เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 28


บทที่ 28



ซีอาร์วีสีบรอนซ์จอดหลบมุมอยู่บริเวณหน้าบ้านของพ่อเลี้ยงธฤตเพราะเจ้าของไม่ยอมเลี้ยวเข้าไปจอดไว้ที่หน้าบ้านเนื่องจากยังไม่แน่ใจว่าถ้าเข้าไปแล้วเธอจะกล้าสู้หน้าใครคนนั้นได้หรือไม่ สลิลธารฟุบหน้าเข้ากับพวงมาลัยรถ เธอตั้งใจจะมาหาใครบางคนที่วิ่งหนีเธอตลอดเวลา แต่พอมาถึงหน้าบ้านเธอกลับนึกขลาดขึ้นมาเสียอย่างนั้น

...เข้มแข็งหน่อยน้ำ เธอทำได้ เธอบอกเขาได้ บอกว่า...เธอกำลังจะหมั้นกับหมอเขต แค่นี้เอง

ร่างบางระหงตัดสินใจก้าวลงจากรถ ตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปพบพนาดร จะเข้าไปบอกเขาว่าเธอกำลังจะหมั้นกับหมอเขต และจะเข้าไปดูหน้าผู้ชายคนนั้นว่าเขาจะสะทกสะท้านบ้างหรือไม่

...พอรู้แล้วจะทำหน้าแบบไหนพี่ต้น ตกใจ เสียใจ ดีใจ หรือไม่รู้สึกอะไรเลย

หากยังไม่ทันได้เดินเข้าบ้าน ผู้ที่อยากพบก็เดินออกมาจากบ้านพอดีโดยที่เธอไม่ต้องนั่งรอให้เมื่อย พนาดรที่กำลังออกไปจัดการเรื่องน้องชายตัวดีถึงกับชะงัก สายตาที่มองสลิลธารนั้นตกใจระคนสงสัยเล็กน้อยว่าหญิงสาวมาทำอะไรที่นี่และมาที่นี่เพื่ออะไร

“น้ำ...มีเรื่องจะบอกพี่ต้น” สลิลธารโพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หากพนาดรก็ปรับสีหน้าให้เย็นชาและเรียบเฉยอย่างรวดเร็ว

“พี่มีเวลาไม่มาก ถ้าไม่ยาวนักก็พอได้”

“น้ำจะหมั้นกับหมอเขต”

สิ้นคำพูดของสลิลธาร พนาดรรู้สึกเหมือนมีใครมาแย่งเอาอากาศหายใจไป มันรู้สึกหายใจไม่ออก ติดขัด แทบขาดใจตายเสียตรงนี้ให้ได้ ชายหนุ่มรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรักหรือครอบครองผู้หญิงคนนี้ รู้ดีว่าสักวันสลิลธารก็ต้องแต่งงานกับสิขเรศ ทั้งๆที่รู้ดีกว่าใครแต่ก็ไม่เคยที่จะทำใจยอมรับความจริงที่ว่านี้ได้เลยสักครั้ง...ไม่เคยเลย

...น้ำจะหมั้นกับหมอเขต

ประโยคนั้นของสลิลธารดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวไม่รู้จบ

...จะให้พี่พูดกับน้ำว่ายังไงดี พี่ควรบอกว่าดีใจด้วยนะครับ...ใช่ไหม ? พี่ควรจะอวยพรให้น้ำมีความสุข...ใช่หรือเปล่า แต่ตอนนี้พี่ทำอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ เพราะตอนนี้มันก็แทบจะขาดใจแล้ว ถ้าพี่พูดออกไปอย่างนั้นคงได้ขาดใจไปเสียจริงๆ

“งั้นหรือ” แต่ละคำที่เอ่ยออกมาจากปากมันช่างขมปร่าเสียจริงในความรู้สึกของพนาดร ชายหนุ่มไม่กล้ามองหญิงสาวเต็มสายตา เขากลัวใจตัวเองเหลือเกิน กลัวว่ามันจะบอกความในใจที่สู้อุตส่าห์เก็บมานานหลายปีให้ผู้หญิงคนนี้ได้รับรู้ว่าข้างในหัวใจดวงนี้มีเธออยู่ ณ ที่กลางใจมานาน และจะมีเธออยู่ข้างในนี้...ตลอดไป

“พี่ต้นจะพูดกับน้ำแค่นี้เหรอคะ” สลิลธารพูดเสียงเบา หวังในใจลึกๆว่าพนาดรคงพูดอะไรที่มากกว่าคำว่า ‘งั้นหรือ’

