เพียงพบ(ภพ)รัก
ใครหลายคนอาจมองว่าสายฝนคือตัวแทนของความเศร้า แต่จะมีกี่คนรู้บ้างไหม ว่าในมุมหนึ่งของเรื่องราว ยังมีใครบางคนเฝ้ารอสายฝนอยู่
เฝ้ารอ...โดยไม่รู้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อไร
เฝ้ารอ...เพื่อจะได้เห็นสายฝนพรำ
และเฝ้ารอคอยความรักจากใครสักคนที่อยู่ห่างออกไปแสนไกล...
เฝ้ารอ...โดยไม่รู้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อไร
เฝ้ารอ...เพื่อจะได้เห็นสายฝนพรำ
และเฝ้ารอคอยความรักจากใครสักคนที่อยู่ห่างออกไปแสนไกล...
Tags: รักซึ้ง พิมพ์อัปสร เตชน์ ภพรัก พบรัก
ตอน: บทนำ เหตุเกิดในวันฝนตก
ทักทายกันก่อนค่ะ เห็นว่ามนตรามุกจันทราใกล้จบแล้ว ก็เลยตัดสินใจเอาเรื่องต่อไปมาจ่อคิวรอไว้ก่อน (จะแปะบทที่1 ต่อหลังมนตราจบนะคะ)
ฝากนิยายรักเรื่องใหม่ด้วยนะคะ เรื่องนี้ออกจะฉีกแนวเล็กๆ แต่บอกได้ว่ายังคงความอบอุ่น อ่อนหวานไว้เหมือนเดิม
ก่อนอ่านค่ะ แนะนำเรื่องสักนิด พระเอกของเราคนนี้ชื่อเตชน์นะคะ เป็นหนุ่มหล่อ(อีกละ) แต่ประวัติของคุณเตชน์อาจค่อนข้างทรหดกว่าคุณริทในเรื่องมนตรามุกจันทราสักเล็กน้อยนะคะ ส่วนจะเป็นอย่างไร รอไปติดตามชมกันต่อเองน้า
ส่วนนางเอกของเรา ชื่อพิมพ์อัปสรค่ะ หรือหนูพิมพ์ เธอเป็นโปรแกรมเมอร์ค่า งานนี้ฉีกแนวเล็กๆ เพราะไม่เคยเขียนคนทำงานอาชีพนี้มาก่อนเหมือนกัน เลยอยากลองดูสักครั้ง
โทนเรื่องของนิยายเรื่องนี้ยังคงความอบอุ่นไว้เหมือนเดิมค่ะ แต่การเดินเรื่องอาจแหวกไปจากที่คนเขียนเคยเขียนมาก อยากบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากเกือบจะที่สุดเท่าที่เขียนมา ณ จุดนี้เรื่องนี้เขียนไปได้แค่ครึ่งเรื่องเองนะคะ มีปมหลายอย่างที่ค้างไว้แล้วแก้ไม่ออก (ผูกแน่นไปหน่อย) ทีแรกก็ลังเลใจอยู่ว่าจะเอามาลงดีไหม แต่เหมือนพอไม่เอามาลงแล้วไม่ค่อยมีกำลังใจเขียน (แอบรู้สึกว่ามันยาก เลยชิ่งไปเรื่องอื่นตลอด) ก็เลยตัดสินใจผูกตัวเองด้วยการเอานิยายมาลง (ซะงั้น)ถ้าจุดไหนยังทะแม่งๆ ท้วงติงได้นะคะ ยินดีรับฟังเสมอ
ตัวเรื่องหลักของเรื่องนี้ดำเนินไปพร้อมกับบรรยากาศของฤดูฝนค่ะ ใครหลายคนอาจมองว่าฝนคือตัวแทนของความเศร้า แต่บางที ถ้าอ่านเรื่องนี้จบ คุณอาจจะนึกอยากให้ฝนตกลงมา...เพื่อพบใครสักคน ก็เป็นได้
ปล. เรื่องนี้ยังเป็นพารานอมอลเช่นเดิมเน้อ อย่าประหลาดใจกับอะไรแปลกๆในเรื่องค่า
เมื่อคู่กันแล้ว ย่อมไม่แคล้วคลาดกัน
เพียงใจผูกพัน รักนิรันดร์ไม่ผันแปร
บทนำ
ร่างสูงกำยำของชายคนหนึ่งกำลังเดินทอดน่องอยู่ภายในบริเวณพื้นดินอันว่างเปล่า ที่ดินแห่งนี้เขาได้รับเป็นมรดกมาจากบิดามารดาซึ่งจากไปเมื่อหลายปีก่อน เขาแทบไม่ได้ทำการบูรณะพื้นดินแห้งแล้งผืนนี้เลย ตรงกันข้าม ทุกวันนี้กลับมีขยะมากมายกองพะเนินสุมอยู่ราวภูเขาลูกย่อมบริเวณด้านข้างของอาคารสองชั้น ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นทั้งสำนักงานและที่พักอาศัย
