เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 18
ข่าวแพรธาราจะแต่งงานกับสุทัศน์ทำให้เมทินีหงุดหงิดจนนั่งไม่ติด เกือบจะโวยใส่เพื่อนรักที่ไม่ยอมช่วยขัดขวางอยู่หลายครั้งระหว่างรับฟังเรื่องราว แต่ก็รู้ดีว่าบ้านเพื่อนก็ไม่ต่างจากบ้านของเธอ ใครจะกล้าขัดประมุขใหญ่ของบ้านได้
“แบบนี้พี่ชายฉันคงได้ตรอมใจตาย”
“โธ่...พี่แพรก็คงไม่ต่างกันหรอก”
“พูดเหมือนพี่แพรจำเรื่องรักของตัวเองได้แล้ว...จำได้ว่ารักพี่มาร์ค”
“เปล่า”
เสียงตอบอ่อย ๆ ดังมาตามสายโทรศัพท์ จนคนฟังชักเริ่มเคืองขึ้นมาตะหงิด ๆ
“อ้าว...ไม่รักแล้วจะมาเศร้าอะไร มีแต่ดีใจสิไม่ว่าที่จะได้แต่งงานกับคนรักเสียที”
“ไม่ใช่อ่ะ” พิณสุดาปฏิเสธ “อาการอึ้งกับสายตาตกใจแบบนั้น ไม่มีทางดีใจแน่...ยิ่งตอนที่ออกจากห้องหลังคุยตามลำพังกับคุณปู่นะ พี่แพรดูเศร้ามากเลยล่ะ”
“ถ้าจำทุกอย่างยังไม่ได้ก็คงไม่รักพี่มาร์ค แล้วทำไมถึงไม่ดีใจที่จะแต่งงานกับแฟนล่ะ” เมทินีตั้งข้อสังเกต “มันแปลก ๆ นะ”
“นั่นล่ะที่ฉันเดาไม่ออก ถึงโทรมาเล่าให้ฟังไงล่ะ”
“โอ๊ย...เรื่องปวดหัวแบบนี้ คิดไม่ออกเหมือนกัน” เมทินีบ่น “ฉันว่าทั้งเธอและฉันต้องรีบไปหาคำตอบก่อนที่หัวจะระเบิดดีที่สุด”
พิณสุดาอยากจะถามว่าหาคำตอบด้วยวิธีไหน แต่สาวห้าวไม่รอให้เพื่อนสาวได้ซักต่อ เมทินีกดปิดโทรศัพท์มือถือพร้อมกับเผ่นขึ้นรถยนต์คู่ใจกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
สมาชิกวิษณุวงษ์อยู่กันพร้อมหน้าโดยที่เมทินีไม่ต้องเรียกประชุม แถมสีหน้าแต่ละคนก็เคร่งเครียดจนนักข่าวสาวมั่นเดาได้ไม่ยากว่าทุกคนทราบข่าวการแต่งงานของแพรธาราแล้วแน่ แต่ยังไม่ทันที่สาวห้าวจะได้เล่นงานพี่ชายที่มัวแต่ชักช้าจนแพรธาราต้องหลุดมือไป คุณปู่เกษมก็เอ่ยขึ้นก่อน
“หวังว่าคงเข้าใจนะเจ้ามาร์ค บ้านโน้นโทรมาพูดขนาดนี้...เจ้าคงจะไม่ไปวุ่นวายกับยายหนูแพรอีกหรอกนะ”
“ครับ”
“ทำใจเถอะนะลูก ลูกกับหนูแพรคงไม่ใช่คู่กันถึงมีเหตุให้คลาดแคล้วกันแบบนี้”
มาริษาพยายามปลอบใจลูกชายที่เอาแต่นั่งนิ่งจนนางอดห่วงไม่ได้
“ผมทราบดีครับ ที่นัดพบกันก็ไม่ได้คิดว่าจะทำให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันหรอกครับ” มหาสมุทรสารภาพ “ผมแค่อยากมีช่วงเวลาดี ๆ กับแพรเท่านั้น แค่อยากจะเก็บช่วงเวลาดี ๆ นี้ไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเองอยู่ต่อไป”
“โธ่...พี่ชายฉัน”
เมทินีคราง ข้อข้องใจในความรักของพี่ชายไม่มีแน่แต่สำหรับแพรธาราสาวห้าวเดาไม่ออกเลยว่าอาการตกใจของอดีตพี่สะใภ้จะเพราะมีหัวใจตรงกันกับพี่ชายหรือไม่
คุณปู่เกษมเองก็ได้แต่ส่ายหน้า สงสารหลานชายนักจนพาลหมั่นไส้เจ้าเพื่อนรักจอมบงการเหลือเกิน กีดกันหลานตัวเองกับหลานของท่านจนไม่ยอมมองความจริง ถ้าคนไม่รักกันทำอย่างไรก็ไม่รัก แต่ถ้าคนจะรักกันอยากถ่ายทอดความรักความห่วงใยที่บริสุทธิ์ใจให้กันทำไมเจ้าเพื่อนบ้าต้องขัดขวางด้วย นึกอยากย้อนเวลากลับไปเป็นหนุ่มนักจะได้ตามไปอัดหน้ามันให้หงาย หายบ้าอำนาจเสียที
“แมร์ว่าเราน่าจะถามพี่แพรก่อนไม่ดีกว่าหรือคะ คือถ้าพี่แพรไม่เต็มใจ...เราก็ไปพาพี่แพรหนีก็หมดเรื่อง”
นักข่าวสาวเสนอวิธีแบบไม่อ้อมค้อม คนอย่างเธอมีแต่เดินหน้าลุยต่อเท่านั้น ถ้าหัวใจสั่งการอย่างไรก็ไม่ยอมถอยไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ ข่าวที่เพื่อนรักบอกว่าแพรธาราแอบเศร้าและเก็บตัวเงียบ ไม่ได้เต็มใจหรือดีใจที่จะแต่งงานกับสุทัศน์ ยิ่งทำให้หญิงสาวมั่นใจว่างานนี้ต้องเรียกว่าผู้ใหญ่จัดให้มากกว่า
“เงียบเลยนะเรา”
ไกรสรหันมาดุลูกสาวอย่างไม่ชอบใจ ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นก็เพราะต่างฝ่ายต่างทำตามใจตัวเอง คิดเองเออเองจนสุดท้ายก็ต้องเจ็บปวด และเขาจะไม่ยอมให้ความเจ็บนี้ปะทุเป็นแผลเรื้อรังอีกต่อไปแล้ว
“เท่านี้พี่ชายเราก็มีปัญหามากพอแล้วนะ ไม่ต้องมาเสนอวิธีให้คุณปู่และพี่เราต้องมีปัญหากับบ้านโน้นเลยนะ”
“เรื่องเจ้าพงศ์ พ่อไม่กลัวหรอก” เกษมแย้ง “แต่พ่อไม่อยากให้ยายหนูแพรเสียชื่ออีก จะทำอะไรก็ควรรักษาหน้าฝ่ายหญิงไว้ด้วย เรื่องผิด ๆ เรื่องบังคับจิตใจพ่อไม่อยากทำอีกแล้ว...ที่ผ่านมาพ่อเองก็ผิดที่บังคับเจ้ามาร์คให้แต่งกับยายหนูแพร”
“ไม่จริงหรอกครับคุณปู่ ผมรักแพร” มหาสมุทรยืนยัน “มันเป็นการแต่งงานที่ผมเต็มใจที่สุด เพราะผมได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรัก เพียงแต่ผมเองที่บกพร่องดูแลเขาไม่ได้...เป็นความผิดของผมเองครับ”
“ไม่ใช่” มาริษาเถียงสุดหัวใจ “มาร์คเข้าใจไหมว่าเรื่องที่เกิดเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของลูกหรือแพร เข้าใจเสียทีนะลูก...เลิกโทษตัวเองได้แล้ว”
ไกรสรขยับเข้าสวดกอดร่างสั่นสะท้านของภรรยาอย่างปลอบโยน รู้ดีว่าภรรยาเสียใจที่เห็นลูกชายเอาแต่อมทุกข์ เศร้าโศก หัวใจคนเป็นพ่อแม่ไม่มีใครอยากเห็นลูกเจ็บหรือทุกข์ ท่านได้แต่สงสารและเห็นใจลูกชายนัก เพราะรู้ใจมหาสมุทรดีว่าหลายปีมานี้ลูกชายมีรักมั่นคงต่อคน ๆ เดียว ไม่ว่าพวกท่านจะหาใครมาทดแทนก็ไม่สามารถก้าวผ่านหัวใจลูกชายได้ ทุกวันนี้พวกท่านจำต้องยอมรับว่าไม่ควรจะบังคับใจลูกชายอีกแล้ว ควรปล่อยให้ลูกได้เป็นในสิ่งที่ลูกต้องการ และได้แต่หวังว่าเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น อย่างน้อยก็หวังว่าหัวใจของมหาสมุทรจะพบความสุขและสงบ
“พี่มีเรื่องจะขอร้องเธอ”
มหาสมุทรหันมากล่าวกับน้องสาวเสียงอ่อน คลายมือที่แตะหลังมือมารดาเบา ๆ อย่างต้องการสื่อให้ท่านเข้าใจว่าเขาไม่เป็นไรและเข้าใจทุกอย่างดี
“แมร์เนี่ยนะ...” นักข่าวสาวจิ้มนิ้วชี้ที่อกตัวเองอย่างงุนงง “อะไรคะคุณพี่ชาย”
“พี่อยากพบแพรอีกสักครั้ง”
“ลูก...”
