หัวใจไกลคานทอง
พราวพุธสาววัยเบญจเพสกำลังเผชิญเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ต้องแก้ชง ด้วยการหาคู่สมพงศ์มาแต่งงานแก้เคล็ด พร้อมทั้งรีบปั๊มทายาทสืบสกุลพรหมพยากรณ์แบบหัวปี ท้ายปี!!
ถึงไม่เชื่อเรื่องกรรมเก่า แต่ก็ไม่อยากปีนไปอยู่บนคานทองจนวันตาย ดังนั้นการหาลูกเขยเข้าบ้านจึงตกเป็นของหญิงสาวอย่างเลี่ยงมิได้
กระนั้นก็ไม่รู้จะโยนมาลัยรักเลือกใคร? เพราะจู่ๆ เกิดมีรถไฟรักวิ่งมาชนกันถึงสามขบวน!!!
เอกลักษณ์ ท่านประธานสุดหล่อผู้เป็นดั่งชายในฝัน
สิงห์นักบิด ธงทิว เทพบุตรแห่งความโชคดี
และพี่ชายข้างบ้าน ดรณ์ เจ้าของร้านขนมหวาน
ในภารกิจที่ต้องใช้ความโสดเป็นเดิมพัน ใครกันหนอที่จะช่วยปลดล็อคหัวใจพราวพุธลงจากคานทอง เฮ้อ...งานนี้คนสวยเลือกได้ปวดตับจริงๆ
ลงก่อนวางแผง ต้น พย.2555 นี้ครับ
ถึงไม่เชื่อเรื่องกรรมเก่า แต่ก็ไม่อยากปีนไปอยู่บนคานทองจนวันตาย ดังนั้นการหาลูกเขยเข้าบ้านจึงตกเป็นของหญิงสาวอย่างเลี่ยงมิได้
กระนั้นก็ไม่รู้จะโยนมาลัยรักเลือกใคร? เพราะจู่ๆ เกิดมีรถไฟรักวิ่งมาชนกันถึงสามขบวน!!!
เอกลักษณ์ ท่านประธานสุดหล่อผู้เป็นดั่งชายในฝัน
สิงห์นักบิด ธงทิว เทพบุตรแห่งความโชคดี
และพี่ชายข้างบ้าน ดรณ์ เจ้าของร้านขนมหวาน
ในภารกิจที่ต้องใช้ความโสดเป็นเดิมพัน ใครกันหนอที่จะช่วยปลดล็อคหัวใจพราวพุธลงจากคานทอง เฮ้อ...งานนี้คนสวยเลือกได้ปวดตับจริงๆ
ลงก่อนวางแผง ต้น พย.2555 นี้ครับ
Tags: เขมปัณณ์,หัวใจไกลคานทอง,บุพนิมิต
ตอน: บทนำ
บทนำ
พบพรหญิงสาววัยสามสิบสามปี ก้าวลงจากเรือนไทยหลังเล็กซึ่งซ่อนตัวใต้ต้นไม้สูงสล้างอย่างเร็วรีบ ใจคอไม่สู้ดีนัก เพราะเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่นอนไม่ค่อยหลับ เธอประหวั่นใจภาพซึ่งฉายซ้ำๆ ในหัว กระทั่งใส่บาตร กรวดน้ำที่ใต้ต้นโพธิ์เรียบร้อย จึงเข้าไปทำสมาธิในห้องพระหรือตำหนักของคุณย่าจวง ซึ่งในอดีตนั้นเคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมประจำตระกูล ‘พรหมพยากรณ์’
เมื่อจิตใจสงบ จึงแยกแยะความกลัวกับ ‘บุพนิมิต’ ที่ปรากฏได้ว่า...
คนในครอบครัวกำลังมีเคราะห์ เคราะห์ซึ่งติดตัวลูกสาวบ้านนี้มาตั้งแต่เกิด!
พบพรไม่ได้เห็นบุพนิมิตหลายปีแล้ว ตั้งแต่การพยากรณ์เลือกเนื้อคู่ให้หนึ่งตะวันกันจันทร์วาดพี่สาวฝาแฝดจบลงแบบไม่สวยนัก ‘ซิกซ์เซ้นส์’ ที่ติดตัวเธอมาก็เหมือนถูกปิดกั้นไว้
จวบจนได้เห็นบุพนิมิตอีกครั้ง พบพรจึงวางแผนลับๆ ในใจ เพราะเธอคือคนที่ถือกุญแจดอกสำคัญไว้ กุญแจซึ่งใช้ไขปริศนาลี้ลับเรื่องคู่แท้
พบพรก้าวตุบตับไปที่เรือนหลังใหญ่อายุหลายสิบปี ในมือถือกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเธอนำภาพบุพนิมิตไปพยากรณ์แล้วถอดมาเป็นคำทำนายชะตาชีวิตของน้องสาวคนที่สี่ได้ว่า
“...ถึงคราวปีชง หาคู่สมพงศ์แต่งงานแก้เคล็ด!!”