“แล้วน้ำจะให้พี่พูดว่าอะไรครับ”

“อะไรก็ได้ค่ะ น้ำไม่รู้ว่าพี่ต้นมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำแบบนี้ แล้วน้ำก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้ำถึงตัดพี่ต้นออกจากใจได้ไม่ขาดสักที” พูดไปก็รู้สึกว่าขอบตามันร้อนผ่าว เหมือนจะมีน้ำใสๆคลออยู่เต็มสองตา

“เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะน้ำ เพราะระหว่างน้ำกับพี่มันไม่มีทางเป็นไปได้” พนาดรปฏิเสธหญิงสาวอย่างไร้เยื่อใย เมื่อใจตัวเองเริ่มเขวไปกับผู้หญิงตรงหน้า

“พี่ต้นบอกน้ำแบบนี้มาหลายรอยจนน้ำใจได้ขึ้นใจแล้วค่ะ เป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้...น้ำกับพี่ต้นรักกันไม่ได้ พี่ต้นรักน้ำไม่ได้!” น้ำตาไหลรินอาบแก้มนวลใส พนาดรเองก็ปวดใจไม่แพ้กัน ชายหนุ่มกำมือแน่นเพื่ออดกลั้นความอ่อนไหวที่กำลังก่อตัวขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาของสลิลธาร

“รู้ก็ดีแล้วครับ”

“ไม่ดี! ไม่ดีๆๆ” สลิลธารปฏิเสธเสียงดัง “ไม่ดี...ไม่ดีสักนิดเดียว น้ำรักพี่ต้น รักพี่ต้น...ทำไมพี่ต้นถึงไม่รักน้ำบ้าง ทำไมพี่ต้นถึงใจร้ายกับน้ำนัก...ทำไม” ร่างบางสั่นสะท้าน เสียงสะอื้นและน้ำตาที่ไหลออกมาพรั่งพรูคล้ายว่าใจจะขาดรอนๆ หากพนาดรก็ยังยืนนิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าถ้าเขาขยับมือแม้เพียงนิดเดียว...ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

“หมอเขตเป็นคนดี ดีกว่าพี่ น้ำแต่งงานกับคนดีๆอย่างหมอเขตน่ะดีแล้ว พี่...ดีใจด้วยนะครับ” ชายหนุ่มกลั้นใจเอ่ยคำอวยพรออกไป รู้สึกว่าหัวใจตัวเองแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี

...พี่จะอยู่ต่อไปเพียงแค่ตัวแล้วนะน้ำ เพราะหัวใจของพี่มันตายไปแล้ว ตายไปพร้อมกับที่น้ำจากไป แต่พี่...จะเก็บน้ำไว้ในความทรงจำ ความทรงจำที่มีแต่น้ำเพียงคนเดียว

“พี่ต้น...แค่นี้น้ำยังเจ็บไม่มากพอเหรอคะ พี่ต้นอยากให้น้ำตายตรงนี้เลยใช่ไหมถึงได้พูดแบบนี้ น้ำไม่อยากได้ยินคำอวยพรของพี่ต้น น้ำไม่อยากได้ยิน!” สลิลธารหันหลังวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว พนาดรเกือบไปแล้วที่จะก้าวขาวิ่งตามแต่ชายหนุ่มก็ยังห้ามความคิดไว้ได้ทัน

...จะตามไปทำไมไอ้ต้น แบบนี้ล่ะดีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ของเขา ต่อให้ตาย...ก็ไม่ใช่













ธนาดลมองคนที่กำลังชื่นชมธรรมชาติอย่างเอ็นดู มือหนาทว่ายาวเรียวเอื้อมเด็ดดอกมหาหงส์สีขาวบริสุทธิ์มาหนึ่งดอก ก่อนจะสะกิดเรียกคนที่กำลังมองผีเสื้อปีกสวยเบาๆ

ศรินดาหันมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสะกิดเบาๆที่หลัง หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นสูง สงสัยว่าธนาดลสะกิดเรียกเธอทำไม แล้วคำเฉลยก็เปิดเผยออกมาในไม่ช้าเมื่อชายหนุ่มบรรจงทัดดอกมหาหงส์ดอกสวยที่ข้างหูเธอเบาๆ

“สวยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยชมแต่คราวนี้หญิงสาวไม่ยอมหลงกลง่ายๆ ไม่ทึกทักไปเองว่าเขาชมเธอ

“ดอกไม้เหรอคะ”

