ลำนำรักสายน้ำ
‘หลับตาลงครั้งใด เห็นว่ามีแต่ภาพใครบางคน
ที่กี่ครั้งก็ยังวกวน ดูไม่ชัดเจน
ได้ยินแต่เสียงเรียกของเธอ
ที่ฟังแล้วอบอุ่นและคุ้นในใจ
ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ยิ่งติดอยู่ข้างใน
ยิ่งห้ามเท่าใจเท่าไร ยิ่งใกล้เธอเข้าไปทุกที
ตามหาหัวใจ ที่ลึมไว้กับใครสักคน‘
ธารนธี ตกหลุมรักหฺญิงสาวนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญเต็มดวงของฤดูใบไม้ผลิ เป็นคืนที่ราชาแห่งขุนเขาและเทพีแห่งบุปผาจะประทานพรให้หนุ่มสาวชาวคีรีธาราสมหวังในความรัก
‘หัวใจอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม สักวันหนึ่งร่างกายจะเดินมารวมกับหัวใจ‘
เช่นเดียวกับสายน้ำและดอกบัวงาม
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดู แห่งการเริ่มต้น ดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบาน เพื่อต้อนรับแสงแดดที่อบอุ่นหลังจากที่ต้องจมอยู่ได้พื้นดินเป็นเวลานาน
เช่นเดียวกับความรักของธารนธีและกรกมล

ถึง Dream Girl
นกสีฟ้าของผมจะโบยบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อคุณได้ยินเสียงขลุ่ย โปรดรับรู้ว่ามันคือคำบอกรักของผม ยามคุณดื่มกาแฟ จะรับรู้รสจุมพิตของผม หากคุณเข้าไปในสวนดอกไม้ กลิ่นของมันคือกลิ่นอายความทรงจำของเราสองคน และที่ศาลากลางน้ำ หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับนั่น คือรอยยิ้มที่ผมมอบให้คุณเพียงคนเดียว
จาก อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์
14 กุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว ประเทศ ออสเตรเลีย

‘ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนใด
เริ่มเพาะเหมาะกลางระหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี‘
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดน่ะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม”

Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: ความรักพาหัวใจฉันมาเจอเธอ

Hidind form the rain and snow
Trying to forget but I wont let go
Looking at a crowded street
Listening to my own heart beat
So many People all around the word
Tell me where do I find someone like Girl
Take me to you heart take me to you soul
ร่างสูงโปร่งสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินที่ตัดเย็บจากผ้าไหมเนื้อดี ที่เอวมีผ้าคาดเอวสีขาวนวลปักด้วยดิ้นทองสวยงาม นัยน์ตาสีดำราวกับนิลเนื้อดีเหม่อมองดวงดาราที่กำลังส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า