หญิงสาวกวาดตามองหาคนดวงตก ครั้นเห็นร่างอวบนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ในครัวใจค่อยชื้นขึ้นมาหน่อย
นางสาวพราวพุธ พรหมพยากรณ์นั่งบวกลบปริมาณแคลอรี่จากอาหารตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด หล่อนอยากมั่นใจว่า สิ่งที่จะกลืนลงท้องจะเผาผลาญหมดในแต่ละวัน ต้องไม่หลงเหลือเปลี่ยนเป็นไขมันเกาะตามตัว ให้ ‘อวบอ้วน’ ถูกคนอื่นล้อเลียนให้ช้ำใจอย่างนี้
‘...ตัดข้าวต้มกุ้งไปได้เลย กาแฟดำกับขนมปังครึ่งแผ่นดีกว่า’ พราวพุธพึมพำกับตัวเอง
สาวอวบพยายามควบคุมน้ำหนักแทบตาย แต่วันไหนเกิดสติหลุด ก็ฟาดทุกอย่างเรียบราวกับมีวิญญาณชูชกเข้าสิง
พราวพุธถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองต้นแขนตัวเอง ซึ่งแอบใหญ่ขึ้นหลังจากเข้าโรงพยาบาลนอนให้น้ำเกลือไปหลายกระปุก สาเหตุมาจากพิษไข้หวัดใหญ่ที่เล่นงานหนักจนนอนแซ่วไปหลายวัน
พบพรยิ้มให้น้องสาว ถึงหล่อนจะเจ้าเนื้อไปนิด แต่เครื่องหน้าอันกระจุ๋มกระจิ๋มนั้นเก๋ไก๋ชวนมอง ดวงตาหล่อนมีประกายวิบวับไม่ได้ดูเจ้าชู้ แต่เป็นสายตาสดใสแบบคนขี้อ้อนมากด้วยเสน่ห์ ริมฝีปากอวบอิ่มแต้มสีแดงระเรื่อ ทรวดทรงก็เซ็กซี่ยวนใจ หล่อนมีผิวสีกุหลาบขาวอมชมพูนิดๆ ดูมีน้ำมีนวลใครเห็นย่อมตกหลุมรักได้ง่ายๆ
“หายดีแล้วหรือ ถึงจะออกไปทำงานน่ะ” พบพรเหลือบไปเห็นกระเป๋าถือกับแฟ้มเอกสารซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ
“ฟื้นชีพมาครึ่งตัวแล้วละพี่พบ” พราวพุธเงยหน้ามองพี่สาว ปกติพบพรจะเก็บตัวในเรือนหลังเล็กอยู่เงียบๆ ตามประสาคนมีโลกส่วนตัวสูง หากไม่มีธุระบนเรือนใหญ่ก็แทบจะไม่เฉียดกายมาที่นี่ เพราะหลายปีมาแล้วที่เธอมีปากเสียงกับคุณหนึ่งตะวัน กับคุณจันทร์วาด คู่แฝดคนโตซึ่งเป็นประมุขเรือนใหญ่
“ถ้ายังไม่หาย ไม่ลาต่ออีกวันละ หนูบัวคงไม่ว่าอะไรหรอก” พบพรเอ่ยถึงบัวบูชาเพื่อนพราวพุธที่โชคดีพบรักกับชัยชนะ รองประธานบริษัท เขาเป็นลูกบ้านเล็กของคุณวัฒนาผู้เป็นเจ้าของบริษัทเทพวัฒนาไพศาลกรุ๊ป
“หยุดมาหลายวันแล้ว เกรงใจบัว อีกอย่างอยู่บ้านได้แต่นั่งๆ นอนๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นปลาวาฬสีน้ำเงินเอา...ดูแขนพราวสิ ห้อยต่องแต่งเป็นยายแก่เลย” หล่อนยกแขนขึ้น แล้วตีใต้ท้องแขนอวดความเจ้าเนื้อ
“พี่ว่าอย่าพึ่งไปไหนไกลๆ เลย หมู่นี้พี่สังหรณ์ใจพิกล” คำว่า ‘พิกล’ ของพบพรมาพร้อมกับสีหน้าลำบากใจ และคำทำนายที่ถือไว้ก็เหมือนของร้อน ทำให้เธออย่างจะปล่อยทิ้งเสีย
