นิราศรักกรุงสยาม
ศักดิ์ศรีมีไว้ให้คนสรรเสริญมิใช่ทำลาย ความรักมีไว้เพื่อให้ได้รักในกันและกัน ปัญหาเดียวของความรักคือความไม่เข้าใจ

Tags: สู้ ไม่ยอม แพ้

ตอน: แม่สื่อ

ฝ่ายไกรไม่รอให้เสียเวลามากไปกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงมีใบบอกไปให้คุณปีบถึงบ้าน โดยนายเพิ่มทนาย(คนใกล้ชิด)ประจำตัวเป็นคนถือไปส่งจนถึงมือ ซึ่งคุณปีบเป็นสาวสวย อยู่ในวัยเดียวกันกับหลวงไกร คือใกล้อายุสามสิบ พลางแนะนำตัวเองว่า
“กระผมชื่อเพิ่ม เป็นทนายของคุณหลวงไกร วาทีพินิจขอรับคุณนาย”
“อ้อ”นางรับคำเพียงแค่นั้น
ท่าทางการวางตนอย่างสงวนทีท่า ทำให้นายเพิ่มนึกไปถึงสาวที่เจ้านายหมายปอง สาวคนที่น่าจะมีกิริยางามตาเช่นนี้หรอกกระมัง นายของเขาถึงได้เพ้อคลั่ง โดยที่นายเพิ่มเองก็ไม่ทราบว่านายของตนไปพบช้องนางแต่เมื่อใด
คุณปีบพลิกดูใบบอก(จดหมาย)เห็น ผนึกปิดตราครั่งมาอย่างเรียบร้อย ทำให้รู้ว่าเจ้าของให้เกียรติแก่ผู้รับ โดยให้เป็นความลับแก่กันไม่เปิดเผยให้ใครอ่านก่อน และหมายตรานั้นบอกที่มาว่าเป็นของเจ้าคุณเทศา ความตื่นเต้นจึงได้สอบถามนายเพิ่มว่า
“นี่ของเจ้าคุณเชียวหรือ”
“ขอรับคุณนาย เอ่อท่านสำทับมาว่าให้กระผมรอคำตอบด้วยขอรับ”
“ฉันขออ่านโดยลำพังก่อนนะ นายเพิ่มรอที่นี่ก่อน ฉันจะให้เด็กมาดูแลให้ความสะดวกแก่นายเพิ่ม”
“ขอรับ”นายเพิ่มรับคำ รอคุณปีบขึ้นเรือนไปแล้วจึงได้เดินย้อนกลับไปพักที่ศาลาท่าน้ำ สักครู่หนึ่งบ่าวในเรือนจึงได้ถือ ถ้วยน้ำชั้นดี ซึ่งนายเพิ่มพอมองออกว่ามาจากเมืองนอก เพราะของไทยนั้นถึงเรือนยังใช้ตะบวยรูปมะพร้าวขัดมันตักกินได้ตามสบายอยู่ คิดพลางยังเหลียวมองโอ่งเล็กๆมีฝาปิด พาดตะบวยที่ว่าไว้บนฝา
“น้ำใบเตยเจ้าค่ะนาย”บ่าวผู้หญิงบอก เพราะน้ำสีเขียวจางๆอาจทำให้ผู้มาเยือนสงสัยได้ว่าเอาน้ำอะไรมาให้กิน นายเพิ่มจิบไปเล็กน้อย ก่อนลิ้มรสแล้วชื่นหอมชื่นใจจึงดื่มจนหมดถ้วยกระเบื้องเคลือบทีเดียว
“รับเพิ่มอีกมั้ยเจ้าคะ”
“พอแล้วน้องสาว ขอบใจมากนะ”
บ่าวนางนั้นยิ้มรับอวดฟันแดงเพราะกินหมาก นายเพิ่มส่งยิ้มให้ตามประสาคนไทยมักมากมีไมตรีต่อกัน
คุณปีบอ่านจดหมายจากเจ้าคุณเทศา ซึ่งเชิญให้ไปรับประทานของว่างในยามกลางวัน ซึ่งเป็นวันนี้ นางหันไปบอกสามี ซึ่งนั่งอยู่ไม่ห่าง คุณหลวงซึ่งเป็นสามีหัวร่อออกมาคำหนึ่ง ก่อนบอกภรรยาที่รักว่า