แสงอาทิตย์ยามอัสดงกำลังลาลับขอบฟ้า เขามองเห็นลำแสงสีทองอมส้มสุกปลั่งกำลังค่อยๆ หายลับไปภายใต้ท้องฟ้ากระจ่างใส ตัดกับยอดหญ้าบนนาข้าว ชายหนุ่มตัดสินใจเดินกลับเข้ามายังอาคารด้านใน อาคารทรงทันสมัยสองชั้นถูกปลูกขึ้นบนผืนดินว่างเปล่า บริเวณด้านในอาคารแทบไม่ได้มีการตกแต่งใดๆ เลย ทั้งผนัง เพดาน และพื้นห้องยังคงเป็นสีเทาของเนื้อปูนแท้ ถูกขัดจนเป็นมันวาว เขาก้าวเดินเข้ามายังบริเวณบันไดด้านในเพื่อขึ้นไปยังห้องทำงานชั้นสอง ตั้งใจจะใช้ช่วงเวลาหัวค่ำกับการสะสางเอกสารต่างๆ
หลังจากนั่งทำงานอยู่เพียงไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากทางด้านนอก
“เข้ามา”
ร่างสูงเก้งก้างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดสีเขียวกับกางเกงยีนส์โผล่หน้าเข้ามาด้วยท่าทีกึ่งกล้ากึ่งกลัว
“นายครับ มีแขกมาขอพบนาย”
“ใครกัน ดึกขนาดนี้แล้ว” เจ้าของห้องบ่นพึมพำด้วยความสงสัย
“ไม่ทราบครับ เอ่อ...นายจะลงไปพบไหม”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาบนผนังห้อง เข็มนาฬิกาบอกเวลาทุ่มกว่าทำให้เขาใช้เวลานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ก็ได้ เดี๋ยวตามลงไป”
หลังบานประตูห้องถูกปิดลง เขายังคงก้มหน้าก้มตาจัดการกับเอกสารตรงหน้าอยู่อีกครู่หนึ่ง แล้วจึงลุกขึ้นจากโต๊ะ เปิดประตูลงไปยังชั้นล่าง
เสียงเปาะแปะดังมาจากบริเวณภายนอกอาคาร เจ้าของร่างสูงชะโงกหน้าออกไปมองยังนอกหน้าต่าง พิรุณเม็ดหนากำลังโรยตัวจากท้องฟ้าอันมืดครึ้ม ตกลงมากระทบพื้นดินและเนินสูงซึ่งเต็มไปด้วยกองขยะ ชายหนุ่มโคลงศีรษะกับสภาพอากาศแปรปรวน ตัดสินใจเดินกลับมามองหาร่มคันใหญ่ ก่อนจะก้าวออกจากอาคารไปยังรถมอร์เตอร์ไซด์จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณริมรั้ว
“ทำไมไม่ให้เขาเข้ามาข้างในล่ะ” เขาหันหน้าไปถามเด็กหนุ่มที่เดินตามติดมา
“พวกเขาบอกจะรอนายอยู่ข้างนอกครับ” เด็กหนุ่มบอกผู้เป็นนายอย่างจนปัญญา
“ใครกัน มีธุระอะไรกับผมรึ” ร่างสูงเปิดประตูรั้วออกไปถาม งุนงงเล็กน้อยกับท่าทีแปลกประหลาดของชายแปลกหน้าทั้งสอง
ขณะกำลังนึกสงสัยอยู่นั้น หนึ่งในชายแปลกหน้าสองคนก็หันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท
“คุณใช่ เตชน์ อิทธโยธิน รึเปล่า”
คิ้วหนาบนดวงหน้าคมคายขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย หากชายหนุ่มก็ยังคงพยักหน้าออกไป
“ใช่ คุณมีธุระอะไรกับผม”
“ไม่มีหรอก แต่นายผมสิมีธุระกับคุณ”
ไม่ทันจบคำพูด ชายตรงหน้าก็ควักปืนออกมา เล็งตรงมายังเขา
“เฮ้ย!” ชายหนุ่มร้องเสียงหลง หันหลังกลับพร้อมกับสาวเท้าวิ่งหนีทันที