“เจ้ามาร์ค...”
ทั้งไกรสรและมาริษารวมทั้งคุณปู่เกษมร้องเรียกชายหนุ่มพร้อมกันด้วยความตกใจ คงมีแต่เมทินีที่อึ้งจนพูดไม่ออก
“ผมแค่อยากบอกลาแพรครับ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาใจ”
มหาสมุทรชี้แจงเมื่อสบกับสายตาสงสัยไม่เข้าใจของสมาชิกในครอบครัว
“ครั้งก่อนผมจากมาโดยไม่ได้บอกลาแพร ยังค้างในใจมากมาย แต่ครั้งนี้ผมอยากทำให้ถูกต้อง...ถ้าผมจะปล่อยแพรไปผมก็ควรจะทำให้ได้”
“แล้วแมร์จะช่วยได้ยังไงคะ”
“ขอให้พิณช่วยได้ไหม...วิธีไหนก็ได้ที่พี่จะได้พบแพร แล้วหลังจากนี้พี่สัญญาพี่จะไม่ทำให้แพรลำบากใจอีก”
“โอเค...ถ้าแมร์กล่อมให้ยายพิณช่วยได้ แมร์อยากรู้ว่าพี่มาร์คจะพูดอะไรกับพี่แพร”
สาวห้าวสอดขึ้นอย่างข้องใจตามประสานักข่าวจอมจุ้น จนโดนไกรสรเรียกชื่อเสียงเข้มที่ลูกสาวกำลังทำตัวยุ่มย่ามเรื่องของพี่ชายเกินกว่าเหตุ
“ก็แมร์อยากรู้นี่คะ” สาวห้าวแย้งหน้าจ๋อย “เจอเพื่อบอกลาจะช่วยอะไรได้...จะช่วยให้พี่มาร์คลืมพี่แพรแล้วเริ่มต้นใหม่ มีครอบครัวใหม่และมีลูกน่ารักแบบนี้หรือคะ”
“ไม่ใช่ พี่จะบอกลาคนที่พี่รัก และบอกเขาว่ารักของเขาจะอยู่ในใจพี่เสมอ”
มหาสมุทรเล่าความตั้งใจให้น้องสาวฟังเสียงหนักแน่น
“ชีวิตต่อจากนี้พี่จะอุทิศให้กับมูลนิธิและธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะทำให้คนในชุมชนมีความสุขและมีครอบครัวที่อบอุ่น อย่าให้เขาต้องพรากจากคนรักเหมือนพี่”
“สรุปคือจะบอกว่ายังไงก็ไม่ลืมพี่แพร จะรักอย่างนี้คนเดียวตลอดไป”
“ใช่”
มหาสมุทรยืนยันเสียงหนัก สองเดือนที่ได้ใกล้ชิดแพรธาราเป็นสองเดือนที่มีความสุขแต่ลึกในหัวใจมหาสมุทรก็ย้ำกับตัวเองเสมอว่าโอกาสที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งคงเป็นเพียงในความฝัน สิ่งเดียวที่อดีตคุณหมอตั้งใจจะทำคือเก็บรักนี้ไว้ในหัวใจเสมอแม้คนรักจะไม่ได้อยู่เคียงข้างกันอีกแล้ว ก่อนจะเอ่ยทีเล่นทีจริงเพื่อทำลายบรรยากาศที่อึมครึมและมีแต่ความเศร้าให้สว่างขึ้น
“ขอมอบภาระการผลิตทายาทให้เธอแล้วกัน ส่วนพี่จะพัฒนาธุรกิจของเราไว้ให้ทายาทของเธอกับเจ้าหมอเอง...ดีไหม”
“ถ้างั้นคุณพ่อคุณแม่คงต้องมีลูกเพิ่มอีกสักคนแล้วล่ะค่ะ เพราะหน้าที่นี้แมร์ไม่รับ ยิ่งทายาทกับพี่หมอ...ยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
เมทินีสะบัดหน้าเดินหนีออกจากห้องอย่างไม่พอใจ หงุดหงิดขัดเคืองนักที่พี่ชายชอบหาเรื่องวกให้เธอแต่งงานอยู่เรื่อย แถมเนื้อคู่ที่จัดหาให้ยังเป็นคุณหมอหนุ่มจอมซื่อที่เวลาเธออยู่ใกล้ทีไรแล้วคันหัวใจทุกที
แผนการพาตัวพี่สาวไปพบมหาสมุทรตามคำขอร้องของเพื่อนรักเป็นไปอย่างแยบยล ขนาดแพรธาราเองก็ทราบเหมือนบิดามารดาว่าน้องสาวจะพาไปคุยคอนเซปต์ชุดเจ้าสาวกับดีไซเนอร์ไฮโซชื่อดัง
“ทำไมพามาที่โรงแรมของยายณิชล่ะ จะแวะทานข้าวกันก่อนเหรอ...ยังไม่เที่ยงเลยนะ”
“คือพี่ณิชให้แวะมาเอาอัลบัมภาพแต่งงานที่ห้องพักค่ะ บอกว่าแบบใหม่จากเมืองนอก...อยากให้พี่แพรเห็นจะได้คุยกับพี่แกรนด์ได้ง่าย ๆ”
แพรธาราพยักหน้ารับทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ สงสัยว่าดีไซเนอร์ชื่อดังที่ใคร ๆ ยอมรับว่าเก่งกาจและออกแบบแต่ละชุดได้เก๋ไก๋ตามสไตล์ของผู้สวมใส่แต่ละคน แล้วทำไมถึงจะต้องเอาแบบภาพไปให้ดูอีก แค่บอกความต้องการของตัวเองให้ทราบแล้วออกแบบตามจินตนาการไม่ได้หรือ
“เดี๋ยวพี่แพรขึ้นไปชั้น 18 นะ คุณแก้วผู้จัดการคอยอยู่แล้ว”
พิณสุดากำชับระหว่างจอดรถเทียบหน้าทางเข้าอาคารให้พี่สาวลงไปก่อน
“เดี๋ยวคุณแก้วจะพาไปที่ห้องของพี่ณิชเอง”
“ความจริงณิชก็ให้คุณแก้วเอาภาพมาให้พี่ก็ได้ ไม่เห็นต้องให้พี่ขึ้นไปเอาให้เสียเวลาเลย” แพรธาราแย้งอย่างข้องใจ “เรานัดคุณแกรนด์ไว้...ถ้าไปช้ามันจะน่าเกลียดน่ะ”
“ไม่น่าเกลียดหรอกค่ะ รีบขึ้นไปเถอะ...อย่าให้คุณแก้วคอยนาน”
พิณสุดารวบรัด พลางเร่งให้พี่สาวขึ้นไปที่จุดนัดหมายโดยเร็ว ด้วยเกรงว่าแผนการที่ต่อให้แยบยลแค่ไหน แต่บางครั้งมันก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ ยิ่งตอนนี้คุณนาถยาเจ้ากี้เจ้าการเป็นผู้จัดเตรียมงานแทบทุกอย่าง เกิดยายคุณนายจมูกดีระแคะระคายเรื่องชุดแต่งงานขึ้นมา แผนการที่เธอวางไว้อาจจะล่ม หรือถ้าไม่ล่มแต่ถูกคุณปู่จับได้ภายหลังทั้งมหาสมุทรและแพรธาราจะต้องเจอศึกหนักมากกว่าเดิมแน่
