บ่วงใจ
เมื่อ"ก้องภพ" หนุ่มหล่อไฮโซเพลย์บอยดีกรีปริญญาโทจากนอกถูกบังคับแต่งงาน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เขาไข่ทิ้งไว้
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: S2บ่วงที่4
บ่วงที่ 4
หลังจากที่จอดรถเรียบร้อยแล้วก้องภพก็อุ้มหญิงสาวที่เมาหลับภายในรถขึ้นมาแล้งตรงไปยังห้องของเขที่ให้เธอเช่าอยู่ ภายในห้องมืดมิดเขาจึงเดินทั้งที่ยังอุ้มเข็มทิพย์อยู่ไปเปิดไฟด้วยความที่เคยเป็นเจ้าของห้องจึงทำให้รู้ว่าสวิตช์ไฟอยู่ตรงไหนโดยไม่เสียเวลาหา แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ซึ่งเขาคิดว่าหญิงสาวในอ้อมแขนคงจะนอนห้องนี่ ระหว่างทางเดินจากประตูถึงห้องนอนที่เขาได้สังเกตห้องของเขายังคงไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงเรียบง่ายเหมือนเดิมอาจจะเป็นเพราะเข็มทิพย์เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ได้ไม่นานจึงยังไม่น่าจะซื้อของมาตกแต่งห้องเพิ่ม พอวางหญิงสาวลงบนเตียงหนานุ่มเรียบร้อยแล้วก็จัดการไปหากะละมังมาใส่น้ำแล้วนำผ้าขนหนูผืนเล็กที่หาได้จากตู้เสื้อผ้าติดผนังห้องมาชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆเพื่อนำไปเช็ดตามใบหน้านวลที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง
“อื้อ” เสียงครางมาจากริมฝีปากอิ่ม พร้อมมือเรียวที่ยกขึ้นมาปัดผ้าขนหนูที่เขาใช้เช็ดหน้าให้กับเธอ เปลือกตาค่อยกระพริบแล้วลืมตาอย่างช้าๆ ดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังจ้องมองมาที่เขา
“เซ็กซี่เป็นบ้าเลยคุณนี่ นอนไปเลยนะถ้าไม่อยากให้ผมฉวยโอกาสกับคุณตอนนี้” คนพูดก็พูดไปอย่างอารมณ์ดีรู้ทั้งรู้ว่าเธอคงไม่รู้เรื่องที่เขาพูดเป็นแน่ ดวงตาฉ่ำก็ยังคงมองมาที่เขามันช่างหวานจับใจ ก้องภพดวงตาเองก็นิ่งไปเมื่อได้สบตากับคู่งามแบบตาประสานตา แต่ตอนี้ยังคงไม่ประสานใจ ตาคู่คมกล้าละจากดวงตาคู่หวานมาจ้องที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเข็มทิพย์แทนเพื่อหวังว่าจะช่วยลดอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นแต่กลับกลายเป็นว่าริมฝีปากแดงนั้นดึงดูดใจเขาเสียยิ่งกว่าดวงตา ยิ่งจ้องนานสติเริ่มหลุดลอย ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเลื่อนลงมาหาสิ่งที่ดึงดูดอยู่เบื้องล่าง ริมฝีปากอุ่นก็ได้สัมผัสกับสิ่งที่ดึงดูดราวกับแม่เหล็กดูดเข้าหากัน สองมือที่บัดนี้วางผ้าขนหนูแล้วเปลี่ยนมาจับใบหน้าเรียวไว้ราวกับเธอจะหายไป ผู้ช่ำชองในเรื่องรักก็ค่อยๆสอดลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาหาความหวานภายในปากสาวน้อยผู้ด้อยประสบการณ์
“อื้อ” ส่งเสียงออกมาได้เท่านี้จริงๆสำหรับคนที่อยู่ภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ลิ้นอุ่นๆค่อยเกี่ยวกระหวัดแล้วดูดหากกลืนลิ้นเธอลงไปด้วยได้เขาคงกลืนไปแล้ว จุมพิตนี้นาน นานจนแทบจะลืมหายใจไปเลยทีเดียวสำหรับเขา มันช่างหวานเหลือเกินทั้งๆที่ควรจะขมเพราะน่าจะยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลงเหลืออยู่ในอุ้งปากของเธอและเขา ถอนจุมพิตออกเพื่อให้เธอหายใจบ้างแต่ก็ไม่ได้หยุดการทำงานของริมฝีปากร้อนจากที่ปากค่อยๆเคลื่อนย้ายไปตามแก้มนวลหอมๆแล้วกดหนักๆไปทั้งซ้ายและขวา ขณะนี้เขาหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว พอได้จุมพิตที่แก้มก็ลากริมฝีปากปะพรมทั่วใบหน้างามของเธอ เสียงลมหายใจของเธอช่างถี่จนกวนอารมณ์ของเขาให้หนักกว่าเดิม
ความเมาและความซาบซ่านปะปนกันจนทำให้เข็มทิพย์มีสายตาที่หวานเยิ้มกว่าเดิม ชายหนุ่มที่มองมาถึงกับอารมณ์พลุ่งพล่าน คราวนี้ก็ก้มลงไปซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอขาวๆขบเม้มจนเกิดรอย ขนอ่อนๆที่แขนและตามร่างกายของเธอต่างพร้อมใจกันลุกตั้งชัน เธอเอียงคอเพื่อคลายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นแต่มันไม่ช่วยอะไรเลยในเมื่อใบหน้าคมที่ไซ้อยู่ที่คอซ้ายย้ายใบหน้าไปซุกอยู่ที่ซอกคอข้างขวาเพื่อให้ความยุติธรรมแก่คอขาวๆทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมและไม่ลืมที่จะประทับรอยไว้สองสามรอย จากที่คอจมูกโด่งค่อยๆไล้ขึ้นไปสูดดมความหอมหวานไปที่ใบหูแล้วก็เม้มที่ติ่งหูแต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับที่เขาใช้ฟันขบติ่งหูของเธอเบาๆ เจอแบบนี้เข้าเธอก็ถึงกับสั่นน้อยๆ มือที่อยู่ข้างลำตัวยกขึ้นมาวางไว้ที่อกแกร่งแล้วจิกเพื่อระบายความเสียวที่เกิดขึ้นให้จางหายไป
“อา คุณ” เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก
“เสียงของคุณมันหวานจนน่าชิม ขอผมชิมหน่อยนะ” ก้องภพกระซิบที่ข้างหู แล้วก็เอาปากไปประกบแหล่ง
ที่มาของเสียงอีกรอบ อีกรอบและอีกรอบ
