นิราศรักกรุงสยาม
ศักดิ์ศรีมีไว้ให้คนสรรเสริญมิใช่ทำลาย ความรักมีไว้เพื่อให้ได้รักในกันและกัน ปัญหาเดียวของความรักคือความไม่เข้าใจ

Tags: สู้ ไม่ยอม แพ้

ตอน: ใจคนหนุ่ม

ที่หมู่เรือนใหญ่ของเรือนพระเทิด บ่าวไพร่ทำงานกันอย่างอลหม่าน ด้วยการขนของกำนัลขึ้นเรือนกันอย่างไม่ขาดสาย ชายหนุ่ม และแก่ หลายคนที่ไม่ได้นัดหมายกันมา แต่มาในเวลาเดียวกัน มาพลบกันแล้วเลี่ยงหลบไม่ได้ จึงพูดจาปราศรับกันอย่างตัดไม้ข่มนาม เพราะต่างคน ต่างมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือ การมาทาบทามลูกสาวคนเล็กของพระเทิด นามว่าช้องนาง ซึ่งเป็นที่เลื่องลือทั่วพระนครถึงความเพียบพร้อม และความมีบุญวาสนาของหญิงสาว ดังนั้นหัวบันไดบ้านพระเทิดจึงเป็นไปอย่างสุภาษิตที่ว่าไม่เคยแห้ง
ยิ่งมากคนขึ้นเรือนเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ชายหนุ่ม ผู้สวมหมากใบลานหลุบต่ำไม่ให้ใครได้เห็นหน้าชัด นั่งบนเรือลำน้อยคอยสอดส่องไปบนเรือนแล้ว ใจหายวาบเสียทุกครั้ง เขาได้แต่สังเกตคนขึ้นเรือนไปสักพักใหญ่ๆ ว่าจะมีสีหน้าท่าทางอย่างไรเวลาลงมา จากเรือน
เมื่อเห็นบางคนทำท่าผิดหวัง ใจของชายลึกลับจะพองโตเสียครั้งหนึ่ง แต่บางครั้งแขกผู้ขึ้นเรือนไปลงมาด้วยท่าทางยินดี ชายหนุ่มผู้มีปริศนาในการอำพรางตัวจะมีใจห่อเหลือเพียงนิดเดียว หายใจได้ไม่เต็มอิ่ม เขาใช้เวลาในการติดตามเรือนพระเทิดว่าจะว่างเว้นคนมาทาบทามลูกสาวอยู่นานวัน ก็ได้เห็นว่า ไม่มีเว้นเลยสักวัน
ยิ่งเวลานี้แล้ว เจ้านายท่านหนึ่งมาถึงเรือน ชายหนุ่มยิ่งใจหายวะวับ ได้แต่กลับไปรอฟังข่าวว่าช้องนางนั้นได้ถูกหมายหมั้นไปแล้วหรือยัง!!