แพรธาราหันมองน้องสาวอย่างค้นหา ข้องใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งน้องเร่งยิ่งสงสัย แต่ก็จับสังเกตเจ้าแม่ประชาสัมพันธ์ไม่ได้เสียที จึงจำยอมทำตามคำบอกของน้องสาว
“สวัสดีค่ะคุณแพร”
ผู้จัดการสาวที่ยืนคอยอยู่หน้าลิฟท์ยกมือไหว้พร้อมส่งยิ้มให้ หลังจากทักทายกันเล็กน้อย แก้วตาจึงนำทางเพื่อนรักของเจ้านายไปห้องที่นัดหมายกันไว้
“เชิญค่ะ”
แพรธารายิ้มน้อย ๆ พลางค้อมศีรษะให้เมื่ออีกฝ่ายผายมือให้เธอเดินนำไปก่อน สายตาคู่สวยกวาดมองห้องเพรสซิเดนท์สูทของเพื่อนรักที่จัดแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชื่นชม แค่ตรงประตูทางเข้าก็แต่งด้วยแจกันดอกกุหลาบขาวสดใส มองผ่านเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นและห้องอาหารก็ตกแต่งด้วยสีเบสอบอุ่นดูผ่อนคลายนัก
“แล้วณิช...”
แพรธาราชะงักคำพูดแทบไม่ทัน เมื่อหันมาหาแก้วตาแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นประตูทั้งบานที่ปิดสนิทโดยไม่มีแม้แต่เงาของผู้จัดการสาวตามติดมาด้วย
“อะไรกัน...”
ดอกเตอร์สาวพึมพำ รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล รีบหันหลังกลับไปมองทางห้องนั่งเล่นอย่างระแวดระวังเมื่อรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั้น สาวสวยยืนฟังเสียงอยู่ชั่วอึดใจก่อนตัดสินใจว่าไม่ควรอยู่ต่อ ไม่ว่าเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงคนหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่การที่ถูกพาให้มาอยู่ในห้องนี้ตามลำพังคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ จึงค่อย ๆ ขยับถอยหลังไปที่ประตู
“แพร...”
มือนุ่มชะงักค้างแต่ยังไม่ปล่อยจากลูกบิดประตูเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง
“อย่าเพิ่งไปได้ไหม...ขอเวลาพี่สักนิด”
“พี่มาร์ค...”
แพรธาราครางอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อหันกลับมาเห็นร่างสูงยืนหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้า ทั้งที่เขาส่งยิ้มให้แต่หัวใจของเธอกลับบอกว่าสายตาของเขาดูเศร้าเหลือเกิน
“พี่แค่อยากคุยด้วยสักครู่เท่านั้น”
“ทำไมคะ...”
ดอกเตอร์สาวยังคงไม่ยอมขยับตัวห่างจากประตู ต่อให้รู้สึกผูกพันหรือมีเยื่อใยเพียงใด แต่การพบเขาที่ห้องพักแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดมาก่อน
“อย่ากลัวเลย” มหาสมุทรปลอบเมื่อเห็นแววตาระแวงภัยของสาวในดวงใจ “พี่ขอโทษที่ต้องใช้วิธีการแบบนี้เพื่อขอพบแพร แต่พิณบอกว่ามีวิธีนี้วิธีเดียวที่จะพาแพรออกมาพบพี่ได้”
“ยายพิณ...”
แพรธารานึกเข่นเขี้ยวน้องสาวจอมวางแผนนัก หลอกทั้งเธอและคุณพ่อคุณแม่เสียสนิทใจ
“อย่าโทษพิณเลยนะ พี่เป็นคนขอร้องพิณเอง พี่แค่...”
“คะ...”
มหาสมุทรสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อต้องเอ่ยคำพูดที่ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยอยากพูด แต่นี่เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเขาที่จะได้พบสาวสวยตรงหน้า และเขาคงต้องเสียใจไปชั่วชีวิตหากไม่ได้พูดทุกคำที่อยู่ในหัวใจของเขากับเธอ
“พี่...พี่มาลาครับ และ...มีของบางอย่างอยากมอบให้แพร”
มือหนาล้วงหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินจากกระเป๋ากางเกงมาเปิดออกพร้อมยื่นส่งให้ตรงหน้าหญิงสาวในดวงใจ
แพรธาราเผลอขยับตัวเข้าหาอย่างลืมตัวเมื่อสายตาจับจ้องที่แหวนเพชรน้ำงามน้ำหนักราว 5 กะรัตได้ ไม่มีคำพูดใดหลุดจากริมฝีปากบาง นอกจากดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นสบกับดวงตาคมเข้มอย่างเป็นคำถาม
“แพรคงจำไม่ได้”
เสียงกล่าวแสนเศร้า ก่อนที่หนุ่มตรงหน้าจะเปลี่ยนความเศร้าเป็นรอยยิ้มอบอุ่น
“แหวนหมั้นของเรา...พี่เคยใช้หมั้นแพร ตอนที่แพรอุ้มท้องตาหนูแพรบอกพี่ว่าจะเก็บแหวนหมั้นนี้ไว้ให้ลูก ถึงตอนนี้ตาหนูจะไม่ได้อยู่แล้วแต่พี่อยากให้แพรเก็บไว้เพื่อมอบให้ลูกของแพรได้ไหมครับ...ถือว่าเป็นของขวัญรับขวัญหลานก็ได้”
มือหนาถือวิสาสะวางแหวนบนมือนุ่ม ก่อนจะดันนิ้วเรียวให้กอบกุมแหวนแทนใจนั้นไว้
“แหวนนี้แทนความรักของพี่ต่อแพรและพี่เชื่อว่าครั้งนั้นแพรมีหัวใจดวงเดียวกับพี่ พี่หวังได้ใช่ไหมว่าลูกของแพรจะได้มีความสุขกับคนที่เขารักอย่างแท้จริงทดแทนความรักของเราทั้งสองคน...ให้เขามีความสุขแทนเราด้วย อย่าได้พลัดพรากจากคนรักเลย”
“พี่มาร์ค...”
