เมียใหม่(สำนักพิมพ์ sugar beat)
ใครที่ชอบตบแล้วจูบ จูบแล้วตบ พบกับเมียคนนี้ได้ ทั้งแรง ทั้งเหวี่ยง...เพื่อทวงความเป็นเมีย!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ

เมียใหม่
บทนำ

ฉันจะทวงความเป็นธรรมให้กับพี่เอง...

ทันทีที่ร่างบางระหง ท่วงท่าประเปรียว ในชุดกระโปรงสั้นสีแดงเพลิง คอวี แขนกุด ผ้าไหมชีฟองตกแต่งด้วยเลื่อมและพลาสติก ขับประกายให้เด่นไปทั่วตัว กำลังก้าวย่างขึ้นไปบนศาลาวัด ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ ทุกสายตาจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างจ้องเป็นตาเดียว หล่อนกลายเป็นจุดศูนย์กลางของงานไปโดยปริยาย

แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างหันไปซุบซิบเสียงเซ็งแซ่ หากหล่อนก็ไม่ได้สะทกสะท้าน แม้ว่าหลายประโยคที่เข้าหู มันเหมือนกับน้ำมันราดบนกองเพลิง แต่หล่อนเตรียมใจไว้แล้ว ว่าจะไม่ใส่ใจต่อคำครหานินทา เสียงก่นด่าสาปแช่ง

เพราะคนพวกนั้นก็เป็นเหมือนแมลงหวี่แมลงวัน ไม่ได้อยู่ในสายตาของหล่อนแม้เพียงนิด เป้าหมายของหล่อนในวันนี้ คือเจ้าภาพในงานศพนั่นต่างหาก

‘ใช่ผู้หญิงคนนี้รึเปล่าที่เป็นตัวต้นเหตุ...แล้วนี่มันโผล่มาในงานนี้ได้ยังไง’

เสียงกระซิบจากผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวป้าสองคน ทำท่าป้องปาก ราวกับว่านั่นคือความลับ แต่ดูเหมือนจะเป็นการจงใจพูดให้หล่อนได้ยินเสียมากกว่า แม้มันจะสะกิดอารมณ์อยู่บ้าง หากดวงตาที่ทวีความขุ่นใจทั้งสองข้างนั้น ถูกอำพรางด้วยแว่นตานำสมัยสีดำ

‘มันกล้ามากเลยนะยะ...ที่แต่งตัวไม่ให้เกียรติผู้ตายเลย’

เสียงผู้หญิงอีกคนซึ่งทำเป็นเงี่ยหูฟังด้านข้าง รีบหันมาจับกลุ่ม พาดพิงหล่อนอย่างมันปาก ‘ใช่แม่คนนี้รึเปล่า ที่ทำให้คุณป้อมต้องตาย’

คำว่า ‘ตาย’ ทำให้หญิงสาวหันขวับไปจ้องหน้าผู้พูด...กลีบปากสีแดงสดเม้มแน่น ก่อนจะกัดฟันพูดใส่หน้าหญิงผู้นั้น

“หุบปาก!”

หญิงวัยกลางคนผู้นั้นถึงกับสะดุ้งเฮือก เบี่ยงตัวหลบ ไม่กล้าสบตาผู้ที่เอ่ยเสียงต่ำลอดไรฟัน...แม้ว่าหล่อนผู้นั้นจะพูดเพียงสองคำ แต่มันทำให้คนฟังขนลุกซู่ ราวกับรังสีความอำมหิตได้แผ่ซ่านไปทั่วศาลาวัดเป็นวงกว้าง

ผู้คนในศาลาแตกตื่น บ้างก็ถอยร่นไปจากระยะที่หล่อนเยื้องกรายผ่าน หากหล่อนก็ยังมุ่งมั่นไปยังหน้าโลงศพของผู้ตาย

เสียงของพระสงฆ์ที่กำลังสวด ถึงกับหยุดชะงักไปชั่วประเดี๋ยว หญิงสูงวัยผู้หนึ่ง รีบลุกจากเก้าอี้ไม้ตัวยาว ปรี่เข้ามาถึงตัว “เธอกล้าดีมาที่นี่ได้ยังไง นังผู้หญิงชั้นต่ำ!!”

