พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก
ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 30
พี่อาร์มมาแว้วววววววววววววว
เชิญอ่านค่าาาาาาาาาาาาาาาา
ตอนที่ 31: บรรลุเป้าหมาย
นิชิตาซอยเท้าเดินตามร่างของเพื่อนสาวยิก เพราะถ้าขืนเธอเดินช้ากว่านี้คงเดินไม่ทันมุกตาภาเป็นแน่ ต่อให้ร้องเรียกอย่างไรเพื่อนก็ไม่แม้ที่จะหยุดแล้วหันมาฟัง เป็นจังหวะเดียวกับอารัทธ์ที่เดินมาพอดี อาจารย์สาวจึงร้องขอให้คนรักช่วยหยุดมุกตาภาเอาไว้
อารัทธ์หยุดร่างบอบบางของคนที่กำลังร้องไห้ปิ่มขาดใจด้วยมือเพียงมือเดียวรั้งข้อมือบางเอาไว้มั่น รอจนนิชิตาเดินเข้ามาสมทบจึงยอมปล่อยมือให้มุกตาภาเป็นอิสระ
“ใจเย็นๆก่อนนะมุก ทุกอย่างยังแก้ไขได้” อาจารย์สาวพยายามหว่านล้อม
อารัทธ์เองก็พอเดาได้จากบทสนทนาของสองสาวว่าแผนการที่วางมาตั้งแต่ต้นนั้นลุล่วงไปด้วยดี
...แต่เรื่องราวหลังแผนการนี่สิลำบากนัก วันที่ทั้งชิษวัศ มุกตาภาแถมด้วยนิชิตารู้ความจริง ไม่รู้ว่าเขาจะโดนลงโทษอย่างไร...
มุกตาภาจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่เรียวของเพื่อนอย่างแน่วแน่ การตัดสินใจที่ทำไปเมื่อครู่นั้นยากเย็นแสนเข็ญ แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่เธอคิดดีแล้ว
“หมูหวานก็ได้ยินที่พี่อาร์มพูดทุกคำ ได้ยินอย่างนั้นแล้วหมูหวานยังจะให้มุกยอมที่จะใจอ่อนอีกเหรอ...ไม่มีทาง!” บทจะดื้อรั้น มุกตาภาก็ดื้อรั้นไม่แพ้ใคร ยิ่งเป็นเรื่องของหัวใจด้วยแล้ว สำหรับมุกตาภา...ถ้า ‘เจ็บ’ แล้วต้อง ‘จำ’ และเธอ...จะไม่ทน
“แล้วมุกจะทิ้งทุกอย่างไปจริงๆเหรอ ความรักที่มุกมีให้พี่อาร์มมาสิบกว่าปี มุกจะทิ้งทุกอย่างลงในวันนี้ใช่ไหม”
“ใช่!” มุกตาภาตอบอย่างแน่วแน่ “พี่อาร์มใจร้าย...ใจร้ายที่ทำกับมุกอย่างนี้ ถ้าเขาจะใจร้ายอย่างนี้ มุกก็ใจร้ายได้เหมือนกัน” บอกพร้อมกับหมุนตัวทำท่าว่าจะเดินจากไปแต่นิชิตาก็ยังไวพอที่จะดึงแขนของเพื่อนไว้ได้ทัน
“จะไปไหน”
“กลับกรุงเทพฯ” มุกตาภาตอบสั้นๆ ยังมีรอยน้ำตาในดวงตากลมโตให้เห็น
“แล้วจะกลับยังไงรถก็ไม่ได้เอามา” นิชิตาถามย้ำ อยากให้มุกตาภาใจเย็นกว่านี้
“ไม่รู้ แต่จะกลับ”
คำตอบของเพื่อนสาวทำเอาอาจารย์คนเก่งถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ รั้งจนไม่รู้จะรั้งยังไง หว่านล้อมก็หว่านล้อมจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้วมุกตาภาก็ยังไม่ยอมที่จะใจเย็นลง เป็นอย่างนี้คงต้องปล่อยให้อยู่กับตัวเองเพื่อทบทวนทุกสิ่งอย่างสักพัก
“งั้นคุณอาจารย์ขับรถผมกลับไปก่อน แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนน้องมุกด้วยก็ดีนะครับ” อารัทธ์เสนอทางออกพร้อมกับยื่นกุญแจรถของตนเองให้นิชิตา
“แล้วคุณจะกลับยังไง” ถามออกไปเพราะเป็นห่วง ถ้าอารัทธ์ให้รถเธอขับกลับกรุงเทพฯแล้วตัวเขาเล่าจะกลับอย่างไร
“คุณห่วงน้องมุก ผมก็ห่วงไอ้อาร์มเหมือนกันครับ คงแย่ไม่ต่างกันนักหรอก”
ชื่อของชิษวัศสร้างรอยกระตุกในหัวใจของมุกตาภาไม่น้อย แต่หญิงสาวก็รีบปัดความรู้สึกนั้นให้ออกไปอย่างรวดเร็ว คนใจร้ายอย่างนั้น...เธอจะไม่สนใจเอาอีก...ไม่สนอีกต่อไป
“ถึงกรุงเทพฯแล้วโทรหาด้วยนะคะ” นิชิตาไม่วายที่จะเอ่ยคำสั่งด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ยังพอคลายความกังวลไปได้บ้างว่าเพราะถ้ามีอารัทธ์กลับไปด้วย การเดินทางกลับกรุงเทพฯของชิษวัศคงปลอดภัยกว่าที่จะให้เขาขับรถกลับเองด้วยความรู้สึกที่มันไม่มั่นคงอย่างนี้
อารัทธ์มองตามร่างสองร่างที่ค่อยๆเดินห่างออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเหนื่อยอ่อน แผนการที่ร่วมกับทวิดาร์และไบรอันได้จบลงแล้ว ที่เหลือคงต้องรอให้คุณชิษวัศคนเก่งรู้ตัวรู้ใจเสียทีว่าชีวิตนี้ขาดผู้หญิงที่ชื่อมุกตาภาไม่ได้! และถ้ามันยังไม่รู้ตัว อารัทธ์ก็มั่นใจว่าคุณปู่รันคงเตรียมการกระตุ้นหลานชายคนโตไว้เรียบร้อยแล้ว
...คนอย่างคุณปู่รัน...เป็นนักวางแผนที่หาตัวจับยากจริงๆสิให้ตาย!...
หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่หัวหิน วันรุ่งขึ้นที่ชิษวัศกลับเข้ามาทำงาน หากบนโต๊ะทำงานที่คุ้นชินกลับมีซองสีขาวสะอาดตาวางอยู่ ทันทีที่เห็นโดยไม่แม้จะต้องเปิดอ่าน ชายหนุ่มก็รู้ได้เลยว่าภายในซองนั้นคืออะไร ดวงตาคู่คมมองไปยังโต๊ะที่ตอนนี้กลายเป็นของ ‘อดีตผู้ช่วย’ โดยที่ตนเองยังไม่ทันได้อนุญาตอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะผลุนผลันออกจากห้องไปโดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายบุคคล!
...ถ้าจะลาออกก็ต้องมาลาออกกับเขาโดยตรง อย่าคิดจะมาลาออกลับหลังอย่างนี้เชียวมุกตาภา!...
“คุณภัทร!” ชิษวัศเปิดประตูห้องทำงานของธีรภัทรเข้าไปพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึง ซองขาวที่ใส่ใบลาออกของมุกตาภาถูกโยนไปตรงหน้าของผู้จัดการฝ่ายวัยกลางคนอย่างหัวเสีย
“บอกมุกตาภาด้วยว่าถ้าจะลาออกก็ให้มาลาออกกับผมเอง ถ้าลาออกผ่านคนอื่นผมไม่อนุญาต!” คำสั่งเด็ดขาดออกมาจากผู้บริหารหนุ่ม อารมณ์โมโหเปิดเผยอย่างนี้ของชิษวัศไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก และถ้าจะพูดตามจริง...ไม่ค่อยมีใครอยากจะเห็นเสียมากกว่า
“แต่ท่านประธานอนุญาตไปแล้วครับ”
“อะไรนะ!” ชิษวัศร้องถามเสียงหลง ชายหนุ่มน่าจะคิดได้ว่ามุกตาภารู้จักเขาดีกว่าใคร เธอคงรู้แน่ว่าเขาต้องมาอาละวาดกับธีรภัทรและจะไม่ยอมให้เธอลาออกจึงจัดการเรื่องลาออกผ่านทางคุณปู่รันโดยตรง
แต่ขอโทษด้วย! คราวนี้เธอคิดผิดถนัด เพราะต่อให้เป็นคุณปู่งานนี้ชิษวัศก็จะไม่ยอม มุกตาภาเป็นลูกน้องของเขา เป็นคนของเขา คำอนุญาตให้ลาออกในครั้งนี้ชิษวัศไม่มีทางที่จะยอมรับเด็ดขาด!
แม้ว่าจะโกรธ...โกรธมาก แต่ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าแท้ที่จริงแล้วเขายังไม่พร้อมที่จะปล่อยมือมุกตาภาให้เดินจากไป แม้เธอจะตัดเยื่อใย แม้เธอยืนยันที่จะหันหลังและเดินจากไปแต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะปล่อยมือคู่นั้นไปอยู่ดี แต่ทั้งๆที่ไม่อยากจะเสียคนรักไป หากทิฐิที่มีอยู่มากโขก็ยังคงทำให้ชิษวัศไม่ยอมที่จะเอ่ยปากขอโทษและง้องอนก่อนอย่างที่เคยทำมา
เพราะถูกสอนมาให้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ชิษวัศจึงได้บทสรุปด้วยตัวเองว่า...เรื่องคราวนี้ต้องไม่ใช่เขาที่เป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าไปง้องอน แต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไป
นี่มันขัดแย้งในตัวเองชัดๆ!
