เล่ห์สลับขั้ว
เมื่อความจำเป็นทำให้ต้องมาอยู่ร่วมรั้วบ้านเดียวกัน และรู้ว่าจะต้องโดนจับคู่ เธอจึงสร้างสถานการณ์ให้เขาเข้าใจผิด หวังให้เกลียด แต่ความใกล้ชิดทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้าม เธอชอบเขา และเขาก็ชอบเธอแม้ความจริงเรื่องชายไม่จริงหญิงแท้จะยังคลุมเครือเต็มทีก็ตาม และ...สิ่งที่เรียกว่ารักก็ทำให้เขายอมฝ่าฝันอุปสรรคหัวใจตัวเองและคู่ต่อสู้ได้ในทุกทางและอภัยได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายความจริงบางอย่างในอดีตต้องทำให้เธอคิดจะวิ่งหนีเขาเพื่อไปทำใจ...วิมวิพาหวังสักวันจะยอมอภัยในสิ่งที่ผิดพลาดครั้งเยาว์วัยของคฑาคินได้ด้วยคำว่า 'รัก'
Tags: น่ารัก

ตอน: ตอนที่ 1 ต้นเหตุความเข้าใจผิด

ตอนที่ 1
ชั้นที่ยี่สิบของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพมหานคร เสียงวี๊ดว้ายหัวเราะครื้นเครงของกลุ่มหญิงสาวเพียงสี่นางเท่านั้น หากกลับดังเอ็ดอึงไปทั่ว ราวกับว่าอยู่กันเป็นหมู่คณะนับสิบชีวิตก็ไม่ปาน หุ่นสะโอดสะองโปร่งปราดเปรียวไล่เลี่ยกัน ถ้าหากมีใครมองเพียงแค่แผ่นหลังบอบบางของพวกหล่อนแล้วนั้น แทบจะแยกกันไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร เอวกิ่วเล็ก สะโพกกลมกลึงบั้นท้ายงามงอนที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงขาสั้นจู๋สีดำมันวับ สามารถเรียกความสนใจจากสายตาของเพศตรงข้ามได้ดีทีเดียวหากบังเอิญว่ามาพบเห็น เรียวขาเนียนของทั้งสี่เปิดเผยอวดช่วงขายาวน่ามองยิ่งนัก เท้าเล็กของพวกหล่อนอยู่บนรองเท้าบูตยาวถึงหัวเข่าส้นสูงทว่าไม่ใช่อุปสรรคในการก้าวเดินแต่อย่างใด หากกลับทำให้พวกหล่อนดูกระฉับกระเฉงขึ้นทุกท่วงท่าย่างก้าวเสียมากกว่า เสื้อแขนยาวสีดำแต่งปักเลื่อมระยิบวับวาวทว่าช่วงตัวเสื้อที่สั้นทำให้โชว์หน้าท้องเรียบแบนขาวๆ แบบกระชากใจผู้ชายได้เหมือนกัน การแต่งตัวของทั้งสี่คนที่คล้ายกันราวกับนัดหมายเช่นนี้แน่นอนว่าคงใส่มาเพื่อทำกิจกรรมอะไรสักอย่างในงานบางงานของค่ำคืนนี้ มากกว่าจะเป็นแฟชั่น
เสียงแหลมจากสี่สาวที่ส่งเสียงหัวเราะระริกคิกคักเมื่อสักพักที่ผ่านมาเริ่มหรี่เบาลงกลายมาเป็นกระซิบกระซาบทันที และพร้อมกันนั้นก็ชะม้ายชายตามองมายังสองหนุ่มสูงโปร่งหน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทสากลสีคลาสสิกเทา ดำ ที่กำลังจะเดินผ่านมาแทน
“อุ้ย! หล่อจังเลยค่ะ ชื่ออะไรกันค่ะหนุ่ม ๆ ฉันชื่อ แซลลี่ นะคะ” สาวหุ่นสูงที่สุดในกลุ่มเอ่ยทักเสียงหวานแปร่ง ๆ ให้คนที่เดินมาใกล้ ทำปากเผยอเชื้อเชิญชายหนุ่มทั้งสองอย่างไม่ได้รักษาภาพพจน์ความเป็นสุภาพสตรีอย่างที่ควรแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังมีอีกสองเสียงที่รีบชิงแข่งกันแนะนำตัวตามมาติด ๆ
“ชื่อ นินิว ค่ะ ถ้าสนใจอยากจะรู้จักกันทิ้งเบอร์โทรไว้ได้นะคะสุดหล่อ” เสียงเซ็กซี่เย้ายวนพร้อมยักคิ้วหลิ่วตาเกินงาม
“อย่าไปสนใจพวกสองคนนี้เลยค่ะ ฉันดีกว่า ฉันชื่อ ฟีน่า สวย เซ็กซ์ เอ็กซ์สุด” หญิงสาวอีกคนที่รีบจิบปากจิบคอพูดแนะนำตัวเอง ดูน่าจะมีอายุอานามมากกว่าคนอื่น หากความสวยถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ในกลุ่มเชื่อว่ากินกันไม่ลงเลย “หนุ่ม ๆ ขา ช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ พวกคุณสองคนชื่ออะไรกันบ้างคะ”
