พรางรักพรางพิศวาส

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 5+ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับหนังสือ

พรางรักพรางพิศวาส
ตอนที่ 5

หญิงสาวตรงหน้าเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างทระนงและไม่ถอยหนีอีก ดวงตากลมโตหวานที่ดูเศร้ามองคนตรงหน้าอย่างหยันๆตั้งแต่หัวจรดเท้าเท้าจรดหัวแล้วพูดให้ได้เจ็บใจว่า “ หน้าตัวเมีย ” จนคนถูกว่าต้องชะงักฝีเท้าหยุดแล้วนั่งลงที่ขอบเตียงยกขาขึ้นกระดิกไปมาอย่างสบายอารมณ์ สายตาจับจ้องไปที่หญิงสาวแล้วพูดเสียงเรียบ

“ อย่าโง่ทั้งๆที่ฉลาด ”

“ ก็นายบอกเองว่ามอสระเอีย ไม่ได้เรียกว่าหน้าตัวเมียแล้วให้เรียกอะไร” หญิงสาวตอบเสียงห้วนและเปลี่ยนสรรพนามเรียกอย่างเริ่มที่จะโมโหที่นอกจากคนแปลกหน้าที่จับตัวเธอมาเมื่อคืนจะทำหยาบคายแล้ววันนี้ยังมาต่อว่าเธออีก ชัชจึงหรี่ตามองคนที่เก่งตรงหน้าแล้วหยันริมฝีปากขึ้น

“ แน่ใจหรอว่าไม่รู้จริงๆ ”

“ ใช่ ”

“ งั้นหน้าตัวเมียอย่างฉัน ทำอะไรลงไปคงไม่ผิดใช่มั๊ย ”

เร็วเท่าคำพูดชัชกระตุกข้อมือหญิงสาวตรงหน้าเข้ามาจนร่างบางเซล้มลงมายังเตียงนอนโดยที่ร่างหนาของเขาก็ตามทาบทับลงมา หญิงสาวตะลึงลนลาน แล้วดวงตากลมหวานเบิกกว้างเมื่อริมฝีปากของชายแปลกหน้าแนบสนิทลงกับเรียวฝีปากเธอแล้วขบเม้มเบาๆ ไล้ปลายลิ้นไปกับริมฝีปากอิ่มหวาน จนเจ้าของเผลอเผยอออกด้วยความตกใจ ชัชก็รีบซุกไซร้ปลายลิ้นเข้าไปสำรวจความหอมหวานภายใน

อลินรับรู้ได้ถึงความหวามที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆจากชายแปลกหน้า จึงเริ่มดิ้นประท้วงและใช้สองมือบางดันร่างหนาให้ออกไป แต่มือหนาเพียงข้างเดียวของเขาก็จับมือเธอรวบไปไว้เหนือศีรษะ และชัชก็ไม่สนใจเมื่อเขาได้สัมผัสความหวานฉ่ำอารมณ์ก็ยิ่งเตลิด แล้วกดจูบให้ได้ฉ่ำหวานมากยิ่งขึ้น กระหวัดลิ้นไปทั่วโพรงปาก ขบเม้มไล้ริมฝีปากบางอีกครั้ง และต้องหยุดเพียงแค่นั้นเพราะเจ้าของร่างส่งเสียงอู้อี้เหมือนจะขาดอากาศหายใจ ริมฝีปากได้รูปจึงถอนออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือไล้ละมุนความฉ่ำหวานแทนริมฝีปากตบท้ายอีกครั้งอย่างแสนเสียดาย
ชัชจ้องไปในดวงตากลมหวานปนเศร้าที่บัดนี้รื้นน้ำตา ไล้ปลายนิ้วไปตามพวงแก้มอ้อยอิ่ง แล้วกระซิบชิดริมฝีปากอิ่มที่ช้ำเพราะจูบเขา “ครั้งนี้สำหรับที่เธอไม่กรอกยาใส่ท้อง ทั้งๆที่ฉันคาดโทษเอาไว้แล้ว และอีกครั้งฉันจะทำให้เธอเป็นมอสระเอีย…” ชัชแนบเรียวปากเข้าหาความหวานอีกครั้งแต่ไม่ได้ดั่งใจเมื่อเจ้าของเม้มริมฝีปากแน่น มือหนาจึงเลื่อนไปตามสีข้าง เอวบางและสะโพกงามงอนหยุดฟอนเฟ้นให้เธอได้สะท้านและอารมณ์ของเขาได้สะเทือน

