มนต์เมโลดี้
“...น้องร้องหนุ่มผิวเข้ม นัยน์ตาหวาน เสียงกังวานหวานปานน้ำผึ้ง
ผู้ซึ่งมีอาชีพเสริมคือจอมสร้างภาพในวงการมายา
ที่น้อยคนนักหนาจะหารู้ความอัปยศของนักร้องอักษรย่อ ตก. คนนี้ไม่
นักร้องหนุ่มมาดเข้มดูดีผู้มีดีกรีชนะเลิศเรียลลิตี้คว้าฝันเพิ่งคว้าเบญจเพสหมาดๆ ในลัคนาราศีธนู
จะถูกธนูรักแผลงผลักให้เจออาเพศถึงขั้นสูญเสียความสามารถการร้องเพลงที่ตนเองถนัด
จะอัตคัดแฟนคลับ จงระวังคนสนิทชนิดแทงข้างหลังกระอักไปถึงขั้วหัวใจ
ภาพลักษณ์ที่สร้างลวงเป็นมายาที่ฉาบทาด้วยทองปลอมจะถูกลอกด้วยนิสัยช่างหลบใน
ไม่เห็นหัวใคร ไม่เกรงใจใคร
หากไม่ลด ละ เลิก นิสัยเสียที่ซ้อนเร้น
เห็นทีจะต้องปิดฉากลาจากวงการมายาไปโดยปริยาย คอมเม้นท์!”

‘รักตกัณฐ์’ ไม่คิดเลยว่าคำทำนายจากหมอดูในนิตยสารจะเป็นจริง
เมื่อ ‘เทพีเมโลดี้’ ปรากฏกายและสาปเขาที่ขัดคำสั่งของหล่อนจนร้องเพลงไม่ได้จริงๆ!!!

แต่สวรรค์เมตตา...
ส่ง ‘น้ำหนึ่ง’ สาวผู้ซึ่งไร้ประสบการณ์การเป็นผู้จัดการมาเป็น ‘ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่’ ให้กับเขา!!!

แม้ไร้ประสบการณ์... แต่หญิงสาวเชื่อมั่นว่า
สัญชาตญาณและพื้นฐานของความจริงใจจะทำให้หล่อนและเขาก้าวผ่านวิกฤติเหนือธรรมชาตินี้ไปได้อย่างแน่นอน คอมเม้นท์!!!


Tags: ความรัก นักร้อง เสียงเพลง

ตอน: บทนำ


“สำหรับรางวัล ‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’ ในปีนี้ ได้แก่... ต้นกล้า รักตกัณฐ์ ก้องกิดาการ!”
เมื่อสิ้นเสียงพิธีกรหนุ่ม
เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวลั่นห้องประชุมใหญ่หลังรางวัลสุดท้ายแห่งค่ำคืนงานประกาศผลคนบันเทิง
‘มายา อวอร์ด’ ซึ่งจัดโดยนิตยสาร ‘Ti amo’ นิตยสารชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ณ ขณะนี้
พิธีกรชายกล่าวต่อถึงความสำคัญของรางวัล

“สำหรับรางวัล ‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’ นี้นะครับ
เป็นหนึ่งในสองรางวัลสุดท้ายและนับว่าเป็นไฮไลท์ของงานประกาศรางวัล ‘มายา อวอร์ด’
ซึ่งจัดโดยนิตยสาร ‘Ti amo’ นอกจากรางวัล ‘เบญจกัลยาดารา’
ที่มอบให้กับสุภาพสตรีที่มีความเหมาะสมในวงการบันเทิงครับ

สำหรับรางวัลนี้เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับสุภาพบุรุษในวงการบันเทิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็น
‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’ โดยผลการตัดสินมาจากการส่งคะแนนโหวตของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ
ซึ่งผู้รับรางวัลนี้ในแต่ละปีจะไม่มีซ้ำกันครับ และในปีนี้ก็เป็นเขาคนนี้ครับ ต้นกล้า รักตกัณฐ์ ก้องกิดาการ”

