อุบัติการณ์แห่งรัก
นิยายขนาดสั้นครับ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ

บทนำ
‘กัดก้อนเกลือกิน’ คำพูดนี้ยังคงใช้ได้ดีกับทุกยุคทุกสมัย ความยากเย็นแร้นแค้นเป็นผลสืบเนื่องอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง การตัดสินใจเพียงชั่ววินาทีก็อาจทำให้ชีวิตแปรผกผันจากเดิมที่มีความสุขจนล้นปริ่มจนกลับกลายเป็นความทุกข์ที่ตามหลอกหลอนอย่างไร้ความอาทรปราณี…
“เอาเงินมา! มีทำไรเอามาให้หมด” เสียงตะเบ็งแซ่กอปรกับสายตาที่ดุดันหยาบกร้านของผู้พูด แปลความหมายได้ทิศทางเดียวนั่นคือ การบังคับขู่เข็ญที่ไร้ซึ่งการต่อรองใดๆ
“พี่ชัย… เมื่อเช้าพี่ก็เอาไปหมดแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก” มาลัยเอ่ยตอบด้วยสายตาไหวติง ทุกถ้อยคำล้วนสัจจริง
“มึงอย่ามาโกหกกู กูรู้นะว่ามึงมีเงินซ่อนไว้”
“ฉันไม่มีจริงๆพี่ ฉันไหว้ล่ะ นึกว่าสงสารฉันกับลูกบ้าง” มาลัยผู้อาภัพโชคยกมือขึ้นพนมเป็นเชิงอ้อนวอนขอร้อง
“นี่กูพูดดีๆแล้วนะ ต้องให้ใช้ใช่ไหม” เอกชัยไม่เชื่อในคำพูดเหล่านั้น พลางใช้มือแกร่งกระชากแขนที่เต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทุบตีจนบอบช้ำของผู้เป็นภรรยาแล้วผลักหล่อนจนล่มคว่ำศีรษะกระแทกเข้ากับเสาปูน เลือดสีข้นไหลหลั่งออกมาชโลมอาบดวงตาที่เปื้อนช้ำคราบน้ำตาด้วยเช่นกัน
เสือดุที่ยังคงไม่หยุดคลุ้มคลั่งพาลค้นหาสิ่งที่ต้องการทั่วบริเวณจนข้าวของกระจัดกระจายไม่เหลือชิ้นดี แต่ก็ไม่พบ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะมุ่งตรงไปที่มาลัย พยายามยื้อแย่งกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าเสื้อของหล่อน มาลัยพยายามขัดขืนสุดความสามารถจนเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยน่าสลด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานคนที่มีพละกำลังเหนือกว่าไปได้
“โอ้ว… ซ่อนไว้เยอะดีนี่หว่า” หลังจากควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ออกมาดู เอกชัยก็เอ่ยขึ้นตบท้ายด้วยการแค่นหัวเราะ
“พี่ชัย นั่นมันเงินที่ฉันจะเอาไว้ส่งเสียให้ลูกของเราเรียนหนังสือนะ คืนมันให้ฉันเถอะพี่ ฮือๆ” มาลัยกอดขาสามีที่ยืนอยู่อย่างไม่ยี่หระ พลางวิงวอนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกลั้วสะอื้น
“หลบไป กูได้เงินต่อทุนแล้วงานนี้ ฮ่าๆ” เอกชัยไม่สนใจในคำพูดของหล่อนแม้เพียงน้อยนิด ลำแข้งที่ถูกรัดกุมแน่นด้วยมืออ่อนกำลังของมาลัย ถูกสะบัดออกอย่างแรง ก่อนที่เขาจะเดินจากไปอย่างคนเย็นชา
มาลัยมองตามหลังสามีของหล่อนจนลับตา น้ำตาที่หลั่งรินออกมาจากใจนั้นไม่รู้ว่าเมื่อใดที่มันจะเหือดแห้ง รู้เพียงว่า เกลียดและเจ็บใจในความโง่เขาของตัวหล่อนเอง ผู้ชายที่เธอคิดจะฝากอนาคตไว้ทั้งชีวิต ผู้ชายที่หล่อนคิดว่าจะเป็นที่พึ่งให้เธอได้ในยามทุกข์ทน ผู้ชายคนเดียวที่มีอิทธิพลจนทำให้ผู้หญิงที่มีกิริยาเรียบร้อยเป็นที่รักของคนรอบข้างกลับหนีออกจากบ้านห่างอกผู้เป็นพ่อแม่ เพราะการตัดสินใจนี้เองคือความผิดพลาดร้ายมหันต์นำมาซึ่งการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของผู้เป็นบุพการี หล่อนถูกตราหน้าว่าบ้าผู้ชาย แต่นั่นก็ไม่เสียใจเท่ากับการที่ต้องตกอยู่ในสถานะที่ตกยากเช่นนี้ จากคนที่เคยแต่งตัวสะสวยกินอิ่มนอนหลับ บัดนี้เหลือเพียงแต่เสื้อผ้าเก่าสกปรก ทำงานตรากตรำอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน รวมถึงความบอบช้ำทั้งกายใจที่กัดเซาะความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อสามีจนหมดสิ้น…