ปัง! ร่างสูงของคนเพิ่งหันหลังให้ล้มลงไปกองบนพื้น กองเลือดไหลนองออกจากกายปะปนไปกับสายฝนซึ่งยังพรำตกลงมา เสียงมอร์เตอร์ไซด์สตาร์ทเครื่องดังขึ้น ก่อนชายแปลกหน้าทั้งสองคนจะขี่รถหายลับไปท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ
ฝากนิยายรักเรื่องใหม่ด้วยนะคะ เรื่องนี้ออกจะฉีกแนวเล็กๆ แต่บอกได้ว่ายังคงความอบอุ่น อ่อนหวานไว้เหมือนเดิม
ก่อนอ่านค่ะ แนะนำเรื่องสักนิด พระเอกของเราคนนี้ชื่อเตชน์นะคะ เป็นหนุ่มหล่อ(อีกละ) แต่ประวัติของคุณเตชน์อาจค่อนข้างทรหดกว่าคุณริทในเรื่องมนตรามุกจันทราสักเล็กน้อยนะคะ ส่วนจะเป็นอย่างไร รอไปติดตามชมกันต่อเองน้า
ส่วนนางเอกของเรา ชื่อพิมพ์อัปสรค่ะ หรือหนูพิมพ์ เธอเป็นโปรแกรมเมอร์ค่า งานนี้ฉีกแนวเล็กๆ เพราะไม่เคยเขียนคนทำงานอาชีพนี้มาก่อนเหมือนกัน เลยอยากลองดูสักครั้ง
โทนเรื่องของนิยายเรื่องนี้ยังคงความอบอุ่นไว้เหมือนเดิมค่ะ แต่การเดินเรื่องอาจแหวกไปจากที่คนเขียนเคยเขียนมาก อยากบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากเกือบจะที่สุดเท่าที่เขียนมา ณ จุดนี้เรื่องนี้เขียนไปได้แค่ครึ่งเรื่องเองนะคะ มีปมหลายอย่างที่ค้างไว้แล้วแก้ไม่ออก (ผูกแน่นไปหน่อย) ทีแรกก็ลังเลใจอยู่ว่าจะเอามาลงดีไหม แต่เหมือนพอไม่เอามาลงแล้วไม่ค่อยมีกำลังใจเขียน (แอบรู้สึกว่ามันยาก เลยชิ่งไปเรื่องอื่นตลอด) ก็เลยตัดสินใจผูกตัวเองด้วยการเอานิยายมาลง (ซะงั้น)ถ้าจุดไหนยังทะแม่งๆ ท้วงติงได้นะคะ ยินดีรับฟังเสมอ
ตัวเรื่องหลักของเรื่องนี้ดำเนินไปพร้อมกับบรรยากาศของฤดูฝนค่ะ ใครหลายคนอาจมองว่าฝนคือตัวแทนของความเศร้า แต่บางที ถ้าอ่านเรื่องนี้จบ คุณอาจจะนึกอยากให้ฝนตกลงมา...เพื่อพบใครสักคน ก็เป็นได้
ปล. เรื่องนี้ยังเป็นพารานอมอลเช่นเดิมเน้อ อย่าประหลาดใจกับอะไรแปลกๆในเรื่องค่า
เมื่อคู่กันแล้ว ย่อมไม่แคล้วคลาดกัน
เพียงใจผูกพัน รักนิรันดร์ไม่ผันแปร
บทนำ
ร่างสูงกำยำของชายคนหนึ่งกำลังเดินทอดน่องอยู่ภายในบริเวณพื้นดินอันว่างเปล่า ที่ดินแห่งนี้เขาได้รับเป็นมรดกมาจากบิดามารดาซึ่งจากไปเมื่อหลายปีก่อน เขาแทบไม่ได้ทำการบูรณะพื้นดินแห้งแล้งผืนนี้เลย ตรงกันข้าม ทุกวันนี้กลับมีขยะมากมายกองพะเนินสุมอยู่ราวภูเขาลูกย่อมบริเวณด้านข้างของอาคารสองชั้น ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นทั้งสำนักงานและที่พักอาศัย
แสงอาทิตย์ยามอัสดงกำลังลาลับขอบฟ้า เขามองเห็นลำแสงสีทองอมส้มสุกปลั่งกำลังค่อยๆ หายลับไปภายใต้ท้องฟ้ากระจ่างใส ตัดกับยอดหญ้าบนนาข้าว ชายหนุ่มตัดสินใจเดินกลับเข้ามายังอาคารด้านใน อาคารทรงทันสมัยสองชั้นถูกปลูกขึ้นบนผืนดินว่างเปล่า บริเวณด้านในอาคารแทบไม่ได้มีการตกแต่งใดๆ เลย ทั้งผนัง เพดาน และพื้นห้องยังคงเป็นสีเทาของเนื้อปูนแท้ ถูกขัดจนเป็นมันวาว เขาก้าวเดินเข้ามายังบริเวณบันไดด้านในเพื่อขึ้นไปยังห้องทำงานชั้นสอง ตั้งใจจะใช้ช่วงเวลาหัวค่ำกับการสะสางเอกสารต่างๆ
