สองฝั่งรัก
สาวโสดในเมืองใหญ่อย่างกานตีจะทำอย่างไร เมื่อวันหนึ่งชายหนุ่มในฝันที่เธอเคยเฝ้ามองอยู่ฝ่ายเดียวมานาน ได้แวะเวียนเข้ามารู้จัก และดูเหมือนจะรุกเข้าใกล้ตัวและหัวใจของเธอเข้ามาทุกที
โดยมีตัวช่วยเป็นน้องสาวจอมป่วนของเขา ที่เจอกับเพื่อนหนุ่มใกล้ตัวของเธอทีไร เป็นมีเรื่องกันทุกครั้ง
แถมมีอุปสรรคความรักที่เข้ามาหาไม่ได้ขาด ความรักของเขาและเธอจะเป็นเช่นไร...
Tags: รักโรแมนติก,แอบรัก,กานตี,ตรัสวิน,โรส,สาริศ

ตอน: บทที่ 25 ถ้ำเสือ


“ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”

กานตีชะงักเมื่อเดินเลี้ยวออกมาจากห้องน้ำแล้วพบกับผู้ที่ดักรออยู่

“ได้ค่ะ มีอะไรหรือคะ” หญิงสาวถาม นึกสงสัยเหมือนกันว่าคนที่ไม่ได้มีท่าทางสนใจเธอเลยคนนี้ อยู่ๆ จะมามีเรื่องอะไรสนทนาด้วย

“มาเที่ยวที่นี่บ่อยมั้ยคะ” คนอยากคุยด้วยกลับถามไปอย่างนั้น ราวกับถามเรื่องดินฟ้าอากาศ

“เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ” กานตีตอบไปตามตรง คอยดูว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนกันแน่

“คุณป้ากับคุณลุงชวนมาหรือคะ”

“คุณวินชวนมาค่ะ”

“อ๋อ...มิน่าล่ะ” นัทธมนลากเสียงยาว

“ปกติเห็นคุณป้าไม่ค่อยชอบให้ใครเข้านอกออกในบ้านได้ง่ายๆ เลยนึกสงสัยน่ะค่ะ” หญิงสาวว่าต่อ

“คราวนี้คงขัดพี่วินไม่ได้ล่ะมั้งคะ อย่างนัทนี่ที่มาได้บ่อยๆ เพราะเราสนิทกันมานานทั้งครอบครัวแล้วน่ะค่ะ เลยไม่เป็นไร โชคดีที่คุณป้าเอ็นดู ถึงท่านจะเจ้ายศเจ้าอย่างกับคนอื่นแต่กับนัทไม่เป็นเลยค่ะ แต่คุณตี้คงจะอึดอัดหน่อยนะคะ กว่าจะเข้ากับคุณป้าได้สงสัยจะอีกนาน เพราะท่านไม่ค่อยเอ็นดูใครง่ายๆ เท่าไหร่” นัทธมนพูดเหมือนเล่าเรื่องทั่วไปให้ฟังเล่นๆ แต่คนฟังรับสารที่หญิงสาวต้องการจะสื่อได้ดีทีเดียว

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือคนหนึ่ง ถ้าเราเป็นผู้น้อยแล้วเข้าหาท่านอย่างนอบน้อม ท่านคงไม่ใจไม้ไส้ระกำหรอกมั้งคะ” กานตีเอ่ยตอบออกไปเรียบๆ ราวกับไม่รับรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะบอกอะไร

คำพูดของหญิงสาวทำให้นัทธมนที่ตั้งใจจะ ‘ข่ม’ และพูดให้อีกฝ่ายใจแป้ว ต้องระงับใจให้รักษาท่าทีของสุภาพชนเอาไว้ แม้ว่าจะอยากบอกผู้หญิงตรงหน้าเอาตรงๆ ว่าเธอไม่มีอะไรคู่ควรกับลูกชายบ้านนี้แม้สักนิด