อลินหัวสมองเบลอขาวโพลนไปกับอารมณ์หวานหวามที่ไม่เคยเจอ และสะดุ้งสุดชีวิตเมื่อชายแปลกหน้าสอดฝ่ามือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตเคล้นคลึงทรวงงามจนต้องร้องออกมา ชัชจึงใช้จังหวะนั้นสอดแทรกกวาดกระหวัดความหวานภายในริมฝีปากอิ่มได้ดั่งใจนึก และเลื่อนมาขบเม้มซอกคอหอมอ่อนๆแล้วเลื่อนไปแนบกับริมฝีปากอิ่มที่ยั่วใจอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง มือที่เคล้นคลึงทรวงงามก็เลื่อนไปลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนปลายนิ้วปลดตะขอเสื้อที่ปกปิดทรวงออกแล้วเลื่อนมาเคล้นคลึงความนุ่มหยุ่นล้นมือข้างหน้าแทน แล้วริมฝีปากร้อนๆก็ละจากความหวานจูบลงมาตามซอกคอและหยุดนิ่งที่หน้าอกแล้วแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกใช้ปลายนิ้วคลี่ออกจนเห็นทรวงงามที่มีกรวยผ้าปกปิดอยู่อย่างหมิ่นเหม่

“ สวยเหลือเกิน ”

อลินเริ่มรู้สึกตัวเมื่อได้สัมผัสถึงความเย็นที่ปะทะผิวกายจึงอาศัยจังหวะที่เขาเคลิบเคลิ้มสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของฝ่ามือหนาแล้วผลักออกไปสุดแรง แต่ก็ห่างไปไม่ได้เมื่อร่างด้านบนตัวเธอไม่ได้ขยับไปไหนเลยแม้แต่นิดแถมยังจ้องมายังดวงตาเธอจนแทบละลายไปด้วยความหวานหวามจากสายตาเขา

“ อยากให้หยุดหรือเปล่า ” หญิงสาวยังนอนนิ่งไม่ตอบ ดวงตาเริ่มรื้นออกมาด้วยน้ำตาจนเป็นหยาดหยดไหลกลิ้งมาให้เห็นที่หางตา

“ ไม่ตอบ ฉันจะถือว่าเธอไม่อยากให้หยุด ” ปลายนิ้วแกร่งเลื่อนไปปลดกระดุมที่กางเกงของหญิงสาวแล้วก้มหน้าแนบริมฝีปากกับเรียวปากอิ่มระเรื่อที่ยั่วใจตรงหน้าแต่กลับโดนแก้มนวลแทนเพราะเธอเบี่ยงหน้าหลบ รวบเสื้อที่หลุดเข้าที่และกำไว้ระหว่างอกแล้วพูดออกมาเสียงสั่นเครือ

“ ฉันอยากกลับบ้าน ”

“ คงไม่ได้เพราะมีเรื่องที่ฉันยังคาใจ ”

อลินหันหน้ามาเผชิญกับสายตาชายหนุ่มอีกครั้งแล้วงุนงงในคำพูด เพราะเรื่องคาใจของเขาหรือเปล่าเธอจึงต้องมาเป็นแพะที่รับบาปอยู่ตอนนี้ แต่คิดได้แค่นั้นก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือหนาจับมือบางของเธอมาวางไว้ที่หน้าอกด้านซ้ายของเขาโดยที่มือหนาประสานไว้ด้านบนจนเกือบจะหลอมรวมกัน แล้วพูดได้สะท้านใจว่า “ คำตอบอยู่ที่ใจ ” ก่อนจะกุมมือบางล้วงไปในกระเป๋าเสื้อที่หน้าอกด้านซ้ายหยิบบางสิ่งออกมาด้วยกัน

