เพลงมาร
'เพลงมาร' จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการตายอย่างมีเงื่อนงำ หลายชีวิตที่จากไป ล้วนเกี่ยวโยงกับมัน
ร่วมกันค้นหาความจริงเกี่ยวกับความตาย เสียงเพลง และหญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมเสียงขับร้องแสนหวาน หากแฝงเร้นด้วยมรณกรรม และ คำสาปแช่ง
ร่วมกันค้นหาความจริงเกี่ยวกับความตาย เสียงเพลง และหญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมเสียงขับร้องแสนหวาน หากแฝงเร้นด้วยมรณกรรม และ คำสาปแช่ง
Tags: เพลง ความตาย อาถรรพ์ อุปรากร ลี้ลับ
ตอน: โหมโรง
พ้นขอบเขตหน้าผาสูงคือเวิ้งทะเลกว้างท่ามกลางความมืดมิด แสงเดียวที่สว่างพอให้นัยน์ตาเรียวงามมองเห็นสรรพสิ่งคือพระจันทร์ดวงโต ทว่าก็เหมือนสวรรค์แกล้ง...ท้องฟ้าที่ควรกระจ่างด้วยแสงเพ็ญจึงทะมึนมืดด้วยเมฆมัว
เปลือกตาบอบช้ำอย่างผู้ผ่านการร้องไห้มาเนิ่นนานปิดลงแนบสนิท หนึ่งสัมผัสของหญิงสาวถูกตัดขาด กระนั้นหล่อนก็ยังรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน
กลิ่นน้ำทะเลโลดลอยสู่ประสาทนาสิก ชำแรกแทรกซึมพรมลึกบนปลายลิ้นจนรู้รสเค็มอย่างอ่อนๆ สายลมแรงที่พาดพัดผ่านร่างภายใต้ชุดนอนแพร เหล่านั้นทำให้หญิงสาวเข้าถึงห้วงอารมณ์ของท้องทะเล
คลั่ง...เกรี้ยวกราด...หากก็ยินดีปรีดา
รับรู้เช่นนั้นแล้วหล่อนจึงยิ้มเยื้อน นัยน์ตายังคงหลับพริ้ม
'โสตประสาท' คือส่วนที่ทำงานดีเยี่ยมที่สุดในเวลานี้ ส่วนประกอบทั้งหลายผสมผสานกังวานราวดนตรี ทะเลขับขานบทเพลงที่หล่อนรักยิ่งกว่าเพลงใด ไม่จำเป็นต้องมีวงออร์เคสตราหรูหราอย่างในโรงละคร ไม่จำเป็นต้องมีนักดนตรีบรรเลงท่วงทำนองตามผู้อำนวยเพลง
ทะเล...สายลม...และโขดหิน บรรเลงบทเพลงด้วยตัวของมัน
หญิงสาวเงี่ยหูฟัง สายลมแหวกอากาศกรีดเสียงสูงราวคณะเครื่องสีถูกเชือดสาย บ่งบอกความอาฆาตมาดร้ายและขุ่นแค้น ยามคลื่นยักษ์ถาโถมปะทะโขดหินดังโครมคราม ละม้ายเครื่องกระทบปะเลงรวมในเวลาเดียว เสียงนั้นกระหึ่มก้อง...หนักหน่วง ดุจความแค้นถูกทับถมอัดแน่น แล้วปะทุทุกอย่างให้พินาศฉิบหาย
ท้องทะเลกำลังบรรเลงบทเพลงแห่งความคลุ้มคลั่ง
เพลงมรณะ!