“สังหรณ์ใจอะไรอีกล่ะ อ่อ...วันนี้หวยออกใช่ไหม แหม...อยากมีเพื่อนช่วยตีหวยละซี งวดที่แล้วยังไม่เข็ดอีกเหรอ ผีต้นมะขามน่ะ แม้น แม่น” พราวพุธทำตาพราว และกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอแหย่พี่สาว
“เฮ้อ ไม่ใช่เรื่องนั้น พี่ฝันไม่ดีต่างหาก เลยอยากชวนพราวไปทำบุญน่ะ ไปวัดใกล้ๆ บ้านเรานี่ละ”
“อ้าว แล้วไม่ไปกับคุณหนึ่ง คุณจันทร์ละ นู้นแน่ะ ระดมพลจัดทัพหลวงอยู่ ได้ยินว่าจะไปรวมกลุ่มกับคณะของคุณพิมพาด้วย” พราวพุธบุ้ยใบ้ไปยังโรงจอดรถ คุณพี่ฝาแฝดกำลังยืนเท้าสะเอวสั่งเด็กในบ้านขนข้าวของเพื่อไปทำบุญอย่างเอิกเกริก
หนึ่งตะวันกับจันทร์วาดคือลูกสาวคนโต ทั้งสองชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ พอๆ กับการนิยมดูดวง พวกเธอมักออกไปทำบุญที่วัดและตำหนักต่างๆ ใกล้ไกลแค่ไหนมิเคยหวั่น
“...ฮึ พูดอะไรไม่คิด คุณๆ เค้าแค่เห็นหน้าพี่ก็จี๊ดแล้ว พราวนั่นแหละต้องไปเป็นเพื่อนพี่” พบพรบังคับคนใกล้ตัว
“เอาไว้วันหยุดดีกว่า วันนี้พราวอยากไปทำงาน”
“รอให้ถึงวันหยุด ก็สายเกินแก้แล้ว!” สีหน้าสีตาพบพรเครียดจัดขึ้นมาทันควัน พลอยให้น้องสาวนิ่วหน้านิดๆ
“พี่พบพูดยังกับว่าจะมีใครตายอย่างนั้นละ” พราวพุธหลุดปากพูดไปเรื่อย ทว่าคนที่ได้ฟังถึงกับหน้าซีดเผือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำอย่างรวดเร็ว
“พูดอะไรพล่อยๆ โบราณเขาถือ! ” พบพรยื่นมือมาตีต้นแขนน้องสาวแทบจะทันที
“อูย...เหวี่ยงอย่างนี้...วัยทองหรือไงจ๊ะ” พราวพุธหน้าง้ำ คุณพี่หล่อนทั้งหนึ่งตะวันกับจันทร์วาดและพบพรล้วนเป็นสาวเทื้อ อารมณ์จึงมักแปรปรวน ใครที่อยู่ใกล้ๆ ต้องคอยหลบให้ดี หากไม่ถูกบิดจนเนื้อตัวเขียว พวกเธอก็ใช้วิธีเหน็บด้วยคำพูดแรงๆ พอให้เจ็บใจ
“พูดให้มันดีๆ นะยายพราว วัยทงวัยทองอะไร พี่ยังเอ๊าะย่ะ แต่งเนื้อแต่งตัวหน่อย เธอก็สวยไม่ได้ครึ่งหรอก” พบพรค้อนขวับวงใหญ่
พบพรลูกสาวคนที่สาม เธอสวยหวานมาตั้งแต่เป็นสาวรุ่นๆ แต่ด้วยบุคลิกที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ขี้อาย ไม่ค่อยแต่งเนื้อแต่งตัวสักเท่าไหร่ จึงดูสวยเรียบๆ สมวัยของเธอ แตกต่างจากคู่แฝดซึ่งสวยเฉี่ยวพราวเสน่ห์ คุณหนึ่งตะวันกับ คุณจันทร์วาด ต่างพึ่งศัลยกรรมเสริมความงามจนกลายเป็นสาวสองพันปี
“คุณพบขา ถ้าสวยจริง อะไรจัง ทำไม้ ทำไม ยังเกาะคานไว้แน่นขนาดนี้ละคะ…” พราวพุธหัวเราะเสียงใส
“พี่เบื่อต่อปากต่อคำเต็มทน...พราวพึ่งฟื้นไข้ ถ้างานไม่จำเป็นอะไร อย่าออกไปไหนเลย...” พบพรขยับปาก เหมือนจะเอ่ยอะไรต่อ แต่กลับนิ่งไป
“งานมันไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่คืนนี้บัวจัดปาร์ตี้สละโสด หนุ่มๆ มาเพียบ จะให้พราวเก็บความโสดไว้ที่บ้านได้ไง ขอออกไปเปิดหู เปิดตาบ้างเถอะ เผื่อโชคดีคว้าลูกเขยเข้าบ้านได้สักคน ตระกูลพรหมพยากรณ์จะได้เลิกตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเสียที ลูกเขยคนแรกของบานเชียวนะพี่พบ…โอกาสมาถึงขนาดนี้ ต้องรีบคว้าไว้ก่อนละ” พราวพุธพูดเหมือนเคลิ้ม
“ดูพูดเข้าสิ ไม่อายปาก ในหัวคงมีแต่เรื่องเที่ยวสนุก นี่อย่าให้คุณหนึ่งกับคุณจันทร์ได้ยินเชียว มีหวังถูกจับขังในตำหนักไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวันแน่” พบพรขู่หล่อน แต่ใจนั้นเต้นตึกตักเมื่อคิดถึงงานเลี้ยงกลางคืน กี่ปีมาแล้วที่เธอไม่สัมผัสบรรยากาศแบบนั้น
“แหม ทีคุณหนึ่งกับคุณจันทร์ไปตำหนักหมอดูหนุ่มๆ ยังไม่มีใครกล้าห้ามเลย...พี่พบก็เหมือนนั่นแหละ เห็นปลื้มพระเอกคนโปรด นั่งชิดติดหน้าจอจิกหมอนกระจุยกระจาย นึกว่าพราวไม่รู้หรือไง สเป็คพี่พบต้องเป็นพระเอกขาวตี๋ มาดคุณชายหน่อยชิมิจ๊ะ” พราวพุธดักคอพบพร
“เอ๊ะ ยายพราวนี่”
“...เห็นไหม พอมีคนรู้ทัน ทำเป็นรับไม่ได้...ยังไงคืนนี้เอาช้างมาฉุดพราวก็ไม่อยู่หรอกพี่พบ ขอซินเดอเรลล่าไปอวดโฉดนิดนึงนะ”
ซึ่งปาร์ตี้สละโสดนั้น ชัยชนะกับบัวบูชาจัดขึ้นก่อนจะมีพิธีวิวาห์ในช่วงปลายเดือน
“พราว...พี่ฝันร้ายติดกันหลายคืนแล้ว พี่กลัวเหลือเกิน ในฝันพราวมีเลือดเต็มตัว” พอจนตัวพบพรจึงเล่าทุกอย่างให้น้องสาวฟัง กระนั้นก็ยังไม่ผลีผลามส่งคำทำนายให้น้องสาวดู เพราะถูกคุณพี่ๆ ทั้งสองเตือนไว้ และเธอก็รับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว
“พี่พบจ๋า พราวก็เหมือนกัน ฝันเห็นงูมารัด มานอนบนเตียงเป็นเดือนๆ จนป่านนี้ ยังไม่มีผู้ชายสักคนโผล่เข้ามาในชีวิต...แค่ความฝัน อย่าไปจริงจังเลย ปวดหมองเปล่าๆ” พราวพุธโบกมือให้พี่สาว เพราะคุณพี่ฝาแฝดพูดกรอกหูจนเชื่อสนิทใจว่าบุพนิมิตของพบพร ไม่แม่น!!
“อย่าทำเป็นล้อเล่น พี่เปิดตำราดูแล้ว ดวงพราวไม่ดีเลย...ปีนี้เบญจเพสด้วย”
“ถูกต้องแล้วครับ พราวจะยี่สิบห้าอีกไม่กี่วัน แล้วไง ยังไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเดทกับผู้ชาย พี่พบยังจะมากักขังไว้ในบ้านอีก อย่างนี้ อนาคตคงได้ปีนตามไปอยู่บนคานไม่ต่างจากคุณพี่ๆ แน่นอน”
“พี่เตือนด้วยความหวังดี ยังจะตีรวนให้เสียอารมณ์” พรพบเสียงเขียว เมื่อพูดถึง ‘คาน’ ก็พลอยใจหายไปอีกคน ด้วยเธออยู่ในข่ายที่หัวใจใกล้จะขึ้นคานทองเต็มทน!