ร่างสูงเดินออกจากห้องทำงานของธีรภัทรก่อนจะขึ้นลิฟท์มายังชั้นที่ท่านประธานทำงานอยู่ ประตูห้องที่ติดชื่อของคุณรันทร์ ตตินรากรณ์เด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้า ชิษวัศผลักประตูเข้าไปก่อนจะพบกับเจ้าของห้องที่นั่งยิ้มราวกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหลานชายคนโตจะมาเยือน
“หน้าบอกบุญไม่รับแต่เช้าเลยนี่” ประโยคแรกก็กะจะยั่วให้อีกฝ่ายประสาทเสีย เพื่อเป็นการดัดหลังเล็กๆน้อยๆ ชิษวัศจะได้รู้ว่าบางครั้งเรื่องของหัวใจก็ต้องใช้หัวใจตัดสิน ไม่ใช่สักแต่จะใช้เหตุผลและสมองเพียงอย่างเดียว
“ผมไม่ยอม” ชิษวัศบอกคุณรันทร์เสียงแข็ง ยื่นซองสีขาวสะอาดตาบนโต๊ะทำงานของท่าน
“พูดกับน้องแรงขนาดนั้นแล้วจะยังไม่ยอมอะไรอีกฮึเจ้าอาร์ม รู้หรือเปล่าว่าที่พูดไปมันแรงแค่ไหน หาว่าน้องจับปลาสองมือ พูดไปได้ยังไง”
“สายรายงานซะละเอียดเลยนะครับ” หลานชายประชดคุณปู่นิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ก็คุณปู่รันกับคุณปู่รินสอนผมเองไม่ใช่เหรอครับว่าให้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ถ้าตาคู่นี้เห็นอะไร สิ่งนั้นคือความจริง ผมเห็นมุกตาภากอดกับไบรอันต่อหน้าต่อตาขนาดนั้นแล้วคุณปู่จะให้ผมคิดยังไงครับ”
เมื่อเจอย้อนอย่างนี้คุณปู่รันก็แทบจะต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ ท่านยอมรับว่าทั้งท่านและน้องชายสอนลูกหลานทุกคนไปอย่างนั้น ‘อย่าเชื่อในสิ่งที่เพียงแค่ได้ฟังมา ให้เชื่อในสิ่งที่ตาของตนมองเห็น’ แต่กรณีของชิษวัศนี่คงเถรตรงไปสักหน่อย เพราะเจ้าหลายชายคนนี้ตัดสินทุกอย่างด้วยตาและสมองโดยที่ไม่เคยใช้หัวใจ อย่างนี้ไงเล่าท่านถึงต้องวางแผนนี้ขึ้นมาเพื่อน ‘สั่งสอน’ ด้วยประสบการณ์จริงให้ชิษวัศได้รู้ว่า...ในบางครั้งกับเรื่องบางเรื่อง...คนเราอาจจะต้องใช้หัวใจนำหน้าทั้งสมอง เหตุผลและสิ่งที่ตาเห็น
“สรุปว่าแกโยนความผิดมาให้ปู่งั้นรึ” คุณรันทร์แกล้งทำเสียงเข้ม ที่มักจะใช้กำราบทั้งลูกและหลานได้เสมอและครั้งนี้ก็ได้ผลเหมือนเช่นทุกครั้ง
“เปล่าสักหน่อยครับ...” ชิษวัศปฏิเสธเสียงอ่อย “แต่คุณปู่ก็สอนพวกผมมาอย่างนี้จริงๆนี่ฮะ” แต่ก็ยังไม่วายที่จะย้ำให้คุณปู่รันได้รับรู้ว่าตนเองเป็นหลานชายที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคยออกนอกลู่ทางคาอนแม้แต่นิดเดียว
“ฉันสอนพวกแกดีไปใช่ไหมนี่” คุณรันทร์บ่นขึ้นมาลอยๆ เพราะมันเป็นอย่างนี้อย่างไรเล่าท่านกับน้องชายถึงต้องคิดแผนการหาหลานเขยหลานสะใภ้ขึ้นมา ก็แต่ละคนเล่นเอาสมองนำหน้าหัวใจกันเสียหมดโดยไม่ได้รู้เลยว่าเรื่องบางเรื่องนั้นมองข้ามเหตุผลไปบ้างก็ได้ ไม่ต้องเก็บมาคิดให้จุกจิก หัวใจคิดอย่างไร บอกอย่างไรก็ให้ทำไปตามนั้น
บทเรียนครั้งนี้จึงต้องมีขึ้นมาเพื่อให้เจ้าพวกนี้ได้รู้และเห็นตัวอย่างว่าเมื่อใดเหตุผลสมควรมาก่อนหัวใจ และเมื่อใดที่หัวใจสมควรมาก่อนเหตุผล หรือเมื่อใดสมควรที่จะใช้ทั้งเหตุผลและหัวใจไปพร้อมๆกัน
ชิษวัศและมุกตาภาคือคู่ที่ท่านและน้องชายเลือกที่จะทดสอบ ความรักที่มุกตาภามีให้กับชิษวัศตั้งแต่ในวัยเด็ก คุณรันทร์มั่นใจว่ามันจะไม่มีทางหมดไป และท่านก็รู้จักหลานชายคนโตคนนี้ดีกว่าใครๆ ชิษวัศจะไม่มีทางยอมปล่อยมุกตาภาไปแน่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
และแผนการคราวนี้จะสำเร็จลุล่วงไปไม่ได้เลยถ้าท่านไม่มี ‘ลูกมือ’ อย่างทวิดาร์ อารัทธ์ รวมถึงหุ้นส่วนคนสำคัญอย่างไบรอันที่ยอมโดดลงมาช่วยในแผนการครั้งนี้ แต่กว่าที่อดีตคนรักของชิษวัศจะยอมเป็นกำลังสำคัญในแผนการครั้งนี้ท่านก็ต้องลงแรงหว่านล้อมอยู่หลายรอบทีเดียว
‘ปู่มีเรื่องอยากให้เฟลอร์ช่วยหน่อย’ นั่นคือประโยคแรกที่ท่านพูดกับทวิดาร์หลังจากที่หญิงสาวเพิ่งกลับมาเยือนแผ่นดินเกิดได้เพียงสองวันและคุณรันทร์ยังจำสีหน้าของทวิดาร์ได้ดีว่าเป็นเช่นไร
...ทั้งตกใจและสงสัย...
‘เรื่องอะไรคะคุณปู่ ถ้าเฟลอร์ช่วยได้เฟลอร์ช่วยคุณปู่ทุกเรื่องเลยค่ะ’ ทวิดาร์รับคำ หญิงสาวนั้นเคารพคุณรันทร์ราวกับท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอคนหนึ่ง ท่านไม่โกรธเธอสักน้อยยามที่เธอขอหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านเปลี่ยนจากสถานะของการเป็นคนรักกลับมาเป็นแค่เพื่อนกันดังเดิม แถมท่านยังเอ็นดูเธอเหมือนเคยไม่มีเปลี่ยนแปลง และยังช่วยเหลือเธอให้ได้ทำงานในบริษัทที่เธอใฝ่ฝัน เป็นเพราะท่านฝากฝัง...เธอจึงได้ทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของบิดาไบรอัน
‘ตอนนี้เหมือนเจ้าอาร์มมันเหมือนจะชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง แล้วปู่ก็คิดว่าในอนาคตอันใกล้สองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันแน่’
จนถึงตอนนี้ทวิดาร์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณปู่รันต้องการจะบอกอะไรเธอกันแน่ หญิงสาวเลิกคิ้วสูง ถามอย่างสงสัย
‘คุณปู่ไม่ชอบเธอหรือคะ’
คำถามของทวิดาร์ทำเอาคุณรันทร์ปล่อยหัวเราะเสียงดัง
‘ใครว่า...ปู่ชอบแม่หนูคนนี้มากต่างหาก’
‘อ้าว...’ คำพูดของคุณรันทร์ไม่ได้ทำให้ทวิดาร์เข้าใจอะไรๆได้กระจ่างขึ้นเลย ‘แล้วจะให้เฟลอร์ช่วยยังไงคะ’
‘ถ้าสองคนนั้นตกลงคบกันเมื่อไหร่...ปู่อยากให้เฟลอร์ช่วยเขี่ยถ่านไฟนเก่าระหว่างเรากับเจ้าอาร์มให้ปู่หน่อย’
มาคราวนี้ดวงตาคู่เรียวถึงกับเบิกกว้างอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณรันทร์จะใช้ไม้นี้กับชิษวัศ ซึ่งเธอคิดว่ามันค่อนข้างใจร้ายและโหดไปเสียหน่อยกับคนทั้งคู่
‘จะดีเหรอคะคุณปู่ สงสารอาร์มออกค่ะ ที่สำคัญ...สงสารแฟนอาร์มด้วย’ หญิงสาวไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนการนี้ เพราะความเป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอจึงไม่ค่อยอยากเลยที่ต้องสวมบทแฟนเก่าอยากได้ของคืน
‘เฟลอร์ก็รู้จักหลานชายคนนี้ของปู่ดีไม่ใช่หรือ’ คุณรันทร์ตั้งคำถาม เมื่อทวิดาร์พยักหน้ารับท่านจึงพูดต่อ ‘คนอย่างเจ้าอาร์ม...ปู่กับปู่รินเลี้ยงมันมาย่อมรู้ดี หลานชายคนนี้ของปู่ใช้เหตุผลมาก่อนความรู้สึกเสมอ และถ้ายังเป็นอย่างนี้...ปู่สงสารผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาเป็นอีกครึ่งชีวิตของมัน อย่างตอนที่เฟลอร์เลิกกับอาร์ม ปู่เห็นใจเฟลอร์มาก รู้ใช่ไหมลูก’
ทวิดาร์พยักหน้ารับอีกครั้ง ความรู้สึกตื้นตันรื่นขึ้นมาเต็มอก น้ำตาพลันเอ่อขึ้นคลอเต็มดวงตาคู่งาม
‘มาคราวนี้...ปู่ไม่อยากให้อาร์มจบเรื่องหัวใจอย่างคราวของเฟลอร์ เพราะผู้หญิงคนนี้...ปู่ดูออกมาว่าเจ้าอาร์มมันรักมาก รักแบบที่ตัวเองไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตัวเองจะรักและผูกพันมากขนาดนี้...’ คุณรันทร์เว้นวรรคนิดหนึ่ง ดวงตาที่มองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่งจ้องมองไปยังคนที่ท่านคิดเสมอว่าเปรียบเสมือนหลานสาวแท้ๆ
‘ปู่เลยอยากให้เฟลอร์ช่วยหน่อย...คิดว่าช่วยเจ้าอาร์มมันก็ได้ เพราะถ้าเป็นเฟลอร์...อาร์มมันไม่มีทางคิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงทระนงตนอย่างเฟลอร์จะกลับมาเขี่ยถ่านไฟเก่าให้คุ’ คุณปู่รันยิ้มน้อยๆจนริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัยที่มากขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจน
คนถูกไหว้วานให้สวมบทร้ายนิ่งคิดไปเป็นเวลาพอควร ทุกคำพูดของคุณปู่รันนั้นไม่มีคำไหนที่ผิด ชิษวัศเป็นผู้ชายอย่างที่ท่านบอกมาทุกประการ ใช้สมองตัดสิน เหตุผลมาก่อน หัวใจไว้ทีหลัง นั่นล่ะผู้ชายที่ชื่อชิษวัศ
‘แต่ว่า...ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คุณปู่วางแผนไว้ ถ้าขืนว่าสองคนนั้นเลิกกันจริงๆ เฟลอร์ว่ามันไม่ค่อยดีเลยนะคะ’ ทวิดาร์ยังคงไม่ยอมตบปากรับคำเข้าร่วมแผนการของคุณรันทร์ เพราะถ้าแผนการนี้ทำให้หัวใจสองดวงตัดสินใจเดินสวนทางกันล่ะก็...เธอมิต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตหรือ
คุณรันทร์ยิ้มน้อยๆ ราวกับต้องการจะบอกทวิดาร์ว่าสิ่งที่หญิงสาวกังวลมันจะไม่มีทางเกิดขึ้น...แน่นอน
‘ปู่ไม่เคยมองหลานของตัวเองผิดไปจากที่เคยมอง...’ คุณรันทร์บอกช้าๆ ‘ครั้งนี้ก็จะไม่มีวันผิดเหมือนกัน...เจ้าอาร์มมันไม่มีทางปล่อยมือจากหนูมุกแน่ๆ ไม่ว่าจะมีเดิมพันที่ปู่วางไว้หรือไม่ก็ตาม’ คุณปู่รันบอกอย่างมั่นใจ เดิมพันที่บรรดาหลานๆจะได้หรือจะเสียอาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เจ้าพวกนั้นตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องราวของหัวใจ แต่คุณรันทร์ก็มั่นใจว่า ทรัพย์สมบัติพวกนั้นไม่ใช่เหตุผลหลัก...หัวใจจากหากเล่าที่จะเป็นตัวชี้ชัดว่าสมควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เรียกว่า...ความรัก
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากคุณปู่รัน ทวิดาร์ก็นิ่งคิดไปพักหนึ่ง หญิงสาวทราบเรื่องทุกอย่างว่าท่านกับคุณรินทร์ตั้งเงื่อนไงให้หลานทุกคนหาคู่มาให้ท่านเห็นให้ทันก่อนจะขึ้นศักราชใหม่และทุกคนต้องทำให้ได้เสียด้วย ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งที่อย่างที่มีจะมลายหายไปต่อหน้าต่อตา
...โหดไม่เบา...