“ พลอยประกายจันทร์ ” หญิงสาวเพ้อออกมาเบาๆแล้วเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม

“ นายได้มันมายังไง ”

“ เธอได้มันมายังไง ”

“ อะไร ” หญิงสาวงุนงงที่อยู่ๆโดนถามกลับในคำถามเดียวกัน แล้วเขาก็ทำให้กระจ่างด้วยการนำของในมือเขาและเธอขึ้นมาจูบอย่างแสนหวานและแทะเล็มไปตามปลายนิ้วเรียวของหญิงสาวจนหวามไหวทีละนิด จนคนที่อารมณ์เตลิดต้องรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ มีคนให้ ”

“ ใคร ” ชัชยังไล้จูบตามไปปลายนิ้วอย่างเชื่องช้า ทำให้คนด้านล่างขัดใจ

“ แม่ให้มาตั้งแต่ฉันยังเด็ก เอาไว้คุ้มกันตัว ฉันรู้แค่นี้ ปล่อยได้รึยังล่ะ ”

ชัชเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วหยุดริมฝีปากก่อนจะฉุดแขนหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง แล้วเอื้อมมือไปติดตะขอติดกระดุมเสื้อเธออย่างหักห้ามใจและถึงแม้แรงเท่ามดจะต่อต้านเพียงใดเขาก็ไม่สน

“ เมื่อหมดประโยชน์ก็ไม่มีอะไรต้องคุย ฉันจะส่งเธอกลับบ้าน ”

“ แล้ว… ”

“ อะไร ” ชัชถามเหมือนจะไม่เข้าใจ ทั้งๆที่รู้ว่าหญิงสาวหมายถึงสิ่งใด

“ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจับฉันมาทำไม ต้องการอะไร แต่ฉันจะขอของของฉันคืนได้มั๊ย ”

“ เธอมีอะไรมาแลกเปลี่ยน ”
หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นอย่างโกรธๆแต่ต้องทำใจเย็นไว้เพราะเดี๋ยวจะเสียเปรียบอีก จึงก้มหน้างอุบอิบพูดเสียงเบาๆแต่ชัดสำหรับเขาเพราะตั้งใจฟัง

“ ก็นายได้ไปแล้ว ”

ชัชส่ายหน้าพลางหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นแก้มที่แดงระเรื่อของเธอเพราะความอาย ก่อนจะอดใจไม่ไหวจนต้องจรดจมูกโด่งลงไปที่แก้มนวล และพอเธอจะยกขึ้นเช็ดเขาก็ห้ามไว้และเป็นการห้ามที่ทำให้ชาวาบไปทั้งใจ

“ อย่าเช็ดนะอลิน ไม่งั้นจะโดนมากกว่านี้ ” อลินแปลกใจอยู่สักครู่แล้วนิ่งเฉยเป็นปกติเพราะคนอย่างเขาคงสืบประวัติเธอไว้หมดแล้วคงไม่แปลกที่จะรู้จักชื่อเธอและเธอก็ได้ยิ้มอย่างแสนหวานเมื่อสิ่งที่ต้องการถูกวางลงในมือ

“ ฉันคืน เธอเก็บไว้เถอะ ”

หญิงสาวแม้จะดีใจแต่ก็แปลกใจในคำพูดชายแปลกหน้าที่รู้ชื่อเธอแต่เธอไม่รู้ชื่อเขา แล้วเก็บความสงสัยไว้ภายใต้ความเงียบ แต่ชัชรู้ทันจึงพูดออกมาให้เธอได้เข้าใจและไม่ได้พูดตอบโต้ธรรมดาเพราะร่างสูงโน้มตัวเเข้าไปกระซิบข้างแก้มนวลอย่างแผ่วเบา