ณ บ้านริมน้ำล้อมด้วยรั้วไม้ยาว หมู่เรือนไทยโอ่อ่ากว้างใหญ่มโหฬารสมฐานะเจ้าคุณเทศา เป็นประมุข มีทายาทชายเกิดจากคุณหญิงใหญ่ เพียงคนเดียวคือ หลวงไกรและลูกสาวสองคนจากภรรยาคนที่สองและสาม ภรรยาท่านอยู่ในโอวาททุกคน เพราะท่านเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ท่าทางเป็นคนมีสง่าราศีร่างใหญ่แข็งแรง มีลูกชายสืบสายโลหิตเพียงคนเดียวคือหลวงไกร
วันนี้ชายหนุ่มร่างสูงกลับจากทำงานค่อนข้างเย็น เมื่อมาถึงเรือนเขาขึ้นไปเรือนใหญ่เพื่อกราบบิดามารดาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาทำเป็นปกติ แม้ว่าจะเป็นนักเรียนทุนจบมาจากเมืองนอกก็ตามที
เจ้าคุณสังเกตเห็นท่าทีไม่สบายใจของลูกชายจึงได้ถามตรงไปตรงมาว่า
“มีงานหนักใจมากเชียวหรือ”
“เอ่อขอรับเจ้าคุณพ่อ เป็นเรื่องที่ต้องพึ่งเจ้าคุณพี่เพียงคนเดียวเท่านั้นขอรับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปปรึกษากันตามลำพังเถอะ เรื่องงานการผู้หญิงรู้มากจะไม่ดี”เจ้าคุณออกตัว
“เรื่องในรั้วในวังเก็บงำไปนินทาจะเหากินหัวกันเสียเปล่า” สิ้นคำนั้นทำให้คุณหญิงไม่ค่อยพอใจนัก จึงได้แยกออกไปตามลำพัง
เมื่อคุณหญิงไปแล้วเจ้าคุณจึงได้เอ่ยปากกับลูกชายอย่างรู้ใจว่า
“เรื่องผู้หญิงใช่มั้ยเจ้าไกร”
“เอ่อ ขอรับเจ้าคุณพ่อ แม่ช้อง น้องสาว คุณปีบขอรับ” ชายหนุ่มอ้อมแอ้มรับคำ สีหน้าดูเจื่อนเมื่อต้องระบายความในใจให้ท่านผู้เป็นบิดาได้รับรู้ ถึงความทุกข์ของหนุ่มที่มีคู่แข่งทางความรัก
“บันไดบ้านแม่ช้องไม่เคยแห้งเลยเจ้าคุณพ่อ กระผมทำงานหาความสุขไม่ได้เลยขอรับ”
“รู้จักมักจี่กับลูกสาวคนโตเขาดีไม่ใช่รึพ่อไกร ทำไมไม่ให้เขาเป็นแม่สื่อแม่ชักให้เล่า”
“มีแต่กระผมเสียที่ไหนขอรับ ลูกพระยาท้ายวังก็หมายปองแม่ช้องเหมือนกันขอรับ ทางนั้นเขาเข้าไปทางเขย กระผมจึงนั่งไม่เป็นสุข เกรงหล่อนจะหลุดมือไปขอรับ”
เจ้าคุณเทศานิ่งคิด อย่างไตร่ตรองไม่ให้เสียโอกาส และไม่ทำให้ลูกชายต้องผิดหวัง ในที่สุดท่านคิดขึ้นมาได้อย่างหนึ่งจึงเอ่ยกับลูกชายว่า
“เจ้ามีใบบอกไปบอกทางลูกเขยคนโตของพระเทิดให้มาทานของว่างกับพ่อ เรียกมาทั้งผัวทั้งเมียเลยนะ แล้วพ่อจะเปิดทางเรื่องเจ้า ส่วนเจ้าเองก็ฝากตัวกับลูกสาวพระเทิดให้ดีล่ะ”
“เจ้าคุณพ่อ”ไกรทำท่าราวกับว่า ทำไมเขาจึงคิดไม่ออกถึงวิธีนี้ เมื่อเห็นช่องทางอันดีแล้ว ชายหนุ่มก้มกราบแทบตักบิดาอีกครั้งหนึ่งก่อนเอ่ยอย่างตื้นตันใจว่า