อีกฝ่ายเปิดปากฉะหล่อนก่อน เมื่อวาจาทักทายไม่เป็นมิตร มีหรือที่คนอย่างมิรันตี จะยอมให้คนอื่นมาขึ้นเสียง พูดกระแทกแดกดัน หนำซ้ำน้ำคำจากหญิงสูงวัยผู้นั้น ซึ่งแต่งตัวสวยหมดจดด้วยผ้าชีฟองประดับลูกไม้สีดำสนิท ทุกองค์ประกอบในร่างกาย บ่งพร้อมถึงความเป็นผู้ดีมีสกุล แต่ไฉนเลย คำกล่าวทักทายผู้ที่กำลังจะมาเรียกร้องสิทธิ์อันพึงชอบธรรม ถึงได้ใช้ถ้อยผรุสวาทอันหยาบคาย จิกหัวผู้อื่นอย่างถึงที่สุด

“ผู้หญิงที่ไร้ยางอายอย่างเธอ ยังมีหน้าเหยียบเข้ามาในงานศพลูกชายฉันอีกงั้นเหรอ”

มิรันตีไม่ได้เนื้อตัวชา เกิดความอับอายใดๆทั้งสิ้น หากแต่ตรงกันข้าม ยามนี้ใบหน้าที่ร้อนผะผ่าวกลับทวีความเกลียดชังในใจ และเมื่อหญิงผู้นั้นร่ายคำพูดอันไร้สมบัติผู้ดีดั่งการแต่งกาย หล่อนจึงโต้ตอบด้วยวาจาเผ็ดร้อนเช่นกัน

“ก่อนคุณจะพูดจาหักหาญน้ำใจผู้อื่น ช่วยกรุณาใช้สมองคิดสักนิดนะคะ ฉันไม่ได้มาเบียดบัง มาเกะกะระรานใครต่อใคร แค่ฉันจะมาทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเอง”

หญิงสูงวัยผู้นั้นกำมือสองข้างแน่น ปากเหยียดใส่อีกฝ่ายอย่างถึงที่สุด ลืมตัวว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างที่พระสงฆ์กำลังสวดส่งดวงวิญญาณให้แก่ผู้ตาย

ซึ่งบุคคลที่ล่วงลับไปนั้นก็ไม่ใช่ใคร หากคือบุตรชายคนโตของหล่อนนั่นเอง

“ตระกูลประเสริฐเกียรติ ไม่ต้อนรับผู้หญิงนอกคอกอย่างเธอ”

มิรันตีเชิดหน้าใส่ ดวงตากลมโต ซึ่งปัดมาสคาร่าจนหนาเป็นแพส่งประกายวาววับดุดัน ปากคว่ำลงแล้วเหยียดเป็นเส้นตรง “ทำไมถึงจะไม่ต้อนรับฉัน ก็ในเมื่อฉันมีสิทธิ์”

หญิงสาวผู้มาเยือน ถือดีว่าตนมีไพ่เหนือกว่า จึงแสดงความมาดมั่นโดยไม่สนใจต่อทุกสายตาที่จับจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ หรือเสียงประณามหยามเหยียดในสิ่งที่หล่อนกำลังกระทำ

นี่มันเป็นแค่ฉากแรกเท่านั้น...ตระกูล ‘ประเสริฐเกียรติ’ จะต้องได้รับความปราชัย

เสียงของใครสักคนพูดห้ามผู้เป็นมารดาของผู้ตาย “พอเถอะค่ะคุณปาน นี่มันงานศพลูกชายคุณนะคะ อย่าไปมีเรื่องมีราวเลยค่ะ”

อีกคนที่ยืนใกล้จึงช่วยพูดเตือนสติ “ใช่ค่ะคุณปาน อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ถ้าผู้หญิงคนนี้มันมาก่อความรำคาญ เราก็เรียกตำรวจมาจัดการ ก็สิ้นเรื่อง ไปทะเลาะกับมัน มีแต่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”

คุณปานระพี ผู้เป็นเจ้าของชื่อ กำลังเดือดแค้นจนถึงที่สุด กักเก็บความเสียอกเสียใจจากการตายของบุตรชาย ตั้งแต่เมื่อวานเย็น มาจนถึงตอนนี้ หล่อนมีความฝังใจว่า ผู้หญิงตรงหน้าคือต้นเหตุ!