ธนาดลดลส่ายหน้า ส่งยิ้มหวานมาให้

“คนทัดดอกไม้ต่างหาก...สวย” ชายหนุ่มพูดช้าๆชัดๆ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ศรินดาสบตาพราวระยับคู่นั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ดวงหน้าหวานซับสีเรื่อเมื่อธนาดลเอื้อมมือมาไล้ที่แก้มนวลอย่างหยอกเอิน ก่อนจะบรรจงจุมพิตที่หลากผากมนเบาๆราวกับสายลมที่พัดผ่าน

...จะบอกดีไหมนะดล จะบอกผู้หญิงคนนี้ดีไหมว่ารัก ผมจะบอกยังไงดีครับแม่ บอกไปเลยดีไหมว่ารักหรือจะเก็บไว้ในใจอย่างนี้ตลอดไป

“คุณดล” ศรินดาเรียกชื่อชายหนุ่มคล้ายละเมอ เริ่มไม่แน่ใจว่าเข้าคิดอย่างไรกับเธอกันแน่ เพราะท่าทางและการกระทำของเขามันแสดงออกว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดต่างจากเธอเลย...เขารักเธอเหมือนกับที่เธอรักเขา

“หืม” ชายหนุ่มออกเสียงถามในลำคอ

“ฉัน...” ถ้อยคำชะงักเมื่อธนาดลเอานิ้วชี้มาแตะไว้ที่ริมฝีปากบาง

“แทนตัวเองว่ารินเหมือนเมื่อก่อนได้ไหม” น้ำเสียงธนาดลฟังดูเว้าวอนจนรินเริ่มใจแกว่งอ่อนปวกเปียกอย่างกับขี้ผึ้งโดนไฟเสียอย่างนั้น

“เอ่อ...”

“ได้ไหม..ริน”

ศรินดาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสรรพนามที่ธนาดลใช้เรียกเธอ เขาเรียกเธอว่า ‘ริน’ เขาเรียกชื่อเล่นเธอ ชื่อที่เธอคิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางได้ยินจากปากของเขา

“คุณดล”

“เรียกแทนตัวเองว่าริน...ได้ไหม” คำขอร้องที่แสนสุภาพอ่อนหวานเอ่ยออกจากปากของธนาดล ชายหนุ่มส่งยิ้มไปให้อีกฝ่ายแล้วก็ได้รอยยิ้มหวานเป็นสิ่งตอบแทนกลับมา

“ได้สิคะ...ริน...รับปาก” หญิงสาวแทนตัวเองว่ารินอย่างเต็มคำและเต็ม...หัวใจ

“มีอะไรอยากให้ดู” จู่ธนาดลก็เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น แถมยังกระตุกข้อมือบางให้เดินไปพร้อมๆกัน

ศรินดาเลิกคิ้วสูง แม้จะสงสัยแต่ก็ยอมเดินตาม “อะไรคะ” เมื่อเธอถามร่างสูงที่เดินนำจึงหยุดและหมุนตัวกลับมามองเธอ

“หลับตาก่อน”

“จะแกล้งกันใช่ไหม” ศรินดาย่นจมูกใส่อีกฝ่าย ไม่ยอมเชื่อคำพูดของธนาดลง่ายๆ เพราะตั้งแต่มาที่นี่เขาแกล้งเธอมาหลายครั้งแล้ว

หากคราวนี้ธนาดลกลับหัวเราะเบาๆพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ได้แกล้ง...มีอะไรอยากให้ดูจริงๆ หลับตาก่อน...”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายตายืนยัน...มั่นคงกันแน่ที่ทำให้ดวงตากลมสวยค่อยปิดเปลือกตาลง สองขาก้าวไปตามคนที่ประคองเธอให้เดินตามก่อนจะหยุดพร้อมกับเสียงทุ้มที่คลอเคลียอยู่ข้างหูว่า ‘รอตรงนี้’ และไม่นานศรินดาก็ได้รับคำสั่งให้ลืมตา...