“เห็นจะสำเร็จขอรับถ้าคุณพ่อเอ่ยปาก”
“เอาน่า ไม่ยากเกินการเมืองไปได้ดอกเจ้าไกร ขนาดพวกล่าเมืองเรายังเอาเรื่องมันได้ กับเรื่องผู้หญิงเพียงคนเดียวทำไมพ่อจะทำเพื่อลูกไม่ได้เล่า”เจ้าคุณเทศาเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจเต็มที่ว่าจะประสบผลสำเร็จตามประสงค์
หลวงไกรมีสีหน้าหายหมองไปอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว
ถึงเวลาอาหารเย็น ชายหนุ่มร่วมรับประทานอาหารพร้อมหน้าทั้งครอบครัว รวมถึงแม่เลี้ยงทั้งสองคนด้วย
คุณหญิงเห็นท่าทีของลูกชายเปลี่ยนจากดำเป็นขาวจึงอดเอ่ยถึงเสียไม่ได้ว่า
“เรื่องงานลุล่วงไปแล้วสินะ ท่าทางดูดีผิดตาเชียว นี่ท่าเจ้าคุณพี่ไม่เอ่ยว่าเป็นเรื่องงาน แม่เห็นจะท้วงว่าเป็นเรื่องผู้หญิงยิงเรือเสียเป็นแน่ที่ทำให้ผู้ชายวัยครองเรือนอย่างพ่อไกร กระสับกระส่ายชอบกลอยู่”
คนถูกตีกระทบยิ้มเจื่อน ไม่ตอบโต้ให้เข้าเนื้อ แต่เสตักอาหารจานโปรดให้คุณแม่ของตนเป็นการเอาใจไว้ก่อน แต่ คุณหญิงได้เอ่ยออกมาอย่างขัดข้องกับการเลือกสะใภ้
“พูดถึงเรื่องผู้หญิงแล้ว ก็เห็นว่าพ่อไกรควรจะออกเรือนได้แล้วนะ กับแม่น้ำผึ้งเห็นจะเหมาะสมกัน”
“กระผมยังไม่คิดขอรับคุณแม่ ขอผ่านไปก่อนขอรับ”ไกรบอกปัดไปอย่างสุภาพ ทำให้ผู้เป็นมาดาค้อนมาวงใหญ่ เพราะไม่ว่าเมื่อใดที่เอ่ยถึงเรื่องแต่งงานไกรจะพูดแต่คำนี้เสมอ
คุณหญิงเป็นห่วงเรื่องจะได้สะใภ้ไม่สมใจตัวเองจึงได้คอยสอดส่องว่าลูกชายไปมองสาวบ้านใดบ้าง แต่เมื่อเรียกคนสนิทของลูกชายมาซักถาม ก็ไม่ได้ความสักครั้ง คุณเมียน้อยทั้งสองของคุณหญิงหาเวลาว่างมานั่งสนทนาตามประสา แต่มุ่งหวังสิ่งเดียวกันนั่นคือ เอาหลานสาวมาเสนอตัว
“แม่แผ้วอยากมาเยี่ยมคุณพี่บ้าง เผื่อเรียกใช้สอยได้ ช่วงนี้แม่น้ำผึ้งก็หายหน้าไป”
“มาเยี่ยมก็มาไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าพูดถึงน้ำผึ้งก็คงจะให้เป็นพี่ นอนกนั้นเห็นแต่ไม่สมฐานะอื่นดอกนะแม่เหม”
คุณหญิงการได้เป็นเมียหลวงของหลานสาวคุณเหมอย่างไม่ไว้หน้า คุณเหมไม่รังเกียจตำแหน่งที่คุณหญิงเสนอมาให้ ดังนั้นจึงเอ่ยว่า
“จะกักเก็บประการใดแล้วแต่คุณพี่เถิดเจ้าค่ะ คุณพี่ก็ได้ตัดจุกให้กับมือ เรื่องอื่นจะเป็นไรได้เจ้าคะ”
“ได้คนของเราเองจักได้คุมกันไม่ลำบาก คุณไกรก็อายุเหมาะสมดีแล้ว ให้เรียกมาเลยหรือไม่เจ้าคะคุณพี่”