“ เศษพลอยแค่นี้ฉันคงไม่อยากได้ไว้ครอบครอง เพราะสิ่งฉันอยากครอบครองมันคือพรหมจรรย์ของเธอต่างหาก ”

หญิงสาวสะบัดตัวออกห่างและจ้องเขาด้วยความไม่พอใจ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นอย่างกรุ่นโกรธเมื่อเขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ และต้องร้อง “ ว้าย ” ออกมาเมื่อถูกเขาชายแปลกหน้าฉุดให้ลุกขึ้นและลากเดินไปจนแถบคว้ากระเป๋าข้างตัวไว้ไม่ทัน จนออกมาถึงที่ลานเพิงเอาผ้าผูกมือและตาเธอ ยัดใส่รถ และขับออกไปสู่จุดหมายปลายทางที่คิด ระหว่างทางก็รู้แต่เพียงแค่เขาจอดรถที่ไหนสักแห่ง และป้อนนู้นนี่ให้เธอกินแม้จะขัดขืนก็โดนเขาร่ายพิศวาสทั่วไปใบหน้า ริมฝีปากและลำคอ จนต้องยอมกินจนหมด และดื่มน้ำปิดท้าย และรู้สึกหวามอีกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงนิ้วแกร่งไล้เช็ดหยาดน้ำตามริมฝีปากอิ่มให้เบาๆ ก่อนที่รถก็เคลื่อนตัวไปอีกนับชั่วโมง โดยไม่มีเสียงใดๆดังออกมาจากปากหญิงสาว นอกจากจะนั่งพิงเบาะรถนิ่งๆ จนเขาต้องชมเธอภายในใจเงียบๆว่า ‘ เก่ง เด็ดเดี่ยว และสวย ’ โดยที่ไม่รู้เลยว่าในใจอลินว้าวุ่นเพียงใด

****

ดวงตะวันคล้อยต่ำเพราะทำหน้าที่ส่องแสงมาเกินค่อนวันเหมือนจะอ่อนล้า แต่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าดวงตาเศร้าที่จ้องมองไปที่รูปชายคนหนึ่งที่ติดฝาผนังห้องอย่างมากมายก็อ่อนล้าไม่แพ้กัน ก่อนที่น้ำตาจะไหลกลิ้งมาตรงที่หัวตาและหลั่งรินรดแก้มในที่สุด

นิ้วเรียวยาวยกขึ้นเกลี่ยให้จางหายและยกขึ้นกอดอกตามเดิม ก่อนจะหมุนตัวหันดูอีกภาพ ภาพที่มีชายหนุ่มคนเดิมโอบกอดหญิงสาวตั้งครรภ์คนหนึ่งโดยที่สายตาของคนทั้งคู่มองกันและกันอย่างมีความสุขถึงแม้ใต้ภาพจะมีรอยขาดอยู่บ้างก็ตาม แต่มันก็เป็นรูปภาพที่สวยที่สุดสำหรับเธอ

ตั้งแต่สร้างบ้านหลังใหม่และย้ายมาอยู่ เธอสั่งทำห้องนี้ให้อยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง เพื่อนำไปเก็บรูปภาพที่เธอรักไว้ แทนบ้านหลังเก่าที่หากไม่จำเป็นเธอก็คงจะไม่ไปเหยียบ เหมือนใครคนหนึ่งที่เธอไม่อยากเห็นหน้า จนสั่งให้อยู่ในบ้านหลังนั้นต่อไป เพื่อหนีบางสิ่งแต่ดูเหมือนจะหนีไม่พ้นเพราะเป็นเหมือนสนิมกินใจ
เล็บยาวสีแดงสดกดไปตามต้นแขนที่กอดอกอยู่อย่างลืมความรู้สึกเจ็บไปชั่วขณะเมื่อนึกถึง แล้วเอื้อมมือแตะรูปอย่างเบาๆ น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อาจทานทนต่อไปได้จนไหลออกมาอีกครั้ง จนต้องเงยหน้าซ่อนน้ำตา แล้วรีบปิดประตูห้องเก็บภาพ เดินมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งตบแป้งตลับเนื้อดีเน้นบริเวณขอบตา เติมลิปสติกแดงอีกนิด เชิดหน้ามองตัวเองในกระจกอย่างทระนง แล้วเดินออกจากห้องไปยังโต๊ะอาหารชั้นล่างอย่างคนที่เข้มแข็ง