มือเรียวทั้งสองย้ายจากอกแกร่งไปโอบแน่นรอบคอ ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงดึงดูดซึ่งกันและกัน ฝ่ามือฝ่ายชายเริ่มที่จะลูบไล้ไปตามสีข้างลากจนมาถึงเอวคอดแล้วค่อยๆวกมือขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อของเธอแล้วแบะสาบเสื้อออกจากกัน คราวนี้เขาก็ละริมฝีปากลากไปตามลำคอลากไล้จนมาถึงเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นมาจากบราเซียสีหวานและได้ฝากรอยรักอีกรอยไว้ที่เนื้อนุ่มๆขาวราวไข่ปอก ขณะที่เขากำลังจูบที่หน้าอกเธออยู่ภายในร่างกายของเธอรู้สึกถึงความร้อนที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม ตอนนี้ผิวขาวๆของเธอก็แดงไปหมดแล้วด้วยความร้อนจากอารมณ์ที่ถูกจุดขึ้นโดยชายที่อยู่บนกายของเธอ
มือของเขาข้างหนึ่งก็สัมผัสอยู่ที่บริเวณสีข้างกับเอวคอดส่วนอีกข้างก็ค่อยๆสอดไปใต้แผ่นหลังขาวเนียนแล้วปลดตะขอบราเซียออก มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มก็ช่วยกันทำงานในการนำปราการด้านบนให้หลุดพ้นจากร่างบาง อกอวบอิ่มที่พ้นจากการถูกปิดบังของบราเซียปรากฏแก่สายตาอันร้อนแรงของเขา ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าสัมผัสโดยตรงกับอากาศอันหนาวเหน็บแต่กลับเร่าร้อนเพราะสายตาที่จ้องมองมาและการกระทำที่เพิ่งจะผ่านมาของคนทั้งคู่ เมื่อได้เห็นร่างบางที่ไร้อาภรณ์ปกปิดท่อนบนเขาแทบจะกลายร่างเป็นหมาป่าเพื่อที่จะขย้ำลูกแกะทันทีแต่ก็ต้องข่มใจไว้
เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้มาก่อนในชีวิตอย่างมากก็แค่จูบนี่เป็นครั้งแรกของเธอถึงแม้เธอจะอยู่ที่นี้มานานแต่เธอค่อนข้างที่จะหวงตัวแต่วันนี้เธอคงจะทำไม่ได้เสียแล้ว เธอลุ่มหลงรสจูบและสัมผัสที่ได้รับจากชายหนุ่มร่างกายกำยำผู้นี้เหลือเกินมันยากที่จะต้านทานไหว เขาเป็นผู้จุดประกายไฟรักอันเร้าร้อนในกายเธอที่หลับใหลให้ลุกโชนขึ้นทีละนิด แต่จการที่เธอไร้เดียงสาเช่นนี้กลับทำให้ไฟในร่างกายของเพศตรงข้ามนั้นลุกฮือ
ริมฝีปากร้อนๆตามอุณหภูมิร่างกายของก้องภพก็กลับมาครอบครองยอดอกสีสวยที่ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนของเธอหลังจากที่มองชื่นชมอยู่ชั่วอึดใจเดียว ปลายลิ้นอุ่นตวัดยอกเย้าเจ้าเม็ดสีทับทิมน้อยๆเพื่อให้ตอบรับเขา พอข้างนี้ตอบรับแล้วก็ย้ายไปอีกข้างเพื่อความเท่าเทียมโดยไม่สนว่าเจ้าของทรวงอกที่อยู่เบื้องล้างจะซาบซ่านทรมานเช่นไร หากเขาเงยหน้าดูสักนิดคงจะเห็นว่าริมฝีปากอิ่มถูกกัดเอาไว้เพื่อข่มความเสียวที่ได้รับ มือเรียวบางข้างขวาจิกไว้ที่บ่าแข็งแกร่งเพื่อระบายความอัดอั้น อีกข้างก็สอดมือที่ผมนุ่มบนศีรษะของเขา
“อือ… คุณ ฉันไม่ไหวแล้ว” เสียงครางที่หลุดพ้นออกมาจากลำคออย่างยากลำบากบ่งบอกถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้กับเธอได้ดี
เมื่อได้ยินเสียงที่บอกว่าทนไม่ได้แล้วริมฝีปากหนาจึงปลดปล่อยยอดอกให้เป็นอิสระและยิ้มอย่างพึงใจที่ได้ยินเช่นนั้น แต่ฝ่ามือก็ลูบไล้ไปตามเนื้อนวลขึ้นไปหาหน้าอกอย่างช้าๆแล้วหยอกเข้ากับหน้าอกเธออย่างแผ่วเบา จมูกโด่งกลับไปสูดดมความหอมที่ซอกคอขาวผ่องอีกรอบ ผิวกายร้อนๆของคนหนุ่มสาวทั้งคู่ที่แนบชิดติดกันเกิดการเสียดสีหนักยิ่งขึ้นแม้จะมีเสื้อเชิ้ตบางๆเท่านั้นที่ขวางกั้นก็เหมือนไม่ มีมือข้างหนึ่งละจากอกอิ่มมาลูบลงไปตามสีข้างไล้ผ่านกระโปรงไปจนถึงขาอ่อนสอดมือเข้าใต้กระโปรงให้ขาขาวๆได้รับสัมผัสจากฝ่ามือร้อน พอสัมผัสจนพอใจแล้วก็ลุกขึ้นถอดปราการสองชิ้นสุดท้ายของเธอ ขณะนี้เธอไม่เหลือปราการใดๆปกปิดความงามอีกต่อไปแล้ว ทางด้านทายาทเจ้าของโรงแรมดังก็เช่นกันที่บัดนี้เหลือแต่เนื้อตัวเปล่าๆ อวดกล้ามเนื้อและรูปร่างอันแข็งแกร่ง
คราวนี้ถึงเวลาที่เขาจะพาเธอไปพบกับความสุขที่แปลกใหม่ ร่างแข็งแกร่งทาบทับร่างบางแล้วค่อยๆผสานรวมกับเธอเป็นหนึ่งเดียวแต่ก่อนที่เขาจะได้ครอบครองเธออย่างสมบูรณ์นั้นก็ฝ่าด่านเยื่อที่สาวบริสุทธิ์มี
“โอ๊ย ฉันเจ็บ”
“เจ็บเดี๋ยวเดียวนะครับคนสวย แล้วผมจะพาคุณไปพบกับความแปลกใหม่” พูดจบก็กดจูบลงบนหน้าผากชื้น
“ฉะ ฉัน” เข็มทิพย์อยากจะหยุดแต่มันก็พูดไม่ออก
“เชื่อผม” จุมพิตที่มอบให้เธอหลังจากที่เขาพูดจบมันช่างหวาน แล้วเปลี่ยนมาเป็นจูบหนักๆที่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆเพื่อหวังให้เธอคลายความเจ็บปวด
“อะ…อา” เสียงที่หลุดออกมาหลังจากที่ริมฝีปากเธอเป็นอิสระแล้วตามด้วยเสียงหอบ
“ฉันไม่ไหวแล้ว มันเหมือนจะหายใจไม่ออก”
“ผมจะทำให้คุณหายใจไม่ออกยิ่งกว่านี้ มาสนุกแล้วมีความสุขกันเถอะ”
ร่างบางที่ไม่ประสีประสาเรื่องรักๆใคร่ๆนั้นมันช่วยกระตุ้นความอยากที่จะสอนให้สาวน้อยได้เรียนรู้ประสบการณ์ครั้งใหม่ในชีวิต ไฟรักเริ่มกระหน่ำลุกโหมด้วยแรงปรารถนา ไอรักไอร้อนระบายออกมาเป็นเหงื่อตามไรผม ตอนนี้ทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นผิวบางๆนี้ได้ถูกเขาสำรวจและประทับรอยจูบเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว และเธอก็ไม่มีสติพอที่จะรับรู้และจดจำได้อีกแล้วว่าเขามอบความเร่าร้อนนี้ให้เธออย่างไรบ้างสมองของเธอมันขาวโพลน เบาหวิวราวกับล่องลอยไปตามสายลมพาไปสู่ดินแดนแห่งรักครั้งแล้วครั้งเล่า
“สนุกไหม” น้ำเสียงทุ้มถามขึ้นอย่างมีความสุขที่ได้เป็นคุณครูคนแรกสอนบทเรียนรักให้เธอ
