พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 29

ตอนที่ 29: คนที่หันหลังเดินจากไป




ทันทีที่อารัทธ์จัดการจอดรถเรียบร้อย นิชิตาจึงเปิดประตูและก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็วเสียจนคนที่เป็นสารถีแทบจะก้าวเดินไม่ทัน ชายหนุ่มจัดการล็อครถด้วยรีโมทแล้วจึงรีบเดินตามร่างของอาจารย์สาวที่เดินนำไปไกล กว่าจะตามทันก็ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้ก็เถอะ คุณอาจารย์ของเขาสับขาไวเสียจริง

“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ครับ”

นิชิตาตวัดสายตามามองหน้าอารัทธ์ทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบและยังคงเดินหน้าต่อไปแต่ก็ยังไม่วายต่อว่าคนที่กำลังเดินตามมา

“เพื่อนฉันกำลังมีปัญหาอยู่นะ จะให้ฉันชักช้าได้ยังไง”

“งั้นก็ช่วยใจเย็นๆก่อนได้ไหมครับ บางทีอาจจะเข้าใจผิดกัน”

คราวนี้นิชิตาหยุดเดิน และเมื่อเห็นคนรักหยุด อารัทธ์จึงหยุดตาม อาจารย์สาวหันควับมามองคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง มือขวายกขึ้นขยับแว่นสายตากรอบดำนิดหนึ่ง

“ทำไมคะ กลัวฉันจะเข้าไปทำร้ายเพื่อนคุณหรือยังไง” ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงออกแนวหาเรื่องนิดๆ รู้ทั้งรู้ว่าเธอกำลังโมโหทวิดาร์ขนาดไหนแล้วยังมาทำท่าจะเข้าข้างผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเธออีก เดี๋ยวก็งอนให้อีกคนหรอก

“โธ่! คุณอาจารย์...” อารัทธ์ร้องเสียงอ่อน “มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย” ก่อนจะปฏิเสธเพื่อเป็นการยืนยัน แต่ก็อดจะเป็นห่วงทวิดาร์ไม่ได้ เพราะผู้หญิงอย่างมุกตาภาคงไม่ลงมือทำร้ายใครก่อนแน่แม้อีกฝ่ายจะคิดไม่ดีกับตัวเองก็ตาม แต่กับนิชิตานี่สิที่เขาเป็นห่วง เห็นหน้าหมวยๆน่ารักๆอย่างนี้ใครจะรู้ว่าเธอน่ะไม่เคยกลัวใคร ร้ายมาสิบเท่า นิชิตาร้ายกลับร้อยเท่า

คิดแล้วก็อดที่จะหวั่นๆใจไม่ได้ว่าเรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่ รับคำสั่งมาจากเบื้องบนว่าให้ทำอย่างไรก็ได้เพื่อเป็นอุปสรรคพิสูจน์ความรักระหว่างชิษวัศและมุกตาภาให้รู้แน่เห็นจริงว่าทั้งคู่รักกันมากเพียงใด และจะเป็นอย่างไรเมื่อฝ่ายใดฝฝ่ายหนึ่งหันหลังให้กัน ซึ่งแผนการก็ดำเนินมาเกือบถึงขั้นสุดท้าย ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ทวิดาร์เล่นตามแผนได้ดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ เพราะการทำร้ายตัวเองของเธอ...มันอยู่นอกเหนือแผนการ

แล้วอย่างนี้ผลลัพธ์มันจะออกมาหัวหรือก้อยอารัทธ์เองก็ไม่อาจะรู้ได้ คงต้องคอยลุ้นว่าคนที่ถูกสอนให้เชื่อในสิ่งที่เห็นอย่างชิษวัศเชื่อในสิ่งที่ตามองหรือเชื่อในสิ่งที่หัวใจบอก แต่ที่รู้แน่ๆก็คือ...กลับไปกรุงเทพฯคราวนี้คงต้องมีเรื่องรายงานคุณปู่รันอีกยาว

...คิดผิดจริงๆที่ยอมเป็นสปายให้คุณปู่รัน เกิดไอ้อาร์มกับคุณอาจารย์รู้ตอนหลังมีแต่ตายกับตาย!...

อารัทธ์มองดวงหน้าของนิชิตาแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ นึกภาพยามที่เธอรู้ความจริงทั้งหมดแล้วก็กลัวขึ้นมาจับใจ ถึงตอนนั้นก็หวังว่าเธอจะยอมรับฟังและเข้าใจในแผนการพิสูจน์ความรักของคุณปู่รัน

นิชิตาอดสงสัยไม่ได้ยามเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของอารัทธ์ เพราะเขามองหน้าเธอแล้วถอนหายใจ เป็นอย่างนี้แสดงว่าต้องมีเรื่องหนักอกหนักใจให้คิดเป็นแน่ เพียงแค่เขาไม่ยอมเปิดปากที่จะบอกเธอเท่านั้น

“มีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่าคะ” เธอถาม คิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัยนั้นไม่น่าจะผิด

“เปล่าครับ...ไม่มี” อารัทธ์โกหกคำโตก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง “คุณรีบไม่ใช่หรือ ไปต่อเถอะครับ น้องมุกรออยู่นะ” อารัทธ์กระตุกข้อมือของนิชิตาให้เดินตามเบาๆ เพราะขืนปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ มีหวังความลับที่ห้ามเฉลยตอนนี้ได้แตกเพราะแววตาคาดคั้นของนิชิตาแน่!












เสียงถอนหายใจออกมายาวเหยียดของอารัทธ์ดังขึ้นในห้องพักของทวิดาร์พร้อมกับร่างเล็กบางของนิชิตาที่พยายามจะเก็บอารมณ์โกรธผสมกับความไม่พอใจไว้อย่างเต็มที่เมื่อพบว่าเพื่อนสาวคนสนิทนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่และไม่ได้อยู่ในห้องพักของตัวเอง ครั้นถามชิษวัศที่เป็นคนรู้ใจก็ได้คำตอบที่น่าหงุดหงิดใจนักเพราะคำตอบที่อาจารย์สาวได้รับคือคำว่า ‘พี่ไม่รู้’

...นี่เขารักเพื่อนเธอจริงๆหรือเปล่านะ!...

