ลิลลี่สีเพลิง

Tags: โรแมนติก-ดราม่า

ตอน: เราพบกันแล้วนะคะ...1

‘I have died everyday waiting for you
Darling don’t be afraid I have loved you
For a thousand years
I love you for a thousand more’
เวลา 20.34 น.
เสียงเพลง A thousand years กำลังคลอเบาๆ ทำให้ฉันนึกถึง ‘เขา’ คนนั้นอีกแล้ว ผู้ชายที่ฉันพบเจอเมื่อสามอาทิตย์ก่อนในขณะนั่งทอดสายตามองดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงบนท้องฟ้ากว้างอย่างเหงาหงอย เขามาพร้อมกับฮาร์เลย์ เดวิดสันสีเงินสุดเปรี้ยวที่มีเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มอันเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าแสงไฟริมทางจะสาดจับใบหน้าเขาได้ไม่ง่ายนักเพราะความเร็วที่แล่นผ่าน แต่จากสายตาอันคมกริบดุจเหยี่ยวของฉัน (เขาไว้ใช้กับผู้ชายไม่ใช่หรือ ยัยเอลย่า!) ฉันก็รู้ได้อย่างมั่นใจเลยว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา หล่อเหลายิ่งกว่าพระเอกสุดฮอตบางคนของฮอลลีวูดเสียอีก
ฉันกำลังเป็นสาวใจแตกเข้าไปทุกที ฉันรู้ตัวเองดี แต่พระผู้เป็นเจ้าขา...จะมีสิ่งใดเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจดวงน้อยๆอันเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างดวงนี้ได้ดีเท่ากับ ‘ความรัก’ล่ะคะ
แม่บอกว่า ความรักก็เหมือนกับอากาศที่ขาดไม่ได้ และท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากเราต้องแย่งชิงมาด้วยซ้ำ แต่สำหรับฉันไม่เคยคิดว่าความรักคือการแย่งชิงและจำเป็นจะต้องชิงมาด้วย ฉันคิดว่าเพียงแค่เรายื่นมือน้อยๆไปสัมผัสมันอย่างนุ่มนวลเอาอกเอาใจ ความรักก็จะเป็นของเรา
ซึ่งฉันคิดว่าจะลองใช้กับชายหนุ่มเจ้าของฮาร์เลย์สุดเปรี้ยวคันนี้อีกครั้งเป็นครั้งที่สาม และหวังว่าครั้งนี้มันจะได้ผลที่ดีนะ ถึงแม้ว่า...อาจจะไม่ดีต่อเขานัก เพราะ...’
เสียงเครื่องยนต์สองสูบดังกระหึ่มผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่างที่เลื่อนขึ้นรับลม ทำให้มือเรียวสวยสีขาวผ่องวางปากกา รีบจับบางสิ่งบางอย่างบนโต๊ะเหมือนอย่างที่เคยทำในสองอาทิตย์ก่อน หัวใจเต้นตึกตัก ขณะกระวีกระวาดขึ้นเตียงนอนแล้วคลานเข้าประชิดหน้าต่าง ชะโงกหน้าออกไปเกือบสุดตัว นับจังหวะในใจขณะสายตาจับจ้องแน่วแน่กับ FLS TF13 Softail Fat Boy lo ที่กำลังทะยานผ่านหน้าบ้านของเธอด้วยความเร็วปานกลาง
และเธอก็ทำในสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาแล้วสองครั้งสองคราแต่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างตื่นเต้นแกมแปลกใจในตัวเอง!
...ผ้าเช็ดหน้าเนื้อบางร่วงพลิ้วลงสู่ท้องถนน...
และมันได้ผลเป็นครั้งแรก!