หลังจากนั่งทำงานอยู่เพียงไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากทางด้านนอก
“เข้ามา”
ร่างสูงเก้งก้างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดสีเขียวกับกางเกงยีนส์โผล่หน้าเข้ามาด้วยท่าทีกึ่งกล้ากึ่งกลัว
“นายครับ มีแขกมาขอพบนาย”
“ใครกัน ดึกขนาดนี้แล้ว” เจ้าของห้องบ่นพึมพำด้วยความสงสัย
“ไม่ทราบครับ เอ่อ...นายจะลงไปพบไหม”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาบนผนังห้อง เข็มนาฬิกาบอกเวลาทุ่มกว่าทำให้เขาใช้เวลานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ก็ได้ เดี๋ยวตามลงไป”
หลังบานประตูห้องถูกปิดลง เขายังคงก้มหน้าก้มตาจัดการกับเอกสารตรงหน้าอยู่อีกครู่หนึ่ง แล้วจึงลุกขึ้นจากโต๊ะ เปิดประตูลงไปยังชั้นล่าง
เสียงเปาะแปะดังมาจากบริเวณภายนอกอาคาร เจ้าของร่างสูงชะโงกหน้าออกไปมองยังนอกหน้าต่าง พิรุณเม็ดหนากำลังโรยตัวจากท้องฟ้าอันมืดครึ้ม ตกลงมากระทบพื้นดินและเนินสูงซึ่งเต็มไปด้วยกองขยะ ชายหนุ่มโคลงศีรษะกับสภาพอากาศแปรปรวน ตัดสินใจเดินกลับมามองหาร่มคันใหญ่ ก่อนจะก้าวออกจากอาคารไปยังรถมอร์เตอร์ไซด์จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณริมรั้ว
“ทำไมไม่ให้เขาเข้ามาข้างในล่ะ” เขาหันหน้าไปถามเด็กหนุ่มที่เดินตามติดมา
“พวกเขาบอกจะรอนายอยู่ข้างนอกครับ” เด็กหนุ่มบอกผู้เป็นนายอย่างจนปัญญา
“ใครกัน มีธุระอะไรกับผมรึ” ร่างสูงเปิดประตูรั้วออกไปถาม งุนงงเล็กน้อยกับท่าทีแปลกประหลาดของชายแปลกหน้าทั้งสอง
ขณะกำลังนึกสงสัยอยู่นั้น หนึ่งในชายแปลกหน้าสองคนก็หันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท
“คุณใช่ เตชน์ อิทธโยธิน รึเปล่า”
คิ้วหนาบนดวงหน้าคมคายขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย หากชายหนุ่มก็ยังคงพยักหน้าออกไป
“ใช่ คุณมีธุระอะไรกับผม”
“ไม่มีหรอก แต่นายผมสิมีธุระกับคุณ”
ไม่ทันจบคำพูด ชายตรงหน้าก็ควักปืนออกมา เล็งตรงมายังเขา
“เฮ้ย!” ชายหนุ่มร้องเสียงหลง หันหลังกลับพร้อมกับสาวเท้าวิ่งหนีทันที
ปัง! ร่างสูงของคนเพิ่งหันหลังให้ล้มลงไปกองบนพื้น กองเลือดไหลนองออกจากกายปะปนไปกับสายฝนซึ่งยังพรำตกลงมา เสียงมอร์เตอร์ไซด์สตาร์ทเครื่องดังขึ้น ก่อนชายแปลกหน้าทั้งสองคนจะขี่รถหายลับไปท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2555, 23:31:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 พ.ค. 2555, 09:35:21 น.
จำนวนการเข้าชม : 2866
บทที่ 1/1 ผู้ชายในสายฝน >> |

