บ่วงใจ
เมื่อ"ก้องภพ" หนุ่มหล่อไฮโซเพลย์บอยดีกรีปริญญาโทจากนอกถูกบังคับแต่งงาน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เขาไข่ทิ้งไว้
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: S2บ่วงที่3

บ่วงที่ 3



“ใช่จ้ะ เจ้าชู้ตัวพ่อเลยล่ะนายคนนี้” สิริตาเริ่มวางเพลิงน้องชายตัวเองให้เข็มทิพย์รู้เพื่อปกป้องให้หญิงสาวรอดพ้นจากมือมารอย่างก้องภพ

“ระวังไว้ให้ดีนะ ถ้าเจอให้รีบชิ่งหนีเลยนะ ยิ่งเข็มสวยๆอย่างนี้พี่เป็นห่วงจริงๆ กลัวนายก้องมาปิ๊งแล้วทิ้ง” ด้วยความเป็นห่วงรุ่นน้องสาวเลยรีบเตือนตั้งแต่เนิ่นกลัวจะมองหน้ากันไม่ติดหากเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น

“โธ่ พี่ตาก็รู้ว่าเข็มไม่ชอบคนเจ้าชู้ นี่ที่เพิ่งเลิกไปเพราะเจ้าชู้นี่ละค่ะ หวังว่าเกลียดอย่างไหนคงจะไม่ได้อย่างนั้น” พอพูดถึงเรื่องเจ้าชู้ทำให้นึกถึงบิดา เมื่อวันก่อนเธอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า ท่านโทรมาเรื่องที่เธอจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ เถียงกันไปมาแล้วก็วกกลับมาที่พ่อเธอจะแต่งงานใหม่เพราะต้องการเพื่อนคู่ชีวิต
‘ถ้าอย่างนั้นทีตอนคุณปู่เสียทำไมคุณย่าไม่แต่งงานใหม่เพื่อจะหาเพื่อนบ้างละคะ เห็นไหมคุณย่ายังอยู่ได้เลย คุณพ่อกับคุณแม่เข็มก็ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าได้’ คนเป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลอดรนทนไม่ไหวที่จะไม่เถียงกลับไป

‘ก็เพราะว่าฉันคิดผิดนะสิที่ไม่แต่งงานหาเพื่อนใหม่ ฉันเลยจะให้พ่อแกแต่งงานหาเพื่อนคู่ชีวิตจะได้ไม่เหงา แล้วอีกอย่างวิลาสีนีก็จะได้มาช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย’ ประมุขแห่งฉัตราอมารัตน์รีบหาข้อแก้ตัวมาอย่างทันทีเพื่อแย้งให้หลานสาวยอมรับ

‘เอาเป็นว่าถ้ามีผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีเข็ม ถ้ามีเข็มจะต้องไม่มีผู้หญิงคนนั้น ในเมื่อคุณหญิงได้ตัดสินใจที่จะให้ผู้หญิงคนนั้นมาร่วมวงศ์ตระกูล ดิฉันจะออกมาจากตระกูลของคุณหญิงเองค่ะ’ พูดจบก็ชิงตัดสาย ในตอนท้ายประโยคเธอได้เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองกับคุณหญิงรัตนาใหม่จาก เข็ม เป็น ดิฉัน และจาก คุณย่า เป็น คุณหญิง ในวันรุ่งขึ้นเธอตัดสินใจที่จะจัดการเปลี่ยนนามสกุลมาใช้ของมารดาและเธอจะกลายเป็น ‘เข็มทิพย์ วิริยากร’ ต่อจากนั้นก็กลับมาเริ่มเก็บของในคอนโดหรูเพื่อที่จะย้ายที่อยู่ใหม่โดยหารู้ไม่ว่าเธอกำลังจะเจอกับสิ่งที่เกลียด

วันแรกของการเริ่มทำงาน ร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของ AKARA PALACE HOTEL สีม่วงอมชมพูกำลังยืนรอลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นไปทำงาน เมื่อลิฟต์เปิดออกร่างสูงสง่าก็ก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยความมั่นคงชายคนนั้นคือ ก้องภพ อัครรัชตะเขาจำหญิงสาวคนสวยที่เจอวันก่อนได้มาวันนี้กลับใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงแรมทำให้แววตาเปล่งประกายส่งไปยังใบหน้าหวาน ส่วนคนที่ได้รับแววตาเปล่งประกายก็ต้องรีบยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยเมื่อจำได้ว่าผู้ที่ก้าวออกมานั้นเป็นทายาทของโรงแรมนี้ แม้ในใจจะนึกรังเกียจชายหนุ่มเต็มที ว่าแล้วก็รีบเข้าไปในลิฟต์โดยที่ไม่รอให้ชายหนุ่มทัก ทายาทเจ้าของโรงแรมกลั้วหัวเราะในลำคอพลางนึกในใจ ‘ หึๆ หนีได้หนีไปคนสวย เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันอีกแน่นอน ’