จากการที่ได้ยินบทสนทนาของผู้ใหญ่ทั้งสองเมื่อสักครู่ ทำให้นัทธมนพออนุมานได้ว่าผู้หญิงที่ตรัสวินพามาคงมีฐานะทางสังคมด้อยกว่าชายหนุ่มอยู่มากทีเดียว มารดาของเขาถึงได้ไม่ค่อยชอบใจนัก และกริ่งเกรงว่าความแตกต่างของทั้งคู่จะนำมาซึ่งปัญหาในภายหลัง

“ก็อาจจะเป็นไปได้นะคะ ถ้ามีโอกาสได้เข้าหาท่านบ่อยๆ แต่นี่เห็นบอกว่าเพิ่งเคยมาไม่ใช่เหรอคะ”

“ใช่ค่ะ แต่เห็นคุณวินบอกว่าจะชวนมาทานข้าวที่นี่บ่อยๆ นะคะ เพราะคุณแม่ท่านชอบทำอาหาร เลยอยากให้มาฝึกกับท่านบ้าง” กานตีตอบออกไปหน้าตาเฉย นึกอยากลูบจมูกตนเองว่ามันแอบยาวออกมาหรือเปล่าจากการโกหกคำโต

ตรัสวินเคยเล่าก็จริงว่ามารดาของเขาชอบทำอาหาร แต่ประโยคหลังเธอเติมเอาเอง เพราะไม่ชอบท่าทางยกตนข่มท่านของนัทธมนเอาเสียเลย จึงนึกอยากจะตอบโต้เอาบ้าง แม้แต่การที่เรียกมารดาของชายหนุ่มว่า ‘คุณแม่’ ที่ก่อนหน้านี้หญิงสาวไม่กล้าเรียกท่านแบบนั้นมาก่อน

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ คุณวินกับน้องโรสรออยู่ค่ะ” หญิงสาวบอกกับคู่สนทนา ก่อนจะปลีกตัวจากมา ปล่อยให้นัทธมนมองตามมาอย่างไม่พอใจ ที่ความตั้งใจที่จะทำให้อีกฝ่ายลังเลใจในการเข้ามาชิดเชื้อกับคนในบ้านนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ

ส่วนคนที่เดินผละออกมา แม้ว่าจะทำหน้าตาและท่าทางเหมือนไม่ได้แคร์กับคำพูดของนัทธมนสักเท่าไหร่ แต่ภายในใจของหญิงสาวก็ไหวหวั่นอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะท่าทีหลายอย่างของคุณพาณีสนับสนุนคำพูดของหญิงสาวคนนั้นอยู่มาก ที่บอกว่าท่านเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง และหวั่นใจเหลือเกินว่าผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเธอจะสามารถมัดใจของท่านได้เหมือนที่ท่านเอ็นดูคนอย่างนัทธมนหรือไม่

**********

“คิดอะไรอยู่เหรอครับ เห็นเงียบมาตั้งนานแล้ว” ตรัสวินละสายตาจากถนนตรงหน้า หันมาถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบผิดปกติ

“คิดเรื่อยเปื่อยค่ะ” กานตีตอบเลี่ยงๆ คงบอกชายหนุ่มไม่ได้หรอกว่าเธอกำลังคิดถึงมารดาของเขา และบทสนทนาระหว่างเธอและนัทธมน

ตรัสวินเป็นผู้ชาย และความเป็นลูกคงไม่ทำให้เขาเข้าใจความลำบากใจของเธอเกี่ยวกับมารดาของเขา ที่เธอรู้สึกอยู่ตอนนี้มากนัก แต่ถึงเขาจะเข้าใจเธอก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ให้เขาไม่สบายใจไปด้วย เพราะในเมื่อคราวก่อนเขาเป็นฝ่ายที่ตามแก้ปัญหาและทำเพื่อเธอมาแล้ว คราวนี้เธอจึงคิดว่าจะเป็นฝ่ายอดทนและทำใจให้หนักแน่นเข้าไว้ตอบแทนเขาบ้าง