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผิวเข้มสวมสูทสีดำรีดเรียบทับเชิ้ตสีฟ้าอ่อนก้าวขึ้นเวทีเพื่อรับโล่รางวัล
‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’ ของรายการประกาศผลรางวัลจากโครงการ ‘มายา อวอร์ด’ อย่างภาคภูมิใจ ณ แท่นรางวัล
พิธีกรบรรยายประวัติผู้รับรางวัลโดยสังเขป

“สำหรับต้นกล้า รักตกัณฐ์ ก้องกิดาการ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕... อายุ ๒๕ ปี หมาดๆ
เป็นหนุ่มราศีธนู ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการชนะเลิศเวทีล่าฝัน ‘Dream come true season3’
ตั้งแต่อายุ ๒๐ ปี ด้วยน้ำเสียงที่สะกดใจคนไทยทั้งประเทศ ทำให้ต้นกล้ามีผลงานเพลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
โดยเพลงแรกที่ทุกคนรู้จักเขานั่นก็คือเพลง ‘รักคืนสู่ใจ’ พลังเสียงของเขาเป็นที่ยอมรับและถูกใจอย่างมาก
ทำให้ได้รับสมญานามว่า ‘นักร้องเสียงเทพ’เขามีผลงานอัลบั้มชุดที่สองและสามตามมา
และในที่สุด ก็ได้รับความเห็นจากมหาชนว่าเขาคือบุรุษหนุ่มผู้เหมาะสมกับตำแหน่ง ‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’
โดยได้รับผลโหวตจากประชาชนชาวไทยไปถึง หกสิบแปดจุดสามห้าเปอร์เซ็นต์
เรียกว่าชนะขาดผู้เข่าร่วมชิงเลยทีเดียวครับ”

ร่างสูงโปร่งเดินไปอวดความสง่ากลางเวทีที่มีไมโครโฟนตั้งอยู่
แสงไฟบนเวทีส่องกระจ่างสาดกระทบผิวเข้มให้ขับขึ้นอย่างสง่ามีราศี
ในมือหนาของเจ้าของรอยยิ้มหวานคือรางวัลซึ่งเป็นแก้วคริสตัลรูปชายหนุ่มสวมมงกุฎดาวห้าแฉกจรัสแสง
เปล่งประกายวิบวับท้าแสงแฟลชของเหล่านักข่าวสายบันเทิงทั้งหลายที่มาร่วมเป็นสักขีพยานของรางวัลนี้

เขายิ้มกว้างเห็นลักยิ้มสองข้างแก้ม ให้บรรดานักข่าวได้บันทึกภาพชายหนุ่มผู้มีเครื่องหน้าชวนหลงใหล
ด้วยคิ้วคม นัยน์ตาหวาน เหนือสันจมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากหยักยามเอื้อนเอ่ยวจีหวานปานน้ำผึ้ง
หลังเสียงปรบมือเบาบางลง

“ขอบคุณครับ ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่มอบรางวัลอันทรงเกียรติและมีค่าให้กับกล้า ‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’
เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในชีวิตของกล้า สัญญานะครับว่า จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ขอบคุณทุกคนครับ”
เสียปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง

หลังงานประกาศผลรางวัล ‘มายา อวอร์ด’ สิ้นสุดลง
เหล่าคนดังในวงการบันเทิงทั้งที่ได้รับรางวัลและไม่ได้รับรางวัลต่างพากันทยอยกันออกจากงานด้วยชุดราตรีหรูหรา
หลากแนวตามบุคลิกของคนดังแต่ละคนให้เหล่ากองทัพนักข่าวได้เข้าสัมภาษณ์กันตามธรรมเนียม

และบุคคลที่ดูเหมือนจะเป็น ‘ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์’ ของการประกาศรางวัลนี้
เห็นจะหนีไม่พ้นกับนักร้องหนุ่มเสียงเทพผู้คว้ารางวัล ‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’ ไปครองอย่างรักตกัณฐ์ ก้องกิดาการ

