กลิ่นรัก...อบอวลหัวใจ
หญิงสาวผู้มาดมั่นเลือกการงานมากว่าเรื่องรักใคร่ๆหรือต้องมาข้องแวะเกี่ยวหัวใจให้ชายคนไหน
กับชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ไม่เคยคิดจะจริงจังพันใจกับผู้หญิงใดๆ ทั้งคู่จะมาบรรจบรักกันได้เช่นไร
โปรดคอยติดตามนะคะ

แนะนำตัวละคร

พระเอก
นายธารานนท์ เตชโชติ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ รวมทั้งเจ้าของโรงแรมรีสอร์ทในเครือมากมายล้นฟ้า แต่ไร้คู่ครองเคียงข้าง เมื่อไม่เคยเจอผู้หญิงที่จะทำให้อิ่มเอมทั้งชีวิตโดยไม่รู้สึกเบื่อ หญิงสาวคู่ครองสักคนของเขาคงจะไม่มีในโลกนี้ แต่เมื่อได้มาทำงานในต่างจังหวัดและพื้นที่อำเภอท้องถิ่นเล็กๆ แห่งหนึ่ง โดย ได้พบกับส.ส. นรินศาสาวมั่นแสนสวย แต่ไม่ไร้สมอง ทั้งเก่งเอาตัวรอดโดยไม่ต้องขอความช่วยจาก ใครๆก็ได้ ทำให้ชายหนุ่มเพลินเพลิดไปกับเธอ ไม่ว่าเธอจะมาพบเจอเขาด้วยอย่างความบังเอิญหรือในสถานที่ไม่คาดถึงก็ตามทุกครั้ง แต่หัวใจของเขากลับอบอุ่นร้อนทั้งโหยหา มีแต่ความคิดถึงให้เธอทั้งกลางวันและกลางคืนที่นอนหลับฝัน รวมทั้งยังเข้าไปเจออุปสรรคด้านการเมืองการทำของเธอ ซึ่งชายหนุ่มนั้น ทั้งแสนชิงชังอาชีพการเมืองของพ่อผู้ให้กำเนิดนัก

นิสัย : การพูดทั้งจริงจังอย่างมาก ทั้งพูดเล่นกับคนที่ถูกชะตา เจ้าชู้ไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงคนไหนๆเลย แต่จริงๆแล้ว ส่วนมากผู้หญิงจะเป็นฝ่ายชอบวิ่งเข้าหา เขาจึงต้องตอบรับบรรดาผู้หญิงเหล่านั้น ในใจลึกๆ เขากำลังต้องการผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูก ไม่ใช่ชอบเขาเพียงแค่เงินตราอันมหาศาลของเขา ด้านการทำงานไม่มีที่ติและเขาต้องทำให้จนสำเร็จ แม้ว่า ฝ่ายตรงข้ามจะต้องล้มละลายเขาก็ไม่สนใจ

นางเอก
นางสาว นรินศา อัณณ์ศญา หญิงสาวผู้มีใจรักในบ้านเกิดของตนเองยิ่งชีวิต อยากให้บ้านเกิดของตนเองมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามแบบประเพณีวิถีชีวิตดั่งเดิมในรัชสมัยๆที่ผ่านๆมา จึง ขอก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนของราษฎร และประชาชน เพื่อนำความสุขมาสู่บ้านเกิดของตนเอง แต่อุปสรรค์มากมายทั้งภายในไม่ลงรอยกับนักการเมืองในพรรค ทั้งภายนอกด้านการมีเส้นสายที่คอยจะคดโกงกินแผ่นดิน กว่าจะเปลี่ยนความคิดให้รู้จัก คำว่า “สามัคคี” อีกครั้ง มันคงทำให้เธอใช้ความรู้และสามารถ ทั้งหัวใจยิ่งชีวิต บนเส้นทางวิถีดำเนินชีวิตปัจจุบันที่มีเล่ห์เหลี่ยมชักจูงหวาดล้อมมากมาย รวมทั้งบนเส้นทางแห่งความรักที่ก่อเกิดโดยไม่รู้ตัว เพราะความอวดดีอวดเก่งของชายหนุ่มเจ้าของรีสร์อทคนใหม่ ที่มีหัวใจแบบคนโกง เจ้าชู้ จนครบทุกรูปแบบเป็นผู้ชายที่หญิงสาวแสนเกลียดนัก และจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายพันธุ์นี้เด็ดขาด

