กลัวเธอจะเปลี่ยนไป
ปาร เด็กสาวกำลังเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอได้พี่รหัสเป็นผู้ชาย แต่เกิดเหตุไม่เข้าใจกันขึ้น ต่อมาต้องไปเข้าค่ายรับน้องใหม่ ปารต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาและเธอจะปรับความเข้าใจกันได้รึเปล่า ติดตามได้เลยค่า...


Tags: เรื่องยาว

ตอน: ตอนที่1

ตอนที่1

เช้าตรู่ของวันใหม่มาถึงแล้ว แดดสีทองทำให้ยามเช้าของวันนี้แจ่มใส ฟ้าสีฟ้า เมฆสีขาวล่องลอยเป็นหย่อม ๆ ราวกับปุยนุ่น ลมเย็นของฤดูร้อนพัดเฉื่อยฉิว พาชุดนักศึกษาตัวใหม่พลิ้วลม เป็นยามเช้าที่แสนสบาย บนใบหน้าของเด็กสาวแต้มด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เธอยิ้มให้กับแดดใส ยิ้มให้กับฟ้าแสนสวย ยิ้มให้กับลมเย็นแสนสบายของยามเช้า และที่สำคัญยิ้มให้กับตัวเอง เธอรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน ชีวิตในโรงเรียนใหม่ ไม่ใช่สิ! มหาวิทยาลัยต่างหาก กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…

สาวน้อยร่างเล็กกระทัดรัดก้าวเดินไปตามทางรถไฟ ที่ปูลาดด้วยหินก้อนใหญ่ขนาดเท่าผลส้มบางมด เรียงรายตลอดทาง ข้างทางมีบ้านเล็กบ้านน้อยปลูกอยู่ติดกันบ้าง ห่างกันบ้าง บางบ้านทำด้วยป้ายโฆษณาประเภทต่าง ๆ ต้นอ้อ ต้นหญ้า ต้นไม้ข้างทาง ล้อเล่นลมอย่างรื่นเริง

“ปาร!” เสียงเพื่อนสาวคนสนิทตะโกนเรียก พลางโบกไม้โบกมือไปมา เมื่อเห็นเธอเดินมาถึงสถานีรถไฟ
“ว่าไงสภา! ดีใจจังที่เจอเธอ” ปารรีบทักทาย แถมยิ้มดีใจจนตาหยี สาวเท้าเร็ว ๆ เข้าไปหาเพื่อนสาว
หลังจากสอบเทียบได้ เป็นเวลานานทีเดียวที่ไม่ได้เจอกัน เพราะวุ่นวายอยู่กับเรื่องเอ็นส์ทราน โชคดีเหลือเกินที่เธอเอ็นส์ติดที่เดียวกันทั้งคู่

“ท่านผู้โดยสารที่เดินทางไปกรุงเทพฯ รถเที่ยวล่องจากสถานีลาดกระบังกำลังจะเข้าสถานี ผู้มีตั๋วเดินทางเรียบร้อยแล้ว คอยที่ชานชราที่ 1 ติดกับสถานีครับ” เสียงเจ้าหน้าที่รถไฟประกาศ

เสียงหวูดรถไฟดังใกล้เข้ามา หลังจากสองสาวซื้อตั๋วรถไฟเรียบร้อยแล้ว จึงจูงมือกันเดินแทรกผู้คนที่ยืนรอรถไฟอยู่เต็มชานชรา เตรียมพร้อมที่จะขึ้นรถไฟ รถไฟขบวนยาวกำลังแล่นเข้ามาอยู่ไกลลิบ

“ปาร…เดี๋ยวเรามานะ” สภาปล่อยมือเพื่อนสาว แล้วเดินหายตัวไปในกลุ่มคน เสียงเจ้าหน้าที่รถไฟประกาศเตือนผู้โดยสารที่เดินข้ามไปมาตามรางรถไฟ ทำให้เธอไม่ได้ยินคำพูดของเพื่อนคนสนิท

รถไฟแล่นเข้าสู่สถานี เสียงล้อและเครื่องจักรดังกระทบกันกับรางเหล็กเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แล้วลดความเร็วลง

“ไปกันเถอะสภา เราไปขึ้นโบกี้สุดท้ายกัน”

ปารคว้ามือใครคนหนึ่ง!! แถวนั้นวิ่งไป

“วันนี้คนเยอะจังเนอะ” ปารหันไปพูดกับคนแปลกหน้า

สาวน้อยชะงัก!