น้ำตาของดอกเตอร์สาวแทบหยดตั้งแต่เขาเอ่ยคำว่า “แหวนหมั้นของเรา” แล้ว แต่นี่เขายังพูดคำว่ารักออกมาเต็มปาก ถึงเขาไม่รั้งไม่ได้ขอร้องไม่ให้เธอแต่งงานหัวใจเธอก็แทบหยุดเต้นแล้ว แต่นี่เขายังมอบแหวนแทนใจนี้ให้ลูกของเธอ...ลูกที่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ลูกของเธอกับเขา แต่เขาก็ยังมอบให้ยังมีใจเผื่อมาถึง
“พี่รู้ว่าพี่ไม่ควรมาพบแพรอีก การพบกันของเราจะทำให้แพรต้องเสื่อมเสีย”
มหาสมุทรยังคงกุมมือนุ่มที่กำแหวนเพชรไว้แน่น
“แต่พี่ไม่อยากจากแพรไปเหมือนครั้งก่อน จากไปโดยไม่ได้บอกให้แพรรู้ความรู้สึกในใจพี่ คำเดียวที่พี่มีให้แพรและจะมีให้ตลอดไปจนชั่วชีวิตพี่คือ รัก...พี่จะรักภรรยาคนแรกของพี่คนเดียวตลอดไป และไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนก็ขออวยพรให้แพรมีความสุขกับคนที่แพรรัก...ขอให้แพรมีครอบครัวที่แสนสุข ขอให้...”
แพรธาราส่ายหน้าทั้งน้ำตา มันมากเกินไปแล้ว...เขากำลังทำให้หัวใจที่พยายามเข้มแข็งอ่อนแอ เธอกำลังจะพ่ายแพ้กับสายใยเร้นลับที่ตัวเองพยายามลบเลือนมาตลอดหนึ่งเดือนที่จากกัน
“อย่าร้องไห้สิครับ พี่กำลังอวยพรให้นะ”
มือหนาบรรจงปาดน้ำตาบนแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ยิ่งพยายามซับน้ำตาให้ เจ้าของหน้านวลก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น อดีตคุณหมอที่พยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจก็แทบอยากโยนทุกความผิดถูกชั่วดีทิ้งไปแล้วรั้งผู้หญิงตรงหน้าไว้กับตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถฝืนทำผิดแบบนั้นได้ สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มยอมทำคือรั้งร่างบางมากอดปลอบอย่างห่วงใย ซบหน้ากับเรือนผมนุ่มพลางกระซิบเสียงอ่อนโยน
“พี่ขอให้ลูกของแพรน่ารัก เป็นเด็กดี และเชื่อฟังแพร ขอให้ทุก ๆ วันของแพรมีแต่ความสุข อย่าได้มีความทุกข์ใดมาแผ่วพาลเลย”
ร่างบางยิ่งสะอื้นหนักขึ้น จนมหาสมุทรต้องลูบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบโยน
“อย่าร้องไห้นะครับคนดี ความทุกข์ใจ...ความเสียใจใด ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะพี่ พี่ขอให้แพรลืมเลือนให้หมด...อย่าได้จดจำให้ต้องเจ็บช้ำอีกเลย”
ร่างสูงดันร่างบางออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะประทับจูบที่หน้าผากมนอย่างรักสุดหัวใจเป็นครั้งสุดท้าย
“จากนี้เราคงจะไม่ได้พบกันอีกตลอดชีวิต แต่พี่ขออวยพรให้แพรมีความสุขในชีวิตคู่ตลอดไป...ดีใจด้วยนะครับ”
มหาสมุทรรั้งร่างบางเข้ามากอดอีกครั้ง อบอุ่น อ่อนโยน และเนิ่นนาน นานจนแพรธาราอยากให้เวลาหยุดลงเท่านี้ แต่คำอธิษฐานไม่มีวันเป็นจริงเมื่อร่างสูงค่อย ๆ ผละถอยห่างและสาวเท้าจากไป ทิ้งไว้เพียงไออุ่นแห่งรักที่ค่อย ๆ จางหาย เหลือไว้เพียงเสียงสะอื้นของคนที่ไร้ความทรงจำแห่งอดีตแต่อดีตแห่งรักกลับสร้างสายใยเกี่ยวพันหัวใจของเธอไว้ไม่เสื่อมคลาย
******************
sai – คุณปู่บวกลบคูณหารเป็นตัวเลขค่ะ เข้าใจว่ามูลค่าจะทำให้แซมไม่กล้าแม้แต่ทำร้ายจิตใจ แต่ใครจะรู้ความคิดใครแม้แต่จอมบงการอย่างคุณปู่
Pat – อันนี้เห็นด้วยค่ะ ฉลาดแต่ขาดเฉลียว เพียงแต่ว่าอย่างที่บอกคุณปู่ร้ายได้ก็ดีได้ ต้องมาตามกันว่าแล้วเมื่อไหร่คุณปู่จะดี
panon – ใบบัวบกกินแล้วตาใส มองเห็นชัดเจน น้องที่ทำงานเพิ่งบอกเมื่อวันก่อน เลยชักสงสัยว่าพี่มาร์คกินแล้วจะยิ่งเห็นความรักชัดเจนขึ้นหรือเปล่า อิอิ
an00 – ทิฐิบังตาค่ะ เชื่อมั่นถือมั่นในตัวเองเลยไม่ยอมพิจารณาให้ชัดเจนค่ะ
teesaparn – ขอบคุณที่รอกันนะคะ แต่ว่าเดี๋ยวคงต้องขอหายตัวไปอีกรอบและยาวกว่าเดิม...เฮ้อ...ถอนใจด้วยความคิดถึง
Auuuu – เฮ้อออด้วยคน...แพรน่ะ ปากหนักจริง ๆ เลย
ขอบคุณเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่านที่ติดตามกันนะคะ รีบมาลงให้ตามสัญญาสองอาทิตย์ แต่หลังจากนี้คงจะต้องขอหายตัวไปอีก พอดีน้องผู้ช่วยที่ไปด้วยกันทำงานต่อไม่ไหวค่ะ ขอย้ายกลับมาทำที่เดิม งานของเขาพิมดาวเลยต้องรับเละต่อ แต่สัญญาว่าไม่ทิ้งกันแน่นอนค่ะ จะรีบเคลียร์งานแล้วมาลงให้จบแน่นอน ถ้าโชคดีคงมาลงให้ก่อนสิ้นมิถุนายนนี้ค่ะ
คิดถึงและขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนอีกครั้งค่ะ ...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
************************
“แบบนี้พี่ชายฉันคงได้ตรอมใจตาย”
“โธ่...พี่แพรก็คงไม่ต่างกันหรอก”
“พูดเหมือนพี่แพรจำเรื่องรักของตัวเองได้แล้ว...จำได้ว่ารักพี่มาร์ค”
“เปล่า”
เสียงตอบอ่อย ๆ ดังมาตามสายโทรศัพท์ จนคนฟังชักเริ่มเคืองขึ้นมาตะหงิด ๆ
“อ้าว...ไม่รักแล้วจะมาเศร้าอะไร มีแต่ดีใจสิไม่ว่าที่จะได้แต่งงานกับคนรักเสียที”
“ไม่ใช่อ่ะ” พิณสุดาปฏิเสธ “อาการอึ้งกับสายตาตกใจแบบนั้น ไม่มีทางดีใจแน่...ยิ่งตอนที่ออกจากห้องหลังคุยตามลำพังกับคุณปู่นะ พี่แพรดูเศร้ามากเลยล่ะ”
