กลพรายใจ (วางแผงแล้ว สนพ.สื่อวรรณกรรม)
ความรักครั้งนี้...มีผีอยู่เบื้องหลัง

วาทการ เสียชีวิตอย่างกะทันหันในวัยยี่สิบปี แต่เพราะยังมีห่วง วิญญาณของเขาจึงขอร้องต่อมัจจุราชว่าจะยอมไปเกิดใหม่ เมื่อเห็นพี่สาวทั้งสองมีความรักมั่นคง

โดยเฉพาะ มัญชรี พี่สาวคนกลางที่จู่ๆต้องออกจากงานเชฟ เพราะเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้น แถมยังมีเหตุให้ต้องใกล้ชิดกับ เหมกร คาสโนว่าตัวพ่อที่เกลียดสุดชีวิต แม้แสงออร่าจะบ่งบอกว่าทั้งสองเป็นเนื้อคู่ หากดูเหมือนว่าชายหนุ่มและหญิงสาวจะไม่เคยลงรอยกันเลยสักครั้ง

เป็นเหตุให้วิญญาณน้องชายผู้แสนดีอย่างวาทการต้องคิดหา แผนเร่งรัดหัวใจ เพื่อทำให้คู่กัดหันมารักกัน ก่อนจะต้องไปเกิดใหม่ตามสัญญาที่ให้ไว้กับมัจจุราช งานใหญ่ขนาดนี้ วาทการจะทำสำเร็จไหมเนี่ย!
Tags: บุลินทร, เหมกร, มัญชรี, วาทการ, วรัท, สริตา, กลพรายใจ, ร้ายฝากรัก

ตอน: ตอนที่ 4

มาต่อแล้วครับ กว่าจะมาลงได้ เดี๋ยวไฟดับ เดี๋ยวเน็ตหลุด ฮ่าๆ ยังไงฝากตอนนี้ไว้อีกตอนนะครับ และเช่นเคย...หากมีคำแนะนำ หรือคำถามฝากไว้ได้เลย หรือว่าจะบอกเล่าความรู้สึกหลังอ่าน ก็จะเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนได้มากเลยครับ ^^








วันอังคารเป็นเวรของสริตายืนรับเด็กนักเรียน หญิงสาวมาถึงที่ทำงานตั้งแต่เช้า ทานข้าวเสร็จก็ออกมายืนที่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาล ยิ้มแย้มทักทายผู้ปกครองที่กำลังทยอยพาลูกหลานมาส่ง และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง เมื่อลงจากรถ เด็กๆ ยกมือไหว้คุณครูสาวอย่างเคารพ ก่อนจะไปวิ่งฉิวเล่นที่สนามเด็กเล่นกับเพื่อนๆ เพื่อรอเวลาเคารพธงชาติ


“สวัสดีครับ ครูมะปราง” ประกิต ผู้ปกครองของเด็กชายแตงโม ยิ้มหวานทักทายหล่อน พร้อมกับยื่นถุงนมสดที่ยังร้อนๆ ให้ “ผมซื้อมาฝากครับคุณครู”


“ขอบคุณมากนะคะ แต่ทีหลังไม่ต้องก็ได้ค่ะ ลำบากคุณประกิตเปล่าๆ” สริตารับมาตามมารยาทพลางนิ่วหน้า รู้สึกไม่ชอบสายตาจาบจ้วงที่เขามองมาเลย


“แตงโม ไหว้คุณครูมะปรางเร็วลูก” ชายวัยกลางคนว่า เมื่อเห็นลูกชายวัยห้าขวบยืนนิ่ง


เจ้าตัวจ้อยยกมือขึ้นมาประกบกัน ก่อนทำตามที่บิดาบอก เสร็จแล้วก็วิ่งแผล็วไปเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆ


“ครูมะปรางสบายดีไหมครับ” ประกิตพยายามหาเรื่องคุยพลางส่งยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย


“สบายดีค่ะ คุณประกิตล่ะคะ”


“งานยุ่งนิดหน่อยครับ แต่ไม่เป็นไร เพราะผมดื่มนมประจำ ยิ่งนมสาวๆ เอ๊ย…สดๆ อุ่นๆ จากเต้ายิ่งชอบครับ ฮ่าๆๆ” ผู้ปกครองชีกอพูดสองแง่สองง่าม พร้อมชำเลืองมองหน้าอกของสริตา