“แล้วน้องมุกไปไหนแกไม่รู้เลยหรือไงไอ้อาร์ม” อารัทธ์เองก็อดที่จะตำหนิเพื่อนไม่ได้ บางทีชิษวัศก็เถรตรงจนเกินเหตุ ใช้แต่เหตุผลอย่างเดียว ไม่เคยที่จะใช้หัวใจตัดสินอะไรๆบ้าง แบบนี้อย่างไรเล่าจึงต้องถูกพิสูจน์หัวใจด้วยแผนการของคุณปู่รัน

“ฉันไม่คิดว่าหนูมุกจะหายไปอย่างนี้” ชิษวัศเองก็รู้สึกเป็นห่วงมุกตาภาไม่น้อยเช่นกัน รู้ว่าหญิงสาวกำลังเสียใจ แต่ไม่คิดว่าจู่ๆเธอจะหายตัวไปจนใครก็ตามหาไม่เจออย่างนี้

“อาจจะอยู่กับไบรอันก็ได้นะคะ”

“เฟลอร์!” ชิษวัศกดเสียงต่ำ “ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพูดอย่างนี้ หนูมุกจะเสียหาย” ก่อนจำตะหนิเพื่อนสาวเสียงเข้ม แม้เธอจะเป็นเพื่อนที่เขาให้ความสำคัญ แต่มุกตาภาเป็นคนสำคัญที่ชายหนุ่มไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องให้แปดเปื้อนเหมือนกัน!

ทวิดาร์แกล้งทำหน้าเจื่อนก่อนจะสงบปากสงบคำทันที ในห้องนี้คงมีแต่อารัทธ์คนเดียวเท่านั้นที่รู้ความต้องการที่แท้จริงของทวิดาร์ และรู้ว่าแผนการสุดท้ายของมหากาพย์ดัดหลังเรื่องหัวใจชิษวัศคราวนี้จะจบลงเช่นไร แต่ตัวหมากใดจะเป็นตัวหมากปิดกระดาน...คงไม่พ้นไบรอันแน่นอน!

“หมูหวานจะไปมุก” บอกให้ทั้งชิษวัศและอารัทธ์รับรู้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ตามด้วยชิษวัศที่เดินออกไปพร้อมกับนิชิตาไปติดๆ ในห้องจึงเหลือเพียงอารัทธ์และทวิดาร์เท่านั้น

หนุ่มหน้าตี๋นัยน์ตาชั้นเดียวมองคนเจ็บที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างด้วยสายตาคาดโทษ

“เล่นนอกแผนไปเยอะนะเฟลอร์”

ประโยคของอารัทธ์สร้างเสียงหัวเราะกังวานใสลั่นห้อง “ก็กะเอาให้ทีเดียวอยู่”

“ถ้าอาร์มกับน้องมุกเลิกกันจะทำยังไง”

ทวิดาร์ส่ายหน้า “ไม่มีทาง” พร้อมกับเน้นย้ำให้อารัทธ์รู้ว่าสิ่งที่เขากลัวจะไม่มีทางเป็นจริง “อาร์มรักน้องมุกมากนะอาร์ท มากกว่าตอนที่คบกับเฟลอร์ด้วยซ้ำ และถึงอาร์มจะโกรธ อาร์มก็ไม่มีทางยอมเสียน้องมุกไปแน่ ไม่เชื่ออาร์ทคอยดูสิ”

อารัทธ์ถอนหายใจออกมาอีกที ไอ้เรื่องคอยดูน่ะคงได้คอยดูแน่ แต่จะคอยดูโดยที่ไม่เดือดร้อนด้วยนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึง เพราะที่แน่ๆถ้านิชิตารู้เรื่องนี้ขึ้นมา ชีวิตเขามีแต่จบกับจบ!











ริมหาดทรายที่ทอดยาวเรียบชายฝั่งทะเลหัวหิน ร่างบางระหงของมุกตาภาเดินลัดเลาะริมหาดทรายอย่างไร้จุดหมาย รองเท้าสานถูกถอดและถือไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง สองเท้าเปล่าเปลือยเหยียบลงบนทรายขาวเม็ดละเอียด น้ำทะเลที่ม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นต่ำๆซัดเข้าริมหาดทรายเบาๆแถมยังเผื่อแผ่ถึงคนที่กำลังเดินอยู่ราวกับว่ากำลังปลอบประโลมหัวใจที่บอบช้ำของเธอ

หากพอเดินไปสักพักร่างบางก็ต้องชักเท้ากลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกถึงรอยเจ็บลึกบริเวณฝ่าเท้า พอพลิกขึ้นมาดูก็พบเลือดสีแดงฉานไหลรินออกไป ความปวดและแสบเพราะแผลถูกความเค็มของน้ำทะเลทำให้ดวงหน้าสวยหวานนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด พยายามเดินกระย่องกระแย่งพาตัวเองให้พ้นจากกระแสคลื่นที่พัดเข้าตัวหาด หากยังไม่ทันได้ไปไหน ร่างทั้งร่างก็ถูกยกขึ้นอย่างเบามือไปสู่อ้อมแขนของใครอีกคน

“คุณไบรอัน!” มุกตาภาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงหลง ไม่คิดว่าเขาจะมาช่วยเธอเช่นนี้

ไบรอันมองอาการตื่นตระหนกของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มละมุนเช่นเคยก่อนจะวางร่างบอบบางของหญิงสาวลงบนหาดทรายที่พ้นจากเกลียวคลื่นที่ซาดซัดเขาฝั่ง ผ้าเช็ดหน้าสีน้ำตาลเข้มถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกงสีเบจขาสี่ส่วนก่อนจะถูกนำมาซับเลือดจากแผลบริเวณฝ่าเท้าที่โดนเปลือกหอยบาดของมุกตาภาเบาๆ ทว่าพอหนุ่มลูกครึ่งทำท่าว่าจะช่วยซับเลือดมุกตาภาก็ชักเท้าหนีอย่างรวดเร็วเสียอย่างนั้น