คำทักทายของพวกผู้หญิงสาวก๋ากั่นแต่ทว่าสวยน่ารักกันเสียทุกคนเช่นนี้แล้ว ทำให้ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มที่ดูออกจะอัธยาศัยดี ขี้เล่นกว่าชายหนุ่มอีกคนยิ้มรับหน้าบาน ก่อนจะตอบรับมิตรภาพฉาบฉวยที่ผ่านเข้ามารวดเร็วนี้อย่างเต็มใจ
“ผมชื่อ ชวิน ครับ ยินดีที่ได้รู้จักสาว ๆ สวย ๆ อย่างพวกคุณนะครับ ว่าแต่พวกคุณมาร่วมงานหาพรีเซ็นเตอร์โฆษณาคนใหม่หรือเปล่าครับเนี้ย”
“ใช่ค่ะ” แซลลี่หญิงสาวที่หุ่นสูงยาวเกือบเท่าชายหนุ่มรีบตอบ “คุณสองคนก็มางานเดียวกันใช่ไหมคะ แล้วคุณคนนั้นละคะ ชื่ออะไรไม่อยากจะแนะนำตัวให้คนสวย ๆ อย่างพวกเรารู้จักหน่อยเหรอคะ” ปรายตาส่งยั่วเย้าให้ชายหนุ่มหน้าคมคายอีกคนที่ทำแค่ยืนยิ้มขืน ๆ
“ครับผม โชคดีจังเลยนะครับ เรามาร่วมงานเดียวกันซะด้วย” ชวินหนุ่มคนเดิมยังคงตอบน้ำเสียงสุภาพหน้าชื่น หูตาของเขาพร่างพรายระยิบบ่งบอกได้ดีว่าเป็นคนชอบสานสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามโดยเฉพาะสาวสวยๆ เช่นนี้ “ส่วนไอ้หมอนี่ ชื่อ คฑาคิน ครับ มันเป็นใบ้พูดไม่เป็นหรอกครับ” เขายกมือหนาตบลงกับบ่าคนข้างกาย ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องที่รูปหล่อกว่า จนบางครั้งก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมาเป็นพัก ๆ
จมูกโด่งโงงุ้มรับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงอมชมพูแลดูสุขภาพดี ไม่ต่างจากผิวพรรณขาวละเอียดดูเป็นผู้ลากมากดีหากผิวนั้นก็ไม่ได้ขาวเกินกว่าหญิงสาวกลุ่มตรงหน้าเท่าไหร่หรอก ใบหน้าเกลี้ยงเกลามีเงาไรเคราบางๆ ขนาดตีสีหน้าเข้มขรึมดูเป็นคนยิ้มยากสักหน่อยทว่าสรุปได้ด้วยดีที่คำว่าหล่อเหลาเอาการ ด้วยเหตุนี้คฑาคินถึงแม้จะพูดน้อยแต่ก็มักจะได้รับความสนใจจากหญิงสาวมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ทว่าหากใครได้ลองพูดคุยกับชายหนุ่มทั้งสองคนนี้พร้อม ๆ กันแล้ว คนที่เจ้าคารมเป็นต่ออย่างชวินมักจะได้รับชัยชนะเรื่องจีบหญิงไปเสมอ
คฑาคินหันไปทำตาขวางให้ญาติผู้พี่นามสกุลเดียวกันก่อนจะหันไปยิ้มฝืด ๆ ให้บรรดาสาวสวยพวกนั้น พลางกระตุกชายเสื้อสูทของชวินเป็นเชิงบอกแกมบังคับให้เดินต่อสักที ก่อนที่เขาเองจะทนปั้นยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าอีกไม่ไหว
“ผู้หญิงพวกนั้นสุดยอดเลยว่ะ ว่าไหมคิน แรง ๆ แบบนี้พี่ชวินชอบ” ชวินเอ่ยขึ้นขณะเดินห่างคนพวกนั้นมาได้ระยะหลายเมตรแล้ว เห็นแวบ ๆ ว่าสี่สาวหายเข้าไปในห้องแต่งตัวหญิงของงานประกวดพรีเซ็นเตอร์โฆษณาที่จัดขึ้นภายในค่ำคืนนี้
“น้อย ๆ หน่อยนะพี่ชาย เป็นถึงประธานบริษัททำอะไรก็หัดรักษาภาพพจน์ของบริษัทไว้หน่อย เดี๋ยวใครไม่รู้ก็นึกว่าคนที่บริษัทเรานิสัยเป็นอย่างนี้ทุกคน”
มือหนาฟาดลงกลางหลังคฑาคินแบบหยอกเจ็บไปที “หึ! ไม่ต้องห่วง นายก็รู้นี่ครับว่าพี่ชายคนนี้เป็นคนยังไง ถึงเวลามีสาวมาเยี่ยมถึงปลายจมูกมันก็ต้องอยากสูดดอมดมกันหน่อย”
คนพูดยิ้มร่าขณะที่คนฟังอย่างญาติผู้น้องส่ายหน้าระอากับความชอบหว่านเสน่ห์ของพี่ชาย รู้ว่าชวินเป็นคนเก่งและจริงจังเรื่องงาน เวลาทำงานก็ทำอย่างเอาเป็นเอาตายเรียกว่าพนักงานทุกคนต้องสยบให้ หากเวลาได้เจอสาวสวยเขาก็เอาจริงเอาจังไม่ต่างจากงานเหมือนกัน