หล่อนรีบกระชับเสื้อให้แน่นหนา ลอบถอนหายใจเล็กๆ แม้จะแต่งตัวเรียบร้อยเพียงใด หากก็มิวายโดนแทะโลมจนได้


“คุณประกิตไม่รีบไปทำงานเหรอคะ” ครูอนุบาลสาวไล่แบบอ้อมๆ


“ไม่รีบครับ ที่ทำงานอยู่ใกล้นิดเดียว อีกอย่างทำงานเนี่ย ผมชอบทำนานๆ ครับ เสร็จเร็ว…งานออกมาไม่ดี” สายตากรุ้มกริ่ม พยายามพูดไปในทางนั้นให้ได้


คราวนี้สริตาทนไม่ไหว ถอนหายใจเหยียดยาวให้ได้ยินกันชัดๆ โชคดีที่ครูเวรผู้ชายอีกคนเดินมา หล่อนจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เพราะถ้ายืนอยู่นานกว่านี้ ต้องได้ยินอะไรแสลงหูจากปากประกิตอีกเป็นแน่


เวลาพักเที่ยงที่โรงเรียนอนุบาลเต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ ที่กำลังต่อแถวรอรับอาหาร ดูๆ แล้วราวกับจับปูใส่กระด้งก็ไม่ปาน เมื่อคุณครูทั้งหลายต้องช่วยกันจัดระเบียบไม่ให้เด็กๆ แตกแถว และคอยปรามไม่ให้ส่งเสียงดังจนเกินไป


“นี่ๆ ยายมะปราง ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” อรุณี คุณครูชั้นอนุบาลหนึ่ง หันมาบอกหล่อนที่กำลังยืนตักอาหารให้เด็กๆ อยู่ข้างกัน


“เรื่องอะไรเหรออุ้ม ทำท่าตื่นเต้นเชียว” สริตาถามยิ้มๆ เมื่อเพื่อนสาวมักจะมีเรื่องอะไรน่าสนใจมาเล่าให้หล่อนฟังเสมอ


“ก็สิ้นเดือนนี้ จะมีผู้ใจบุญมาบริจาคเงินสร้างสนามเด็กเล่นให้โรงเรียนเราน่ะสิ” คนพูดทำท่าหดคออย่างเขินอาย


“เรื่องนั้นเรารู้แล้ว ก็ดีนะ เด็กๆ จะได้ไม่ต้องแย่งกัน” คุณครูอนุบาลสาวหน้าหวานยิ้มอย่างยินดี โรงเรียนที่หล่อนทำงานอยู่ไม่ได้ใหญ่และมีงบประมาณอะไรมากนัก ดังนั้นหากมีคนมาสนับสนุนด้านต่างๆ ก็เป็นการดีเลยละ


“แน่ใจเหรอว่ารู้หมดแล้ว” อรุณีทำเสียงมีลับลมคมใน


“อุ้มจะบอกอะไรก็พูดๆ มาเลย มัวลีลาอยู่นั่นละ” แม้จะกำลังสนทนากัน หากหน้าที่การตักอาหารให้เด็กๆ ก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่อง หญิงสาวยังคงระมัดระวังเสมอ เมื่อมือน้อยๆ ยื่นถาดอาหารมาให้


“ก็คนที่จะมาคือ…คุณเหมกร รองประธานบริหารพิตรพิบูลจิวเวลรี่ไง ฉันเคยเห็นเขาในนิตยสารไฮโซ หล่อยังกับเทพบุตรเลยละ ได้ข่าวว่าตอนนี้กำลังจะเปิดโรงแรมเป็นของตัวเองด้วย คนอะไร เก่งจริงๆ แถมยังหล่อลากอีก ถ้าได้เจอตัวจริง ฉันต้องกรี๊ดสลบแน่ๆ” อรุณีพูดพร้อมทำตาฝันๆ ราวกับกำลังจินตนาการว่าได้ยืนเคียงข้างชายหนุ่ม


สริตาทำท่านึก หล่อนเองก็เคยอ่านนิตยสารพวกนั้นเหมือนกัน ได้ยินคำร่ำลือมาว่าเหมกรเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีฝีมือพอตัว และยังหน้าตาดีมากอีกด้วย


“ผู้ชายหล่อแบบเทพบุตรมีจริงด้วยเหรอ เราคิดว่าจะมีแต่ในนิยายเสียอีก”


