ลำนำรักสายน้ำ
‘หลับตาลงครั้งใด เห็นว่ามีแต่ภาพใครบางคน
ที่กี่ครั้งก็ยังวกวน ดูไม่ชัดเจน
ได้ยินแต่เสียงเรียกของเธอ
ที่ฟังแล้วอบอุ่นและคุ้นในใจ
ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ยิ่งติดอยู่ข้างใน
ยิ่งห้ามเท่าใจเท่าไร ยิ่งใกล้เธอเข้าไปทุกที
ตามหาหัวใจ ที่ลึมไว้กับใครสักคน‘
ธารนธี ตกหลุมรักหฺญิงสาวนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มคนหนึ่ง ในคืนวันเพ็ญเต็มดวงของฤดูใบไม้ผลิ เป็นคืนที่ราชาแห่งขุนเขาและเทพีแห่งบุปผาจะประทานพรให้หนุ่มสาวชาวคีรีธาราสมหวังในความรัก
‘หัวใจอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม สักวันหนึ่งร่างกายจะเดินมารวมกับหัวใจ‘
เช่นเดียวกับสายน้ำและดอกบัวงาม
ฤดูใบไม้ผลิ ฤดู แห่งการเริ่มต้น ดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบาน เพื่อต้อนรับแสงแดดที่อบอุ่นหลังจากที่ต้องจมอยู่ได้พื้นดินเป็นเวลานาน
เช่นเดียวกับความรักของธารนธีและกรกมล

ถึง Dream Girl
นกสีฟ้าของผมจะโบยบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อคุณได้ยินเสียงขลุ่ย โปรดรับรู้ว่ามันคือคำบอกรักของผม ยามคุณดื่มกาแฟ จะรับรู้รสจุมพิตของผม หากคุณเข้าไปในสวนดอกไม้ กลิ่นของมันคือกลิ่นอายความทรงจำของเราสองคน และที่ศาลากลางน้ำ หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับนั่น คือรอยยิ้มที่ผมมอบให้คุณเพียงคนเดียว
จาก อาโป ธารนธี ชลธารพิทักษ์
14 กุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว ประเทศ ออสเตรเลีย

‘ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนใด
เริ่มเพาะเหมาะกลางระหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี‘
"วันนี้ ฝนตก ได้กางร่ม เดินเคียงคู่กับพี่อาโปด้วยละ ตามตำนานเขาเล่าว่าวันไหนที่ฝนตก กามเทพจะแผลงศรรัก ทำหั้ยหนุ่มสาวตกหลุมรักกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา "
"ความจริงพี่อาโปก็อยากให้ฝนตกทุกวันเหมือนกัน เพราะจะได้มีคนมาเดินกางร่มเคียงคู่กันแบบนี้ "
"ทำไมคนเราต้องจูบกัน เขาบอกว่าเพราะทั้งสองตกหลุมเสน่ห์แห่งรักกันและกัน วันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแล้วถูกผู้ชายคนหนึ่งเบียดทำให้แทบล้มหัวคะมำ ดีแต่ว่าพี่อาโปคว้าเอวไว้ก่อนไม่งั้นได้อับอายขายขี้หน้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ไม่ต้องขนาดถึงจูบ แค่ได้สบตากับพี่อาโปเหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุนเลยละ"