“โธ่ คนแก่ ขี้ใจน้อย” พราวพุธเข้าไปกอดพี่สาว หอมแก้มซ้ายขวาประจบ
“เอางี้ พราวสัญญาว่าจะไม่กลับเช้า โอเคมั้ย” หล่อนหัวเราะคิก ส่งสายตาอ้อน
“เฮ้อ...จะไปให้ได้ใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นต้องรับปากพี่ก่อนถึงจะยอมปล่อยตัวไป” พบพรตัดสินใจเก็บคำทำนายไว้ ก่อน เธอใช้แผนสองด้วยการให้น้องสาวปฏิบัติทั้งกายและใจให้บริสุทธิ์เพื่อให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง
“ว่ามาเลยพี่พบ...ด้วยเกียรตินางสาวพราวพุธ พรหมพยากรณ์ จะยอมทำตามทุกเงื่อนไข” หล่อนทำท่า ต๊ะเบ๊ะอย่างน่ารัก
“พี่อยากให้พราวถือศีลห้าสักเจ็ดวัน ขอแค่นี้ทำได้มั้ย” พบพรเอ่ยขึงขัง
“ตายแล้ว...ศีลสักข้อพราวยังท่องไม่ได้ ใจร้ายจริงให้ถือศีลตั้งห้าข้อ...โหดไปหรือเปล่า” พราวพุธประท้วงหน้าง้ำหน้างอ
“อย่าพูดมาก ถ้าไม่ปฏิบัติตามที่พี่สั่ง วันนี้ก็ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น” พบพรวางมาดขึงขัง ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเป็นห่วงชีวิตคนดวงตก
แต่จู่ๆ พราวพุธก็ยิ้มพราย ในหัวหล่อนฉายแวบถึงศีลเด็กเกรียนซึ่งจำมาจากคนบ้านใกล้เรือนเคียง
ข้อ ๑ห้ามฆ่าสัตว์ ถ้ายุงกัด...เราก็ตบ ,ข้อ ๒ ห้ามลักทรัพย์ ถ้าเขาหลับ...เราก็หยิบ ,ข้อ ๓ห้ามมีชู้ แฟนไม่อยู่...ไปกับกิ๊ก ,ข้อ๔ ห้ามพูดปด ถ้าเราตด...บอกว่าเปล่า , ข้อ๕ ห้ามดื่มเหล้า ถ้าไม่เมา...เอาอีกขวด!!
“นี่ยิ้มอะไรพราว...ห้ามเล่นตุกติกเลยนะ” คนเป็นพี่มองน้องสาวอย่างจับพิรุธ แม่ตัวดีนั้นลูกไม้เยอะและเล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราวสมชื่อ
ครั้นเจอสถานการณ์ที่ต้องจำยอมแบบนี้ หญิงสาวก็เหนื่อยใจสุดๆ หากให้เธอศีลห้าของเด็กเกรียนจะไม่คัดค้านสักคำ แต่พบพรอยากให้ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด แล้วพราวพุธจะรอดหรือ!
กระนั้นคนสมองใสก็ฉีกยิ้มประจบพี่สาว จากนั้นก็ทำเป็นยื่นมือซ้ายไปไว้กลางหลัง หล่อนแอบไขว่นิ้วทำเป็นอุบอิบ และรับคำพี่สาวไปส่งๆ หากในใจหมายมั่นว่า คืนนี้ต้องเจิดจรัสเป็นซิลเดอเรลล่าให้ผู้ชายทั้งงานต้องตะลึง!!
พบพรหญิงสาววัยสามสิบสามปี ก้าวลงจากเรือนไทยหลังเล็กซึ่งซ่อนตัวใต้ต้นไม้สูงสล้างอย่างเร็วรีบ ใจคอไม่สู้ดีนัก เพราะเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่นอนไม่ค่อยหลับ เธอประหวั่นใจภาพซึ่งฉายซ้ำๆ ในหัว กระทั่งใส่บาตร กรวดน้ำที่ใต้ต้นโพธิ์เรียบร้อย จึงเข้าไปทำสมาธิในห้องพระหรือตำหนักของคุณย่าจวง ซึ่งในอดีตนั้นเคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมประจำตระกูล ‘พรหมพยากรณ์’
เมื่อจิตใจสงบ จึงแยกแยะความกลัวกับ ‘บุพนิมิต’ ที่ปรากฏได้ว่า...
