีสัมภาษณ์ด้วย”
กรี๊ดดดด ทั้งสองสาวคลั่งกันใหญ่
“นี่อ่านบรรทัดนี่ สาวในฝัน : เป็นที่คนที่จิตใจดี พูดจาดี คุยเก่ง และที่สำคัญเป็นกันเองด้วยครับ กรี๊ดด เลิศอะโดนเลยเต็มๆ” สองสาวกรี๊ดกันสนั่นร้านดีที่ไม่ค่อยมีลูกค้าไม่งั้นคงหันไปมองกันเป็นตาเดียวแน่นอน
“ชั้นว่าเขาคงกินสตอฯเยอะไปแน่ๆเลย”ดารินยาเอ่ยขึ้นพลางเปิดหนังสืออีกเล่มอ่านโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองสองสาวที่กำลังกรี๊ดกร๊าดกันอยู่
คนคำนี้มันชักแสลงหูเสียแล้วซิ หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ลุกจากที่นั่งแล้วเดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลังของดารินยา ในขณะที่หญิงสาวกำลังพูดว่าร้ายใส่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง
แต่ดูเพื่อนๆของเธอสิเห็นแล้วยังไม่ยอมทักเพื่อนให้หยุด เฮ่อ มัวแต่ค้างกันอยู่นั่นแหละ ไม่รู้เหรอว่าเพื่อนกำลังจะมีเคราะห์ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้

*-* *-* *-* *-* *-* *-*

“ชั้นว่านะนายนี่ก็เกย์ดีดีนั่นแหละ ดูสิแต่งตัวนี่เนี้ยบชะ...”ดารินยายังพูดไม่ทันจะจบประโยค ก็มีเสียงเข้มๆพูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง และนั่นก็ทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว
“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ผม กรุณาให้ความเป็นกลางหน่อยสิคุณ อ่อแล้วอีกอย่างผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันกับคุณนั่นแหละ มีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ เจ็บเป็น และก็โกรธเป็นนะ เพราะฉะนั้นกรุณาช่วยทำอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่าการมานั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเขาอยู่อย่างนี้น่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาทันทีที่เดิมมาถึง แต่คำพูดของเขามันทำเอาหญิงสาวปรี้ดขึ้นสมองทันที เพราะตอนนี้ควันเริ่มจะออกมาทางหูแล้ว หญิงสาวจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้ามาทางชายหนุ่ม เพื่อที่จะได้ต่อว่าให้มันถูกตัวถูกตน
“แล้วที่ชั้นพูดมันไม่จริงตรงไหนกัน ที่ชั้นพูดมันเป็นความจริงทุกประการ นี่ถ้าไม่มีมูลชั้นไม่พูดหลอกนะ” หญิงสาวเถียงต่ออย่างไม่ลดละ
“นี่ยัยดรีมพอได้แล้ว แกไม่อายคนอื่นเขาบ้างเหรอ” พรรษาพูดปราม
“จะอายทำไมก็มันเป็นความจริง”
“โธ่ ยัยดรีมอย่ามีเรื่องกันเลยนะชั้นขอร้อง” เกวรินเห็นทีท่าว่าจะไม่ดีขึ้นเลยช่วยพูดอีกแรง ก่อนที่อะไรอะไรมันจะแย่ลงไปมากกว่านี้ แต่รู้สึกว่ามันจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