“บ้าเอ๊ย!!!” เสียงสบถอย่างหยาบคายดังลั่น ตามมาด้วยเสียงโลหะหนักกระแทกพื้นอย่างดัง และเสียงครูดของโลหะที่ไถลไปตามพื้นถนนดังแหลมยาวจนแสบแก้วหู
อิศราวดียกมือปิดตา หวาดเสียวที่จะมองภาพเหตุการณ์ระทึกใจทั้งๆที่ตัวเองเป็นผู้ก่อให้มันเกิดด้วยซ้ำถ้าไม่ใช่เพราะผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่เธอกะจังหวะโยนลงไปอย่างแม่นยำ ลอยไปปิดหน้าตาของชายคนนั้นเต็มๆ
ภาวนาต่อเทพยดาทั้งปวงขออย่าให้เขาเป็นอะไรไป แค่เจ็บเล็กน้อยก็พอ!
“ไอ้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้อีกแล้ว...โว้ย...ทำไมคืนนี้ถึงหลบพลาดวะ!?” ชายผู้เคราะห์ร้ายเพราะแผน ‘ยื่นมือน้อยๆสัมผัสความรัก’ ของสาวเจ้าขยุ้มผ้าเช็ดหน้ากลิ่นหอมออกจากใบหน้าอย่างโมโหสุดขีด อยากจะฉีกกระชากผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ให้ขาดกระจุยแล้วค้นหาตัวต้นเหตุให้พบ เพื่อสั่งสอนแบบซัดไม่เลี้ยง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนอย่างเขาได้เห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ลอยลงมาจากหน้าต่างบ้านใดสักหลังเวลาที่เขาขับเพื่อนยากผ่านมาทางละแวกนี้
เจซาเร็ตถอนหายใจด้วยความโมโหแรงและลึกเกือบสิบนาที เขวี้ยงผ้าเช็ดหน้าบ้าๆทิ้งไม่สนใจไยดี ก่อนจะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นยืนอย่างยากเย็น โชคดีที่ขาไม่หัก หัวไม่กระแทกพื้น มีเพียงแผ่นหลังที่รับน้ำหนักร่างบดอัดพื้นคอนกรีตเต็มๆเพราะตอนรถมอเตอร์ไซค์ล้มเขาเซฟตัวอย่างดี แต่ถึงกระนั้น...ร่างแกร่งก็ถึงกับกลิ้งไถลไปกับพื้นเป็นทางยาวตามแรงเหวี่ยงและความแรงของรถ จนกระทั่ง...เนื้อตัวอัดกระแทกกับขอบฟุตปาธเต็มแรง อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันจึงยุติลง
เจซาเร็ตเดินกระโผลกกระเผลกตรงไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันเก่งซึ่งสิ้นฤทธิ์ เขาพยายามจับแฮนด์รถแล้วยกมันขึ้นตั้งด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ไม่แคร์กับความเจ็บแสบแปลบๆที่แผ่นหลัง หัวเข่าและหน้าแข้ง เรียวหน้าคมคายบึ้งตึง หงุดหงิด งุ่นง่าน อยากหาตัวเจ้าของผ้าเช็ดหน้าชะมัดเลยโว้ย ถ้าเจอจะบีบคอให้ตายคาที่เลยจริงๆ พับผ่าเถอะ!!!
“ขอโทษค่ะ มิสเตอร์...!!!”
โอ...ก็อด ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดเขาก็ได้รู้จักเจ้าของผ้าเช็ดหน้างี่เง่านี้จนได้! ใบหน้าหล่อเหลาเบนไปตามทิศทางเสียง ดวงตาขุ่นมัวสีทองสุกปลั่งตวัดมองไปยังหน้าต่างบานหนึ่งที่หันเข้าหาท้องถนนของบ้านหลังใหญ่ขนาดคฤหาสน์แต่จัดได้ว่าเล็กที่สุดในชุมชนเล็กๆอย่าง ย่านแมกคลีน
แล้วเขาก็เห็น...เทพธิดา!
อิศราวดีกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หลังเปล่งเสียงขอโทษออกไป แม้จะดีใจที่ได้พูดคุยกับชายแปลกหน้าที่เฝ้าหลงรัก แต่การได้เห็นเขาเจ็บตัวมากขนาดนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่พึงปรารถนาเลยแม้แต่น้อย
แล้วชายคนนั้นก็หันหน้ามามองเธอ แต่ให้ตายสิ...เรือนผมสีดำยาวสลวยที่ตกลงมาเบื้องหน้าตามการก้มศีรษะลงมองเขา บดบังสายตาเธอให้เห็นวงหน้าเขาไม่ถนัดนัก หญิงสาวจึงจัดการตวัดศีรษะเพื่อให้พวงผมยาวปรกตาด้านหนึ่งร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพวงผมอีกฝั่ง เพื่อให้เห็นเขาได้เต็มตา ดังนั้น...วงหน้าหวานคมรูปไข่สีขาวอมชมพูจึงแจ่มกระจ่างในสายตาของคนที่กำลังมองขึ้นมาอย่างโกรธเกรี้ยว ท่ามกลางแสงไฟจากห้องนอนของเธอผู้นั้น แสงสลัวของไฟริมทาง และแสงเพียงน้อยนิดของพระจันทร์เสี้ยว แต่ถึงกระนั้น...เจซาเร็ตก็แทบลืมหายใจกับความสวยงามประหนึ่งศิลปินนามอุโฆษปั้นแต่ง
“ฉันเสียใจจริงๆค่ะ มิสเตอร์ พอดีลมมันพัดแรงมากจนผ้าเช็ดหน้าฉันปลิวออกไป ฉันคว้าไว้ไม่ทันจริงๆค่ะ” เสียงหวานใสเอ่ยตะโกน
ลมมันพัดแรงอย่างนั้นเหรอ..ไม่รู้หรอกเพราะตอนขี่เจ้าซิลเวอร์ สปารคเคิล...สายลมก็อยู่รอบกายตลอด
คว้าไว้ไม่ทันกระนั้นหรือ...เจ้าหล่อนจะไม่สามารถคว้าผ้าเช็ดหน้าตัวเองได้ทุกครั้งที่เขาขี่เจ้าซิลเวอร์ สปารคเคิลผ่านมาครั้งละอาทิตย์อย่างนั้นหรือ
เทพธิดาตนนี้โกหก...! แต่ทำไมผ้าเช็ดหน้าสีขาวกรุ่นกลิ่นหอมที่ยังติดจมูกจะต้องร่วงปลิวมาทุกครั้งที่เขาขี่เจ้าซิลเวอร์ สปารคเคิลผ่านมาด้วยล่ะ นี่แหละ...ที่เขาสงสัย!?
แต่สิ่งหนึ่งที่เจซาเร็ตไม่รู้สึกตัวเลยนั้น คือเขาเลิกคิดที่จะบีบคอเจ้าของผ้าเช็ดหน้าไปโดยปริยายเพียงแค่ได้เห็นวงหน้าขาวกระจ่างในระยะห่างกันมาก ท่ามกลางแสงเรืองรองอันน้อยนิด
“เธอต้องรับผิดชอบ” เขาตะโกนขึ้นบอกอย่างหัวเสีย เท้าสะเอวสบดวงตากลมโตที่ดูหวาดหวั่น แต่มันแฝงบางสิ่งบางอย่างที่ทำเอาเขาคันหัวใจยิบๆ แม่เทพธิดา...กำลังหัวเราะขำด้วยใช่ไหม แม้ความคิดนี้จะทำให้ไม่สบอารมณ์มากหากความโกรธก็เจือจางลงโดยไม่รู้ตัว
“รอสักครู่นะคะ มิสเตอร์ ฉันจะลงไปเจรจากับคุณเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ” อิศราวดีหยิบเสื้อคลุมผ้าไหมขึ้นมาสวม แล้วกระวีกระวาดออกจากห้อง หัวใจเต้นแรงมากกว่าเดิมที่จะได้เผชิญหน้าบุรุษผู้นี้ตัวต่อตัว ได้เห็นดวงหน้าเขาชัดขึ้น ซึ่งเธออยากจะรู้เหลือเกินว่าเขาจะหล่อเหลาสมกับที่ได้จินตนาการไว้จากการได้เห็นหน้าเขาห่างๆมาตลอดสามอาทิตย์หรือไม่
วันนี้คุณตานอนพักที่โรงแรมเหมือนทุกครั้ง ผู้หญิงที่เรียบร้อยราวผ้าพับไว้อย่างอิศราวดีจึงกล้ากระทำเรื่องบ้าบอคอแตกนี้ยังไงล่ะ!