“ถ้าจำทุกอย่างยังไม่ได้ก็คงไม่รักพี่มาร์ค แล้วทำไมถึงไม่ดีใจที่จะแต่งงานกับแฟนล่ะ” เมทินีตั้งข้อสังเกต “มันแปลก ๆ นะ”
“นั่นล่ะที่ฉันเดาไม่ออก ถึงโทรมาเล่าให้ฟังไงล่ะ”
“โอ๊ย...เรื่องปวดหัวแบบนี้ คิดไม่ออกเหมือนกัน” เมทินีบ่น “ฉันว่าทั้งเธอและฉันต้องรีบไปหาคำตอบก่อนที่หัวจะระเบิดดีที่สุด”
พิณสุดาอยากจะถามว่าหาคำตอบด้วยวิธีไหน แต่สาวห้าวไม่รอให้เพื่อนสาวได้ซักต่อ เมทินีกดปิดโทรศัพท์มือถือพร้อมกับเผ่นขึ้นรถยนต์คู่ใจกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
สมาชิกวิษณุวงษ์อยู่กันพร้อมหน้าโดยที่เมทินีไม่ต้องเรียกประชุม แถมสีหน้าแต่ละคนก็เคร่งเครียดจนนักข่าวสาวมั่นเดาได้ไม่ยากว่าทุกคนทราบข่าวการแต่งงานของแพรธาราแล้วแน่ แต่ยังไม่ทันที่สาวห้าวจะได้เล่นงานพี่ชายที่มัวแต่ชักช้าจนแพรธาราต้องหลุดมือไป คุณปู่เกษมก็เอ่ยขึ้นก่อน
“หวังว่าคงเข้าใจนะเจ้ามาร์ค บ้านโน้นโทรมาพูดขนาดนี้...เจ้าคงจะไม่ไปวุ่นวายกับยายหนูแพรอีกหรอกนะ”
“ครับ”
“ทำใจเถอะนะลูก ลูกกับหนูแพรคงไม่ใช่คู่กันถึงมีเหตุให้คลาดแคล้วกันแบบนี้”
มาริษาพยายามปลอบใจลูกชายที่เอาแต่นั่งนิ่งจนนางอดห่วงไม่ได้
“ผมทราบดีครับ ที่นัดพบกันก็ไม่ได้คิดว่าจะทำให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันหรอกครับ” มหาสมุทรสารภาพ “ผมแค่อยากมีช่วงเวลาดี ๆ กับแพรเท่านั้น แค่อยากจะเก็บช่วงเวลาดี ๆ นี้ไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเองอยู่ต่อไป”
“โธ่...พี่ชายฉัน”
เมทินีคราง ข้อข้องใจในความรักของพี่ชายไม่มีแน่แต่สำหรับแพรธาราสาวห้าวเดาไม่ออกเลยว่าอาการตกใจของอดีตพี่สะใภ้จะเพราะมีหัวใจตรงกันกับพี่ชายหรือไม่
คุณปู่เกษมเองก็ได้แต่ส่ายหน้า สงสารหลานชายนักจนพาลหมั่นไส้เจ้าเพื่อนรักจอมบงการเหลือเกิน กีดกันหลานตัวเองกับหลานของท่านจนไม่ยอมมองความจริง ถ้าคนไม่รักกันทำอย่างไรก็ไม่รัก แต่ถ้าคนจะรักกันอยากถ่ายทอดความรักความห่วงใยที่บริสุทธิ์ใจให้กันทำไมเจ้าเพื่อนบ้าต้องขัดขวางด้วย นึกอยากย้อนเวลากลับไปเป็นหนุ่มนักจะได้ตามไปอัดหน้ามันให้หงาย หายบ้าอำนาจเสียที
“แมร์ว่าเราน่าจะถามพี่แพรก่อนไม่ดีกว่าหรือคะ คือถ้าพี่แพรไม่เต็มใจ...เราก็ไปพาพี่แพรหนีก็หมดเรื่อง”
นักข่าวสาวเสนอวิธีแบบไม่อ้อมค้อม คนอย่างเธอมีแต่เดินหน้าลุยต่อเท่านั้น ถ้าหัวใจสั่งการอย่างไรก็ไม่ยอมถอยไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ ข่าวที่เพื่อนรักบอกว่าแพรธาราแอบเศร้าและเก็บตัวเงียบ ไม่ได้เต็มใจหรือดีใจที่จะแต่งงานกับสุทัศน์ ยิ่งทำให้หญิงสาวมั่นใจว่างานนี้ต้องเรียกว่าผู้ใหญ่จัดให้มากกว่า
“เงียบเลยนะเรา”
ไกรสรหันมาดุลูกสาวอย่างไม่ชอบใจ ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นก็เพราะต่างฝ่ายต่างทำตามใจตัวเอง คิดเองเออเองจนสุดท้ายก็ต้องเจ็บปวด และเขาจะไม่ยอมให้ความเจ็บนี้ปะทุเป็นแผลเรื้อรังอีกต่อไปแล้ว
“เท่านี้พี่ชายเราก็มีปัญหามากพอแล้วนะ ไม่ต้องมาเสนอวิธีให้คุณปู่และพี่เราต้องมีปัญหากับบ้านโน้นเลยนะ”
“เรื่องเจ้าพงศ์ พ่อไม่กลัวหรอก” เกษมแย้ง “แต่พ่อไม่อยากให้ยายหนูแพรเสียชื่ออีก จะทำอะไรก็ควรรักษาหน้าฝ่ายหญิงไว้ด้วย เรื่องผิด ๆ เรื่องบังคับจิตใจพ่อไม่อยากทำอีกแล้ว...ที่ผ่านมาพ่อเองก็ผิดที่บังคับเจ้ามาร์คให้แต่งกับยายหนูแพร”
“ไม่จริงหรอกครับคุณปู่ ผมรักแพร” มหาสมุทรยืนยัน “มันเป็นการแต่งงานที่ผมเต็มใจที่สุด เพราะผมได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรัก เพียงแต่ผมเองที่บกพร่องดูแลเขาไม่ได้...เป็นความผิดของผมเองครับ”
“ไม่ใช่” มาริษาเถียงสุดหัวใจ “มาร์คเข้าใจไหมว่าเรื่องที่เกิดเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของลูกหรือแพร เข้าใจเสียทีนะลูก...เลิกโทษตัวเองได้แล้ว”
ไกรสรขยับเข้าสวดกอดร่างสั่นสะท้านของภรรยาอย่างปลอบโยน รู้ดีว่าภรรยาเสียใจที่เห็นลูกชายเอาแต่อมทุกข์ เศร้าโศก หัวใจคนเป็นพ่อแม่ไม่มีใครอยากเห็นลูกเจ็บหรือทุกข์ ท่านได้แต่สงสารและเห็นใจลูกชายนัก เพราะรู้ใจมหาสมุทรดีว่าหลายปีมานี้ลูกชายมีรักมั่นคงต่อคน ๆ เดียว ไม่ว่าพวกท่านจะหาใครมาทดแทนก็ไม่สามารถก้าวผ่านหัวใจลูกชายได้ ทุกวันนี้พวกท่านจำต้องยอมรับว่าไม่ควรจะบังคับใจลูกชายอีกแล้ว ควรปล่อยให้ลูกได้เป็นในสิ่งที่ลูกต้องการ และได้แต่หวังว่าเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น อย่างน้อยก็หวังว่าหัวใจของมหาสมุทรจะพบความสุขและสงบ
“พี่มีเรื่องจะขอร้องเธอ”
มหาสมุทรหันมากล่าวกับน้องสาวเสียงอ่อน คลายมือที่แตะหลังมือมารดาเบา ๆ อย่างต้องการสื่อให้ท่านเข้าใจว่าเขาไม่เป็นไรและเข้าใจทุกอย่างดี
“แมร์เนี่ยนะ...” นักข่าวสาวจิ้มนิ้วชี้ที่อกตัวเองอย่างงุนงง “อะไรคะคุณพี่ชาย”
“พี่อยากพบแพรอีกสักครั้ง”
“ลูก...”