“จะทำอะไรคะ” ถามไปอย่างนั้นเพราะไม่ใช่ว่ากลัวเขาจะทำอะไรไม่ดี แต่ทั้งเธอและเขาไม่สนิทกันมากพอที่เขาจะช่วยเหลือเธออย่างนี้มากกว่า

“เลือดไหลเยอะแล้วนะเพิร์ล ต้องห้ามเลือดก่อน” ไบรอันบอก ใช้มือข้างซ้ายจับข้อเท้าของมุกตาภามาวางบนท่อนขาของตัวเองก่อนจะบรรจงใช้ผ้าเช็ดหน้าพันบริเวณปากแผลของหญิงสาวอย่างเบามือ

“ขอบคุณนะคะ” คนเจ็บบอกเสียงเบา ไบรอันยิ้มรับ

“ห้องเพิร์ลมีชุดปฐมพยาบาลไหม” หนุ่มลูกครึ่งถาม แล้วคำตอบที่ได้รับก็คือการส่ายหน้าปฏิเสธของมุกตาภา

“งั้นไปห้องผมแล้วกันนะ พอดีว่าผมพกมาด้วย” เขาตัดสินใจ ไม่สนใจมุกตาภาที่ทำท่าจะปฏิเสธพร้อมกับบอกเสียงเข้ม “ห้ามปฏิเสธครับ แผลอย่างนี้ต้องล้างให้สะอาด ต้องเอาทรายออกจากแผลให้หมด” พูดจบก็ช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพามุกตาภากลับขึ้นไปทำแผลต่อที่ห้องของตนโดยมีจุดประสงค์แอบแฝงคือจัดการปิดแผนการของทวิดาร์ที่ตนเองร่วมหัวจมท้ายร่วมขบวนการด้วยนั่นเอง!

ใช้เวลาไม่นานนักมุกตาภาก็เข้ามาอยู่ในห้องพักของไบรอันเรียบร้อย แม้จะรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่มากจนหญิงสาวทนไม่ได้ เพราะไบรอันไม่มีทีท่าที่จะทำอันตรายกับเธอแม้แต่น้อย ที่สำคัญเขายังดีกับเธอเสมอ คอยเป็นห่วงและช่วยเหลือเธอไม่เหมือนกับใครบางคนที่ไม่ยอมเชื่อใจกัน คิดถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำใสๆรื่นขึ้นมาจากดวงตาจนทำให้คนที่กำลังบรรจงล้างแผลอย่างเบามือถึงกับชะงักค้างเพราะคิดว่าตัวเองมือหนักไปจนทำให้มุกตาภาร้องไห้

“เจ็บหรือเพิร์ล ผมหนักมือไปหรือเปล่า” ไบรอันรีบถาม หากมุกตาภากลับส่ายหน้าปฏิเสธ

ได้รับคำตอบดังนั้นไบรอันจึงจัดการทำแผลให้หญิงสาวต่ออย่างเบามือ ชายหนุ่มล้างทำความสะอาดแผลและนำเศษทรายออกมาจากแผลอย่างหมดจดก่อนจะใส่ทิงเจอร์ไอโอดีนและปิดท้ายด้วยผ้าก๊อซพันทับบริเวณแผลเพื่อกันเชื้อโรคจึงเป็นอันเสร็จ

มุกตาภามองภาพของชายตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกขอบใจไบรอันอย่างที่สุด ถ้าเขาไม่มาช่วยเธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะพาตัวเองกลับมาถึงตัวรีสอร์ทอย่างไรโดยที่ไม่ให้แผลถูกทรายไปมากกว่านี้ และเขายังอุตส่าห์ทำแผลให้เธอโดยไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อยทั้งที่เป็นแผลบริเวณฝ่าเท้า คนที่ช่วยเธอคือไบรอัน คนที่เป็นห่วงเธอก็คือไบรอัน ทำไมไม่ใช่ชิษวัศ...ทำไมไม่ใช่พี่อาร์มของเธอ...ทำไมกัน...

“เพิร์ล...” ไบรอันเรียกหญิงสาวเสียงเบาก่อนจะลุกขึ้นและทรุดตัวลงนั่งบริเวณปลายเตียงนอนข้างๆร่างบาง รอยน้ำตาของมุกตาภาทำเอาคนที่อยู่ในแผนต้องรีบดำเนินการต่อ เพราะเขาต้องเป็นคนปิดแผนการนี้ให้ได้ผลที่สุด!

“ร้องไห้ทำไม เป็นอะไรครับ” หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันถามเสียงนุ่ม เอื้อมมือไปกุมมือบางมาวางไว้บนหน้าตักของตัวเอง

“มุกไม่ได้ทำ มุกไม่ได้ทำนะคะ คุณไบรอันเชื่อมุกไหม” มุกตาภาพร่ำบอกถึงความจริงที่ชิษวัศไม่ยอมที่จะเชื่อเธอ ความจริงที่ออกมาพร้อมๆกับหยาดน้ำตาที่ไหลรินอย่างไม่ขาดสาย

“อย่าร้องนะเพิร์ล...อย่าร้อง...” ไบรอันดึงร่างบางที่ร้องไห้ตัวสั่นเทาเข้าอ้อมกอด ถึงจะรู้ว่าทุกอย่างนั้นคือแผนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความรักระหว่างชิษวัศและมุกตาภา หากภาพที่ไบรอันเห็นอยู่ตอนนี้กลับทำให้ชายหนุ่มนึกสงสารมุกตาภาขึ้นมาจับใจ











ร่างสูงของชิษวัศเดินวนไปวนมาบริเวณรีสอร์ทเป็นรอบที่เท่าไหร่เจ้าตัวก็ไม่อยากที่จะนับ เพราะไม่ว่าจะหาอีกกี่รอบต่อกี่รอบก็ไม่มีวี่แววที่จะเจอมุกตาภาเลย ทั้งริมชายหาด ทั้งรอบๆตัวรีสอร์ท ชายหนุ่มก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนรัก

...อยู่ไหนนะหมูมุก หายไปอยู่ที่ไหน รู้บ้างไหมว่าพี่อาร์มเป็นห่วง...