หญิงสาวเหลือบตาขึ้นมามองผู้อาวุโสอีกครั้งก่อนจะถอนลมหายใจออกมายาวเหยียด เธอยอมช่วยเรื่องแผนการครั้งนี้ของท่านก็ได้ แต่งานนี้เธอคงทำคนเดียวไม่ไหวแน่ งานใหญ่ระดับนี้...เธอต้องการผู้ช่วย
‘เฟลอร์ยอมช่วยก็ได้...แต่คุณปู่ต้องหาผู้ช่วยให้เฟลอร์ งานนี้บอกตามตรงว่าทำคนเดียวไม่ไหวแน่ค่ะ’
เหตุการณ์ในความทรงจำถูกหยุดไว้แค่ประโยคยอมรับปากช่วยเหลือของทวิดาร์ก่อนที่คุณรันทร์จะเหลือบตาขึ้นมามองหน้าหลานชายคนโตอีกครั้ง ชิษวัศคงคาดไม่ถึงเลยทีเดียวว่าทั้งทวิดาร์และอารัทธ์คือหมากที่ท่านสร้างขึ้นมาเพื่อดัดนิสัยของตนเอง!
“แล้วอาร์มจะเอายังไง” ท่านถามอีกครั้ง อยากรู้เสียจริงว่าเจ้าหลานชายฟอร์มจัดคนนี้มันจะตัดสินใจอย่างไร
“ผมไม่ให้มุกตาภาลาออก” ชิษวัศสวนกลับขึ้นทันที “ผมเป็นเจ้านาย ผมไม่อนุญาต” ก่อนจะเถียงโดยงัดเหตุผลที่เรียกสายตาเฉียบคมของคุณรันทร์ให้สบมองใบหน้าของหลานชาย
“แต่ปู่เป็นประธานบริษัท ปู่อนุญาตไปแล้ว ใครก็ไม่มีสิทธิ์ขัดทั้งนั้น”
“คุณปู่!” ชิษวัศร้องเรียกคุณรันทร์ลั่นห้องทำงาน แม้จะทั้งขัดใจและหงุดหงิดใจแต่ตนเองก็ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะโต้แย้งหรือยกเลิกคำสั่งของท่าน ก็อย่างที่ท่านบอก...คำสั่งของประธานบริษัท ใครใครก็ไม่มีสิทธิ์ขัดทั้งนั้น!
หลายชายคนโตสูดหายใจเข้าเต็มปอด ยืดตัวเต็มความสูง “ก็ได้ครับ เพราะทุกอย่างเป็นความต้องการของมุกตาภาทั้งนั้น และคุณปู่ของผมก็อนุญาตไปแล้วด้วย ผมคงพูดอะไรไม่ได้” ชิษวัศยอมรับแกมประชดแถมยังกึ่งๆน้อยใจก่อนที่จะหมุนตัวกลับเพื่อออกจากห้องทำงานของคุณรันทร์ไป
“ถ้าไม่อยากให้น้องไปแล้วทำไมไม่ไปขอโทษ” คำพูดของคนเป็นปู่ทำให้ร่างสูงที่กำลังจะก้าวเท้าชะงักทันที
ชิษวัศหันกลับมามองคุณปู่รันอีกครั้ง “ยอมอนุญาตให้มุกตาภาลาออกเพราะคุณปู่อยากให้ผมเป็นฝ่ายไปง้อใช่ไหมครับ”
“ก็แกทำผิด...ไปง้อน้องมันจะเสียศักดิ์ศรีอะไรมากมาย”
“สิ่งที่ตาผมมองเห็น...มันไม่มีวันผิดครับ” ชิษวัศยังคงยืนยันคำเดิม อะไรที่ถูกสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเล็ก คนอย่างเขาไม่เคยลืม ไม่คิดจะลืมหรือเปลี่ยนแปลงอะไร
“บางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ความจริง...ปู่เคยสอนอาร์มอย่างนี้เหมือนกัน แต่อาร์มคงลืมไป” ประโยคของคุณปู่รันที่พูดทิ้งท้ายจี้ใจดำของชิษวัศได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มยังคงจำได้...ไม่ได้ลืมอย่างที่คุณปู่รันบอก คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ สิ่งที่แสดงให้เห็นอาจจะไม่ใช่ตัวตนของคนผู้นั้นจริงๆ แม้จะรู้...แต่ชายหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้โกรธที่มุกตาภากอดกับไบรอันอย่างนั้น
หรือรักมาก...ก็เลยโกรธมาก
ใช่...ความจริงมันอาจจะเป็นอย่างนั้น ชิษวัศรู้หัวใจของตัวเองดีว่ามันรักมุกตาภาไปแล้วทั้งหัวใจ รัก...มากกว่าคราวของทวิดาร์ และรัก...จนไม่อยากคิดเลยว่าชีวิตที่ไม่มีมุกตาภามันจะเป็นอย่างไร
ถ้าเปรียบเหมือนเรือที่ขาดหางเสือคงไม่ผิดนัก
แต่เพราะศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้ชิษวัศเลือกที่จะปล่อยให้มุกตาภาหันหลังเดินจากไปโดยที่ตัวเองไม่ยอมเอื้อมมือไปฉุดรั้ง ผู้ชายอย่างชิษวัศ...คำว่า ‘ศักดิ์ศรี’ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาหยาม!
ประตูห้องทำงานของคุณรันทร์ถูกปิดลงพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้งของชิษวัศ ขาที่กำลังจะก้าวกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองชะงักลงเพราะรู้ดีว่ากลับไปก็พบแต่ความว่างเปล่า
ไม่มีอีกแล้ว...รอยยิ้มที่มักจะส่งมาให้เขาเสมอ
ไม่มีอีกแล้ว...เสียงหัวเราะที่มักเกิดขึ้นเสมอเพื่อให้เขาหัวเราะตาม
และไม่มีอีกแล้ว...คนที่เขาได้ฝากอีกครึ่งชีวิตที่เหลือไว้กับเธอ
ไม่มี...หนูมุก...ของพี่อาร์ม
ร้าน ‘La Forza Del Destino’ ยังคงมีลูกค้าเดินเข้าออกมาดูสินค้าไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอหรือแหวนเพชรไม่ขาดสาย และวันนี้คงพิเศษหน่อยเพราะผู้หญิงที่ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ร้านเพชรอย่างอาจารย์นิชิตาอุตส่าห์ลงทุนเดินเข้าร้านเพชรร้านหรูด้วยตัวของเธอเอง!
“สวัสดีค่ะ...”
“คุณอารัทธ์อยู่ไหม” ไม่ทันให้พนักงานของร้านกล่าวตอนรับหรือยกมือไหว้ นิชิตาก็ตั้งคำถามสวนไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสายตากรอบดำกวาดสายตามองหาบุคคลที่เธอต้องการจะพบรอบร้าน
“อยู่ค่ะแต่...” คำตอบของพนักงานทำเอาคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น
“แต่อะไร ฉันมีธุระด่วนต้องการจะพบเดี๋ยวนี้” นิชิตาบอกความต้องการของตัวเองด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“คุณอารัทธ์มีแขกค่ะ”
นิชิตาเลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะคำว่า ‘แขก’ ของพนักงานสาว “อยู่ที่ไหน”
“ห้อง...ห้องทำงานค่ะ” อาจเป็นเพราะสายตาและน้ำเสียงดุๆจึงทำให้พนักงานประจำร้านยอมคายคำตอบออกมาและพอนิชิตาก้าวเดินไปยังห้องทำงานที่ตั้งอยู่ภายในร้าน พนักงานสาวคนที่คุยกันเมื่อครู่ก็เดินตามมาติดๆ
“ไม่ต้องตาม” นิชิตาหันไปสั่งเสียงเฉียบขาดพร้อมกับสายตาที่มองลอดกรอบแว่นสายตาและเพียงเท่านั้นพนักงานสาวที่วันนี้ดวงคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็หยุดกึกทันที
อาจารย์สาวร่างเล็กเดินไปยังทางที่พนักงานคนนั้นชี้มาก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องที่หญิงสาวคิดว่าคงเป็นห้องทำงานของอารัทธ์ มือเล็กบางกำขึ้นตั้งท่าเตรียมเคาะเพื่อให้เจ้าของห้องรับรู้ตามมารยาท หากพอกำลังจะเคาะ ประโยคสนทนาจากภายในห้องก็แทบทำให้หญิงสาวตัวแข็งเป็นหุ่น
“ขอบคุณนะคะคุณอารัทธ์ที่ช่วยรายงานความเป็นไปของอาร์มทำให้เฟลอร์จัดการเรื่องของอาร์มกับน้องมุกสำเร็จไปได้ด้วยดี”
“เฟลอร์จัดการเสร็จ แต่อาร์ทสิจะซวย ถ้าคุณหมูหวานรู้อาร์ทตายแน่ๆ”
ทวิดาร์หัวเราะคิกคักกับหน้าตาของอารัทธ์ที่แลดูกลัวคุณอาจารย์นิชิตาสุดขีด
“น่า...น่า...” หญิงสาวโบกมือเพื่อบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงจิตตกมากไปนัก “ไหนๆเฟลอร์ก็แย่งอาร์มมาสำเร็จแล้วนี่นะ อาร์ทจะคิดมากทำไม”
ทวิดาร์พูดติดตลก ไม่ได้คิดจริงจังอะไรเพราะหญิงสาวเพียงพูดเล่นพูดหัวกับอารัทธ์เพียงเท่านั้น แต่คงผิดพลาดไปเสียหน่อยเมื่อมีบุคคลที่สามได้ยินประโยคนั้นของเธออยู่อีกหนึ่งคน!
