Marine, Tree, Coffee & Milk #3 Milk (ตีพิมพ์กับสนพ.มายดรีมค่ะ)
เขาพยายามสุดความสามารถแล้วในการห้ามใจไม่ให้เข้าไปข้องแวะกับหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์...
แต่ให้ตาย ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถที่จะพาหัวใจหนีพ้นหล่อนไปไหนได้ไกล

รอก่อนเถอะศวัลญา... เรียนจบเมื่อไหร่เขาไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่!
Tags: อาจารย์เติม คุณชายเติม เอญ่า

ตอน: บทที่ ๓

เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้วตอนที่เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนของเติมดังขึ้น... ก่อนจะมีเสียงหวานๆของพี่สาวตามมาทีหลัง ชายหนุ่มจึงเก็บเอกสารทางวิชาการกลับลงไปบนโต๊ะทำงาน แล้วเดินมาเปิดประตูให้หม่อมราชวงศ์เต็มจันทราซึ่งเมื่อเห็นหน้า หล่อนก็ยิงคำถามให้ทันที

"เห็นเบอร์โทรศัพท์ของน้องเอญ่ามั้ย"

"ใครนะครับ"

"เอญ่า... เป็นน้องนิสิตที่ช่วยตาตินไว้ตอนรถล้ม"

"แล้วเบอร์โทรศัพท์เขาจะมาอยู่กับผมได้ยังไง" นักธุรกิจหญิงแกร่งก้าวเข้ามาในห้องนอนของน้องชายที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แล้วนั่งลงตรงโซฟาที่ตั้งอยู่ปลายเตียง "ก็วันนี้ตาตินเล่าให้ฟังว่าไปเจอพี่สาวใจดีมา แล้วก็ได้เบอร์โทรศัพท์เขามาด้วย พอจะเอามาอวดก็ทำหายไว้ไหนไม่รู้ งอแงไม่ยอมนอน พี่เลยอาสาจะมาตามหาให้ กว่าจะยอมนอนก็เล่นเอาแม่แทบแย่"

"แต่ตอนที่ได้มาตินตินก็ถือไว้เองนี่ครับ" เขาอุตส่าห์ไม่สนใจแล้วพยายามข่มใจให้มีสมาธิอยู่กับงานแล้วนะนี่ สวรรค์ยังอุตส่าห์กลั่นแกล้งพาเรื่องของหล่อนโฉบมารบกวนจิตใจจนได้...

"ไม่รู้ลืมวางไว้ไหนน่ะสิ นี่พี่ก็ให้แม่บ้านคนงานหาทั้งบ้านแล้วก็ยังไม่เจอ เหลือแค่ต้องค้นขยะแล้วล่ะ"

"อาจจะทำหล่นไว้ในรถหรือเปล่า เดี๋ยวผมไปหาให้แล้วกันครับ แล้วถ้าเจอผมจะเอาไปให้"

"พรุ่งนี้ก็ได้... คืนนี้พี่เหนื่อย จะนอนแล้วล่ะ" บอกพร้อมลุกขึ้นยืนแล้ววางมือกับข้างแก้มน้องชายเบาๆเป็นเชิงรักใคร่ "ไปนอนแล้วนะ ฝันดีจ้ะ น้องชาย"

"ครับ" ถึงจะรับปากพี่สาวว่ากระนั้น หากพอเอาเข้าจริงๆเมื่อเต็มจันทราเดินจากไปได้ไม่นาน เขาก็คว้าเอาเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงมาจากบนบ้าน คว้าเอากุญแจรถที่ห้อยอยู่บนผนังห้องเก็บรองเท้าที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าตัวบ้าน

แล้วเพียงแค่เปิดประตูรถออกมา แสงไฟในห้องโดยสารก็สว่างขึ้น กระดาษสีขาวสะท้อนแสงสีส้มนวลทำให้มองเห็นได้โดยง่าย มันทำให้เขาทั้งโล่งใจทั้งนึกขันในความกระตือรือร้นของตัวเองไปในเวลาเดียวกัน

คุณชายเติมเดินกลับเข้ามาในห้องนอนพร้อมปิดประตูไล่หลังช้าๆอย่างเบามือราวกลัวว่าจะกระทบกระเทือนต่อเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนด้วยลายมือตัวหนังสือหัวกลมเป็นระเบียบ... ประหนึ่งว่าการปิดประตูแรงๆจะทำให้ตัวเลขหายไปสักตัวสองตัวกระนั้น...