"น้องกุ้งนางรู้ไหมวันนั้นทำให้พี่ต้องลงผิดสถานี เพราะพี่อาโป เขินอายมากๆ ผู้ชายก็อายเป็นเหมือนกันนะ ทีหลังอย่าทำให้พี่เป็นแบบนั้นอีกนะวันหลังเราไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอด้วยกันนะ พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางอยากจะเป็นเหมยลี่"
"วันนี้ อยากจะ ฆ่าพี่อาโปบังอาจควงสาวไปเต้นรำ โมโห อีตาบ้ารวีวิชญ์นี่ก็น่าโมโหตามตื้ออยู่ได้ ไม่ชอบๆๆๆๆๆ นี่สงสัยเราจะหึงจัด ดื่มไวน์หมดไปสามแก้ว ถูกหามกลับวังปทุมวันแทบไม่ทัน ก็มันหึงนี่คะ ก็น้องกุ้งนางอยากจะเต้นรำกับพี่อาโป อยากซบอกพี่อาโป"
"พี่ไม่คิดว่าน้องกุ้งนางจะเห็นพี่นี่คะ ก็เลยไม่ได้ไปแสดงตัวเอง แต่แหม พี่อาโปอยากเห็นหน้าผู้หญิงหึงจังเลย ไวน์อย่าดื่มมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ ถ้าอยากเต้นรำกับพี่อาโปเดี๋ยวจะจัดให้ ถ้าจะซบอกผู้ชายต้องเป็นพี่คนเดียวไม่งั้น ตายแน่ๆ พี่ขี้หึง หวง"
"วันนี้ อยาก จะดึงคอพี่อาโปมาถามว่าเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดจา ทักทาย เดินหน้าบึ้งตึง ทำหมางเมินใส่เหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน น้องกุ้งนางเจ็บนะที่พี่อาโปทำแบบนี้นะ "
"พี่อาโปก็เจ็บเหมือนกันนะ ก็จะอะไรละก็พี่หึงจนหน้ามึดน่ะสิ เมินเรียกร้องความสนใจรู้บ้างไหม”

Tags: รักหวานซึ้ง

ตอน: ความรักสัมผัสได้ด้วยหัวใจ

“ชื่อของผมคือสายน้ำ แล้วคุณละ” ชายหนุ่มถามเด็กสาวที่นั่งหน้านิ่ง นิ้วก้อยทั้งสองยังไม่คลายจากกัน
“What is in a name
That which we call a rose
By any other would smell as sweet”
“นามนั้นสำคัญไฉน
ที่เราเรียกกุหลาบนั้น
แม้เรียกอย่างอื่นก็หอมรื่นอยู่เหมือนกัน”
ใครกันนะมาพูดบทประพันธ์ของ วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต
“ไม่ว่าจะเป็นโรมิโอแห่งมอนตะคริว หรือว่าโรมิโอที่ จูเลียตรัก หวังให้ท่านทิ้งหน้ากากทางสังคมมาครองรักกัน"
“สิ่งที่ข้ามอบให้ท่านคือสิ่งที่ข้ามี หัวใจข้ากว้างใหญ่ดังมหาสมุทรความรักของข้ายิ่งลึกซึ้ง ยิ่งมอบให้เท่าไร ความรักนั้นยิ่งยาวนาน”
ผู้ชายในฝันเขาเป็นใคร เสียงทุ้มลึก พูดอ่อนหวาน แล้ว ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครนะ คนรักกันเหลอ โรมิโอกับจูเลียตเหลอ ไม่ใช่ แน่ๆๆคุณเป็นใคร ทำไมมาอยู่ในฝันได้
ราตรีโบยบินจากไป แสงอาทิตย์ค่อยสาดส่องแสงเรืองรอง มาตามหน้าต่างห้องนอน
กรกมลยิ้มนิดๆ อย่างคนฝันหวาน แต่แล้วสัมผัสอุ่นๆที่หวานกว่าบนริมฝีปากก็ปลุกเธอตื่น ภาพตรงหน้า คือรอยยิ้มหวานๆของชายหนุ่มคนหนึ่ง
"อุ้ย......อาโป"
"มอร์นิ่งคิส ครับ"
ใบหน้าหวานใสแดงระเรื่อ ก่อนจะเม้มริมฝีปากกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง
"น่าเกลียดจริงๆเลยนะคะ แอบมาขโมยจูบกันแบบซึ่งๆหน้า"
"โกรธเหรอ ครับ ถ้างั้น อีกรอบก็แล้วกัน" คนช่างโมเมโน้มลงไปหาแบบหน้าตาเฉย กรกมลตกใจรีบยันแผ่นอกเขาไว้
"ไม่เอา อย่ามาเล่นแบบนี้"
"แบบไหนเหรอ " ธารนธีถาม พลางยิ้มอย่างอ่อนหวาน เมื่อเห็นหญิงสาวอายหน้า แดง
"ไม่พูดกับคุณแล้ว ฉันไปอาบน้ำดีกว่า"
"ผมอาบให้นะ"
"จะบ้าเหลอคุณ" กรกมลโวยวายลั่นห้อง เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงเข้ามาจะคว้าร่างบอบบาง
"จะไปไหน" เขาดึงแขนเธอไว้ก่อนจะได้วิ่งหนี
หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ เมื่อเขาโอบกอดเธอจากด้านหลังซุกไซ้ลงบนซอกคอ ขนลุกซู่ ลมหายใจอุ่นๆรดแผ่วเบา
"นี่ปล่อยได้แล้ว" กรกมลโวยวายกลบกลื่นความอาย อีตาบ้าจะมา สวีท
หวานอะไรแต่เช้า
"ขอกอดแป็บ นึง ได้ไหม"
ชายหนุ่มพูดขอได้น่ารักน่าชังเสียจริง มีเหลอ กรกมลจะไม่ใจอ่อน ยอมอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเขา ใบหน้าเนียนใส ค้อนประหลับประเหลือก
กรกมลอาบน้ำเสร็จ ก็เดินมาที่กระจกโต๊ะเครื่องแป้ง คิ้วเรียว เลิกขึ้น เมื่อสังเกตเห็นแผ่นกระดาษโน๊ตสีชมพูแปะอยู่บนหนังสือ ดั่งดวงหฤทัย เขียนว่า
"For my dear " กรกมลหยิบหนังสือดั่งดวงหฤทัย ฉบับการ์ตูนแปดเล่ม ขึ้นมา นี่เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอ อยากได้ การ์ตูน เรื่องนี้ และที่สำคัญ เธอไม่เคยบอกใครเลยนี่ ว่าตามหา การ์ตูนเรื่องนี้อยู่ แต่ธารนธีรู้
"เปิดหนังสือดั่งดวงหฤทัย หน้า ดอกกุหลาบ สีแดงคั่นอยู่ นะครับ"
กรกมลพลิกหนังสือ ดั่งดวงหฤทัย ที่ ดอกกุหลาบสีแดงคั่นอยู่ ตามที่ชายหนุ่มเขียนบอก
"เธอมิใช่สายน้ำ แต่เธอเย็นฉ่ำชื่นหวาน
เธอมิใช่ลำธาร แต่เธอไหลผ่านเนื้อหัวใจ
ความรัก เสลาสลักสวยใส
งามใดเล่า งามใด เทียบได้งดงามความรัก"
ภาพวันวานหวนกลับมาคืน ที่ร้านหนังสือ ห้างสยามพารากอน สามปีที่แล้ว ที่แท้จะบอกว่ารัก ก็ไม่บอก ทำเป็นเก็กอยู่ได้ กรกมลยิ้มหวาน ก่อนจะหยิบ หนังสือการ์ตูนมาเปิดอ่าน อดีต ไม่ สำคัญ ปัจจุบันและอนาคตสำคัญกว่า
"ขอบคุณนะคะ สำหรับหนังสือ การ์ตูน "
"ไม่เป็น ไร ครับ "
"รู้ได้อย่างไร ว่า ฉันอยากได้"
"ผมรู้ ทุกอย่างเกี่ยวกับ ตัวคุณ ละ " ชายหนุ่ม จับคางหญิงสาวสั่นเบาๆๆ นัยน์ตาสีดำคมกริบ ทอดมองมา อ่อนหวาน ลึกซึ้ง อ่อนโยน เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ ดวงตาคู่นี้นะ แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก สักที กรกมลคิด