ยายตัวแสบ ก่อเรื่องทำให้เขานอนไม่หลับจนต้องลุกจากที่นอนมายืนชมดาวตอนกลางดึกแบบนี้ ลมหนาวในฤดูใบไม้ผลิพัดมาประทะร่างกาย แต่ทว่าไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหนาวสักนิด กลิ่นดอกไม้ที่ปลูกไว้ที่สวนกำลังส่งกลิ่นหอม
“คุณธารนธี ยังไม่นอนหรือคะ “เสียงหวานใสถาม
“ยัง คุณละครับทำไมยังไม่นอนอีกละครับ”ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่สวมชุดนอน ขอบอกว่าน่าจะเป็นชุดเล่นมากกว่า เสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูน กับกางเกงขายาว
“ยังคะ กำลังคิดว่าพรุ่งนี้จะไปเที่ยวที่ไหนดีคะ “ ห่วงเที่ยวจริงๆ
“แล้วอยากไปเที่ยวที่ไหนละครับ” ชายหนุ่มถาม
“พี่อาโปจะเป็นไกด์ พาน้องกุ้งนางเที่ยวหรือคะ”กรกมลถามชายหนุ่มที่ยืนนิ่ง ริมฝีปากบางยิ้มหวาน นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเหมือนดวงดารานับล้านทอแสงระยิบระยับทอดมองมายังธารนธี
“ถ้าผมจะเป็นไกด์พาคุณเที่ยวจะได้อะไรเป็นค่าตอบแทนละ”
“เอ พี่อาโปอยากได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนละคะ”กรกมลถามเสียงหวาน เอียงคอมองหน้าชายหนุ่ม ตาแป๋ว
“ออ ....คือ”ชายหนุ่มพูดไม่ออก มองหน้ากรกมลที่กำลังจะเริ่มปั่นหัวเขาอีกแล้ว ถ้าเรียกว่าพี่อาโปนั่นหมายความว่าเขากำลังจะโดนแกล้ง
“พี่อาโปมาทำงานไม่ใช่หรือคะ จะมีเวลามาพาน้องกุ้งนางเที่ยวหรือคะ”หญิงสาวทำเสียงฉอเลาะ นิ้วเรียวยาวม้วนผมเล่น ดูน่ารัก อ่อนหวาน
“ผมมีเวลาว่างก็แล้วกันนะ” เพื่อยอดยาหยีแล้ว อะไรก็ยอมละงานนี้
“แหม นี่ถ้าไม่ติดที่ว่าพี่อาโปมาทำงาน ส่วนน้องกุ้งนางมาเที่ยวนะคะ ฮึม ....น้องกุ้งนางอดคิดไม่ได้เลยนะคะว่า......”
“คิดอะไรหรือ” ชายหนุ่มถาม
“ก็คิดว่า พี่อาโปนั่นนะ ชวน น้องกุ้งนางมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์นะสิคะ”กรกมลกระซิบบอกชายหนุ่มที่หู ก่อนจะแกล้งเป่าลมใส่ปลายหูธารนธีเบาๆ
“กรกมล” ธารนธีเรียกชื่อหญิงสาวดังลั่น ใบหน้าสีขาวเผือดซีดแทบไม่มีสี ร่างสูงโปร่งเซถอยหลัง ตาสีดำขลับมองหญิงสาวที่ยืนยิ้มหวาน
“นิทราสวัสดิ์นะคะพี่อาโป”พูดจบหญิงสาวก็ถอนสายบัว วิ่งหนีกลับห้องไปทันที ขืนยืนอยู่ตรงนั้นได้มีหวังถูกชายหนุ่ม จับฟาดก้นแน่ๆ ผู้หญิงบ้า ยั่วประสาทกันอยู่ได้ ธารนธีอดโมโหกรกมลไม่ได้ ยายกุ้งนางตัวแสบ ขยันหาเรื่องหาราวมาให้เขาปวดหัวได้ทุกเวลาสิน่า
ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์นี่ละทำให้เขานอนไม่หลับ ต้องมายืนชมดาวชมจันทร์เพราะคำพูดผู้หญิงบ้านั่นที่เดียว ป่านนี้คงจะนอนหลับไปแล้วละมั้ง น่าจะจับกอด หรือไม่หอมแก้มสักสองสามที่ ฝากไว้ก่อนเถอะกรกมล นับวันยิ่งแต่แสบขึ้นทุกวัน สุภาพบุรุษอย่างเขาเลย เซ็งที่ทำอะไรหญิงสาว โอ้ย..............นอนไม่หลับ