ชายหนุ่มพาดเสื้อคลุมไว้บริเวณปลายเตียงนอนขณะที่มือข้างหนึ่งยังถือเศษกระดาษเอาไว้ตลอดเวลา กว่าจะรู้ตัวมืออีกข้างก็หยิบโทรศัพท์แบบหน้าจอทัชสกรีนขึ้นมาถือไว้คอยท่าเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่เพียงนิ้วหัวแม่มือที่จะจิ้มลงไปบันทึกเบอร์เท่านั้น... มารร้ายในตัวก็จะเอาชนะสำนึกผิดชอบชั่วดีที่วิ่งวนชนกันไปมาในสมองจนยุ่งเหยิงไปหมด

"แค่เบอร์น่ะ... ไม่ได้ทำอะไรล้ำเส้นซะหน่อย" บอกเหมือนเป็นการปลอบใจตัวเองไปในเวลาเดียวกัน "เบอร์นิสิตคนอื่นเราก็มี แล้วแค่นิสิตอีกคนมันต่างกันตรงไหน"

ต่างสิ... ก็ตรงที่นิสิตคนอื่นนั้นเขาบันทึกไว้เพราะมีธุระ แต่อีกคนที่เพิ่งกดเบอร์ 'บันทึก' ลงในโทรศัพท์ไป... มันไม่มีธุระแต่ก็ยังอยากโทรฯหา อยากคุย อยากเจอหน้าไม่เคยพอเสียทีนี่แหละ!

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

"สำหรับส่วนของผมในช่วงก่อนมิดเทอมก็มีแค่นี้ อาทิตย์หน้าจะเป็นส่วนของเรื่องไก่ซึ่งจะเป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่งมาสอน" คำชี้แจงสั้นๆภายหลังสไลด์สุดท้ายเกี่ยวกับสัตว์เศรษฐกิจในประเทศไทยโดยรวมจบลงเรียกเสียงพูดคุยดังโขมงโฉงเฉงให้เกิดขึ้นภายในห้องบรรยายขนาด 300 ที่นั่งทันที

โดยไม่ได้ตั้งใจ หางตาของอาจารย์เติมเหลือบมองลงไปมองเห็นนิสิตตาเขียวอมเทาที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุด... แล้วเห็นรอยยิ้มคล้ายจะโล่งใจของเจ้าหล่อนแล้วมันทำให้อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ให้ตาย... นี่เขาน้อยใจลูกศิษย์ตัวเองที่แทบจะไม่รู้จักอะไรเป็นการส่วนตัวเลยหรือนี่

"อ้อ ก่อนไป ผมขอรายชื่อคนที่จะไปดูงานฟาร์มเลี้ยงไก่ของซีพีด้วยนะครับ จะได้ส่งรายชื่อให้อาจารย์ประวัติ และเตรียมเรื่องเข้าชมโรงงานให้พร้อม เพื่อที่ใครที่สนใจจะทำรายงานเรื่องไก่จะได้เริ่มทำเสียตั้งแต่เนิ่นๆ"

"อาจารย์คะ..." จู่ๆสาวน้อยตาสีสวยของเขาก็ยกมือขึ้นในช่วงที่ทุกคนกำลังสับสนอลม่านว่าจะทำรายงานเรื่องอะไรดี ชายหนุ่มจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้พูด "แล้วถ้าอย่างนี้คนที่จะทำเรื่องโคนมซึ่งอยู่เรื่องท้ายๆ... ก็มีเวลาทำรายงานไม่นานน่ะสิคะ"

"ครับ ตามตารางแล้ว... ใช่ ฟาร์มโคนมผมพาไปดูเป็นที่สุดท้ายซึ่งก็ก่อนจะสอบไฟนอลประมาณสองสัปดาห์"

"สองสัปดาห์ต้องทั้งอ่านหนังสือทั้งทำรายงานเลยนะคะอาจารย์" หล่อนโอดครวญ

"แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ" คนถูกถามหน้าหดเหลือสองนิ้ว แม้เขาจะใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆกระนั้นรูปประโยคที่ใช้ถามมันก็ตีรวนชวนให้มีการปะทะคารมชัดๆ "อยากให้อาจารย์เลื่อนเวลาดูงานขึ้นมาอีกสักนิดก็ยังดีน่ะค่ะ"

"หาเวลามาให้ได้สิครับ นัดกับเพื่อนที่จะทำรายงานมา แล้วพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผม"

"ตกลงเลื่อนได้ใช่ไหมคะ"

"ผมขอเป็นวันหยุดนะ แล้วก็ขอรายชื่อก่อนวันเดินทางจริงสักหนึ่งสัปดาห์ ถ้าได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ก็ไปบอกผมที่ห้องพักอาจารย์แล้วกัน"

"ขอบคุณค่ะอาจารย์" ศวัลญายิ้มจนตาหยี กระตุกหัวใจคนมองให้เต้นไม่เป็นจังหวะ หากไม่นานนักเขาก็สามารถปรับสีหน้ามาเป็นเรียบเฉยได้อย่างรวดเร็ว
คุณชายเติมหยิบกระดาษเปล่าขึ้นมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ เรียกให้นิสิตที่ต้องการไปดูงานฟาร์มเลี้ยงไก่มาลงชื่อ มีนิสิตหญิงชายแวะเวียนมาขอคำปรึกษาและซักถามในเรื่องที่ไม่เข้าใจ ซึ่งชายหนุ่มก็ให้คำตอบไปตามปกติ... จะว่าไปเขาเองนี่แหละที่พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ จะผิดก็ตรงนี้ไม่ว่าจะว่างกี่ครั้ง สายตามันก็ได้เผลอซนมองไปหาคนที่นั่งหน้าสุดเสมอไป