นิสัย : สาวมั่น ผู้มีอุดมการณ์ของตนเองสูง การพูดจาจะนิ่งหนักแน่น จะอ่อนหวานเฉพาะคนเป็นพ่อกับแม่และเพื่อนสาวคนสนิทเท่านั้น

แล้วกลิ่นรักที่คุกรุ่นหมองหม่น ในใจของชายหนุ่มธารานนท์กับท่ามกลางธรรมชาติท้องทุ่งนาแสนอันจะใกล้กลับคืนมาให้สมบรูณ์อีกครั้ง...ด้วยหัวใจอันรักยิ่งแห่งบ้านเกิดของหญิงสาวนรินศานี้จะจบลงได้เช่น ไร ในเวลาไม่ช้านี้ ตะวันที่รอทอแสงรุ่งอรุณให้สดใสกำลังจะพิสูจน์ความรักของทั้งคู่...
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานแหวว,หวานน่ารัก,แนวรักสบายๆ

ตอน: บทนำ...



บทนำ กลิ่นรัก...อบอวลหัวใจ



ในมวลหมู่ละแวกแมกไม้นานาพรรณที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นให้ความรู้สึกสบายกายและจิตใจ เพื่อช่วยลดความหม่นหมองของธารานนท์ชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียว แต่แล้วกลับมีเสียงดังเอะอะตะโกนร้องโหวกเหวกโวยวายลั่น ทำให้อารมณ์ที่อยากจะผ่อนคลายและพักผ่อนต้องมาหยุดชะงัก เกิดความหงุดหงิดในวันแรกของการเดินทางจากเมืองหลวงเข้ามาทำงานรีสอร์ทแมกไม้กอหญ้านัก แถมยังไม่มีพนักงานชายหรือยามเฝ้าระวังภัยคนไหนออกมาทำหน้าที่ดูแลเหตุการณ์นี้เลย มันจึงทำให้ธารานนท์ต้องลุกขึ้นจากที่นอนอันแสนนุ่มๆในห้องพักของตน เพื่อออกไปดูลาดราวแทนเสียเอง แค่เอามือหนาเปิดประตูเรือนไม้หลังเล็กแสนเงียบสงบของเขาไปแค่นิดเดียว โดยที่ยังไม่ได้เปิดไฟเพิ่มความสว่างอีกสักดวง ฉับพลันนั้น จู่ๆ ร่างเอวบางเล็กๆ แสนตื่นตระหนกก็ผลักเข้ามาในห้องพักของเขาอย่างรวดเร็ว และยังรีบปิดประตูห้องพัก พร้อมจับดึงกระชากลากร่างโตของเขาดิ่งไปที่เตียงนอนไม้แสนหรูหราเหมาะสมกับราคาห้องพักหนึ่งหลัง สองร่างคนละไซด์ตะครุบล้มหมุนตัวกลมเป็นเกลียวเข้ากันอย่างดี

“หายไปได้ไงวะ มันต้องแอบหนีเข้าห้องไหนสักห้องแน่ๆ”

“ไม่หรอกลูกพี่ พวกเราจองไว้หมดแล้วนะ แถมยังล็อกกลอนปิดตายทุกห้องด้วย ยัยนั่นมันหนีไปได้ไม่ไกลหรอกน้า...” ดวงตาดุร้ายของคนเป็นลูกพี่ลุกโชนเป็นไฟ ด้วยการกระทำของคนเป็นลูกน้องที่ไม่ได้เอ่ยบอกเขา

“บักโง่เอ้ย นี่มึงเช่าห้องพักแถวนี้หมดเลยหรือไงวะ”

“ครับ”