ภาพตรงหน้าที่เห็นคือแปลงกุหลาบแปลงย่อม ไม่ใหญ่ไม่เล็กไปกว่าแปลงกุหลาบของแม่เลี้ยงพินธุอรและความสวยงามตรงหน้าช่างงดงามไม่แตกต่างกัน

จะแปลกตาก็คงเป็นที่กุหลาบแปลงนี้ล้วนแต่เป็นกุหลาบสีขาวทั้งหมด บางดอกกำลังแย้มบาน ทว่าบางดอกเพิ่งที่จะเป็นดอกตูม พอได้เห็นแล้วก็มีความสุข ยิ่งได้กลิ่นยิ่งรู้สึกสดชื่นเข้าไปจนถึงหัวใจ

ธนาดลก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง “ชอบไหม” ก่อนจะถามเสียงเบา ทว่าคำถามนั้นเจือไปด้วยรอยยิ้มอุ่นละมุน
ศรินดาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง รู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป อยู่ท่ามกลองมวลหมู่ดอกไม้กับผู้ชายที่เธอรัก...สุดหัวใจ

“รู้จักภาษาดอกไม้ไหม” คนที่เปลี่ยนเรื่องสนทนาอย่างรวดเร็วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสียอย่างนั้น

“นิดหน่อยค่ะ”

“จำนวนกุหลาบก็สื่อความหมาย...รู้หรือเปล่า” เขาหันกลับมาถาม

“พอรู้ค่ะ” ศรินดาพยักหน้ารับ ฉงนอยู่เล็กน้อย ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างธนาดลจะสนใจเรื่องละเอียดอ่อนอย่างนี้

“งั้นมาลองดูกันไหมว่า ‘เจ้าของ’ กุหลาบแปลงนี้อยากบอกอะไรกับเธอ” เพราะธนาดลเน้นคำว่าเจ้าของออกมาอย่างชัดเจนราวกับต้องการให้ศรินดารู้ว่าชายหนุ่มหมายถึงตนเองจึงส่งผลให้ดวงหน้าหวานออกที่จะแต้มสีชาดนิดๆ

ร่างสูงใช้กรรไกรตัดกิ่งในมือค่อยๆบรรจงตัดดอกกุหลาบที่เบ่งบาน ปากก็ขยับนับไปทีละดอกที่ตัด จากหนึ่งไปเรื่อยๆจนถึงสิบและยี่สิบก่อนจะหยุดเมื่อกุหลาบดอกสวยในแปลงที่จะจะตัดได้ถูกตัดออกมาจนหมด

“ยี่สิบดอก...ไม่ครบ” เหมือนว่าจะบ่นกับตัวเองมากกว่าที่จะบอกให้ศรินดารับรู้

“ขาดอีกกี่ดอกคะ” หญิงสาวถามอย่างใคร่รู้ เธอรู้เพียงแค่ว่า กุหลาบหนึ่งดอกหมายถึงรักแรกพบ สามดอกหมายถึงฉันรักเธอ แต่ถ้ายี่สิบกว่าดอกนี่เธอก็จนด้วยปัญญาจริงๆ

ธนาดลมองกุหลาบขาวในมือสลับกับใบหน้าของศรินดา “ดอกเดียว” น้ำเสียงทุ้มบอกเบาๆ

พอได้ยินคำตอบของธนาดลหญิงสาวถึงกับยิ้มกว้าง ไม่คิดว่าคุณหนูเอาแต่ใจอย่างนายน้อยธนาดลจะคิดเล็กคิดน้อยกับกุหลาบเพียงแค่ดอกเดียว

“ถ้าคนให้เต็มใจให้ ถึงไม่ครบ คนรับก็ดีใจค่ะ”

เพราะรอยยิ้มใสกระจ่างของผู้หญิงตรงหน้าจึงทำให้ธนาดลคิดอะไรบางอย่างได้

“งั้น...ฉันยังไม่ให้เธอตอนนี้ได้ไหม ไว้คืนนี้ฉันจะมอบดอกกุหลาบช่อนี้ให้เธอ...ครบทั้งยี่สิบเอ็ดดอก...” ธนาดลบอกผลัด เพราะถ้าไม่ครบยี่สิบเอ็ดดอก มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดน่ะสิ! แต่พอเห็นศรินดาทำท่าว่ากำลังจะโกรธชายหนุ่มจึงต้องหาของขวัญชิ้นใหม่ปลอบใจเธอ

“จะเล่นน้ำไหม” ธนาดลบุ้ยหน้าไปที่ลำธารใส

“ได้เหรอคะ” น้ำเสียงหวานถามอย่างตื่นเต้น แทบลืมเรื่องกุหลาบยี่สิบเอ็ดดอกไปเสียสนิท

“ได้สิ...ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

“แล้วคุณจะเล่นด้วยไหม” ศรินดาถามเสียงอ่อน รู้ว่าธนาดลชวนเธอเล่นน้ำเพราะว่าอยากขอโทษเรื่องดอกกุหลาบที่ให้เธอตอนนี้ไม่ได้