Give me you hand before Im old
Show me what love is havent got a clue
Show me the wonders can be true
They say nothing lasts forever
We re only here today
Love is now or never
Bring me far away
ประเทศคีรีธารา นคราแห่งดวงใจ
สนามบินทิพย์ธารา เจอใครบางคน
จังหวัดธาราคีรี ที่นี่มีรัก
Take me to you heart ความรักนำหัวใจของฉันมาเจอคุณ
กรกมลหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเขียนเรื่องราวของธารนธีต่อหลังจากไม่ได้เขียนมานานสามปี ป่านนี้เขาจะเก็บสมุดบันทึกเล่มนั้นไว้ไหมนะ
“ป้อมปราการนี้ใช้เวลาสร้างเสร็จประมาณสามปี ถ้าเดินไปข้างหน้าจะมีตำหนัก ชื่อว่า มณีหยาดฟ้า “
“ชื่อเพราะจังเลยนะคะ มณีหยาดฟ้า”
“ตั้งตามชื่อ ของเจ้าหญิงองค์หนึ่งนะ ถ้าเดินไปตามแนวกำแพง ทางทิศตะวันออกจะมี สุสานหลวงของท่านแม่ทัพ ชื่อ ว่า ฟ้าเมืองอินทร์กับเจ้าหญิงมณีหยาดฟ้า เรียกว่า สุสานแห่งรัก”
กรกมลเดินไปตามแนวกำแพงเมือง ผ่านตำหนัก มณีหยาดฟ้า ศาลา สระน้ำ
“สมัยอดีตป้อมปราการสิงควรรณใช้เป็นศูนย์บัญชาการ เป็นเมืองหน้าด่านทางทิศตะวันตก มีประตู สี่ ประตู เรียกว่า จตุรทิศ (อุดร ทักษิณ บูรพา พายัพ)
ธารนธีอธิบายไป ส่วนกรกมลก็ถ่ายรูปอย่างเมามันส์ ไม่สนใจไกด์หนุ่มสักนิดเดียว แนวกำแพงทำจากหินแข็งแรง แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าความรักเป็นแบบนี้ก็คงจะดี มั่นคง
“คุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปซื้อน้ำมาให้”
“คะ ถ้างั้นฉันขอเดินไปชมสุสานของท่านแม่ทัพฟ้าเมืองอินทร์ก่อนนะคะ”
“ไปสิ”
กรกมลเดินมาตามทางมาเรื่อย ๆกลีบดอกไม้สีชมพูอมขาวปลิวลงหล่นตามทางเดิน ที่จะเดินไปสุสานของท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่ต้องมาจบชีวิตด้วยความรัก
“ในอดีต เคยมีตำนานเล่าว่า ในปีนั้น มีสงคราม เกิดขึ้น แคว้นที่อยู่ข้างๆได้ยกทัพมาตีเมืองธาราคีรี แต่ว่าแพ้สงครามกลับไป จนต้องยอมสวามิภักษ์ ได้ส่งพระราชธิดาคนงาม นามว่า มณีหยาดฟ้ามาเป็นตัวประกัน(ความจริงส่งมาให้เพื่อฆ่าท่านแม่ทัพ ฟ้าเมืองอินทร์)แต่ว่า”
“แล้วงัยต่อละคะ”กรกมลหันมาถามธารนธีหลังจากที่ชายหนุ่มไปซื้อน้ำกลับมาให้ ภายในสุสานจะเป็นสวนดอกท้อ ทำไมถึงเป็นดอกท้อนะ
“แต่ก็ฆ่าไม่ได้เพราะว่าทั้งสองตกหลุมรักกัน ทันทีที่พบหน้ากัน”
“หน้าที่กับความรักคุณจะเลือกอะไรละคะ”
“ก็ต้องดูตามสถานการณ์ตอนนั้น”
“มันไม่ใช่ความผิดใช่ไหมคะที่ เจ้าหญิงมณีหยาดฟ้าจะฆ่าแม่ทัพ ฟ้าเมืองอินทร์ตายนะ บ้านเมืองใคร ใครก็รัก แต่”
“แต่ผมคิดว่า ท่านแม่ทัพหนุ่มนั่นก็คงยอมตายด้วยน้ำมือของหญิงสาวที่ตนเองรักละนะ “
“แต่แม่ทัพหนุ่มกับเจ้าหญิงก็ตายด้วยคมดาบของกันและกันไม่ใช่หรือคะ”