“ทำไมจะไม่มี ก็คุณเหมกรนี่ไง เทพบุตรเดินดินของแท้ เดี๋ยววันนั้นนะ ฉันจะแต่งตัวให้สวยที่สุดในโรงเรียนไปเลย เราก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงไฮโซ โอกาสที่จะเจอเขามีบ่อยๆ เสียที่ไหนล่ะ ไหนๆ เขาก็มาแล้ว เต็มที่ไปเลยดีกว่า เผื่อจะมีโอกาสได้เป็นสะใภ้ไฮโซกับเขาบ้าง แล้วเธอล่ะ ยายมะปราง จะแต่งตัวยังไง” ฝ่ายนั้นถามกลับเหมือนจะดูเชิง


“เราก็จะแต่งเหมือนทุกวันนี่แหละ” สริตาบอกยิ้มๆ ปรกติหล่อนก็ไม่ได้แต่งตัวอะไรมากมายอยู่แล้ว นอกจากเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีสุภาพและกระโปรงยาวคลุมเข่าสีพื้น ไม่เหมือนอรุณีที่ใส่เสื้อผ้าหลากแบบมาไม่เว้นแต่ละวัน


“งั้นดีแล้ว ฉันจะได้สวยที่สุด เด่นที่สุด” อรุณีว่าอย่างเพ้อฝัน


ขนาดยังไม่เจอตัวจริง ยังเป็นได้ขนาดนี้ สริตาเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ หล่อนไม่ได้จะสนใจใครที่รูปร่างหน้าตา หากดูที่นิสัยมากกว่า ดังนั้นการมาของเหมกรจึงไม่ได้ทำให้หญิงสาวตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่







แทนที่จะได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตอนเที่ยงโชคชัยโทร.มาตามมัญชรีให้เข้าไปที่โรงแรมด่วน เนื่องจากอาคมมีเรื่องจะต้องพูดคุยกับหล่อน และก็คงจะไม่ใช่เรื่องไหน นอกจากเรื่องเมื่อคืนแน่ๆ


เมื่อมาถึงหล่อนก็ก้าวฉับๆ เข้าไปในโรงแรม เกริกไกรเดินหน้าตื่นเข้ามาหา


“พี่กีวี่ คุณอาคมท่าทางโกรธมากเลยนะครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถาม งุนงงไปหมด ทั้งที่เมื่อวานอาคมและมัญชรียังคุยกันดีๆ แต่มาวันนี้ ชายวัยกลางคนกลับทำหน้าเหมือนอยากจะขบหัวเชฟสาวอย่างไรอย่างนั้น


“ขอบใจนะเกริก ไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังทีหลัง” มัญชรีเอ่ยอย่างใจเย็น


อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะหล่อนก็เตรียมตัวเตรียมใจมาระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นสิ่งที่อาคมจะพูดวันนี้ คงไม่เกินความคาดหมายของหล่อนนักหรอก


มัญชรีเดินไปยังห้องทำงานของเขาที่ตั้งอยู่ทางปีกขวาของโรงแรม หล่อนยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ ไม่นานก็มีเสียงบอกให้เข้าไปได้


“คุณอาคมมีอะไรเหรอคะ” เชฟสาวถามทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง หล่อนพยายามยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ห่างจากทางออกมาก


“ยังจะถามอีก! เมื่อวานเธอทำอะไรไว้บ้าง ลืมไปแล้วเหรอ” ชายร่างท้วมชี้หน้าหล่อนมือสั่นระริก


“กีวี่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่สั่งสอนคุณอาคมนิดหน่อย จับแก้ผ้า แล้วก็ถ่ายรูปกับคลิปวีดีโอไว้แค่นั้น” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ คิดถึงเรื่องวันนั้นแล้วสะใจชะมัด




'ผมมันชั่ว ผมมันเลว ผมมันเฒ่าหัวงู แก่แล้วยังมีตัณหา จะข่มขืนพนักงาน ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ พูดตามฉัน แล้วก็ยกมือไหว้ด้วย' เชฟสาวสั่งเสียงเข้ม ขณะกำลังจะบันทึกวีดีโอ