เงินก้อนสุดท้ายที่แอบเก็บไว้ก็ต้องถูกบังคับเอาไปจนหมด เงินก้อนนั้นเปรียบได้กับอนาคตลูกสาวตัวน้อยของมาลัย ‘แก้วกาญจน์’ โซ่คล้องใจที่ผูกมัดหล่อนให้อดทนไว้จนถึงทุกวันนี้ แค่หล่อนได้นอนกอดลูกสาว นึกถึงอนาคตที่สดใสของเลือดเนื้อเชื้อไขแล้ว ความทุกข์ต่างๆก็แทบจะมลายหายไปหมดสิ้นแต่เมื่อเรื่องราวความทุกข์ทรมานได้เดินมาถึงขีดสุดเช่นนี้ หล่อนก็จะไม่อดทนอดกลั้นอีกต่อไป!
ในอีกด้านมุมหนึ่งของตัวบ้านที่เล็กแออัด เด็กหญิงตัวน้อยวัยเพียงห้าขวบ กำลังนั่งขุดคู้สองมือน้อยกุมเข่าตัวเองซ่อนตัวอยู่ในหลืบใต้ตู้กับข้าว นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนิ่งงันและสั่นไหวสลับกันไปมา ก้มหน้าด้วยอารมณ์เกรงกลัว นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ที่เด็กอย่างเธอซึ่งยังไม่ประสีประสาที่จะเข้าใจหรือแม้แต่ตีความในสิ่งที่เห็น ต้องมาเจอภาพเหตุการณ์ผู้เป็นพ่อแม่มีปากเสียงลงไม้ลงมือกันไม่เว้นแต่ละวัน ราวกับเป็นภาพซ้ำที่หวนฉายไม่มีวันอวสาน หัวใจดวงน้อยสุดแสนจะสงสารผู้เป็นแม่แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากไปกว่าแอบซ่อนตัวเหมือนคนขี้ขลาด ถึงแม้วุฒิภาวะเธอจะยังน้อยนัก แต่สัญชาตญานสอนให้เธอรู้ว่า โลกช่างอยุติธรรมที่ทำร้ายครอบครัวเธอเช่นนี้ ทำไมกัน ทำไมผู้ชายย่อมเกิดมาพร้อมๆกับร่างกายที่แข็งแกร่งกว่า นั่นจะไม่น่าน้อยใจเลย ถ้าหากพละกำลังที่ฟ้าประธานมาให้ผู้ชายถูกนำมาใช้ทารุณผู้หญิงเช่นนี้ ทุกภาพที่เอกชัยกระทำล้วนถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำสีดำของผู้เป็นลูกทั้งสิ้น แก้วกาญจน์ไม่รู้ความหมายของน้ำตาด้วยซ้ำ แต่มันกลับไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ตื่นเร็วลูกแม่” เสียงกระซิบข้างหู ทำให้สาวตัวน้อยสะดุ้งตื่นขึ้น ในความมืดมิดที่ไม่อาจเห็นคนเบื้องหน้าได้อย่างชัดแจ้ง แต่แก้วกาญจน์ก็พอจะรู้ในทันทีว่า เป็นแม่ของเธอ
“แม่จะพาหนูไปไหนเหรอคะ” แก้วกาญจน์ถามด้วยความใคร่รู้ เมื่อผู้เป็นแม่จูงเธอออกมาจากบ้าน ในระดับความดังของฝีเท้าที่เบาบาง
“แม่จะพาหนูหนีออกจากขุมนรก เราจะไปอยู่ในที่ที่มีความสุขข้างหน้ากันนะลูก” มาลัยพูดพลางลูบหัวลูกของหล่อนอย่างแผ่วเบา
แก้วกาญจน์พยายามทำความเข้าใจกับคำพูดของผู้เป็นแม่ แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบ ทันใดนั้น…
“มึงจะพาลูกกูไปไหน นังมาลัย” เสียงดังที่ลอยละลิ่วมาจากทางด้านหลัง ราวกับมัจจุราชที่พร้อมจะหยิบยื่นความตายให้แก่สองแม่ลูก
เสียงของเอกชัยทำให้มาลัยตกใจไปชั่วขณะจนหยุดฝีเท้าลง หล่อนกลัวจนไม่กล้าจะหันกลับไปสบตากับเขา หล่อนรีบกำมือลูกสาวให้แน่นขนัดขึ้นแล้วเร่งฝีเท้าวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