เขาไม่ใช่เพื่อนสาวของเธอ แต่กลับเป็นชายหนุ่ม ร่างสูงโปร่ง ทำให้เธอแทบจะต้องแหงนคอมองเขาทีเดียว มองมือตัวเองที่ยังจับมือเขาอยู่แล้วก็ตกใจ! รีบปล่อยมือเขาทันที

“ขอโทษค่ะ เอ่อ…นึกว่า เป็นเพื่อน ไม่รู้ว่า เขาไปไหนแล้วซิคะ” ปารทำหน้าเงอะงะ หันซ้ายหันขวามองหาเพื่อนสาวที่อยู่ ๆ ก็หายตัวไป รู้สึกอับอายเหลือเกิน แต่ไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่าการขอโทษเขา

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบาง ๆ จริง ๆ เขาอยากจะหัวเราะในท่าทีของเธอมากกว่า แต่ยังรู้สึกเกรงใจสาวน้อยที่ยืนตรงหน้าอยู่มาก เขาขยับแว่นสีชาให้กระชับ

“ไม่เป็นไรครับ รีบไปขึ้นรถไฟกันเถอะครับ”

รถไฟแน่เอี๊ยด เนื่องจากเป็นวันเปิดเทอมใหม่ เขาและเธอโหนต่องแต่งอยู่ที่บันไดของรถไฟขั้นสุดท้าย

ปารยืนเกร็งตัวแข็งทื่อ เพราะรู้ว่าคนที่ยืนประชิดตัวอยู่ขณะนี้เป็นชายหนุ่ม ไม่กล้ากระดุกกระดิก รู้สึกอึดอัดเหลือเกิน แม้จะสัมผัสได้ว่า เขาเองก็ให้เกียรติเธอ เป็นสุภาพบุรุษและไม่ได้ฉวยโอกาสนี้ล่วงเกินเธอเลย ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาอยู่ใกล้ ๆ เธอรู้สึกสะดุดตาใบหน้าของเขา เหมือนเคยเห็นที่ไหนนานมาแล้ว แต่ก็เลิกสนใจ อดเป็นห่วงเพื่อนสาวไม่ได้ ไม่รู้จะตกรถไฟหรือเปล่า

ตอนเย็นสองสาวจึงพบกันอีกครั้ง สภาชวนปารไปเที่ยวบ้านใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ไม่นานนี้

“แล้วเมื่อเช้านี้เธอหายไปไหนมา” ปารยิงคำถามคาใจตั้งแต่เช้า
“อ๋อ…ฉันไปเดินหาพี่ยนตร์น่ะ จำได้ไหม พี่ชายเราไง แต่หาไม่เจอ เขาบอกว่าจะมาเจอกันที่สถานีรถไฟ” เธอพูดถึงพี่ชายที่สอบได้ทุนไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ และเพิ่งกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทยได้ปีหนึ่ง

ปารนิ่งไปครู่หนึ่ง ‘พี่ยนตร์’ เป็นชื่อที่เธอไม่เคยลืม แม้ว่าจะเลือนลางไปบ้างก็ตาม แต่เมื่อได้ยินชื่อนี้ ความทรงจำเกี่ยวกับเขาก็ชัดเจนขึ้นมาในความทรงจำทันที ราวกับเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้เจอเขา และไม่ได้ติดต่อกับเขาเลยมา 6 ปีเต็ม ๆ หลังจากที่เขาถูกส่งไปเรียนต่อ ม. ปลาย ที่กรุงเทพฯ

“รู้ป่าวว่า ฉันนะ หน้าแตกเลยอ่ะ คว้ามือใครไม่รู้ไปขึ้นรถไฟอ่ะดิ” พูดพลางทำหน้าย่น
“เหรอ…แล้วจับมือใครไปขึ้นรถไฟล่ะ” เพื่อนสาวทำหน้าสนใจ
“ผู้ชายน่ะสิ ตัวสูงยังกะเสาไฟฟ้าเลย” แล้วเงยหน้าขึ้นสูงประกอบคำสนทนา
“แหม…ว่าเค้า แล้วหล่อป่าวล่ะ” สภาพูดพร้อมกับหัวเราะคิก
“บ้า! อายจะตาย ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ไม่กล้ามองหน้าเขาหรอก แต่แปลกมากเลย คุ้น ๆ หน้าเขายังไงก็ไม่รู้ ที่สำคัญนะ เขาเป็นพี่รหัสของเราด้วยสิ บังเอิญจริง ๆ เลยนะ”
“หรอ………” สภาลากเสียงยาวกวนประสาทแบบมีเลสนัย
“ล้อเราหรอ….” ปารฟาดฝ่ามือไปหวดต้นแขนเพื่อนเข้าให้ แต่เพื่อนสาวโดดหลบอย่างรู้ทัน