“กูซวยแน่ๆ ถอยก่อนเว้ย! ถ้ายัยนั่นแหกปากเอาเรื่องขึ้นมา มึงตายคาปืนกูแน่ บักชาติโง่ ไป๊! รีบเผ่นหนีเร็วๆเข้า!” ไม่รู้ว่าคนเป็นลูกพี่เกิดกลัวอะไรขึ้นมานักหนา คนเป็นกลัวตายคาปืนคนเป็นลูกพี่ ก็ต้องรีบแล่นหนีกลับรังโดยเร็วก่อน เมื่อแผนการวันนี้พลาดแล้ว เดี๋ยวแขกที่มาใช้บริการจะแตกตื่นอยากสู่รู้ถึงความผิดปกติ เนื่องจากจู่ๆก็มีคนกลุ่มหนึ่งได้ส่งเสียงอาละวาดดัง เหมือนพากันทำลายค่าของรีสอร์ทมีชื่อแห่งนี้ แถมเล่นซะละเลงล้มพังกระจัดกระจายพอสมควร เพราะคนเป็นลูกพี่หวังว่าจะให้มันเป็นเรื่องทางอุบัติเหตุ แต่คนเป็นลูกน้องเสือกทำแผนการพังลงไม่เป็นท่า แล้วคงต้องไปยัดเงินให้พนักงานประสัมพันธ์คนนั้นด้วย ที่ดันทำการรับจองเรือนห้องพักทั้งหมดยาวถึงสี่ห้าหลังแถวนี้

เมื่อเสียงชายฉกรรจ์สองร่างใหญ่กำยำในความมืดได้เงียบหายไปเพียงไม่กี่นาทีต่อมา เสียงลมหายใจที่ดังระรัวหอบแรงถี่ของผู้ที่ตกตื่นหวาดกลัว พร้อมทั้งเสียงหัวใจที่เต้นดังตึกตักแรงตามอาการลอบหนีจนเข้ามาในห้องพักอันมืดมิดของแขกที่มาใช้บริการ ทำให้เจ้าของห้องพักไม่อาจจะเห็นดวงใบหน้าของร่างเอวบางได้ถนัดตานัก แต่เรือนผมที่ดูจะเหมือนสั้นซอยควบคู่กับเรือนร่างเล็กๆ ทำให้ธารานนท์หลงคิดว่าเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ เดาได้เลยว่าอาจจะถูกจับมาขายให้อาเสี่ยประเป๋าเงินหนักๆ โดยใช้รีสอร์ทแห่งนี้มาเปิดตัวอวดโฉม

“ปล่อยภัยแล้วนะ นังหนู...” เสียงทุ้มจากธารานนท์เอ่ยเสียงเบาๆ ลดที่ข้างหูของร่างบางเล็ก ทำให้ร่างบางเล็กรู้สึกตกใจจนสะดุ้งหวาดหวั่นเข้าไปอีก เพราะตอนแรกนั้นคิดว่าเป็นผู้หญิงเสียอีก เพราะกลิ่นน้ำหอมที่ส่งออกมาอ่อนๆ คล้ายเหมือนกลิ่นของขนมหวาน ร่างบางเล็กกระตุกดิ้นขยับตัว เพื่อผลักชายหนุ่มออกเต็มแรงๆ

“ปล่อยนะ...อืมๆ” พร้อมตะเบ็งส่งเสียงร้อง ทำให้ชายหนุ่มเกิดออกอาการเลิ่กลั่กตื่นตกใจหวาดกลัวแทน ธารานนท์กลัวว่าถ้าเธอกรีดร้องเสียงดังๆ หรือร้องขอความช่วยเหลือ และคนที่ซวยจะเป็นเขานี้แหละ ด้วยการถูกตำรวจท้องถิ่นที่นี่จับเข้าคุกเข้าตารางในวันแรกที่มาทำงาน ร่างหนาจึงไม่ยอมปล่อยง่ายๆ รีบใช้มือหนาข้างหนึ่งปิดเรียวปากเล็กเก็บเสียงเอาไว้ เธอจึงได้แต่ร้องเสียงอู้อี้ในลำคอ กลายเป็นว่าหญิงสาวได้หนีเสือพ้นมา แต่ก็ต้องมาเจอะเจอกับจระเข้เข้างั้นเหรอ พวกผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคนเลยสินะ เธอละเกลียดนัก!