คนในครอบครัวกำลังมีเคราะห์ เคราะห์ซึ่งติดตัวลูกสาวบ้านนี้มาตั้งแต่เกิด!
พบพรไม่ได้เห็นบุพนิมิตหลายปีแล้ว ตั้งแต่การพยากรณ์เลือกเนื้อคู่ให้หนึ่งตะวันกันจันทร์วาดพี่สาวฝาแฝดจบลงแบบไม่สวยนัก ‘ซิกซ์เซ้นส์’ ที่ติดตัวเธอมาก็เหมือนถูกปิดกั้นไว้
จวบจนได้เห็นบุพนิมิตอีกครั้ง พบพรจึงวางแผนลับๆ ในใจ เพราะเธอคือคนที่ถือกุญแจดอกสำคัญไว้ กุญแจซึ่งใช้ไขปริศนาลี้ลับเรื่องคู่แท้
พบพรก้าวตุบตับไปที่เรือนหลังใหญ่อายุหลายสิบปี ในมือถือกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเธอนำภาพบุพนิมิตไปพยากรณ์แล้วถอดมาเป็นคำทำนายชะตาชีวิตของน้องสาวคนที่สี่ได้ว่า
“...ถึงคราวปีชง หาคู่สมพงศ์แต่งงานแก้เคล็ด!!”
หญิงสาวกวาดตามองหาคนดวงตก ครั้นเห็นร่างอวบนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ในครัวใจค่อยชื้นขึ้นมาหน่อย
นางสาวพราวพุธ พรหมพยากรณ์นั่งบวกลบปริมาณแคลอรี่จากอาหารตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด หล่อนอยากมั่นใจว่า สิ่งที่จะกลืนลงท้องจะเผาผลาญหมดในแต่ละวัน ต้องไม่หลงเหลือเปลี่ยนเป็นไขมันเกาะตามตัว ให้ ‘อวบอ้วน’ ถูกคนอื่นล้อเลียนให้ช้ำใจอย่างนี้
‘...ตัดข้าวต้มกุ้งไปได้เลย กาแฟดำกับขนมปังครึ่งแผ่นดีกว่า’ พราวพุธพึมพำกับตัวเอง
สาวอวบพยายามควบคุมน้ำหนักแทบตาย แต่วันไหนเกิดสติหลุด ก็ฟาดทุกอย่างเรียบราวกับมีวิญญาณชูชกเข้าสิง
พราวพุธถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองต้นแขนตัวเอง ซึ่งแอบใหญ่ขึ้นหลังจากเข้าโรงพยาบาลนอนให้น้ำเกลือไปหลายกระปุก สาเหตุมาจากพิษไข้หวัดใหญ่ที่เล่นงานหนักจนนอนแซ่วไปหลายวัน
พบพรยิ้มให้น้องสาว ถึงหล่อนจะเจ้าเนื้อไปนิด แต่เครื่องหน้าอันกระจุ๋มกระจิ๋มนั้นเก๋ไก๋ชวนมอง ดวงตาหล่อนมีประกายวิบวับไม่ได้ดูเจ้าชู้ แต่เป็นสายตาสดใสแบบคนขี้อ้อนมากด้วยเสน่ห์ ริมฝีปากอวบอิ่มแต้มสีแดงระเรื่อ ทรวดทรงก็เซ็กซี่ยวนใจ หล่อนมีผิวสีกุหลาบขาวอมชมพูนิดๆ ดูมีน้ำมีนวลใครเห็นย่อมตกหลุมรักได้ง่ายๆ
“หายดีแล้วหรือ ถึงจะออกไปทำงานน่ะ” พบพรเหลือบไปเห็นกระเป๋าถือกับแฟ้มเอกสารซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ
“ฟื้นชีพมาครึ่งตัวแล้วละพี่พบ” พราวพุธเงยหน้ามองพี่สาว ปกติพบพรจะเก็บตัวในเรือนหลังเล็กอยู่เงียบๆ ตามประสาคนมีโลกส่วนตัวสูง หากไม่มีธุระบนเรือนใหญ่ก็แทบจะไม่เฉียดกายมาที่นี่ เพราะหลายปีมาแล้วที่เธอมีปากเสียงกับคุณหนึ่งตะวัน กับคุณจันทร์วาด คู่แฝดคนโตซึ่งเป็นประมุขเรือนใหญ่