“เห็นจะเป็นเรื่องแม่ช้องแน่ๆแม่ปีบ”
“อิฉันก็นึกสงสัยอยู่ว่าจะมีเหตุอันใดมาชวนอิฉันไปกินของว่างอย่างฝรั่ง”
“ก็ต้องตกลงล่ะสิ ท่านเป็นถึงเจ้าพระยานี่นะ”
“หลวงไกรคนนี้ก็ดีใช่มั้ยคุณพี่”
“ดีมากทีเดียว ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณแทนสมเด็จท่านบ่อยๆ”
“ทำไมคุณพี่ไม่บอกอิฉันแต่แรก”คุณปีบหันไปเอาเรื่องสามี เพราะเธอเป็นคนเอาเรื่องไม่ใช่น้อย สามีผู้รู้นิสัยภรรยาจึงได้บีบนวดแขนเอาใจ
“พอดีขุนเรืองให้พี่เป็นพ่อสื่อ จึงได้กันคนอื่นไปเสียน่ะสิแม่ปีบ แต่ว่า เมื่อหลวงไกรเล่นมาทางผู้ใหญ่อย่างนี้ พี่คงต้องเป็นฝ่ายเอาความผิดหวังไปให้ขุนเรืองเสียแล้ว”
“อิฉันจะไปเสียวันนี้เลย คุณพี่แต่งกายอย่างดีแล้วเห็นจะไม่ต้องเปลี่ยน ไปเสียด้วยกันเลยนะเจ้าคะ อิฉันจะมองหลวงไกรเสียหน่อย” ภรรยาผู้เป็นใหญ่ออกคำ สามีช่างตามใจจึงไม่ขัด จากนั้นจึงให้บ่าวลงไปบอกนายเพิ่มว่าจะตามไป ให้นายเพิ่มไปส่งข่าวก่อน
หลายวันต่อมา
หม่อมบุหงานั่งเป็นประธาน หม่อมราชวงศ์หญิงกุหลาบ ดูแลปรนนิบัติหม่อมแม่ โดยที่พระเทิดนั่งตามสบาย มีบ่าวผู้ชายคอยดูแล ทุกคนต่างรอคุณปีบ ซึ่งกลายเป็นแม่สื่อให้กับหลวงไกร หลังจากไปทานอาหารกลางวัน และอาหารเย็นที่บ้านเจ้าคุณเทศาหลายมื้อ
เรือมีหลังคาเทียบท่า สองสามีภรรยาได้ขึ้นเรือน ไทย ผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้ว เมื่อเดินไปใกล้พอควร ทั้งสองจึงเดินเข่าเข้าไปกราบผู้ใหญ่ หลังจากนั้นจึงนั่งพื้นต่ำกว่า คุณพระเอ่ยถามบุตรสาวคนโตถึงเรื่องที่อยากรู้
“ว่าอย่างไรแม่ปีบ เห็นท่าทีแล้วจะตกลงหรือไม่”
“หลวงไกรเห็นจะเหมาะกับคนของเราอย่างไม่มีใครเทียบแล้วเจ้าค่ะคุณพ่อ หากถามลูก ลูกก็เห็นสมควรยกแม่ช้องให้เจ้าค่ะ”
“เขาไม่มีตำหนิอันใดให้เห็นเลยเจ้าค่ะ รูปก็งาม อายุก็ควร หน้าที่การงานเห็นจะไปไกลทีเดียวเจ้าค่ะ เพราะขึ้นตรงต่อสมเด็จท่าน และเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ว่าทำงานดีไม่มีใครเกิน คุณหลวงติดข้างฝรั่ง คงนิยมผัวเดียวเมียเดียวเจ้าค่ะคุณพ่อ”