“อย่าร้องเสียงดังสิ...นังหนูตัวเล็ก ผมไม่คิดจะทำอะไรหรอก แค่เธอหนีมาก็คงผวากลัวมากพอแล้ว อย่ากรี๊ดนะ ผมขอร้อง...” ดูเหมือนเด็กสาวใต้ร่างธารานนท์ที่ชายหนุ่มคิดเดาเอาเอง จะเริ่มไม่ดิ้นหนีหรือพยายามจะขยับตัวแล้ว อุ้มมือหนาของเขาก็ปล่อยริมฝีปากบางเล็กอันนุ่มนิ่มน่าสัมผัสออก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกโตแรงๆ อย่างโล่งอกและลุกขึ้นเปลี่ยนเป็นท่านั่งทันที พร้อมเอ่ยถามเด็กสาวในเงามืดตามความคิดของเขา

“นังหนู มาจากไหน บ้านอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมจะออกไปส่ง ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีใครทำอันตรายอีกแล้วล่ะ” คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้หญิงสาวที่กำลังหนีตายย่นคิ้วชนกัน แค่ได้ยินคำว่า ‘นังหนู’ เธอก็เริ่มประมวลผลคำพูดจาของชายหนุ่มคนนี้อีกหน ไม่จริงนะหรืออย่าบอกนะว่า นายคนนี้เดาว่าเธอกำลังถูกจับมาขายงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว! หญิงสาวร้องแว้ดขุนเคืองอยู่ในใจ

“ขอบคุณค่ะ ไม่จำเป็น นะ...นาย...คุณไม่ต้องเป็นภาระไปส่งหรอกค่ะ” หญิงสาวรีบพูดก่อนจะลุกพรวดรีบดิ่งไปที่ประตู เตรียมออกจากผู้ชายไร้ชื่อเสียงเรียงนามและเห็นใบหน้าไม่ชัดเจนในความมืดของห้องพักนี้ ธารานนท์เห็นเงาร่างเอวบางลุกหนีไปที่ประตูอย่างว่องไว เขาก็ตามมาคว้าร่างเล็กหมับกันเอาไว้ทัน ก่อนที่เธอจะหายลับไปจากห้องพักของเขา แต่มันกลายเป็นว่าไม่ดีในความรู้สึกของ ‘นังหนู’ ที่ชายหนุ่มเรียกเพราะไม่รู้จักชื่อของเด็กสาว

“ว้าย! ปล่อยนะ...” ผู้ชายฉวยโอกาสชัดๆ หญิงสาวร้องต่อว่าในใจ เธอต้องมีสติคุมสถานการณ์อันล่อแหลมนี้ให้อยู่อย่างปลอดภัย เพื่อจะได้หลุดพ้น ถ้าพลาดมีหวังเธอต้องเสียชื่อเสียงแน่ๆ

“ขะ...ขอโทษ ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรนะ แค่จะไปส่ง...เดี๋ยวสิ! นังหนู!” ธารานนท์รีบปล่อยมือหนาออกจากร่างเล็กบางทันที สงสัยเธอยังคงตื่นกลัวกับพวกชายฉกรรจ์สองคนเมื่อครู่ แถมพ่วงเขาอีกคนล่ะมั้งตอนนี้ เสียงที่เขาเอ่ยขอโทษเธอก็เปิดประตูห้องพักออกอย่างทันใจแล้ววิ่งหนี ธารานนท์เห็นด้านหลังของเธอลับหายอย่างรวดเร็ว เหลือแต่พืชพรรณไม้ที่ส่งกลิ่นหอมชวนหลับสบายด้านนอกของห้องพักเรือนไม้หลังเล็กงาม มือหนาข้างหนึ่งที่สัมผัสกับริมฝีปากบางของเด็กสาวดังกล่าว ทำให้ธารานนท์เผลอยิ้มบางๆ ก่อนจะกลับเข้ามานอนในห้องพักของตน ต่อด้วยการฝันถึงหญิงนางไม้ร่างเล็กๆ ที่เพิ่งจะจากไป แต่แล้วก็ต้องหยุดความฝันลงถ้าเป็นเด็กสาวขึ้นมาจริงๆ เขาคงต้องขอบ๊ายบายไม่คิดถึงอีก เพราะยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่วิ่งเข้ามาให้เขาเลือกเชยชม คนอย่างธารานนท์ เตชโชติ มหาเศรษฐีอันมากทรัพย์มหาศาลล้นฟ้า มีหรือผู้หญิงคนไหนจะไม่สนใจกัน