“มา ๆ นี่มา เล่นเกมดีกว่านะ นั่งสิ นี่…มีเกมใหม่ด้วยนะ” สภาพาเพื่อนสาวเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่นหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์
“เกมอะไร”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราเรียกว่า เกม ABCD อ่ะ”
ปารหัวเราะร่วน “โธ่….!!! นึกว่ารู้”
“เออน่า…ตอนนี้เราเป็นแชมป์อยู่ แน่จริงก็ล้มแชมป์ให้ได้ละกัน” ว่าแล้วเดินไปเปิดเครื่องคอม และเปิดโปรแกรมเกมทันที
“ได้เล้ย!!” ปารรับคำท้า
หน้าจอคอมปรากฏตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีอักษร A B C D เป็นสีต่าง ๆ อยู่กระจัดกระจายกันในสี่เหลี่ยมนั้น
“นี่นะปาร ต้องดับเบิ้ลคลิกลบสีต่าง ๆ ของ A B C หรือ D ที่ติดกันออกไป ถ้าคลิกสีอื่นออกไปให้สีใดสีหนึ่งต่อกันได้มากที่สุด แล้วจะได้คะแนนมาก เราจะทำให้ดูนะ” อธิบายจบพร้อมกับทำให้ดูประกอบ
“เล่นไปก่อนนะ เดี๋ยวไปหาหนมมาเลี้ยง” แล้วเดินหายตัวออกไป

ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น มองเด็กสาวที่นั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วส่ายหัว ผมที่ปล่อยสยายทำให้เขานึกว่าเป็นน้องสาวจอมแก่นของเขา
“เฮ้อ..ยัยภากลับมาก็เล่นเกมเลยแฮะ” เขาสาวเท้าเข้าไปหา เอื้อมมือโอบไหล่สาวน้อย ค้อมตัวเข้าไปใกล้
“ไง..กลับมาก็เล่นเกมเลยนะเรา”
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งมากวนดิ” ปารง่วนอยู่กับการเล่นเกม สายตายังจดจ้องอยู่ที่จอคอมพิวเตอร์อย่างตาไม่กระพริบ แต่แล้วก็รีบหันขวับมามองอย่างด่วนจี๋ เพราะเสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงสภาเพื่อนสนิท เด็กสาวทำตาโตอย่างตกอกตกใจ นึกเคืองเขาที่ถือวิสาสะมาโอบไหล่เธอไว้ขณะนี้

“อ้าว…!!!! พี่นึกว่า….”
ยังพูดไม่ทันจบคำก็ได้ยินเสียงน้องสาวดังเข้ามา
“อั้นแน่…พี่ยนตร์ ทำอะไรเพื่อนภาคะ” สภาเดินถือถาดน้ำและขนมเข้ามาในห้อง มองเห็นมือพี่ชายที่ยังคาอยู่บนไหล่เพื่อนสาว

“เปล่า….” ชายหนุ่มรีบหดมือกลับ “พี่นึกว่า สภานั่งเล่นคอมซะอีก”
“เหรอ…ค้า….” สภาลากเสียงยาว ทำหน้ากวน ๆ แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนหันไปหาเพื่อนสาว ที่นั่งตะลึงงันอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์

ปารอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่นึกว่าจะบังเอิญพบเขาสามเวลาขนาดนี้ เพราะเขาคือคนที่เธอคว้ามือไปขึ้นรถไฟเมื่อตอนเช้า หรือคือพี่รหัสของเธอที่มาแนะนำตัวและแบกหนังสือมาให้เมื่อตอนบ่าย แล้วยังมาเจอกันตอนเย็นนี่อีก ความรู้สึกอับอายที่คว้ามือเขาเมื่อเช้านี้ยังทำให้เธอกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่พบเขา

“นี่ปาร จำพี่ชายเราได้รึเปล่า” วางถาดขนมลงบนโต๊ะรับแขก แล้วเดินไปจูงมือเพื่อนสาว

ปารเพ่งหน้าพี่ชายเพื่อนสาว เขาเองก็เพ่งมองหน้าเธอเช่นกัน

“อ้าว…!!”