“อยากให้เล่นด้วยไหมล่ะ” ธนาดลย้อนถามเพราะต่อให้ศรินดาไม่ชวนเขาก็กะจะลงเล่นด้วยอยู่แล้ว

“อยากสิคะ เล่นคนเดียวเหงาจะตาย”

“งั้นก็รอเดี๋ยว ขอฉันเอากุหลาบไปเก็บแล้วก็ขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงก่อน”

“เปลี่ยนทำไม เล่นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก” ด้วยอารามที่อยากลงเล่นน้ำเต็มแก่เลยไม่สนใจว่าอีกคนที่จะลงมาเล่นน้ำด้วยอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้ม ธนาดลใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากมาเบาๆเป็นจังหวะตามคำพูดของตัวเอง

“ยัย-เด็ก-บ้า” ก่อนที่จะเลื่อนมือมาบีบจมูกรั้นด้วยความเอ็นดูระคนอ่อนใจ “ถึงจะวางกุหลาบไว้ตรงนี้ได้แต่ใครเขาสั่งเขาสอนให้ใส่เสื้อสีขาวกับกางเกงยีนส์เล่นน้ำกันบ้างฮึ!”

“ก็รินอยากเล่นน้ำเร็วๆนี่”

“แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานหรอก แต่ถ้าอยากให้เร็ว จะมาช่วยเปลี่ยนมั้ยล่ะ” ชายหนุ่มถามยิ้มๆ จงใจแกล้งอีกฝ่าย

“บ้า!” แล้วก็เจอเสียงหวานว่ากลับมาอยากรวดเร็ว “งั้นก็รีบๆไปเปลี่ยนเลย รินลงเล่นน้ำก่อนคนเดียวก็ได้” แม้จะยอมให้ธนาดลขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่น้ำเสียงก็บ่งบอกได้อย่างดีว่าตอนนี้เธอกำลังงอนเขาอยู่

ชายหนุ่มเองก็รู้ดีว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังงอนแต่ก็ยังนิ่งเฉยไม่ยอมเอ่ยปากง้อ หันหลังเดินขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที คิดว่ายังไม่จำเป็นที่เขาจะต้อง้อเธอตอนนี้เพราะหลังจากเปลี่ยนชุดแล้ว นั่นล่ะ...คือเวลาที่เขาจะง้อ

...อยากงอนกันใช่ไหม อยากงอนแล้วให้ตามง้อกันใช่ไหม ได้เลย...ฉันจะง้อเธอให้ไม่คิดจะงอนอีกเลย...คอยดู











เสื้อกาวน์สีขาวถูกโยนพาดไว้ส่งๆบนเก้าอี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งออกมาจากห้องพักอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้ไม่ถึงห้านาทีที่เขาได้รับโทรศัพท์จากบิดาของสลิลธารที่โทรมาบอกว่าลูกสาวยังไม่กลับถึงที่พักทั้งๆที่ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว ยังดีที่เขาออกเวรพอดีจึงออกไปตามหาได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่เขายังเข้าเวรอยู่ ตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีกะจิตกะใจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากแค่ไหน

แลนด์โลเวอร์สีดำปลาบมุ่งทะยานสู่ท้องถนนยามค่ำคืน สายตาของคนขับมองทั้งถนนมองทั้งข้างทางไปพร้อมๆกันเผื่อว่าจะเจอคนที่ยังไม่กลับบ้าน มือนึงควบคุมพวงมาลัยรถ มือนึงก็กดโทรศัพท์หาสลิลธารมิได้ขาด

...รับหน่อยสิน้ำ...รับหน่อย อย่าทำแบบนี้ได้ไหม

แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องเหยียบเบรกอย่างแรงเมื่อพบรถยนต์คันคุ้นตาจอดอยู่ข้างทาง สิขเรศหักพวงมาลัยรถจอดไว้ที่ริมฟุตบาททันที ไม่คิดว่าสลิลธารจะมาทำอะไรที่สวนสาธารณะคนเดียวดึกๆแบบนี้ ร่างสูงวิ่งตามหาจนทั่วและมาสะดุดกับร่างๆหนึ่งที่นั่งอยู่ที่ท้านั่งคนเดียว มีเพียงแสงจากโคมไฟสีเหลืองนวลข้างทางเท่านั้นที่สาดส่องลงมา

ร่างสูงค่อยๆเดินเข้ามาจากทางด้านหลังอย่างเงียบๆไม่ให้หญิงสาวได้รู้ตัว หากก็ต้องชะงักและยืนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นที่ดังมาจากผู้หญิงคนนี้