คนหนึ่งยอมเสียสละ บ้านเมืองเพื่อความรัก
อีกหนึ่งนั้น ยอมสละซึ่งความรัก เพื่อปกป้องบ้านเมืองของตนเอง
“ถ้าคุณเป็นเจ้าหญิงมณีหยาดฟ้า ยอดหญิงพิทักษ์แผ่นดินองค์นั้นคุณจะฆ่าผมไหม”
“ฉันจะเอากระบี่ฟาดปากคุณเป็นอันดับแรก ต่อมาก็จิ้มลูกตาคุณ”กรกมลว่าให้ หนอยถามมาได้
“กลายเป็นคนพิการพอดี” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้าใจ
“แล้วก็ใช้มีดมากรีดหน้าอันแสนจะขี้เหร่ของคุณ แล้วเอาไปเฆี่ยน โบย ให้หลังลาย แล้วเอาเกลือมาทา”
“คุณนี่ซาดิสม์ โหดร้ายมากเลยนะ” ธารนธีว่า กรกมลยักไหล่ไม่สนใจ
“หรือไม่ก็จับไปถ่วงน้ำ โยนให้ปลาฉลามกิน”
“ธาราคีรีไม่มีทะเลนะคุณ”ชายหนุ่มหัวเราะ ร่า “แต่ผมคิดว่าคุณไม่กล้าฆ่าผมหรอกนะ”
“เพราะอะไรทำไมจะไม่กล้า” มั่นใจมากนะค้า
“เพราะว่า”
“ว่าอะไร” หญิงสาวถาม นิ้วเรียวยาวลูบเรียวปากอวบอิ่มเบาๆ นัยน์ตาสีดำขลับจ้องมองนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอย่างอ่อนโยนปนอ่อนหวาน กรกมลตกใจ หน้าแดงระรื่อ แทบจะสำลักน้ำบ๊วยที่ดื่มเข้าไปออกมา
หัวใจสั่นอีกแล้ว นะ เธอไม่อยากเป็นเจ้าหญิงมณีหยาดฟ้าและก็ไม่อยากให้เขาเป็น ท่านแม่ทัพหนุ่ม ฟ้าเมืองอินทร์ ความรักนำมาเพื่อความเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย
“มณีหยาดฟ้ายอดรักของข้า โอ้ย….คุณตีผมทำไมนี่”ธารนธีร้องลั่นก่อนจะหันมาถามหญิงสาวที่หน้าแดง ปากสั่น ก่อนจะเดินหนีออกจากสวนดอกท้ออย่างรวดเร็ว มือหนักชะมัด(ไม่ตบให้ก็บุญแล้ว ริมาเล่นบทเจ้าชู้กับเธอ กรกมล) เซ็งจริงๆยังไม่ทันได้เล่นบทท่านแม่ทัพหนุ่มเลย เจ้าหญิงมณีหยาดฟ้าก็เดินหนีไปแล้ว
รักสลาย เมื่อวันดอกท้อบานและร่วงลงสู่พื้นดิน เตือนว่าความรักของเราจะสิ้นสุดลง ณ วันนั้น
ผาดอกไม้ร่วง ตลอดทางเดินจะมีต้นเชอรี่ที่ออกดอกสีชมพูอมขาวบานสะพรั่ง
“ถ้ามาตอนฤดูใบไม้ร่วงจะสวยมากเลยละครับ ต้นไม้เปลี่ยนใบจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง สีแดง สีทอง “ธารนธีพูด ก่อนจะนั่งลงบนม้าหินอ่อนข้างกรกมลที่กำลังใช้กล้องดิจิตอลถ่ายภาพ ต้นไม้กับดอกไม้ริมผาดอกไม้ร่วงจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำคชารีกับสะพานเมธาวารี
“คุณธารนธี น้ำที่คุณดื่มเป็นน้ำอะไร”กรกมลถามชายหนุ่ม
“เขาเรียกว่า บุปผานารีนะครับ”
“บุปผานารี ชื่อเพราะจัง ขอชิมหน่อยได้ไหมคะ”
“เอาสิ เชิญชิมตามสบาย” เขาอนุญาติ ก่อนจะยื่น บุปผานารีที่ใส่โอ่งดินเผาเล็กๆให้หญิงสาว เดี๋ยวก็จะรู้สึกว่านรกมีจริงละงานนี้
“หอม หวาน มันทำมาจากอะไรละ”
“ดอกท้องัยครับ”
“แต่เอ๊ะทำไมมันเวียนหัวแบบนี้นะคะ”
“ก็มันเป็นเหล้านี่ครับ”
“เหล้า”กรกมลอุทานลั่น ใบหน้าแดงระเรื่อ