" เหลอคะ " หญิงสาว ถาม พลางคิดแบบทะลึ่ง ชุดชั้นในฉันใส่ไซน์ไหนละ อยากจะถามจริงๆๆจะรู้ไหมละ คิกๆๆๆ แต่ไม่กล้า แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะมองมาอย่างรู้ทัน ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ถ้าอันนั้นต้องพิสูจน์กันคืนนี้ "
"อาโป " กรกมล ร้องลั่น ใบหน้า แดงระเรื่อ นี่เขารู้ด้วยหรือนี่ว่าเธอคิดพิเรนท์อะไรอยู่
"แต่ว่า ตอนนี้ ไปทานข้าวกันก่อน "
"คะ คะ " หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะ ก่อนจะโอบเอวคอดกิ่วมาชิดใกล้
" 32 -24- 34 สูง 165 น้ำหนัก 45 ถูกต้องไหมครับ ที่รัก " ชายหนุ่มโน้มตัวไปถาม คนตัวเล็กที่อายหน้าแดง ไม่น่าเลย กรกมลคิด ทำอย่างกับไปสำรวจมาแล้วงั้นละรู้ดีจริงๆ
กาแฟสักแก้ว โปสการ์ดสักใบ ถึงใครสักคน
"คุณเขียน ส่งให้ใคร ตั้งมากมาย "ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่นั่งเขียนโปสการ์ดอยู่ในร้านกาแฟชื่อ บ้านไร่ชายกาแฟ กลางเวียง(กลางเมือง)
"ให้ตัวเอง พี่ชาย น้องสาว พี่สาว แค่นั้นละ บังเอิญ ฉันญาติเยอะนะ เลยต้องเขียน ให้ครบ ไม่งั้นน้อยใจกันแย่ หาว่าลำเอียง ถ้าส่งให้ใคร แล้วอีกคนไม่ได้รับนะ"
"เขียนให้ผมหรือเปล่าละครับ" เขาถามยิ้มๆ
"ไม่เขียน เรื่องอะไรจะเขียนให้ เปลือง" กรกมลว่า พลางค้อนใส่
"น่า เขียนให้หน่อยนะ ผม อยากได้" ชายหนุ่มอ้อน
"ได้ เอาหน้ามาสิ จะเขียน รูปแมวให้ " กรกมลหัวเราะคิกคัก ก่อนจะใช้ ปากกาเมจิ จิ้มไปตรงหน้า ชายหนุ่ม แต่ ทว่า ธารนธีกลับดึงมือไว้ ก่อนฉุดให้เธอนั่งลงบนตักแล้ว กอดไว้แน่น หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก
"ไม่ง่ายไปหน่อยมั้งที่รัก จะได้เขียน รูปแมวนะ" ชายหนุ่ม บีบจมูกหญิงสาวเบาๆ "แต่ถ้าจะเปลี่ยนมาหอมแก้มผมก็ว่าไปอย่างนะ"
"ฝันกลางวันไปเถอะยะ" กรกมลค้อนวงโตอย่างหมั่นไส้ นับวันยิ่งแต่ บ้ากามขึ้นทุกวัน ไอ้หน้า เชิ่ดๆๆเก็กๆๆทำหน้าราบเรียบตึงเป็นสายกีต้าร์ หายไปไหนละคะเฮียขา
"ไม่เป็นไร ผมหอมแก้ม คุณแทนดีกว่า"
"อย่านะ" กรกมลเอียงหน้าหน้าหลบแต่ก็ไม่พ้น การจู่โจมของเขาสักที
"แก้มฉัน ช้ำหมดแล้ว อี๋ " กรกมลลูบแก้ม นวลเบาๆๆผู้ชายบ้า
"ผมให้หอมคืน " ชายหนุ่มยื่นแก้ม ขาวเนียนสวยชนิดว่าผู้หญิงยังอายมาให้
"ใครอยากหอมแก้มคุณกันยะ" กรกมลว่า เอานิ้วจิ้มแก้มชมพูเบาๆ
"ก็คุณงัยละ" ชายหนุ่มชี้มาที่ตัวเธอ
"หลงตัวเอง ชิ " กรกมลว่า ก่อนจะค้อนใส่
"ฮะฮะ" ชายหนุ่มหัวเราะ เมื่อหญิงสาว ทุบกำปั้นรัวใส่หน้าอกไม่ยั้ง เขารวบข้อมือบางทั้งคู่ไว้ ก่อนจะจุมพิตหลังมือเบาๆ
ถึงที่รัก
ใครกันนะฝากรอยประทับไว้บนแก้มผมแล้วพูดว่า
" ตามหาฉันให้เจอนะสายน้ำ"
"ชื่อของฉัน หมายถึงดอกบัว"