“บ้า ฉันจะนอนแล้ว” หากในห้องนอนสว่างกว่านี้คงจะเห็นใบหน้าที่แดงก่ำเป็นแน่
“จะหลับแล้วหรือ” รอยยิ้มที่พิฆาตใจสาวๆมานักต่อนักบัดนี้ปรากฏขึ้นเมื่อมองร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนนี้เพราะความเหนื่อยที่เพิ่งกลับจากห้วงแห่งความสุข แขนแข็งแกร่งโอบกระชับหญิงสาวข้างกายมากขึ้นและนอนลงเคียงข้างในเวลาที่ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาหลายชั่วโมงแล้ว
แสงแดดอบอุ่นไม่สามารถที่จะทะลุฝ่าม่านลายหรูที่ติดอยู่ตามบานหน้าต่างของห้องนอนได้ สองร่างเปลือยเปล่าหลับใหลเคียงคู่ภายใต้ผ้านวมนุ่มๆซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ปกคลุมผิวกายของทั้งคู่ไว้ไม่ให้ความหนาวเข้ามาแผ้วพานได้
เปลือกตาที่ยังคงมีสีของอายแชโดว์สีอ่อนอยู่ค่อยๆเปิดให้ตาได้รับรู้การมองเห็นในเช้าวันใหม่ที่ใกล้จะเย็นในอีกสามถึงสี่ชั่วโมง ร่างกายที่ตื่นแล้วก็รับรู้ถึงน้ำหนักของอะไรบางอย่างอยู่ที่เอวคอดของเธอ และตอนนี้สมองของเธอก็ได้รับรู้แล้วว่าอะไรบางอย่างที่ว่านั้นคือท่อนแขนแกร่งของก้องภพ ความตกใจทำให้หัวใจแทบจะหยุดเต้นกับภาพที่เห็นและสิ่งที่เธอได้สูญเสียไปแล้ว สมองค่อยๆลำดับถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาจนระลึกได้ว่าเกิดประสบการณ์ที่ค่อนข้างจะขัดกับปณิธานในชีวิตของเธอที่เธอจะมอบความบริสุทธิ์นี้ให้แก่ผู้ชายที่เธอรักในคืนวันแต่งงาน มันเป็นฝันของผู้หญิงไทยหลายๆคนแต่เมื่อคืนนี้ฝันของเธอได้หลุดลอยไปไกลแล้วมัน เวลาเป็นหนึ่งในสามอย่างที่ไม่สามารถจะย้อนกลับไปแก้ไขได้
สองมือเรียงบางกุมขมับทั้งปวดหัวจากอาการเมาค้างและเรื่องที่เกิดขึ้น จะโทษว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์ก็ไม่ได้เพราะมันอยู่ของมันดีๆ ตัวเธอเองต่างหากที่ผิดที่ไปดื่มเข้าจนควบคุมสติเอาไว้ไม่ได้ หากว่าเธอไม่ดื่มเหตุการณ์มันจะออกมาในรูปแบบนี้หรือ
‘ให้ตายสิ จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้’ ภายในใจคิดอย่างว้าวุ่นจนไม่ทันสังเกตชายที่นอนเคียงข้างได้ตื่นลืมตาขึ้นมามองอาการสับสนของเธอ
“ตื่นแล้วเหรอครับ” รอยยิ้มที่มีความสุขถูกจุดขึ้นที่มุมปากเมื่อได้แกล้งให้อีกฝ่ายตกใจ
ร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองตามเสียงของคนที่ยังไม่อยากได้ยินและยังไม่อยากให้ตื่น เข็มทิพย์อึ้งอยู่พักใหญ่ หญิงสาวไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไร เธอทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์นี้จริงๆ
“เอ่อ”
“โอ๊ะ โอ บ่ายโมงกว่าแล้วเหรอนี่ สงสัยเมื่อคืนจะหนักไปหน่อย” คนพูดส่งตาพราวไปหาอีกฝ่าย
“อะไรนะ บ่ายโมง ฉันก็ขาดงานนะสิ” ร่างบางคว้านาฬิกามาดูเพื่อความแน่ใจ แล้วกำลังจะลุกจากเตียงไปหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนเพื่อจะติดต่อสิริตาโดยลืมไปว่าขณะนี้ร่างกายเธอไม่มีอาภรณ์ปกปิดเลยสักชิ้นเดียว ดีที่ว่าแขนแกร่งคว้าไว้ทันก่อนที่จะลงจากเตียง
“ใจเย็นๆครับ ผมโทรไปบอกพี่ตาให้แล้ว อยู่กับผมไม่มีปัญหาเรื่องงานอยู่แล้ว”
เข็มทิพย์ทำตัวไม่ถูกเมื่อเธอมีเพียงผ้าห่มคลุมเพียงชิ้นเดียวและยังต้องอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มที่มีแผ่นอกกว้าง กล้ามหน้าท้องสวย กล้ามที่ที่แขนแกร่ง ในระยะประชิดถึงขั้นนี้
“อะไรกันเมื่อคืนผมเห็นคุณมากกว่านี้อีกนะ” ก้องภพพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อตาสบเข้ากับใบหน้านวลที่บัดนี้แดงก่ำเพราะเลือดสูบฉีด
“ฉะ ฉันจะทำยังไงต่อไปดี ฉันไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน” หากเป็นในละครเมื่อผู้หญิงตื่นมาก็จะต้องโวยวายหรือร้องให้ ทุบตีฝ่ายชาย แต่เธอคิดว่าโวยวายไปก็ไม่มีความหมายเพราะมันสูญเสียไปแล้วสู้เอาเวลามาคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีกว่า
“ก็แน่สิ ผมเป็นคนแรกของคุณ คุณจะเจอมาก่อนได้อย่างไรล่ะ” คนพูดไม่ได้สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“นี่คุณ ฉันซีเรียสนะ ทำไมคุณถึงฉวยโอกาสตอนฉันเมา” เสียงตวาดแว้ดบ่งบอกถึงความไม่พอใจต่อประโยคที่ได้ยินเมื่อสักครู่
“คุณจะซีเรียสทำไม ผมเพิ่งจะพาคุณไปพบเจอกับความสุขแบบใหม่มานะ” เขาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเธอแล้วยังจะเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องตลกเสียอีก
“ช่างหัวความสุขไปเลย ฉันเครียดนะ คุณฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่มีสติดีพอที่จะควบคุมตัวเอง ฉันเสียหายนะ” ตอนแรกก็ว่าจะไม่โวยวายแต่ด้วยแรงกดดันอีกทั้งยังเจอคำพูดกวนๆของเขาอีก
“คุณเสียหายตรงไหนล่ะ ”
“ก็เสียหายตรงที่ฉันควรจะมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของผู้หญิงให้แก่ผู้ชายที่รักในคืนวันแต่งงานสิ แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว เพราะคุณฉวยโอกาสเอามันไปแล้ว ทำไมฉันต้องเสียให้กับผู้ชายแบบคุณด้วยนะ”