“ใช่ครับ เป็นเหล้าชนิดหนึ่งที่หมักจากดอกท้อ ที่เรียกว่าบุปผานารี ก็คงมาจาก ครั้งหนึ่งเจ้าหญิงมณีหยาดฟ้าใช้เหล้าที่หมักจากดอกท้อ มอมท่านแม่ทัพ ฟ้าเมืองอินทร์ จนเมาแล้วก็ลงมือฆ่า มีกลอนบทหนึ่งพูดว่า
รักสลาย เมื่อดอกท้อบานแล้วร่วง สู่พื้นดิน เป็นสัญญาณเตือนว่าความรักของเรากำลังสิ้นสุดลง”
“มิน่าละสุสานจึงเต็มไปด้วยต้นท้อมากมายนี่เอง”
“ธาราคีรี ขึ้นชื่อการปลูกท้อ บ๊วย พลับ สาลี่ “
“งั้นเหลอ คุณธารนธี คะ น้องกุ้งนางปวดหัว”
“ถ้าอยากดื่มบุปผานารีให้ได้รสชาติที่แท้จริง เขาไม่ดื่มกันแบบนี้หรอก”
“แล้วดื่มแบบไหน”
“เดี๋ยวผมจะสอนทีหลังให้น้า………….รับรองคุณได้กรี๊ดสามสี่ตลบแน่นอน”
“ทำไมต้องกรี๊ด”
“อย่าเพิ่งอยากรู้เลย” เขาตัดบท
“ทำไมรู้ไม่ได้ สอนหน่อยสิ “
“จะให้สอนตอนนี้ ไม่ดีละมั้ง”
“ไม่ดีตรงไหน เร็วๆฉันอยากรู้”หญิงสาวเข้าไปกอดแขนชายหนุ่มออดอ้อน
“ไม่สอน ผมบอกแล้วงัยว่าไม่สอน” ธารนธีลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ทำให้กรกมลแทบหัวทิ่ม เอ๊ะ นั่นอะไร
คนจูบกัน หญิงสาวสะดุ้งตกใจเฮือก ไม่คิดว่าจะมีหนังสดมาฉายให้ดูแบบกลางวันแสกๆ ใบหน้านวลแดงซ่านด้วยความอาย จะสวีทหวานกันกันทั้งที กรุณาให้เกียรติสถานที่บ้างนะคะ
ธารนธีกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่เมื่อเห็นใบหน้ากรกมล คงจะรู้แล้วมั้งว่า การดื่มที่ให้รสชาติที่แท้จริงเป็นอย่างไร ชนิดที่ทำให้แม่ทัพหนุ่มมาสิ้นชีพด้วยน้ำมือของหญิงสาวผู้บอบบางคนหนึ่ง ด้วยเหล้าที่ ชื่อ บุปผานารี
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอีตาบ้าธารนธี ที่ไม่พูดนี่กะว่าจะสาธิตวิธีเลยใช่ไหม โอ้ย…………….นี่เธอพูดอะไรไป ให้เขาช่วยสอนวิธีดื่มบุปผานารีให้งั้นเหลอ อายมากๆๆๆๆแถวนี้มีรูไหมน้องกุ้งนางอายอยากมุดรูหนีแล้ว อยากจะบ้าตาย เม้าส์ทูเมาส์ จูบ สาบานเลยว่านี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอจะดื่มบุปผานารี ธารนธี ผู้ชายบ้า
“Take me to you heart beart take me to you soul
Give me you hard and hold me
Show me what love is be my guiding star
It’s easy take me to you heart
Standing on a mountain high
Looking at the moon through a clear sky”
ฝันไปเถอะคะ พี่อาโปว่าจะได้มาสอนวิธีดื่มบุปผานารีแบบให้ได้ชาติที่แท้จริงนะ อย่าได้แม้แต่จะคิด เชียวละ




ณัฏฐกมล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 21:00:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 21:00:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1323





<< บ้านรมย์รวินท์   อรุณแรกแห่งธาราคีรี >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account