“คิดเรื่องคุณแม่อยู่หรือเปล่า” เขาถามราวกับเดาใจเธอได้ “ขอโทษนะที่อาจจะทำให้คุณอึดอัดใจไปบ้าง ตามประสาคนแก่น่ะครับ ใครมาบ้านก็ต้องซักไซ้ไล่เลียงเป็นธรรมดา คุณอย่าถือสาท่านเลยนะ”

“ไม่ถือหรอกค่ะ ตอนที่คุณไปที่บ้านตี้ อาจจะโดนมากกว่านี้ก็ได้” หญิงสาวรีบบอก

“ผมต้องเตรียมตัวอะไรบ้างเนี่ย” ชายหนุ่มถามปนหัวเราะ

“ใส่กันน็อคไปก็ดีนะคะ เผื่อพ่อจะควงไม้ตะพดออกมาต้อนรับ”

“ต้องใส่เสื้อเกราะกันกระสุนด้วยหรือเปล่า” เขาถามแหยงๆ

“ได้ก็ดีค่ะ” หญิงสาวบอกขำๆ

“พูดจริงๆ นะครับเรื่องคุณแม่ ไม่อยากให้คุณคิดมาก ความจริงท่านเป็นคนใจดีนะ แล้วอยู่ไปนานๆ คุณจะรู้” ชายหนุ่มวกกลับมาพูดเรื่องมารดา

“ไม่แน่นะต่อไปคุณอาจจะเป็นลูกสาวคนโปรดของคุณแม่ไปเลยก็ได้ ผมแน่ใจว่าอย่างคุณทำให้ท่านรักได้ไม่ยากหรอก ขนาดลูกชายของท่านอยู่ใกล้คุณแล้วยังไม่รอด” เขาหยอด

กานตีฟังคำพูดหวานๆ ของเขาแล้วได้แต่อมยิ้มแก้มแดงโดยไม่พูดอะไร ไม่อยากจะบอกว่าเธอตีขลุมเรียกมารดาของเขาว่า ‘คุณแม่’ ไปแล้วเรียบร้อย

**********

“แถวบ้านพี่ตี้นี่อากาศดีนะคะ น่าอยู่จริงๆ” รติรสเปิดกระจกชะโงกหน้าออกไปนอกรถ

“อย่าชะโงกออกไปอย่างนั้น เดี๋ยวก็หัวหายหรอก” พี่ชายปราม

“เค้าดูอยู่หรอกน่า” เด็กสาวเถียงก่อนจะดึงตัวกลับเข้ามา

“ใกล้ถึงแล้วล่ะค่ะ น้องโรสรอแป๊บนึงเดี๋ยวก็ได้สูดอากาศปากช่องสมใจแล้ว” กานตีบอก

“ว่าแต่พ่อไม่ว่าอะไรจริงๆ เหรอ” ภารวีที่นั่งรวมอยู่ในรถหันมาถามเพื่อนสาว เพราะรู้กิตติศัพท์ความหวงลูกสาวของบิดาเพื่อนดี ขนาดว่าคราวก่อนคนที่พามาเป็นแค่เพื่อน ท่านยังทำท่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คราวนี้ถ้าบอกว่าท่านเต็มใจต้อนรับก็ไม่น่าเชื่อแล้ว

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่แม่รับปากว่าจะค่อยพูดให้พ่อเข้าใจล่ะนะ ไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน” กานตีตอบเพื่อนอย่างไม่มั่นใจเช่นกัน

“หวังว่าจากเรื่องคราวก่อนพ่อจะไม่เคืองจนไม่ยอมให้คุณวินเข้าบ้านนะ”

“เรื่องเคืองก็มีอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้จะหายไปแค่ไหนเดี๋ยวก็รู้” หญิงสาวบอกเพื่อน แล้วสบตากับคนขับในกระจกมองหลัง สายตาสุขุมมุ่งมั่นของชายหนุ่มทำให้เธออุ่นใจว่า เขาจะสามารถผ่านด่านคุณพ่อจอมหวงของเธอไปได้ในที่สุด