“สวัสดีค่ะพี่ตา” อดีตทายาทตระกูลฉัตราอมรารัตน์ทักทายรุ่นพี่สาว

“จ้า วันนี้พี่จะพาไปแนะนำแผนกต่างๆก่อนนะ แล้วตอนบ่ายพี่จะให้แอนนามาเริ่มสอนงานให้เพราะพี่มีประชุม” แอนนาสตรีวัยใกล้สี่สิบคือผู้ช่วยของก้องภพ บุคคลที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับก้องภพนั้นจะต้องเป็นผู้ชาย ถ้าหากเป็นสตรีก็ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์มานานแล้วและมีอายุ อย่างเลขาก็เป็นผู้ชาย เพราะท่านเจ้าของโรงแรมรู้จักนิสัยของลูกชายดีว่าเจ้าชู้แค่ไหนจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดกรณีสมภารกินไก่วัดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้งานเสียระบบ ก็คงจะโทษใครไม่ได้หรอกเนื่องจากเชื้อไม่ทิ้งแถว เนื่องจากคุณธนากรเองในสมัยหนุ่มๆก็เคยเจ้าชู้แต่ก็หยุดลงเมื่อก้องภพได้ถือกำเนิด

“เข็มอย่าลืมที่พี่เตือนนะ อยู่ให้ห่างก้องภพไว้พี่ไม่ได้กีดกันไม่ได้หวงน้องชาย แต่พี่ห่วงเข็ม กลัวจริงๆ”

“รับทราบค่ะ” อีกฝ่ายรับปากด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

“นี่เดี๋ยวเถอะ น้ำตาเช็ดหัวเข่าแล้วพี่ไม่ช่วยนะเออ”

“คิดมากไปได้ค่ะพี่ตา นี่เข็มยังไม่เคยได้พูดกับเขาเลยนะคะ” หลังจากพูดออกไปสักพักหลานสาวเจ้าของโรงแรมก็นึกขึ้นได้จึงรีบถาม

“เข็มเรียนปริญญาโทบริหารอยู่ใช่ไหม เรียนที่ไหน ปีไหนแล้ว” คำถามรัวมาเป็นชุด

“ใช่ค่ะ” หลังจากที่ตอบคำถามทั้งหมดทำให้เข็มทิพย์ได้รู้ว่าก้องภพก็กำลังเรียนปริญญาโทและเขาก็เรียนนำหน้าเธอไปหนึ่งปีซึ่งก็ใกล้จบแล้ว

หลังจากได้ย้ายไปอยู่ที่อาศัยใหม่ได้หนึ่งสัปดาห์ชีวิตประจำวันก็ได้ปรับเปลี่ยนไปเช่นเมื่อก่อนพอเรียนเสร็จอาจจะไปช็อปปิ้ง หรือปาร์ตี้ แต่เดี๋ยวชีวิตในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอมีแค่ทำงานกับเรียน เช้าวันนี้เธอเองก็ได้เดินทางมาทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ มีช่อดอกไม้ มีการ์ดเขียนด้วยลายมือว่า

ยินดีต้อนรับครับ
…..ก้องภพ

พลันเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับคุณเข็มทิพย์ ผมก้องภพ ได้รับดอกไม้แล้วใช่ไหมครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่อัครรัชตะ เอ๊ย AKARA PALACE ครับ เป็นยังไงบ้างครับการทำงานในสัปดาห์แรก” เสียงทุ้มเจ้าของช่อดอกไม้เอ่ยแกล้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่อัครรัชตะ หารู้ไม่ว่าในอนาคตหญิงสาวที่ตนกำลังคุยด้วยนี้จะได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกอัครรัชตะจริงๆ

“ก็ดีค่ะท่านรองประธาน” น้ำเสียงที่เก็บความรำคาญอย่างมิดชิดเอ่ยตอบพร้อมทั้งเรียกอีกฝ่ายด้วยตำแหน่ง