ทั้งสองอุทานขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ต่างคนต่างยกมือชี้ไปยังฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่จะหัวเราะก๊ากออกมา

“พี่ยนตร์เองหรือคะ จำไม่ได้เลย” เค้าโครงหน้าเมื่อสมัยยังเด็กของเขายังคงมีหลงเหลือพอให้มองเห็น หน้าเขาเปลี่ยนไปมาก ตัวสูง แถมยังใส่แว่นอีกต่างหาก

“ปารก็เหมือนกัน โตขึ้นเยอะนะ พี่ก็ยังจำไม่ได้เลย น่ารักขึ้นเป็นกองเลยนะ” ชายหนุ่มยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าเด็กกะโปโรเมื่อก่อนจะโตเป็นสาวแล้ว นึกถึงอดีต ตอนที่อยู่บ้านใกล้กันที่ต่างจังหวัด เขาเห็นเธอตั้งแต่เธอเพิ่งเกิดเลยทีเดียว

“เนี่ย..ภา ถ้าใครรู้เบื้องหลังยัยปารนะ จ้างให้ใครเขาก็ไม่เอาหรอก เด็กอะไรไม่รู้” ยนตร์เย้าเด็กสาว เมื่อเห็นเธอยิ้มหน้าบาน หลังจากเขาชมว่าน่ารัก

ปารทำจมูกย่นอย่างไม่พอใจ “โธ่เอ๊ย!! ว่าแต่ตัวเองเหอะ ปากอย่างเงี้ย! คงไม่มีใครเขาเอาเหมือนกันล่ะ มีแฟน! แฟนก็คงทิ้ง!” เธอเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่ยอมแพ้

ยนตร์นิ่งเงียบ คำพูดของเธอสะกิดแผลใจที่เกือบจะหายดีให้เปิดออกอีกครั้ง เขาเดินออกจากห้องอย่างเศร้าซึม เมื่อภาพความหลังตามมารบกวน

“ปาร! พี่ยนตร์เพิ่งอกหัก โดนแฟนทิ้ง เธอไม่น่าพูดงั้นเลย”

ปารหน้าซีด จ๋อยลงทันที

“ก็..ก็..ไม่รู้นี่…” เธอมองตามหลังพี่ชายเพื่อนออกไปด้วยสายตาที่รู้สึกผิด
“ก็เขามาว่าฉันก่อนทำไมล่ะ ทีเขาว่าเราได้ว่าเราดี เราว่าแค่เนี้ย! ทำเป็นงอนไม่พูดไม่จา ไม่ยุติธรรมเลย”
“เนี่ย…รู้มั้ย พี่ยนตร์ซึมไปตั้งนานเป็นเดือนเลยนะ ว่าจะดีขึ้นน่ะ” เพื่อนสาวสาธยายอาการของพี่ชายต่อ

“เหรอ….” ปารเสียงอ่อย

“แล้วฉันจะไปขอโทษเขาละกันนะ” ปารผ่อนลมหายใจออกเบา ๆ อย่างเหน็ดเหนื่อยหัวใจ รู้สึกกลุ้ม! ตั้งแต่เด็กไม่ว่าครั้งไหนที่ทะเลาะกันกับเขา โกรธกันทีไร เธอก็ต้องเป็นฝ่ายไปง้อเขาทุกที! คนง้อมันต้องเป็นผู้ชายสิ! มันเป็นหน้าที่ของผู้ชายนี่นา ส่วนงอนนั่นมันอาการของผู้หญิงไม่ใช่หรอ ปารได้แต่ตั้งคำถาม ถามตัวเองวกวนอยู่ในใจ

แล้วทำไมเราต้องแคร์เขา ต้องไปง้อเขาทุกครั้งด้วยนะ

ทำไม?



ริเศรษฐ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 เม.ย. 2555, 22:20:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 เม.ย. 2555, 20:20:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1635





   ตอนที่2 >>
คิมหันตุ์ 12 เม.ย. 2555, 02:56:21 น.
โอ๊ะ มาเป็นเรื่องยาวแล้ว ^ ^


ริเศรษฐ์ 12 เม.ย. 2555, 16:06:48 น.
ขอบคุณค่า...คุณคิมหันตุ์ที่แวะมาอ่านนะคะ ^^
เรื่องนี้ไม่ยาวมากค่ะ มี 11 ตอน


เทียนจันทร์ 26 เม.ย. 2555, 17:27:24 น.
ทักทายค่ะ


ริเศรษฐ์ 26 เม.ย. 2555, 22:15:05 น.
ทักทายค่า...อากาศร้อนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account