เมื่อไรคุณจะจำผมได้สักทีนะ นี่มันแปดปีแล้วนะ ธารนธีคิด ก่อนจะลูบแก้มนิ่มนวลเบาๆๆ เขารักดวงตาคู่นี้ที่มองมาราวกับดวงดาราเปล่งประกายนับล้านดวง เขารักริมฝีปากคู่นี้ เวลายิ้มอ่อนหวาน สดใส เขารักใบหน้าหวานซึ้ง มองคราใดติดตรึงตาใจเสมอ
"สวีทหวานไม่เกรงใจกันเลยนะครับ" เสียงทุ้มห้าวพูดกลั้วหัวเราะ ดังอยู่ด้านหลังคนทั้งคู่ กรกมลกับธารนธี หันไปมองเป็นชายหนุ่มร่างสูงเพรียว ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาดุจพญาอินทรี
"ถ้าอยากหวาน ไม่หาสักคน ละครับ ท่านด็อกเตอร์" ชายหนุ่มถาม ก่อนจะยิ้มให้ กรกมล ที่นั่งหน้าแดง อายที่ต้องมาแสดงฉากสวีทหวานกลางร้านกาแฟให้คนอื่นชม ดีนะที่ เป็น ประเทศคีรีธารา ถ้าเป็นประเทศไทย โดนจับแต่งงานไปแล้วมั้ง (กลัว ลูกสาวจะขึ้นคาน หาสามีไม่ได้)
"เนื้อคู่กระหม่อมยังไม่เกิดนะ พะยะค่ะ" กานดิศแกล้งล้อ ชายหนุ่ม ที่ นั่งเล่น ปลายผมของหญิงสาวอยู่ เลยโดนส้นรองเท้าเตะกลับไปให้ "สวัสดี Dream Girl"
"ฮึ ..." กรกมล หันมา มอง ชายหนุ่ม ที่ยิ้มให้อย่างอบอุ่น เขาเรียกเธอว่างัยนะ นางในฝันเหลอ
"ผม กานดิศ วิษณุรังสรรค์ เป็น เพื่อน กับสุดที่ รัก ของคุณ"เขาแนะนำตัวเอง ก่อนจะหันไปมองธารนธีที่ กำลังส่งสายตาพิฆาตมาให้ ท่าทางจะหวง
"คะ กรกมล ภัทรโยธิน "
"ยินดีที่ได้รู้จัก นะครับ Dream Girl"
"เรียกฉัน ว่า อะไร นะคะ "
"นางในฝัน งัยครับ แต่ โอ้ย ....ถีบมาทำไมอาโป เจ็บนะเฟ้ย"ด็อกเตอร์หนุ่มร้อง ลั่น ลูบขาตัวเองเบาๆๆพูดยังไม่ทันจบเลยว่า นางในฝันของใคร หึงอะไรกันหนักหนา
"นายมาทำอะไรแถวนี้"
"มาดูฉากสวีทหวานของ เจ้าชา ....โอ้ย เตะมาทำไมนี่ "กานดิศ สูดปาก หันไปยิ้มแห้งๆให้ หญิงสาว "สุดที่รักของคุณนี่ทำผมเจ็บ นะ" เขาฟ้อง
"นายจะไปไหนก็ไป อย่ามาอยู่ รบกวน พวกเรา "
"ดูสุดที่รักของคุณ ไล่ผมสิ ดรีมเกิร์ล “ กานดิศหันมายิ้มให้กรกมลอย่างสุภาพ เป็นมิตร นี่นะหรือนางในฝันของเพื่อนเขา เห็นตัวจริงใกล้ๆ แล้ว ก็น่ารัก
“อาโป คะ คือ น้องกุ้งนางขอไปส่งโปสการ์ดก่อนนะคะ” กรกมลหาขออ้างที่จะหลบ มือปลาหมึกที่อยู่ไม่สุข และ ก็เปิดโอกาส ให้เขากับเพื่อน พูดคุยกัน
“ไปสิครับ “ ชายหนุ่ม อนุญาติ แต่ไม่ยอมปล่อยมือ กรกมลเลยหยิกให้ทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองกานดิศที่นั่งมอง แล้วยิ้ม ขำๆๆ สงสารคนไม่มีแฟนบ้างเถอะครับ จะสวีทหวานกันอีกนานไหม
“ดูท่าทางนาย จะมีความสุขจริงๆนะอาโป “ กานดิศ ถามเพื่อน ชายที่ มองไปข้างนอก ร้านกาแฟ เป็นระยะ กลัวแต่ สาวเจ้าจะหนีหายหรืองัยนะ มองอยู่ได้
“ก็ดี “
“ก็นั่นนะสิ นาย รอ เธอ มาแปดปีแล้วนี่ สมควรจะมีความสุขได้สักที ดูดรีมเกิร์ล ของนายก็รักนายด้วยนะ คงไม่ใช่ปัญหาอะไร”
“แต่เรา อยากได้ เธอ คนนั้น มากกว่า “