ผู้ใหญ่ทุกคนได้ยินคำรับรองดังนั้นต่างพากันพอใจ และคิดยกให้เป็นหน้าที่ของคุณปีบที่จะเป็นคนกลาง พูดแทนผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นเรือนพระเทิดจึงได้ปล่อยเรื่องนี้ไปตามเวลาอันควร พ่อสื่อของชายอื่นจึงได้รับแต่ไมตรี ซึ่งไม่มีคำตอบที่น่ายินดีว่าจะยกช้องนางกับผู้ใด
ที่เรือนเจ้าคุณเทศา
วันนี้ท่านเรียกภรรยามาปรึกษาเรื่องการสู่ขอช้องนาง หลังจากฝ่ายหญิงสาวบอกมาเป็นนัยว่าไม่ขัดข้อง แต่คุณหญิงของท่านเจ้าคุณฟังว่าจะไปสู่ขอสาวบ้านอื่นที่ไม่ใช่หลานสาวตัวเองท่านถึงกับค้านเสียงสูงลิบทีเดียวว่า
“อิฉันไม่เห็นดีด้วยเลยเจ้าค่ะเจ้าคุณพี่ อย่างไรก็ไม่เห็นงามตามใจคุณพี่ไปด้วยเลย ไม่รองรับเจ้าค่ะ”
“หล่อนคิดค้านด้วยเรื่องใดกันแม่แสง”
“น้องสาวแม่ปีบพึ่งแตกเนื้อสาวไม่นานนัก จะว่าเด็กก็เห็นด้วยว่าเด็กเกินไปสำหรับพ่อไกร”
“เรื่องนั้นฉันไม่คิดอย่างเดียวกับหล่อนนะแม่แสง ผู้ชายแก่กว่าผู้หญิงฉันเห็นดีไปเสียอีก”
คุณหญิงแสง งัดเหตุผลใหม่มาค้านอีกว่า
“แต่อิฉันทราบมาว่าคุณพระเทิดชิงให้ออกจากโรงร่ำโรงเรียนเสียก่อน ทั้งที่ยังไม่น่าเรียนจบดี”
“เขาอ่านออกเขียนเป็นไม่ใช่หรือ”เจ้าคุณหาเรื่องมาลบเหตุอ้างไม่ยอมรับสะใภ้ของคุณหญิงได้ทุกข้อไป
“แต่อิฉันว่าคงมีเรื่องไม่งามแน่แท้ คุณพระถึงได้เอาไปเก็บเข้าเรือนเสียอย่างนั้น”
“เอาไปเก็บไว้ก็ดีไม่ใช่หรือ ไม่ปล่อยให้เที่ยวตามอำเภอน้ำใจ”
“แต่อิฉันหมายตาแม่น้ำผึ้งไว้แล้วนะเจ้าคะเจ้าคุณพี่ แม่น้ำผึ้งเป็นชาววังอายุอานามก็พอเหมาะสมกับพ่อไกร อีกอย่างเป็นหลานของอิฉันเองด้วย”
“แม่น้ำผึ้งอายุถึงยี่สิบสี่แล้ว ฉันไม่เห็นเหมาะ เพราะตระกูลฉันมีลูกยาก”
คุณหญิงหน้าตึงไปนิด เพราะตั้งแต่เริ่มปรึกษากันมานั้น ท่านเจ้าคุณมีเรื่องคัดง้างได้ตลอดทุกข้อ คุณหญิงจึงเข็นน้ำผึ้งหลานสาวตัวเองไม่ขึ้น จากนั้นจึงได้รับฟังท่านเจ้าคุณกล่าวถึงว่าที่สะใภ้ อย่างที่คุณหญิงระคายหูเป็นอันมาก
“แม่ช้องเขาต้องมีอะไรดี ผู้คนถึงเอาไปร่ำลือกันนัก ฉันรู้จักแม่ช้องก่อนที่แม่ปีบจะเข้ามาแนะนำเสียอีก รู้จักตั้งแต่อายุสิบสองเพราะคำเล่าขาน”
“อายุสิบสอง”
“ใช่ ฉันได้ยินมากับหูทีเดียว มีท่านเจ้านายจะโปรดให้เข้าวังไปเป็นนางรำ”
“ก็แค่นางรำ” คุณหญิงแค่นเสียงใส่