“ถ้ายังไม่หาย ไม่ลาต่ออีกวันละ หนูบัวคงไม่ว่าอะไรหรอก” พบพรเอ่ยถึงบัวบูชาเพื่อนพราวพุธที่โชคดีพบรักกับชัยชนะ รองประธานบริษัท เขาเป็นลูกบ้านเล็กของคุณวัฒนาผู้เป็นเจ้าของบริษัทเทพวัฒนาไพศาลกรุ๊ป
“หยุดมาหลายวันแล้ว เกรงใจบัว อีกอย่างอยู่บ้านได้แต่นั่งๆ นอนๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นปลาวาฬสีน้ำเงินเอา...ดูแขนพราวสิ ห้อยต่องแต่งเป็นยายแก่เลย” หล่อนยกแขนขึ้น แล้วตีใต้ท้องแขนอวดความเจ้าเนื้อ
“พี่ว่าอย่าพึ่งไปไหนไกลๆ เลย หมู่นี้พี่สังหรณ์ใจพิกล” คำว่า ‘พิกล’ ของพบพรมาพร้อมกับสีหน้าลำบากใจ และคำทำนายที่ถือไว้ก็เหมือนของร้อน ทำให้เธออย่างจะปล่อยทิ้งเสีย
“สังหรณ์ใจอะไรอีกล่ะ อ่อ...วันนี้หวยออกใช่ไหม แหม...อยากมีเพื่อนช่วยตีหวยละซี งวดที่แล้วยังไม่เข็ดอีกเหรอ ผีต้นมะขามน่ะ แม้น แม่น” พราวพุธทำตาพราว และกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอแหย่พี่สาว
“เฮ้อ ไม่ใช่เรื่องนั้น พี่ฝันไม่ดีต่างหาก เลยอยากชวนพราวไปทำบุญน่ะ ไปวัดใกล้ๆ บ้านเรานี่ละ”
“อ้าว แล้วไม่ไปกับคุณหนึ่ง คุณจันทร์ละ นู้นแน่ะ ระดมพลจัดทัพหลวงอยู่ ได้ยินว่าจะไปรวมกลุ่มกับคณะของคุณพิมพาด้วย” พราวพุธบุ้ยใบ้ไปยังโรงจอดรถ คุณพี่ฝาแฝดกำลังยืนเท้าสะเอวสั่งเด็กในบ้านขนข้าวของเพื่อไปทำบุญอย่างเอิกเกริก
หนึ่งตะวันกับจันทร์วาดคือลูกสาวคนโต ทั้งสองชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ พอๆ กับการนิยมดูดวง พวกเธอมักออกไปทำบุญที่วัดและตำหนักต่างๆ ใกล้ไกลแค่ไหนมิเคยหวั่น
“...ฮึ พูดอะไรไม่คิด คุณๆ เค้าแค่เห็นหน้าพี่ก็จี๊ดแล้ว พราวนั่นแหละต้องไปเป็นเพื่อนพี่” พบพรบังคับคนใกล้ตัว
“เอาไว้วันหยุดดีกว่า วันนี้พราวอยากไปทำงาน”
“รอให้ถึงวันหยุด ก็สายเกินแก้แล้ว!” สีหน้าสีตาพบพรเครียดจัดขึ้นมาทันควัน พลอยให้น้องสาวนิ่วหน้านิดๆ
“พี่พบพูดยังกับว่าจะมีใครตายอย่างนั้นละ” พราวพุธหลุดปากพูดไปเรื่อย ทว่าคนที่ได้ฟังถึงกับหน้าซีดเผือด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำอย่างรวดเร็ว
“พูดอะไรพล่อยๆ โบราณเขาถือ! ” พบพรยื่นมือมาตีต้นแขนน้องสาวแทบจะทันที
“อูย...เหวี่ยงอย่างนี้...วัยทองหรือไงจ๊ะ” พราวพุธหน้าง้ำ คุณพี่หล่อนทั้งหนึ่งตะวันกับจันทร์วาดและพบพรล้วนเป็นสาวเทื้อ อารมณ์จึงมักแปรปรวน ใครที่อยู่ใกล้ๆ ต้องคอยหลบให้ดี หากไม่ถูกบิดจนเนื้อตัวเขียว พวกเธอก็ใช้วิธีเหน็บด้วยคำพูดแรงๆ พอให้เจ็บใจ
“พูดให้มันดีๆ นะยายพราว วัยทงวัยทองอะไร พี่ยังเอ๊าะย่ะ แต่งเนื้อแต่งตัวหน่อย เธอก็สวยไม่ได้ครึ่งหรอก” พบพรค้อนขวับวงใหญ่