“อย่าเรียกว่าท่านรองประธานเลยครับเรียกก้องก็ได้ แล้วคุณมีชื่อที่เรียกง่ายกว่าเข็มทิพย์ไหมครับ” เข็มทิพย์นี่เรียกตรงไหนไม่ทราบ คนที่ต้องตอบคำถามคิดคำตอบที่อยากตอบในใจ แต่ก็จำใจต้องตอบไปโดยดี

“เรียกเข็มก็ได้ค่ะ”

“ครับคุณเข็ม ไม่ทราบว่าเที่ยงนี้จะว่างให้เกียรติไปทานข้าวกับผมสักมื้อได้ไหมครับ”

“เอ่อ ดิฉันมีนัดแล้วค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธ

“ถ้าอย่างนั้นไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะครับ หวังว่าคุณคงว่าง สวัสดีครับ” เสียงที่ตอบกลับมานั้นดักทางเธออย่างรู้ทัน

“ค่ะ สวัสดีค่ะ” วางสายเสร็จเสียงถอนหายใจดังเฮือกก็ตามมา

“เป็นอะไรไปจ๊ะ” สิริตาที่กำลังจะเดินเข้าห้องจึงหันมาถามด้วยความสงสัย

“ก็น้องชายสุดหล่อของพี่ตานะสิคะ ทั้งส่งดอกไม้ ทั้งโทรศัพท์มาชวนไปทานมื้อเที่ยง” น้ำเสียงที่ตอบนั้นไม่ปิดความหงุดหงิดเลย

“เฮ้อ เข็ม สู้ๆนะ” ในเมื่อแก้ไขนิสัยน้องชายไม่ได้ก็เลยต้องให้กำลังใจอีกฝ่ายแทน แล้วก็เดินเข้าห้องไปเพื่อต่อสายถึงใครบางคน

ภายในห้องทำงานของตำแหน่งท่านรองประทาน รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ดีของเจ้าของห้อง
เอนหลังพิงเก้าอี้นึกถึงเรื่องที่สืบมาได้ว่าหญิงสาวที่เขาเพิ่งโทรศัพท์ไปหาเมื่อสักครู่เป็นรุ่นน้องของสิริตาลูกพี่ลูกน้องของเขา ที่ได้โทรศัพท์มาขอห้องของเขาให้เข็มทิพย์เช่าและตอนนี้ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของสิริตาด้วย

โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดส่งเสียงร้องที่ตั้งไว้เฉพาะสำหรับคนในครอบครัวอยู่บนโต๊ะทำงาน นิ้วเรียวยาวคล้ายมือของผู้หญิงคว้ามากดรับหลังจากที่รู้ว่าใครโทรมา

“สวัสดีครับคุณพ่อ” น้ำเสียงที่ใช้นั้นบ่งบอกปลายสายว่าอารมณ์กำลังดี

“ไง อารมณ์ดีเชียวนะ ไปทำอะไรมาล่ะ” เจ้าของโรงแรมถามลูกชายคนเดียวทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วเพราะมีสายรายงาน

“เรอะ พ่อคิดว่าจะดีกว่าปกติ” ฮึๆ พ่อรู้ทันหรอกน่าเจ้าตัวดี

“แล้วคุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ” เขาก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง

“ฮึๆ ได้ข่าวว่าจะทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดหรือไงพ่อลูกชาย” คุณธนากรเอ่ยเย้าลูกชาย

“โธ่ คุณพ่อผมเปล่าเป็นสมภารสักหน่อย คุณพ่อต่างหากที่เป็น” ก็สมภารคือเจ้าอาวาสเปรียบเป็นท่านประธานซึ่งก็คือพ่อเขา ส่วนเขาเป็นแค่ท่านรองประธานเอง วัดไหนมีเจ้าอาวาส 2 รูปบ้างล่ะ แล้วเขาจะเป็นสมภารได้ยังไง จริงไหม

“เจ้าก้องไม่ต้องมาเล่นลิ้นเลยนะ เอาเถอะไม่เป็นสมภารก็ไม่เป็น แต่เรื่องจะกินไก่วัดล่ะจริงไหม” ก็นะคนเป็นพ่อก็ย่อมรู้ทันเจ้าลูกชายเลยถามดักคอซะเลย