...โกรธพี่มากใช่ไหมครับ โกรธกันมากใช่ไหมที่พี่ไม่ยอมพูดออกไปว่าเชื่อใจกัน แต่พี่ไม่เคยคิดว่าหนูมุกเป็นคนทำร้ายเฟลอร์เลย...ไม่เคย...แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำไป...

สายตาคู่คมมองไปยังร่างเล็กบางของนิชิตาที่วิ่งตรงมาหา ดูจากสีหน้าของอาจารย์สาวผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคงไม่ต่างจากผมลัพธ์ที่ตนเองได้มากนัก นิชิตาเองก็คงไม่เจอมุกตาภาเช่นกัน...

“หมูหวานไม่เจอมุกเลยค่ะ”

“พี่ก็ไม่เจอครับ” ชิษวัศบอกอย่างร้อนรนผสมกับความเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่ปิดบัง

“ลองถามพนักงานของทางรีสอร์ทแล้วหรือยังคะ” นิชิตาถาม เพราะเธอเองก็ลองวิธีนี้ดูแล้วแต่ก็ไม่ผลออกมาไม่ค่อยดีนัก

ชิษวัศพยักหน้ารับ “ถามแล้วครับ แต่ไม่มีใครเห็นเลย” หากพอจะหมดหวังสิ้นหนทาง แสงสว่างก็ทอแสงเป็นประกายรำไรอยู่ปลายอุโมงค์เมื่อพนักงานสาวของรีสอร์ทคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาบอกข่าวดีที่ชิษวัศถือว่ามันเป็นข่าวที่ดีที่สุดในชีวิต

“คุณคะ เจอผู้หญิงที่คุณหาแล้วค่ะ”

ทั้งชิษวัศและนิชิตาแย้มยิ้มพร้อมกับเบาใจขึ้นมาทันใด รู้ว่าเจอแล้วก็น่าจะพอรับประกันได้ว่ามุกตาภานั้นปลอดภัยดี

“แล้วเจอที่ไหนคะ” นิชิตาถามอย่างรวดเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน

“ดิฉันเห็นมีผู้ชายคนนึงอุ้มคุณผู้หญิงคนนั้นขึ้นห้องไปน่ะค่ะ”

ทว่าคำตอบของพนักงานสาวคนนี้กลับทำให้ทั้งนิชิตาและชิษวัศอึ้งไปพักใหญ่ จะหนักหน่อยก็คือชิษวัศที่รู้สึกราวกับว่ามีค้อนปอนด์ฟาดเข้าเต็มๆบนศีรษะ มันรู้สึกมึน งงอย่างไรบอกไม่ถูก ที่สำคัญไปกว่านั้น...หัวใจมันเจ็บราวกับว่ากำลังจะสลายไป

“ตะ...ตาฝาดหรือเปล่าคะ อาจจะ...มองผิด” นิชิตาพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีและพยายามที่จะทำให้บรรยากาศตรงนี้มันดีขึ้น เพราะขืนปล่อยให้ชิษวัศไปหาเพื่อนเธอด้วยอารมณ์อย่างนี้มีหวังได้แตกหักกันบ้าง

“ไม่นะคะ ดิฉันเห็นจริงๆค่ะ” หากคำยืนยันของพนักงานกลับทำให้นิชิตายิ่งอยากจะยกมือขึ้นกุมขมับเมื่อสถานการณ์ที่พยายามจะแก้ให้มันไปในทางที่ดีขึ้นทำท่าว่าจะแย่ลง

“ห้องไหน” น้ำเสียงทุ้มกดต่ำกับแววตาดุดันทำเอานิชิตาเริ่มที่จะหน้าซีดเหงื่อตกขึ้นมา ไม่เคยเห็นผู้ชายมาดนิ่งแลดูอบอุ่นอย่างชิษวัศโกรธมากมายขนาดนี้มาก่อน

“คะ?” พนักงานรีสอร์ทคนเดิมย้อนถามเสียงสูง ชิษวัศตวัดสายตาคู่คมมองไปยังร่างเล็กจ้อยนั่นตาขวาง

“เธอเห็นที่ไหน สองคนนั้นไปห้องไหน”

“ห้อง...ห้องของมิสเตอร์เกรกน่ะค่ะ ดิฉันเช็คหมายเลขห้องให้แล้วไม่ทราบว่า...”

ยังไม่ทันที่พนักงานคนนี้จะพูดจบ ร่างสูงของชิษวัศก็ก็เดินตรงลิ่วเข้าไปยังภายในรีสอร์ทโดยที่ไม่แม้จะฟังคำทัดทานจากนิชิตาที่ดังแว่วมา

“พี่อาร์มคะ! เดี๋ยวสิคะ! พี่อาร์ม!!” เรียกแล้วรั้งแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตามคำพูดของเธอ นิชิตาจึงตัดสินใจวิ่งตามร่างสูงของชิษวัศไปอย่างรวดเร็ว ไปถึงที่ห้องของมิสเตอร์เกรกอะไรนั่นแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ทำอย่างไรก็ได้ให้คนที่กำลังโกรธจัดอย่างชิษวัศยอมฟังเหตุผลจากปากของเพื่อนเธอ ไม่ใช่เอาแต่อารมณ์ที่คุกรุ่นจนไม่ยอมฟังอะไรเลย

...เรื่องชักจะยุ่งยากแล้วสิ!...