เมื่อรถของตรัสวินแล่นมาจอดลงที่หน้าบ้าน รติรสเป็นคนแรกที่เปิดประตูกระโดดลงไปยืนด้านล่าง สอดส่ายสายตาไปทั่วอย่างเด็กกระตือรือร้น จนเห็นว่าที่หน้าประตูบ้านมีหญิงวัยกลางคนเดินออกมานั่นล่ะ เด็กสาวจึงหันมาถามกานตี

“นั่นคุณแม่พี่ตี้หรือเปล่าคะ”

“ใช่ค่ะ” กานตีตอบรับ ก่อนจะรีบลงจากรถวิ่งไปกอดเอวมารดาแล้วเอ่ยเสียงอ้อน

“คิดถึงแม่จังค่ะ”

“แหม ลูกคนนี้ มาถึงก็มาอ้อน ไม่อายเพื่อนบ้างเหรอ” มารดาเอ่ยปนหัวเราะ มองเลยลูกสาวไปที่สามหนุ่มสาวที่เดินตามกันเข้ามา เห็นสายตาของชายหนุ่มหนึ่งเดียวมองมาที่ลูกสาวด้วยประกายแฝงความเอ็นดู ก็เดาได้ว่าเขาจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนที่ลูกสาวของท่านจะพามา ‘เปิดตัว’ นั่นเอง

หนุ่มสาวทั้งสามทำความเคารพโดยไม่รอให้แนะนำ คุณรศนามารดาของกานตีรับไหว้แล้วเอ่ยทักทายกับภารวีที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว

“เป็นอย่างไรบ้างหนูก้อย แล้วสองคนนี้คือคุณตรัสวินกับน้องรติรสสินะ” ท่านถามตามที่ได้รู้ขอมูลมาจากลูกสาวที่โทรมาก่อนหน้านี้

“เรียกวินเฉยๆ ดีกว่าครับคุณแม่ นี่น้องสาวผมยายโรสครับ” ตรัสวินรีบบอก สรรพนามที่ชายหนุ่มเรียกขานทำให้ผู้ฟังหลายคนอมยิ้ม รวมทั้งมารดาของกานตีด้วย นึกอยากเอ่ยแซวลูกสาวที่ยังกอดเอวท่านอยู่ หลังจากที่ท่านเพียรถามมาหลายครั้งว่าเมื่อไหร่จะพาใครมาแนะนำสักที แล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้

“เข้ามาในบ้านกันก่อนจ๊ะ ดื่มน้ำดื่มท่าให้หายเหนื่อย”

“พ่อล่ะคะ” กานตีถามเมื่อไม่เห็นเงาของผู้เป็นบิดา

“ไปอยู่ที่คอกวัวโน่นแน่ะ เดี๋ยวสักพักก็คงกลับมาหรอก” มารดาบอกแล้วต้อนทุกคนให้เข้าบ้าน



“เราไม่ไปหาคุณพ่อคุณกันก่อนหรือ” ตรัสวินถามกานตีหลังจากที่เข้าบ้าน และเก็บข้าวของกันแล้วเรียบร้อย แต่ยังไม่มีวี่แววบิดาของหญิงสาว

“เดี๋ยวคงจะมามั้งคะ รออยู่ที่นี่ก็ได้ ใจร้อนจัง เดี๋ยวพ่อก็ต้องกลับมาทานข้าวเที่ยงอยู่แล้วล่ะค่ะ”

“นั่นสิพี่วิน ถ้าจะต้องโดนไม้ตะพด ก็โดนช้าหน่อยไม่ดีกว่าหรือ” น้องสาวที่ฟังอยู่ออกความเห็น ที่ไม่ช่วยให้ผู้เป็นพี่ชายใจชื้นเพิ่มขึ้นเลยสักนิด

“ไม่ให้กำลังใจเลยนะเรา” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปผลักศีรษะน้องสาว ที่นั่งหัวเราะคิกคักราวกับไม่รู้ความกังวลใจของเขาในการเผชิญหน้ากับบิดาของกานตี ซึ่งเขาคิดว่าไหนๆ ก็ต้องเจออยู่แล้ว ได้เจอเร็วๆ จะได้รู้ว่าท่านจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ดีกว่ามานั่งกังวลเพื่อรอเวลาอยู่อย่างนี้