หญิงสูงวัยวาดแขนขึ้นตรง ชี้นิ้วกราดไปยังมิรันตี ที่มองเป็น ‘อริ’ ในยามนี้ “เธอไสหัวออกไปจากงานศพลูกชายฉันเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน...ลำพังกะอีแค่เธอมาเหยียบย่ำลูกชายฉันถึงในงาน มันก็สุดจะทน แต่นี่เธอยังแต่งตัวได้ทุเรศที่สุด ไม่ให้เกียรติลูกชายฉันแม้แต่นิดเดียว แล้วเธอยังจะมีหน้ายืนอยู่ตรงนี้อีกเหรอ”

มิรันตีไม่สะทกสะท้านในท่าทีของคุณปานระพีแม้แต่น้อย กลับค้นอะไรบางอย่างในกระเป๋าสะพายสีเดียวกับชุดที่สวมใส่ หล่อนหยิบกระดาษสีขาวขนาดเอสี่จำนวนปึกใหญ่ ขึ้นมาโบกสะบัดไปมาในมือเมื่อชูสุดแขน

ดวงตากลมคู่นั้นตวัดมองไปยังแขกเหรื่อที่มาแน่นขนัดศาลา รอยยิ้มครึ่งๆกลางๆในหน้าบ่งถึงความสะใจ

มิรันตีไม่โต้ตอบเป็นคำพูด กลับโยนกระดาษในมือทั้งปึกขึ้นเหนือศีรษะ กระดาษสีขาวจำนวนนับร้อยแผ่น ร่วงปลิวว่อนกระจายไปทั่วศาลา หล่นลงตามหน้าตักของแขกเหล่านั้น หล่อนหัวเราะน้อยๆ ราวกับว่ามองเห็นกระดาษจำนวนทั้งหมดคือปอยนุ่นอันบางเบาก็ไม่ปาน

ทว่าในความเป็นจริง แผ่นกระดาษที่อยู่ในมือของใครต่อใคร คือก้อนหินหนักๆต่างหาก ที่กดทับเอาชีวิตของพี่สาวหล่อนไว้ อย่างไม่ยุติธรรม

เสียงของผู้คนดังระงมไปทั่วศาลา มีแต่คุณปานระพีที่ยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก จนมิรันตีต้องเอ่ยสำทับ

ผู้หวังดีที่ยืนข้างกัน หยิบกระดาษหนึ่งแผ่นจากพื้นมาส่งให้ปานระพี แม้หล่อนจะไม่เต็มใจอยากดู หากก็ต้องปรายตามอง แล้วก็แทบผงะ ล้มทั้งยืน เมื่อเห็นชัดถึงตัวหนังสือที่อยู่บนสุดภายในกรอบสี่เหลี่ยมลวดลายดอกกุหลาบสีชมพูเบ่งบานเลื้อยเป็นเถา

ตัวหนังสือขนาดใหญ่สุดระบุว่า ‘ใบสำคัญการสมรส’

แสดงว่า นายป้อมปราบ ประเสริฐเกียรติ กับ นางสาวมาลาตี จิตวัฒนา ได้จดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียน เขต...

“ทุกคนคะ...ฟังไว้นะคะ ที่ฉันมาวันนี้ ก็เพื่อจะมาประกาศกับทุกคนให้รับรู้ทั่วกัน ว่าฉัน นางสาวมาลาตี เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ตาย”

มิรันตีประกาศตัวเสียงดังฟังชัด...เอ่ยชื่อพี่สาว นามว่ามาลาตี

นับแต่วันนี้ไป หล่อนจะสวมรอยเป็นมาลาตี เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับร่าง ซึ่งนอนทอดอาลัยตายอยาก โดยปราศจากหัวจิตหัวใจ อยู่ ณ มุมหนึ่ง ต้องตายทั้งเป็น โดยถูกใครต่อใครรุมใส่ร้ายป้ายสีอย่างไร้ซึ่งความยุติธรรม

ขณะเดียวกับที่ผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง ซึ่งทุกคนเห็นอกเห็นใจ กลับต้องพ้นทุกข์ ด้วยการหมดลมหายใจไปเสียก่อน

‘ความตาย’ ของป้อมปราบ เป็นความอยุติธรรมในชีวิต ‘ความเป็น’ ของมาลาตี

มิรันตีประกาศกร้าวใส่หน้าคุณปานระพีอีกครั้ง ก่อนจะก้าวพ้นไปจากศาลาวัดแห่งนั้น “คุณเตรียมตัวไว้ละกัน เสร็จงานศพลูกชายคุณเมื่อไหร่ ฉันจะไปเรียกร้องสิทธิ์ ความเป็นเมีย”

...........................................................




พู่ไหมบุรามฉัตร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ค. 2555, 22:41:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ค. 2555, 22:44:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 1731





   ตอนที่ 1 >>
ปัณณรี 12 พ.ค. 2555, 08:13:21 น.
ตามมาอ่านจ้า


พู่ไหมบุรามฉัตร 12 พ.ค. 2555, 20:46:15 น.
อิอิ


องุ่น 4 มิ.ย. 2555, 20:29:16 น.
น่าติดตามมาเลยคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account