หากในความน่าสะพรึง เสียงหนึ่งที่แทรกขึ้นกลับอ่อนหวาน เป็นเสียงขับร้องบทเพลงจากใครบางคน ช่างกังวานใส โน้มนำไปในทางนุ่มละมุน
ไม่ต้องบอกหล่อนก็รู้...ผู้ขับร้องบทเพลงแสนรักด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ ย่อมมีพรสวรรค์อย่างเหลือล้น ต่อไปเบื้องหน้าจะต้องโด่งดังและมีชื่อ ด้วยน้ำเสียงราวทิพย์ดนตรี จะนำพาทุกสิ่งที่มาดหมายเข้ามาสู่ชีวิต ผู้คนต้องสยบแทบเท้า พร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราวสรรเสริญ
เสียง...คลื่นซัดฝั่ง มันคลุ้มคลั่ง ฝังรอยสวาทใจ
มันซุก...มันไซ้...มันซบทรวงทราย แทรกซึมไม่มีวันวาย
มันเคลิ้ม...มันคลุก...มันเคล้ามิคลาย รสทรายรื่นรมย์
การทอดน้ำเสียงและจังหวะขับร้องงดงามราวกิริยาม้วนตัวของเกลียวคลื่น ซัดสาดแล้วร่นถอย ผ่านหาดทรายขาวบริสุทธิ์ เป็นริ้วระลอกไม่มีวันจบ
เสียง...กระซิบแผ่ว ฟังหวานแว่ว พลิ้วตามเกลียวคลื่นมา
เรารัก...กันหนา...มาหามาชม คลื่นคอยติดตามเกลียวลม
มันร้อย...รอยรัก...มาทักคลื่นชม ภิรมย์เพียงฝั่ง
"ฟัง...สิคลื่นมันละเมอ ฝากสวาทเหมือนเธอ ละเมอเพ้อให้ฟัง" หญิงสาวในชุดนอนแพรยิ้มละไม ฮัมเพลงตามเสียงที่พาดพัดมากับสายลม นัยน์ตายังหลับพริ้มราวอยู่ในห้วงฝัน "เห็น...ใจฝั่งบ้างหรือยัง ฝั่งรักจีรัง เหมือนคลื่นยืนใจ"
ชายชุดนอนไหวตามแรงเคลื่อนที่ พะเยิบลอยตามลมทะเล ร่างระหงโยกย้ายเป็นจังหวะ สิ่งที่เคยอยู่ในมือแต่แรกร่วงหลุดเมื่อหญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถมายกชายเสื้อแพรราวกระโปรงยาวระลากพื้น ปลายเท้าทั้งสองเคลื่อนไหวเขย่งหย่อน
หนึ่ง...สอง...สามสี่ห้า...ขาย่างก้าว...ปลายเท้าสัมผัส
หล่อนเคลื่อนตัวไปตามเสียงเพลง กระทั่งเข้าใกล้ขอบผาสูง คลื่นยักษ์จากทะเลจึงซัดโขดหินจนมวลน้ำกระเซ็นซ่าน เวลานั้นเองที่ร่างระหงเสียศูนย์ ถูกสายลมจากต่ำใต้เกี่ยวกระชากจนพลัดจากหน้าผา โลดลอยตกลงในทะเลคลั่ง
จังหวะที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังบินได้ ไร้สิ่งยึดเหนี่ยวพันธนาการ รอบข้างเต็มไปด้วยเวิ้งอากาศและละอองน้ำ ท่อนสำคัญของบทเพลงที่รักแสนรักก็ดังขึ้น กังวานใสด้วยน้ำเสียงผู้มีพรสวรรค์ ดุจจะบอกลาร่างที่กำลังร่วงลงสู่อ้อมกอดของคลื่นยักษ์
เสียง...คลื่นซัดฟัง กระซิบสั่งฝังรักตลอดไป
มันซุบ...มันซิบ...กันชื่นใจ
มันซบ...มันหนุน...จนอุ่นไอ
กระซิก...กระซี้...กันเรื่อยไป
จะรักกัน...ไว้ตลอดกาล
"เสียง...กระซิบ กระซิบ ตลอดกาล" เสียงรำพันลอยลม เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบทเพลงกำลังจะจบลงพร้อม 'ชีวิต' ที่มีแต่ความทุกข์ระทม
หญิงสาวโบกมืออำลา แล้วขับขานเพลงท่อนสุดท้ายซึ่งหล่อนรักที่สุดในชีวิต...อันไร้ค่า
"เสียง...กระซิบ ว่ารัก ตลอดกาล"
ฉับพลัน ทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนอนแพรหายวับไปพร้อมกระแสคลื่นที่ม้วนตลบ ราวอุ้งหัตถ์พระสมุทรรวบร่างแล้วดึงดิ่งสู่ท้องทะเล จะหลงเหลือก็เพียงสิ่งที่หญิงสาวทำตกบนหน้าผา เวลานี้กำลังปลิวว่อน
แผ่นภาพยับเยินใบนั้นเป็นภาพถ่ายครอบครัว ปรากฏหญิงสาวกำลังยิ้มแย้มเคียงข้างชายหนุ่มในร้านอาหารใหญ่ กลางกั้นมีเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มวัยไม่เกิน ๓ ขวบปีกำลังยิ้มแป้น อวดฟันขาวเรียงตัวราวสร้อยมุก มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟนทำท่าร้องเพลง
ภาพนั้นลอยคว้างกลางอากาศ ม้วนตัวตลบ หากไม่มีทีท่าพลัดตกทะเลเฉกผู้เป็นเจ้าของ ข้างหลังรูปมีอักษรเขียนไว้ หมึกสีน้ำเงินซึมเยิ้ม หากยังพออ่านออกได้ใจความ
'เสียง...กระซิบ ว่ารัก ตลอดกาล'
*****
หมายเหตุ...