“ นังลินล่ะพี่ ”

ลินดาถามขึ้นเมื่อนั่งลงที่หัวโต๊ะอาหารเสร็จแล้วมองไปไม่เห็นใครบางคนที่ต้องคอยมาดุแลเรื่องอาหารของเธอทุกวัน แม้เธอจะสั่งแล้วว่าไม่ต้องมา ก่อนจะหยันปากแล้วพูดต่อ

“ ยังไม่ตื่นล่ะซิท่า ขี้เกียจจริงๆแม่คนนี้ ฉันจะไปตีมันให้หลังลายเลยคอยดู ” นางลินดาลุกขึ้นอย่างหุนหัน จนจันทร์ที่เป็นทั้งพี่ เพื่อน ลูกน้องคนสนิทต้องเหนี่ยวแขนไว้และพูดให้ได้คิด

“ ดา ฟังพี่ก่อนนะ หนูลินน่ะไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืน พี่เจอตอนที่เค้าจะกลับบ้าน ตัวนี้ร้อนจี๋เลย เค้าอาจจะทานยาแล้วหลับไปก็ได้ เพราะเมื่อกลางวันพี่ไปเรียกที่บ้านเล็กก็ไม่มีใครเปิดประตู ดาอย่าโกรธลูกเลยนะ ”

“ แต่ถ้าไม่มีมัน ลูกค้ารายใหญ่ที่จะมาในวันนี้คงไม่พอใจ ” ลินดาพูดออกมาด้วยสีหน้ากังวล

“ อันนั้นพี่รู้ แต่เธอก็ต้องเลือกระหว่างลูกกับลูกค้า ” จันทร์ตอบไปมองหน้าลินดาไปอย่างชั่งใจ ก่อนจะพูดต่อ

“ และพี่ก็พอจะรู้อีกว่าเธอเลือกใคร ”
แม้ไม่มีคำตอบออกจากปากที่คนที่อยู่ด้วยกันมานานก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร

“ ฝากพี่ไปดูมันด้วยแล้วกัน ฉันไม่อยากให้ใครมาตายในบ้านฉัน อ่อ! แล้วบอกมันด้วยว่าต่อให้มันสำออยป่วยขนาดไหน คืนนี้ยังไงก็ต้องไปทำงานแลกข้าวแดงแกงร้อนของฉัน ”

พูดจบเธอก็จัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สนใจใคร แต่พอเห็นอีกฝั่งเงียบก็ชวนนั่งกินข้าวด้วยกัน แม้นางจันทร์จะไม่เต็มใจและไม่เห็นด้วยในความคิดของลินดา แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะเธอเป็นแค่ลูกจ้าง ทั้งสองจึงนั่งกินข้าวแบบต่างอารมณ์กันจนเวลาเลยล่วงจวบดวงตะวันคล้อยต่ำเกือบอัสดง