“ผมจะบอกให้นะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของลูกผู้หญิงนั่นคือหัวใจของคุณเองนั่นแหละ คนสองคนจะแต่งงานกันก็ต้องมองที่หัวใจที่มีความรัก ความซื่อสัตย์ ความจริงใจให้แก่กันสิ ถ้าหัวใจไม่มีสิ่งเหล่านี้มันก็ไม่มีความหมาย ถ้าผู้ชายคนหนึ่งจะไม่แต่งงานกับคุณเพราะว่าคุณไม่ได้เป็นสาวบริสุทธิ์ก็เลิกกับมันเถอะ ”
“แล้วผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยจะมองฉันว่ายังไงถ้าฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว”
“ก็บอกแล้วไงว่าหัวใจต่างหากที่มีค่าที่สุด ถ้าเขายังมองเรื่องพรหมจรรย์มากกว่าหัวใจละก็คุณจะไปแต่งงานกับเขาทำไมในเมื่อเขาไม่ได้มองความรักของคุณน่ะ” คนฟังก็ได้แต่อึ้งเพราะเถียงไม่ออก แต่ในใจของเธอคิดมาตลอดแล้วว่ามีสามีเพียงคนเดียว ร่างกายของเธอจะต้องมีผู้ครอบครองได้เพียงคนเดียว ในเมื่อร่างกายเธอมีผู้ครอบครองไปแล้วมันก็ไม่มีค่าพอที่จะให้ใครคนอื่นมาได้ร่างกายเธอไปอีก
“ฟังนะ เรื่องที่เราทำถึงมันจะผิดวัฒนธรรมอันดีงามของสาวชาวไทย แต่เราก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนไม่มีใครตายเพราะการกระทำของเราอีกทั้งเรายังมีความสุขทั้งคู่ ถ้าคุณบอกว่าคุณเสียหายผมก็เสียหายเหมือนกัน เพราะคุณก็ได้ความสุขที่ผมทำให้คุณเหมือนกัน ผมว่าเรื่องเซ็กส์ของเรามันไม่มีใครเสียหายหรอกเพราะเราได้ประโยชน์จากมันทั้งคู่ ดังนั้นคุณควรจะใช้ชีวิตอย่างปกติต่อไปได้”
“คุณพูดแบบเห็นแก่ตัวมากเลยนะ”
“มันอยู่ที่มุมมองของคนต่างหากว่าจะมองมันยังไง คนที่นี่มองว่าเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับวัฒนธรรมบางประเทศอย่างประเทศไทยมันก็อาจจะผิดประเพณี มันเหมือนกับว่ามีคนกำหนดคนแรกว่าสิ่งนี้ดีสิ่งนี้ไม่ดีและให้คนอื่นปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างเช่นหากสมัยก่อนกำหนดว่า กู-มึง เป็นคำสุภาพ แล้วคำว่า ฉัน-คุณ เป็นคำหยาบ คนในสมัยนี้ก็คงจะพูดกู-มึงเป็นเรื่องปกติแล้วถ้าใครพูดฉันกับคุณก็เป็นคนพูดไม่สุภาพ หรือสีเขียวที่เราเรียกอยู่ในปัจจุบันถ้าในสมัยก่อนถูกกำหนดให้เรียกว่าสีแดง สมัยนี้ก็คงจะเรียกสีเขียวว่าสีแดงอะไรแบบนี้ เรื่องนี้ก็เหมือนกันคนที่นี้มองเรื่องเซ็กส์ว่าเป็นเรื่องปกติ ประเทศไทยมองว่าผิดนั่นแหละ สำหรับผมเซ็กส์มันคือเรื่องปกติของสิ่งมีชีวิตในวัยเจริญพันธุ์ในกรณีที่ไม่มีใครเดือดร้อนน่ะนะ”
“ยังไงคุณก็ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องปกติและฉันไม่ได้เสียหาย”
“แถมยังได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ออกกำลังกายในที่ร่มร่างกายแข็งแรง สนุกจะตาย มาผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น หึหึ” พูดจบก็คว้าร่างบางมากดทับไว้บนเตียงด้วยร่างกายที่สมชายชาตรี
เรี่ยวแรงจากร่างบางที่ยังไม่ฟื้นคืนสภาพดีมีหรือจะสู้แรงพิศวาสจากเจ้าของเรือนกายอันแข็งแกร่ง เป็นครั้งที่สองที่เขาได้เชยชมร่างงามอันอวบอิ่มและสะอาด ถึงแม้ว่าเขาได้สร้างราคีแต่ก็ถือว่าเธอมีร่างกายที่บริสุทธิ์
“ที่รัก ผมจะสอนวิธีสู่สวรรค์บทที่สองให้คุณ”
แม้ว่าจะไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อคืน แต่สิ่งที่ตกถึงเขานี่สิมันช่างทำให้เขาอิ่มกว่าอาหารที่ทานทั้งสามมื้อรวมกันเสียอีก
หลังจากที่พาเข็มทิพย์ไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์ก็ได้พักเพียงครู่เดียวเท่านั้นเพราะต่อให้ชายหนุ่มอิ่มใจไปเท่าไหร่แต่ก็ไม่อาจทนต่อความหิวที่กระเพาะประท้วงออกมา จึงโทรสั่งอาหารที่มีบริการถึงห้องโดยเลือกอาหารที่เร็วและให้พลังงานมากที่สุดเพื่อชดเชยกับการออกแรงไปตั้งแต่เมื่อคืนยันค่ำวันนี้
“คุณจะทานอะไรดี” พอสั่งของตัวเองเสร็จก็หันไปถามคนที่อยู่บนเตียงเดียวกัน
“เอาแบบเดียวกับคุณแล้วกันค่ะ” คำตอบนั้นส่งผลให้มีรอยยิ้มที่มุมปากพร้อมทั้งกดจมูกลงไปบนแก้มนวลเพราะถูกใจในสิ่งที่เธอตอบ แล้วกลับไปสั่งอาหาร
“เราไปอาบน้ำกันดีกว่า” วางสายโทรศัพท์เสร็จก็หันมาชวนสาวน้อยหน้าหงิกที่ไม่พอใจกับคำชวนของเขา
“ไม่ค่ะ แยกกันอาบ”
“ว้า เสียดายจัง กะจะถูหลังให้คุณด้วยนะนี่” สีหน้าและแววตาที่ดูไม่ค่อยไว้วางใจทำให้เข็มทิพย์รีบเอื้อมมือไปจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่ง
“โอ๊ย”
“ทะลึ่งจริงๆเลยคุณ แค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว”
“รู้สึกผิดเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะมานอนกับผู้ชายที่ไม่ใช่สามีบ้างล่ะ”
“ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
“คุณรู้เรื่องอยู่คนเดียวนะสิ ถ้าทุกคนคิดแบบคุณกันหมดวัฒนธรรมอันดีงามของไทยที่ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวมันก็จะถูกกลืนกินไปจนหมดนะสิ”
“เอาเป็นว่าเรารีบไปอาบน้ำจะได้กินข้าวกันซะทีดีกว่า” พอเถียงไม่ได้ก็ต้องรีบเปลี่ยนประเด็น แล้วทำน่ายุ่งคิ้วขมวด มือคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวมานุ่งแล้วมุ่งสู่ห้องน้ำ