ด่านมารดาของกานตีไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ท่านต้อนรับขับสู้เขาและน้องสาวตลอดจนภารวีอย่างไม่มีอาการรังเกียจรังงอน ทั้งยังยอมให้เขาเรียกแม่อย่างใจดี เหลือก็แต่สามีของท่านนี่ล่ะ ที่เป็นด่านอรหันต์ที่เขาต้องผ่านไปให้ได้ ยังไม่รู้เลยว่าจะเจอการต้อนรับแบบไหน แต่คงไม่ใช่ความยินดีแน่ล่ะ ไม่อย่างนั้นท่านคงอยู่รอต้อนรับอยู่ที่บ้าน ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าลูกสาวและอาคันตุกะจะมาถึงเวลาประมาณนี้

“เดี๋ยวนั่งเล่นกันอยู่แถวนี้ก่อนนะคะ ตี้ขอไปช่วยแม่ดูในครัวก่อน” กานตีขยับลุกและบอกกับทุกคน

“งั้นโรสไปช่วยด้วยดีกว่า” รติรสบอก พลอยทำให้ภารวีลุกตามไปด้วย จึงเหลือชายหนุ่มนั่งใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ รอชะตากรรมที่จะมาถึงอยู่เพียงคนเดียว เริ่มเข้าใจแล้วว่าตอนที่พากานตีไปที่บ้านครั้งแรก หญิงสาวรู้สึกอย่างไร

**********

“สวัสดีครับ”

ชายวัยเกษียณหน้าดุที่เดินเข้ามาในบ้าน ทำให้ตรัสวินที่นั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นคนเดียวรีบลุกขึ้น แล้วทำความเคารพโดยไม่รอให้ใครมาแนะนำ เพราะแน่ใจว่าต้องเป็นบิดาของคนรักอย่างแน่นอน

“คงเป็นคุณพ่อของตี้สินะครับ” ชายหนุ่มถามเก้อๆ เมื่อผู้ที่เขาเพิ่งยกมือไหว้ทำหน้าเฉย แต่จ้องมองเขาด้วยสายตาคมปลาบ ที่สามารถทำให้หนุ่มนักบริหารที่ปกครองลูกน้องมานักต่อนักเกิดอาการเย็นวาบๆ ได้

“คุณเป็นใคร” เสียงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน แทบทำให้ตรัสวินคอย่น

“ผมตรัสวินครับ มากับตี้ แต่ตอนนี้ตี้อยู่ในครัวกับคุณแม่ คุณพ่อมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวผมเอาน้ำให้นะครับ” ชายหนุ่มอาสา

“ไม่ต้อง! นี่บ้านของฉัน แล้วฉันก็ไม่เคยมีลูกชาย ไม่ต้องเรียกพ่อ”

เสียงน้องๆ ฟ้าผ่าของคุณพ่อหน้าดุคงจะดังเข้าไปถึงในครัว เพราะสาวๆ เมียงมองออกมาดู คุณรศนารีบเดินออกมาหาสามีที่ยังยืนเผชิญหน้ากับตรัสวินอยู่กลางห้อง โดยมีลูกสาวเดินตามออกมาติดๆ

“คุณมาแล้วหรือคะ”

“สวัสดีค่ะพ่อ คิดถึงจัง” กานตีแสดงกิริยาอย่างที่เคยทำยามกลับมาถึงบ้าน โดยเข้าไปโอบเอวผู้เป็นบิดา เมื่อเห็นท่านยังมองไปที่ชายหนุ่มอีกคนในห้อง หญิงสาวก็เอ่ยแนะนำ

“นี่คุณตรัสวินค่ะพ่อ ที่ตี้โทรมาบอกว่าจะมาด้วย ส่วนนั่นน้องโรส น้องสาวของคุณวินค่ะ”

สิ้นคำแนะนำของหญิงสาวตรัสวินก็ยกมือไหว้อีกรอบ ส่วนรติรสก็เข้ามายืนข้างๆ พี่ชายแล้วยกมือไหว้เช่นกัน พร้อมส่งรอยยิ้มประจบ เหมือนกับที่เคยทำกับบิดามารดาของตนเองยามต้องการจะขออะไร