เขาเป็นคนดังที่เหล่านักข่าวแทบจะรุมทึ้งด้วยความโหยหาบทสัมภาษณ์จากเสียงหวานๆ โดยเจ้าของรางวัลเด่นนี้เลยทีเดียว
“คุณต้นกล้ารู้สึกอย่างไรบ้างคะกับรางวัลนี้” เสียงนักข่าวสาวถามดังขึ้น
“ภูมิใจ ดีใจมากครับ” นักร้องหนุ่มตอบและยิ้มเก๋
“คิดว่าอะไรเป็นเหตุผลให้คุณต้นกล้าได้รับรางวัลนี้ครับ” นักข่าวอีกคนเอ่ยถาม
“คงเป็นเพราะพี่น้องชาวไทยเห็นถึงความสามารถ และความตั้งใจในการทำงานของกล้าน่ะครับ”
นักร้องหนุ่มเรียกแทนชื่อเล่นของตัวเองกับนักข่าวซึ่งติดปากมาตั้งแต่สมัยเขาชนะเลิศการประกวดใหม่ๆ
ที่ยังเป็นวัยรุ่นและแทนชื่อเล่นตัวเอง มาตลอดจนถึงปัจจุบัน

เขาตอบคำถามสลับกับยิ้มเก๋ชวนฝันให้เหล่านักข่าวอย่างไม่รู้เบื่อกับการตั้งคำถามเดิมๆ วนไปวนมา
และกว่าผู้จัดการส่วนตัวจะกันนักร้องหนุ่มออกจากกองทัพนักข่าวเพื่อไปขึ้นรถตู้ของบริษัทต้นสังกัด
ที่จอดรออยู่ด้านหน้าได้ก็ทำเอาเหงื่อพราวผุดพรายทั่วไปใบหน้าคมเข้มของนักร้องหนุ่มที่แม้จะถูกบรรดานักข่าว
และแฟนคลับวิ่งตามมาส่งถึงรถตู้ก็ยังฉีกยิ้มพิมพ์ใจโปรยให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

พลันประตูรถตู้ปิดสนิท ฟิล์มดำตัดการมองเห็นภาพภายในรถ สีหน้าของนักร้องหนุ่มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที
เนื้อเสียงที่เปล่งออกมาแม้จะนุ่มอ่อนแต่ทว่าน้ำเสียงกลับแข็งกระด้าง
“จะอะไรกันหนักกันหนา ถามซ้ำซาก น่าเบื่อ”
“ใจเย็นๆ นะต้นกล้า นักข่าวเขาก็ต้องถามอย่างนั้นเป็นเรื่องปกติ”
นพวรรณหญิงสาวผู้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องหนุ่มที่นั่งข้างๆ เขาเอ่ยกับเขาพลางแตะเบาๆ ที่ไหล่อย่างเอาใจ

รักตกัณฐ์ขยับไหล่หนีสัมผัสนั้น นพวรรณหน้าเจื่อนไปนิด
“อย่าเข้ามาใกล้ ร้อน เห็นมั้ยว่าเหงื่อกล้าออกจะท่วมสูทอยู่แล้ว”
สุ้มเสียงติดไม่พอใจนิดๆ พลางใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อนั้นรุนแรง
“ตายแล้วน้องต้นกล้าขา อย่าเช็ดแรงสิคะ เดี๋ยวเสื้อสูทพังหมด ต้องเอาไปคืนสตูดิโอเขานะคะนั่น
โอ้มายก็อด...อาร์มานี่ลูกแม่” เสียงจตุรงค์ หรือพี่ตุ๊ก
ช่างแต่งหน้าและฝ่ายเสื้อผ้าประจำตัวเขาที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับซึ่งหันมาเห็นเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ

“ก็ซักให้เขาซะก่อนสิแล้วค่อยเอาไปคืน จะเอาไปคืนทั้งที่เสื้อมันเปียกเหงื่ออย่างนี้หรือไง” นักร้องหนุ่มย้อนถาม
“แหม...ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน้องกล้าขา แต่กลิ่นเหงื่อน้องกล้ามันเซ็กซี่กระตุ้นต่อมไหลเวียนเลือดในกายดีนี่คะ” จตุรงค์ตอบและยิ้มหวาน
“นี่แปลว่าพี่ตุ๊กเอาเสื้อกล้าไปดมงั้นเหรอ โรคจิตหรือเปล่าเนี่ย” รักตกัณฐ์ถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจ
“แหม...น้องกล้าก็ เล็กๆ น้อยๆ นะคะ” จตุรงค์ยังยิ้มสู้
นักร้องหนุ่มทำหน้าเอือมระอาแต่ว่าไม่พูดอะไร ทำงานกันมานานก็รู้นิสัยของอีกฝ่ายดี
เขากอดอกและเอนกายพิงเบาะมองบรรยากาศที่ยังวุ่นวายด้วยกองทัพนักข่าวและแฟนคลับเหล่าคนดังอย่างเบื่อหน่าย

“เด็กพวกนี้ว่างมากหรือไงถึงได้มาตามกรี๊ดดารานักร้องเนี่ย” เขาเอ่ยออกมา
“ก็เขาชื่นชอบนี่คะ” นพวรรณบอกพลางปั้นยิ้มอ่อนโยน “น้องกล้าน่าจะดีใจนะคะที่มีคนชื่นชอบมากขนาดนี้”
“ไร้สาระ เวลาเรียนก็ไม่รู้จักไปเรียน นั่นโดดเรียนมาหรือเปล่าก็ไม่รู้น่ะ ที่ใส่คอซองถือป้ายไฟเหยงๆ นั่นน่ะ
ถ้าออกทีวีให้พ่อแม่ได้เห็นคงภูมิใจอยู่หรอก”

รักตกัณฐ์พยักเพยิดไปยังกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมต้นในชุดนักเรียน
ที่รวมกลุ่มกันถือป้ายไฟเป็นชื่อของเขาพร้อมตะโกนเรียกชื่ออย่างบ้าคลั่งและพยายามจะผ่าแผงกั้นเพื่อวิ่งตามรถตู้เขาออกมา

นักร้องหนุ่มกระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น ก่อนจะถอนหายใจเมื่อรปภ.มาห้ามปรามไว้ได้ทัน
ก่อนกลุ่มแฟนคลับของเขาจะค่อยๆ ทยอยแยกกลุ่มกันไป

“แต่แหม...ถ้าไม่มีคนพวกนี้ ใครจะคอยตามกรี๊ดให้น้องกล้าล่ะคะ” จตุรงค์ตอบค่อยๆ
“ไม่ต้องมากรี๊ดกล้าก็ดังได้ เสียงกล้าดีอยู่แล้ว มีความสามารถพอ” เขาหันมตอบอย่างมั่นใจ
“แต่กว่าน้องกล้าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะแฟนคลับพวกนี้นะคะ” นพวรรณชี้แจง
รักตกัณฐ์หันมองนัยน์ตาขวางกลบความหวานน่ามองหมดสิ้น
“หมายความว่าไง”
“ก็ถ้าไม่มีแฟนคลับพวกนี้คอยผลักดัน คอยเชียร์เมื่อตอนที่น้องกล้าเข้ามาประกวดโครงการดรีมคัมทรูใหม่ๆ
ก็คงไม่ชนะเลิศหรอกค่ะ” นพวรรณตอบเสียงสะบัด แอบจิกกัดเล็กน้อย
“พี่จะว่ากล้าไม่เก่ง เสียงไม่ดี ไม่มีความสามารถ” เขาย้อนถาม
“เปล่าค่ะ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่น้องกล้าควรจะใส่ใจแฟนคลับให้มากๆ หน่อยนะคะ
หาเวลาไปพบปะหรือมีตติ้งอะไรบ้าง ไม่ใช่ปฏิเสธซะหมด เกิดมีใครคลั่งวิ่งตามรถน้องกล้าขึ้นมาอีกจะยุ่งนะคะ”
“วรรณ!” คราวนี้เป็นเสียงจตุรงค์ที่ดังเข้มขึ้นมาแทน
นพวรรณลอบมองสีหน้าที่ขึงเครียดของรักตกัณฐ์เล็กน้อยก่อนจะสงบปากสงบคำ
หลังจากนั้น ไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก ขณะที่นักร้องหนุ่มเองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน

เขาไม่เถียงหรอกว่ากลุ่มคนเหล่านี้ที่เรียกตัวว่า ‘แฟนคลับ’มีส่วนผลักดันให้เขามายืน ณ จุดนี้
แต่เขาก็เห็นว่าควรจะชื่นชมและคลั่งไคล้เขาให้อยู่ในความพอดี อย่ามากเกินไปจนเสียการเรียนหรือเสียสติ
เขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างเช่นในอดีตที่แม้จะไม่ใช่ความผิดของเขาโดยตรง
แต่รักตกัณฐ์ก็ไม่เคยลืม

รถตู้จอดเมื่อถึงคอนโดมิเนียมหรูติดริมแม่น้ำอันเป็นที่พักของนักร้องหนุ่ม
นพวรรณหันมารายงานตารางงานวันพรุ่งนี้ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้จัดการดูแลงานของเขา
“พรุ่งนี้น้องกล้ามีเข้าห้องอัดแล้วก็ซ้อมเต้นเพื่อเตรียมทำอัลบั้มใหม่นะคะ
เก้าโมงเช้ารถตู้จะมารับ จะให้พี่โทร.ปลุกไหมคะ”

“ไม่ต้อง” รักตกัณฐ์ตอบทันที
นพวรรณหน้าเจื่อนไป ก่อนตอบรับ

“ค่ะ ฝันดีนะคะ”
“เปิดประตูได้แล้ว กล้าเหนื่อย อยากไปพักผ่อน” รักตกัณฐ์ไม่สนใจคำราตรีสวัสดิ์ของผู้จัดการสาวตรงหน้า

นพวรรณหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนจะแอบถอนใจและทำตามที่นักร้องหนุ่มสั่ง หล่อนเปิดประตูรถ
รักตกัณฐ์ที่นั่งด้านในขยับก้าวออกมาปะทะร่างบางๆ ที่กำลังก้าวลงจากรถเพื่อหลบเขาจนแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น