“มันก็คนเดียวกันไม่ใช่หรือ “
“เธอจำเราไม่ได้ เลย ลืม สัญญาที่เคยให้ไว้ “ชายหนุ่มพูดเสียงเศร้า ยกถ้วยกาแฟขึ้นมาดื่ม นัยน์ตาสีดำคมกริบ เหม่อมองไปยังนอกร้านกาแฟ”เธอ จำเรื่องราวของเราไม่ได้สักอย่าง เหมือนไม่เหลือความทรงจำอะไรเลย”
“เมื่อเป็นแบบนั้น นายก็ลืมไปสิ “
“เราลืม ไม่ได้ เรา รักเธอ รักผู้หญิงคนนั้น รัก Dream Girl คนเดียวเท่านั้น “
กานดิศ ได้แต่ถอนใจ และเหนื่อยใจกับเพื่อนชาย คนหนึ่งเลือกที่จะจำแต่เรื่องอดีต ไม่ยอม มอง ปัจจุบัน และอนาคต
“นายจะต้องรอไปถึงเมื่อไร เธอถึงจะจำนาย ได้ เจ้าชายสายน้ำ”
“นานเท่าไร เราก็จะรอ ต่อให้สิบปีเราก็จะรอ “
“เราว่านายลืมเธอคนนั้นไปเถอะ เริ่มต้นใหม่กับเธอคนนี้ใหม่สร้างความทรงจำของเธอกับนายใหม่ก็ได้” กานดิศแนะนำ มันก็คนเดียวกันละวะ(เวอร์ชั่นใหม่กับเวอร์ชั่นเก่า)
“แต่เรา อยากได้ Dream Girl คนนั้นมากว่า ความทรงจำคืนนั้นมันสวยงาม เราไม่เคยลืมเลย แม้ว่าจะผ่านมาแปดปี เรารักเธอ”
กานดิศ อยากจะบ้าตาย กับ ผู้ชายคลั่งรัก
“เธอเป็น รักแรก พบ นางในฝัน ด้ายแดงพรหมลิขิตผูกใจเราไว้กับเธอ”
ร้านคันทรีวิว
กรกมลยืนมองภาพวาดบน ฝาผนัง เป็นรูป วาดสีน้ำมันรูปทุ่งทานตะวัน เหลืองอร่ามท่ามกลางแสงแดด
“คงจะไม่สวยเท่าภาพวาด ของ Dream Girl หรอกนะครับ” เสียงทุ้มห้าวพูดข้างๆ ทำให้กรกมลหันไปมอง ชายหนุ่มคนนี้หล่อมากๆๆ ดูดีมีเสน่ห์ โดยเฉพาะแววตาเจ้าชู้ ริมฝีปากแต้มยิ้มตลอดเวลา
“นางในฝันหรือคะ”
“ครับ นางในฝัน”
“ของคุณ เหลอคะ “
“เปล่า ของผู้ชายคนหนึ่ง นะครับ” อังศุธร ลอบมองนางในฝันของธารนธี ที่ยืนมองมาอย่างไม่เข้าใจ น่ารักซะขนาดนี้ มิน่าละเพื่อนเขาถึงได้ ตามหาเธอจนสุดหล้าฟ้าเขียว
“คุณเชื่อรักแรกพบไหมละครับ”
“First love at singh นะหรือคะ”
“ใช่ครับ มีผู้ชายคนหนึ่ง เชื่อว่าผู้หญิงคนที่เขาเจอนั่นเป็นรักแรกพบ ไม่แค่นั้นนะครับเขายังบอกด้วยว่า เป็นนางในฝัน “
“อะไรมันจะเวอร์ซะขนาดนั้นนะคะ”
“นั่นนะสิ เขาบอกว่า ถูกด้ายแดงพรหมลิขิตแห่งรักถูกติดไว้กับเธอคนนั้น “ชายหนุ่มหันมามอง กรกมลที่ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ว่าในโลกนี้ยังมีคนประเภทแบบนี้ “พวกผมได้ยินขำกันแทบเป็นแทบตายว่าในโลกนี้ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหลอ”
“อาจจะมีจริงก็ได้ คนเราถ้าเป็นเนื้อคู่กันจริง ต่อให้ อยู่ไกล แค่ไหนก็ต้องกลับมาเจอกัน จนได้ละ”
“พูดเหมือนกัน เลย คุณรู้ไหม ผู้ชายคนนั้นตามหา นางในฝันของเขาแทบพลิกแผ่นดิน “
“แล้วงัยต่อกัน สองคนได้พบรักกัน “
“เปล่า ผู้หญิงคนนั้นลืมความทรงจำไปหมด ทิ้งทุกอย่างให้เป็นอดีต ส่วนผู้ชายเลือกจดจำเรื่องราว”