...ร้องไห้ทำไมนะน้ำ ใครทำอะไรให้เสียใจได้มากมายขนาดนี้นะน้ำ ใครกันที่สำคัญับน้ำมากขนาดนี้
ผ้าเช็ดหน้าสีเทาถูกยื่นไปข้างหน้า สลิลธารตกใจเล็กน้อยหันหลังมามองคนที่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ เธอไม่คิดหรอกว่าใครคนนั้นคือพนาดร เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ คนอย่างนั้นไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ให้เธอ คนที่ทำอย่างนี้ ใจดีอย่างนี้ อบอุ่นอย่างนี้ คงไม่ใช่ใครถ้าไม่ใช่...สิขเรศ

มือบางรับผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาเงียบๆ คุณหมอเขตก้าวมายืนขางหน้าก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาเช่นกัน

ดวงตาเรียวหลังกรอบแว่นสีดำมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยแววตาอ่อนหวาน ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือบางเอาไว้หลวมๆทว่าความอบอุ่นจากมือของชายหนุ่มกลับส่งผ่านไปให้อีกฝ่ายรับรู้ได้เป็นอย่างดีจนเป็นสลิลธารเองที่กระชับมือของชายหนุ่มไว้แน่น

“ขอบคุณนะคะหมอเขต” หญิงสาวขอบคุณชายหนุ่มทั้งน้ำตา

“ขอบคุณเรื่องอะไรครับ”

“ทุกเรื่องค่ะ ทุกเรื่อง...ที่หมอเขตทำให้น้ำ” มือบางกระชับมือชายหนุ่มไว้แน่นกว่าเดิม

“อย่าขอบคุณเลยน้ำ ผมเต็มใจทำ ไม่ได้ฝืนใจทำ”

สลิลธารส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกค่ะ น้ำต้องขอบคุณ ขอบคุณที่หมอเขตรักน้ำ แล้วก็ขอโทษ...ขอโทษที่...ที่...” เสียงสะอื้นแทรกขึ้นมาก่อนที่สลิลธารจะพูดจบ ความจริงที่เธอยังทำใจไม่ได้ที่ต้องบอกให้สิขเรศได้รับรู้ ความจริงอันแสนโหดร้ายที่สิขเรศจะต้องเผชิญ

“ที่น้ำไม่รักผม...ใช่ไหม” คุณหมอเขตช่วยต่อให้จนจบประโยค

“หมอเขต...”

“ผมรู้มาตั้งนานแล้วล่ะน้ำ รู้มาตั้งนานแล้วว่าน้ำไม่เคยรักผมเลย ไม่ว่าเมื่อก่อน ตอนนี้หรืออนาคตข้างหน้า...น้ำก็จะไม่รัก”

...เพราะน้ำมีใครบางคนฝังลึกอยู่ในใจ ใคร...ที่ต่อให้น้ำพยายามแค่ไหนน้ำก็ลบเขาออกไปจากใจไม่ได้...ใช่ไหม

น้ำตาที่เกือบจะแห้งพรั่งพรูขึ้นมาอีกรอบ หญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้เธอเป็นคนไม่ดีเลย เธอทำให้หมอเขตเสียใจ เธอทำร้ายคนดีๆอย่างหมอเขตได้ยังไง ทำได้ยังไงกัน!!

“ขอโทษค่ะ น้ำขอโทษจริงๆ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกน้ำ ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ผมไม่โกรธที่น้ำไม่รัก แต่โกรธตัวเองที่ทำให้น้ำร้องไห้มากกว่า เรื่องหมั้นไม่ต้องห่วง ผมจะบอกคุณลุงเองว่าน้ำ...”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” สลิลธารขัดขึ้นมาก่อนที่สิขเรศจะพูดจบ “จะไม่มีการยกเลิกงานหมั้น น้ำจะหมั้นกับหมอเขต” หญิงสาวยืนยันชัดถ้อยชัดคำ

“น้ำ”

“น้ำตัดสินใจดีแล้วค่ะ ต่อไปนี้น้ำจะมองแค่หมอเขตคนเดียว หมอเขตคนเดียวเท่านั้น”

สิขเรศไม่ว่าอะไร หรือพูดอะไร ชายหนุ่มทำเพียงแค่ดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด เขารู้อยู่เต็มหัวใจว่าสลิลธารไม่สามารถทำอย่างที่เธอพูดได้ แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ตกลงที่จะหมั้นกับเขา แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว...พอแล้วจริงๆ