หลังจากที่จอดรถเรียบร้อยแล้วก้องภพก็อุ้มหญิงสาวที่เมาหลับภายในรถขึ้นมาแล้งตรงไปยังห้องของเขที่ให้เธอเช่าอยู่ ภายในห้องมืดมิดเขาจึงเดินทั้งที่ยังอุ้มเข็มทิพย์อยู่ไปเปิดไฟด้วยความที่เคยเป็นเจ้าของห้องจึงทำให้รู้ว่าสวิตช์ไฟอยู่ตรงไหนโดยไม่เสียเวลาหา แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่ซึ่งเขาคิดว่าหญิงสาวในอ้อมแขนคงจะนอนห้องนี่ ระหว่างทางเดินจากประตูถึงห้องนอนที่เขาได้สังเกตห้องของเขายังคงไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงเรียบง่ายเหมือนเดิมอาจจะเป็นเพราะเข็มทิพย์เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ได้ไม่นานจึงยังไม่น่าจะซื้อของมาตกแต่งห้องเพิ่ม พอวางหญิงสาวลงบนเตียงหนานุ่มเรียบร้อยแล้วก็จัดการไปหากะละมังมาใส่น้ำแล้วนำผ้าขนหนูผืนเล็กที่หาได้จากตู้เสื้อผ้าติดผนังห้องมาชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆเพื่อนำไปเช็ดตามใบหน้านวลที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง
“อื้อ” เสียงครางมาจากริมฝีปากอิ่ม พร้อมมือเรียวที่ยกขึ้นมาปัดผ้าขนหนูที่เขาใช้เช็ดหน้าให้กับเธอ เปลือกตาค่อยกระพริบแล้วลืมตาอย่างช้าๆ ดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังจ้องมองมาที่เขา
“เซ็กซี่เป็นบ้าเลยคุณนี่ นอนไปเลยนะถ้าไม่อยากให้ผมฉวยโอกาสกับคุณตอนนี้” คนพูดก็พูดไปอย่างอารมณ์ดีรู้ทั้งรู้ว่าเธอคงไม่รู้เรื่องที่เขาพูดเป็นแน่ ดวงตาฉ่ำก็ยังคงมองมาที่เขามันช่างหวานจับใจ ก้องภพดวงตาเองก็นิ่งไปเมื่อได้สบตากับคู่งามแบบตาประสานตา แต่ตอนี้ยังคงไม่ประสานใจ ตาคู่คมกล้าละจากดวงตาคู่หวานมาจ้องที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเข็มทิพย์แทนเพื่อหวังว่าจะช่วยลดอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นแต่กลับกลายเป็นว่าริมฝีปากแดงนั้นดึงดูดใจเขาเสียยิ่งกว่าดวงตา ยิ่งจ้องนานสติเริ่มหลุดลอย ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเลื่อนลงมาหาสิ่งที่ดึงดูดอยู่เบื้องล่าง ริมฝีปากอุ่นก็ได้สัมผัสกับสิ่งที่ดึงดูดราวกับแม่เหล็กดูดเข้าหากัน สองมือที่บัดนี้วางผ้าขนหนูแล้วเปลี่ยนมาจับใบหน้าเรียวไว้ราวกับเธอจะหายไป ผู้ช่ำชองในเรื่องรักก็ค่อยๆสอดลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาหาความหวานภายในปากสาวน้อยผู้ด้อยประสบการณ์
“อื้อ” ส่งเสียงออกมาได้เท่านี้จริงๆสำหรับคนที่อยู่ภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ลิ้นอุ่นๆค่อยเกี่ยวกระหวัดแล้วดูดหากกลืนลิ้นเธอลงไปด้วยได้เขาคงกลืนไปแล้ว จุมพิตนี้นาน นานจนแทบจะลืมหายใจไปเลยทีเดียวสำหรับเขา มันช่างหวานเหลือเกินทั้งๆที่ควรจะขมเพราะน่าจะยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลงเหลืออยู่ในอุ้งปากของเธอและเขา ถอนจุมพิตออกเพื่อให้เธอหายใจบ้างแต่ก็ไม่ได้หยุดการทำงานของริมฝีปากร้อนจากที่ปากค่อยๆเคลื่อนย้ายไปตามแก้มนวลหอมๆแล้วกดหนักๆไปทั้งซ้ายและขวา ขณะนี้เขาหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว พอได้จุมพิตที่แก้มก็ลากริมฝีปากปะพรมทั่วใบหน้างามของเธอ เสียงลมหายใจของเธอช่างถี่จนกวนอารมณ์ของเขาให้หนักกว่าเดิม
ความเมาและความซาบซ่านปะปนกันจนทำให้เข็มทิพย์มีสายตาที่หวานเยิ้มกว่าเดิม ชายหนุ่มที่มองมาถึงกับอารมณ์พลุ่งพล่าน คราวนี้ก็ก้มลงไปซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอขาวๆขบเม้มจนเกิดรอย ขนอ่อนๆที่แขนและตามร่างกายของเธอต่างพร้อมใจกันลุกตั้งชัน เธอเอียงคอเพื่อคลายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นแต่มันไม่ช่วยอะไรเลยในเมื่อใบหน้าคมที่ไซ้อยู่ที่คอซ้ายย้ายใบหน้าไปซุกอยู่ที่ซอกคอข้างขวาเพื่อให้ความยุติธรรมแก่คอขาวๆทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมและไม่ลืมที่จะประทับรอยไว้สองสามรอย จากที่คอจมูกโด่งค่อยๆไล้ขึ้นไปสูดดมความหอมหวานไปที่ใบหูแล้วก็เม้มที่ติ่งหูแต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับที่เขาใช้ฟันขบติ่งหูของเธอเบาๆ เจอแบบนี้เข้าเธอก็ถึงกับสั่นน้อยๆ มือที่อยู่ข้างลำตัวยกขึ้นมาวางไว้ที่อกแกร่งแล้วจิกเพื่อระบายความเสียวที่เกิดขึ้นให้จางหายไป
“อา คุณ” เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก
“เสียงของคุณมันหวานจนน่าชิม ขอผมชิมหน่อยนะ” ก้องภพกระซิบที่ข้างหู แล้วก็เอาปากไปประกบแหล่ง
ที่มาของเสียงอีกรอบ อีกรอบและอีกรอบ
มือเรียวทั้งสองย้ายจากอกแกร่งไปโอบแน่นรอบคอ ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงดึงดูดซึ่งกันและกัน ฝ่ามือฝ่ายชายเริ่มที่จะลูบไล้ไปตามสีข้างลากจนมาถึงเอวคอดแล้วค่อยๆวกมือขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อของเธอแล้วแบะสาบเสื้อออกจากกัน คราวนี้เขาก็ละริมฝีปากลากไปตามลำคอลากไล้จนมาถึงเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นมาจากบราเซียสีหวานและได้ฝากรอยรักอีกรอยไว้ที่เนื้อนุ่มๆขาวราวไข่ปอก ขณะที่เขากำลังจูบที่หน้าอกเธออยู่ภายในร่างกายของเธอรู้สึกถึงความร้อนที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม ตอนนี้ผิวขาวๆของเธอก็แดงไปหมดแล้วด้วยความร้อนจากอารมณ์ที่ถูกจุดขึ้นโดยชายที่อยู่บนกายของเธอ