เอาน่ะ... ขอมองหน่อยเถอะ ถือว่าเป็นความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีกตั้งเกือบเดือน...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ศวัลญารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ในที่สุดส่วนการสอนในความรับผิดชอบของอาจารย์คุณชายเติมก็จบลง... ไม่มีอีกแล้วสายตาที่เอาแต่จ้องมองราวจะจับผิดของเขา ไม่มีแล้วคำพูดเรียบๆแกมประชดประชันที่เมื่อถูกจิกกัดสักทีก็แสบสันต์ถึงขั้วหัวใจ คำพูดนิ่งๆเฉกเช่นผู้ดีมีการศึกษาใช้แต่เมื่อโดนกับตัวทีไรแทบจะร้องไห้หนีกลับสเปนแทบไม่ทัน...

แต่ถ้าเพียงแค่ว่าหล่อนกลับสเปนได้ก็ดีน่ะสิ...

"เฮ้อออ โล่งใจ" ถอนหายใจพร้อมยิ้มแป้น ทำเอามารตีทั้งฉิวทั้งขัน เลยอดจะแขวะเพื่อนไม่ได้ "จะโล่งใจอะไรมากมายยะ แกนี่ประหลาด สาวๆคนอื่นเขาเอาแต่เพ้อถึงอาจารย์เติม พอหมดส่วนของวิชาอาจารย์เติมก็ทำเอาเสียดายไปตามๆกัน หลังมิดเทอมโน่นแน่ะกว่าจะได้เจออาจารย์อีกที"

"แกไม่เห็นสายตาที่เขาใช้เชือดเฉือนฉันเหรอ"

"ไม่นี่"

"ตอนที่เขาบอกว่าให้ไปหารายชื่อเพื่อนที่จะไปดูงานฟาร์มโคนมมาให้เขาน่ะ ฉันรู้สึกเหมือนมีประกายไฟเปรี๊ยะๆจากตาเขาส่งมาให้ฉันด้วย... ค่าที่ฉันไปป่วนตารางชีวิตและตารางแผนการสอนของเขา"

"ก็จริงป่าวล่ะ" สาวร่างอวบเถียงทวงความยุติธรรมแทนคนเป็นอาจารย์

"อาจารย์เติมเขาวางแผนการสอนมาเป็นปีๆ แต่มาเจอเด็กอย่างแกป่วนเข้า เป็นใครก็ต้องอดมีน้ำโหไม่ได้ทั้งนั้นแหละ"

"ฉันต้องการเวลาอ่านหนังสือเพื่อเอาเอ... สองอาทิตย์ก่อนสอบฉันไม่ไปไหนแล้ว จะอ่านหนังสือ"

"นี่ เอญ่า ฉันถามจริงเถอะ การที่แกเรียนจนเกือบจะบ้าคลั่งแบบนี้แกแน่ใจได้ยังไงว่าพ่อแกเขาจะทำตามสัญญาจริงๆน่ะฮะ..."

คำถามสั้นๆของเพื่อนทำเอาคนฟังสะอึก ก่อนที่ความหดหู่จะค่อยๆคืบคลานเข้ามาแผ่ปกคลุมหัวใจ ไม่มีอะไรเป็นเครื่องรับประกันได้เลย... ศวัลญาคิดในใจเศร้าๆ พลางทิ้งแผ่นหลังลงพิงเก้าอี้ภายในร้านอาหารข้างๆตึกเรียนของคณะเศรษฐศาสตร์ "ไม่รู้สิแก... แต่ถ้าไม่ลองดูก็เหมือนกับว่าชีวิตมันก็เท่ากับศูนย์ ฉะนั้น ลองหน่อยก็ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้วนี่นา ดีกว่าอยู่เฉยๆ"

"ฉันไม่ได้บั่นทอนกำลังใจแกนะเว้ย ฉันน่ะ เอาใจช่วยแกอยู่แล้ว... แต่อยากให้แกเผื่อใจเอาไว้ เข้าใจฉันนะ เพราะถ้าเขาอยากให้แกไปหาจริง ก็คงไม่รอมาห้าหกปีแบบนี้หรอก ใช่ไหม"

"ฉันก็ได้แต่หวังน่ะแก... ว่าพ่อเขาจะยังคิดว่ามีฉันเป็นลูกอยู่"

"ฮ้ายยย ฉันนี่มันปากเสีย" มารตีตบปากตัวเองเบาๆ "อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องให้เพื่อนคิดมาก ไม่เอาๆ เลิกคิดๆ กินข้าวกัน จะได้ไปเรียนต่อ"

ขณะที่สองสาวกำลังจะก้มลงสำรวจเมนูอาหารนั่นเอง จู่ๆก็มีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นบริเวณโต๊ะกระจกที่คั่นกลางระหว่างเพื่อนเอาไว้ ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างพร้อมเพรียงกันก่อนที่เมื่อทราบว่าเป็นใคร ทั้งศวัลญาและมารตีต่างก็ร้องเสียงหลงด้วยความดีใจ

"เจ้!!!"