เสียงร้องไห้ผสมกับเสียงสะอื้นยังคงดังขึ้นต่อเนื่องภายในห้องพักของไบรอัน ชายหนุ่มเดินไปเก็บกล่องปฐมพยาบาลให้เข้าที่ก่อนจะทรุดตัวลงมานั่งข้างๆเธอ

“ตาบวมหมดแล้ว” ไบรอันดึงแผ่นกระดาษทิชชู่ขึ้นมาซับหยาดน้ำตาอย่างเบามือ ทั้งสายตาและการกระทำของเขานั้นช่างอ่อนโยน “ทิ้งน้ำตาออกมาเยอะขนาดนี้เดี๋ยวก็น้ำหมดตัวหรอกครับ” หนุ่มลูกครึ่งนัยน์ตาสีเทาพูดติดตลกเพื่อหวังให้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆอารมณ์ดีขึ้นมา ไม่เศร้าไม่โศกอยู่อย่างนี้

“มุก...เสียใจ” มุกตาภาบอกพร้อมๆกับเสียงสะอื้นไห้ “พี่อาร์ม...ไม่เชื่อมุก พี่อาร์มเชื่อผู้หญิงคนนั้น ไม่ยอมเชื่อมุก”

“รักคุณอาร์มมากหรือเพิร์ล” ไบรอันตัดสินใจถาม ดูจากอาการของหญิงสาวก็พอจะรู้ว่าคำตอบคงไม่พ้นคำว่า ‘รักมาก’ แต่ชายหนุ่มก็ยังอยากได้ยินมันจากปากของมุกตาภาอยู่ดี เพราะคำตอบของเธอคือสิ่งที่เขาต้องเก็บเอาไปรายงานเบื้องบนคนตนคิดปฏิบัติการทดสอบความรักในครั้งนี้

...แต่ให้ตายเถอะ! ให้ผู้ชายอย่างเขามาปลอบผู้หญิงที่น่ารักราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอย่างนี้ มันก็ต้องห้ามใจตัวเองขนาดหนักเลยนะนี่...

คนที่ร้องไห้จนตาบวมจมูกแดงนิ่งไปนิดหนึ่ง ไม่ใช่เพราะตอบคำถามของไบรอันไม่ได้ แต่ไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของคนถามนั้นคืออะไร แค่มีทวิดาร์เป็นบุคคลที่สามระหว่างเธอกับชิษวัศก็เพียงพอแล้ว เธอไม่อยากให้มีบุคคลที่สี่อย่างไบรอันโผล่เข้ามาในปัญหานี้อีกคน

“พี่อาร์มเป็นคนเดียวที่มุกจะรัก” หญิงสาวตอบอย่างหนักแน่น แม้จะร้องไห้แต่ความรู้สึกที่มีต่อชิษวัศก็ยังคงหนักแน่นไม่แปรเปลี่ยน

“ต่อให้คุณอาร์มทำอย่างนี้ก็จะรักหรือครับ ในอนาคตข้างหน้าก็ยังจะรักใช่ไหม”

มุกตาภาพยักหน้ารับก่อนจะสำทับด้วยประโยคที่ทำให้ไบรอันอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าตนเองมีคนรู้ใจอย่างหญิงสาวคนนี้คงจะดีไม่น้อย

“รักแรกไม่ว่าใครก็จะไม่มีวันลืมไม่ใช่หรือคะ ไม่ว่าจะสมหวังหรือไม่สมหวัง สำหรับมุกพี่อาร์มคือรักแรก...และรักสุดท้าย หัวใจดวงนี้มุกให้พี่อาร์มไปนานแล้ว ถ้าตอนนี้เขาจะไม่ต้องการมุกก็จะเอาหัวใจของมุกคืนมา แต่ก็จะไม่มีวันที่จะให้ใครอีก”

“แล้วถ้าเป็นผม...เพิร์ลจะให้ได้ไหม...หัวใจของเพิร์ล” ไบรอันแกล้งลองใจอีกฝ่าย แต่จะพูดว่าแกล้งก็ไม่ถูก...เพราะชายหนุ่มก็อยากเสี่ยงที่จะถาม มุกตาภาเปรียบเสมือนมุกเม็ดงาม งามทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าใครก็คงอยากได้มาครองไว้เคียงกาย และถ้าไม่มีชิษวัศ ถ้าทุกอย่างไม่ใช่แผนการลองใจ ไบรอันมั่นใจว่าตนเองคงจะเดินหน้าจีบผู้หญิงคนนี้แน่ๆ

“คุณไบรอัน...” หญิงสาวเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ดวงตาสีเทาที่มองตรงมายังเธอนั้นสื่อความหมายตรงตามประโยคที่เขาพูดออกมา “ล้อมุกเล่นใช่ไหมคะ...ล้อเล่น...”

ประโยคนั้นขาดห้วงเพราะไบรอันรั้งร่างบอบบางเข้าสู่อ้อมแขนกว้าง ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของไบรอันค่อยๆถ่ายทอดไปสู่หัวใจอีกดวงหนึ่งที่กำลังโศกเศร้า มุกตาภาสัมผัสได้กับความอ่อนโยนและห่วงใยที่ชายหนุ่มมีให้ การกระทำของเขาไม่ได้จาบจวง ตรงกันข้ามกลับอ่อนหวานเสียด้วยซ้ำ ไบรอันไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาถ่ายทอดความอบอุ่นห่วงใยให้เธอได้รับรู้ผ่านอ้อมกอดนี้ ปลอบประโลมพร้อมกับโยกตัวไปมาเบาๆ

เขาทำ...เหมือนกับที่ใครบางคนเคยทำแบบนี้กับเธอ

ใครบางคน...ที่ตอนนี้ไม่เลยที่จะเข้ามาปลอบเธอเหมือนอย่างที่ไบรอันทำ

หากมุกตาภาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อประตูห้องพักของไบรอันถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชิษวัศและมีนิชิตาสิ่งตามเข้ามาติดๆ ดูจากสายตาคู่คมสีนิลที่มองมายังเธอ หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าชิษวัศนั้นได้ตัดสินใจไปแล้วว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้เป็นเช่นไร

เธอทรยศเขา!