เรื่องนี้นาถลดาจะอัพให้ทุกวันจันทร์ - พุธ - ศุกร์ นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามผลงานครับผม ^___^
เปลือกตาบอบช้ำอย่างผู้ผ่านการร้องไห้มาเนิ่นนานปิดลงแนบสนิท หนึ่งสัมผัสของหญิงสาวถูกตัดขาด กระนั้นหล่อนก็ยังรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน
กลิ่นน้ำทะเลโลดลอยสู่ประสาทนาสิก ชำแรกแทรกซึมพรมลึกบนปลายลิ้นจนรู้รสเค็มอย่างอ่อนๆ สายลมแรงที่พาดพัดผ่านร่างภายใต้ชุดนอนแพร เหล่านั้นทำให้หญิงสาวเข้าถึงห้วงอารมณ์ของท้องทะเล
คลั่ง...เกรี้ยวกราด...หากก็ยินดีปรีดา
รับรู้เช่นนั้นแล้วหล่อนจึงยิ้มเยื้อน นัยน์ตายังคงหลับพริ้ม
'โสตประสาท' คือส่วนที่ทำงานดีเยี่ยมที่สุดในเวลานี้ ส่วนประกอบทั้งหลายผสมผสานกังวานราวดนตรี ทะเลขับขานบทเพลงที่หล่อนรักยิ่งกว่าเพลงใด ไม่จำเป็นต้องมีวงออร์เคสตราหรูหราอย่างในโรงละคร ไม่จำเป็นต้องมีนักดนตรีบรรเลงท่วงทำนองตามผู้อำนวยเพลง
ทะเล...สายลม...และโขดหิน บรรเลงบทเพลงด้วยตัวของมัน
หญิงสาวเงี่ยหูฟัง สายลมแหวกอากาศกรีดเสียงสูงราวคณะเครื่องสีถูกเชือดสาย บ่งบอกความอาฆาตมาดร้ายและขุ่นแค้น ยามคลื่นยักษ์ถาโถมปะทะโขดหินดังโครมคราม ละม้ายเครื่องกระทบปะเลงรวมในเวลาเดียว เสียงนั้นกระหึ่มก้อง...หนักหน่วง ดุจความแค้นถูกทับถมอัดแน่น แล้วปะทุทุกอย่างให้พินาศฉิบหาย
ท้องทะเลกำลังบรรเลงบทเพลงแห่งความคลุ้มคลั่ง
เพลงมรณะ!
หากในความน่าสะพรึง เสียงหนึ่งที่แทรกขึ้นกลับอ่อนหวาน เป็นเสียงขับร้องบทเพลงจากใครบางคน ช่างกังวานใส โน้มนำไปในทางนุ่มละมุน
ไม่ต้องบอกหล่อนก็รู้...ผู้ขับร้องบทเพลงแสนรักด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ ย่อมมีพรสวรรค์อย่างเหลือล้น ต่อไปเบื้องหน้าจะต้องโด่งดังและมีชื่อ ด้วยน้ำเสียงราวทิพย์ดนตรี จะนำพาทุกสิ่งที่มาดหมายเข้ามาสู่ชีวิต ผู้คนต้องสยบแทบเท้า พร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราวสรรเสริญ
เสียง...คลื่นซัดฝั่ง มันคลุ้มคลั่ง ฝังรอยสวาทใจ
มันซุก...มันไซ้...มันซบทรวงทราย แทรกซึมไม่มีวันวาย
มันเคลิ้ม...มันคลุก...มันเคล้ามิคลาย รสทรายรื่นรมย์
การทอดน้ำเสียงและจังหวะขับร้องงดงามราวกิริยาม้วนตัวของเกลียวคลื่น ซัดสาดแล้วร่นถอย ผ่านหาดทรายขาวบริสุทธิ์ เป็นริ้วระลอกไม่มีวันจบ
เสียง...กระซิบแผ่ว ฟังหวานแว่ว พลิ้วตามเกลียวคลื่นมา
เรารัก...กันหนา...มาหามาชม คลื่นคอยติดตามเกลียวลม
มันร้อย...รอยรัก...มาทักคลื่นชม ภิรมย์เพียงฝั่ง
"ฟัง...สิคลื่นมันละเมอ ฝากสวาทเหมือนเธอ ละเมอเพ้อให้ฟัง" หญิงสาวในชุดนอนแพรยิ้มละไม ฮัมเพลงตามเสียงที่พาดพัดมากับสายลม นัยน์ตายังหลับพริ้มราวอยู่ในห้วงฝัน "เห็น...ใจฝั่งบ้างหรือยัง ฝั่งรักจีรัง เหมือนคลื่นยืนใจ"
ชายชุดนอนไหวตามแรงเคลื่อนที่ พะเยิบลอยตามลมทะเล ร่างระหงโยกย้ายเป็นจังหวะ สิ่งที่เคยอยู่ในมือแต่แรกร่วงหลุดเมื่อหญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถมายกชายเสื้อแพรราวกระโปรงยาวระลากพื้น ปลายเท้าทั้งสองเคลื่อนไหวเขย่งหย่อน