“ก็เป็นซะอย่างนี้ คุณลุงเลยหนีด่วนตายไปซะก่อนไง คงจะเบื่อที่พี่ชอบหาว่าที่ลูกสะใภ้มาให้ดูไม่ซ้ำหน้าละมั้ง” คฑาคินย้อนคำยิ้ม ๆ ไม่ได้จริงจังอะไรในสิ่งที่พูดนัก เพราะก็รู้ดีว่าที่คุณลุงของเขาหรือบิดาของชวินนั้นเสียชีวิตไปเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์ และที่บริษัทของวงศ์ตระกูลรุ่งเรืองมีชื่อเสียงได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะชวินสานงานต่อจากผู้เป็นบิดาและก็ทำงานเก่งอย่างสมกับเป็นลูกหลานคนโตของตระกูลมาตจักรกราน ถึงแม้ชวินอาจจะเจ้าชู้ประตูดินไปบ้างก็ต้องมองข้ามยอมให้พ่อคุณเขาไปบ้างนั้นแหละ
“ครับพี่คิน กระผมขอโทษ” ชวินพูดกลั้วขำตามนิสัยขี้เล่นของเขา มองเสี้ยวหน้าญาติผู้น้องที่ปีนี้อายุย่างเข้ายี่สิบแปดซึ่งน้อยกว่าเขาสองปี ผู้ชายแสนดีสุภาพ ทว่าก็ชอบทำหน้าหล่อตึงตลอดเวลา แม้คฑาคินรูปงามยังกับปั้นออกมา หากก็ยังไม่ได้จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเช่นกัน ก็คงเพราะมัวแต่รักนวลสงวนคารมไม่ยอมจีบสาวคนไหนหรือยอมเปิดใจให้ใครสักที “ขืนกระผมทำตัวพูดน้อย ยิ้มน้อย ตีหน้าหล่ออย่างนาย ก็คงไม่ได้แอ้มสาวซิครับ ขนาดทุกวันนี้เตียงที่คอนโดไม่ค่อยจะว่างยังหาแม่ของลูกที่ถูกใจไม่ได้เลย”
คฑาคินหันไปจ้องหน้าคนพูดเขม็งยามถูกกระทบกระเทียบก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง “รู้แล้วว่าทำไมคุณป้าถึงไล่ออกจากบ้าน”
“คุณแม่กระผมไม่ได้ไล่นะครับ แต่กระผมพอใจออกไปอยู่คอนโดเอง” ชวินรีบแก้ตัวกวน ๆ จำความได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเขากับคฑาคินก็อยู่ในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลมาด้วยกัน ไปเรียนก็ยังตามกันไปเรียนประเทศเดียวกัน แต่พอโตมาเขาก็ขอแยกตัวออกไปอยู่คอนโดเพราะนิสัยที่เขาชอบพาเพื่อนสาวเข้าบ้านบ่อย ๆ นี่แหละ กลัวว่ามารดาและคนอื่น ๆ รวมถึงคฑาคินจะรับไม่ค่อยได้
ในขณะที่สองหนุ่มพากันเดินไปเกือบถึงห้องสำหรับการประกวดเฟ้นหานางแบบโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพตัวใหม่ของทางบริษัทมงคลจักรกราน บริษัทของวงศ์ตระกูล ที่ผลิตน้ำดื่มและผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้และอื่น ๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมกันแพร่หลายในกลุ่มคนเกือบทุกเพศทุกวัยอยู่นั้น หากไม่ทันที่พวกเขาสองคนจะไปถึงยังจุดหมายดี คฑาคินก็รู้สึกหน้าชาวูบเมื่อสิ่งหนึ่งที่นุ่มหอมหากเวลาสะบัดฟาดลงกลางหน้าแบบเต็มเปาก็เล่นเอาชายหนุ่มสะอึก ถึงขั้นขมวดคิ้วเตรียมกริ้วโกรธ และกำลังจะอ้าปากเอ่ยตำหนิคนตรงหน้า
เจ้าของผมยาวสลวยดำขลับที่รวบตึงไว้กลางศีรษะ ปล่อยหางผมยาวทิ้งสปริงอย่างมีน้ำหนักเป็นพวงสวยตามแนวสันหลังบอบบาง อาการลุกลี้ลุกลนของหญิงสาวทำให้เธอไม่ได้ระวังตัว และขณะที่หันรีหันขวางหาอะไรสักอย่างหรือใครสักคนอยู่นั้น ผมหอม ๆ ของเธอก็สะบัดมาฟาดลงเต็มหน้าคฑาคินอย่างไม่ตั้งใจ หญิงสาวรีบหันขวับมาก้มศีรษะขอโทษขอโพยชายหนุ่มทั้งสอง ดวงตากลมโตที่กรีดอายไลน์เนอร์เส้นสีดำพร้อมแพขนตางอนที่ดูยาวหนากว่าปกติส่งให้ดวงตาของหญิงสาวคมขำแถมยังทอประกายส่องวิบวับ ยามจ้องประสานสายตากับคฑาคินและชวิน ใบหน้าใสรูปไข่เรียวสวย ปากอิ่มเอิบเคลือบลิปสติกสีแดงเลือดนกสีเดียวกับเล็บยาวบนนิ้วเรียว ดูแล้วสามารถทำชายหนุ่มเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับแม่สาวหน้าสวยปากเซ็กซี่หุ่นสมส่วนคนนี้ได้ทีเดียว โดยเฉพาะคฑาคินที่เบิกตาค้างนิด ๆ ตั้งแต่วินาทีแรกที่หญิงสาวหันมาขอโทษ จนชายหนุ่มเกือบจะให้อภัยอยู่แล้ว ทว่าเธอกลับสนใจที่จะคุยโทรศัพท์ที่ถือแนบกับข้างแก้มมากกว่าจะสนใจขอโทษผู้ชายตรงหน้าแบบจริงจัง