กรกมล อดเจ็บ ปวดหัวใจขึ้นมาไม่ได้
“น่าสงสารผู้ชายคนนั้นนะคะ เธอคนนั้นใจร้ายจังเลยนะคะที่จำเขาไม่ได้”
“ครับใจร้ายมากๆๆ ที่ทำให้ผู้ชาย คนนั้น ได้แต่รอ รอ เขารอว่าเมื่อไร ผู้หญิงคนนั้นถึงจะจำเขาได้สักที เฝ้ารอเฝ้ารัก มาเป็นเวลานาน แต่ผู้หญิงคนนั้น ก็ยังจำไม่ได้สักที “
“เมื่อเธอจำไม่ได้ ทำไมเขาถึงไม่เลิกรักเธอละคะ จะทรมานให้ตัวเองเจ็บปวดทำไม” กรกมลถาม
“นั่นนะสิ เขาบอกว่า เธอคือรักแท้ คนเดียว ของเขานะครับ” ชายหนุ่มหันมายิ้มหวานให้กรกมลที่ยืนหน้าเศร้า
“ในโลกนี้มีผู้ชายแบบนี้ด้วยหรือคะ ที่มั่นคง รักไม่เปลี่ยนแปลง รักผู้หญิงที่เห็นหน้าครั้งเดียวนะ “
“มีสิครับ เขาวาดภาพ นางในฝันชื่อว่า Dream Girl วาดจากหัวใจที่รักสุดหัวใจที่ผู้ชายคนหนึ่งมีต่อหญิงสาวคนนั้น คุณว่าเขาบ้าหรือเปล่าละครับ”
“ถามฉันหรือคะ ฉันว่าไม่นะ การที่จะรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ผู้ชายคนนั้นคงจะมีอะไรที่ประทับใจกับผู้หญิงคนนั้นมากทีเดียว ละมั้งคะ”
“ผมไม่รู้หรอกครับ แค่เคยได้ยิน เขาพูด รักเสมอ รักที่สุด รักสุดซึ้ง รักสุดหัวใจ รักจนไม่เหลือใจรักใคร”
กรกมล ตัวชาวาบ คำพูดแบบนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะ ทำไมนึกไม่ออกสักที ยิ่งนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก มันเหมือนมีอะไรมาขวางกั้นไว้
“รักเสมอ รักที่สุด รักสุดซึ้ง รักสุดหัวใจ รักจนไม่เหลือใจรักใคร”

“ผมชื่อ อังศุธร ศรัณย์ภัทร เป็นเจ้าของร้านคันทรีวิวนี้ “
“กรกมล ภัทรโยธิน คะ เรียกกุ้งนางก็ได้นะ” หญิงสาวแนะนำตัวพลางยิ้มหวานให้ เจ้าของร้านคันทรีวิว
“ยินดีที่ได้รู้จัก นะครับ “
“คุณ อังศุธร คะ”
“เรียกเอิร์ลก็ ได้คุณ กุ้งนาง มีอะไรหรือครับ” เขาหันมาถาม
“ภาพวาด Dream Girl นี้ “
“ถ้าคุณอยากรู้ ลองไปถาม ผู้ชายคนนั้นดูสิครับ ว่าทำไมถึงได้รักผู้หญิงคนนั้น ไม่สามารถลืมเธอได้ ลองไปขอดูรูปสิครับว่า Dream Girl ของเขาสวยแค่ไหน”
“เขาเป็นใครหรือคะ “ กรกมลถามทันที
“ก็……..” อังศุธรจะพูด แต่ทว่าไม่ได้ พูด นัยน์ตามรกตเหลือบไปเห็นร่างสูงๆๆของใครคนหนึ่งเดินมาพร้อมใครบางคนอย่างเอาเรื่อง
“อยู่นี่เองหรือครับ ให้ตามหาซะทั่ว “ ธารนธีถามเสียงอ่อนๆ ก่อนจะคว้าแขนหญิงสาวมาโอบกอด
“คือกุ้งนางกำลังคุยกับคุณ เอิร์ลเรื่องภาพวาด “
“ภาพวาดอะไรหรือครับ” ธารนธีถาม
“Dream Girl นะคะ คุณเอิร์ล เขาเล่าเรื่องราว ของผู้ชายคนหนึ่งที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมากๆ รักส… “ พูดยังไม่ทันจบ เสียงทุ้มห้าวก็พูดขึ้นก่อน