หนึ่ง...สอง...สามสี่ห้า...ขาย่างก้าว...ปลายเท้าสัมผัส
หล่อนเคลื่อนตัวไปตามเสียงเพลง กระทั่งเข้าใกล้ขอบผาสูง คลื่นยักษ์จากทะเลจึงซัดโขดหินจนมวลน้ำกระเซ็นซ่าน เวลานั้นเองที่ร่างระหงเสียศูนย์ ถูกสายลมจากต่ำใต้เกี่ยวกระชากจนพลัดจากหน้าผา โลดลอยตกลงในทะเลคลั่ง
จังหวะที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังบินได้ ไร้สิ่งยึดเหนี่ยวพันธนาการ รอบข้างเต็มไปด้วยเวิ้งอากาศและละอองน้ำ ท่อนสำคัญของบทเพลงที่รักแสนรักก็ดังขึ้น กังวานใสด้วยน้ำเสียงผู้มีพรสวรรค์ ดุจจะบอกลาร่างที่กำลังร่วงลงสู่อ้อมกอดของคลื่นยักษ์
เสียง...คลื่นซัดฟัง กระซิบสั่งฝังรักตลอดไป
มันซุบ...มันซิบ...กันชื่นใจ
มันซบ...มันหนุน...จนอุ่นไอ
กระซิก...กระซี้...กันเรื่อยไป
จะรักกัน...ไว้ตลอดกาล
"เสียง...กระซิบ กระซิบ ตลอดกาล" เสียงรำพันลอยลม เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบทเพลงกำลังจะจบลงพร้อม 'ชีวิต' ที่มีแต่ความทุกข์ระทม
หญิงสาวโบกมืออำลา แล้วขับขานเพลงท่อนสุดท้ายซึ่งหล่อนรักที่สุดในชีวิต...อันไร้ค่า
"เสียง...กระซิบ ว่ารัก ตลอดกาล"
ฉับพลัน ทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนอนแพรหายวับไปพร้อมกระแสคลื่นที่ม้วนตลบ ราวอุ้งหัตถ์พระสมุทรรวบร่างแล้วดึงดิ่งสู่ท้องทะเล จะหลงเหลือก็เพียงสิ่งที่หญิงสาวทำตกบนหน้าผา เวลานี้กำลังปลิวว่อน
แผ่นภาพยับเยินใบนั้นเป็นภาพถ่ายครอบครัว ปรากฏหญิงสาวกำลังยิ้มแย้มเคียงข้างชายหนุ่มในร้านอาหารใหญ่ กลางกั้นมีเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มวัยไม่เกิน ๓ ขวบปีกำลังยิ้มแป้น อวดฟันขาวเรียงตัวราวสร้อยมุก มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟนทำท่าร้องเพลง
ภาพนั้นลอยคว้างกลางอากาศ ม้วนตัวตลบ หากไม่มีทีท่าพลัดตกทะเลเฉกผู้เป็นเจ้าของ ข้างหลังรูปมีอักษรเขียนไว้ หมึกสีน้ำเงินซึมเยิ้ม หากยังพออ่านออกได้ใจความ
'เสียง...กระซิบ ว่ารัก ตลอดกาล'
*****
หมายเหตุ...
เรื่องนี้นาถลดาจะอัพให้ทุกวันจันทร์ - พุธ - ศุกร์ นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามผลงานครับผม ^___^
นาถลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2555, 18:35:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2555, 20:48:03 น.
จำนวนการเข้าชม : 1507
องก์ที่ ๑ >> |
จักรี 12 พ.ค. 2555, 20:01:07 น.
น่าอ่านมากๆๆครับพี่โป่ง เอ๊ย คุณนาถลดา
น่าอ่านมากๆๆครับพี่โป่ง เอ๊ย คุณนาถลดา
นาถลดา 12 พ.ค. 2555, 20:45:26 น.
555+
ตายแล้วคุณน้อง เล่นของแรง ถึงจะเป็นพี่สาวน้องสาว แต่ความงามไม่อาจเทียบพี่โป่งเน้อ อิอิอิ
555+
ตายแล้วคุณน้อง เล่นของแรง ถึงจะเป็นพี่สาวน้องสาว แต่ความงามไม่อาจเทียบพี่โป่งเน้อ อิอิอิ
พู่ไหมบุรามฉัตร 12 พ.ค. 2555, 20:46:47 น.
อิอิ ระวังจะโดนของ
อิอิ ระวังจะโดนของ