"เอ๊ยยย แกจะเสียงดังทำไม" คนที่ถูกขนานนามว่า 'เจ้' ทั้งๆที่มีชื่อจริงแสนจะมาดแมนว่า 'ปฐมพงศ์ ชาติเชิงชาย'... แทบจะกรี๊ดออกมาเบาๆ พลางรีบทรุดตัวลงนั่งข้างๆมารตีแล้วยกมือขึ้นโบกระดับใบหน้าเพื่อไล่อากาศร้อน "ก็จะไม่ให้เสียงดังได้ยังไงคะ ตั้งแต่เรียนจบก็ไม่เจอเจ้เลยนี่นา"

"ก็ต้องไปทำงานทำการบ้างสิยะ บ้านไม่ได้รวยเหมือนแกนี่ยัยคุณหนูมี่"

"มี่ไม่รวยซะหน่อย"

"แค่บ้านส่งออกอาหารทะเล... เริ่ดเนาะเอญ่า" ศวัลญาอดขำไม่ได้จริงๆเมื่อปฐมพงศ์พยักพเยิดหน้ามาหาราวกับต้องการให้หล่อนเป็นแนวร่วม สาวลูกครึ่งไทย-สเปนิชหันมองเพื่อนที่ค้อนตาแทบกลับสลับกับมองพี่รหัสแล้วจึงเสเปลี่ยนเรื่องเสีย "แล้วเจ้มาทำอะไรอ่ะคะ"

"เรียนต่อจ้ะ... พอดีได้ทุนวิจัยจากที่ทำงาน เขาเลยส่งมาเรียนต่อปริญญาโท แต่ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเลย เหงาแย่สินะฉัน... แต่ก็ยังดีที่เจอพวกแกอยู่"

"หวายๆ ถามเขาหรือยังว่าเขาดีใจหรือเปล่าที่เจอเจ้อ่ะ"

"เอ๊ะ ชะนีมี่นี่... เดี๋ยวแม่จับยัดใส่เรือออกไปหาปลาช่วยที่บ้านเลยดีมั้ย"

"เจ้โหดอ่ะ..." มารตีย่นคอ "ไม่สวยแล้วยังโหดอีก"

"โอ้ยยยย นังสวย นังผอมเพรียว"

"พอค่ะพอ" สาวตาเขียวอมเทายกมือขึ้นห้าม "ทานข้าวกันดีกว่านะคะ เจ้มาเหนื่อยๆกินอะไรมาหรือยัง"

"ยังเลย เอางี้ เดี๋ยวเจ้เลี้ยงเอง"

"ไม่เอา" สาวร่างอวบสวนกลับทันควัน "เย็นนี้ไปทำสุกี้กินที่ห้องเอญ่าดีกว่า เจ้เลี้ยงนะ เดี๋ยวมี่จะใช้แรงงานเอง"

"เอางั้นก็ได้ งั้นมื้อเที่ยงก็ตัวใครตัวมันแล้วกันนะ" ระหว่างที่นั่งอ่านเมนูอาหารไปท่ามกลางเสียงเพลงเบาๆจากลำโพงบริเวณเคาเตอร์ของพนักงาน อยู่ๆศวัลญาก็ร้อง อ้อ ขึ้นมาคล้ายเพิ่งนึกอะไรได้บางอย่าง "เจ้เคยเรียนกับอาจารย์เติมมั้ยคะ"

"เคยสิ พี่เป็นรุ่นแรกที่เรียนกับอาจารย์คุณชาย... ตอนนั้นแกเพิ่งจบมาจากเมืองนอกใหม่ๆ อย่างหล่อ แต่ตัดเกรดอย่างโหด อีแป๊วที่ว่าเทพๆ ยังได้แค่ บีบวก"

"ฮ้า พี่แป๊วที่ได้เกียรตินิยมเหรียญทองอ่ะนะ"

ปฐมพงศ์พยักหน้ารับแล้วเอ่ยต่อ "ตัดเอ เก้าสิบหรือไงไม่รู้"

"บ้าไปแล้ว..." มารตีหลุดเสียงครางออกมาเบาๆอย่างเหลือเชื่อ "แล้วเอฟล่ะเจ้ อาจารย์ตัดเท่าไร"

"ก็ตัดตามเกณฑ์ ห้าสิบ"