“เข็ม สรุปแล้วพวกแกอยู่ที่ไหนนะ” เสียงหวานกรอกลงกับมือถือถามรัวเร็วเร่งรีบ ระหว่างนั้นดวงตาคู่กลมใสก็จ้องปริบ ๆ ยังชายหนุ่มที่เธอสมควรจะต้องกล่าวคำขอโทษกับเขา และยิ่งเห็นสีหน้าตอนนี้ของเขาชัดเจนแล้วด้วยว่าคงมีขุ่นเคืองเธอเป็นแน่ หากแต่ว่าบทสนทนาออกจะสำคัญกว่าจึงต้องเก็บคำขอโทษนั้นรอไปก่อน
“อยู่ในห้องแต่งตัว แล้วแกถึงไหนแล้วเนี้ยไอ้วิม งานเค้าจะเริ่มแล้วนะแก” เสียงปลายสาวตอบกลับอย่างร้อนใจเช่นกัน
“มาถึงชั้นยี่สิบแล้ว เออ...จะ...จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ...แค่นี้ก่อนนะ” วิมวิพาแม่สาวเจ้าของผมยาวดำที่ทั้งนุ่มทั้งหอม คู่กรณีของคฑาคินตอนนี้เธอรีบตัดสายจากเพื่อนทันทีเมื่อรู้สึกว่าสายตาของชายหนุ่มคนที่เธอเอาผมไปฟาดหน้าเริ่มเขียวปัดคล้ายพิโรธโกรธจนจะมีลูกไฟออกตาเสียให้ได้ และดูจะไม่เป็นมิตรกับเธอมากขึ้นทุกที
“คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วใช่ไหมครับ” คฑาคินเค้นเสียงลอดไรฟัน จ้องเขม็งทั่วใบหน้าสวยนั้นก่อนจะมองผมยาวเกือบถึงเอวของหญิงสาว ถึงเขาจะรู้สึกว่าผมของเธอสลวยดุจแพรไหมแล้วก็หอมจนกลิ่นติดปลายจมูกของเขาก็เถอะ แต่ก็ไม่สามารถจะทำเป็นนิ่งเฉยหรือไม่เอ่ยตำหนิหญิงสาวเลยมิได้แน่ ถ้าแม่สาวคนนี้เป็นน้องสาวหรือลูกหลานของเขาแน่นอนว่าเขาเองจะพาเธอไปกล้อนผมเสียให้เข็ด
“ขอโทษนะคะ คือฉันรีบมากไปหน่อยน่ะค่ะเลยไม่ทันระวัง” คราวนี้วิมวิพาก้มหน้าก้มตาพร้อมเอ่ยคำขอโทษหลุดออกมาจากปากอิ่มสวยของเธอจนได้ หลังจากเลิกคุยโทรศัพท์และทำท่ามาให้ความสนใจคนที่โกรธาเธอแทน
“ผมนึกว่า ผมต้องรอให้คุณคุยโทรศัพท์อีกสักครึ่งชั่วโมงเสียอีก ถึงจะได้ยินคำขอโทษจากคุณ”
“ขอโทษจริงๆ นะคะ ขอโทษค่ะ” เธอพูดคำซ้ำกันราวกับถ่ายสำเนาหลายครั้งติด เพราะว่าชายหนุ่มหล่อเหลาตรงหน้าของเธอ ดูจะกรุ่นโกรธเอาเสียมากจริง ๆ
“คราวหน้าคราวหลังคุณก็ระวังหน่อยแล้วกัน แล้วถ้าเป็นไปได้คุณก็น่าจะไปตัดผมออกซะบ้างนะครับ ผมว่ามันดูจะยาวเกินไป” คฑาคินเริ่มคลายปมคิ้วที่ขมวดมุ่นเมื่อครู่ออกได้บ้าง หากยังตีหน้าขรึมเคร่ง ใบหน้าชายหนุ่มไม่มีรอยยิ้มแถมยังทำเสียงดุกระด้างจนหญิงสาวยืนตัวลีบ แต่เสียงทุ้มหล่อจากชายหุ่นสูงโปร่งอีกคนที่ทักขึ้นฟังระรื่นหู จึงพอทำให้หญิงสาวเผยยิ้มออกมาได้บ้าง
“ดูท่าว่าคุณคงจะรีบมากจริง ๆ นะครับ มีอะไรที่พวกผมพอจะช่วยได้หรือเปล่าครับ” ชวินเอ่ยถามอย่างสุภาพ รอยยิ้มประดับเต็มวงหน้าคมคาย สายตาของเขาที่จ้องมองหญิงสาวพริ้มพรายประกายความเจ้าชู้
“มีค่ะ” หญิงสาวรีบตอบอย่างกระตือรือร้น “คือว่าฉันกำลังหาห้องแต่งตัวหญิง งานประกวดพรีเซ็นเตอร์โฆษณาของบริษัทมงคลจักรกราน คุณพอจะทราบไหมคะ”
ชวินพยักหน้ายิ้มหวาน “คุณคงจะเป็นผู้เข้าร่วมประกวดวันนี้ด้วยซินะครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ ฉันแค่มาเต้นเปิดงาน”
“อ้าว…อย่างนั้นหรอกหรือครับ น่าเสียดายจังเลยนะครับ สวย ๆ อย่างคุณเนี้ย ผมว่าถ้าเข้าประกวดงานคืนนี้ ไม่แน่บางทีอาจจะเข้าตากรรมการก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มอัธยาศัยดียังคงส่งมาเยิ้มหวาน และมันก็ทำให้คนถูกชมยิ้มรับหน้าบาน
“ขอบคุณค่ะ แต่ว่าฉันคิดว่า ฉันคงไม่สวยขนาดนั้น อีกอย่างฉันก็มีคุณสมบัติไม่พอ...”