หมูอ้วน 23 พ.ค. 2555, 06:00:22 น.
กางเต้นท์รอค่าา
กางเต้นท์รอค่าา

goldensun 23 พ.ค. 2555, 06:51:21 น.
ระทึกตั้งแต่ต้นเรื่อง มาขอพบเพื่อฆ่า เพราะอะไร
ระทึกตั้งแต่ต้นเรื่อง มาขอพบเพื่อฆ่า เพราะอะไร



nako 23 พ.ค. 2555, 08:46:00 น.
รอลุ้นตอนต่อไปค่า
รอลุ้นตอนต่อไปค่า

ริญจน์ธร 23 พ.ค. 2555, 09:31:44 น.
คนรอระวังฝนตกนะคะ
เดี๋ยวมนตราฯจบแล้ว ต่อเรื่องนี้กันเลยเนอะ เข้าหน้าฝนพอดีด้วย น่าจะเข้ากับบรรยากาศอยู่ (คิดไปเองเปล่าหว่า)
คนรอระวังฝนตกนะคะ

เดี๋ยวมนตราฯจบแล้ว ต่อเรื่องนี้กันเลยเนอะ เข้าหน้าฝนพอดีด้วย น่าจะเข้ากับบรรยากาศอยู่ (คิดไปเองเปล่าหว่า)




Pat 23 พ.ค. 2555, 10:44:57 น.
อูย เปิดมาก็ถูกยิงเลยเหรอคะ น่าสนใจว่ามันเรื่องอะไรกันน้า
อูย เปิดมาก็ถูกยิงเลยเหรอคะ น่าสนใจว่ามันเรื่องอะไรกันน้า