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับร่างของอาจารย์สาวที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะความโกรธ เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นภายในห้องเมื่อสักครู่เงียบลงทันที อารัทธ์มองหน้าคนรักที่มาเยือนอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่ที่รู้แน่ๆก็คือ...นิชิตากำลังคิดว่าเขาคือคนที่ช่วยให้ทวิดาร์แย่งชิษวัศมา ซึ่งนั่นก็ถูก...แต่ทุกอย่างที่เขาทำมันเป็นเพียงแค่แผน
แผน...ที่เธอไม่รู้!!
“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง คุณหักหลังมุกได้ยังไง!” นิชิตาตะโกนลั่นห้อง สองมือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว อาการอย่างนี้หมายความว่าเธอกำลังโกรธ...แถมยังมากเสียด้วย
“ดะ...เดี๋ยวนะคุณอาจารย์” อารัทธ์กระวีกระวาดลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่จะก้าวปราดเดียวก็ถึงตัวนิชิตา “คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ คือผม...”
เผียะ!!
ยังไม่ทันจะพูดจบก็มีเหตุให้อารัทธ์ต้องหยุดพูดเพราะหน้าชาไปหนึ่งแถบเพราะแรงฝ่ามือของนิชิตา ซึ่งมันคงจะแรงน่าดูเพราะชายหนุ่มรู้สึกถึงความเค็มและคาวเลือดจากด้านในปาก
“ฉันเกลียดคนอย่างคุณที่สุด!!” น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาคู่เรียวก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งออกจากห้องไปทิ้งให้อารัทธ์มองร่างเล็กบางที่วิ่งห่างออกไปอย่างทำอะไรไม่ถูก
“เรื่องใหญ่แล้วล่ะสิ” ทวิดาร์บอกเสียงเบา การที่นิชิตามาได้ยินและเข้าใจผิดอย่างนี้ตัวเธอเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
อารัทธ์ถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม มือหนึ่งยกขึ้นกุมขมับราวกับกำลังใช้ความคิดว่าสมควรที่จะทำอย่างไรต่อไป
“เจ็บมั้ยอาร์ท” ทวิดาร์ยื่นหน้าเข้ามาดูแผลที่มุมปากของอารัทธ์ที่มีเลือดออกซิบๆ
“เจ็บมาก!” อารัทธ์ยอมรับตามความจริง “สงสัยงานนี้คงต้องให้เฟลอร์ช่วย”
ทวิดาร์เลิกคิ้วขึ้นสูง “ช่วยอะไร อย่าบอกนะว่าให้เฟลอร์ไปบอกความจริงคุณหมูหวานว่าทุกอย่างคือแผนของคุณปู่รัน”
“ใช่” อารัทธ์พยักหน้ารับ
“แล้วคุณอาจารย์ของอาร์ทเขาจะเชื่อเฟลอร์เหรอ”
“ยังไงก็ต้องทำให้เชื่อให้ได้!” อารัทธ์ประกาศกร้าว “ไม่อย่างนั้นเรื่องได้ยุ่งไปมากกว่านี้แน่ เพราะไม่ใช่แค่หนูมุกที่จะหันหลังทิ้งไอ้อาร์มหรอกแต่คุณหมูหวานก็จะหันหลังทิ้งอาร์ทไปอีกคน!”
อารัทธ์บอกอย่างหัวเสีย งานนี้เป็นไงเป็นกัน ชายหนุ่มยอมถูกตบอีกทีเลยก็ได้แต่ขออย่างเดียวให้นิชิตาเชื่อคำพูดของเขาและทวิดาร์ก็พอ เพราะถ้าเธอไม่เชื่อ เรื่องของชิษวัศและมุกตาภามันก็จะยากไปกว่าเดิม เพราะการผสานความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ยังจำเป็นที่จะต้องให้นิชิตาช่วยอีกมาก ถึงคุณปู่รันจะไม่อยากให้คนอื่นยื่นมือเข้าไปช่วย แต่อารัทธ์ก็รู้ดีว่าท่านคงไม่ว่าอะไรถ้าหลานชายคนโตจะมีกองหนุน
และที่สำคัญที่สุด...อารัทธ์ไม่มีวันยอมที่จะเสียนิชิตาไปเด็ดขาด กว่าจะชนะใจอาจารย์สาวร่างเล็กได้ชายหนุ่มต้องใช้ความอดทนและความจริงใจไปตั้งมากมายกว่าจะได้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวในดวงนั้น เพราะฉะนั้น...เขาจะไม่มีวันยอมเสียเธอไป!
-------------------------------------------------------------------------------------
พี่อาร์ทโดนตบแรง...มากค่ะ =_=
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ
ช่วงนี้อะไรๆยังไม่ค่อยลงตัวและเรื่องนี้เขียนไปโพสไปแล้วค่ะ
มาช้าบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ -/\-
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทุกคอมเมนท์และทุกไลค์นะคะ
ตอบเมนท์กันอย่างเคย...
คุณ mookisme : มาต่อให้แต่มาช้ามากๆๆๆๆๆๆเลย
คุณ mooyui : โอ้...ขอบคุณมากจริงๆค่ะ แต่งานนี้ปอแก้วก็มาต่อตอนต่อไปให้ช้ามากเลย ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้พี่อาร์มก็ยังทำตัวน่าหงุดหงิดเหมือนเดิมเลยล่ะค่ะ
คุณ violette : งอนยาวชัวร์ค่ะ แล้วพี่อาร์มจะได้รู้ว่ายามตัวเองถูกลอยแพนั้นจะเป็นอย่างไร หึ หึ หึ
คุณ ดาวคันชั่ง : นั่นน่ะสิคะ!!! ไม่ยอมไปง้อแต่ก็ไม่อยากให้เค้าไป ดูพี่อาร์มทำสิคะ มันน่านักเชียว!!!
คุณ nunoi : ตอนนี้พี่อาร์มคะแนนติดลบไปแล้วใช่ไหมคะ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่ล่ะน้าาาาา แต่ปอแก้วรับรองว่าพี่อาร์มโดนเอาคืนแน่นอนค่ะ
คุณ หมูบูลิน : เชิญเลยค่ะ...เผื่อพี่อาร์มจะคิดได้ขึ้นมาบ้าง
คุณ anOO : เดาแม่นจังเลยค่ะ :) งี่เง่าไปพักนึงจริงๆ จนกว่าเจ้าตัวเขาจะรู้สึกได้นี่แหละค่ะ ถึงจะสำนึก
คุณ Kazalong : พี่อาร์มเคยง้อหนูมุกได้สำเร็จตลอด แต่งานนี้ขอบอกว่าไม่ง่ายอย่างที่แล้วๆมาแน่ค่ะ
คุณ tutas : พี่อาร์มก็หูแหว่งแย่สิคะ อิอิ เอาหัวใจคืนมาแล้ว หวังว่าพี่อาร์มจะรู้สึกตัวได้ว่าสมควรจะทำอย่างไร
เชิญอ่านค่าาาาาาาาาาาาาาาา
ตอนที่ 31: บรรลุเป้าหมาย
นิชิตาซอยเท้าเดินตามร่างของเพื่อนสาวยิก เพราะถ้าขืนเธอเดินช้ากว่านี้คงเดินไม่ทันมุกตาภาเป็นแน่ ต่อให้ร้องเรียกอย่างไรเพื่อนก็ไม่แม้ที่จะหยุดแล้วหันมาฟัง เป็นจังหวะเดียวกับอารัทธ์ที่เดินมาพอดี อาจารย์สาวจึงร้องขอให้คนรักช่วยหยุดมุกตาภาเอาไว้
อารัทธ์หยุดร่างบอบบางของคนที่กำลังร้องไห้ปิ่มขาดใจด้วยมือเพียงมือเดียวรั้งข้อมือบางเอาไว้มั่น รอจนนิชิตาเดินเข้ามาสมทบจึงยอมปล่อยมือให้มุกตาภาเป็นอิสระ
“ใจเย็นๆก่อนนะมุก ทุกอย่างยังแก้ไขได้” อาจารย์สาวพยายามหว่านล้อม
อารัทธ์เองก็พอเดาได้จากบทสนทนาของสองสาวว่าแผนการที่วางมาตั้งแต่ต้นนั้นลุล่วงไปด้วยดี
...แต่เรื่องราวหลังแผนการนี่สิลำบากนัก วันที่ทั้งชิษวัศ มุกตาภาแถมด้วยนิชิตารู้ความจริง ไม่รู้ว่าเขาจะโดนลงโทษอย่างไร...
มุกตาภาจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่เรียวของเพื่อนอย่างแน่วแน่ การตัดสินใจที่ทำไปเมื่อครู่นั้นยากเย็นแสนเข็ญ แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่เธอคิดดีแล้ว
“หมูหวานก็ได้ยินที่พี่อาร์มพูดทุกคำ ได้ยินอย่างนั้นแล้วหมูหวานยังจะให้มุกยอมที่จะใจอ่อนอีกเหรอ...ไม่มีทาง!” บทจะดื้อรั้น มุกตาภาก็ดื้อรั้นไม่แพ้ใคร ยิ่งเป็นเรื่องของหัวใจด้วยแล้ว สำหรับมุกตาภา...ถ้า ‘เจ็บ’ แล้วต้อง ‘จำ’ และเธอ...จะไม่ทน
“แล้วมุกจะทิ้งทุกอย่างไปจริงๆเหรอ ความรักที่มุกมีให้พี่อาร์มมาสิบกว่าปี มุกจะทิ้งทุกอย่างลงในวันนี้ใช่ไหม”
“ใช่!” มุกตาภาตอบอย่างแน่วแน่ “พี่อาร์มใจร้าย...ใจร้ายที่ทำกับมุกอย่างนี้ ถ้าเขาจะใจร้ายอย่างนี้ มุกก็ใจร้ายได้เหมือนกัน” บอกพร้อมกับหมุนตัวทำท่าว่าจะเดินจากไปแต่นิชิตาก็ยังไวพอที่จะดึงแขนของเพื่อนไว้ได้ทัน
“จะไปไหน”
“กลับกรุงเทพฯ” มุกตาภาตอบสั้นๆ ยังมีรอยน้ำตาในดวงตากลมโตให้เห็น
“แล้วจะกลับยังไงรถก็ไม่ได้เอามา” นิชิตาถามย้ำ อยากให้มุกตาภาใจเย็นกว่านี้
“ไม่รู้ แต่จะกลับ”
คำตอบของเพื่อนสาวทำเอาอาจารย์คนเก่งถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ รั้งจนไม่รู้จะรั้งยังไง หว่านล้อมก็หว่านล้อมจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้วมุกตาภาก็ยังไม่ยอมที่จะใจเย็นลง เป็นอย่างนี้คงต้องปล่อยให้อยู่กับตัวเองเพื่อทบทวนทุกสิ่งอย่างสักพัก
“งั้นคุณอาจารย์ขับรถผมกลับไปก่อน แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนน้องมุกด้วยก็ดีนะครับ” อารัทธ์เสนอทางออกพร้อมกับยื่นกุญแจรถของตนเองให้นิชิตา
“แล้วคุณจะกลับยังไง” ถามออกไปเพราะเป็นห่วง ถ้าอารัทธ์ให้รถเธอขับกลับกรุงเทพฯแล้วตัวเขาเล่าจะกลับอย่างไร
“คุณห่วงน้องมุก ผมก็ห่วงไอ้อาร์มเหมือนกันครับ คงแย่ไม่ต่างกันนักหรอก”
ชื่อของชิษวัศสร้างรอยกระตุกในหัวใจของมุกตาภาไม่น้อย แต่หญิงสาวก็รีบปัดความรู้สึกนั้นให้ออกไปอย่างรวดเร็ว คนใจร้ายอย่างนั้น...เธอจะไม่สนใจเอาอีก...ไม่สนอีกต่อไป
“ถึงกรุงเทพฯแล้วโทรหาด้วยนะคะ” นิชิตาไม่วายที่จะเอ่ยคำสั่งด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ยังพอคลายความกังวลไปได้บ้างว่าเพราะถ้ามีอารัทธ์กลับไปด้วย การเดินทางกลับกรุงเทพฯของชิษวัศคงปลอดภัยกว่าที่จะให้เขาขับรถกลับเองด้วยความรู้สึกที่มันไม่มั่นคงอย่างนี้
อารัทธ์มองตามร่างสองร่างที่ค่อยๆเดินห่างออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเหนื่อยอ่อน แผนการที่ร่วมกับทวิดาร์และไบรอันได้จบลงแล้ว ที่เหลือคงต้องรอให้คุณชิษวัศคนเก่งรู้ตัวรู้ใจเสียทีว่าชีวิตนี้ขาดผู้หญิงที่ชื่อมุกตาภาไม่ได้! และถ้ามันยังไม่รู้ตัว อารัทธ์ก็มั่นใจว่าคุณปู่รันคงเตรียมการกระตุ้นหลานชายคนโตไว้เรียบร้อยแล้ว
...คนอย่างคุณปู่รัน...เป็นนักวางแผนที่หาตัวจับยากจริงๆสิให้ตาย!...
หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่หัวหิน วันรุ่งขึ้นที่ชิษวัศกลับเข้ามาทำงาน หากบนโต๊ะทำงานที่คุ้นชินกลับมีซองสีขาวสะอาดตาวางอยู่ ทันทีที่เห็นโดยไม่แม้จะต้องเปิดอ่าน ชายหนุ่มก็รู้ได้เลยว่าภายในซองนั้นคืออะไร ดวงตาคู่คมมองไปยังโต๊ะที่ตอนนี้กลายเป็นของ ‘อดีตผู้ช่วย’ โดยที่ตนเองยังไม่ทันได้อนุญาตอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะผลุนผลันออกจากห้องไปโดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายบุคคล!
...ถ้าจะลาออกก็ต้องมาลาออกกับเขาโดยตรง อย่าคิดจะมาลาออกลับหลังอย่างนี้เชียวมุกตาภา!...
“คุณภัทร!” ชิษวัศเปิดประตูห้องทำงานของธีรภัทรเข้าไปพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึง ซองขาวที่ใส่ใบลาออกของมุกตาภาถูกโยนไปตรงหน้าของผู้จัดการฝ่ายวัยกลางคนอย่างหัวเสีย
“บอกมุกตาภาด้วยว่าถ้าจะลาออกก็ให้มาลาออกกับผมเอง ถ้าลาออกผ่านคนอื่นผมไม่อนุญาต!” คำสั่งเด็ดขาดออกมาจากผู้บริหารหนุ่ม อารมณ์โมโหเปิดเผยอย่างนี้ของชิษวัศไม่ค่อยมีใครได้เห็นบ่อยนัก และถ้าจะพูดตามจริง...ไม่ค่อยมีใครอยากจะเห็นเสียมากกว่า
“แต่ท่านประธานอนุญาตไปแล้วครับ”
“อะไรนะ!” ชิษวัศร้องถามเสียงหลง ชายหนุ่มน่าจะคิดได้ว่ามุกตาภารู้จักเขาดีกว่าใคร เธอคงรู้แน่ว่าเขาต้องมาอาละวาดกับธีรภัทรและจะไม่ยอมให้เธอลาออกจึงจัดการเรื่องลาออกผ่านทางคุณปู่รันโดยตรง
แต่ขอโทษด้วย! คราวนี้เธอคิดผิดถนัด เพราะต่อให้เป็นคุณปู่งานนี้ชิษวัศก็จะไม่ยอม มุกตาภาเป็นลูกน้องของเขา เป็นคนของเขา คำอนุญาตให้ลาออกในครั้งนี้ชิษวัศไม่มีทางที่จะยอมรับเด็ดขาด!
แม้ว่าจะโกรธ...โกรธมาก แต่ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าแท้ที่จริงแล้วเขายังไม่พร้อมที่จะปล่อยมือมุกตาภาให้เดินจากไป แม้เธอจะตัดเยื่อใย แม้เธอยืนยันที่จะหันหลังและเดินจากไปแต่เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะปล่อยมือคู่นั้นไปอยู่ดี แต่ทั้งๆที่ไม่อยากจะเสียคนรักไป หากทิฐิที่มีอยู่มากโขก็ยังคงทำให้ชิษวัศไม่ยอมที่จะเอ่ยปากขอโทษและง้องอนก่อนอย่างที่เคยทำมา
เพราะถูกสอนมาให้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ชิษวัศจึงได้บทสรุปด้วยตัวเองว่า...เรื่องคราวนี้ต้องไม่ใช่เขาที่เป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าไปง้องอน แต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไป
นี่มันขัดแย้งในตัวเองชัดๆ!