“เจ้ามาร์ค...”
ทั้งไกรสรและมาริษารวมทั้งคุณปู่เกษมร้องเรียกชายหนุ่มพร้อมกันด้วยความตกใจ คงมีแต่เมทินีที่อึ้งจนพูดไม่ออก
“ผมแค่อยากบอกลาแพรครับ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาใจ”
มหาสมุทรชี้แจงเมื่อสบกับสายตาสงสัยไม่เข้าใจของสมาชิกในครอบครัว
“ครั้งก่อนผมจากมาโดยไม่ได้บอกลาแพร ยังค้างในใจมากมาย แต่ครั้งนี้ผมอยากทำให้ถูกต้อง...ถ้าผมจะปล่อยแพรไปผมก็ควรจะทำให้ได้”
“แล้วแมร์จะช่วยได้ยังไงคะ”
“ขอให้พิณช่วยได้ไหม...วิธีไหนก็ได้ที่พี่จะได้พบแพร แล้วหลังจากนี้พี่สัญญาพี่จะไม่ทำให้แพรลำบากใจอีก”
“โอเค...ถ้าแมร์กล่อมให้ยายพิณช่วยได้ แมร์อยากรู้ว่าพี่มาร์คจะพูดอะไรกับพี่แพร”
สาวห้าวสอดขึ้นอย่างข้องใจตามประสานักข่าวจอมจุ้น จนโดนไกรสรเรียกชื่อเสียงเข้มที่ลูกสาวกำลังทำตัวยุ่มย่ามเรื่องของพี่ชายเกินกว่าเหตุ
“ก็แมร์อยากรู้นี่คะ” สาวห้าวแย้งหน้าจ๋อย “เจอเพื่อบอกลาจะช่วยอะไรได้...จะช่วยให้พี่มาร์คลืมพี่แพรแล้วเริ่มต้นใหม่ มีครอบครัวใหม่และมีลูกน่ารักแบบนี้หรือคะ”
“ไม่ใช่ พี่จะบอกลาคนที่พี่รัก และบอกเขาว่ารักของเขาจะอยู่ในใจพี่เสมอ”
มหาสมุทรเล่าความตั้งใจให้น้องสาวฟังเสียงหนักแน่น
“ชีวิตต่อจากนี้พี่จะอุทิศให้กับมูลนิธิและธุรกิจของครอบครัวเรา พี่จะทำให้คนในชุมชนมีความสุขและมีครอบครัวที่อบอุ่น อย่าให้เขาต้องพรากจากคนรักเหมือนพี่”
“สรุปคือจะบอกว่ายังไงก็ไม่ลืมพี่แพร จะรักอย่างนี้คนเดียวตลอดไป”
“ใช่”
มหาสมุทรยืนยันเสียงหนัก สองเดือนที่ได้ใกล้ชิดแพรธาราเป็นสองเดือนที่มีความสุขแต่ลึกในหัวใจมหาสมุทรก็ย้ำกับตัวเองเสมอว่าโอกาสที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งคงเป็นเพียงในความฝัน สิ่งเดียวที่อดีตคุณหมอตั้งใจจะทำคือเก็บรักนี้ไว้ในหัวใจเสมอแม้คนรักจะไม่ได้อยู่เคียงข้างกันอีกแล้ว ก่อนจะเอ่ยทีเล่นทีจริงเพื่อทำลายบรรยากาศที่อึมครึมและมีแต่ความเศร้าให้สว่างขึ้น
“ขอมอบภาระการผลิตทายาทให้เธอแล้วกัน ส่วนพี่จะพัฒนาธุรกิจของเราไว้ให้ทายาทของเธอกับเจ้าหมอเอง...ดีไหม”
“ถ้างั้นคุณพ่อคุณแม่คงต้องมีลูกเพิ่มอีกสักคนแล้วล่ะค่ะ เพราะหน้าที่นี้แมร์ไม่รับ ยิ่งทายาทกับพี่หมอ...ยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
เมทินีสะบัดหน้าเดินหนีออกจากห้องอย่างไม่พอใจ หงุดหงิดขัดเคืองนักที่พี่ชายชอบหาเรื่องวกให้เธอแต่งงานอยู่เรื่อย แถมเนื้อคู่ที่จัดหาให้ยังเป็นคุณหมอหนุ่มจอมซื่อที่เวลาเธออยู่ใกล้ทีไรแล้วคันหัวใจทุกที
แผนการพาตัวพี่สาวไปพบมหาสมุทรตามคำขอร้องของเพื่อนรักเป็นไปอย่างแยบยล ขนาดแพรธาราเองก็ทราบเหมือนบิดามารดาว่าน้องสาวจะพาไปคุยคอนเซปต์ชุดเจ้าสาวกับดีไซเนอร์ไฮโซชื่อดัง
“ทำไมพามาที่โรงแรมของยายณิชล่ะ จะแวะทานข้าวกันก่อนเหรอ...ยังไม่เที่ยงเลยนะ”
“คือพี่ณิชให้แวะมาเอาอัลบัมภาพแต่งงานที่ห้องพักค่ะ บอกว่าแบบใหม่จากเมืองนอก...อยากให้พี่แพรเห็นจะได้คุยกับพี่แกรนด์ได้ง่าย ๆ”
แพรธาราพยักหน้ารับทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ สงสัยว่าดีไซเนอร์ชื่อดังที่ใคร ๆ ยอมรับว่าเก่งกาจและออกแบบแต่ละชุดได้เก๋ไก๋ตามสไตล์ของผู้สวมใส่แต่ละคน แล้วทำไมถึงจะต้องเอาแบบภาพไปให้ดูอีก แค่บอกความต้องการของตัวเองให้ทราบแล้วออกแบบตามจินตนาการไม่ได้หรือ
“เดี๋ยวพี่แพรขึ้นไปชั้น 18 นะ คุณแก้วผู้จัดการคอยอยู่แล้ว”
พิณสุดากำชับระหว่างจอดรถเทียบหน้าทางเข้าอาคารให้พี่สาวลงไปก่อน
“เดี๋ยวคุณแก้วจะพาไปที่ห้องของพี่ณิชเอง”
“ความจริงณิชก็ให้คุณแก้วเอาภาพมาให้พี่ก็ได้ ไม่เห็นต้องให้พี่ขึ้นไปเอาให้เสียเวลาเลย” แพรธาราแย้งอย่างข้องใจ “เรานัดคุณแกรนด์ไว้...ถ้าไปช้ามันจะน่าเกลียดน่ะ”
“ไม่น่าเกลียดหรอกค่ะ รีบขึ้นไปเถอะ...อย่าให้คุณแก้วคอยนาน”
พิณสุดารวบรัด พลางเร่งให้พี่สาวขึ้นไปที่จุดนัดหมายโดยเร็ว ด้วยเกรงว่าแผนการที่ต่อให้แยบยลแค่ไหน แต่บางครั้งมันก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ ยิ่งตอนนี้คุณนาถยาเจ้ากี้เจ้าการเป็นผู้จัดเตรียมงานแทบทุกอย่าง เกิดยายคุณนายจมูกดีระแคะระคายเรื่องชุดแต่งงานขึ้นมา แผนการที่เธอวางไว้อาจจะล่ม หรือถ้าไม่ล่มแต่ถูกคุณปู่จับได้ภายหลังทั้งมหาสมุทรและแพรธาราจะต้องเจอศึกหนักมากกว่าเดิมแน่
แพรธาราหันมองน้องสาวอย่างค้นหา ข้องใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งน้องเร่งยิ่งสงสัย แต่ก็จับสังเกตเจ้าแม่ประชาสัมพันธ์ไม่ได้เสียที จึงจำยอมทำตามคำบอกของน้องสาว
“สวัสดีค่ะคุณแพร”
ผู้จัดการสาวที่ยืนคอยอยู่หน้าลิฟท์ยกมือไหว้พร้อมส่งยิ้มให้ หลังจากทักทายกันเล็กน้อย แก้วตาจึงนำทางเพื่อนรักของเจ้านายไปห้องที่นัดหมายกันไว้
“เชิญค่ะ”
แพรธารายิ้มน้อย ๆ พลางค้อมศีรษะให้เมื่ออีกฝ่ายผายมือให้เธอเดินนำไปก่อน สายตาคู่สวยกวาดมองห้องเพรสซิเดนท์สูทของเพื่อนรักที่จัดแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชื่นชม แค่ตรงประตูทางเข้าก็แต่งด้วยแจกันดอกกุหลาบขาวสดใส มองผ่านเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นและห้องอาหารก็ตกแต่งด้วยสีเบสอบอุ่นดูผ่อนคลายนัก
“แล้วณิช...”