“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณลุงไปดูวัวมาหรือคะ คงจะเหนื่อย ให้โรสเอาน้ำให้ไหมคะ” เด็กสาวถามเสียงใส

ชะรอยว่าทั้งน้ำเสียงและรอยยิ้มของรติรสจะทำให้คุณคุณสพลบิดาของกานตีรู้สึกเอ็นดูได้ เพราะสีหน้าของท่านที่ตึงอยู่เมื่อสักครู่คลายลงเล็กน้อยระหว่างที่รับไหว้ แต่คนที่ท่านทักก่อนคือภารวีคนที่เคยมาที่นี่บ่อยๆ

“เดี๋ยวคุณไปนั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ กับข้าวกำลังจะเสร็จแล้ว หรือจะไปลูบหน้าลูบตาก่อนก็ได้” ผู้เป็นภรรยาบอก

“เดี๋ยวตี้เอาน้ำให้ค่ะพ่อ” กานตีรีบบอกแล้วเดินไปรินน้ำมาให้ หวังว่าน้ำเย็นๆ คงช่วยดับร้อนและทำให้ท่านอารมณ์ดีขึ้นได้บ้าง

“ขอบใจ เป็นไงเรา ไม่ได้มาบ้านตั้งหลายอาทิตย์” บิดารับน้ำมาดื่มแล้วเอ่ยถาม

“สบายดีค่ะพ่อ แล้วพ่อล่ะความดันขึ้นบ้างหรือเปล่าเนี่ย” ลูกสาวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะได้โทรศัพท์ถามไถ่กันเป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม

“ไม่หรอก แม่เราเค้ากำชับเรื่องกินยาแล้วก็อาหารเป็นประจำ ขึ้นก็แปลกแล้ว” คนเป็นบิดาตอบเหมือนบ่น คงเพราะเบื่ออาหารหลีกเลี่ยงโรคภัยที่ภรรยาจัดให้รับประทานอยู่เป็นประจำ นานๆ ครั้งถึงจะได้ตามใจปากสักครั้งหนึ่ง

“ดีค่ะ แล้วก็ต้องทำใจให้สบายด้วยนะคะ อย่าเครียดนะความดันจะได้คงที่” ลูกสาวบอกมาอีก ทำให้คนฟังเหล่มองไปที่อาคันตุกะที่มาเยือนถึงถิ่น ราวกับจะบอกลูกสาวว่า ถ้าความดันของท่านจะขึ้นก็เพราะคนที่พามานั่นแหละ

“งั้นพ่อไปล้างหน้าก่อนดีกว่า จะได้มาทานข้าว” กานตีรุนหลังผู้เป็นบิดาให้เดินไปทางห้องน้ำ พอท่านหายเข้าไปในนั้นแล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หันมาหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางห้องด้วยสายตาให้กำลังใจ ตรัสวินมองตอบแล้วยิ้มให้ เป็นเชิงบอกว่าเขายังสู้อยู่ ไม่ได้ถอยจากอาการของบิดาของหญิงสาวเมื่อสักครู่

“มาเด็กๆ ช่วยกันยกกับข้าวออกมากันเถอะ” คุณรศนาบอกกับสาวๆ หญิงสาวจึงเดินตามผู้เป็นมารดาเข้าไปในครัว แต่คราวนี้ตรัสวินตามเข้าไปด้วย เพื่อช่วยยกสำรับกับข้าวออกมาวางที่โต๊ะ ดังนั้นเมื่อคุณสพลเรียบร้อยออกมาจากห้องน้ำ กับข้าวจึงพร้อมพรักรออยู่แล้ว

“มาค่ะ ทานข้าวได้แล้ว เด็กๆ รออยู่คงจะหิวกันแล้ว” ภรรยาบอก ท่านจึงเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะ จากนั้นคนอื่นๆ ก็นั่งตาม แต่บังเอิญว่าคนที่ได้นั่งปลายโต๊ะขนาดหกที่นั่งกลับเป็นตรัสวินพอดี ทำให้ตลอดมื้ออาหารนั้น ชายหนุ่มต้องนั่งหันหน้าเผชิญกับบิดาของหญิงสาวคนรักอย่างช่วยไม่ได้