ร่างสูงเดินออกจากห้องทำงานของธีรภัทรก่อนจะขึ้นลิฟท์มายังชั้นที่ท่านประธานทำงานอยู่ ประตูห้องที่ติดชื่อของคุณรันทร์ ตตินรากรณ์เด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหน้า ชิษวัศผลักประตูเข้าไปก่อนจะพบกับเจ้าของห้องที่นั่งยิ้มราวกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าหลานชายคนโตจะมาเยือน
“หน้าบอกบุญไม่รับแต่เช้าเลยนี่” ประโยคแรกก็กะจะยั่วให้อีกฝ่ายประสาทเสีย เพื่อเป็นการดัดหลังเล็กๆน้อยๆ ชิษวัศจะได้รู้ว่าบางครั้งเรื่องของหัวใจก็ต้องใช้หัวใจตัดสิน ไม่ใช่สักแต่จะใช้เหตุผลและสมองเพียงอย่างเดียว
“ผมไม่ยอม” ชิษวัศบอกคุณรันทร์เสียงแข็ง ยื่นซองสีขาวสะอาดตาบนโต๊ะทำงานของท่าน
“พูดกับน้องแรงขนาดนั้นแล้วจะยังไม่ยอมอะไรอีกฮึเจ้าอาร์ม รู้หรือเปล่าว่าที่พูดไปมันแรงแค่ไหน หาว่าน้องจับปลาสองมือ พูดไปได้ยังไง”
“สายรายงานซะละเอียดเลยนะครับ” หลานชายประชดคุณปู่นิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ก็คุณปู่รันกับคุณปู่รินสอนผมเองไม่ใช่เหรอครับว่าให้เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ถ้าตาคู่นี้เห็นอะไร สิ่งนั้นคือความจริง ผมเห็นมุกตาภากอดกับไบรอันต่อหน้าต่อตาขนาดนั้นแล้วคุณปู่จะให้ผมคิดยังไงครับ”
เมื่อเจอย้อนอย่างนี้คุณปู่รันก็แทบจะต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ ท่านยอมรับว่าทั้งท่านและน้องชายสอนลูกหลานทุกคนไปอย่างนั้น ‘อย่าเชื่อในสิ่งที่เพียงแค่ได้ฟังมา ให้เชื่อในสิ่งที่ตาของตนมองเห็น’ แต่กรณีของชิษวัศนี่คงเถรตรงไปสักหน่อย เพราะเจ้าหลายชายคนนี้ตัดสินทุกอย่างด้วยตาและสมองโดยที่ไม่เคยใช้หัวใจ อย่างนี้ไงเล่าท่านถึงต้องวางแผนนี้ขึ้นมาเพื่อน ‘สั่งสอน’ ด้วยประสบการณ์จริงให้ชิษวัศได้รู้ว่า...ในบางครั้งกับเรื่องบางเรื่อง...คนเราอาจจะต้องใช้หัวใจนำหน้าทั้งสมอง เหตุผลและสิ่งที่ตาเห็น
“สรุปว่าแกโยนความผิดมาให้ปู่งั้นรึ” คุณรันทร์แกล้งทำเสียงเข้ม ที่มักจะใช้กำราบทั้งลูกและหลานได้เสมอและครั้งนี้ก็ได้ผลเหมือนเช่นทุกครั้ง
“เปล่าสักหน่อยครับ...” ชิษวัศปฏิเสธเสียงอ่อย “แต่คุณปู่ก็สอนพวกผมมาอย่างนี้จริงๆนี่ฮะ” แต่ก็ยังไม่วายที่จะย้ำให้คุณปู่รันได้รับรู้ว่าตนเองเป็นหลานชายที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคยออกนอกลู่ทางคาอนแม้แต่นิดเดียว
“ฉันสอนพวกแกดีไปใช่ไหมนี่” คุณรันทร์บ่นขึ้นมาลอยๆ เพราะมันเป็นอย่างนี้อย่างไรเล่าท่านกับน้องชายถึงต้องคิดแผนการหาหลานเขยหลานสะใภ้ขึ้นมา ก็แต่ละคนเล่นเอาสมองนำหน้าหัวใจกันเสียหมดโดยไม่ได้รู้เลยว่าเรื่องบางเรื่องนั้นมองข้ามเหตุผลไปบ้างก็ได้ ไม่ต้องเก็บมาคิดให้จุกจิก หัวใจคิดอย่างไร บอกอย่างไรก็ให้ทำไปตามนั้น
บทเรียนครั้งนี้จึงต้องมีขึ้นมาเพื่อให้เจ้าพวกนี้ได้รู้และเห็นตัวอย่างว่าเมื่อใดเหตุผลสมควรมาก่อนหัวใจ และเมื่อใดที่หัวใจสมควรมาก่อนเหตุผล หรือเมื่อใดสมควรที่จะใช้ทั้งเหตุผลและหัวใจไปพร้อมๆกัน
ชิษวัศและมุกตาภาคือคู่ที่ท่านและน้องชายเลือกที่จะทดสอบ ความรักที่มุกตาภามีให้กับชิษวัศตั้งแต่ในวัยเด็ก คุณรันทร์มั่นใจว่ามันจะไม่มีทางหมดไป และท่านก็รู้จักหลานชายคนโตคนนี้ดีกว่าใครๆ ชิษวัศจะไม่มีทางยอมปล่อยมุกตาภาไปแน่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
และแผนการคราวนี้จะสำเร็จลุล่วงไปไม่ได้เลยถ้าท่านไม่มี ‘ลูกมือ’ อย่างทวิดาร์ อารัทธ์ รวมถึงหุ้นส่วนคนสำคัญอย่างไบรอันที่ยอมโดดลงมาช่วยในแผนการครั้งนี้ แต่กว่าที่อดีตคนรักของชิษวัศจะยอมเป็นกำลังสำคัญในแผนการครั้งนี้ท่านก็ต้องลงแรงหว่านล้อมอยู่หลายรอบทีเดียว
‘ปู่มีเรื่องอยากให้เฟลอร์ช่วยหน่อย’ นั่นคือประโยคแรกที่ท่านพูดกับทวิดาร์หลังจากที่หญิงสาวเพิ่งกลับมาเยือนแผ่นดินเกิดได้เพียงสองวันและคุณรันทร์ยังจำสีหน้าของทวิดาร์ได้ดีว่าเป็นเช่นไร
...ทั้งตกใจและสงสัย...
‘เรื่องอะไรคะคุณปู่ ถ้าเฟลอร์ช่วยได้เฟลอร์ช่วยคุณปู่ทุกเรื่องเลยค่ะ’ ทวิดาร์รับคำ หญิงสาวนั้นเคารพคุณรันทร์ราวกับท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอคนหนึ่ง ท่านไม่โกรธเธอสักน้อยยามที่เธอขอหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านเปลี่ยนจากสถานะของการเป็นคนรักกลับมาเป็นแค่เพื่อนกันดังเดิม แถมท่านยังเอ็นดูเธอเหมือนเคยไม่มีเปลี่ยนแปลง และยังช่วยเหลือเธอให้ได้ทำงานในบริษัทที่เธอใฝ่ฝัน เป็นเพราะท่านฝากฝัง...เธอจึงได้ทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของบิดาไบรอัน
‘ตอนนี้เหมือนเจ้าอาร์มมันเหมือนจะชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง แล้วปู่ก็คิดว่าในอนาคตอันใกล้สองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันแน่’
จนถึงตอนนี้ทวิดาร์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณปู่รันต้องการจะบอกอะไรเธอกันแน่ หญิงสาวเลิกคิ้วสูง ถามอย่างสงสัย
‘คุณปู่ไม่ชอบเธอหรือคะ’
คำถามของทวิดาร์ทำเอาคุณรันทร์ปล่อยหัวเราะเสียงดัง
‘ใครว่า...ปู่ชอบแม่หนูคนนี้มากต่างหาก’
‘อ้าว...’ คำพูดของคุณรันทร์ไม่ได้ทำให้ทวิดาร์เข้าใจอะไรๆได้กระจ่างขึ้นเลย ‘แล้วจะให้เฟลอร์ช่วยยังไงคะ’
‘ถ้าสองคนนั้นตกลงคบกันเมื่อไหร่...ปู่อยากให้เฟลอร์ช่วยเขี่ยถ่านไฟนเก่าระหว่างเรากับเจ้าอาร์มให้ปู่หน่อย’
มาคราวนี้ดวงตาคู่เรียวถึงกับเบิกกว้างอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณรันทร์จะใช้ไม้นี้กับชิษวัศ ซึ่งเธอคิดว่ามันค่อนข้างใจร้ายและโหดไปเสียหน่อยกับคนทั้งคู่
‘จะดีเหรอคะคุณปู่ สงสารอาร์มออกค่ะ ที่สำคัญ...สงสารแฟนอาร์มด้วย’ หญิงสาวไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนการนี้ เพราะความเป็นผู้หญิงด้วยกัน เธอจึงไม่ค่อยอยากเลยที่ต้องสวมบทแฟนเก่าอยากได้ของคืน
‘เฟลอร์ก็รู้จักหลานชายคนนี้ของปู่ดีไม่ใช่หรือ’ คุณรันทร์ตั้งคำถาม เมื่อทวิดาร์พยักหน้ารับท่านจึงพูดต่อ ‘คนอย่างเจ้าอาร์ม...ปู่กับปู่รินเลี้ยงมันมาย่อมรู้ดี หลานชายคนนี้ของปู่ใช้เหตุผลมาก่อนความรู้สึกเสมอ และถ้ายังเป็นอย่างนี้...ปู่สงสารผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาเป็นอีกครึ่งชีวิตของมัน อย่างตอนที่เฟลอร์เลิกกับอาร์ม ปู่เห็นใจเฟลอร์มาก รู้ใช่ไหมลูก’
ทวิดาร์พยักหน้ารับอีกครั้ง ความรู้สึกตื้นตันรื่นขึ้นมาเต็มอก น้ำตาพลันเอ่อขึ้นคลอเต็มดวงตาคู่งาม
‘มาคราวนี้...ปู่ไม่อยากให้อาร์มจบเรื่องหัวใจอย่างคราวของเฟลอร์ เพราะผู้หญิงคนนี้...ปู่ดูออกมาว่าเจ้าอาร์มมันรักมาก รักแบบที่ตัวเองไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตัวเองจะรักและผูกพันมากขนาดนี้...’ คุณรันทร์เว้นวรรคนิดหนึ่ง ดวงตาที่มองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่งจ้องมองไปยังคนที่ท่านคิดเสมอว่าเปรียบเสมือนหลานสาวแท้ๆ
‘ปู่เลยอยากให้เฟลอร์ช่วยหน่อย...คิดว่าช่วยเจ้าอาร์มมันก็ได้ เพราะถ้าเป็นเฟลอร์...อาร์มมันไม่มีทางคิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงทระนงตนอย่างเฟลอร์จะกลับมาเขี่ยถ่านไฟเก่าให้คุ’ คุณปู่รันยิ้มน้อยๆจนริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัยที่มากขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจน
คนถูกไหว้วานให้สวมบทร้ายนิ่งคิดไปเป็นเวลาพอควร ทุกคำพูดของคุณปู่รันนั้นไม่มีคำไหนที่ผิด ชิษวัศเป็นผู้ชายอย่างที่ท่านบอกมาทุกประการ ใช้สมองตัดสิน เหตุผลมาก่อน หัวใจไว้ทีหลัง นั่นล่ะผู้ชายที่ชื่อชิษวัศ
‘แต่ว่า...ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คุณปู่วางแผนไว้ ถ้าขืนว่าสองคนนั้นเลิกกันจริงๆ เฟลอร์ว่ามันไม่ค่อยดีเลยนะคะ’ ทวิดาร์ยังคงไม่ยอมตบปากรับคำเข้าร่วมแผนการของคุณรันทร์ เพราะถ้าแผนการนี้ทำให้หัวใจสองดวงตัดสินใจเดินสวนทางกันล่ะก็...เธอมิต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตหรือ
คุณรันทร์ยิ้มน้อยๆ ราวกับต้องการจะบอกทวิดาร์ว่าสิ่งที่หญิงสาวกังวลมันจะไม่มีทางเกิดขึ้น...แน่นอน
‘ปู่ไม่เคยมองหลานของตัวเองผิดไปจากที่เคยมอง...’ คุณรันทร์บอกช้าๆ ‘ครั้งนี้ก็จะไม่มีวันผิดเหมือนกัน...เจ้าอาร์มมันไม่มีทางปล่อยมือจากหนูมุกแน่ๆ ไม่ว่าจะมีเดิมพันที่ปู่วางไว้หรือไม่ก็ตาม’ คุณปู่รันบอกอย่างมั่นใจ เดิมพันที่บรรดาหลานๆจะได้หรือจะเสียอาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เจ้าพวกนั้นตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องราวของหัวใจ แต่คุณรันทร์ก็มั่นใจว่า ทรัพย์สมบัติพวกนั้นไม่ใช่เหตุผลหลัก...หัวใจจากหากเล่าที่จะเป็นตัวชี้ชัดว่าสมควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เรียกว่า...ความรัก
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากคุณปู่รัน ทวิดาร์ก็นิ่งคิดไปพักหนึ่ง หญิงสาวทราบเรื่องทุกอย่างว่าท่านกับคุณรินทร์ตั้งเงื่อนไงให้หลานทุกคนหาคู่มาให้ท่านเห็นให้ทันก่อนจะขึ้นศักราชใหม่และทุกคนต้องทำให้ได้เสียด้วย ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งที่อย่างที่มีจะมลายหายไปต่อหน้าต่อตา
...โหดไม่เบา...