“แหมคุณพ่อ ผมก็ไม่ได้เป็นสมภาร แถมไก่วัดก็สวย จะให้ผมอดใจได้อย่างไรละครับ” ว่าแล้วก็กลั้วหัว
หัวเราะในลำคอส่งไปให้กลับด้วย
“ว่าแต่ทำไมสายของพ่อรายงานได้เร็วจัง ผมเพิ่งลงมือปฏิบัติเองนะ” เขาก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าสิริตานั้นแหละที่เป็นสายให้พ่อเขา

“ก็สายของพ่อเค้ามีฝีมือไง ยังไงก็ระวังตัวไว้ด้วยนะ ได้ข่าวว่าคนนี้พี่เราหวง อย่าให้เสียได้นะก้อง” คุณธนากรใช้น้ำเสียงจริงจังเอ่ยเตือนลูกชายเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้น

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับคุณพ่อ ผมไม่ทำให้โรงแรมกับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็พี่ตาต้องเสียหรอกครับ” ก่อนที่จะสานความสัมพันธ์กับเขาก็ต้องมีข้อตกลงกันก่อนอยู่แล้ว เรื่องนี้เขารอบคอบเสมอ ดังนั้นหายห่วง

“ก็ดี ยังไงก็หาใครสักคนที่จริงจังได้แล้วนะก้องก่อนที่แม่ของเราจะหาให้ นี่ก็เริ่มโฆษณาลูกชายหาลูกสะใภ้อยู่” ยังไงเขาก็อยากให้ลูกชายได้เลือกคนที่รักเองมากกว่าที่จะให้ภรรยาเขาหาให้จึงรีบเตือนลูกชายไว้

“ฮึๆ บอกคุณแม่เอาสวยๆแล้วกันนะครับ กลับไปผมจะไปเลือกเองอีกที” เขาเป็นลูกชายกตัญญูนี่นาในเมื่อแม่ว่าดีจะไปขัดใจแม่ทำไม เชื่อเถอะผู้หญิงที่แม่หาให้เขารับรองว่าถูกสเป็กทุกคน

“อ้าว พ่อเตือนแล้วไม่เชื่อพ่ออีกนะ” ก็รู้หรอกว่าลูกชายพูดเล่น

“แม่เค้ารู้ใจผมอยู่แล้วละครับ” เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ชอบนักหรอกเรื่องคลุมถุงชนนี่ แต่ตอนนี้ด้วยความที่อารมณ์ดีจึงพูดเล่นได้หมด

“คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ ผมเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มกลัวผู้เป็นบิดาจะเครียดเพราะการพูดเล่นของเขาจึงต้องรีบบอกให้คลายกังวล

“ก็ดีลูก แค่นี้นะ”

“ครับ สวัสดีครับ” เมื่อวางสายเสร็จสมองก็เอาแต่คิดถึงรูปใบหน้าของเข็มทิพย์

“ท่าทางจะยากแฮะคนนี่ คนปกป้องเพียบ” พึมพำกับตัวเองเสร็จรอยยิ้มที่มุมปากเหมือนเสือที่จ้องจะล่าเหยื่อ
ยิ่งยากยิ่งท้าทาย ไว้เจอกันนะครับคนสวย

หลังจากได้เริ่มทำงานและย้ายที่อยู่ใหม่ได้หนึ่งเดือนเธอก็เริ่มปรับตัวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตได้แต่สิ่งที่ยังปรับไม่ได้คือช่อดอกไม้และใบหน้าอันหล่อเหลาของลูกชายสมภารอย่างก้องภพที่มักจะโผล่มาในช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเที่ยงเพื่อที่จะชวนเธอไปทานอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นด้วยกันแต่ก็มีน้อยครั้งที่เธอถูกมัดมือชกให้ไปร่วมรับประทานอาหารด้วยและจากการที่ได้รับโอกาสที่ไม่เต็มใจนี่ทำให้เธอรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ยอมต่อคิวเพื่อเป็นคู่ควงของเขาอย่างเต็มใจ เพราะนอกจากจะหน้าตาดี รวย การศึกษาดีแล้วในการทรีตผู้หญิงผู้หญิงของเขานั้นทำให้เกิดประทับใจ ถ้าหากว่าเขาไม่เจ้าชู้
เธอเองก็อาจจะตกหลุมรักเขาไปแล้วก็เป็นได้ บางครั้งที่เธอปฏิเสธเขาในการรับประทานอาหารเที่ยงเขาก็จะมีคนที่เต็มใจไปกับเขาไม่เคยที่จะซ้ำหน้ากันเลย ด้วยเหตุนี้เองเธอยังคงความใจแข็งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