“แค่นางรำที่คุณหญิงพูดนั้น คุณหญิงคงลืมไปว่า หลายท่านได้เป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามตั้งเท่าไหร่”
“แล้วทำไมหล่อนจึงไม่ถวายตัวเล่าเจ้าค่ะ”คุณหญิงไม่วายประชด
“ถวายตัวไปเห็นอนาคตจะดีเพราะคุณพี่กล่าวเสียมากทีเดียวว่าหล่อนคนนั้นช่างดีเลิศเสียเหลือเกิน”
“ฉันไม่ได้มีอคตินี่แม่แสง”
“อิฉันก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องไม่ดีนะเจ้าคะ เพียงแต่สงสัยว่า เมื่อดีนักดีหนา แต่ประวัติแต่ละอย่างทำให้อดกินแหนงแคลงใจไม่ได้ อย่างเรื่องเจ้านายมาขอ ทำไมไม่ไป”
“เพราะหม่อมบุหงาขอไว้ก่อนว่ายังเด็ก แต่จริง ๆ ฉันตรองดูว่าไม่ใช่เหตุนั้นดอก ฉันรู้มาว่าหม่อมบุหงาท่านเคยอยู่ในวังตั้งแต่เล็ก และท่านคงรู้อะไรมากจึงไม่ยอมให้หลานสาวต้องไปรับ...อะไร...บางอย่างที่ท่านอาจจะโดนมาก็เป็นได้”
“ข่าวว่าหัวบันไดไม่เคยแห้ง ทำไมแม่ปีปต้องเสนอหน้ามาหาท่านเล่าเจ้าคะ”
“นั่นสิ ทำให้ฉันอดแปลกใจแม่ปีบไม่ได้”
“เรื่องอะไรเจ้าคะ” คุณหญิงเริ่มให้ความสนใจขึ้นมาบ้าง
“เพราะคนสนใจแม่ช้องมีมากนัก หัวบันไดบ้านคุณพระไม่เคยแห้ง แต่มาพึงใจกับเจ้าไกรลูกฉันนี่สิ ฉันจึงเห็นแปลก”
“อิฉันว่าไม่แปลกดอกเจ้าค่ะ เพราะพ่อไกรมีเจ้าคุณพ่อเป็นขุนน้ำขุนนางชั้นผู้ใหญ่ สมบัติพัสถานกองท่วมตัว มากเสียจนน้องสาวแม่ปีบตะกายขึ้นไม่รอด แม่ปีบจึงคิดอ่านมาเป็นแม่สื่อให้น้องตัวเอง อย่างนี้สิต้องบอกแม่ปีบตาแหลม สมกับที่หล่อนเป็นคนค้าขาย”
“แค่รวยและมีหน้ามีตาแค่นั้นไม่พอดอกคุณหญิง”
คุณหญิงแอบเหยียดมุมปากไม่ให้สามีรู้ นึกค่อนว่าคุณปีบว่ามาท่องมนต์บทไหน ถึงกล่อมเจ้าคุณจนเห็นช้องนางดีงามไปจนไม่เห็นที่ติดังนี้
ท่านเจ้าคุณเปรยออกมาให้ศรีภรรยาได้รับรู้ความจริงว่าทำไมท่านจึงสนใจในตัวช้องนาง เมื่อคุณหญิงแสงยอมเงียบ
“ลูกชายคุณหญิงนั่นหละที่มีอะไรดี จนแม่ปีบมายกของรักของหวงให้ถึงบ้าน”
“เอ๊ย ถ้ารักถ้าหวงมาก เห็นควรที่จะปิดประตูขัดดานเก็บแม่ช้องไว้เสียเลยนะเจ้าค่ะ” หล่อนประชดให้เจ้าคุณหัวเราะในลำคอ
“มีคนไปขอมากเข้าคุณพระให้ออกจากโรงเรียนกุลสตรีเก็บตัวเงียบในบ้านเขาทำอย่างที่หล่อนว่าอย่างนั้นจริง ๆ”
“แล้วนึกอย่างไรจึงมา ใส่พานยกให้พ่อไกรของอิฉัน”
“ฉันฟังหล่อนค่อนขอดมามาก แล้วนะคุณหญิง ขอฉันถามหน่อยว่า คุณหญิงเคยเห็นแม่ช้องสักครั้งแล้วหรือยัง”