“จะเรียกก็เรียกมา ไม่ได้ว่าอันใด เผื่อพอเหมาะพอดี พ่อไกรแปลกตาแม่แผ้วอาจจะได้ดีขึ้นมาก็ได้”คุณหญิงเปิดทาง
คุณเหมรีบเร่งส่งข่าวไปที่น้องชายให้รีบส่งตัวหลานสาวมาที่เรือนคุณหญิงโดยเร็ว หลังจากส่งข่าวไปแล้ว คุณเหมได้แต่ฝันหวานถึงการได้ควบคุมหลานสาวเพื่อนางได้เป็นใหญ่บนเรือนอีกทีหนึ่งในฐานะแม่สื่อ
ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดสำหรับครัวไทยสมัยก่อน ที่ผู้ชายจะมีเมียเก็บไว้ก่อนเมียแต่ง และมีมากต่อมากนักที่เมียเก็บได้ดีมีหน้าตามากกว่าเมียแต่งบางคน ซึ่งเจ้ายศเจ้าอย่างจนสมีไม่ชอบใจคุณเหมได้แต่คิดและหวังว่าจะเป็นไปได้อย่างที่สุดทีเดียว
ส่วนคุณหญิงนึกถึงคุณน้อย น้องสาวของท่าน เป็นสาวชาววังโดยคุณพ่อของคุณหญิงถวายขาดให้กับท่านเจ้านาย และท่านโปรดให้ออกเรือนไปกับขุนโชคซึ่งเป็นที่เลื่องลือว่ารวยมาก
หลังจากออกเรือนไม่นาน ขุนโชคมหาเศรษฐีลาออกจากราชการ อ้างว่าป่วยบ่อย แต่คุณหญิงมารู้ทีหลังว่า คุณน้อยผู้เป็นน้องสาวหาความสุขในเรือนไม่ได้ เนื่องจากสามีเจ้าชู้ มีเมียไม่เลือกฐานะชาติตระกูล คุณน้อยถือทิฐิ ไม่รับเงินสามี จึงได้ใช้ฝีมือตัวเองเก่งทางจัดร้อยดอกไม้ จัดพานบายศรี หาเงินมาเก็บและเลี้ยงน้ำผึ้งโดยพาเข้าออกวัง ซึ่งท่านเจ้านายผิดหวังที่ยกคุณน้อยให้ผิดคน จึงได้เมตตาเรียกใช้สอยไม่ได้ขาด น้ำผึ้งจึงเป็นสาวชาววังไปโดยปริยาย
ความที่ไกรเป็นหนุ่มก้าวหน้า ไม่มีนิสัยเจ้าชู้ ทำให้คุณหญิงผูกใจไว้ให้หลานสาวตัวเอง คุณน้อยก็หวังเช่นนั้น เฝ้ารอกระทั่งไกรกลับจากต่างประเทศเข้ารับราชการเต็มที่ แต่ไม่มีวี่แวว สู่ขอกันเสียที คุณน้อยจึงไม่อาจให้ลูกสาวพักบ้านพี่สาวได้นานเกินไป จึงได้แต่ไปไปมามาเป็นครั้งคราว เพื่อกันชื่อเสียงของน้ำผึ้งระดับหนึ่ง
วันนี้คุณหญิงเอ่ยปากดูอีกครั้งเป็นครั้งที่สองโดยครั้งแรกไกรอ้างไปเรียนต่อ มาครั้งนี้ อ้างว่าไม่พร้อม คุณหญิงจึงได้แต่รอเท่านั้นเอง
ฝ่ายไกรไม่รอให้เสียเวลามากไปกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงมีใบบอกไปให้คุณปีบถึงบ้าน โดยนายเพิ่มทนาย(คนใกล้ชิด)ประจำตัวเป็นคนถือไปส่งจนถึงมือ ซึ่งคุณปีบเป็นสาวสวย อยู่ในวัยเดียวกันกับหลวงไกร คือใกล้อายุสามสิบ พลางแนะนำตัวเองว่า
“กระผมชื่อเพิ่ม เป็นทนายของคุณหลวงไกร วาทีพินิจขอรับคุณนาย”
“อ้อ”นางรับคำเพียงแค่นั้น