"ตายแน่เลยฉัน"

"มีคะแนนรายงานกับคะแนนเข้าห้องเรียนนี่นา ไม่เอฟหรอก แต่ถ้ากะฟันเอ... ฉันว่า เอาดาบที่จะฟันเอมาฟันตัวตายเถอะ ยากจริงๆคนจะได้เออาจารย์คุณชายเนี่ย ไม่รู้จะหวงไว้ทำไม" ในขณะที่มารตีกำลังกังวลว่าจะผ่านวิชานี้หรือไม่ หญิงสาวอีกคนกลับมีสีหน้ายุ่งยากและลำบากใจไม่แพ้กัน... แต่กลับเป็นความกังวลที่ว่าหล่อนจะสามารถพิชิตเอในรายวิชาที่ลือลั่นกันว่าตัดเกรดโหดแสนโหดได้หรือ...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เขากำลังอ่านวิทยานิพนธ์นิสิตปริญญาโทในที่ปรึกษาของเขาตอนที่เด็กชายตินตินวิ่งปร๋อเข้ามาในห้องทำงานแล้วคว้าหมับเข้าที่โทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านซ้ายมือ ทำเอาชายหนุ่มแทบตะปบมือเล็กๆนั้นไว้ไม่ทัน ก่อนจะหันมองเจ้าตัวเล็กที่ตัดผมหน้าม้าโค้ง พลางค่อยๆถอดแว่นออกช้าๆ

"ทำอะไรครับตินติน"

"ตินจะยืมโทรศัพท์ครับ"

"ยืมหรือครับ... จู่ๆมาตะปบเอาไปตามใจชอบแบบนี้เขาไม่เรียกว่ายืมนะครับ"

"ขอโทษครับ" ผู้เป็นหลานค่อยๆปล่อยมือออกจากโทรศัพท์ช้าๆ "แต่ตินเห็นน้าเติมอ่านหนังสืออยู่ ตินเลยไม่อยากกวน"

"น้าได้ยินตั้งแต่วิ่งตึงตังขึ้นมาจากบันไดแล้วล่ะครับ... ถ้าท่านตาอยู่มีหวังโดนไม้เรียวฟาดขาลายแน่"

"ท่านตาไม่อยู่ครับ" ตอบพลางยิ้มแฉ่ง ท่าทางภูมิใจ ทำเอาคนเป็นน้าทั้งขันทั้งฉิว จึงได้แต่ส่ายหน้าเบาๆด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ "แล้วจะเอาโทรศัพท์น้าเติมไปทำไมครับ"

"เอาไปโทรศัพท์หาพี่สาวใจดีครับ"

"ใช้โทรศัพท์บ้านสิครับ" คุณชายเติมสวนทันควัน แต่ตินตินก็ยังมุ่ยหน้า พร้อมเดินเตาะๆคอตกไปนั่งบนโซฟาตัวยาวข้างๆชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้มะฮอกกานีสีสวย

"ยายนวลใช้อยู่ครับ นั่งรอตั้งนานแล้วคุยไม่เลิกซะที"

ยายนวลคือแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของวังจุลจุฑาที่เลี้ยงตั้งแต่หม่อมราชวงศ์เต็มจันทรา เรื่อยมาจนถึงเขา และหลานชายของเขาเองก็โตมาได้ด้วยการช่วยเหลือเลี้ยงดูจากยายนวลเอง แต่ความที่ปีนี้ก็อายุเจ็ดสิบแล้ว หูแกก็ไม่ใคร่จะดีนัก เมื่อพูดคุยโทรศัพท์กับลูกหลานจึงต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นๆ

"แล้วจะโทรศัพท์ไปหาพี่เขาทำไมครับ วันนี้วันหยุด กวนพี่เขาแย่"

"คุณแม่ทำขนมเค้กไว้ครับ แล้วบอกว่าให้เอาไปให้พี่สาวใจดีด้วย"

"แล้วจะไปยังไง" ทำไมพี่สาวเขาชอบสั่งอะไรประหลาดๆ "แม่ก็ไม่อยู่นี่นา"

"ให้ลุงย้อยขับรถให้ครับ... คุณแม่บอกว่าให้โทรศัพท์ไปถามพี่สาวก่อนว่าพี่สาวอยู่ที่ห้องไหม ถ้าอยู่ก็จะได้เอาไปให้เลย"

"ท่าทางแม่ตินจะชอบพี่สาวใจดีคนนี้มากนะ" ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกต

"ครับ... แม่บอกว่าถ้าไม่มีพี่สาวใจดี ป่านนี้ตินคงโดนรถคันอื่นชนซ้ำตายไปแล้ว" ความจริงที่คล้ายเป็นการตอกย้ำจากคำพูดซื่อๆของหลานชายทำเอาหัวใจคนฟังกระตุกอย่างแรง จริงดังที่ว่า... ถ้าศวัลญาไม่ช่วยเหลือหลานชายเอาไว้ป่านนี้ตินตินจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

เขายกมือทาบริมฝีปากเล็กๆของหลานชายทันที "อย่าพูดเรื่องตายครับติน ตินยังเด็กนะ..."