ชายร่างท้วมส่ายหน้าดิก ทำเสียงอู้อี้ในลำคอ


'ไม่พูดใช่ไหม ได้' หล่อนหัวเราะในลำคอเสียงเหี้ยม เอี้ยวตัวไปหยิบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ ก่อนบอกว่า 'ถ้าแกไม่พูด ฉันจะราดน้ำยาล้างห้องน้ำใส่ไอ้นั่นของแกให้เปื่อยไปเลย'


หล่อนพูดจบ อาคมก็ดิ้นขลุกขลัก แววตาเว้าวอน ทำเสียงอู้อี้หนักกว่าเดิม ราวกับหมูที่กำลังจะถูกเชือด มัญชรีหัวเราะร่วนอย่างพอใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า อาคมถูกมัดปากอยู่จึงพูดอะไรไม่ได้ หล่อนกระชากผ้าออก ฝ่ายนั้นก็ส่งเสียงทันที


'พะๆๆ พูดแล้วจ้ะ พูดแล้วๆ' ชายวัยกลางคนตัณหากลับละล่ำละลัก


'งั้นก็เร็วๆ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ' หล่อนยื่นคำขาด ก่อนจะกดบันทึกวีดีโอ
อาคมหน้าตาซีดเผือด เหงื่อเกาะพราวเต็มใบหน้าอวบอูม รีบพูดเสียงสั่น ยกมือไหว้ปลกๆ ดูน่าสมเพชเป็นอย่างยิ่ง


'เอาใหม่ได้ไหมจ๊ะ ฉันจำไม่ได้'


'โง่จริงๆ' หล่อนว่าอย่างหงุดหงิด ก่อนจะทวนให้อีกรอบ ฝ่ายนั้นพูดตามทันที


'ผมมันสารเลว ผมมันชั่ว เฒ่าหัวงู แก่แล้วยังมีตัณหา จ้องจะข่มขืนพนักงาน ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว'




“นั่นแหละ!” เหมือนคำพูดของหล่อนจะทำให้อีกฝ่ายอายอยู่นิดหนึ่ง หากเขาก็พยายามถลึงตาใส่เพื่อกลบเกลื่อน


“มีอะไรก็รีบๆ พูดมาสิคะ กีวี่จะไปทำงาน ลูกค้ามาเต็มห้องอาหารแล้ว” หญิงสาวเร่ง เพราะไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้นานนัก
หากอาคมหัวเราะเยาะเสียงดังขึ้นมาทันที เมื่อหล่อนพูดจบ


“ฮึ…ยังจะทำปากเก่ง รู้ไว้ด้วยว่าตั้งแต่วันนี้ เธอไม่ใช่พนักงานของที่นี่อีกต่อไป ฉันไล่เธอออก!!” อาคมมองมัญชรีด้วยสายตาสะใจ ราวกับว่าหล่อนจะเสียใจมาก หากไม่ได้ทำงานที่นี่ หารู้ไม่ว่าหล่อนไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยสักกระผีก


“ค่ะ…ตกลง” เชฟสาวตอบสั้นๆ ยิ้มปิดท้าย แล้วก็หันหลังจะก้าวออกจากห้อง เพราะไม่อยากหายใจร่วมกับชายวัยกลางคนจอมหื่นนานกว่านี้ ทว่าอีกฝ่ายก็เรียกเอาไว้เสียก่อน


“เดี๋ยว! ฉันพูดยังไม่จบ”


“มีอะไรอีกคะ” หล่อนแอบระบายลมหายใจ


“ฉันต้องการรูปกับคลิปในมือถือนั้นทั้งหมด!” อาคมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มองมาด้วยแววตาคมกริบ


“ไม่มีทาง! นี่เป็นของสำคัญ ที่จะทำให้ฉันปลอดภัยจากคุณ” มัญชรีบอกพลางกระชับกระเป๋าสะพายเข้ากับตัว


“แล้วถ้าฉันให้เธอสองหมื่นบาท เธอจะยอมขายไหม!” อาคมยอมทุ่ม เพื่อรักษาชื่อเสียงและหน้าตาในวงสังคมของเขาเอาไว้


“เงินแค่สองหมื่น เอาไปปลูกผมบนหัวของคุณดีกว่า เพราะฉันไม่ต้องการ!” เชฟสาวเดินเชิดหน้าออกไปจากห้องทำงานของอาคมอย่างทะนงตน ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนสั่นไปทั่วร่างด้วยความโมโห


“กีวี่! คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ” อาคมขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นทั่วใบหน้าขาวอวบ ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงจัด


เมื่อเกริกไกรเห็นเชฟสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของอาคมพร้อมหน้าบอกบุญไม่รับ ก็วิ่งเข้ามาหา และถามอย่างห่วงใย มัญชรีที่ไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพรายจึงลากชายหนุ่มมายังที่ปลอดคน และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียด ทำเอาอีกฝ่ายอุทานขึ้นมาเสียงดังจนหล่อนต้องรีบเอามืออุดปากไว้


“เบาๆ สิ เดี๋ยวคนก็ได้รู้กันทั้งโรงแรม!” มัญชรีปรามเสียงเข้ม และมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง โชคดีที่ไม่มีคนเดินผ่านมา


“แล้วพี่จะไม่เอาเรื่องหรือว่าแจ้งตำรวจเหรอครับ” ชายหนุ่มเชื้อสายจีนถามต่อ


“ไม่ล่ะ พี่ยังไม่ได้เป็นอะไรนี่ อีกอย่าง พี่ก็มีภาพและคลิปเด็ดไว้เป็นเครื่องต่อรอง ถ้านายอาคมคิดจะทำอะไร พี่จะปล่อยออกมาแฉให้หมดเลย” เชฟสาวกอดอกแน่น และยิ้มมุมปากอย่างผู้เหนือกว่า


“ยังไงก็วางใจไม่ได้อยู่ดี”


“ทำไม?”


“ก็คนอย่างนายอาคมมีอำนาจและอิทธิพลมาก แถมยังรู้จักเจ้าของโรงแรมดังๆ อีกหลายที่ เขาอาจจะไปบล็อกไม่ให้รับพี่กีวี่เข้าทำงานก็ได้ แล้วถ้าเขาทำแบบนั้นจริงๆ พี่กีวี่ก็ทำอะไรไม่ได้ จะไปกล่าวหาว่านายอาคมบล็อกก็ไม่มีหลักฐานอีก เพราะถ้าจะทำ นายอาคมก็ต้องไปทำแบบลับๆ อยู่แล้ว” เกริกไกรคาดเดาล่วงหน้า


“เออ…จริงด้วย งั้นฉันจะเข้าไปขู่มันก่อน ว่าห้ามทำอย่างนั้น” หล่อนทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในร้าน หากชายหนุ่มก็ดึงแขนเอาไว้


“ไม่ได้ๆ นั่นมันแค่ความคิดของผม ถ้าเกิดนายอาคมไม่ได้จะทำอย่างนั้นจริงๆ แล้วพี่กีวี่เข้าไปขู่ก่อน อาจจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกก็ได้” เกริกไกรบอกอย่างรอบคอบ


“แล้วฉันจะทำไงดี?” มัญชรียกมือขึ้นมากุมขมับร้องโหยหวนราวกับชะนีป่า จะซวยเรื่องงานเพราะคนๆ เดียวหรือนี่ หล่อนไม่ยอมหรอกนะ


“ตอนนี้เราดูๆ ไปก่อนดีกว่าพี่ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายอะไร เรื่องมันยังไม่เกิด” เกริกไกรพยายามพูดให้หล่อนสบายใจ “พี่กีวี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมพร้อมจะอยู่ข้างพี่เสมอ ที่นี่ก็มีพี่นี่แหละ ที่ดีกับผมที่สุด แล้วก็คอยสอนอะไรให้ผมตั้งหลายอย่าง ถึงเราจะเพิ่งเจอกันไม่นาน แต่ผมก็รักพี่มากนะ” ชายหนุ่มจับไหล่หล่อนเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ


“แต่ผมก็รักพี่มาก แกหมายความว่ายังไงไอ้เกริก!” หล่อนถามเสียงสูงพร้อมหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด


“โธ่…คิดมากไปได้พี่ ผมรักพี่กีวี่แบบพี่สาว ไม่ได้คิดเกินเลยสักหน่อย” เขารีบขยายความ ทำให้ฝ่ายนั้นมีน้ำเสียงอ่อนลง


“เออ…งั้นก็แล้วไป แล้วนี่แกจะเอายังไง จะทำงานเก็บชั่วโมงที่นี่ต่อหรือเปล่า”


“ถามได้ ถ้าไม่มีพี่กีวี่ ผมก็ไม่อยู่เหมือนกันแหละ พี่กีวี่ไปไหน ผมไปด้วย” เกริกไกรบอกอย่างพร้อมจะอยู่เคียงข้างหล่อนเต็มที่