หญิงสาวเหลือบตาขึ้นมามองผู้อาวุโสอีกครั้งก่อนจะถอนลมหายใจออกมายาวเหยียด เธอยอมช่วยเรื่องแผนการครั้งนี้ของท่านก็ได้ แต่งานนี้เธอคงทำคนเดียวไม่ไหวแน่ งานใหญ่ระดับนี้...เธอต้องการผู้ช่วย
‘เฟลอร์ยอมช่วยก็ได้...แต่คุณปู่ต้องหาผู้ช่วยให้เฟลอร์ งานนี้บอกตามตรงว่าทำคนเดียวไม่ไหวแน่ค่ะ’
เหตุการณ์ในความทรงจำถูกหยุดไว้แค่ประโยคยอมรับปากช่วยเหลือของทวิดาร์ก่อนที่คุณรันทร์จะเหลือบตาขึ้นมามองหน้าหลานชายคนโตอีกครั้ง ชิษวัศคงคาดไม่ถึงเลยทีเดียวว่าทั้งทวิดาร์และอารัทธ์คือหมากที่ท่านสร้างขึ้นมาเพื่อดัดนิสัยของตนเอง!
“แล้วอาร์มจะเอายังไง” ท่านถามอีกครั้ง อยากรู้เสียจริงว่าเจ้าหลานชายฟอร์มจัดคนนี้มันจะตัดสินใจอย่างไร
“ผมไม่ให้มุกตาภาลาออก” ชิษวัศสวนกลับขึ้นทันที “ผมเป็นเจ้านาย ผมไม่อนุญาต” ก่อนจะเถียงโดยงัดเหตุผลที่เรียกสายตาเฉียบคมของคุณรันทร์ให้สบมองใบหน้าของหลานชาย
“แต่ปู่เป็นประธานบริษัท ปู่อนุญาตไปแล้ว ใครก็ไม่มีสิทธิ์ขัดทั้งนั้น”
“คุณปู่!” ชิษวัศร้องเรียกคุณรันทร์ลั่นห้องทำงาน แม้จะทั้งขัดใจและหงุดหงิดใจแต่ตนเองก็ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะโต้แย้งหรือยกเลิกคำสั่งของท่าน ก็อย่างที่ท่านบอก...คำสั่งของประธานบริษัท ใครใครก็ไม่มีสิทธิ์ขัดทั้งนั้น!
หลายชายคนโตสูดหายใจเข้าเต็มปอด ยืดตัวเต็มความสูง “ก็ได้ครับ เพราะทุกอย่างเป็นความต้องการของมุกตาภาทั้งนั้น และคุณปู่ของผมก็อนุญาตไปแล้วด้วย ผมคงพูดอะไรไม่ได้” ชิษวัศยอมรับแกมประชดแถมยังกึ่งๆน้อยใจก่อนที่จะหมุนตัวกลับเพื่อออกจากห้องทำงานของคุณรันทร์ไป
“ถ้าไม่อยากให้น้องไปแล้วทำไมไม่ไปขอโทษ” คำพูดของคนเป็นปู่ทำให้ร่างสูงที่กำลังจะก้าวเท้าชะงักทันที
ชิษวัศหันกลับมามองคุณปู่รันอีกครั้ง “ยอมอนุญาตให้มุกตาภาลาออกเพราะคุณปู่อยากให้ผมเป็นฝ่ายไปง้อใช่ไหมครับ”
“ก็แกทำผิด...ไปง้อน้องมันจะเสียศักดิ์ศรีอะไรมากมาย”
“สิ่งที่ตาผมมองเห็น...มันไม่มีวันผิดครับ” ชิษวัศยังคงยืนยันคำเดิม อะไรที่ถูกสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเล็ก คนอย่างเขาไม่เคยลืม ไม่คิดจะลืมหรือเปลี่ยนแปลงอะไร
“บางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ความจริง...ปู่เคยสอนอาร์มอย่างนี้เหมือนกัน แต่อาร์มคงลืมไป” ประโยคของคุณปู่รันที่พูดทิ้งท้ายจี้ใจดำของชิษวัศได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มยังคงจำได้...ไม่ได้ลืมอย่างที่คุณปู่รันบอก คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ สิ่งที่แสดงให้เห็นอาจจะไม่ใช่ตัวตนของคนผู้นั้นจริงๆ แม้จะรู้...แต่ชายหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้โกรธที่มุกตาภากอดกับไบรอันอย่างนั้น
หรือรักมาก...ก็เลยโกรธมาก
ใช่...ความจริงมันอาจจะเป็นอย่างนั้น ชิษวัศรู้หัวใจของตัวเองดีว่ามันรักมุกตาภาไปแล้วทั้งหัวใจ รัก...มากกว่าคราวของทวิดาร์ และรัก...จนไม่อยากคิดเลยว่าชีวิตที่ไม่มีมุกตาภามันจะเป็นอย่างไร
ถ้าเปรียบเหมือนเรือที่ขาดหางเสือคงไม่ผิดนัก
แต่เพราะศักดิ์ศรีที่ถูกหยามทำให้ชิษวัศเลือกที่จะปล่อยให้มุกตาภาหันหลังเดินจากไปโดยที่ตัวเองไม่ยอมเอื้อมมือไปฉุดรั้ง ผู้ชายอย่างชิษวัศ...คำว่า ‘ศักดิ์ศรี’ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาหยาม!
ประตูห้องทำงานของคุณรันทร์ถูกปิดลงพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้งของชิษวัศ ขาที่กำลังจะก้าวกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองชะงักลงเพราะรู้ดีว่ากลับไปก็พบแต่ความว่างเปล่า
ไม่มีอีกแล้ว...รอยยิ้มที่มักจะส่งมาให้เขาเสมอ
ไม่มีอีกแล้ว...เสียงหัวเราะที่มักเกิดขึ้นเสมอเพื่อให้เขาหัวเราะตาม
และไม่มีอีกแล้ว...คนที่เขาได้ฝากอีกครึ่งชีวิตที่เหลือไว้กับเธอ
ไม่มี...หนูมุก...ของพี่อาร์ม
ร้าน ‘La Forza Del Destino’ ยังคงมีลูกค้าเดินเข้าออกมาดูสินค้าไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอหรือแหวนเพชรไม่ขาดสาย และวันนี้คงพิเศษหน่อยเพราะผู้หญิงที่ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ร้านเพชรอย่างอาจารย์นิชิตาอุตส่าห์ลงทุนเดินเข้าร้านเพชรร้านหรูด้วยตัวของเธอเอง!
“สวัสดีค่ะ...”
“คุณอารัทธ์อยู่ไหม” ไม่ทันให้พนักงานของร้านกล่าวตอนรับหรือยกมือไหว้ นิชิตาก็ตั้งคำถามสวนไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสายตากรอบดำกวาดสายตามองหาบุคคลที่เธอต้องการจะพบรอบร้าน
“อยู่ค่ะแต่...” คำตอบของพนักงานทำเอาคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น
“แต่อะไร ฉันมีธุระด่วนต้องการจะพบเดี๋ยวนี้” นิชิตาบอกความต้องการของตัวเองด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“คุณอารัทธ์มีแขกค่ะ”
นิชิตาเลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะคำว่า ‘แขก’ ของพนักงานสาว “อยู่ที่ไหน”
“ห้อง...ห้องทำงานค่ะ” อาจเป็นเพราะสายตาและน้ำเสียงดุๆจึงทำให้พนักงานประจำร้านยอมคายคำตอบออกมาและพอนิชิตาก้าวเดินไปยังห้องทำงานที่ตั้งอยู่ภายในร้าน พนักงานสาวคนที่คุยกันเมื่อครู่ก็เดินตามมาติดๆ
“ไม่ต้องตาม” นิชิตาหันไปสั่งเสียงเฉียบขาดพร้อมกับสายตาที่มองลอดกรอบแว่นสายตาและเพียงเท่านั้นพนักงานสาวที่วันนี้ดวงคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็หยุดกึกทันที
อาจารย์สาวร่างเล็กเดินไปยังทางที่พนักงานคนนั้นชี้มาก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องที่หญิงสาวคิดว่าคงเป็นห้องทำงานของอารัทธ์ มือเล็กบางกำขึ้นตั้งท่าเตรียมเคาะเพื่อให้เจ้าของห้องรับรู้ตามมารยาท หากพอกำลังจะเคาะ ประโยคสนทนาจากภายในห้องก็แทบทำให้หญิงสาวตัวแข็งเป็นหุ่น
“ขอบคุณนะคะคุณอารัทธ์ที่ช่วยรายงานความเป็นไปของอาร์มทำให้เฟลอร์จัดการเรื่องของอาร์มกับน้องมุกสำเร็จไปได้ด้วยดี”
“เฟลอร์จัดการเสร็จ แต่อาร์ทสิจะซวย ถ้าคุณหมูหวานรู้อาร์ทตายแน่ๆ”
ทวิดาร์หัวเราะคิกคักกับหน้าตาของอารัทธ์ที่แลดูกลัวคุณอาจารย์นิชิตาสุดขีด
“น่า...น่า...” หญิงสาวโบกมือเพื่อบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงจิตตกมากไปนัก “ไหนๆเฟลอร์ก็แย่งอาร์มมาสำเร็จแล้วนี่นะ อาร์ทจะคิดมากทำไม”
ทวิดาร์พูดติดตลก ไม่ได้คิดจริงจังอะไรเพราะหญิงสาวเพียงพูดเล่นพูดหัวกับอารัทธ์เพียงเท่านั้น แต่คงผิดพลาดไปเสียหน่อยเมื่อมีบุคคลที่สามได้ยินประโยคนั้นของเธออยู่อีกหนึ่งคน!
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับร่างของอาจารย์สาวที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะความโกรธ เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นภายในห้องเมื่อสักครู่เงียบลงทันที อารัทธ์มองหน้าคนรักที่มาเยือนอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่ที่รู้แน่ๆก็คือ...นิชิตากำลังคิดว่าเขาคือคนที่ช่วยให้ทวิดาร์แย่งชิษวัศมา ซึ่งนั่นก็ถูก...แต่ทุกอย่างที่เขาทำมันเป็นเพียงแค่แผน
แผน...ที่เธอไม่รู้!!
“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง คุณหักหลังมุกได้ยังไง!” นิชิตาตะโกนลั่นห้อง สองมือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว อาการอย่างนี้หมายความว่าเธอกำลังโกรธ...แถมยังมากเสียด้วย
“ดะ...เดี๋ยวนะคุณอาจารย์” อารัทธ์กระวีกระวาดลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่จะก้าวปราดเดียวก็ถึงตัวนิชิตา “คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ คือผม...”