"ครับ..."

"ไปครับ น้าเติมพาไปหาพี่สาวใจดีเอง"

"จริงนะครับ"

"จริงสิ"

"ขอโทรศัพท์หาพี่สาวก่อนได้ไหมครับ อยากรู้ว่าพี่สาวอยู่ที่ไหน" โดยไม่ต้องคิด ชายหนุ่มกดเบอร์โทรออกล่าสุดขึ้นมาทันที

เบอร์โทรออกล่าสุดที่เขากดโทรทุกวัน... แต่ก็ไม่ทันจะได้เชื่อมต่อสัญญาณให้ติดเลยสักวัน เขาก็รีบตัดสายทิ้งในเวลาเพียงชั่วลมหายใจเข้าแค่ครั้งเดียว...

สัญญาณโทรศัพท์ดังอยู่ไม่กี่ครั้งหญิงสาวก็ตอบรับกลับมา "สวัสดีค่ะ" ชายหนุ่มกดเปิดลำโพงพร้อมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงานที่อยู่ในระดับความสูงปลายคางของตินตินพอดี ทำให้เจ้าตัวเล็กรีบเขย่งปลายเท้าเกาะขอบโต๊ะแล้วส่งเสียงทักทายอย่างชอบใจ

"พี่สาว!!!"

"ตินตินเหรอจ๊ะ"

"คร้าบบบ ตินเอง" ตอบแล้วก็ยิ้มกว้าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มพึงพอใจกับดวงตาเป็นประกายแห่งความสุขให้คนเป็นน้า "พี่สาวอยู่บ้านป่าวครับ"

"อยู่จ้ะ พี่อยู่ห้อง อยู่คอนโดเนี่ยแหละ ตินตินมีอะไรหรือเปล่า..."

"คุณแม่ทำเค้กไว้หลายอันเลยครับ แล้วคุณแม่ก็บอกให้ตินตินเอาเค้กไปให้พี่สาว พี่สาวรอแป๊บนึงนะครับ ตินกับน้าเติมกำลังจะไปหา"

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อตอบกลับมาน้ำเสียงที่ใช้จึงค่อนข้างตะกุกตะกักด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด "ดะ...ได้จ้ะ มาถึงแล้วโทรศัพท์มาน้า แล้วพี่จะลงไปหา"

"ครับผม แค่นี้นะครับ สวัสดีคร้าบบบ" เมื่อสิ้นสุดการสนทนาแล้วตินตินจึงเงยหน้าขึ้นมาหาน้า "ไปกันครับน้าเติม"

"น้าขอเปลี่ยนชุดแป๊บเดียว เดี๋ยวลงไปเจอกันที่รถนะ... บอกลุงย้อยเอารถออกมารอหน้าบ้านได้เลย"

"รถคันไหนอะครับ"

"สีขาวครับ" คันที่ใช้ทำงาน... คันที่ภูมิฐานเหมาะสำหรับคุณชายเติม

"สีขาวนะครับ... ตินไปรอข้างล่างนะ" ครั้นเห็นว่าน้าพยักหน้าอนุญาตแล้วเด็กชายก็ออกวิ่งตึงๆไปชั้นล่างของบ้านทันที

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ศวัลญาตกใจตั้งแต่ได้ยินที่ตินตินบอกว่าจะมาเจอหล่อนพร้อมๆกับคนเป็นน้า... มันจะไม่น่าประหลาดใจอะไรเลยถ้าคนที่เด็กชายมาด้วยเป็นหม่อมราชวงศ์เต็มจันทราที่มอบความเอ็นดูให้หล่อนอย่างมากมายเหลือเกิน มีในบางครั้งที่หล่อนอ่านหนังสือดึกๆแล้วคุณหญิงเต็มจะโทรศัพท์เข้ามาทักทายเพราะยังทำงานอยู่เหมือนกัน แล้วเมื่อทราบว่าหล่อนยังไม่นอนก็จะสั่งให้ร้านอาหารนำอาหารมื้อดึกมาส่ง หล่อนเคยปฏิเสธด้วยความเกรงใจไปก็หลายครั้งแต่เมื่อได้ยินอีกฝ่ายบอกว่า

'เอญ่ารักษาชีวิตลูกชายพี่ไว้ แค่นี้ยังถือว่าน้อยมากเลยนะที่พี่จะตอบแทนเอญ่าได้'

หลังจากนั้นมาหล่อนก็ไม่คิดจะขัดอีก...