“โอ๊ย แม่จ๋า หนูเจ็บ ฮือๆ” เหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในระยะที่ผู้ตามประชิดเข้ามา ลูกสาวตัวน้อยของหล่อนหกล้มบนพื้นถนนร่ำไห้ด้วยความตกใจและเจ็บปวด
“มึงจะไปไหนก็ไสหัวไป แต่เอาลูกกูคืนมา” เพียงแค่ชั่ววินาทีนั้น เอกชัยก็คว้าตัวลูกสาวออกจากอ้อมอกของผู้เป็นแม่ในทันที
“พี่เคยรักลูกด้วยเหรอ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะ” มาลัยเอ่ย
“มึงกล้ามากนะที่ทำแบบนี้ มึงอย่าตายดีเลย กูเกลียดจริงๆ พวกที่ทรยศหักหลัง” ด้วยอารมณ์โกรธวาวโรจน์ขึ้น ผสมกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ได้ดื่มมา เอกชัยผู้ที่เคยมีประสบการณ์ถูกทรยศหักหลัง คว้าก้อนหินก้อนโตข้างถนน เตรียมพร้อมจะขว้างปาเข้าใส่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างไร้สติยั้งคิด
แต่ไม่ทันที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว รถยนต์สีดำทมิฬซึ่งสาดแสงสปอตไลต์มายังบุคคลทั้งสามก็เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ก่อนที่กระจกรถจะถูกเลื่อนเปิดขึ้น
“มาลัยขึ้นรถเร็ว!” ผู้ชายที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับใส่แว่นกันแดดสีดำทึบ ตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงเจือเป็นห่วง
“แต่ลูกของฉัน” มาลัยมองไปที่แก้วกาญจน์ด้วยอารมณ์สับสน หล่อนจะทำอย่างไรดี หากไม่ไปกับเขาเธอก็ต้องตายด้วยน้ำมือสามีตัวเองเป็นแน่แท้ แต่ทว่าถ้าเธอตัดสินใจขึ้นรถไปแล้วเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอเล่า
“อ้อ ที่แท้พวกมึงก็เล่นชู้กันนี่เอง นังผู้หญิงกากี ตายซะเถอะมึง” อารมณ์ของเอกชัยทวีความโกรธขึ้นปะทะด้วยแรงแค้นที่สรุปเรื่องราวไปเอง เตรียมพร้อมจะจัดการผู้หญิงตรงหน้าให้สาแก่ใจ ดุจเสือที่กระโจนล่าเหยื่อ
เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ มาลัยกระโดดขึ้นรถของชายลึกลับนั้นทันที รถยนต์เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วหายลับไปเพียงชั่วอึดใจ
ไม่มีน้ำตาสักหยดออกมาจากดวงตากลมคมของแก้วกาญจน์ มีเพียงแต่ภาพผู้เป็นแม่จากไปอย่างไม่ทันลั่นคำอำลา เป็นภาพเหตุการณ์ที่สะเทือนอารมณ์ของเด็กน้อยอย่างเธอเหลือคณานับ
“จำไว้นะแก้ว ผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่แม่ของแกแล้ว ผู้หญิงที่เลวๆอย่างนั้นลืมมันไปซะ แกมีแค่พ่อคนเดียวก็พอ” นี่เป็นประโยคสุดท้ายที่เอกชัยเอ่ยต่อลูกสาวของตน ก่อนที่จะรัวหมัดลงไปกับพื้นถนนตามแรงอารมณ์ที่อัดอั้น
“แม่จ๋า” และแล้วน้ำใสบริสุทธิ์ก็ไม่สามารถบังคับให้หยุดไหลออกมาได้ เสียงครางเรียกผู้เป็นแม่ดังระงมในทุกคืนค่ำที่หลับตาฝัน มันเป็นความทรมานอย่างหนึ่งที่แก้วกาญจน์ต้องต่อสู้นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา…



SMACGA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2555, 23:49:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2555, 23:49:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 1318





   บทที่ 1 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account