คนที่ร้องไห้ยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาหากเสียงสะอื้นที่เคยมีกลับถูกกลืนหายไป

...น้ำจะเก็บพี่ต้นไว้ในความทรงจำของน้ำนะคะ คามทรงจำของน้ำที่มีแต่พี่ต้น ความทรงจำที่จะตายไปพร้อมๆกับลมหายใจสุดท้ายของน้ำ

แม้จะคิดว่าตัวเองตัดสินใจได้เด็ดขาดแล้ว แต่สลิลธารไม่อาจรู้เลยว่าสุดท้ายแล้วก็เป็นเธอเองที่เปลี่ยนใจกลับมาเดินเส้นทางเดิม และเป็นเธอเองที่เป็นคนสร้างบาดแผลอันแสนเจ็บปวดให้กับผู้ชายที่แสนดีอย่างสิขเรศ...อย่างแสนสาหัส






---------------------------------------------------------------------------------------------

จบด้วยแบบเรียกความสงสารให้คุณหมอเขต (ฟิ้วววววว...//ปอแก้วชิ่ง)


มาช้าแต่ต้องรีบไปไว...ติดคอมเมนท์ไว้ก่อนค่ะ
เดี๋ยวมาเมนท์ให้ค่าาาาา

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมากมายเลยค่ะ สำหรับกำลังใจที่ให้กัน
ไปแว้วววววววววว



เมนท์มาแล้วค่าาาาาาา...



คุณ anOO : หวานนำ...แล้วจะขมตามหรือเปล่าคะ รอลุ้นๆเนอะ :)

คุณ roseolar : ฮ่าๆๆ เจ้าเล่ห์แต่ตอนนี้น่ารักนะคะ ว่ามั้ยๆ ตอนนี้คงต้องถามว่าตอนคุณดลเอาดอกมหาหงส์ทัดหูริน คุณ roseolar เขินไหมคะ อิอิ // ปล.ส่วนเรื่องบ้าง เพราะพี่ต้นอยู่กับพ่อน่ะค่ะ เลยไม่ค่อยรู้ว่าแม่ซื้อบ้านหรือซื้อที่ดินอะไรไว้ให้บ้าง คุณดลลูกแม่พี่ต้นลูกพ่อประมาณนั้นน่ะค่ะ

คุณ nunoi : จัดไปเลยค่าาาาา

ปรางขวัญ : ยังหวานนนนน...อยู่นะคะ :)

tutas : ฮ่าๆ นั่นสิคะ แต่คุณดลเริ่มที่จะแง้มๆแล้วนา...

Kazalong : ยังหวานอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็หวาน ตอนหน้าคิดว่าก็ยังหวานน้า (อย่าเพิ่งเลี่ยนกันก่อนนะคะ อิอิ)

คุณ Heronett : คิดถึงพี่ต้นก็พาพี่ต้นมาให้แค่ แต่พี่ต้น...ใจร้ายไปแล้วววว // คุณดลเริ่มคิดว่าจะ..พูดแล้วค่ะ :)

เด็กหญิงม่อน : ตอนนี้ก็ยังน่ารักอยู่ค่าาาา ><

คุณ ดาวคันชั่ง : แฮ่ๆ ลุ้นต่อค่ะ...แบบว่า ผู้ชายอย่างคุณดลมันต้องมีวิธีการนิดนึงอ่ะน้าาาาา อ่านตอนนี้แล้วยังยิ้มอยู่ไหมคะ? :D

คุณ Amata : แค่รอยยิ้มก็อิ่มหัวใจแล้วค่า ฮิ้วววววววว

คุณ lovemuay : นายนนท์...ตอนหน้าจะโผล่มาใหได้หมั่นไส้เบาๆค่ะ ฮาาาาา

คุณ MYsister : ตอนนี้ก็ยังหวานอยู่ใช่ไหมค้าาาา

คุณ หมูบูลิน : ตอนนี้ต้องจัดของหวานไว้ก่อนค่ะ ก็ขมมาเกือบทั้งเรื่องเลยนี่เนาะ :P

คุณ topping : ตอนใหม่มาแล้วค่าาาา

คุณ viengkaew : ยินดีรอพี่เวียงเสมอเลยค่ะ ช่วงนี้ลงไม่ค่อยถี่แล้วค่ะ งานแอบเยอะ ไม่มีเวลาแก้หรือเขียนนิยายเลยค่ะ T^T



ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 พ.ค. 2555, 21:09:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 พ.ค. 2555, 21:42:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 2277