แล้วยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นเขาสวมเสื้อโปโลพอดีตัว ช่วงไหล่ดูจะคับไปเล็กน้อยเพราะรูปร่างที่ใหญ่โตของเขา เปรียบเทียบกับภาพที่เห็นเขาใส่เสื้อเชิ้ตสีอ่อนๆจนชินตา... ตอนนั้นหล่อนคิดว่าเขาจะดูบอบบางเหมือนชายที่มีจิตใจรักชายทั่วๆไปเสียอีก

"สวัสดีค่ะ" ศวัลญารีบยกมือไหว้เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาบริเวณทางเข้าคอนโดมิเนียม ก่อนจะย่อตัวลงกางแขนรอรับตินตินที่โถมกายเข้ามากอดเสียเต็มรัก พลัดกันหอมแก้มกันคนละทีสองที หญิงสาวที่สวมเสื้อกล้ามผู้ไหล่กับกระโปรงสีชมพูอ่อนๆดูสบายตาก็ลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มให้เติมซึ่งยังตีหน้าขรึมได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย "ไปนั่งในร้านพี่ปูนดีมั้ยคะ"

"เอาสิ"

"ให้หนูช่วยถือถุงเค้กมั้ยคะอาจารย์"

"ถือตินตินไปเถอะ" ว่าจะไม่ยิ้ม... แต่หล่อนก็อดไม่ไหวจริงๆกับสรรพนามที่เขาใช้ พร้อมทั้งสายตาที่มองมายังมือซึ่งหล่อนกุมมือเล็กๆไว้อย่างแนบแน่น
อาจารย์เติมปล่อยให้สาวน้อยสีตาสวยเดินจูงมือไปกับหลานชายแล้วเดินตามหลังไปเงียบๆ หูก็คอยเงี่ยฟังบทสนทนาของคนทั้งสอง "วันนี้ตินเอาการบ้านมาด้วยครับ"

อ๋า... ไอ้เขาก็นึกสงสัยอยู่ตั้งนานว่าเจ้าตินตินจะแบกกระเป๋าเบนเท็นมาด้วยทำไม... ที่ไหนได้ก็เพื่อการนี้นี่เอง ร้ายจริงๆหลายเขา

"พี่สาวสอนเลขตินได้ไหมครับ ตินไม่ชอบเลข"

"ได้สิครับ"

"วาดรูปด้วยได้ไหมครับ"

"ของชอบเลย วาดรูปอ่ะ" ยิ้มหวานส่งให้หลานชายแต่กลับมีผลกระทบมาถึงคนเป็นอาที่นึกอิจฉาหลานที่ได้จูงมือกับหล่อน สบตา... และส่งยิ้มให้อย่างเปิดเผย

เขาเพิ่งสังเกตว่าผมของศวัลญาซึ่งวันนี้ปล่อยยาวตามธรรมชาติ... มันออกจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ เมื่อสะท้อนประกายแสงแดดยิ่งดูจับตาจับใจ หากหล่อนเป็นภาพวาดสักภาพ... เขาเชื่อว่าต้องเป็นภาพที่มีมูลค่ามหาศาลอย่างแน่นอน แล้วต้องให้ต้องสูญทรัพย์มากแค่ไหน เขาก็ยอมตายเพื่อให้ได้หล่อนมาครอบครอง...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพ จันทร์ พุธ แล้วกันเนาะ
หรือจันทร์ ศุกร์ดีเอ่ย?



อนัญชนินทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 มิ.ย. 2555, 22:28:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 มิ.ย. 2555, 22:28:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 4452





<< บทที่ ๒    
ukkanirut 11 มิ.ย. 2555, 22:54:18 น.
รักเด็ก เลยได้แต่อิจฉาเด็กไปวันๆ 5555
จันทร์+พุธก็ดีค่ะ จันทร์+ศุกร์ก็ได้ ^^


grazioso 11 มิ.ย. 2555, 22:56:09 น.
คุณชายเติมน่ารักจังค่ะ ๕๕๕ แบบว่า แสดงออกไม่ได้ ส่วนสาวเจ้าก็ตีความสายตาอาจารย์ผิดไปไกลเลย ๕๕๕

ปล.ตินตินน่าร๊ากกกกกก :)


sai 11 มิ.ย. 2555, 23:26:21 น.
เลือกไม่ได้เอา จ พ ศ เลยได้ป่ะ อิอิ


goldensun 11 มิ.ย. 2555, 23:34:25 น.
เสื้อกล้ามผู้ไหล่ ยังไงคะ
ส่งตาหวานไม่ได้ ทำตาดุใส่แทน เอญ่าเลยเกร็งไปเลย
พาคุณหลานมาหาบ่อยๆ ไม่มีห่างกันแน่


อนัญชนินทร์ 11 มิ.ย. 2555, 23:46:45 น.
@พี่ยุ้ย สองวันหนูก็จะตายแล้ววววว ><
@goldensun ขอบคุณค่ะ แก้ในต้นฉบับแล้วนะคะ ^^