*****
แสงสุดท้ายของวันที่ใครบางคนไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะโดนปิดตาไว้เกือบทั้งวันแล้วและชักจะปวดเมื่อยตัวไปหมดเพราะพิษไข้และพันธนาการที่ข้อมือแต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่น มันก็คงจะสิ้นสุดลง เมื่อชายแปลกหน้าที่ทำหยาบคายกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแกะผ้าผูกมือออกให้ เมื่อรถหยุดจอดที่ไหนสักแห่ง และก่อนที่เขาจะแกะผ้าที่ผูกตาออกแต่ก็ยังช้ากว่าเธอที่แกะมันออกก่อนอย่างร้อนรน แล้วก็ต้องได้ปวดหัวเมื่อแสงกระทบเข้าโสตประสาทตาที่มืดมานาน
อลินหลับตาลงอีกครู่เพื่อที่ต้องการจะปรับ และก็เป็นภาพที่ชวนมองยิ่งนักของใครบางคนอีกด้วย จนอยากจะรังแกเธออีกครั้งแต่ก็ต้ออดใจไว้เพราะมีงานใหญ่ต้องทำ ก่อนที่เธอจะลืมตาช้าๆมองไปรอบๆว่าเขาพาเธอมาที่ไหนอีก

“ ร้าน ” อลินพูดออกมาเบาๆกับตัวเอง

“ ความจำยังดีนิ ถ้าอย่างนั้นบอกมาซิว่าบ้านเธออยู่ไหน ฉันได้ไปส่ง ”

“ ที่นี่แหละ ”

หญิงสาวทำท่าจะเปิดประตูออกไปแต่โดนกระชากกลับอย่างแรงจนเซไปใกล้ชิดชายหนุ่มแทบได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน

“ จะให้จับปล้ำในรถหรือไงถึงได้โกหก ”

“ อย่ารุ่มร่าม ”

“ อย่าเรียกร้อง เพราะต่อนี้ไปเธอคือคนของฉัน ”
หยิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นว่าเธอไปเป็นคนของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรีบปัดความคิดนั้นออกไปเพราะคงไม่มีประโยชน์เพราะมันเป็นแค่ลมปากผู้ชายที่ต้องการแค่หยอกเล่นเหมือนที่เคยเจอมาจนชิน

“ ซอยข้างหน้า เลี้ยวซ้าย บ้านหลังสุดท้าย ” เธอตัดสินใจบอกออกไปเพราะเรื่องจะได้จบๆ ก่อนจะตาโตเมื่อถูกหอมฟอดใหญ่ และพูดให้ได้อายอีกว่า “ รางวัลสำหรับเด็กดี ” ก่อนที่จะขับรถออกไปจนถึงที่หมาย ปล่อยให้เธอได้ลงจากรถโดยดี แม้ในใจจะค้าน จนเธอเดินเข้าไปในรั้วบ้านที่โอ่อ่า และตัดสินใจขับรถออกมาเพื่อดับความงุ่นง่านที่ต้องจากกัน และคงทำได้เพียงแค่กระซิบกับตัวเองว่า “ ฉันจะมาทวงคำพูดของฉัน อลิน ” แล้วชัชก็ขับรถไปยิ้มไป เพราะเรื่องของเขาและเธอมันคงไม่ได้จบเพียงแค่นี้แน่นอน



ลิปสติกสีหวานถูกบรรจงแต้มลงบนกลีบปากอิ่มนุ่มอย่างละเอียดละไมเป็นขั้นสุดท้าย แม้แต่แววตาที่ดูบึ้งตึงง้ำงอจะฉายฉัดแต่ไม่กลบความสวยงามไว้ได้ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มออกตัวเองในกระจกอย่างหยันๆ ช่างผมที่คอยเก็บรายละเอียดหรือแม้แต่ช่างแต่งหน้าต่างเอ่ยชมความงามไม่ขาดปากอย่างเอาใจสุดฤทธิ์ จนเธอต้องลุกขึ้นยืน เผยให้เห็นร่างบางในชุดกระโปรงสีขาวฟองฟูยาวเลยเข่ามีเข็มขัดเพชรคาดไว้เน้นเอวบางเหมือนนางฟ้าน้อยๆ ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มให้บางๆเมื่อได้รับคำชม

" ได้เวลาแล้วค่ะคุณหนู "

เพียงชีวาสูดลมหายใจลึกๆอย่างเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง มือบางจับมือนุ่มหยุ่นมากำไว้ที่อกเพื่อขอกำลังใจ