ด้านเด็กสาวหรือหญิงสาวผมซอยสั้นที่ระย้าซอยยาวมาถึงแค่ต้นคอเรียวเนียนก็ได้ขับรถกลับมาที่บ้านด้วยความหวาดหวั่นกับชายฉกรรจ์สองคนที่คิดปองร้าย แค่เธอออกมาดื่มน้ำเมารสหวานอ่อนๆ กับเพื่อนสาววัยเด็กด้วยกันแบบลับๆหรือส่วนตัว เธอไม่คิดว่าจะมีคนคอยเฝ้าติดตามมา เพื่อหวังทำร้ายด้วยเจตนาอะไรบางอย่าง เวลานี้เธอเกิดความรู้สึกมีน้ำโหให้ชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตนัก ช่วยชีวิตงั้นเหรอ ไม่ใช่หรอกแค่จับพลูจับพลันหลงเข้ามาร่วมวงกับการหนีตายของเธอต่างหากล่ะ มือเรียวบางใส่เครื่องส่งสัญญาณบูททูธแนบติดหูข้างหนึ่ง และคว้าหาโทรศัพท์ทัชสกรีนของตนขึ้นมาจิ้มเบอร์ที่ต้องการโทรหา เพื่อระบายความหงุดหงิด

“ฮัลโหล กอหญ้า ปลอดภัยไหม”

“(ปลอดภัยจ๊ะ ถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว แล้วเธอล่ะริน กลับถึงบ้านหรือยัง หือ!)” เสียงเพื่อนสาวในสายสนทนาดูเหมือนจะเป็นห่วงเธออย่างมาก จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง เมื่อจู่ๆ ขวัญใจคนเก่งของประชาชนอย่างท่าน ส.ส. นรินศา อัณณ์ศญา ถูกปองร้ายมันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมและดังกระหึ่มมากแค่ไหนกันล่ะ แม้พื้นที่ที่เธอต้องดูแลรับผิดชอบจะเป็นเขตอำเภอเล็กๆ ไม่กี่แห่งเท่านั้น แต่ก็มีชาวบ้าน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนต่างก็นับถือด้วยความสามารถของเธอและบารมีเก่าของคุณพ่อ แต่กลับมีด้านลบที่ถูกดูแคลงจากนักการเมืองชายอาวุโสหลายท่านในพรรคไม่ชอบใจ เมื่อเธอเข้าร่วมพรรคการเมือง เพียงหวังต้องการเป็นแค่ ส.ส.เท่านั้น แต่ไม่ยอมจะสนใจเอื้อเฟื้ออำนวยทางสะดวกให้กลุ่มพรรคด้วยกัน มันจึงทำให้เธอไม่กินเส้นอย่างแรงกับกลุ่มผู้อาวุโสในพรรคการเมืองอธิปจรัส ซึ่งขึ้นเป็นพรรครัฐบาลชุด ณ ปัจจุบันและมีนายกรัฐมนตรีหญิงเป็นคนแรกของประเทศ

“ถึงแล้ว ดีเสียอีกที่รอดมาได้ พรุ่งนี้รีสอร์ทแมกไม้กอหญ้า คงลำบากสักเล็กน้อย...เมื่อเกิดเหตุการณ์ค่าของเสียงหายพังไม่เป็นชิ้นดี แถมยังต้องปวดหัวเพราะจับคนกระทำไม่ได้”