“คุณวายุคะพวกเราขอโทษแทนยัยดรีมด้วยนะคะที่พูดไม่ดีกับคุณ ขอโทษจริงๆค่ะ”
“นี่ยัยเกรซ แกจะไปขอโทษเค้าทำไม ในเมื่อเราไม่ผิด เขาต่างหากที่เดินมาหาเรื่องเราถึงโต๊ะ” ดารินยาดุเพื่อนสาวทันที
“นี่ไม่ต้องเถียงกันหลอก ผมจะสรุปให้ว่าใครผิด”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องยุ่งได้มั๊ย”ดารินยาก็ตอกกลับทันควัน
ตอนแรกไอ้แค่คำวิจารณ์น่ะเขาไม่สนหลอก หากแต่ว่ามาได้ยินว่าเขาเป็นพวกเก้ง กวางนี่สิเขารับไม่ได้จริงๆ ขอให้เข้าได้ลงโทษคนปากดีหน่อยเถอะ
“นี่ยัยดรีมพอได้แล้ว ขอโทษคุณวายุเขาซะเรื่องมันจะได้จบ” เกวรินตัดบทเพื่อที่เรื่องมันจะได้จบๆ
“ไม่” หญิงสาวตอบออกมาด้วยความโมโห
“ยัยดรีม”
“ไม่ต้องเลย ชั้นบอกแล้วไงว่าไม่ก็ไม่สิ เพราะชั้นไม่ผิด”
“คุณวายุคะพวกเราต้องขอโทษแทนยัยดรีมอีกครั้งนะคะ ที่พูดไม่ดี”
“ไม่ต้องหลอกครับ เพราะพวกคุณไม่ผิด”ประโยคนี้ช่างนุ่มนวลทำเอาคนฟังแทบใจละลายแต่ยกเว้นดารินยาคนเดียวที่ไม่อยากจะฟัง และใจก็ยังแข็งอยู่
และประโยคนี้ก็ทำให้พวกเพื่อนๆของหญิงสาวกำลังจะไชโยโห่ฮิ้ว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะได้ยินคำคำนี้จากปากชายหนุ่ม
“แต่..”
“แต่อะไรคะ ?” เกวรินถามออกมาด้วยความงุ่นงง
“แต่คนที่ผิดคือเพื่อนของพวกคุณ”ชายหนุ่มตอบพร้อมหันหน้าไปแยกเขี้ยวใส่หญิงสาว
“แต่ชั้นไม่ผิด ชั้นไม่ขอโทษ”
“ไม่ผิดงั้นเหรอ...ได้...”สิ้นคำของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวแทบคลั่งเพราะร่างอันบอบบางของเธอถูกชายหนุ่มรวบเอวตวัดเข้าไปในอ้อมอกอันกำยำของเขาทันที
“นี่นายปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของชายหนุ่ม แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมหลุดออกมาได้ง่ายๆ
ส่วนเพื่อนๆของเธอน่ะเหรออย่าว่าแต่ช่วยเพื่อนเลย เพราะตอนนี้กำลังตกตะลึงกันอยู่เลย และก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยหญิงสาวเพราะเห็นแววตาจริงจังของชายหนุ่ม แค่คิดจะเข้ามาแค่ก้าวเดียวแต่ก็ต้องถอยกลับออกไปเป็นสิบก้าว
“ผมไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะยอมขอโทษผม”
“ฟังให้ชัดๆนะว่า ไม่มีวัน”หญิงสาวตะคอกใส่
“วันนี้ผลต้องลบคำสบประมาทของคุณให้ได้คุณดรีม”
“อย่ามาเรียกชื่อชั้นนะ”
“ทำไมจะเรียกไม่ได้ ตกลงว่าจะยอมขอโทษดีๆมั๊ย?” ชายหนุ่มขู่ถ้าเธอเป็นเด็กป่านนี้คงร้องไห้ไปน่านแล้ว ก็เขาเล่นขู่เอาขู่เอาบวกกับนัยน์ตาที่แข็งกร้าวแล้วนั่นก็ทำให้ดารินยานึกกลัวขึ้นมาทันที แต่เป็นเพราะเธอยังมีฟอร์มเหลืออยู่บ้างจึงไม่แสดงอาการหวาดกลัวเขาออกมาให้เห็น