ท่าทางการวางตนอย่างสงวนทีท่า ทำให้นายเพิ่มนึกไปถึงสาวที่เจ้านายหมายปอง สาวคนที่น่าจะมีกิริยางามตาเช่นนี้หรอกกระมัง นายของเขาถึงได้เพ้อคลั่ง โดยที่นายเพิ่มเองก็ไม่ทราบว่านายของตนไปพบช้องนางแต่เมื่อใด
คุณปีบพลิกดูใบบอก(จดหมาย)เห็น ผนึกปิดตราครั่งมาอย่างเรียบร้อย ทำให้รู้ว่าเจ้าของให้เกียรติแก่ผู้รับ โดยให้เป็นความลับแก่กันไม่เปิดเผยให้ใครอ่านก่อน และหมายตรานั้นบอกที่มาว่าเป็นของเจ้าคุณเทศา ความตื่นเต้นจึงได้สอบถามนายเพิ่มว่า
“นี่ของเจ้าคุณเชียวหรือ”
“ขอรับคุณนาย เอ่อท่านสำทับมาว่าให้กระผมรอคำตอบด้วยขอรับ”
“ฉันขออ่านโดยลำพังก่อนนะ นายเพิ่มรอที่นี่ก่อน ฉันจะให้เด็กมาดูแลให้ความสะดวกแก่นายเพิ่ม”
“ขอรับ”นายเพิ่มรับคำ รอคุณปีบขึ้นเรือนไปแล้วจึงได้เดินย้อนกลับไปพักที่ศาลาท่าน้ำ สักครู่หนึ่งบ่าวในเรือนจึงได้ถือ ถ้วยน้ำชั้นดี ซึ่งนายเพิ่มพอมองออกว่ามาจากเมืองนอก เพราะของไทยนั้นถึงเรือนยังใช้ตะบวยรูปมะพร้าวขัดมันตักกินได้ตามสบายอยู่ คิดพลางยังเหลียวมองโอ่งเล็กๆมีฝาปิด พาดตะบวยที่ว่าไว้บนฝา
“น้ำใบเตยเจ้าค่ะนาย”บ่าวผู้หญิงบอก เพราะน้ำสีเขียวจางๆอาจทำให้ผู้มาเยือนสงสัยได้ว่าเอาน้ำอะไรมาให้กิน นายเพิ่มจิบไปเล็กน้อย ก่อนลิ้มรสแล้วชื่นหอมชื่นใจจึงดื่มจนหมดถ้วยกระเบื้องเคลือบทีเดียว
“รับเพิ่มอีกมั้ยเจ้าคะ”
“พอแล้วน้องสาว ขอบใจมากนะ”
บ่าวนางนั้นยิ้มรับอวดฟันแดงเพราะกินหมาก นายเพิ่มส่งยิ้มให้ตามประสาคนไทยมักมากมีไมตรีต่อกัน
คุณปีบอ่านจดหมายจากเจ้าคุณเทศา ซึ่งเชิญให้ไปรับประทานของว่างในยามกลางวัน ซึ่งเป็นวันนี้ นางหันไปบอกสามี ซึ่งนั่งอยู่ไม่ห่าง คุณหลวงซึ่งเป็นสามีหัวร่อออกมาคำหนึ่ง ก่อนบอกภรรยาที่รักว่า
“เห็นจะเป็นเรื่องแม่ช้องแน่ๆแม่ปีบ”
“อิฉันก็นึกสงสัยอยู่ว่าจะมีเหตุอันใดมาชวนอิฉันไปกินของว่างอย่างฝรั่ง”
“ก็ต้องตกลงล่ะสิ ท่านเป็นถึงเจ้าพระยานี่นะ”
“หลวงไกรคนนี้ก็ดีใช่มั้ยคุณพี่”
“ดีมากทีเดียว ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณแทนสมเด็จท่านบ่อยๆ”
“ทำไมคุณพี่ไม่บอกอิฉันแต่แรก”คุณปีบหันไปเอาเรื่องสามี เพราะเธอเป็นคนเอาเรื่องไม่ใช่น้อย สามีผู้รู้นิสัยภรรยาจึงได้บีบนวดแขนเอาใจ
“พอดีขุนเรืองให้พี่เป็นพ่อสื่อ จึงได้กันคนอื่นไปเสียน่ะสิแม่ปีบ แต่ว่า เมื่อหลวงไกรเล่นมาทางผู้ใหญ่อย่างนี้ พี่คงต้องเป็นฝ่ายเอาความผิดหวังไปให้ขุนเรืองเสียแล้ว”