“(อืมๆ เดี๋ยว กอหญ้าจะคอยตามดูลาดเลาให้แล้วกันนะ พรุ่งนี้รินก็ไปทำงานเป็นปกติเถอะจ๊ะ ราตรีสวัสดิ์นะ)”

“อืมๆ ได้ ราตรีสวัสดิ์เช่นกัน กอหญ้า” นรินศาจบสายสนทนาในเครื่องส่งสัญญาณบูททูธกับเพื่อนสาวที่มีดีกรีเรียนจบ ปริญญาโทด้านเกษตรศาสตร์ขั้นสูงจากสหรัฐอเมริกา อย่างปณยา สินพสุธร ซึ่งมีกิจการครอบครัวเป็นถึงเจ้าของไร่ที่ยาวกว้างไกลเป็นทางสุดลูกหูลูกตาเกือบหนึ่งตำบล นรินศาหักรถคันเล็กๆเลี้ยวเข้าบ้านไม้ทรงไทยกึ่งสมัยใหม่หลังใหญ่อย่างให้เสียงเงียบที่สุด กลัวว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงรถของลูกสาวคนเดียวที่แอบหนีออกไปท่องยามราตรีและแอบกลับมาจอดรถคันเล็กของตนเองเทียบท่าถึงบ้านอย่างเรียบร้อยปลอดภัยแล้ว นรินศาก็รีบเดินดิ่งก้าวเท้าเสียงเบาๆ เข้ามายังในห้องนอนของตนเองและก็พาร่างมาที่โต๊ะทำงานก่อนทันที เพื่อเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้รันทำงานต่อ มือบางของนรินศาคว้าโทรศัพท์มือถือทัชสกรีนหรูสวยรุ่นราคาแพงจากกระเป๋าสะพายหนังของตน พร้อมเริ่มใช้งานโอนถ่ายภาพที่เพิ่งถ่ายมาได้จากแหล่งที่พวกเธอแอบไปเก็บมาได้อย่างลับๆ แห่งหนึ่ง เพียงไม่กี่วินาทีภาพก็ถ่ายโอนครบเรียบร้อย นรินศาก็ล็อกรหัสไฟล์ภาพเอาไว้ แล้วปิดเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาอันเบาบางทันที ยกแขนสองข้างขึ้นยืดเส้นยืดสายคลายตัวและพาร่างตัวเองลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายอันเปื้อนดินสกปรก ทั้งเศษกิ่งใบไม้สด ใบไม้แห้งๆจากการหนีตายที่ดูเหมือนเธอจะต้องรู้จักทำตัวให้เคยชินเข้าไว้ เวลาเดินผ่านนานนับเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าเธอจะได้ทิ้งร่างลงนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆสักที ค่ำคืนนี้ก็จบลงด้วยครุ่นคิดเดาถึงอนาคตของตนเองข้างหน้า แล้วเริ่มต้นวันใหม่แต่เช้าด้วยการทำงานตามหน้าที่ของเธอต่อไปให้ดีที่สุด





ฝากนิยายแนวโรแมนติครักสบายๆ เรื่องนี้ด้วยนะคะ ^O^
อิอิ แต่หลังๆอาจเนื้อหาเข้มข้น หุหุ >____<v



Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 เม.ย. 2555, 21:22:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 เม.ย. 2555, 21:23:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 1810





    บทที่ 1 ท่านผู้นำแสนสวย >>
pseudolife 8 เม.ย. 2555, 00:40:23 น.
น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องที่มีกลิ่นนี่แหละ ^^
รออ่านตอนต่อไปนะคะ


Aricha 8 เม.ย. 2555, 09:58:26 น.
@ pseudolife ขอบคุณที่แวะมาอ่านนิยายให้อริฌานะคะ อิอิ >_< v กลิ่นว่านี้คือกลิ่นท้องทุ่งบ้านนานะ ขอ อภัยที่ลงเรื่องย่อสั้นไปหน่อย


วนัน 14 เม.ย. 2555, 12:33:07 น.
น่าสนใจคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account