*-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-*

“ไม่มีวัน”หญิงสาวแว๊ดเสียงใส่หน้าชายหนุ่ม
“ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง”ชายหนุ่มเสนอข้อต่อรอง
“ก็บอกแล้วไงว่ามะ...”หญิงสาวพูดไม่ทันจบประโยค ก็ถูกเขาเอาเปรียบด้วยการจูบอย่าร้อนแรงบดขยี้เรียวปากอันอวบอิ่มของหญิงสาวเพื่อเป็นการลงโทษคนปากดี

*-* *-* *-* *-* *-* *-*

ดวงตากลมโตเบิกโพลงกว้างด้วยความตกใจที่ถูกจู่โจม จากที่เป็นคนตาโตอยู่แล้วก็ยิ่งโตขึ้นไปกว่าเดิมอีก หญิงสาวพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่ายิ่งต่อสู้ยิ่งขัดขืนเท่าไรก็ยิ่งโดนกอดรัดแน่นขึ้นไปอีก หญิงสาวพยายามเอาตัวรอดด้วยการทั้งตบทั้งตีชายหนุ่มแต่ก็ไม่สำเร็จมิหนำซ้ำยังโดนลิ้นร้ายๆแทรกซอนเข้าไปสำรวจในโพลงปากเพื่อสำรวจหาความหวานจากปากหญิงสาว ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดพยายามดันลิ้นร้อนๆของเขาออกจากปากแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะมันเหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้เขาเข้ามาหาความหวานนั้น เสียงอู้อีที่เล็ดลอดออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ แต่ดูเหมือนว่าบุญมีแต่กรรมบัง เพราะนอกจากพวกเพื่อนๆของเธอที่มาด้วยกันแล้วไม่มีใครสนใจจะฟังเสียงเล็กๆนั้นเลย เพราะมัวสนใจแต่รสจูบที่เขาจูบเพื่อนสาวของพวกเธอและคงจะคิดกันว่าถ้าพวกเธอไม่มีสิทธิ์จูบ ก็ขอส่งหญิงสาวเป็นตัวแทนไปก็แล้วกันนะ
“ไอ้เพื่อนบ้าทำไมไม่มีใครยอมมาช่วยชั้นกันบ้างเลย มัวแต่เคลิ้มกันอยู่ได้ โอพระเจ้าช่วยด้วย ฉ้านนยากตาย ฮือ ฮือ ฮือ”
หญิงสาวในอ้อมกอดสบถกับตัวในใจ เพราะแค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว อาย อาย อาย อายมากขอปี๊บคลุมหัวหน่อย
ชายหนุ่มดื่มด่ำเอาความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่รู้เบื่อ เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ให้นานๆ เพราะคนตรงหน้าของเขานี้ช่างเดียงสากว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก ชักเริ่มสนุกเสียแล้วสิ
“อื้อออ”เสียงของหญิงสาวเริ่มเบาลง อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ปล่อยให้เธอได้หายใจสะดวกถี่ถ้วนนัก ชายหนุ่มใช้เวลาตรงนี้ตักตวงความหวานให้ได้มากที่สุด และเป็นเวลานานนานพอทีควรจะบ่อยสาวน้อยร่างบางนี่ให้เป็นอิสระจากการจุมพิตอันเร่าร้อนนี้เสียที
“ไอ้บ้ากาม ชั่ว เลว ระย่ำ ถ่อย บ้าบ้าบ้าไอ้บ้ากาม ชั้นไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาด่านายดี เพราะว่าคำเหล่านี้มันยังดูดีเกินกว่าจะเอามาด่านาย ไอ..ชะ..”หญิงสาวยังพูดไม่ทันที่จะประโยค เอ๊ะไม่ใช่สิคำว่าประโยคมันอาจจะดูว่าสั้นไปเสียด้วยซ้ำในความคิดของหญิงสาว ต้องเป็น...ยังพูดไม่ทันสิ้นคำเลยอาจจะดูดีกว่า
“แหมพอปากว่างก็ปากดีต่อเลยนะคุณ อย่างนี่มันน่า”ชายหนุ่มพูดพลางทำท่าจะจูบต่อ ทำให้หญิงสาวรีบเอามือน้อยๆขึ้นมาปิดปากตัวเองทันที
“จะปล่อยชั้นได้หรือยังล่ะ ปล่อย”หญิงสาวดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม แต่มือน้อยๆยังคงปิดปากไว้อยู่
“อ้าวไม่ปากดีต่อแล้วเหรอคุณ”
“ไอ้บ้ากามอย่ามายั่วชั้นนะ ปล่อย ชั้นบอกให้ปล่อยไม่ได้หูหนวกหรือไง ไอ้บ้ากาม”คำพูดของเขาช่างยั่วโสตประสาทขางหญิงสาวเสียจริง คอยดูนะถ้าหลุดไปได้เมื่อไหร่ละก็...
“ไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะยอมขอโทษผมก่อน”ชายหนุ่มต่อรอง
“ถ้าชั้นไม่ล่ะ”หญิงสาวพูดขณะที่มือยังคงปิดปากไว้
“ก็น่าจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก แต่ผมขอบอกก่อนเลยว่าคุณจะไม่ได้ปากดีแบบนี้อีก ว่าไง”