คุณหญิงนิ่งอึ้งไปจับน้ำเสียงได้ว่าท่านไม่พอใจ ครู่หนึ่งจึงเสียงอ่อนลง
“พ่อไกรว่าอย่างไรคะเจ้าคุณ” ลูกชายก็หัวแข็งคงไม่ชอบคลุมถุงชน
“เขาไปแอบเห็นมาแล้ว จึงมาวอนให้ฉันกับคุณหญิงไปดูตัวว่าพอใจอย่างเขาบ้างมั้ย”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว ทำให้คุณหญิงนึกขวางลูกชาย ที่มีอะไรในใจ เป็นต้องเข้าหาบิดาก่อนเสมอ และเจ้าคุณก็ตามอกตามใจไปเสียทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องนี้ คนเป็นแม่บ้านไหนต้องเห็นเป็นเรื่องสำคัญด้วยกันทั้งนั้น แต่ลูกกับไปเข้าทางคุณพ่อเสียได้
เวลานั้น หลวงไกร เป็นทูตสำคัญในการเจรจากับต่างประเทศให้ชาวสยามได้รับความสำคัญเป็นผลสำเร็จหลายครั้ง เขาจึงมีหน้าที่การงานสนองเบื้องยุคลบาทอย่างใกล้ชิด
งานนั้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่เรื่องหัวใจมิอาจทำให้หลวงไกรคลายความร้อนลงได้ ข่าวว่าเรือนคุณพระเทิด ไม่เคยแห้งน้ำล้างเท้าจากผู้มาเยือน หลวงไกรยิ่งอยู่เฉยไม่ได้ แม้ว่าเคยได้ขอต่อเจ้าคุณพ่อเป็นที่เข้าใจกันแล้ว แต่เจ้าคุณพ่อยังไม่ไปหมั้นหมายให้เป็นที่รู้แจ้งกันเสียที หลวงไกรจึงต้องมาที่เรือนของเจ้าคุณเทศา ในเวลาว่างงานทันที
คุณหญิงแสงรับไหว้จากลูกชายด้วยความหมางเมินเต็มที หลวงไกรเป็นชายหนุ่ม รูปร่างสูงสง่าหลังตรงเคราครึ้มเขียวตัดกับผิวขาวละเอียด มีความเพียบพร้อมอย่างที่คนเป็นแม่หวง
ชายรูปงามยิ้มเจื่อน ก่อนเข้าไปนั่งลงที่พื้นลดต่ำกว่าเจ้าคุณพ่อ
“ร้อนนะครับเจ้าคุณพ่อ”
“ร้อนใจค่อนข้างมากอยู่กระมัง”
หลวงไกรเกลื่อนยิ้มเมื่อแลลอดสบตามารดาและเห็นท่านมองค้อน ก่อนติติงไปว่า
“พระองค์ท่านไปศึกษาต่างประเทศ ท่านออกโก้หรู วังของท่านจัดไปข้างฝรั่งอยู่มาก พ่อไกรก็เป็นนักเรียนนอก แต่เหตุใดกันจึงมาชอบพอเด็กที่อยู่แต่ในเรือนไม่สมกับตัว”
“คุณหญิงแม่ของพ่อไกรคงพอใจคนสูบซิกาแร็ต มากกว่าคนกินหมากกระมัง เอ๊ะหรือไม่ใช่ เพราะว่าแม่น้ำผึ้งก็กินหมากปากแดงไปนี่”ท่านเจ้าคุณกล่าวแล้วบ้วนน้ำหมากลงในกระโถนที่บ่าวรับใช้ผู้ชายรีบยกขึ้นมารองรับอย่างรู้ท่าก่อนแล้ว
“ขวางเจ้าคุณพี่ ขบวนเอาข้างลูกนั้นไม่มีใครเกินหน้าไปได้”