“แต่พี่ก็ยังไม่รู้เลยนะ ว่าจะหางานได้เร็วแค่ไหน” มัญชรีบอกอย่างไม่แน่ใจ กลัวว่าหล่อนจะเป็นตัวถ่วงความฝันของรุ่นน้อง


“ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมยังมีเวลาอีกเยอะกว่าจะเรียนจบ เราสองคนพักบ้างก็ดีนะ ทำงานกันจนจะกลายเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว” ชายหนุ่มเชื้อสายจีนมองขอบตาของเชฟสาวที่มีรอยคล้ำๆ จากการอดนอน และหัวเราะเบาๆ


“เออๆ ยังไงถ้าเหงาก็เข้าไปหาพี่ที่บ้านได้นะ”


“ได้ครับ ผมไปแน่นอน” เกริกไกรพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น


เมื่อเห็นชายหนุ่มแล้ว หล่อนก็อดคิดถึงวาทการไม่ได้ เวลาที่หล่อนท้อแท้ทีไร วาทการก็เป็นอีกคนที่จะอยู่เคียงข้างเสมอ เหมือนกับเกริกไกรที่พร้อมจะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับหล่อนตอนนี้ละ!


โปรดติดตาม...



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ค. 2554, 16:21:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2555, 00:06:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 2176





<< ตอนที่ 3   
บุลินทร 5 พ.ค. 2554, 16:22:23 น.
ตอนใหม่มาแล้วครับ ^^


Gingfara 5 พ.ค. 2554, 16:28:51 น.
ว้าว แอบดุเดีอดนิดๆ
อิอิ


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 5 พ.ค. 2554, 19:10:53 น.
ว๊าว กีวี่ แล้วจะเป็นยังไง ล่ะเนี่ย ....เสี่ย อา..จม รอเล่นงาน แล้วนะ


anOO 5 พ.ค. 2554, 19:13:31 น.
เม้นท์ไว้ก่อน....แล้วค่อยตามมาอ่านทีเดียวรวด
(ช่วงนี้ยุ่งจริง ยุ่งจัง)


บุลินทร 6 พ.ค. 2554, 01:38:45 น.
คุณ Gingfara
ตอนหน้าเตรียมตัวดุเดือดอีกครั้งครับ ^^

คุณ ปลาวาฬสีน้ำเงิน
ฮ่า เรียกชื่ออาคมซะเราสะใจไปด้วยเลย คนอย่างนั้นไม่สมควรจะชื่ออาคมจริงๆ อาจมเหมาะกว่า ^^

คุณ anOO
ได้เลยครับ หมีก็ว่าจะลงให้ช้าลงแล้วละ กลัวคนอ่านอ่านไม่ทัน ขอให้งานเสร็จเร็วๆ นะครับ ^^


lovemuay 6 พ.ค. 2554, 10:19:26 น.
ใกล้จะเจอพระเอกของเราแล้ว อิอิ


บุลินทร 6 พ.ค. 2554, 10:50:25 น.
คุณ lovemuay
ใช่แล้วครับ จำได้ด้วยเหรอเนี่ย เดี๋ยวมาลงต่อนะครับ ^^


ปูสีน้ำเงิน 6 พ.ค. 2554, 22:28:04 น.
อีกกี่ตอนกว่าจะถึงตอนที่เคยลงเอาไว้คะ
แบบว่าใจร้อนอยากรู้เรื่องไวๆ


บุลินทร 7 พ.ค. 2554, 00:44:50 น.
คุณ ปูสีน้ำเงิน
ประมาณตอนที่สิบครับ แต่ว่าจริงๆ มันจะมีจากร่างแรกแทรกมาเป็นระยะ แล้วก็มีที่เขียนเพิ่มใหม่ด้วยน้า เดี๋ยวมาลงต่อนะครับ อยากให้คนอ่านรู้เรื่องเร็วๆ เหมือนกัน ^^


บุลินทร 7 พ.ค. 2554, 00:47:49 น.
ไปดูมาอีกที มันไม่ใช่ตอนที่สิบแล้วสิ บางตอนก่อนหน้านั้นมันใหม่หมดเลย


แมวเหมียวก้อย 4 ก.ค. 2554, 00:50:55 น.
สู้ๆนะกีวี่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account