" มันคงไม่มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้นนะนม "

สายตาหลายคู่รอบข้างหันมองมาที่หญิงสาวตามวิสัยคนขี้เม้าท์ ด้วยอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น จนนางเอื้องต้องเชิญให้ทุกคนออกไปทานอาหารเย็นที่เตรียมไว้ให้ช่างแต่งหน้าทำผมโดยเฉพาะและยื่นซองเงินให้ จนทุกคนออกไปจนหมด จึงรีบปิดล็อกประตูและเดินมากุมมือคุณหนูของเธอไว้ที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ ไม่หรอกคุณหนู นมว่านะป่านนี้นายน้อยคงเตรียมการณ์ไว้หมดแล้วนะคะ อย่าคิดมากไปเลย ”

“ แล้วพวงมะม่วงของพี่ชัชจะแกร่งแค่ไหนกันเชียว ไม่ใช่แค่เจอลมโบกแล้วกระเจิงหนีหาย ”

“ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ปล่อยให้ปลิวไปเถอะค่ะ แต่นมอยากรู้จริงๆว่านายน้อยจะส่งใครมา เพราะคนที่เหมืองนายก็คงเกรงใจนายท่านไม่น้อย นอกเสียจากว่า…”

“ อะไรหรอคะนม ”

“ นอกเสียจากว่าอาจจะเป็นคุณสรรค์เพื่อนของนายน้อย ”

เพียงชีวางงกับชื่อใหม่ที่นมเอื้องบอก เพราะเธอไม่เคยได้ยินและรู้จักว่าพี่ชัชของเธอมีเพื่อนชื่อนี้ และพาลคิดไปถึงอีกคนที่พอจะช่วยเปิดปากถุงที่คลุมตัวเธออยู่ได้ แม้จะไม่ค่อยกินเส้นกันสักเท่าไหร่ เพราะหากพวงมะม่วงนี้ไม่แข็งแรงพอจนยึดเกาะไม่ได้ เธอก็จะเอาคนปลิ้นปล้อนปากสุนัขมาต่อกรกับพ่อ แต่ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเธอก็ไม่รู้ ‘ นายกำมะลอของน้องเพียง ’

************************

ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับหนังสือค่ะ
1.คุณboon : ได้รับหนังสือ ‘ด้วยเล่ห์เสน่หา’ / ผีเสื้อสามสี
2. คุณปอปลาตากลม : ได้รับหนังสือ ‘ประทีปแสงดาว’ / อลีนน์
3.คุณมะลิ : ได้รับหนังสือ ‘หลงทางรัก’ / บุษบาพาฝัน

ส่งชื่อ(นามปากกา)-ชื่อจริง-นามสกุล ที่อยู่ มาที่ Juthara_tarat@hotmail.co.th นะคะ

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจกัน ขอบคุณจริงๆค่ะ

<จุฑารา>



จุฑาราา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2555, 10:18:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2555, 10:57:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2689





<< ตอนที่ 4+แจกหนังสือ   
ธนพร 12 มิ.ย. 2555, 16:58:44 น.
แง่วๆ ไม่ได้หนังสือ แต่ก็ตามมาอ่านแล้วจ้า สนุกเจงๆ


ปอปลาตากลม 12 มิ.ย. 2555, 19:54:08 น.
ดีใจจังเลยขอบคุณนะค่ะ


มะลิ 13 มิ.ย. 2555, 17:49:07 น.
ว้าว ดีใจจังเลยได้กะเค้าด้วย ขอบคุณนะคะ รอตอนที่6ค่ะ


Memory 16 มิ.ย. 2555, 03:10:24 น.
ดีใจกับคนที่ได้ด้วยน่ะค่ะ


ปอปลาตากลม 3 ก.ค. 2555, 10:44:23 น.
ได้รับหนังสือแล้วนะค่ะ


จุฑาราา 4 ก.ค. 2555, 19:40:51 น.
ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account