“โอ้โฮ...ถ้าผู้ชายคนไหนปฏิเสธบอกว่าคุณไม่สวยนะครับแสดงว่าคน ๆ นั้นคงต้องมีปัญหาเรื่องสายตาอย่างแน่นอน” ชวินพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี เขาว่าผู้หญิงคนตรงหน้าสวยมากตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลยแหละ อยากจะขอสานสัมพันธ์ต่อด้วยซ้ำ ถ้าหากว่าจะไม่มีคฑาคินขวางคออยู่ด้วยแล้วละก็ เขาก็คงได้เบอร์โทรศัพท์เธอมาไว้นอนอุ่นใจก่อนเป็นแน่
คฑาคินกวาดตามองหญิงสาวปราดหนึ่ง ก่อนจะรีบตัดบทสนทนาของญาติผู้พี่กับวิมวิพา ด้วยนึกหมั่นไส้คำเยินยอและรอยยิ้มสวยที่ตอบรับการเยินยอกันไปมาเช่นนี้
“คุณกำลังหาห้องแต่งตัวอยู่ไม่ใช่หรือครับ ทางโน้นแน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ พร้อมบุ้ยใบ้ปากบอกทาง แล้วพูดต่อเป็นเชิงตำหนิหญิงสาว “ผมว่าคุณอย่ามัวแต่เสียเวลาฟังคำป้อยอของพี่ชายผมอยู่เลยครับ งานเค้าใกล้จะเริ่มแล้วไม่ใช่หรือครับ ถ้าคุณมัวแต่ยิ้มหวานอยู่แบบนี้ก็คงไม่ทันเปิดงานกันพอดี”
“เออ...ค่ะ ขอบคุณค่ะ” แม้จะรู้สึกอึ้งบ้างกับคำเหน็บแนมของชายแปลกหน้า แต่ตอนนี้หญิงสาวก็ได้แค่โค้งตัวน้อมรับพร้อมขอบคุณชายหนุ่มขี้เก๊กที่ปั้นหน้าหล่ออยู่ตรงนี้เท่านั้น
***--***--***--***--***--***--***
วิมวิพาแง้มประตูเยี่ยมหน้ามองเข้ามาภายในห้องเพื่อให้แน่ใจว่าห้องนี้คือห้องแต่งตัวหญิงที่เธอตามหาอยู่จริง ๆ และเสียงร้องเรียกชื่อเธอที่ดังโหวกเหวกขึ้นนั้นก็ทำให้หญิงสาวมั่นใจเกินร้อยว่ามาไม่ผิดห้อง
“วิม วิม ทางนี้” เข็มหรือขีโรชา เพื่อนสาวที่ดูออกจะพูดน้อยเรียบร้อยสุดในกลุ่มโบกมือไหว ๆ ให้คนที่ยืนตรงประตูเดินเข้ามาหา
“ว้าย ! ยายวิม มาแล้วรึยะ ฉันก็นึกว่าแกจะมาถึงพรุ่งนี้ซะอีก” เสียงวี๊ดว้ายจาก แซลลี่และนินิวดังประสานกันทักทายขึ้นอีก มันแหลมดังจนคนที่เป็นพี่ใหญ่สุดถึงกับต้องเอ่ยปราม
“ยายสองตัวนี่แหกปากให้มันเบา ๆ หน่อยได้ไหมยะ หัดสำรวมกิริยา มีจริตอย่างหญิงแท้เอาไว้เสียบ้าง ทำท่าทำทางกรีดไม้กรีดมือแบบนี้พวกผู้ชายเขาก็รู้กันหมดพอดีว่า เธอ เธอ และก็ฉันเนี้ยเป็นของเก๊” ฟีน่ากรีดนิ้วชี้ไปยังแซลลี่ นินิว และจบที่ตัวเอง ทั้งสามคนเป็นสาวประเภทสองที่สวยจนถ้าไม่พูดมากเกินไปก็ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงจริง ๆ ทว่าทั้งสามคนภูมิใจที่จะเปิดเผยและไม่เคยคิดปิดบังความเป็นตัวตนที่แท้จริง หากมีเพียงบางโอกาส หรือบางครั้งเท่านั้นแหละที่ต้องโกหกบ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก เพราะพวกเธอถือคติว่าถ้าผู้ชายคนไหนจะรักจะชอบกันแล้วจริง ๆ นั้นก็ต้องยอมรับในความเป็นตัวตนของพวกเธอได้
“แหม…แค่นี้เองพี่ฟีน่าทำบ่นเป็นยายแก่ไปได้ ปกติพวกเราก็ชอบเปิดเผยอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ” แซลลี่ท้วงกลับ
“ใช่ แล้วทีพี่ฟีน่าไปเสนอตัวให้พ่อรูปหล่อสองคนเมื่อกี้ละคะ สำรวมมากเลยซินะ” นินิวพูดกลั้วขำ สาวเทียมที่ออกจะตัวเล็กกว่าใครเพื่อน ดูจะตัวเล็กและบอบบางกว่าวิมวิพาและขีโรชาที่เป็นผู้หญิงจริง ๆ ด้วยซ้ำ
“ย้อนได้ตลอดเลยนะยายนินิว ใครสั่งใครสอนแกกันยะ” ฟีน่าเท้าสะเอวชี้นิ้วไปทางรุ่นน้องเพศเดียวกันแบบทีเล่นทีจริง ตามประสาคนชอบกัดจิกกัดเจ็บกันเป็นประจำ
“พอ ๆ เถอะพวกแกน่ะ หันมาให้ความสนใจเพื่อนคนนี้หน่อยดีไหม ถามหน่อยไหมว่าทำไมอีฉันนี้ถึงได้มาช้า” วิมวิพาที่เดินมายืนกอดอกมองทั้งสามถกเถียงกันไปมาเสียงแสบแก้วหู อ้าปากห้ามศึกขึ้นเพื่อเรียกความสงบ ด้วยกิริยาหลายอย่างของเพื่อนสาวเทียมที่ชอบเผลอหลุดออกมาเกินงาม ทำให้วิมวิพาและขีโรชาถูกมองและเหมารวมไปด้วยว่าเป็นชายไม่จริงหญิงไม่แท้หลายต่อหลายครั้ง