มือของเขาข้างหนึ่งก็สัมผัสอยู่ที่บริเวณสีข้างกับเอวคอดส่วนอีกข้างก็ค่อยๆสอดไปใต้แผ่นหลังขาวเนียนแล้วปลดตะขอบราเซียออก มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มก็ช่วยกันทำงานในการนำปราการด้านบนให้หลุดพ้นจากร่างบาง อกอวบอิ่มที่พ้นจากการถูกปิดบังของบราเซียปรากฏแก่สายตาอันร้อนแรงของเขา ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าสัมผัสโดยตรงกับอากาศอันหนาวเหน็บแต่กลับเร่าร้อนเพราะสายตาที่จ้องมองมาและการกระทำที่เพิ่งจะผ่านมาของคนทั้งคู่ เมื่อได้เห็นร่างบางที่ไร้อาภรณ์ปกปิดท่อนบนเขาแทบจะกลายร่างเป็นหมาป่าเพื่อที่จะขย้ำลูกแกะทันทีแต่ก็ต้องข่มใจไว้
เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้มาก่อนในชีวิตอย่างมากก็แค่จูบนี่เป็นครั้งแรกของเธอถึงแม้เธอจะอยู่ที่นี้มานานแต่เธอค่อนข้างที่จะหวงตัวแต่วันนี้เธอคงจะทำไม่ได้เสียแล้ว เธอลุ่มหลงรสจูบและสัมผัสที่ได้รับจากชายหนุ่มร่างกายกำยำผู้นี้เหลือเกินมันยากที่จะต้านทานไหว เขาเป็นผู้จุดประกายไฟรักอันเร้าร้อนในกายเธอที่หลับใหลให้ลุกโชนขึ้นทีละนิด แต่จการที่เธอไร้เดียงสาเช่นนี้กลับทำให้ไฟในร่างกายของเพศตรงข้ามนั้นลุกฮือ
ริมฝีปากร้อนๆตามอุณหภูมิร่างกายของก้องภพก็กลับมาครอบครองยอดอกสีสวยที่ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนของเธอหลังจากที่มองชื่นชมอยู่ชั่วอึดใจเดียว ปลายลิ้นอุ่นตวัดยอกเย้าเจ้าเม็ดสีทับทิมน้อยๆเพื่อให้ตอบรับเขา พอข้างนี้ตอบรับแล้วก็ย้ายไปอีกข้างเพื่อความเท่าเทียมโดยไม่สนว่าเจ้าของทรวงอกที่อยู่เบื้องล้างจะซาบซ่านทรมานเช่นไร หากเขาเงยหน้าดูสักนิดคงจะเห็นว่าริมฝีปากอิ่มถูกกัดเอาไว้เพื่อข่มความเสียวที่ได้รับ มือเรียวบางข้างขวาจิกไว้ที่บ่าแข็งแกร่งเพื่อระบายความอัดอั้น อีกข้างก็สอดมือที่ผมนุ่มบนศีรษะของเขา
“อือ… คุณ ฉันไม่ไหวแล้ว” เสียงครางที่หลุดพ้นออกมาจากลำคออย่างยากลำบากบ่งบอกถึงอารมณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้กับเธอได้ดี
เมื่อได้ยินเสียงที่บอกว่าทนไม่ได้แล้วริมฝีปากหนาจึงปลดปล่อยยอดอกให้เป็นอิสระและยิ้มอย่างพึงใจที่ได้ยินเช่นนั้น แต่ฝ่ามือก็ลูบไล้ไปตามเนื้อนวลขึ้นไปหาหน้าอกอย่างช้าๆแล้วหยอกเข้ากับหน้าอกเธออย่างแผ่วเบา จมูกโด่งกลับไปสูดดมความหอมที่ซอกคอขาวผ่องอีกรอบ ผิวกายร้อนๆของคนหนุ่มสาวทั้งคู่ที่แนบชิดติดกันเกิดการเสียดสีหนักยิ่งขึ้นแม้จะมีเสื้อเชิ้ตบางๆเท่านั้นที่ขวางกั้นก็เหมือนไม่ มีมือข้างหนึ่งละจากอกอิ่มมาลูบลงไปตามสีข้างไล้ผ่านกระโปรงไปจนถึงขาอ่อนสอดมือเข้าใต้กระโปรงให้ขาขาวๆได้รับสัมผัสจากฝ่ามือร้อน พอสัมผัสจนพอใจแล้วก็ลุกขึ้นถอดปราการสองชิ้นสุดท้ายของเธอ ขณะนี้เธอไม่เหลือปราการใดๆปกปิดความงามอีกต่อไปแล้ว ทางด้านทายาทเจ้าของโรงแรมดังก็เช่นกันที่บัดนี้เหลือแต่เนื้อตัวเปล่าๆ อวดกล้ามเนื้อและรูปร่างอันแข็งแกร่ง
คราวนี้ถึงเวลาที่เขาจะพาเธอไปพบกับความสุขที่แปลกใหม่ ร่างแข็งแกร่งทาบทับร่างบางแล้วค่อยๆผสานรวมกับเธอเป็นหนึ่งเดียวแต่ก่อนที่เขาจะได้ครอบครองเธออย่างสมบูรณ์นั้นก็ฝ่าด่านเยื่อที่สาวบริสุทธิ์มี
“โอ๊ย ฉันเจ็บ”
“เจ็บเดี๋ยวเดียวนะครับคนสวย แล้วผมจะพาคุณไปพบกับความแปลกใหม่” พูดจบก็กดจูบลงบนหน้าผากชื้น
“ฉะ ฉัน” เข็มทิพย์อยากจะหยุดแต่มันก็พูดไม่ออก
“เชื่อผม” จุมพิตที่มอบให้เธอหลังจากที่เขาพูดจบมันช่างหวาน แล้วเปลี่ยนมาเป็นจูบหนักๆที่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆเพื่อหวังให้เธอคลายความเจ็บปวด
“อะ…อา” เสียงที่หลุดออกมาหลังจากที่ริมฝีปากเธอเป็นอิสระแล้วตามด้วยเสียงหอบ
“ฉันไม่ไหวแล้ว มันเหมือนจะหายใจไม่ออก”
“ผมจะทำให้คุณหายใจไม่ออกยิ่งกว่านี้ มาสนุกแล้วมีความสุขกันเถอะ”
ร่างบางที่ไม่ประสีประสาเรื่องรักๆใคร่ๆนั้นมันช่วยกระตุ้นความอยากที่จะสอนให้สาวน้อยได้เรียนรู้ประสบการณ์ครั้งใหม่ในชีวิต ไฟรักเริ่มกระหน่ำลุกโหมด้วยแรงปรารถนา ไอรักไอร้อนระบายออกมาเป็นเหงื่อตามไรผม ตอนนี้ทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นผิวบางๆนี้ได้ถูกเขาสำรวจและประทับรอยจูบเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว และเธอก็ไม่มีสติพอที่จะรับรู้และจดจำได้อีกแล้วว่าเขามอบความเร่าร้อนนี้ให้เธออย่างไรบ้างสมองของเธอมันขาวโพลน เบาหวิวราวกับล่องลอยไปตามสายลมพาไปสู่ดินแดนแห่งรักครั้งแล้วครั้งเล่า
“สนุกไหม” น้ำเสียงทุ้มถามขึ้นอย่างมีความสุขที่ได้เป็นคุณครูคนแรกสอนบทเรียนรักให้เธอ
“บ้า ฉันจะนอนแล้ว” หากในห้องนอนสว่างกว่านี้คงจะเห็นใบหน้าที่แดงก่ำเป็นแน่
“จะหลับแล้วหรือ” รอยยิ้มที่พิฆาตใจสาวๆมานักต่อนักบัดนี้ปรากฏขึ้นเมื่อมองร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนนี้เพราะความเหนื่อยที่เพิ่งกลับจากห้วงแห่งความสุข แขนแข็งแกร่งโอบกระชับหญิงสาวข้างกายมากขึ้นและนอนลงเคียงข้างในเวลาที่ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาหลายชั่วโมงแล้ว