“ที่หายไปตั้งนานเพราะมากอดปลอบใจกันอยู่ใช่ไหม” คำถามของชิษวัศเปรียบเสมือนมีดที่กรีดแทงหัวใจดวงน้อยของมุกตาภาให้เจ็บปวด

“ไม่ใช่...มันไม่ใช่อย่างพี่อาร์มคิดนะคะ...” มุกตาภาผละออกจากอ้อมกอดของไบรอัน หญิงสาวก้าวเท้าเข้าใกล้ร่างสูงที่ยืนอยู่ภายในห้อง หากเธอเข้าไปใกล้ ชิษวัศกลับก้าวเท้าถอนหนีราวกับว่ารังเกียจกัน
ดวงตากลมสวยมองผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจด้วยแววตาผิดหวัง...เธอเจ็บที่เห็นเขาแสดงอาการอย่างนี้ใส่กัน และหัวใจ...มันปวดจนไม่รู้จะพูดจะบอกอย่างไรให้เท่ากับที่รู้สึกอยู่ในอกตอนนี้

“แล้วหนูมุกจะให้พี่คิดยังไง พี่เห็นกับตาตัวเองว่าหนูมุกกอดอยู่กับมัน!” ชิษวัศตะโกนลั่นห้อง มือทั้งสองกำแน่นอยู่ข้างลำตัว พยายามกดอารมณ์โกรธไม่ให้มันปะทุออกมา เพราะถ้าเขาโกรธจนระงับไม่ได้ล่ะก็...ชิษวัศเองก็ไม่มั่นใจว่าจะทำอะไรลงไปบ้าง

“มุกไม่ได้ทำอะไร!” มุกตาภาปฏิเสธเสียงดังก่อนจะขอร้องด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “...ทำไมพี่อาร์มไม่เชื่อกันบ้าง”

ชิษวัศจ้องมองดวงตาที่มักจะมีประกายสดใสอยู่เสมอทว่าตอนนี้กลับหมองหม่นอย่างนึกสงสาร หากพอสงสาร ภาพที่มุกตาภากอดกับไบรอันเมื่อครู่นั้นก็ฉายชัดอยู่ในหัว ซ้ำไปซ้ำมาจนเจ็บในหัวใจ

“พี่เชื่อในสิ่งที่เห็น และพี่เห็นว่าเธอกอดอยู่กับมัน!” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน สรรพนามที่เคยใช้เรียกมุกตาภานั้นเปลี่ยนไป จาก ‘หนูมุก’ กลายเป็น ‘เธอ’

มือบางป้ายหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างลวกๆ ดวงหน้าหวานนั้นเชิดขึ้น “หมายความว่าพี่อาร์มไม่เคยเชื่อใจมุกเลยใช่ไหมคะ ที่ผ่านมาพี่อาร์มไม่เชื่อหัวใจของมุกเลยใช่ไหม!”

“แล้วสิ่งที่เธอทำมันหมายความว่ายังไง!” ชิษวัศสวนขึ้นทีที่มุกตาภาพูดจบร้อนจนนิชิตาต้องเสี่ยงห้ามเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มบานปลาย

“ใจเย็นๆก่อนนะคะพี่อาร์ม มุกก็ใจเย็นๆก่อน ค่อยพูดค่อยจากัน” อาจารย์สาวพยายามที่จะไกล่เกลี่ย แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนักเมื่อทั้งมุกตาภาและชิษวัศไม่ยอมที่จะฟังเธอเลย นิชิตารู้ซึ้งถึงคำโบราณที่ว่าไว้ ‘น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือเข้าไปขวาง’ ท่าจะจริงก็วันนี้นี่เอง

...ก็แม่น้ำสองสายเล่นเชี่ยวเสียอย่างนี้ เรืออย่างเธอก็มีแต่พังกับพังน่ะสิ!...

“พี่เย็นที่สุดแล้วนะหมูหวาน ถ้าไม่เย็นป่านนี้ได้มีบางคนเจ็บตัวบ้างแล้ว” ชิษวัศปลายตามองร่างสูงอีกคนที่ยืนเด่นเป็นสง่า

ไบรอันเองก็พอจะรู้ว่าชิษวัศนั้นหมายถึงใคร เพราะร่างของหนุ่มลูกครึ่งก้าวเท้าเข้ามายืนเคียงข้างมุกตาภาพร้อมกับเอื้อมมือมากุมมือบางที่สั่นงกไว้หลวมๆ โดยไม่สนใจว่าชิษวัศจะรู้สึกอย่างไรและจะโกรธมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่

...ขอปิดแผนการเลยแล้วกัน!...

“ถ้าผมจะดูแลมุกเม็ดนี้แทนคุณ...จะเป็นไรไหมครับ”

หมัดขวาตรงถูกปล่อยมาถูกใบหน้าคมสันอย่างแรงจนร่างของไบรอันล้มลงบนพื้น เลือดที่แดงฉานไหลออกมาจากบริเวณมุมปาก ผู้ร่วมเหตุการณ์อย่างมุกตาภามองสิ่งที่เพิ่งเกิดไปหมาดๆด้วยอาการตื่นตระหนก หากไม่นานมุกตาภาก็รีบรุดเข้าไปพยุงร่างของไบรอัน ส่วนนิชิตานั้นก็รีบรั้งคนตัวโตอย่างชิษวัศไม่ให้เข้าไปปล่อยหมัดซ้ำรอยเดิม

“จะปกป้องมันใช่ไหมมุกตาภา” ชิษวัศแค่นเสียงถาม เสียใจไม่น้อยที่เธอเลือกที่จะเข้าไปพยุงไบรอันแทนที่จะเดินมาหาตนเอง

“คุณไบรอันไม่ได้ทำอะไรผิด”

“กอดผู้หญิงของคนอื่นนี่น่ะหรือไม่ผิด” ชิษวัศถามด้วยน้ำเสียงกดต่ำ แววตาที่เคยอบอุ่นนั้นแข็งกร้าวจนมุกตาภาหวาดกลัวแต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นว่า...เธอไม่กลัว

“แล้วคุณเฟลอร์กอดผู้ชายของคนอื่นนี่ผิดไหมคะ”

“มุกตาภา!” ชิษวัศเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความโกรธ เขาโกรธที่ถูกหญิงสาวย้อนด้วยคำถามเดียวกัน โกรธ...เพราะมุกตาภาเอาเรื่องของทวิดาร์มาเป็นต้นเหตุของปัญหาอีกแล้ว

“ทำไมคะ” หญิงสาวถามกลับอย่างไม่เกรงกลัว “แทงใจดำพี่อาร์มใช่ไหม”

“เพราะเฟลอร์ไม่ได้คิดอย่างนั้น!” ชิษวัศยังคงยืนยันคำเดิม ก่อนที่สายตาจะหันไปมองยังไบรอัน “แต่หมอนี่มันคิดกับเธอเกินกว่าคำว่าเพื่อน ดูไม่ออกหรือคิดจะจับปลาสองมือกันแน่มุกตาภา!”