ไรน้ำ 12 มิ.ย. 2555, 00:02:02 น.
งานนี้คุณชายหลงเด็กเต็มๆ แต่น้องตินตินน่ารักน่าหยิกเหลือเกินค่ะ

ปล. เห็นด้วยกับคุณ sai เป็นอย่างยิ่งค่ะ


คิมหันตุ์ 12 มิ.ย. 2555, 00:23:28 น.
จันทร์ พุธ ศุกร์ กำลังดีเลยค่ะ ห้าห้า


invisible 12 มิ.ย. 2555, 01:42:05 น.
คุณชายเติม หวั่นไหวมากนะนี่ อิอิ


PiNVE 12 มิ.ย. 2555, 09:11:11 น.
เลือกไม่ได้ขอ จันทร์ พุธ ศุกร์ ค่ะ


หมีสีชมพู 12 มิ.ย. 2555, 09:30:36 น.
เติมเป็นน้าไม่ใช่เหรอคะ ช่วงท้ายๆ หลุดว่าเป็นอามาครั้งนึงค่ะ

ขอจันทร์ พฤหัส ได้มั้ยคะ กลางๆ ดี ถ้าให้ดีก็ จันทร์ พุธ ศุกร์


บัวขาว 12 มิ.ย. 2555, 09:33:17 น.
เห็นด้วยค่ะ ... จันทร์ พุธ ศุกร์ ... 555
=^_^=


sam 12 มิ.ย. 2555, 09:44:15 น.
ขอทุกวันได้ไหมค่ะ รอด้วยใจคิดถึงน้องตินตินทุกวันค่ะ


maplezaa 12 มิ.ย. 2555, 11:22:05 น.
อาจารย์เติมมมม อย่าไปมองเอญ่ามากแค่นี้ก็หง๋อแล้ว อิอิ

ไม่ต่อรองอะไรมากนะคะ่ จัน พุธ ศุกร์ แล้วกัน


Solnushka 12 มิ.ย. 2555, 13:52:58 น.
จันทร์ พุธ ศุกร์ ด้วยคนค่าา อิอิ
หนุกม๊ากกกกกกก อาจารย์เติมน่ารักจริงๆเลย


หมูอ้วน 12 มิ.ย. 2555, 14:17:04 น.
จันทร์ พุธ ศุกร์จ้าา


mhengjhy 12 มิ.ย. 2555, 14:19:56 น.
เชียร์ จันทร์ พุธ ศุกร์ ด้วยคน
รอคอยอาจารย์เติมตบะแตก....อร๊ายยยยย


anOO 12 มิ.ย. 2555, 14:39:56 น.
อัพ วันไหนก็ได้เอาไรเตอร์สะดวก
ไม่รู้คุณชายจะเก็บอาการไม่อยู่ตอนไหน รอลุ้นๆๆๆ


Zephyr 12 มิ.ย. 2555, 18:27:20 น.
เชียร์จันทร์ พูธ ศุกร์ อีกคนค่ะ อิอิ โลภเนอะ แต่จะลาภหายป่าวน้า คนแต่งคงไม่ใจร้าย ใช่มะ
คุณชายจะตบะแตกเมื่อไรน้อออออ ลุ้นๆๆๆๆ
หนูตินติน น่าร้ากกกกกกก


lookpud 12 มิ.ย. 2555, 20:59:12 น.
จันทร์ พุธ ศุกร์ ก็ดีนะคะ


ใบบัวน่ารัก 12 มิ.ย. 2555, 21:37:05 น.
ขออ่านทุกวันนะคะ
คุณชายเติม มาดอาจารย์จะหลุดแล้วนะคะ


icewinter 12 มิ.ย. 2555, 23:05:24 น.
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะสนุกมากค่ะจะคอยติดตามนะคะ


wane 13 มิ.ย. 2555, 02:25:02 น.
คุณชายจะเก๊กหลุดเมื่อไหร่เนี่ยยยย

ขอ จันทร์ พุธ ศุกร์ นะค๊าาาาาา


minddeer 13 มิ.ย. 2555, 13:15:59 น.
อัพทุกวันเลยคร๊า....เริ่มจะติดแล้ว...


padeedee 13 มิ.ย. 2555, 14:00:27 น.
อัพจันทร์ถึงศุกร์เลยค่า


nunoi 13 มิ.ย. 2555, 14:53:13 น.
ตินติน น่ารักที่สุด ทำเอาคุณน้าอิจฉาได้ตลอด


มะดัน 13 มิ.ย. 2555, 19:52:29 น.
จ พ ศ โลดดดดดดดดดดดดดดดดดด


ทราย 26 มิ.ย. 2555, 19:51:44 น.


saruko 24 มี.ค. 2556, 21:27:34 น.
คิดถึงจัง...


oolong 13 ม.ค. 2560, 21:01:29 น.
ดีใจจังที่เห็นคุณกลับมาเขียนนิยายอีก ทำขายลงmebบ้างสิคะ. รออุดหนุน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account