สองทุ่มเศษหลังจากที่คุยงานกับสิริตาเสร็จก็ได้ฤกษ์กลับบ้านสักที ถ้าหากเข็มทิพย์เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เธอคงจะไม่ลงลิฟต์เวลานี่แน่นอนเพราะว่าชีวิตเธอกำลังจะถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง
ติ๊ง ประตูลิฟต์เปิดออกร่างบางก้าวออกมาจากลิฟต์สายตาของเธอมองไปที่ล็อบบี้ก็ปรากฏบุคคลสองคนที่เธอไม่อยากจะเห็นอีกตลอดชีวิตของเธอคือ วิวาห์ และ วิลาสินี วิลาสินี แม้เข็มทิพย์จะไม่เคยเห็นหน้าวิวาห์มาก่อนแต่ก็พอเดาได้เพราะคนที่มากับวิลาสินีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหลานสาวแล้วอีกอย่างทั้งคู่มีใบหน้าที่คล้ายกันมาก เธอไม่แน่ใจว่าสองคนนั้นจะเคยเห็นรูปเธอบ้างหรือไม่ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจที่จะไม่ต้องเผชิญหน้ากันจึงรีบหลบหลังเสาที่อยู่ใกล้ๆ

“คุณลุงน่าจะมาด้วยนะคะคุณอา” วิวาห์หันมาพูดกับผู้เป็นอาสาวของเธอ
เพี้ยะ เสียงฝ่ามือกระทบต้นแบบไม่เอาจริงนักบนแขนเล็กๆของหญิงสาววัยอ่อนกว่า
“อาบอกแล้วไงให้เรียกคุณพ่อ เขารับวิวาห์เป็นลูกบุญธรรมแล้วนี่นา” วิลาสินีบอกกับหลานสาวอย่างอารมณ์ดีแต่สำหรับคนที่แอบฟังอยู่ข้างหลังเสานี่สิชาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เจ็บแปลบ เจ็บลึกไปถึงขั้วหัวใจ เธอไม่คิดเลยว่าบิดาของเธอจะทำกับเธอเช่นนี้จริงๆ ทำอะไรไม่ถูก จะก้าวก็ก้าวไม่ออกได้แต่ยืนทื่ออยู่หลังเสาฟังบทสนทนาของสองบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิตต่อไป

“แหม นั่นนะสิคะ แต่ในเมื่อคุณอาจดทะเบียนสมรสกับคุณพ่อของวิวาห์แล้ววิวาห์ต้องเรียกคุณอาว่าคุณแม่ด้วยหรือเปล่าคะนี่ วิวาห์จะได้มีทั้งคุณพ่อและคุณแม่ คิกๆ” เสียงหัวเราะเพราะเอ่ยเย้าคุณอาคนสวยทำให้โดนตีแขนอีกหนึ่งทีเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มของวิลาสินี

“ตามใจจะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ แล้วจะได้ออกไปเที่ยวไหมฮึ” คนสูงวัยกว่าเอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี

“ที่จริงคุณพ่อกับคุณแม่น่าจะมาฮันนีมูนด้วยกันแทนที่คุณพ่อจะให้พ็อคเก็ตมันนี่เรามาเที่ยวนะคะ เพิ่งแต่งงานกันแท้ๆ” หลังจากแต่งงานขจรยศต้อนรับสองสมาชิกใหม่ด้วยการให้พ็อคเก็ตมันนี่มาเที่ยว

“ก็คุณพ่อเขาไม่ว่างนี่จ๊ะเลยให้พ็อคเก็ตมันนี่เรามาเที่ยวแทน ได้เวลาไปช็อปปิ้งกันแล้ว ” สองอาหลานก็ก้าวออกจากโรงแรมไป เข็มทิพย์ที่อยู่หลังเสาก็ก้าวออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด น้ำตาแทบจะหยดหลังจากที่ฟังบทสนทนาของสองอาหลานเมื่อสักครู่ เธอตัดสินที่จะไม่กลับบ้านแล้วเปลี่ยนทิศทางไปยังคลับของโรงแรมทันทีเพื่อที่จะหาอะไรดื่มย้อมใจให้ลืมเรื่องราวที่ได้ยินมาแม้จะรู้ว่าเมื่อสร่างแล้วความจริงย่อมไม่หนีไปไหน