“น้องกล้า” นพวรรณหันมาเรียกเสียงเข้มเมื่อหล่อนแทบจะลงไปนั่งพับเพียบที่พื้นเพราะอีกฝ่ายออกแรงกระแทกอย่างไม่ระวัง
“ก็มัวแต่ชักช้าอยู่นั่นแหละ” รักตกัณฐ์โวยใส่ขณะถอดเสื้อสูทแล้วเหวี่ยงเข้าไปในตัวรถ
“เอาไปคืนที่สตูฯด้วยนะพี่ตุ๊ก อย่าแอบเอาไปดมเป็นโรคจิตล่ะ”
“ค่าๆ” จตุรงค์รับคำและยิ้มหวาน
ร่างสูงของรักตกัณฐ์เดินไป นพวรรณก้าวขึ้นรถตู้ ปิดประตูแล้วตะโกนลั่นรถ
“โว้ย... นึกว่าเป็นเทพเทวา เทวดาส่งมาเกิดหรือไง ทำอะไรก็ขัดใจหมด”
“ใจเย็นๆ นะจ๊ะน้องวรรณ” จตุรงค์หันมาปลอบใจผู้จัดการสาวด้วยความเข้าอกเข้าใจอันดี
“ไม่เย็นแล้วค่ะพี่ตุ๊ก พี่ก็รู้นี่คะว่าหมอนั่นมันจอมเทพขนาดไหน คิดว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี ได้มาได้ยังไงก็ไม่รู้
‘สุภาพบุรุษแห่งดวงดาว’ แหวะ...จะอ้วก ความเป็นสุภาพบุรุษไม่เห็นจะเคยมีกับเขา ไอ้คนโหวตก็โง่แสนโง่
เห็นมันร้องเพลงเพราะเข้าหน่อย ยิ้มหวานเข้าหน่อยก็หลงเสน่ห์ ไร้สมอง”
“ต๊ายตายน้องวรรณปากร้าย” พี่ตุ๊กเอามือทาบอก
“ถ้าวรรณปากร้าย นายต้นกล้านั่นเรียกปากอะไรล่ะคะ ปากจัดหรือว่าปากหมา”
“แหม...น้องต้นกล้าเธอก็เป็นอย่างนั้น ดีออกค่ะ ผู้ชายปากจัดนิดๆ มีเสน่ห์”
สาวประเภทสองบอกอย่างอารมณ์ดีและมองโลกในแง่ดีแม้จะเคยเจอโทสะอรหันต์ของนักร้องหนุ่มมาแล้วก็ตาม
“ไอ้นักร้องสร้างภาพ ซ้าธุ...ขอให้วันหนึ่งพฤติกรรมความเหลวแหลกของมันจงปรากฏประจักษ์แก่สังคมไทยด้วยเถิดว่ามันน่ะ จอมสร้างภาพที่สุดในวงการบันเทิง” นพวรรณยกมือท่วมหัวสาปแช่ง
“โห...น้องวรรณล่ะก็ใจร้าย น้องต้นกล้าก็คงเหนื่อยจากทำงาน ไม่ได้สร้างภาพอะไรขนาดนั้นเสียหน่อย”
แม้จะรู้กิตติศัพท์ความเอาแต่ใจและช่างวีนของนักร้องหนุ่มเสียงเทพนั้นดี
แต่จตุรงค์ก็คิดว่าคงจะมีเหตุผลที่ทำให้รักตกัณฐ์มีอาการแบบนี้
“พี่ตุ๊กไม่รู้อะไร กว่ามันจะ ‘อัพ’ ตัวเองมาถึงทุกวันนี้นี่เสียไปหลายแสนขนาดไหน
ทั้งเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ทำดั้ง ทำตา ทำนั่นทำนี่ให้วุ่นวาย
แถมทุกวันนี้หมอนั่นมันชอบเบ่งอยู่ปาวๆ ว่าตัวเองเสียงดี เสียงเทพ ใครในวงการเพลงก็สู้มันไม่ได้”
“น้องวรรณก็พูดไป น้องต้นกล้าเขาเสียงดีจริงๆ นี่คะ”
“ถ้าวันไหนร้องเพลงไม่ได้จะรู้สึก วรรณจะคอยสมน้ำหน้าถ้าเกิดวันไหนมันตื่นมาแล้วเสียงไม่มี!

++++++++++

สวัสดีค่า...
แวะมาเจิมนิยายเรื่องใหม่ของตัวเองด้วย "มนต์เมโลดี้" ค่ะ
เคยเอาลงไว้ในเว็บเวอร์ชั่นเก่า แต่ว่ายังไม่จบ
หลังจากรีไรท์แล้วก็เลยว่าจะเอามาลงใหม่ ให้เพื่อนๆ ได้แนะนำติชมกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจและคำแนะนำนะคะ
แล้วจะมาอัพใหม่ค่ะ ^^



สังขยาชาเย็น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 เม.ย. 2554, 12:18:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 เม.ย. 2554, 12:18:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 2315





   ตอนที่ ๑ : คำทำนาย >>
sai 25 เม.ย. 2554, 13:12:07 น.
หายไปนานแต่ก็ตามอ่านเหมือนเดิมค่ะ^^


grazioso 25 เม.ย. 2554, 18:53:49 น.
วู้ววววววววววว คุณสังขยา คิดถึงจังเลยค่า :)


นัฐชา 25 เม.ย. 2554, 19:39:22 น.
คิดถึงน้องสังจังเลย ขอ like ด้วยคนค่ะ


สังขยาชาเย็น 25 เม.ย. 2554, 22:51:29 น.
ดีใจจัง มีคนคิดถึงเราด้วย
อิอิ ^^
ขอบคุณนะคะทุกๆ คน :)


น้องอ้อ 30 เม.ย. 2554, 17:40:01 น.
เย้ๆ กลับมาแล้วเหรอค่ะ ดีใจที่สุด


ทิพยมณฑา 12 พ.ย. 2555, 14:08:32 น.
อุ้ย คำพูดสุดท้ายเหมือนเป็นลางว่าพระเอกจะกลายเป็นใบ้ 0.0


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account