แพรธาราชะงักคำพูดแทบไม่ทัน เมื่อหันมาหาแก้วตาแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นประตูทั้งบานที่ปิดสนิทโดยไม่มีแม้แต่เงาของผู้จัดการสาวตามติดมาด้วย
“อะไรกัน...”
ดอกเตอร์สาวพึมพำ รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล รีบหันหลังกลับไปมองทางห้องนั่งเล่นอย่างระแวดระวังเมื่อรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงดังมาจากห้องนั้น สาวสวยยืนฟังเสียงอยู่ชั่วอึดใจก่อนตัดสินใจว่าไม่ควรอยู่ต่อ ไม่ว่าเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงคนหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่การที่ถูกพาให้มาอยู่ในห้องนี้ตามลำพังคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ จึงค่อย ๆ ขยับถอยหลังไปที่ประตู
“แพร...”
มือนุ่มชะงักค้างแต่ยังไม่ปล่อยจากลูกบิดประตูเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง
“อย่าเพิ่งไปได้ไหม...ขอเวลาพี่สักนิด”
“พี่มาร์ค...”
แพรธาราครางอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อหันกลับมาเห็นร่างสูงยืนหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้า ทั้งที่เขาส่งยิ้มให้แต่หัวใจของเธอกลับบอกว่าสายตาของเขาดูเศร้าเหลือเกิน
“พี่แค่อยากคุยด้วยสักครู่เท่านั้น”
“ทำไมคะ...”
ดอกเตอร์สาวยังคงไม่ยอมขยับตัวห่างจากประตู ต่อให้รู้สึกผูกพันหรือมีเยื่อใยเพียงใด แต่การพบเขาที่ห้องพักแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดคิดมาก่อน
“อย่ากลัวเลย” มหาสมุทรปลอบเมื่อเห็นแววตาระแวงภัยของสาวในดวงใจ “พี่ขอโทษที่ต้องใช้วิธีการแบบนี้เพื่อขอพบแพร แต่พิณบอกว่ามีวิธีนี้วิธีเดียวที่จะพาแพรออกมาพบพี่ได้”
“ยายพิณ...”
แพรธารานึกเข่นเขี้ยวน้องสาวจอมวางแผนนัก หลอกทั้งเธอและคุณพ่อคุณแม่เสียสนิทใจ
“อย่าโทษพิณเลยนะ พี่เป็นคนขอร้องพิณเอง พี่แค่...”
“คะ...”
มหาสมุทรสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อต้องเอ่ยคำพูดที่ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยอยากพูด แต่นี่เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเขาที่จะได้พบสาวสวยตรงหน้า และเขาคงต้องเสียใจไปชั่วชีวิตหากไม่ได้พูดทุกคำที่อยู่ในหัวใจของเขากับเธอ
“พี่...พี่มาลาครับ และ...มีของบางอย่างอยากมอบให้แพร”
มือหนาล้วงหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินจากกระเป๋ากางเกงมาเปิดออกพร้อมยื่นส่งให้ตรงหน้าหญิงสาวในดวงใจ
แพรธาราเผลอขยับตัวเข้าหาอย่างลืมตัวเมื่อสายตาจับจ้องที่แหวนเพชรน้ำงามน้ำหนักราว 5 กะรัตได้ ไม่มีคำพูดใดหลุดจากริมฝีปากบาง นอกจากดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นสบกับดวงตาคมเข้มอย่างเป็นคำถาม
“แพรคงจำไม่ได้”
เสียงกล่าวแสนเศร้า ก่อนที่หนุ่มตรงหน้าจะเปลี่ยนความเศร้าเป็นรอยยิ้มอบอุ่น
“แหวนหมั้นของเรา...พี่เคยใช้หมั้นแพร ตอนที่แพรอุ้มท้องตาหนูแพรบอกพี่ว่าจะเก็บแหวนหมั้นนี้ไว้ให้ลูก ถึงตอนนี้ตาหนูจะไม่ได้อยู่แล้วแต่พี่อยากให้แพรเก็บไว้เพื่อมอบให้ลูกของแพรได้ไหมครับ...ถือว่าเป็นของขวัญรับขวัญหลานก็ได้”
มือหนาถือวิสาสะวางแหวนบนมือนุ่ม ก่อนจะดันนิ้วเรียวให้กอบกุมแหวนแทนใจนั้นไว้
“แหวนนี้แทนความรักของพี่ต่อแพรและพี่เชื่อว่าครั้งนั้นแพรมีหัวใจดวงเดียวกับพี่ พี่หวังได้ใช่ไหมว่าลูกของแพรจะได้มีความสุขกับคนที่เขารักอย่างแท้จริงทดแทนความรักของเราทั้งสองคน...ให้เขามีความสุขแทนเราด้วย อย่าได้พลัดพรากจากคนรักเลย”
“พี่มาร์ค...”