เผียะ!!!

เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าดังขึ้นลั่นห้อง และมันคงจะแรงมากพอเพราะใบหน้าขาวสะอาดของชิษวัศนั้นหันไปตามฝ่ามือที่สะบัดถูกใบหน้าคม มุกตาภาตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ น้อยใจเสียใจเป็นที่สุดที่ได้ยินคำพูดว่าร้ายออกมาจากปากของผู้ชายที่เธอรัก!

“อย่ามาดูถูกความรักของมุก!” น้ำเสียงหวานใสสั่นอย่างชัดเจน น้ำตาที่คลออยู่ก่อนหน้านี้ค่อยๆไหลรินออกมา

“มุกอาจจะไม่ไว้ใจแต่มุกก็ยังเชื่อใจว่าหัวใจของพี่อาร์มยังเป็นของมุก...” หญิงสาวเงียบไปนิดหนึ่งพร้อมกับป้ายม่านน้ำตาให้พ้นออกไป “แต่พี่อาร์มไม่เคยที่จะเชื่อใจมุกเลย พี่อาร์มไม่เชื่อไม่พอแต่ยังดูถูกความรักของมุก ดูถูกหัวใจของมุก และถ้าพี่อาร์มไม่คิดจะเชื่อใจกัน ถ้าพี่อาร์มคิดว่ามุก ‘จับปลาสองมือ’ ถ้าอย่างนั้น...มุกขอคืนนะคะ...”

ดวงตากลมสวยสบดวงตาคู่คมสีนิลผ่านม่านน้ำตานิ่งก่อนที่จะพูดประโยคอันเปรียบดั่งมีดแสนคมที่กรีดลงบนเนื้อหัวใจทั้งสองดวง

“หัวใจและความรักของมุก...มุกขอคืนทั้งหมด...ต่อไปนี้ ‘เรา’ ไม่เคยรู้จักกัน”

คำพูดสุดท้ายจบลงพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสาย ร่างบางของมุกตาภาเดินผ่านร่างสูงของชิษวัศออกจากห้องไปโดยที่ไม่เหลียวหลังมามองว่าคนที่ถูกเอาทั้งหัวใจและความรักคืนกลับไปเป็นเช่นไร นิชิตาเองก็เช่นกัน หญิงสาวเดินออกจากห้องตามเพื่อนไปติดๆ รู้สึกโกรธและโมโหกับคำพูดของชิษวัศไม่ต่างกัน

และเมื่อทั้งมุกตาภาและนิชิตาเดินจากไป ร่างสูงของชิษวัศก็เดินออกจากห้องของไบรอันด้วยสติอันเลื่อนลอย ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง หยาดน้ำอุ่นๆก็ไหลออกจากดวงตาคู่คมสีนิล คำพูดของมุกตาภายังคงดังก้องอยู่ในหัว

‘หัวใจและความรักของมุก...มุกขอคืนทั้งหมด...’

เธอขอคืนไปแล้ว...หัวใจ...และความรัก มุกตาภาขอคืนไปจากเขาทั้งหมด

‘ต่อไปนี้ ‘เรา’ ไม่เคยรู้จักกัน...’

และเธอ...ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดให้จบสิ้นลง ไม่อยากรู้จัก ไม่อยากเห็นหน้ากัน...ตลอดไป

ชิษวัศยกมือขึ้นมาจับบริเวณหัวใจของตัวเอง มันเจ็บกว่าคราวที่ทวิดาร์บอกเลิกมากนัก ครั้งนี้...มันเจ็บราวกับว่าหัวใจได้สลายไปและมันจะไม่มีทางกลับมาเป็นหัวใจดวงเดิมเพราะหัวใจดวงนี้ไม่มีมุกตาภามาคอยเติมเต็ม ขายาวๆกำลังจะก้าวตามเพื่อรั้งคนที่หันหลังเดินจากไปไว้กลับชะงักลงเมื่อภาพเหตุการณ์ในห้องพักของไบรอันฉายชัดขึ้น ชิษวัศหยุดการกระทำทุกอย่างลงก่อนจะตัดสินใจเดินกลับห้องของตัวเอง

ชายหนุ่มถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เล็กว่าให้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ถ้าสิ่งใดยังไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเองอย่าได้ปักใจเชื่อ ‘จะเชื่อ’ เมื่อเห็นด้วยตาคู่นี้ของตัวเองเท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน...ที่เขาโกรธก็เพราะเขาเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น และเพราะความเป็นคนที่มีทิฐิสูงกว่าคนทั่วไป ผู้ชายอย่างชิษวัศไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงที่หันหลังให้กับตัวเอง!

...ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับครั้งนี้เช่นกัน!!


-------------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่งปั่นเสร็จค่าาาา
อีกประมาณ 3 - 4 ตอน (ยาวๆ) ก็จบแล้วนะค้าาาาาา
จัดมาเลยค่ะ ใครจะเหวี่ยงพี่อาร์ม...เชิญค่ะ...// ปอแก้วขอหลบก่อน


ตอบเมนท์จากตอนที่แล้วค่ะ :)


คุณ violette : พี่อาร์ทอยากบอกนะคะ แต่พี่อาร์ทก็กลัวหมูหวานคิดบัญชีเหมือนกันนี่นา (ไม่ต้องกลัวไปค่ะ เพราะโดนแน่ๆๆๆ 55555) ส่วนหนูมุก...งานนี้งอนยาวค่ะ และพี่อาร์มต้องง้อเองด้วย เพราะคนอื่นโดนสั่งมาแล้วว่า 'ห้ามช่วย!'