Zephyr 23 พ.ค. 2555, 17:03:37 น.
อ่าว เว่ย อ่านไปยังไม่ทันตั้งตัว โดนยิงซะงั้นอ่ะ ไรเนี่ย
พี่มูนอ่า มาถึงก็ยิงพระเอกซะแล้วววววว
ไปหาที่หลบฝนรอก่อน เสื้อคลุม มีฮู้ด พกร่ม เอาล่ะ รอต่อไป
งือๆๆๆ เค้าตากฝนรอก็ได้น้าาาา พี่มูนจะได้เห็นใจลงเร้วๆๆๆๆ
อ่าว เว่ย อ่านไปยังไม่ทันตั้งตัว โดนยิงซะงั้นอ่ะ ไรเนี่ย
พี่มูนอ่า มาถึงก็ยิงพระเอกซะแล้วววววว
ไปหาที่หลบฝนรอก่อน เสื้อคลุม มีฮู้ด พกร่ม เอาล่ะ รอต่อไป
งือๆๆๆ เค้าตากฝนรอก็ได้น้าาาา พี่มูนจะได้เห็นใจลงเร้วๆๆๆๆ



PiNVE 24 พ.ค. 2555, 08:38:52 น.
พระเอกตายตั้งแต่ต้นเรื่องเลยหรือค่ะ
พระเอกตายตั้งแต่ต้นเรื่องเลยหรือค่ะ

ริญจน์ธร 24 พ.ค. 2555, 10:54:48 น.
เรื่องนี้ปมเยอะค่ะ ยังไม่เฉลยน้า เอามาลุ้นให้ตื่นเต้นกันเล่นๆ
แต่มีใบ้ให้สามข้อค่ะว่าจบแบบ happy ending แน่นอน
แต่โทนเรื่องจะหนักหนากว่ามนตราฯอยู่พอควร แล้วก็มีปมให้ติดตามเยอะกว่า
ส่วนความหวาน...อืม...คนเขียนก็ว่ามันหวานนะ แต่ออกแนวหวานซึ้งมากกว่า
เอาเป็นว่าตากฝนรอก่อนน้า อย่าเพิ่งเป็นหวัดกัน เดี๋ยวมาต่อแน่นอนค่า
เรื่องนี้ปมเยอะค่ะ ยังไม่เฉลยน้า เอามาลุ้นให้ตื่นเต้นกันเล่นๆ
แต่มีใบ้ให้สามข้อค่ะว่าจบแบบ happy ending แน่นอน
แต่โทนเรื่องจะหนักหนากว่ามนตราฯอยู่พอควร แล้วก็มีปมให้ติดตามเยอะกว่า
ส่วนความหวาน...อืม...คนเขียนก็ว่ามันหวานนะ แต่ออกแนวหวานซึ้งมากกว่า
เอาเป็นว่าตากฝนรอก่อนน้า อย่าเพิ่งเป็นหวัดกัน เดี๋ยวมาต่อแน่นอนค่า



nunoi 26 พ.ค. 2555, 15:52:29 น.
กางร่มรอเหมือนกันค่ะ
กางร่มรอเหมือนกันค่ะ


patok 25 ต.ค. 2555, 15:55:32 น.
เปิดมาก็ยิ่งกันสะแว้ว...
ป.ล. ตอนแรกแพทอ่านชื่อพระเอกเป็น ณเดชน์ แหละ ไม่รู้ไปเชื่อมโยงกันได้ยังไง55
เปิดมาก็ยิ่งกันสะแว้ว...
ป.ล. ตอนแรกแพทอ่านชื่อพระเอกเป็น ณเดชน์ แหละ ไม่รู้ไปเชื่อมโยงกันได้ยังไง55

KeeRa 2 ก.พ. 2556, 11:44:59 น.
มาตามอ่านอีกแล้ว ><
ขอแนะนิดนึงคะ ตรงพิรุณเม็ดหนา อ่านแล้วมันเหมือนจักรๆวงๆชอบกล
มาตามอ่านอีกแล้ว ><
ขอแนะนิดนึงคะ ตรงพิรุณเม็ดหนา อ่านแล้วมันเหมือนจักรๆวงๆชอบกล