“รักเสมอ รักที่สุด รักสุดซึ้ง รักสุดหัวใจ รักจนไม่เหลือใจจะรักใคร” ธารนธีพูดนัยน์ตาสีดำขลับมองหน้าหญิงสาวอ่อนหวาน อ่อนโยน มือใหญ่จะดึงร่างบางมากอดแต่ทว่า
“หยุดสวีทหวานก่อนได้ไหมเพื่อน เกรงใจ พวกคนไม่แฟนหน่อยสิครับ” อังศุธรพูดขัดขึ้น ก่อนที่เพื่อนรักจะสวีทหวาน จนมดไต่ขึ้นมาภายในร้าน ชายหนุ่มกับหญิงสาวชะงักกึกอยู่กับที่
“รู้จักกันหรือคะ “ กรกมลถามอย่างแปลกใจ
“ผมเป็นเพื่อนกับสุดที่รักของคุณนะครับ “ อังศุธรบอก พลางยิ้ม อย่างมีเลศนัย ตาสีเขียวระยิบระยับ
“เหลอคะ “ อาโปมีเพื่อนกี่คนละเนี่ย ดูแต่ละคนสิ หน้าตาดีๆทั้งนั้นเลย ถ้าเธอ ไม่ ตกหลุมรัก เขาละก็ จะลองจีบสองหนุ่มนี้ดู ฮิ ฮิ ฮิ
“ถ้าอยากรู้เรื่อง ภาพวาดลองถามเขาก็ได้นะครับ เขาน่าจะรู้ดีกว่าผมก็ได้” อังศุธรแนะนำ
“ทำไมละคะ “ กรกมลถามอย่างสงสัย
“เขาเป็นสถาปนิกนะครับ “ อังศุธร ไม่กล้าพูดว่า เขาเป็นเจ้าของภาพวาด นั้น “ใช่ไหมอาโป”
“อาโป คุณก็รู้เรื่องภาพวาด Dream Girl ด้วยหรือคะ ถ้างั้นช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิคะ ภาพวาดนั้นคงสวยมากเลยใช่ไหมคะ อ้อ ช่วยพาไปดูหน่อยได้ไหมว่า ผู้หญิงคนนั้นสวยขนาดไหน ที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเฝ้ารักเฝ้าคอย ฉันอยากเห็นภาพวาดนั้นนะ”
“สวยที่สุด” ชายหนุ่มลูบริมฝีปากหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะก้มลงแต่เสียงกระแอมกระไอดังมาจากสองหนุ่มที่ยืนมองอยู่ กรกมลอายหน้าแดง วันนี้เธอแสดงหนังสดกี่รอบไปแล้วนะนี่ แต่ดูเหมือนธารนธีจะไม่สนใจ กับสายตาของเพื่อนสองคนที่มองมา ก่อนจะหันไปตาขวางใส่ ที่บังอาจ ขัดจังหวะ
“อย่าลืมให้อาโป พาไปดูภาพวาดนั้นนะครับคุณกุ้งนาง คุณเห็นแล้วจะรู้ว่ามันสวยแค่ไหน” อังศุธรพูดยิ้มๆๆ
“บางทีอาจจะทำให้คุณร้องไห้เลยก็ได้ครับ “ กานดิศเสริม ต่อ
“คะ ถ้า เฮ้ย “ กรกมลยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็ถูกธารนธีดึงตัวออกจากร้านคันทรีวิว ท่ามกลางสายตาของเพื่อนทั้งสองมองมาอย่างขบขัน
“คนวาดภาพ กับนางในฝัน อยู่ใกล้กันแค่นี่” อังศุธร ว่า พลางยืนยิ้มๆ เขาจะรอดูว่า ธารนธี จะทำอย่างไรให้นางในฝันของเขาจำตัวเองได้สักที ช่วยได้แค่นี้ละ ที่เหลือจัดการเองเถอะนะ แล้ว นางในฝัน ของเขาละ อา ใช่แล้ว เจ้านางน้อย ผิงดาว มณีหยาดฟ้า ยอดรักของข้า





ณัฏฐกมล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2555, 21:03:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 เม.ย. 2555, 21:03:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1354





<< อรุณแรกแห่งธาราคีรี   นิยามของคำว่ารักของอาโป >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account