“อิฉันจะไปเสียวันนี้เลย คุณพี่แต่งกายอย่างดีแล้วเห็นจะไม่ต้องเปลี่ยน ไปเสียด้วยกันเลยนะเจ้าคะ อิฉันจะมองหลวงไกรเสียหน่อย” ภรรยาผู้เป็นใหญ่ออกคำ สามีช่างตามใจจึงไม่ขัด จากนั้นจึงให้บ่าวลงไปบอกนายเพิ่มว่าจะตามไป ให้นายเพิ่มไปส่งข่าวก่อน
หลายวันต่อมา
หม่อมบุหงานั่งเป็นประธาน หม่อมราชวงศ์หญิงกุหลาบ ดูแลปรนนิบัติหม่อมแม่ โดยที่พระเทิดนั่งตามสบาย มีบ่าวผู้ชายคอยดูแล ทุกคนต่างรอคุณปีบ ซึ่งกลายเป็นแม่สื่อให้กับหลวงไกร หลังจากไปทานอาหารกลางวัน และอาหารเย็นที่บ้านเจ้าคุณเทศาหลายมื้อ
เรือมีหลังคาเทียบท่า สองสามีภรรยาได้ขึ้นเรือน ไทย ผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้ว เมื่อเดินไปใกล้พอควร ทั้งสองจึงเดินเข่าเข้าไปกราบผู้ใหญ่ หลังจากนั้นจึงนั่งพื้นต่ำกว่า คุณพระเอ่ยถามบุตรสาวคนโตถึงเรื่องที่อยากรู้
“ว่าอย่างไรแม่ปีบ เห็นท่าทีแล้วจะตกลงหรือไม่”
“หลวงไกรเห็นจะเหมาะกับคนของเราอย่างไม่มีใครเทียบแล้วเจ้าค่ะคุณพ่อ หากถามลูก ลูกก็เห็นสมควรยกแม่ช้องให้เจ้าค่ะ”
“เขาไม่มีตำหนิอันใดให้เห็นเลยเจ้าค่ะ รูปก็งาม อายุก็ควร หน้าที่การงานเห็นจะไปไกลทีเดียวเจ้าค่ะ เพราะขึ้นตรงต่อสมเด็จท่าน และเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ว่าทำงานดีไม่มีใครเกิน คุณหลวงติดข้างฝรั่ง คงนิยมผัวเดียวเมียเดียวเจ้าค่ะคุณพ่อ”
ผู้ใหญ่ทุกคนได้ยินคำรับรองดังนั้นต่างพากันพอใจ และคิดยกให้เป็นหน้าที่ของคุณปีบที่จะเป็นคนกลาง พูดแทนผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นเรือนพระเทิดจึงได้ปล่อยเรื่องนี้ไปตามเวลาอันควร พ่อสื่อของชายอื่นจึงได้รับแต่ไมตรี ซึ่งไม่มีคำตอบที่น่ายินดีว่าจะยกช้องนางกับผู้ใด
ที่เรือนเจ้าคุณเทศา
วันนี้ท่านเรียกภรรยามาปรึกษาเรื่องการสู่ขอช้องนาง หลังจากฝ่ายหญิงสาวบอกมาเป็นนัยว่าไม่ขัดข้อง แต่คุณหญิงของท่านเจ้าคุณฟังว่าจะไปสู่ขอสาวบ้านอื่นที่ไม่ใช่หลานสาวตัวเองท่านถึงกับค้านเสียงสูงลิบทีเดียวว่า
“อิฉันไม่เห็นดีด้วยเลยเจ้าค่ะเจ้าคุณพี่ อย่างไรก็ไม่เห็นงามตามใจคุณพี่ไปด้วยเลย ไม่รองรับเจ้าค่ะ”
“หล่อนคิดค้านด้วยเรื่องใดกันแม่แสง”
“น้องสาวแม่ปีบพึ่งแตกเนื้อสาวไม่นานนัก จะว่าเด็กก็เห็นด้วยว่าเด็กเกินไปสำหรับพ่อไกร”
“เรื่องนั้นฉันไม่คิดอย่างเดียวกับหล่อนนะแม่แสง ผู้ชายแก่กว่าผู้หญิงฉันเห็นดีไปเสียอีก”
คุณหญิงแสง งัดเหตุผลใหม่มาค้านอีกว่า