เผียะ!!
ยังไม่ทันจะพูดจบก็มีเหตุให้อารัทธ์ต้องหยุดพูดเพราะหน้าชาไปหนึ่งแถบเพราะแรงฝ่ามือของนิชิตา ซึ่งมันคงจะแรงน่าดูเพราะชายหนุ่มรู้สึกถึงความเค็มและคาวเลือดจากด้านในปาก
“ฉันเกลียดคนอย่างคุณที่สุด!!” น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาคู่เรียวก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งออกจากห้องไปทิ้งให้อารัทธ์มองร่างเล็กบางที่วิ่งห่างออกไปอย่างทำอะไรไม่ถูก
“เรื่องใหญ่แล้วล่ะสิ” ทวิดาร์บอกเสียงเบา การที่นิชิตามาได้ยินและเข้าใจผิดอย่างนี้ตัวเธอเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
อารัทธ์ถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม มือหนึ่งยกขึ้นกุมขมับราวกับกำลังใช้ความคิดว่าสมควรที่จะทำอย่างไรต่อไป
“เจ็บมั้ยอาร์ท” ทวิดาร์ยื่นหน้าเข้ามาดูแผลที่มุมปากของอารัทธ์ที่มีเลือดออกซิบๆ
“เจ็บมาก!” อารัทธ์ยอมรับตามความจริง “สงสัยงานนี้คงต้องให้เฟลอร์ช่วย”
ทวิดาร์เลิกคิ้วขึ้นสูง “ช่วยอะไร อย่าบอกนะว่าให้เฟลอร์ไปบอกความจริงคุณหมูหวานว่าทุกอย่างคือแผนของคุณปู่รัน”
“ใช่” อารัทธ์พยักหน้ารับ
“แล้วคุณอาจารย์ของอาร์ทเขาจะเชื่อเฟลอร์เหรอ”
“ยังไงก็ต้องทำให้เชื่อให้ได้!” อารัทธ์ประกาศกร้าว “ไม่อย่างนั้นเรื่องได้ยุ่งไปมากกว่านี้แน่ เพราะไม่ใช่แค่หนูมุกที่จะหันหลังทิ้งไอ้อาร์มหรอกแต่คุณหมูหวานก็จะหันหลังทิ้งอาร์ทไปอีกคน!”
อารัทธ์บอกอย่างหัวเสีย งานนี้เป็นไงเป็นกัน ชายหนุ่มยอมถูกตบอีกทีเลยก็ได้แต่ขออย่างเดียวให้นิชิตาเชื่อคำพูดของเขาและทวิดาร์ก็พอ เพราะถ้าเธอไม่เชื่อ เรื่องของชิษวัศและมุกตาภามันก็จะยากไปกว่าเดิม เพราะการผสานความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ยังจำเป็นที่จะต้องให้นิชิตาช่วยอีกมาก ถึงคุณปู่รันจะไม่อยากให้คนอื่นยื่นมือเข้าไปช่วย แต่อารัทธ์ก็รู้ดีว่าท่านคงไม่ว่าอะไรถ้าหลานชายคนโตจะมีกองหนุน
และที่สำคัญที่สุด...อารัทธ์ไม่มีวันยอมที่จะเสียนิชิตาไปเด็ดขาด กว่าจะชนะใจอาจารย์สาวร่างเล็กได้ชายหนุ่มต้องใช้ความอดทนและความจริงใจไปตั้งมากมายกว่าจะได้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวในดวงนั้น เพราะฉะนั้น...เขาจะไม่มีวันยอมเสียเธอไป!
-------------------------------------------------------------------------------------
พี่อาร์ทโดนตบแรง...มากค่ะ =_=
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ
ช่วงนี้อะไรๆยังไม่ค่อยลงตัวและเรื่องนี้เขียนไปโพสไปแล้วค่ะ
มาช้าบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ -/\-
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทุกคอมเมนท์และทุกไลค์นะคะ
ตอบเมนท์กันอย่างเคย...
คุณ mookisme : มาต่อให้แต่มาช้ามากๆๆๆๆๆๆเลย
คุณ mooyui : โอ้...ขอบคุณมากจริงๆค่ะ แต่งานนี้ปอแก้วก็มาต่อตอนต่อไปให้ช้ามากเลย ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้พี่อาร์มก็ยังทำตัวน่าหงุดหงิดเหมือนเดิมเลยล่ะค่ะ
คุณ violette : งอนยาวชัวร์ค่ะ แล้วพี่อาร์มจะได้รู้ว่ายามตัวเองถูกลอยแพนั้นจะเป็นอย่างไร หึ หึ หึ
คุณ ดาวคันชั่ง : นั่นน่ะสิคะ!!! ไม่ยอมไปง้อแต่ก็ไม่อยากให้เค้าไป ดูพี่อาร์มทำสิคะ มันน่านักเชียว!!!
คุณ nunoi : ตอนนี้พี่อาร์มคะแนนติดลบไปแล้วใช่ไหมคะ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่ล่ะน้าาาาา แต่ปอแก้วรับรองว่าพี่อาร์มโดนเอาคืนแน่นอนค่ะ
คุณ หมูบูลิน : เชิญเลยค่ะ...เผื่อพี่อาร์มจะคิดได้ขึ้นมาบ้าง
คุณ anOO : เดาแม่นจังเลยค่ะ :) งี่เง่าไปพักนึงจริงๆ จนกว่าเจ้าตัวเขาจะรู้สึกได้นี่แหละค่ะ ถึงจะสำนึก
คุณ Kazalong : พี่อาร์มเคยง้อหนูมุกได้สำเร็จตลอด แต่งานนี้ขอบอกว่าไม่ง่ายอย่างที่แล้วๆมาแน่ค่ะ
คุณ tutas : พี่อาร์มก็หูแหว่งแย่สิคะ อิอิ เอาหัวใจคืนมาแล้ว หวังว่าพี่อาร์มจะรู้สึกตัวได้ว่าสมควรจะทำอย่างไร
ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 มิ.ย. 2555, 18:13:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 มิ.ย. 2555, 18:13:12 น.
จำนวนการเข้าชม : 1913
<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 29 | เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 31 >> |
violette 14 มิ.ย. 2555, 18:41:52 น.
หยิ่งศักดิ์ศรีมากก็กินศักดิ์ศรีให้อิ่มนะคะพี่อาร์ม เฮอะ น่าหมั่นไส้
นายอาร์ทซวยแล้วมั้ยล่ะ กร๊ากกก
แต่สองปู่ก็นะเจ้าแผนการจริงเล้ย
หยิ่งศักดิ์ศรีมากก็กินศักดิ์ศรีให้อิ่มนะคะพี่อาร์ม เฮอะ น่าหมั่นไส้
นายอาร์ทซวยแล้วมั้ยล่ะ กร๊ากกก
แต่สองปู่ก็นะเจ้าแผนการจริงเล้ย
nunoi 14 มิ.ย. 2555, 18:55:40 น.
แหม!ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี งั้นก็ยอมเสียหัวใจไปเถอะ พี่อาร์ม
แหม!ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี งั้นก็ยอมเสียหัวใจไปเถอะ พี่อาร์ม
ดาวคันชั่ง 14 มิ.ย. 2555, 20:59:57 น.
พี่อาร์ทโดนหางเลขไปด้วยเลย
ส่วนกับพี่อาร์มก็น่าเหนื่อยใจ งอนนานๆเลยนะหนูมุก แล้วก็ให้คนรอบตัวร่วมใจกันบอยคอตด้วยก็ดีค่ะ
พี่อาร์ทโดนหางเลขไปด้วยเลย
ส่วนกับพี่อาร์มก็น่าเหนื่อยใจ งอนนานๆเลยนะหนูมุก แล้วก็ให้คนรอบตัวร่วมใจกันบอยคอตด้วยก็ดีค่ะ
Amata 14 มิ.ย. 2555, 21:26:07 น.
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เม้นท์เราหายไป หลายตอนเลย เป็นงั้นได้ไง
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เม้นท์เราหายไป หลายตอนเลย เป็นงั้นได้ไง
roseolar 14 มิ.ย. 2555, 21:50:33 น.
อร๊ายยยย~
มันคือแผน มันคืงแผนของปู่รัน
คุณปู่จะซับซ้อนไปไหน ตามไม่ทันละนะ เกิดเขาเลิกกันขึ้นมาจริงๆล่ะจะซวย
อร๊ายยยย~
มันคือแผน มันคืงแผนของปู่รัน
คุณปู่จะซับซ้อนไปไหน ตามไม่ทันละนะ เกิดเขาเลิกกันขึ้นมาจริงๆล่ะจะซวย
teesaparn 15 มิ.ย. 2555, 11:55:39 น.
อยากจับคนเขียนมาตีก้น หายไปมา ปล่อยหื้อรอเมินขนาด
อยากจับคนเขียนมาตีก้น หายไปมา ปล่อยหื้อรอเมินขนาด
anOO 15 มิ.ย. 2555, 14:17:05 น.
ตายละหว่า หมูหวานยิ่งเกลียดคนโกหกอยู่ด้วย
งานนี้เฟลอร์คนเดียวจะเอาอยู่ไหมเนี้ย
ตายละหว่า หมูหวานยิ่งเกลียดคนโกหกอยู่ด้วย
งานนี้เฟลอร์คนเดียวจะเอาอยู่ไหมเนี้ย
mooyui 15 มิ.ย. 2555, 18:39:00 น.
เอาเถอะ น่าจะทิ้งไปจริงๆๆ
แหม่ๆๆ ฉันหมั่นไส้จริงๆๆ เล้ย
เอาเป็นว่ารอตอนต่อไป
ถ้ายังจะนิสัยเดิม
ก็ปล่อยเค้าไปเถ๊อะ
อย่าได้สนใจอีก
**โคตรอิน**
เอาเถอะ น่าจะทิ้งไปจริงๆๆ
แหม่ๆๆ ฉันหมั่นไส้จริงๆๆ เล้ย
เอาเป็นว่ารอตอนต่อไป
ถ้ายังจะนิสัยเดิม
ก็ปล่อยเค้าไปเถ๊อะ
อย่าได้สนใจอีก
**โคตรอิน**
Kazalong 17 มิ.ย. 2555, 18:06:04 น.
ใจแข็งไว้ค่อยทรมานไปก่อนเน๊อะ
ใจแข็งไว้ค่อยทรมานไปก่อนเน๊อะ
tutas 18 มิ.ย. 2555, 13:58:19 น.
เม้นท์ไม่ออกค้าา แงๆๆๆๆๆ
เม้นท์ไม่ออกค้าา แงๆๆๆๆๆ