คุณ nunoi : ปอแก้วก็ไม่อยากบอกนะคะ แต่มันก็ใช่เลยแหละค่ะ แผนเร่งปฏิกิริยาให้คุณพี่อาร์มหัดใช้หัวใจมากกว่าสมองน่ะค่ะ คุณปู่เขาจะดัดหลังหลานตัวเอง (แต่ก็ต้องเอาหนูมุกมากเอี่ยวด้วยค่ะ) อาจจะแรงไปแต่ถ้าผ่านไปได้ ไม่ว่าจะปัญหาอะไรทั้งคู่ก็ไม่หวั่นแล้วล่ะค่ะ เนอะ ^____^

คุณ หมูบูลิน : ตอนนี้ยิ่งใจร้ายมากกว่าตอนที่แล้วอีกค่ะ หนูมุกงอนยาวแน่ๆ

คุณ ดาวคันชั่ง : มันไม่ชอบมาพากลจริงๆแหละค่ะ เดี๋ยวเรื่องราวทุกอย่างก็จะเฉลยแล้ว แต่ถ้าหนูมุกยอมใจอ่อนง่ายไปมันก็ไม่สนุกใช่ไหมคะ งานนี้มีเอาคืนพี่อาร์มแน่ค่ะ หึ หึ หึ

คุณ pattisa : ตอนนี้คงต้องจัดการผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหลายด้วยค่ะ!

คุณ roseolar : ไม่ใช่ตุธรรมดาแต่กลิ่นแรงเชียวล่ะค่ะ พี่อาร์มกับหนูมุกเจอทดสอบมาตั้งแต่ต้นเลย หุ หุ หุ

คุณ anOO : แต่พี่อาร์ท...คือผู้สมรู้ร่วมคิดกับเฟลอร์นะคะ ฮี่ๆ พี่อาร์ทนั่นแหละค่ะ...จะซวย (ถ้าหมูหวานรู้เรื่องเมื่อไหร่ ตายแน่!)

คุณ mookisme : 5555 ถ้าเป็นหมูหวานคงอัดไปแล้ว แต่หนูมุกยังงงๆ เบลอๆน่ะ

คุณ Kazalong : เสียใจค่ะ เสียใจมากเลยด้วย แต่ตอนนี้พี่อาร์มปากไวจริงๆ หนูมุกเลยเสียใจมากมายเลยค่ะ

คุณ ตะวันลับฟ้า : ปล่อยให้ต้องรอนาน ขอโทษด้วยนะคะ >< เห็นด้วยค่ะว่าบางครั้งคนเราก็ต้องให้หัวใจนำเหตุผลบ้าง พี่อาร์มก็เช่นกันค่ะ :)

คุณ tutas : ใจพระเอกเราก็บอกว่าไม่เชื่อนะคะ แต่สมองมันบอกให้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นน่ะค่ะ (ค่อนข้างที่จะสับสยในตัวเองพอควร)





ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ค. 2555, 21:06:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ค. 2555, 15:13:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1770





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 28   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 30 >>
mookisme 26 พ.ค. 2555, 22:08:35 น.
เอาแล้วสิ.. ให้มันได้อย่างนี้ !!!! จะเป็นไงต่อไปล่ะเนี่ย อยากอ่านต่อแล้วจ้า 555


mooyui 26 พ.ค. 2555, 22:33:00 น.
คือ สมัครสมาชิกเพื่อเม้นท์ตอนนี้ เหอๆๆ
เราร้องไห้อ่ะไรเตอร์ มันเป็นอะไรที่..
แบบอึดอัด อัดอั้น แบบถ้าเป็นเรานะ
หรืออยู่ในเหตุการณ์ เราคงห้ามใจไม่ให้กระทำอะไรรุนแรงต่อพระเอกไม่ได้หรอก
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด อิน!!!


violette 26 พ.ค. 2555, 22:49:53 น.
งอนยาวววววววววววววงอนยาวววววววววววววววว ยุแยงหนูมุกเต็มที่
พี่อาร์มจะไม่ง้อก็ช่างนะ เชอะ หมั่นไส้ ไอ้คนทิฐิสูงลิ่วตัวเองถูกตลอดแบบนี้ เฮอะ


ดาวคันชั่ง 26 พ.ค. 2555, 23:21:28 น.
หาว่า จับปลาสองมือ แถมยังพูดจาปกป้องทวิดาร์ตลอด เป็นใครใครก็เจ็บ พี่อาร์มจะทำร้ายจิตใจคนที่ตัวเองรักไปถึงไหนเนี่ย


nunoi 26 พ.ค. 2555, 23:28:00 น.
ทำเอาน้ำตาซึมเลย สงสารหนูมุกมาก คนรักไม่เชื่อใจกันเป็นอะไรที่แย่สุดๆ
ตอนนี้อยากเปลี่ยนพระเอกเลยเชียว อยากให้หนูมุกเอาคืนให้หนักๆไปเลย


หมูบูลิน 27 พ.ค. 2555, 00:24:22 น.
พี่อาร์มโหดร้ายกับหัวใจคนอ่านมากก ขอเอาอะไรมาทุบหัวพี่อาร์มทีเหอะนะ


anOO 27 พ.ค. 2555, 14:05:44 น.
กลายเป็นเรื่องใหญ่จนได้ พี่อาร์มคงจะงี่เง่าไปอีกพักใหญ่


Kazalong 28 พ.ค. 2555, 05:58:25 น.
เอ้าแล้ว ไปกันใหญ่แล้วรีบไปง้อซิคะพี่อาร์ม ปากไวไปหน่อย แต่ก็แอบสะใจนิดๆทำเป็นพูดดี พี่อาร์ม งอนให้เข็ดเลยหนูมุข


tutas 30 พ.ค. 2555, 13:04:45 น.
อยากกระโดดกัดหูพี่อาร์มจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดีเลย!!!!!! เอาคืนมาเลยหัวใจกับความรักของหนูมุก พี่อาร์มจะได้รู้ซะที


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account