“แต่อิฉันทราบมาว่าคุณพระเทิดชิงให้ออกจากโรงร่ำโรงเรียนเสียก่อน ทั้งที่ยังไม่น่าเรียนจบดี”
“เขาอ่านออกเขียนเป็นไม่ใช่หรือ”เจ้าคุณหาเรื่องมาลบเหตุอ้างไม่ยอมรับสะใภ้ของคุณหญิงได้ทุกข้อไป
“แต่อิฉันว่าคงมีเรื่องไม่งามแน่แท้ คุณพระถึงได้เอาไปเก็บเข้าเรือนเสียอย่างนั้น”
“เอาไปเก็บไว้ก็ดีไม่ใช่หรือ ไม่ปล่อยให้เที่ยวตามอำเภอน้ำใจ”
“แต่อิฉันหมายตาแม่น้ำผึ้งไว้แล้วนะเจ้าคะเจ้าคุณพี่ แม่น้ำผึ้งเป็นชาววังอายุอานามก็พอเหมาะสมกับพ่อไกร อีกอย่างเป็นหลานของอิฉันเองด้วย”
“แม่น้ำผึ้งอายุถึงยี่สิบสี่แล้ว ฉันไม่เห็นเหมาะ เพราะตระกูลฉันมีลูกยาก”
คุณหญิงหน้าตึงไปนิด เพราะตั้งแต่เริ่มปรึกษากันมานั้น ท่านเจ้าคุณมีเรื่องคัดง้างได้ตลอดทุกข้อ คุณหญิงจึงเข็นน้ำผึ้งหลานสาวตัวเองไม่ขึ้น จากนั้นจึงได้รับฟังท่านเจ้าคุณกล่าวถึงว่าที่สะใภ้ อย่างที่คุณหญิงระคายหูเป็นอันมาก
“แม่ช้องเขาต้องมีอะไรดี ผู้คนถึงเอาไปร่ำลือกันนัก ฉันรู้จักแม่ช้องก่อนที่แม่ปีบจะเข้ามาแนะนำเสียอีก รู้จักตั้งแต่อายุสิบสองเพราะคำเล่าขาน”
“อายุสิบสอง”
“ใช่ ฉันได้ยินมากับหูทีเดียว มีท่านเจ้านายจะโปรดให้เข้าวังไปเป็นนางรำ”
“ก็แค่นางรำ” คุณหญิงแค่นเสียงใส่
“แค่นางรำที่คุณหญิงพูดนั้น คุณหญิงคงลืมไปว่า หลายท่านได้เป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามตั้งเท่าไหร่”
“แล้วทำไมหล่อนจึงไม่ถวายตัวเล่าเจ้าค่ะ”คุณหญิงไม่วายประชด
“ถวายตัวไปเห็นอนาคตจะดีเพราะคุณพี่กล่าวเสียมากทีเดียวว่าหล่อนคนนั้นช่างดีเลิศเสียเหลือเกิน”
“ฉันไม่ได้มีอคตินี่แม่แสง”
“อิฉันก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องไม่ดีนะเจ้าคะ เพียงแต่สงสัยว่า เมื่อดีนักดีหนา แต่ประวัติแต่ละอย่างทำให้อดกินแหนงแคลงใจไม่ได้ อย่างเรื่องเจ้านายมาขอ ทำไมไม่ไป”
“เพราะหม่อมบุหงาขอไว้ก่อนว่ายังเด็ก แต่จริง ๆ ฉันตรองดูว่าไม่ใช่เหตุนั้นดอก ฉันรู้มาว่าหม่อมบุหงาท่านเคยอยู่ในวังตั้งแต่เล็ก และท่านคงรู้อะไรมากจึงไม่ยอมให้หลานสาวต้องไปรับ...อะไร...บางอย่างที่ท่านอาจจะโดนมาก็เป็นได้”
“ข่าวว่าหัวบันไดไม่เคยแห้ง ทำไมแม่ปีปต้องเสนอหน้ามาหาท่านเล่าเจ้าคะ”
“นั่นสิ ทำให้ฉันอดแปลกใจแม่ปีบไม่ได้”
“เรื่องอะไรเจ้าคะ” คุณหญิงเริ่มให้ความสนใจขึ้นมาบ้าง
“เพราะคนสนใจแม่ช้องมีมากนัก หัวบันไดบ้านคุณพระไม่เคยแห้ง แต่มาพึงใจกับเจ้าไกรลูกฉันนี่สิ ฉันจึงเห็นแปลก”