แสงแดดอบอุ่นไม่สามารถที่จะทะลุฝ่าม่านลายหรูที่ติดอยู่ตามบานหน้าต่างของห้องนอนได้ สองร่างเปลือยเปล่าหลับใหลเคียงคู่ภายใต้ผ้านวมนุ่มๆซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ปกคลุมผิวกายของทั้งคู่ไว้ไม่ให้ความหนาวเข้ามาแผ้วพานได้
เปลือกตาที่ยังคงมีสีของอายแชโดว์สีอ่อนอยู่ค่อยๆเปิดให้ตาได้รับรู้การมองเห็นในเช้าวันใหม่ที่ใกล้จะเย็นในอีกสามถึงสี่ชั่วโมง ร่างกายที่ตื่นแล้วก็รับรู้ถึงน้ำหนักของอะไรบางอย่างอยู่ที่เอวคอดของเธอ และตอนนี้สมองของเธอก็ได้รับรู้แล้วว่าอะไรบางอย่างที่ว่านั้นคือท่อนแขนแกร่งของก้องภพ ความตกใจทำให้หัวใจแทบจะหยุดเต้นกับภาพที่เห็นและสิ่งที่เธอได้สูญเสียไปแล้ว สมองค่อยๆลำดับถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาจนระลึกได้ว่าเกิดประสบการณ์ที่ค่อนข้างจะขัดกับปณิธานในชีวิตของเธอที่เธอจะมอบความบริสุทธิ์นี้ให้แก่ผู้ชายที่เธอรักในคืนวันแต่งงาน มันเป็นฝันของผู้หญิงไทยหลายๆคนแต่เมื่อคืนนี้ฝันของเธอได้หลุดลอยไปไกลแล้วมัน เวลาเป็นหนึ่งในสามอย่างที่ไม่สามารถจะย้อนกลับไปแก้ไขได้
สองมือเรียงบางกุมขมับทั้งปวดหัวจากอาการเมาค้างและเรื่องที่เกิดขึ้น จะโทษว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์ก็ไม่ได้เพราะมันอยู่ของมันดีๆ ตัวเธอเองต่างหากที่ผิดที่ไปดื่มเข้าจนควบคุมสติเอาไว้ไม่ได้ หากว่าเธอไม่ดื่มเหตุการณ์มันจะออกมาในรูปแบบนี้หรือ
‘ให้ตายสิ จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้’ ภายในใจคิดอย่างว้าวุ่นจนไม่ทันสังเกตชายที่นอนเคียงข้างได้ตื่นลืมตาขึ้นมามองอาการสับสนของเธอ
“ตื่นแล้วเหรอครับ” รอยยิ้มที่มีความสุขถูกจุดขึ้นที่มุมปากเมื่อได้แกล้งให้อีกฝ่ายตกใจ
ร่างบางสะดุ้งหันกลับมามองตามเสียงของคนที่ยังไม่อยากได้ยินและยังไม่อยากให้ตื่น เข็มทิพย์อึ้งอยู่พักใหญ่ หญิงสาวไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไร เธอทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์นี้จริงๆ
“เอ่อ”
“โอ๊ะ โอ บ่ายโมงกว่าแล้วเหรอนี่ สงสัยเมื่อคืนจะหนักไปหน่อย” คนพูดส่งตาพราวไปหาอีกฝ่าย
“อะไรนะ บ่ายโมง ฉันก็ขาดงานนะสิ” ร่างบางคว้านาฬิกามาดูเพื่อความแน่ใจ แล้วกำลังจะลุกจากเตียงไปหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนเพื่อจะติดต่อสิริตาโดยลืมไปว่าขณะนี้ร่างกายเธอไม่มีอาภรณ์ปกปิดเลยสักชิ้นเดียว ดีที่ว่าแขนแกร่งคว้าไว้ทันก่อนที่จะลงจากเตียง
“ใจเย็นๆครับ ผมโทรไปบอกพี่ตาให้แล้ว อยู่กับผมไม่มีปัญหาเรื่องงานอยู่แล้ว”
เข็มทิพย์ทำตัวไม่ถูกเมื่อเธอมีเพียงผ้าห่มคลุมเพียงชิ้นเดียวและยังต้องอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มที่มีแผ่นอกกว้าง กล้ามหน้าท้องสวย กล้ามที่ที่แขนแกร่ง ในระยะประชิดถึงขั้นนี้
“อะไรกันเมื่อคืนผมเห็นคุณมากกว่านี้อีกนะ” ก้องภพพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อตาสบเข้ากับใบหน้านวลที่บัดนี้แดงก่ำเพราะเลือดสูบฉีด
“ฉะ ฉันจะทำยังไงต่อไปดี ฉันไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน” หากเป็นในละครเมื่อผู้หญิงตื่นมาก็จะต้องโวยวายหรือร้องให้ ทุบตีฝ่ายชาย แต่เธอคิดว่าโวยวายไปก็ไม่มีความหมายเพราะมันสูญเสียไปแล้วสู้เอาเวลามาคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีกว่า
“ก็แน่สิ ผมเป็นคนแรกของคุณ คุณจะเจอมาก่อนได้อย่างไรล่ะ” คนพูดไม่ได้สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“นี่คุณ ฉันซีเรียสนะ ทำไมคุณถึงฉวยโอกาสตอนฉันเมา” เสียงตวาดแว้ดบ่งบอกถึงความไม่พอใจต่อประโยคที่ได้ยินเมื่อสักครู่
“คุณจะซีเรียสทำไม ผมเพิ่งจะพาคุณไปพบเจอกับความสุขแบบใหม่มานะ” เขาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเธอแล้วยังจะเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องตลกเสียอีก
“ช่างหัวความสุขไปเลย ฉันเครียดนะ คุณฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่มีสติดีพอที่จะควบคุมตัวเอง ฉันเสียหายนะ” ตอนแรกก็ว่าจะไม่โวยวายแต่ด้วยแรงกดดันอีกทั้งยังเจอคำพูดกวนๆของเขาอีก
“คุณเสียหายตรงไหนล่ะ ”
“ก็เสียหายตรงที่ฉันควรจะมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของผู้หญิงให้แก่ผู้ชายที่รักในคืนวันแต่งงานสิ แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว เพราะคุณฉวยโอกาสเอามันไปแล้ว ทำไมฉันต้องเสียให้กับผู้ชายแบบคุณด้วยนะ”
“ผมจะบอกให้นะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของลูกผู้หญิงนั่นคือหัวใจของคุณเองนั่นแหละ คนสองคนจะแต่งงานกันก็ต้องมองที่หัวใจที่มีความรัก ความซื่อสัตย์ ความจริงใจให้แก่กันสิ ถ้าหัวใจไม่มีสิ่งเหล่านี้มันก็ไม่มีความหมาย ถ้าผู้ชายคนหนึ่งจะไม่แต่งงานกับคุณเพราะว่าคุณไม่ได้เป็นสาวบริสุทธิ์ก็เลิกกับมันเถอะ ”