“ขู่ได้ขู่เอาจริงๆเลยนะ”คำนี้ทำเอาวายุหลุดขำออกมาทันที
“ขำอะไร ไม่เห็นมีอะไรน่าขำเลยนะ ตอนนี้กำลังซีเรียสอยู่โปรดเข้าใจไว้ด้วยนะ”
“ครับๆไม่ขำก็ได้ แล้วตกลงจะว่ายังไงครับ”
“ก็ได้ชั้นยอม แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่ชั้นจะยอม ชั้นขอโทษ” ประโยคหลังช่างเบาเหลือเกิน
“อะไรนะ”
“ชั้นขอโทษ”ดารินยาตะคอกเสียงใส่หูชายหนุ่ม
“เบาๆก็ได้คุณแก้วหูจะแตก”
“ช่วยไม่ได้นายอยากหูตึงเองทำไมล่ะ”หญิงสาวในอ้อมกอดตอบออกไปแบบกวนๆ
“แต่ผมว่ามันไม่ลื่นหูเลยนะ พูดใหม่อีกทีผมให้โอกาสคุณแล้วนะแค่ครั้งเดียว เอาแบบเพราะลื่นๆหูหน่อย แบบว่าคุณวายุคะดรีมขอโทษค่ะ ประมาณนี้”
“มันจากมากไปแล้วนะได้คืบจะเอาศอก”ความโมโหมันมีมากกว่าความอดทน เลยทำให้ร่างบางเกือบเสียจูบไปอีกครา
“อ๊ะ อ๊ะ พูดให้มันดีๆนะคุณผมบอกแล้วนะว่าโอกาสของคุณมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นอย่าลืมสิ”
“นี่จะยั่วประสาทชั้นไปถึงไหนเนี่ย ชั้นมีงานมีการที่ต้องทำนะไม่ได้ว่างเหมือนใครบางคนแถวนี้”ดารินยาพูดออกมาเพราะนี่ก็จวนจะได้เวลากลับไปทำงานแล้ว
“อ้าวมีงานทำเหรอ นึกว่าคุณจะว่างงานมานั่นนินทราชาวบ้านเขา”วายุยังแขวะหญิงสาวไม่ยอมหยุด เท่านี้ก็อารมณ์เสียมากพออยู่แล้วยังกวนประสาทกันไม่เลิกอีก
“ก็ได้”
“ก็ว่ามาสิ”
“คุณวายุขาดรีมขอโทษนะคะที่พูดไม่ดีกับคุณ แล้วยังว่าคุณ เป็นเกย์ อีก” เอไอ้คำว่า ‘เป็นเกย์’นี่มันรู้สึกแม่งๆหูของชายหนุ่มยังไงก็ไม่รู้มันทำไมต้องเน้นหนักด้วยก็ไม่รู้สิทั้งๆที่ประโยคก่อนหน้าก็ออกจะอ่อนหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า
“แล้วทีนี้จะปล่อยดรีมได้หรือยังคะ”หญิงสาวออดอ้อนต่อ แต่ภายในมันปั่นป่วนกะอักกะอวนรู้สึกว่ามันขัดต่อความรู้สึกของตนเองอย่างบอกไม่ถูก
“อย่างนี้สิถึงจะน่าปล่อยหน่อย”หลังจากนั้นหญิงสาวก็ถูกปล่อยออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่ม
หลังจากนั้นพวกเพื่อนๆของดารินยาจึงปลี่เข้ามาหาหญิงสาวทันที ชายหนุ่มจึงเดินกรุ้มกริ่มไปยังโต๊ะเดิมทันทีเพราะลูกค้ามาตามนัดพอดี
*-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-*
นายวายุ นายยยย กรี๊ดดดดด
หญิงสาวนึกหมั่นไส้ชายหนุ่มอยู่ในใจ น้ำตาใสๆก็พลันไหลออกมา เธอไม่นึกเลยว่าจะโดนคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าตา มาขโมยเอาจูบแรกของเธอไปต่อหน้าต่อตา แล้วยังต่อหน้าประชาชนอีกด้วย แต่ยังดีที่ไม่ค่อยมีคนหน่อย แต่ยังไงก็อยากจะเอาปี๊บมาคลุมหัว มันอายอายจะอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปเสียด้วยซ้ำ
“เป็นไงล่ะยัยดรีมถ้ายอมขอโทษเค้าตั้งแต่ทีแรกก็ไม่เกิดเรื่องหลอก” เกวรินปลอบเพื่อนสาวเมื่อเห็นอาการนั่งเศร้าของเพื่อน
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้ไม่ตาย”พูดพลางหันหน้าไปมองผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้น(นายวายุ)
*-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-*
“มีเรื่องอะไรกันเหรอครับคุณวายุ”คนที่มาใหม่เอ่ยถามขึ้น
“อ๋อไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เด็กไม่รู้จักโตถูกสั่งสอน”ชายหนุ่มตอบออกมาด้วยนำเสียงที่เคร่งขรึม แต่สายตายังคงจับจองมองหญิงสาวอยู่อย่างไม่วางตา



sexygirl
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มี.ค. 2555, 17:44:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มี.ค. 2555, 17:45:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1564





<< บทที่ 2 ความจริง(ที่ทำให้เธอยอม...)   
กานต์นวีร์ 28 มี.ค. 2555, 22:04:48 น.
ก็ไปหาเรื่องเค้าก่อนนี่นา เลยเจอดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account