<< บทที่ 27   บทที่ 29 >>
เด็กหญิงม่อน 16 พ.ค. 2555, 22:05:25 น.
คุณดลเริ่มน่ารักขึ้นแล้ว
แต่พี่ต้นนี่สิน่าเหนี่ยวมาก


ดาวคันชั่ง 16 พ.ค. 2555, 22:35:30 น.
รักสามเส้าของแท้เลย น่าสงสารทั้งสามคน

ส่วนคู่คุณดลกับริน น่ารักได้้อีกค่ะ


wane 16 พ.ค. 2555, 23:23:47 น.
หมอเขตน่าสงสาร แต่พี่ต้นนี่ซิ ..แย่สุดๆ ไม่ยอมต่อสู้เพื่อรักเลยอ่ะ


หมูบูลิน 16 พ.ค. 2555, 23:42:54 น.
คุณดลน่ารักอะ ส่วนพี่ต้นหน้าสงสารที่สุด


MYsister 17 พ.ค. 2555, 05:21:36 น.


lovemuay 17 พ.ค. 2555, 06:38:37 น.
เพราะพี่ต้นไม่เคยคิดจะแย่งน้ำกลับมาเลยน่ะสิ ทุกคนถึงได้เจ็บกันแบบนี้


roseolar 17 พ.ค. 2555, 08:28:01 น.
ขอสามคำ "รัก หมอ เขต"
หมอเขตน่าสงสารที่สุดแล้ว ใครจะสงสารพี่ต้นก็ช่าง แต่คนอ่านคนนี้สงสารหมอเขตที่สุด อาจเพราะรู้ว่าสุดท้ายยังไงพี่ต้นก็ต้องสมหวัง ต่างจากหมอเขตที่ต้องชีช้ำกระหล่ำปลีอยู่คนเดียว โอ๊ย!!ในชีวิตจริงถ้ามีผู้ชายแสนดีขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้วผู้หญิงคนไหนไม่รักนะ ก็ถือว่าโง่มากแล้วล่ะ ฮาาา เริ่มเหวี่ยงน้ำเพราะสงสารหมอเขต อยากเป็นคนสมานแผลเยียวยาหัวใจหมอเขตจัง ขอสมัครเป็นนางเอกเรื่องหน้าคู่หมอเขตเลยได้มั้ยคะ

ส่วนคู่คุณดลกับริน แหม..หวานกันจริงจริ๊ง อยากรู้จังน้าว่าดอกกุหลาบยี่สิบเอ็ดดอกหมายความว่ายังไง เอ้า!!ตอนนี้ยังพอมีเวลา หวานกันซะให้พอ สำรองไว้ใช้ยามทะเลาะกันท้ายเรื่อง หวานกันให้มากๆนะจ๊ะ คนอ่านชอบ


Heronett 17 พ.ค. 2555, 13:15:41 น.
โอ๊ยย หมอเขต ตรงนี้ยังว่างนะคะ 555 พี่ต้นนะพี่ต้นไม่ได้เรื่องอีกแล้ว เซ็งๆๆ


anOO 17 พ.ค. 2555, 15:52:26 น.
จบแบบนี้...แสดงว่าหมอเขตอกหักแน่นอน
ไรเตอร์หาใครดีๆ สักคนมาดามใจหมอเขตด้วยนะ


tutas 17 พ.ค. 2555, 16:08:06 น.
อย่างแรกคือ..สงสารหมอน้ำกับพี่ต้นจัง
ส่วนอย่างที่สอง..อยากเห็นคุัณดลง้อหนูริน จะหวานแค่ไหนน้ออออออ


Kazalong 17 พ.ค. 2555, 19:58:56 น.
หมอเขตน่าสงสารที่สุด แต่ไม่เป็นไรเน้อคะคุณหมอ รักคือการเห็นคนที่เรารักมีความสุขเน้อออออ


WallyValent 19 พ.ค. 2555, 16:50:37 น.
คุณดลนี่นะ สเป็กเลยยยยย 555+ ชอบแบบนี้อ่ะปอแก้ว
ไม่ชอบผู้ชายแสนดี แต่ชอบแบบมีมิติแบบนี้ กะริด ขอนะ
ปล.นับเวลารอตอนพิเศษ อิอิ


bansoi4 19 พ.ค. 2555, 17:05:11 น.
สงสารหมอเขต แต่อยากให้หมอน้ำสมหวังกับพนาดรคะ จะขอรออ่านตลอดไปคะ ขอบคุณคะ


Amata 20 พ.ค. 2555, 11:40:55 น.
แปะไว้ก่อนค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account