น้ำตาของดอกเตอร์สาวแทบหยดตั้งแต่เขาเอ่ยคำว่า “แหวนหมั้นของเรา” แล้ว แต่นี่เขายังพูดคำว่ารักออกมาเต็มปาก ถึงเขาไม่รั้งไม่ได้ขอร้องไม่ให้เธอแต่งงานหัวใจเธอก็แทบหยุดเต้นแล้ว แต่นี่เขายังมอบแหวนแทนใจนี้ให้ลูกของเธอ...ลูกที่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ลูกของเธอกับเขา แต่เขาก็ยังมอบให้ยังมีใจเผื่อมาถึง
“พี่รู้ว่าพี่ไม่ควรมาพบแพรอีก การพบกันของเราจะทำให้แพรต้องเสื่อมเสีย”
มหาสมุทรยังคงกุมมือนุ่มที่กำแหวนเพชรไว้แน่น
“แต่พี่ไม่อยากจากแพรไปเหมือนครั้งก่อน จากไปโดยไม่ได้บอกให้แพรรู้ความรู้สึกในใจพี่ คำเดียวที่พี่มีให้แพรและจะมีให้ตลอดไปจนชั่วชีวิตพี่คือ รัก...พี่จะรักภรรยาคนแรกของพี่คนเดียวตลอดไป และไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนก็ขออวยพรให้แพรมีความสุขกับคนที่แพรรัก...ขอให้แพรมีครอบครัวที่แสนสุข ขอให้...”
แพรธาราส่ายหน้าทั้งน้ำตา มันมากเกินไปแล้ว...เขากำลังทำให้หัวใจที่พยายามเข้มแข็งอ่อนแอ เธอกำลังจะพ่ายแพ้กับสายใยเร้นลับที่ตัวเองพยายามลบเลือนมาตลอดหนึ่งเดือนที่จากกัน
“อย่าร้องไห้สิครับ พี่กำลังอวยพรให้นะ”
มือหนาบรรจงปาดน้ำตาบนแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ยิ่งพยายามซับน้ำตาให้ เจ้าของหน้านวลก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น อดีตคุณหมอที่พยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจก็แทบอยากโยนทุกความผิดถูกชั่วดีทิ้งไปแล้วรั้งผู้หญิงตรงหน้าไว้กับตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถฝืนทำผิดแบบนั้นได้ สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มยอมทำคือรั้งร่างบางมากอดปลอบอย่างห่วงใย ซบหน้ากับเรือนผมนุ่มพลางกระซิบเสียงอ่อนโยน
“พี่ขอให้ลูกของแพรน่ารัก เป็นเด็กดี และเชื่อฟังแพร ขอให้ทุก ๆ วันของแพรมีแต่ความสุข อย่าได้มีความทุกข์ใดมาแผ่วพาลเลย”
ร่างบางยิ่งสะอื้นหนักขึ้น จนมหาสมุทรต้องลูบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบโยน
“อย่าร้องไห้นะครับคนดี ความทุกข์ใจ...ความเสียใจใด ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะพี่ พี่ขอให้แพรลืมเลือนให้หมด...อย่าได้จดจำให้ต้องเจ็บช้ำอีกเลย”
ร่างสูงดันร่างบางออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะประทับจูบที่หน้าผากมนอย่างรักสุดหัวใจเป็นครั้งสุดท้าย
“จากนี้เราคงจะไม่ได้พบกันอีกตลอดชีวิต แต่พี่ขออวยพรให้แพรมีความสุขในชีวิตคู่ตลอดไป...ดีใจด้วยนะครับ”
มหาสมุทรรั้งร่างบางเข้ามากอดอีกครั้ง อบอุ่น อ่อนโยน และเนิ่นนาน นานจนแพรธาราอยากให้เวลาหยุดลงเท่านี้ แต่คำอธิษฐานไม่มีวันเป็นจริงเมื่อร่างสูงค่อย ๆ ผละถอยห่างและสาวเท้าจากไป ทิ้งไว้เพียงไออุ่นแห่งรักที่ค่อย ๆ จางหาย เหลือไว้เพียงเสียงสะอื้นของคนที่ไร้ความทรงจำแห่งอดีตแต่อดีตแห่งรักกลับสร้างสายใยเกี่ยวพันหัวใจของเธอไว้ไม่เสื่อมคลาย
******************
sai – คุณปู่บวกลบคูณหารเป็นตัวเลขค่ะ เข้าใจว่ามูลค่าจะทำให้แซมไม่กล้าแม้แต่ทำร้ายจิตใจ แต่ใครจะรู้ความคิดใครแม้แต่จอมบงการอย่างคุณปู่
Pat – อันนี้เห็นด้วยค่ะ ฉลาดแต่ขาดเฉลียว เพียงแต่ว่าอย่างที่บอกคุณปู่ร้ายได้ก็ดีได้ ต้องมาตามกันว่าแล้วเมื่อไหร่คุณปู่จะดี
panon – ใบบัวบกกินแล้วตาใส มองเห็นชัดเจน น้องที่ทำงานเพิ่งบอกเมื่อวันก่อน เลยชักสงสัยว่าพี่มาร์คกินแล้วจะยิ่งเห็นความรักชัดเจนขึ้นหรือเปล่า อิอิ
an00 – ทิฐิบังตาค่ะ เชื่อมั่นถือมั่นในตัวเองเลยไม่ยอมพิจารณาให้ชัดเจนค่ะ
teesaparn – ขอบคุณที่รอกันนะคะ แต่ว่าเดี๋ยวคงต้องขอหายตัวไปอีกรอบและยาวกว่าเดิม...เฮ้อ...ถอนใจด้วยความคิดถึง
Auuuu – เฮ้อออด้วยคน...แพรน่ะ ปากหนักจริง ๆ เลย
ขอบคุณเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่านที่ติดตามกันนะคะ รีบมาลงให้ตามสัญญาสองอาทิตย์ แต่หลังจากนี้คงจะต้องขอหายตัวไปอีก พอดีน้องผู้ช่วยที่ไปด้วยกันทำงานต่อไม่ไหวค่ะ ขอย้ายกลับมาทำที่เดิม งานของเขาพิมดาวเลยต้องรับเละต่อ แต่สัญญาว่าไม่ทิ้งกันแน่นอนค่ะ จะรีบเคลียร์งานแล้วมาลงให้จบแน่นอน ถ้าโชคดีคงมาลงให้ก่อนสิ้นมิถุนายนนี้ค่ะ
คิดถึงและขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนอีกครั้งค่ะ ...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
************************
พิมดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ค. 2555, 16:15:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ค. 2555, 16:15:29 น.
จำนวนการเข้าชม : 1468
<< ตอนที่ 17 |
anOO 27 พ.ค. 2555, 18:59:25 น.
เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ แล้วงานนี้ใครจะยื่นมือเข้ามาช่วยได้ล่ะนี้
ยัยแพรต้องหาหนทางเองแล้วล่ะ
เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ แล้วงานนี้ใครจะยื่นมือเข้ามาช่วยได้ล่ะนี้
ยัยแพรต้องหาหนทางเองแล้วล่ะ
Pat 27 พ.ค. 2555, 22:02:16 น.
อืมทำไงดีล่ะนี่
อืมทำไงดีล่ะนี่
sai 27 พ.ค. 2555, 23:19:46 น.
T^T อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาไหล ปวดใจ สงสารทั้งแพรทั้งพี่มาร์คเลยฮืออออ
T^T อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาไหล ปวดใจ สงสารทั้งแพรทั้งพี่มาร์คเลยฮืออออ
panon 28 พ.ค. 2555, 07:59:58 น.
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยน้ำตาไหลท่านสุภาพบุรุษที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกกกกก
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยน้ำตาไหลท่านสุภาพบุรุษที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกกกกก
Auuuu 4 มิ.ย. 2555, 18:34:21 น.
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง TT^TT
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง TT^TT
117 1 ก.ค. 2555, 00:40:18 น.
เศร้า ซึ้งมาก สะเทือนใจอย่างแรง...
เศร้า ซึ้งมาก สะเทือนใจอย่างแรง...
ใบบัวน่ารัก 24 ก.ค. 2555, 23:02:51 น.
เศร้า
เศร้า