“หรือจะให้เข้าข้างหลาน ก็เข้าได้นะให้พ่อไกรแต่งเสียอีกเมียหนึ่ง”
หลวงไกรชายหนุ่มหัวทันสมัยรีบคัดค้านออกมาทันที
“เห็นจะไม่นิยมดอกขอรับเจ้าคุณพ่อ”
“เอ๊ะเจ้านี่ หลงแม่ช้องไปข้างมากทีเดียว นี่หากได้มาเข้าเรือนจะละงานไปไม่ได้นะพ่อไกร”
“ฟังคุณพี่เย้าลูกไม่อายบ่าวหรือกระไรกัน”
หลวงไกรเข้ากันกับบิดาอย่างที่เรียกว่ารู้ใจ ท่านบิดาจึงเอ่ยว่า
“วันนี้จะพาคุณแม่พ่อไกรไปดูแม่ช้องสักหน่อย เพราะว่าแม่เขาไม่ค่อยพอใจนัก นิยมแต่หลานสาวตัวเอง ไม่ตามใจคนอยู่เรือน ส่วนพ่อเห็นใจคนอยู่เรือนมากกว่า จึงจะไปตามคำขอของพ่อไกร”
“กระผมกราบของพระเดชพระคุณเจ้าคุณพ่อเหลือเกินขอรับที่เมตตา”
“จะไปด้วยหรือไม่เล่าพ่อไกร”
“เห็นจะยังก่อนขอรับ”
“อย่างไร ไม่ทันได้เขาก็ติดเกรงหรือไร”คุณหญิงแสงกล่าวกระทบ
เจ้าคุณหัวเราะออกมาดังลั่นก่อนยกตัวอย่างว่า
“ยังไม่ได้ก็เกรงใจไว้ก่อน ได้แล้วเห็นตามหลังกันต้อยทีเดียว พ่อไกรไม่แผกพ่อดอกน่า”
“ขวางเจ้าคุณพี่เสียนัก”
คุณหญิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่น เพราะเข้าตัวไปอย่างจัง เนื่องจากยามเจ้าคุณเป็นหนุ่มนั้นมาชอบพอคุณหญิงก่อน หลังจากไปพบกันที่งานในวัง จากนั้นท่านเจ้าคุณเพียรส่งเพลงยาว และขอนัดหมาย
คุณหญิงเป็นสาวหวงตัวไม่มีใครเปรียบได้จึงไม่ไปตามนัดหลายครั้ง กระทั่งเจ้าคุณส่งผู้ใหญ่มาทาบทามกันให้เป็นเรื่องตามที่คุณหญิงต้องการให้ผู้ใหญ่ได้รู้เห็น ไม่ตามใจตัวเองที่แม้รักมาก แต่ไม่ลอบพบกันตามลำพัง
และหลังจากแต่งงานกันไปแล้ว คุณหญิงต้องเป็นฝ่ายตามง้อสามีจริงดังที่เจ้าคุณบอกเล่าให้ลูกชายฟัง
**หากจะเปรียบกับคำทันสมัย ผู้เขียนคงเปรียบไปทางขำๆว่า ‘ขอให้ได้เป็นเมียก่อนแล้วจะทิ้งขว้างพี่ก็ไม่ว่า’
การคมนาคมที่สำคัญคือทางน้ำ ลำคลองมีอยู่ทั่วกรุง



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2555, 19:31:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ค. 2555, 19:31:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1964





<< ใจคนหนุ่ม   ดูตัว >>
Zephyr 17 พ.ค. 2555, 08:26:40 น.
อืม คติของเจ้าคุณพ่อนี่ น่าตีหัวแบะจริงๆ ฮ่าๆ จริงมั้ยคุณหญิงแม่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account