“แล้วผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยจะมองฉันว่ายังไงถ้าฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว”
“ก็บอกแล้วไงว่าหัวใจต่างหากที่มีค่าที่สุด ถ้าเขายังมองเรื่องพรหมจรรย์มากกว่าหัวใจละก็คุณจะไปแต่งงานกับเขาทำไมในเมื่อเขาไม่ได้มองความรักของคุณน่ะ” คนฟังก็ได้แต่อึ้งเพราะเถียงไม่ออก แต่ในใจของเธอคิดมาตลอดแล้วว่ามีสามีเพียงคนเดียว ร่างกายของเธอจะต้องมีผู้ครอบครองได้เพียงคนเดียว ในเมื่อร่างกายเธอมีผู้ครอบครองไปแล้วมันก็ไม่มีค่าพอที่จะให้ใครคนอื่นมาได้ร่างกายเธอไปอีก
“ฟังนะ เรื่องที่เราทำถึงมันจะผิดวัฒนธรรมอันดีงามของสาวชาวไทย แต่เราก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนไม่มีใครตายเพราะการกระทำของเราอีกทั้งเรายังมีความสุขทั้งคู่ ถ้าคุณบอกว่าคุณเสียหายผมก็เสียหายเหมือนกัน เพราะคุณก็ได้ความสุขที่ผมทำให้คุณเหมือนกัน ผมว่าเรื่องเซ็กส์ของเรามันไม่มีใครเสียหายหรอกเพราะเราได้ประโยชน์จากมันทั้งคู่ ดังนั้นคุณควรจะใช้ชีวิตอย่างปกติต่อไปได้”
“คุณพูดแบบเห็นแก่ตัวมากเลยนะ”
“มันอยู่ที่มุมมองของคนต่างหากว่าจะมองมันยังไง คนที่นี่มองว่าเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับวัฒนธรรมบางประเทศอย่างประเทศไทยมันก็อาจจะผิดประเพณี มันเหมือนกับว่ามีคนกำหนดคนแรกว่าสิ่งนี้ดีสิ่งนี้ไม่ดีและให้คนอื่นปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างเช่นหากสมัยก่อนกำหนดว่า กู-มึง เป็นคำสุภาพ แล้วคำว่า ฉัน-คุณ เป็นคำหยาบ คนในสมัยนี้ก็คงจะพูดกู-มึงเป็นเรื่องปกติแล้วถ้าใครพูดฉันกับคุณก็เป็นคนพูดไม่สุภาพ หรือสีเขียวที่เราเรียกอยู่ในปัจจุบันถ้าในสมัยก่อนถูกกำหนดให้เรียกว่าสีแดง สมัยนี้ก็คงจะเรียกสีเขียวว่าสีแดงอะไรแบบนี้ เรื่องนี้ก็เหมือนกันคนที่นี้มองเรื่องเซ็กส์ว่าเป็นเรื่องปกติ ประเทศไทยมองว่าผิดนั่นแหละ สำหรับผมเซ็กส์มันคือเรื่องปกติของสิ่งมีชีวิตในวัยเจริญพันธุ์ในกรณีที่ไม่มีใครเดือดร้อนน่ะนะ”
“ยังไงคุณก็ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องปกติและฉันไม่ได้เสียหาย”
“แถมยังได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ออกกำลังกายในที่ร่มร่างกายแข็งแรง สนุกจะตาย มาผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น หึหึ” พูดจบก็คว้าร่างบางมากดทับไว้บนเตียงด้วยร่างกายที่สมชายชาตรี
เรี่ยวแรงจากร่างบางที่ยังไม่ฟื้นคืนสภาพดีมีหรือจะสู้แรงพิศวาสจากเจ้าของเรือนกายอันแข็งแกร่ง เป็นครั้งที่สองที่เขาได้เชยชมร่างงามอันอวบอิ่มและสะอาด ถึงแม้ว่าเขาได้สร้างราคีแต่ก็ถือว่าเธอมีร่างกายที่บริสุทธิ์
“ที่รัก ผมจะสอนวิธีสู่สวรรค์บทที่สองให้คุณ”
แม้ว่าจะไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อคืน แต่สิ่งที่ตกถึงเขานี่สิมันช่างทำให้เขาอิ่มกว่าอาหารที่ทานทั้งสามมื้อรวมกันเสียอีก
หลังจากที่พาเข็มทิพย์ไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์ก็ได้พักเพียงครู่เดียวเท่านั้นเพราะต่อให้ชายหนุ่มอิ่มใจไปเท่าไหร่แต่ก็ไม่อาจทนต่อความหิวที่กระเพาะประท้วงออกมา จึงโทรสั่งอาหารที่มีบริการถึงห้องโดยเลือกอาหารที่เร็วและให้พลังงานมากที่สุดเพื่อชดเชยกับการออกแรงไปตั้งแต่เมื่อคืนยันค่ำวันนี้
“คุณจะทานอะไรดี” พอสั่งของตัวเองเสร็จก็หันไปถามคนที่อยู่บนเตียงเดียวกัน
“เอาแบบเดียวกับคุณแล้วกันค่ะ” คำตอบนั้นส่งผลให้มีรอยยิ้มที่มุมปากพร้อมทั้งกดจมูกลงไปบนแก้มนวลเพราะถูกใจในสิ่งที่เธอตอบ แล้วกลับไปสั่งอาหาร
“เราไปอาบน้ำกันดีกว่า” วางสายโทรศัพท์เสร็จก็หันมาชวนสาวน้อยหน้าหงิกที่ไม่พอใจกับคำชวนของเขา
“ไม่ค่ะ แยกกันอาบ”
“ว้า เสียดายจัง กะจะถูหลังให้คุณด้วยนะนี่” สีหน้าและแววตาที่ดูไม่ค่อยไว้วางใจทำให้เข็มทิพย์รีบเอื้อมมือไปจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่ง
“โอ๊ย”
“ทะลึ่งจริงๆเลยคุณ แค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว”
“รู้สึกผิดเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะมานอนกับผู้ชายที่ไม่ใช่สามีบ้างล่ะ”
“ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
“คุณรู้เรื่องอยู่คนเดียวนะสิ ถ้าทุกคนคิดแบบคุณกันหมดวัฒนธรรมอันดีงามของไทยที่ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวมันก็จะถูกกลืนกินไปจนหมดนะสิ”
“เอาเป็นว่าเรารีบไปอาบน้ำจะได้กินข้าวกันซะทีดีกว่า” พอเถียงไม่ได้ก็ต้องรีบเปลี่ยนประเด็น แล้วทำน่ายุ่งคิ้วขมวด มือคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวมานุ่งแล้วมุ่งสู่ห้องน้ำ
goszy
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 เม.ย. 2555, 11:08:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ย. 2556, 14:57:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 20247
<< S2บ่วงที่3 | S2บ่วงที่5 >> |
ปอแก้ว 20 เม.ย. 2555, 14:32:21 น.
นายก้องภพ...พูดง่ายเกินไปไหมนี่...
นายก้องภพ...พูดง่ายเกินไปไหมนี่...