“เออใช่ซิ แล้วทำไมถึงมาช้าละ อย่าบอกนะว่าพาพ่อหนีเจ้าหนี้อีกแล้ว” คำพูดของแซลลี่ทำให้เพื่อนอีกสามคนที่เหลือหันไปจ้องหน้าวิมวิพาราวเค้นเอาความพร้อมกัน
“ผิด ช่วงนี้เจ้าหนี้เขาไม่ตามแล้วสงสัยว่าจะเบื่อละมั้ง เพราะตามยังไงพ่อฉันก็ไม่มีจะจ่ายให้พวกเขาอยู่ดี” คนมาสายไหวไหล่อย่างไม่ยี่หร่ากับสิ่งที่พูด เธอชินเสียแล้วกับเรื่องที่ถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ไม่เว้นแต่ละวัน ก็ตั้งแต่กิจการโรงงานทำน้ำแข็งที่บิดาร่วมลงทุนกับเพื่อนอีกคนเกิดปัญหาขาดทุนอย่างไม่ทราบสาเหตุจนต้องปิดตัวลง เจ้าหนี้พวกนั้นก็ตามมาทวงเงินส่วนของพวกเขาทุกทางทุกวิธี จนบิดาของเธอยอมขายรถยนต์ของท่านใช้หนี้ไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ทว่าก็ยังคงใช้หนี้ที่มีมากโขไม่หมดสักทีเพราะเพื่อนที่ร่วมลงทุนด้วยกันดันไม่ช่วยรับผิดชอบมิหนำซ้ำยังมาหนีหน้าหายไปจากชีวิตครอบครัวของเธอเสียอีก ด้วยเหตุนี้เธอบุตรสาวเพียงคนเดียวก็ต้องออกมาหางานพิเศษทำ รวมถึงการเต้นแร้งเต้นกากับเพื่อนสาวประเภทสองในคืนนี้ด้วย มันเป็นงานที่ถือว่าหาเงินได้ไวและคุ้มค่าเหนื่อยอยู่ไม่น้อย “วันนี้เพื่อนพ่อมา เลยต้องบึ่งรถไปรับที่สนามบิน กว่าจะไปถึงกว่าจะกลับมาได้ก็เล่นเอาเกือบสายนี่ไง”
“ใครว่ะ เพื่อนพ่อของแก” ฟีน่าเจ้าของคำถาม ซึ่งเป็นตัวแทนถามในสิ่งที่เพื่อนทุกคนอยากรู้เช่นกัน
“น้านิด กิ๊กของพ่อ” วิมวิพาตอบยิ้ม ๆ
นิดาหรือน้านิดของเธอเป็นสาวใหญ่วัยห้าสิบ หล่อนแก่กว่าบิดาของเธอสองปี แต่นิดาก็คล้ายกับเป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวที่บิดาของเธอไว้เนื้อเชื่อใจและมักจะได้รับความช่วยเหลือจากหล่อนอยู่เสมอโดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นิดากับบิดาของเธอคบกันมานานแค่ไหนไม่รู้ได้ แต่รู้ว่ามันหลายปีมาแล้วตั้งแต่มารดาของเธอเสียไปตั้งแต่เธอเองก็ยังจำความไม่ค่อยจะได้ จนอายุสิบขวบเธอก็เห็นน้านิดคนนี้แวะมาที่บ้านอยู่บ้างแต่ไม่บ่อย เพราะบิดาของเธอบอกว่าหล่อนเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในอังกฤษ นาน ๆ จะกลับมาเมืองไทยที และใช่ว่าอายุปูนนี้แล้วนิดาจะไม่เคยมีสามี หล่อนเคยตกแต่งกับผู้ชายอังกฤษแต่ทว่าผู้ชายคนนั้นได้หยุดลมหายใจจากไปเสียก่อน เลยถือเป็นโชคดีทำให้หล่อนพอจะมีฐานะเปิดธุรกิจส่วนตัวอย่างร้านอาหารไทยขึ้นมาได้
“ตอบหน้าตาเฉยเลยนะวิม แกไม่รู้สึกอะไรเลยรึ ที่พ่อแกจะหาแม่ใหม่ให้” ขีโรชาเพื่อนสาวแท้เพียงคนเดียวในกลุ่มนิ่วหน้าถาม
“จะให้รู้สึกอะไรละเข็ม อะไรคือความสุขของพ่อฉันก็ไม่อยากจะห้าม อีกอย่างน้านิดก็เป็นคนดี มาคราวนี้ก็ให้ค่าน้ำมันรถ จนฉันอยากจะเปลี่ยนใจไปเป็นคนขับรถชั่วคราวให้น้านิดเลย”
“อ้อ! อย่างนี้ค่าตัวเต้นวันนี้ แกก็ไม่ต้องเอาแล้วซินะ คงได้เงินจากกิ๊กพ่อแกมาเยอะแล้ว”
“แม่หน้าหวานฉันเป็นหนี้ท่วมหัวอยู่นะยะ รถยนต์ที่ขับอยู่ก็ไม่รู้จะโดนยึดไปวันไหนเลย” วิมวิพาหันไปค้อนขวับให้นินิวเพื่อนสาวเทียม ที่พูดแกมหยอกขึ้นเมื่อกี้
“ไป๊...ไปกันได้แล้ว ถามสารทุกข์สุขดิบกันจบหรือยังยะ จะได้เตรียมตัวออกไปเต้น ใกล้ถึงเวลาเปิดงานละ จะเอาไหมเงินน่ะ” ฟีน่าพี่ใหญ่สุดทำเสียงสูงหันไปจิกตาสั่งน้อง ๆ ร่วมทีมเต้นและร่วมสถาบันการศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนเดียวกันให้ขยับตัวเดินตาม