ขณะที่ก้องภพกำลังขับรถคันหรูเพื่อจะไปงานปาร์ตี้ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งสายได้โทรศัพท์มารายงานแก่เขา

“คุณก้องครับตอนนี้คุณเข็มทิพย์กำลังนั่งดื่มที่คลับของเราครับ ดูจากสีหน้าก็ดูเธอเครียดๆครับ” จากประโยคที่เพิ่งจะได้ฟังเมื่อสักครู่ทำเอาเขาอดแปลกใจไม่ได้ ชายหนุ่มตัดสินใจหักพวงมาลัยรถยนต์เพื่อกลับไปโรงแรมอย่างรวดเร็วทันทีด้วยความเป็นห่วงหญิงสาว ขณะนี้เวลาก็เกือบจะสามทุ่มถ้าหากเป็นเวลาปกติเธอควรจะกลับถึงห้อง เธอมีเรื่องอะไรให้เครียดกันนะ เพียงเท่านี้เจ้าของรถก็เร่งความเร็วรีดแรงม้าให้สมกับที่วิศวกรอุตส่าห์ออกแบบมา

พอจอดรถหน้าโรงแรมก็รีบลงจากรถโยนกุญแจให้พนักงานขับรถไปที่จอดประจำตำแหน่ง ขายาวรีบก้าวไปยังลิฟต์เพื่อไปยังคลับโดยเร็ว เมื่อก้าวเข้ามาในคลับสองตาก็กวาดหาแต่เข็มทิพย์ เธอนั่งอยู่คนเดียวในมือถือแก้วที่ภายในมีน้ำสีอำพันอยู่ก้องภพตรงดิ่งไปหาเธอทันที มือเรียวของเขารีบคว้าแก้วที่เธอกำลังจะยกขึ้นดื่มนั้นทำให้อีกฝ่ายหันมามองอย่างตกใจไม่คาดฝันว่าจะเจอเขา สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความงุนงงและสงสัย ก้องภพปล่อยมือที่คว้าแก้วแล้วถือโอกาสนั่งลงข้างๆหญิงสาว

“ผมขอนั่งด้วยนครับ” ก็ไม่รู้ว่าจะถามเธอเพื่ออะไรในเมื่อนั่งลงไปแล้ว

“ค่ะ” ตอบอะไรไม่ได้นอกจาก ค่ะ ทั้งที่จริงนึกอยากจะนั่งคนเดียวเงียบๆ หนีเสือปะจระเข้เสียแล้วงานนี้
หนีจากสองน้าหลานนั่นมาเจอผู้ชายเจ้าชู้ สวรรค์ทำไมไม่เข้าข้างเธอบ้างนะ แต่ที่จริงแล้วเธอไม่รู้หรอกว่าการที่ก้องภพโผล่มาในคืนนี้นั้นสวรรค์ได้เริ่มเข้าข้างเธอแล้ว

“ทำไมคุณยังไม่กลับบ้าน”

“ฉันอยากหาอะไรดื่ม” ถามคำตอบคำเพื่อให้เขารู้ว่าเธอไม่เต็มใจ มือเรียวงามก็ยกแก้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากหากแต่ของเหลวภายในแก้วไม่ได้เข้าปากเธอเพราะนิ้วเรียวของอีกคนที่อยู่ข้างๆคว้าไว้อีกรอบ คราวนี้เธอหันไปมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจอย่างปิดไม่มิด ครั้งแรกพอให้อภัยได้ แต่นี่ยังจะมาขัดเธออีกครั้งบวกกับความรำคาญเขาและความหงุดหงิดที่เจอสองน้าหลานทั้งยังบทสนนาของคนทั้งคู่นั่นอีกด้วย

แม้จะเห็นสายตาไม่พอใจของอีกฝ่ายแต่เขาไม่อยากให้เธอดื่มคืนนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมเข็มทิพย์มาจมทุกข์อยู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“ทำไมคุณจะต้องมาดื่มอะไรแบบนี้คนเดียวด้วย” ที่ถามเพราะความเป็นห่วงและความอยากรู้

“แล้วจะให้ฉันดื่มกับใครละคะ รู้สึกว่าวันนี้ทำไมของคุณจะเยอะจังเลย ก็ฉันอยากจะดื่มมันผิดหรือไง” ในร่างกายของเธอโดนฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ควบคุมอารมณ์หงุดหงิดไม่ค่อยได้จึงตอบแบบกวนโทสะออกไป