แต่คนที่ทำให้มื้ออาหารมีชีวิตชีวาและลดอาการตึงเครียดได้กลับไม่ใช่เจ้าบ้าน เพราะกานตีก็ออกอาการเกรงๆ บิดาอยู่จากการที่พาชายหนุ่มมา ทำให้คนที่คอยชวนคนอื่นคุยมากที่สุดเป็นรติรส ที่ระหว่างทานอาหารก็สอบถามเรื่องนั้นเรื่องนี้กับเจ้าบ้าน แม้ส่วนใหญ่คนที่ตอบคือมารดาของกานตี แต่มีบางครั้งที่เด็กสาวเจาะจงถามกับผู้ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ทำให้ท่านไม่อาจนั่งนิ่งเงียบได้ตลอด ถึงแม้จะยังสงวนท่าทีอยู่มาก แต่ก็ยอมตอบคำถามต่างๆ ของเด็กสาว

หลังมื้ออาหารไม่นานบิดาของกานตีก็เตรียมที่จะออกไปที่คอกวัวอีก เพื่อดูคนที่มาช่วยงานทำความสะอาดคอกวัว และโรงจัดเก็บอาหารสัตว์

ตรัสวินที่ได้ยินดังนั้นก็อาสาจะขอตามไปด้วย เนื่องจากต้องการอยู่ใกล้ชิดบิดาของคนรัก เพื่อสร้างความสนิทสนมและทำให้ท่านยอมรับในตัวเขาให้ได้ อีกทั้งเพื่อหาโอกาสที่จะได้พูดคุยเพื่ออธิบายและขอโทษต่อข่าวคราวเสียหายต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเขาและลูกสาวของท่าน เพราะตั้งแต่มาเขาก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านเป็นเรื่องเป็นราวเลย

ในชั้นแรกคุณสพลตั้งท่าจะปฏิเสธตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมาคำแรกแล้ว แต่ไม่รู้อย่างไร ในที่สุดท่านก็พยักหน้าเมินๆเป็นเชิงอนุญาต แล้วก็เดินดุ่มออกไปโดยไม่รอคนที่ขอตามไปด้วย ปล่อยให้เขาจ้ำตามมาข้างหลัง ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงเป็นใยของคนที่เหลือ เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร

กานตีนึกอยากตามไปดูเหมือนกันว่าระหว่างชายต่างวัยทั้งสองที่เดินตามกันไปนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่เกรงจะยิ่งทำให้บิดาไม่พอใจหนักขึ้น ที่เธอห่วงชายหนุ่มเกินเหตุ ความจริงเธอก็ห่วงทั้งคู่นั่นแหละ ห่วงบิดาว่าจะโมโหโทโสจนความดันขึ้น ห่วงชายหนุ่มว่าจะโดนท่านแสดงอะไรใส่บ้าง แต่เมื่อตัดสินใจที่จะให้เขาลองเอาชนะใจของท่านด้วยตัวเอง จึงต้องระงับความอยากตามไปไว้แค่นั้น ได้แต่แอบส่งสายตาเป็นกำลังให้

คนที่อยากตามไปอีกคนคือรติรส ที่อยากไปดูอะไรในฟาร์มเล็กๆ นั้นบ้าง แต่ก็ตัดใจ เพื่อเปิดโอกาสให้พี่ชายได้อยู่กับคุณสพลตามลำพัง ยังมีเวลาอีกเยอะที่จะไปสำรวจรอบๆ รอเย็นๆ ก็ยังไม่สาย

**********

คุณ ปอแก้ว : ตอนนี้คุณแม่ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจเลยค่ะ ^^