ด้านหน้าเวทีผู้จัดงานการประกวดค้นหาพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ได้กล่าวประกาศเปิดงานพร้อมกับแนะนำบุคคลที่เข้าร่วมเป็นประธานเปิดงานและคณะกรรมการ การตัดสินการแข่งขันของค่ำคืนวันนี้ เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อพิธีกรชายทำการแนะนำสองหนุ่มหล่อทายาทรุ่นที่สามของบริษัทมงคลจักรกราน ที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินครั้งนี้ด้วย
“ขอเชิญคุณชวิน มาตจักรกราน ประธานบริษัทมงคลจักรกราน และคุณคฑาคิน มาตจักรกราน รองประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด ขึ้นมากล่าวเปิดงานและให้กำลังใจสาว ๆ ที่เข้าร่วมประกวดในคืนนี้กันสักเล็กน้อยนะครับ”
เสียงซุบซิบจากสาวน้อยสาวใหญ่ทางด้านหน้าเวทีและหลังเวทีที่พากันให้ความสนใจหนุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง มาพร้อมความหล่อและรวยเป็นทุนเดิม ทำให้กลายเป็นจุดเด่นที่ได้รับจับจ้องมองจากดวงตาเกือบทุกคู่ส่งมาที่คนทั้งสองเป็นจุดเดียว รวมถึงกลุ่มสาวนักเต้นทั้งห้าคนด้านหลังเวทีด้วย ยามได้ยินเสียงดังอื้ออึงจากด้านหน้าเวที พวกเธอก็พากันชะโงกหน้าแย้มมองสองหนุ่มตรงกลางเวทีนั้น
“ว้าย ! พ่อรูปหล่อสองคนเมื่อกี้นี่หนา เป็นลูกหลานเจ้าของบริษัทนี้เหรอเนี้ย ต้าย ตาย ฉันจองคนชื่อชวินนะ คนที่เป็นประธานน่ะ” แซลลี่พูดอย่างไม่ได้กระดากปากสักนิด กลับหัวเราะคิกคักพร้อมเพื่อน ๆ ที่ชอบใจในคำพูดกล้าได้ของเธอ
“เอาไปเลย ฉันจองอีกคนก็ได้ ถึงจะชอบทำหน้าบึ้งบ้างก็เถอะ แต่หล่อได้ใจนินิวจริง ๆ เลยค่ะ คุณคฑาคินขา...”
“นินิวคนนั้นฉันจองแล้วย่ะ” ฟี่น่ารีบท้วง
“อ้าว...แล้วกัน ไหนพี่ฟีน่าบอกให้สำรวมไงละคะ ถ้าอย่างนั้นก็ยกให้น้องให้นุ่งไปเถอะ พี่ฟีน่าอยู่นิ่ง ๆ แบบกุลสตรีไทย เพื่อว่าจะมีเจ้าชายหล่อ ๆ รวย ๆ มาขอนะคะ” นินิวพูดหยอกล้อไม่จริงจัง พร้อมหัวร่อตบท้ายอย่างชอบอกชอบใจ จนคนโดนเหน็บชักสีหน้าดุใส่ตาเขียวปัด
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้งหลังจากสองหนุ่มบนเวทีกล่าวประโยคเปิดงานสั้น ๆ จบลง และนั่นก็ช่วยทำให้ศึกของแม่สาวด้านหลังเวทีเงียบลงไปได้ด้วย เพราะว่ารายการต่อไปคือคิวของพวกเธอที่ต้องออกไปเต้นโชว์
ห้าสาวออกไปโชว์ลีลาวาดลวดลายทันทีเมื่อได้ยินเสียงดนตรีคุ้นหูที่ใช้ซุ่มซ้อมเต้นจนร้องตามได้ดังขึ้น การเต้นคัฟเวอร์เพลงเกาหลีของกลุ่มนักร้องสาวที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันเรียกสายตาคนในงานให้สนใจมองการโชว์ครั้งนี้ เพราะหุ่นสวย ๆ ของพวกเธอกับจังหวะโยกย้ายส่ายไปมามันราวกับว่าต้นฉบับจากเกาหลีมาเอง
“เอ้ย ! นั้นพวกผู้หญิงที่เราคุยด้วยเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ” ประธานบริษัทซึ่งนั่งโต๊ะเรียงแถวยาวด้านหน้าสุดสะกิดแขนญาติผู้น้อง ซึ่งคฑาคินก็กำลังเบิกตาโตมองอย่างให้ความสนใจกับนักเต้นสาวบนเวทีนั้นเช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิงคนซ้ายมือสุดที่ได้เอาผมหอม ๆ ยาว ๆ ฟาดหน้าเขาเมื่อยี่สิบนาทีก่อน “สวย ๆ ทั้งนั้นเลยว่าไหมคิน ถ้าให้เลือกตอนนี้กระผมของบอกเลยว่าเลือกไม่ถูก” ชวินยื่นหน้ากระซิบกระซาบข้างหูคนนั่งข้าง
“พี่ชวินผมพูดจริง ๆ เลยนะ เท่าที่รู้มาก็ไม่เคยเห็นว่าพี่จะเลือกใครถูกสักคนนี่” คฑาคินหันมายอกย้อนก่อนจะหันกลับไปจับจ้องมองแม่สาวนักเต้นปากอิ่มคนเดิมต่อ แปลกดีที่เขาให้ความสนใจเธอมากกว่าคนอื่นบนเวที ทั้ง ๆ ที่อีกสี่สาวก็สวยไม่ได้ห่างไกลกันเลยสักนิด