ไม่ถึงห้านาทีอิศราวดีก็เปิดประตูรั้วเหล็กดัดสูงออกมา รั้วนี้จะได้รับการทาสีใหม่ทุกเดือน ก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มที่ยืนทำหน้าบึ้งห่างออกไปไม่กี่เมตร ขาทั้งสองของเธอสั่นเล็กน้อย หัวใจก็เต้นโครมครามยิ่งกว่าเดิม ยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็แทบจะหายใจไม่ออกลงทุกขณะ ตื่นเต้นสุดขีดจริงๆ!
เจซาเร็ตมองร่างเพรียวระหงที่เดินก้าวเร็วๆมาหา ตาไม่กระพริบ ยิ่งเธอเข้ามาใกล้เท่าไหร่ วงหน้าหวานคมก็เฉิดฉายโดดเด่นต่อสายตาเหมือนโรงละครคลี่ผ้าม่านหนาหนักออกเพื่อเปิดการแสดง รูปร่างภายใต้เสื้อคลุมสีขาวของเธออ้อนแอ้นอรชร สมส่วน แต่ในความสมส่วนก็เย้ายวนเขาด้วยขนาดที่เกินพอดีตัว ครั้นเจซาเร็ตรู้สึกว่าเผลอจ้องส่วนนั้นมากเกินไป เขาก็รีบเลื่อนสายตาขึ้นมองดวงหน้างดงามอีกครั้ง ทั้งๆที่รู้สึกหูร้อนผ่าวๆราวโดนน้ำร้อนลวก
แล้วเธอก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า...เทพธิดาจากสวนเอเดน สวยจนเขาแทบลืมหายใจ
“คุณจะให้ฉันชดใช้ค่าเสียหายยังไงคะ?” เสียงของเจ้าหล่อนหวานเสนาะหู แต่เขาจะหลงใหลไปกับเปลือกอันแสนสวยนี้ไม่ได้ เจ้าหล่อนเป็นสาเหตุของการเจ็บตัวของเขานะว้อย!
“ซ่อมรถผมให้เหมือนเดิมเป๊ะๆ ไร้รอยบุบ สีถลอก หรือแม้แต่รอยขีดข่วนเท่าไรฝุ่น” เจซาเร็ตสั่งอย่างอหังการ์
“ฉันไม่มีเงินหรอกค่ะ” อิศราวดียิ้มหวานเจี๊ยบ สบประสานสายตาคมกล้าอย่างไม่นึกกลัว ทั้งๆที่ใจเริ่มฝ่อเมื่อเห็นดวงตาสีทองสุกปลั่งเข้มขึ้นจนเกือบแดง
“คุณจะไม่รับผิดชอบ...งั้นสิ” เจซาเร็ตชักเหลืออด ยิ่งเห็นหญิงสาวตรงหน้าตอบปฏิเสธด้วยรอยยิ้มใสซื่อ เขาก็เริ่มรู้สึกว่า เจ้าหล่อน ‘ร้ายเดียงสา’
“เปล่านะคะ...ฉันไม่มีเงินจริงๆค่ะ ให้ฉันชดใช้ค่าเสียหายให้คุณด้วยวิธีใดก็ได้ได้ไหมคะ” เจ้าหล่อนบอกอย่างร้อนรน ลูกแก้วสีม่วงเข้มสื่อตามคำพูดของเธอจริงๆ เขาหรี่ตาลงมองอย่างโมโห
“อยู่ย่านคนรวยแบบแมกคลีนเนี่ยนะ ไม่มีเงิน”
“ฉันไม่มีเงินจริงๆค่ะ ฉันยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย” อิศราวดีส่ายหน้า มองเขาอย่างวิงวอน
“งั้นก็ออกไปทำงานพิเศษหาเงินมาใช้ให้ฉันภายในสองอาทิตย์”