คุณ Auuu : ถูกต้องนะค้าบ

คุณ pattisa : รายนี้ไม่เท่าไรหรอกค่า

คุณ agentaja : ใช่แล้วค่า

คุณ เดิมเดิม : นั่นสิเนาะ เป็นเราจะไม่ยอมถอยเลย อิอิ

คุณ เด็กหญิงม่อน : กำลังเขียนตอนนั้นอยู่พอดี ^^

คุณ nunoi : จริงๆ คุณแม่ก็ไม่ร้ายกาจมากเท่าไรนะคะ แค่คนแก่หัวดื้อแค่นั้นเอง

คุณ Zomiie : ขอบคุณค่า

คุณ หมูอ้วน : ตอนนี้เฮียวินต้องมาเคลียร์กับคุณพ่อแทนแล้วล่ะค่า

คุณ pseudolife : งานนี้กะให้น้องโรสเป็นกองหนุนตั้งแต่แรกเลยค่ะ เลยต้องให้พี่น้องสนิทกันมากหน่อย

คุณ aom : ตอนนี้ต้องบอกคุณวินสู้ๆ ฮ่าฮ่า

คุณ mhengjhy : สารภาพว่าแอบนั่งสะกดชื่ออยู่ตั้งนาน แต่ยังแปลไม่ออก 55

คุณ goldensun : ถูกต้องแล้วค่า ตอนนี้ถึงด่านคุณพ่อ อิอิ ไปทีละเสต็ป





กานตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 เม.ย. 2555, 14:56:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 เม.ย. 2555, 14:56:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2126





<< บทที่ 4 ชิดใกล้   
ปอแก้ว 20 เม.ย. 2555, 16:49:30 น.
เฮียวินคงรู้สึกร้อนๆหนาวๆไม่น้อย อิ อิ
แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูโรสกับหนูตี้ช่วย ;)


goldensun 20 เม.ย. 2555, 18:50:28 น.
คุณพ่อหวงลูกสาว คงต้องเอาความจริงใจเข้าสู้ ส่วนคุณแม่ไม่ปลื้มนี่สิ จะเอาอะไรชนดีคะ จะให้ฐานะดีทันตาเห็นคงไม่ได้ เหลือแต่ความอ่อนน้อมมั้งคะ เอาใจช่วยทั้งคู่เลย โดยเฉพาะตี้ที่เจอหลายด่านเหลือเกิน


เดิมเดิม 20 เม.ย. 2555, 19:29:32 น.
พี่วินสู้ๆ


Auuuu 20 เม.ย. 2555, 19:42:37 น.
แอบฮาคุณพระเอกเล็กน้อย เก่งมากมาย เจอว่าที่พ่อตาแล้วแอบตื่นเต้น เอิ๊กๆๆ


nunoi 20 เม.ย. 2555, 20:07:57 น.
ต้องต่อสู้กันทั้งคู่เลยน่ะ พี่วิน กะ หนูตี้
ดีนะมีตัวช่วยเป็นหนูโรส อ่ะ น่ารักจริงๆ น้องสาวคนนี้


agentaja 20 เม.ย. 2555, 21:00:18 น.
พ่อตากะแม่สามีใครจะเข้มกว่ากัน


mhengjhy 20 เม.ย. 2555, 21:31:47 น.
คณวินสู้ๆ อย่ายอมแพ้คุณพ่อเชียว


pseudolife 20 เม.ย. 2555, 22:38:25 น.
น้องโรสนี่ไปไหนใครก็เอ็นดูนะคะ
คุณวินสู้ๆ น้า


pattisa 21 เม.ย. 2555, 00:13:16 น.
กานตีเเอบร้ายเงียบนะเนี่ย อิิิอิ


คิมหันตุ์ 21 เม.ย. 2555, 00:50:45 น.
เสียวแว๊บบบบแทนคุณวิน เลยตอนป๊ะหน้ากันครั้งแรก


หมูอ้วน 21 เม.ย. 2555, 14:13:26 น.
เฮียวินจะผ่านด่านมั้ยหนอ??


เด็กหญิงม่อน 21 เม.ย. 2555, 14:41:18 น.
เฮียวิน vs ว่าที่พ่อตา ใครจะชนะกันนะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account