การเต้นโชว์เพื่อเปิดงานจบลงพร้อม ๆ กับเสียงปรบมือดังเกรียวกราว รอยยิ้มละไมที่เผลอหลุดออกมาบนเรียวปากหนาของคฑาคิน ทำให้ชวินอดจะพูดหยอกแหย่ขึ้นมิได้
“ยิ้มได้ละโว้ยน้องกู ถึงกับมองตามแม่สาวพวกนั้นเข้าไปหลังเวทีเลยหรือนี่ แสดงว่าอย่างนี้อาจมีเฮ...สนใจใครคนไหนบอกพี่ชายคนนี้มาซิ”
“ผมไม่ใช่พี่ชวินนะ เด็กผู้หญิงแก่นเซี้ยวใจกล้าพวกนั้นไม่ใช่สเปคผมอยู่แล้ว” เขาหันมาทำสีหน้าเข้มเรียบตามเดิม แสร้งเสียว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้เผลอมองตามแม่สาวคนไหนสักนิด
“ไม่สนแน่นะ โอเคถ้างั้นพี่ชายคนนี้ขอเหมาหมดไว้คนเดียวก็แล้วกันกูรักเด็ก ใจกล้าแถมยังน่ารักแบบนี้ของชอบละ” ชวินยิ้มหน้าระรื่น อากัปกิริยาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มเช่นนี้เขาเผยให้แค่ญาติและคนสนิทเท่านั้นได้เห็น หากเป็นคนอื่นโดยเฉพาะเกี่ยวกับด้านธุรกิจแล้วละก็เขาจะวางตัวสมกับประธานบริษัทเลยทีเดียว แต่กระนั้นคนในสังคมก็พอจะรู้ว่าเขารักง่ายหน่ายเร็วใช่เล่นเหมือนกัน
หากเวลาต่อมาสองหนุ่มรูปงามที่นั่งอมยิ้มก็ถึงกลับขนลุกซู่ หุบยิ้มลงแทบไม่ทัน สีหน้าชื่นมื่นเมื่อวินาทีก่อนเปลี่ยนเป็นสลดตกตระหนักแทน เมื่อได้ยินพิธีกรชายคนเดิมประกาศแนะนำให้รับรู้ความจริงบางอย่างของพวกสาวนักเต้น ว่าแท้จริงแล้วพวกเธอเป็นสาวประเภทสองที่สวยจนใครต่อใครก็แยกกันไม่ออกเลย
คฑาคินและชวินเบิกตาแทบถลนออกจากเบ้า หันมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ก่อนที่คฑาคินจะเปลี่ยนความตกใจนั้นเป็นเสียงหัวเราะคึกคึกในลำคอเบา ๆ แล้วพูดกลั้วขำขึ้น
“ไงละครับพี่ชวินรักเด็ก คราวนี้จะรับไว้ได้หมดทุกคนอยู่ไหมละครับ”
ชวินพ่นลมหายใจออกทางปาก “เป็นไปได้ไง เสียดายชะมัดยาด”
“มิน่า ผู้หญิงคนนั้นถึงบอกว่าเธอมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ” คฑาคินเสริม นึกถึงคำพูดแม่ผมสวยคนนั้นขึ้นมาได้ทันที ไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่กล้าเข้าร่วมประกวดด้วย ก็งานนี้พรีเซ็นเตอร์ต้องการเฉพาะผู้หญิงแท้เท่านั้น ทว่าเขาก็รู้สึกใจหายเสียดายอย่างที่ญาติผู้พี่บอกไว้ ขึ้นมาตงิด ๆ เหมือนกัน
งานประกวดค่ำคืนนี้เสร็จสิ้นลง และผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศเพื่อไปเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ได้แก่สาวสวยจากรั้วมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง สถาบันเดียวกันกับห้าสาวนักเต้น มีนามว่า เรวริน แม่สาววัยสิบเก้าปี นักศึกษาปีที่สองคณะนิเทศศาสตร์ ที่มากับความเพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ ความสดใส มั่นใจ ทำให้เธอคนนี้ชนะใจกรรมการและตัดสินให้เธอเหมาะสมกับพรีเซ็นเตอร์น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ทางบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งจะได้รับความสนใจจากกลุ่มตลาดเป้าหมายที่วางไว้
***--***--***--***--***--***--***



กันเหงา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 มี.ค. 2555, 11:15:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ก.ค. 2555, 19:09:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1662





   ตอนที่ 2 ตอกย้ำความเข้าใจผิด >>
กันเหงา 30 มี.ค. 2555, 11:16:38 น.
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ครั้งแรกที่เคยลงนิยายที่นี่ นักหัดเขียนหน้าใหม่ ลองผิดลองถูก ไงก็ชี้แนะด้วยนะจ๊ะ สาว ๆ นักอ่านทุกคน ขอบคุณค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account