“อิฉันว่าไม่แปลกดอกเจ้าค่ะ เพราะพ่อไกรมีเจ้าคุณพ่อเป็นขุนน้ำขุนนางชั้นผู้ใหญ่ สมบัติพัสถานกองท่วมตัว มากเสียจนน้องสาวแม่ปีบตะกายขึ้นไม่รอด แม่ปีบจึงคิดอ่านมาเป็นแม่สื่อให้น้องตัวเอง อย่างนี้สิต้องบอกแม่ปีบตาแหลม สมกับที่หล่อนเป็นคนค้าขาย”
“แค่รวยและมีหน้ามีตาแค่นั้นไม่พอดอกคุณหญิง”
คุณหญิงแอบเหยียดมุมปากไม่ให้สามีรู้ นึกค่อนว่าคุณปีบว่ามาท่องมนต์บทไหน ถึงกล่อมเจ้าคุณจนเห็นช้องนางดีงามไปจนไม่เห็นที่ติดังนี้
ท่านเจ้าคุณเปรยออกมาให้ศรีภรรยาได้รับรู้ความจริงว่าทำไมท่านจึงสนใจในตัวช้องนาง เมื่อคุณหญิงแสงยอมเงียบ
“ลูกชายคุณหญิงนั่นหละที่มีอะไรดี จนแม่ปีบมายกของรักของหวงให้ถึงบ้าน”
“เอ๊ย ถ้ารักถ้าหวงมาก เห็นควรที่จะปิดประตูขัดดานเก็บแม่ช้องไว้เสียเลยนะเจ้าค่ะ” หล่อนประชดให้เจ้าคุณหัวเราะในลำคอ
“มีคนไปขอมากเข้าคุณพระให้ออกจากโรงเรียนกุลสตรีเก็บตัวเงียบในบ้านเขาทำอย่างที่หล่อนว่าอย่างนั้นจริง ๆ”
“แล้วนึกอย่างไรจึงมา ใส่พานยกให้พ่อไกรของอิฉัน”
“ฉันฟังหล่อนค่อนขอดมามาก แล้วนะคุณหญิง ขอฉันถามหน่อยว่า คุณหญิงเคยเห็นแม่ช้องสักครั้งแล้วหรือยัง”
คุณหญิงนิ่งอึ้งไปจับน้ำเสียงได้ว่าท่านไม่พอใจ ครู่หนึ่งจึงเสียงอ่อนลง
“พ่อไกรว่าอย่างไรคะเจ้าคุณ” ลูกชายก็หัวแข็งคงไม่ชอบคลุมถุงชน
“เขาไปแอบเห็นมาแล้ว จึงมาวอนให้ฉันกับคุณหญิงไปดูตัวว่าพอใจอย่างเขาบ้างมั้ย”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว ทำให้คุณหญิงนึกขวางลูกชาย ที่มีอะไรในใจ เป็นต้องเข้าหาบิดาก่อนเสมอ และเจ้าคุณก็ตามอกตามใจไปเสียทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องนี้ คนเป็นแม่บ้านไหนต้องเห็นเป็นเรื่องสำคัญด้วยกันทั้งนั้น แต่ลูกกับไปเข้าทางคุณพ่อเสียได้



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2555, 09:21:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ค. 2555, 09:21:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 2382





   แม่สื่อ >>
Zephyr 16 พ.ค. 2555, 22:15:45 น.
คุณหญิงตามใจลูกเถอะนะ อย่ายึดติดสิ


PiNVE 23 พ.ค. 2555, 09:54:58 น.
มีเรื่องต้องพึ่งเจ้าคุณพี่คนเดียวเท่านั้น = มีเรื่องต้องพึ่งเจ้าคุณพ่อ


องุ่น 26 พ.ค. 2555, 20:50:53 น.
อยากรู้จักนางช้องมั้งแล้วสิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account