“ก็ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าทำไมคุณอยากดื่ม” เมื่อเธอไม่ตอบก็ถามซ้ำอีกรอบ

“มันเรื่องของฉัน แล้วมือคุณก็ปล่อยแก้วฉันได้แล้วนะคะ” แต่นิ้วเรียวนั่นก็หาได้ปล่อยออกมาหนำซ้ำยังจะแกะมือเธอที่จับแก้วออกอีกด้วย

“บอกเหตุผลคุณมาก่อนแล้วจะให้ดื่ม”

“คิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะมีสิทธิห้ามฉันได้เหรอ”

“ก็ผมเป็นห่วง ถ้าคุณเมาแล้วคุณจะกลับบ้านยังไงล่ะ” นั่นสิถ้าเธอเมาแล้วจะกลับบ้านยังไงล่ะทีนี้ชักเห็นด้วยกับเขาแล้วสิ พอเห็นเธอเงียบเขาจึงพูดต่อ

“คุณจะดื่มต่อก็ได้เดียวผมไปส่งคุณเอง” ไม่แปลกเขาย่อมรู้จักห้องของเธออยู่แล้วก็เขาเป็นเจ้าของห้องนี่

ชายหนุ่มปล่อยมือจากแก้ว เขาอยากอยู่ใกล้ๆเธอและบางทีถ้าเธอเมาเธออาจจะคายเหตุผลที่ดื่มออกมาก็ได้ หลังจากนั้นเธอก็ดื่มเงียบๆอีกแก้วแล้วแก้วเล่าจนกระทั่งเขาสังเกตเห็นหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่งามของเธออย่างเงียบงัน นิ้วเรียวเอื้อมไปเกลี่ยน้ำตาบนแก้มนวลของเธออย่างแผ่วเบา อีกมือค่อยๆโอบเธอมาซบไหล่เพียงเท่านี้น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอีกครั้ง

“ทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้ พวกเขาไม่รักฉันเลยหรือยังไง” คำพูดที่หลุดออกมาอย่างเจ็บช้ำและอู้อี้จากปากบางด้วยความเมา น้ำตายังคงไหลริน

“ผู้ชายไว้ใจไม่เคยได้ หลายใจ ฮือๆ” คุณพ่อใจร้าย วลีนี้ไม่ได้หลุดอกมาจากริมฝีปากงามด้วยส่งผลให้คนที่โอบกอดเธออยู่ถึงกับชะงักและเข้าใจว่าสาเหตุที่เธอมานั่งดื่มคงเป็นเพราะอกหัก ไม่เป็นไรผมจะดามอกให้คุณเอง

“คุณเมามากแล้วกลับกันเถอะ” ร่างสูงใหญ่ค่อยๆประคองหญิงสาวขึ้นแต่พอก้าวเดินขาเรียวงามกลับทรงตัวไม่อยู่เข่าอ่อนไปซะดื้อๆ ทำเอาก้องภพรับเกือบแทบไม่ทัน ดังนั้นจึงตัดสินใจอุ้มร่างบางขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการเดิน สองขายาวก้าวไปยังที่รถเขาจอดอยู่ พนักงานรีบมาช่วยเปิดประตูให้

ภายในรถคันหรูแอร์เย็นฉ่ำสมกับราคารถ ใบหน้านวลหลับพริ้มหากแต่ที่แก้มยังคงมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ ก้องภพจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาเช็ดให้อย่างเบามือก่อนจะออกรถตรงไปยังห้องชุดของเขาที่ขณะนี้คนที่อยู่ข้างกายได้เช่าอยู่

“ใครกันนะทำให้คุณเสียใจได้ขนาดนี้ ทำร้ายคนสวยได้ลงคอ”

ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าเธอเป็นผู้เช่าห้องของเขา เขาก็เก็บคีย์การ์ดสำรองของห้องนั้นไว้ในรถตั้งแต่นั้นมาเผื่อจะได้ใช้ประโยชน์สักวัน และวันนี้ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมาถึง โชคดีจริงๆที่เก็บไว้ในรถ






-----------------
ขออ่านบ่วงที่ 4-5 ได้ที่ shinichi_kid1412b@hotmail.com



goszy
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ม.ค. 2555, 21:40:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ค. 2555, 10:39:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 10254





<< S2บ่วงที่2   S2บ่วงที่4 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account