“คุณตาไม่เคยให้ฉันออกไปทำงานที่ไหนค่ะ”
“พระเจ้า...เพิ่งเคยเห็นครอบครัวอเมริกันที่โอ๋ลูกจ๋าแบบนี้ พับผ่าสิ!” เจซาเร็ตเหวี่ยงแขนขึ้นกลางอากาศ หัวเสียสุดๆ เตะเท้าไล่ฝุ่นไปมา เจ้าหล่อนคิดว่าเสนอตัวช่วยเหลือเขาด้วยวิธีอื่นแล้ว เขาจะต้องยอมรับอย่างเต็มใจด้วยหรือไง ถ้าเขาเป็นพวกหื่นกามล่าสวาทเหมือนพวกพ้อง ป่านนี้คงขอนอนกับเธอไปแล้วมั้ง ในเมื่อเธอบอกเองว่าให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วยวีธีใดก็ได้ เขาไม่มักมากพอที่จะกระโดดขึ้นเตียงกับเจ้าหล่อนแล้วทิ้งให้เพื่อนยากอย่างซิลเวอร์ สปารคเคิลต้องอัปลักษณ์ไปแบบนี้หรอกนะ...
“ฉันไม่มีเงินจริงๆค่ะ มิสเตอร์...แต่ฉัน เอ่อ...สามารถชดเชยด้วยการเป็นคนรักที่ดีของมิสเตอร์ได้นะคะ” อิศราวดีบอกอย่างเหนียมอาย บีบมือบางที่สั่นระริกเพราะความประหม่า
เจซาเร็ตตาโตเท่าไข่ห่าน แม่เทพธิดา...ไม่ใช่สิ ยัยเพี้ยนนี่พูดอะไรของเธอกัน หล่อนต้องบ้าไปแล้ว คิดว่าเขาอยากได้หล่อนหรือไง...เอ่อ... ถึงจะสวยมากจนอยากฟัดก็เถอะ แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ เขายังไม่อยากมีคนรักนะโว้ย!
“เธออยากเป็นคนรักของฉันงั้นหรือ” เจซาเร็ตถาม กระตุกยิ้มยียวนที่มุมปาก หญิงสาวตรงหน้าไม่ยอมรับหรือส่ายหน้าปฏิเสธ เจ้าหล่อนเพียงสบตาเขาด้วยดวงตาสีม่วงเข้มอันเจิดจรัสที่ดูซื่อ...ซื่อจนเซ่อ!?
เจซาเร็ตนิ่งเงียบ ยืนย้อนคิดต่างๆถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขา จากการต้องขี่เจ้าเพื่อนยากหลบผ้าเช็ดหน้าที่ร่วงคว้างลงมาจากท้องฟ้าอย่างเฉียดฉิวถึงสองครั้งสองครา และในครั้งที่สาม เขาก็พลาดจนน่าเจ็บใจ
ทั้งหมด...เป็นแผนการอยากเป็นแฟนเขาจนตัวสั่นของยัยเพี้ยนที่สวยสุดๆจนนางเอกฮอลลีวูดบางคนต้องอายคนนี้ใช่ไหม!?



อิลวลาอิลตาร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ค. 2555, 16:07:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2555, 16:07:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 1315





   เราพบกันแล้วนะคะ...2 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account