พบพรลูกสาวคนที่สาม เธอสวยหวานมาตั้งแต่เป็นสาวรุ่นๆ แต่ด้วยบุคลิกที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ขี้อาย ไม่ค่อยแต่งเนื้อแต่งตัวสักเท่าไหร่ จึงดูสวยเรียบๆ สมวัยของเธอ แตกต่างจากคู่แฝดซึ่งสวยเฉี่ยวพราวเสน่ห์ คุณหนึ่งตะวันกับ คุณจันทร์วาด ต่างพึ่งศัลยกรรมเสริมความงามจนกลายเป็นสาวสองพันปี
“คุณพบขา ถ้าสวยจริง อะไรจัง ทำไม้ ทำไม ยังเกาะคานไว้แน่นขนาดนี้ละคะ…” พราวพุธหัวเราะเสียงใส
“พี่เบื่อต่อปากต่อคำเต็มทน...พราวพึ่งฟื้นไข้ ถ้างานไม่จำเป็นอะไร อย่าออกไปไหนเลย...” พบพรขยับปาก เหมือนจะเอ่ยอะไรต่อ แต่กลับนิ่งไป
“งานมันไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่คืนนี้บัวจัดปาร์ตี้สละโสด หนุ่มๆ มาเพียบ จะให้พราวเก็บความโสดไว้ที่บ้านได้ไง ขอออกไปเปิดหู เปิดตาบ้างเถอะ เผื่อโชคดีคว้าลูกเขยเข้าบ้านได้สักคน ตระกูลพรหมพยากรณ์จะได้เลิกตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเสียที ลูกเขยคนแรกของบานเชียวนะพี่พบ…โอกาสมาถึงขนาดนี้ ต้องรีบคว้าไว้ก่อนละ” พราวพุธพูดเหมือนเคลิ้ม
“ดูพูดเข้าสิ ไม่อายปาก ในหัวคงมีแต่เรื่องเที่ยวสนุก นี่อย่าให้คุณหนึ่งกับคุณจันทร์ได้ยินเชียว มีหวังถูกจับขังในตำหนักไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวันแน่” พบพรขู่หล่อน แต่ใจนั้นเต้นตึกตักเมื่อคิดถึงงานเลี้ยงกลางคืน กี่ปีมาแล้วที่เธอไม่สัมผัสบรรยากาศแบบนั้น
“แหม ทีคุณหนึ่งกับคุณจันทร์ไปตำหนักหมอดูหนุ่มๆ ยังไม่มีใครกล้าห้ามเลย...พี่พบก็เหมือนนั่นแหละ เห็นปลื้มพระเอกคนโปรด นั่งชิดติดหน้าจอจิกหมอนกระจุยกระจาย นึกว่าพราวไม่รู้หรือไง สเป็คพี่พบต้องเป็นพระเอกขาวตี๋ มาดคุณชายหน่อยชิมิจ๊ะ” พราวพุธดักคอพบพร
“เอ๊ะ ยายพราวนี่”
“...เห็นไหม พอมีคนรู้ทัน ทำเป็นรับไม่ได้...ยังไงคืนนี้เอาช้างมาฉุดพราวก็ไม่อยู่หรอกพี่พบ ขอซินเดอเรลล่าไปอวดโฉดนิดนึงนะ”
ซึ่งปาร์ตี้สละโสดนั้น ชัยชนะกับบัวบูชาจัดขึ้นก่อนจะมีพิธีวิวาห์ในช่วงปลายเดือน
“พราว...พี่ฝันร้ายติดกันหลายคืนแล้ว พี่กลัวเหลือเกิน ในฝันพราวมีเลือดเต็มตัว” พอจนตัวพบพรจึงเล่าทุกอย่างให้น้องสาวฟัง กระนั้นก็ยังไม่ผลีผลามส่งคำทำนายให้น้องสาวดู เพราะถูกคุณพี่ๆ ทั้งสองเตือนไว้ และเธอก็รับปากไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว
“พี่พบจ๋า พราวก็เหมือนกัน ฝันเห็นงูมารัด มานอนบนเตียงเป็นเดือนๆ จนป่านนี้ ยังไม่มีผู้ชายสักคนโผล่เข้ามาในชีวิต...แค่ความฝัน อย่าไปจริงจังเลย ปวดหมองเปล่าๆ” พราวพุธโบกมือให้พี่สาว เพราะคุณพี่ฝาแฝดพูดกรอกหูจนเชื่อสนิทใจว่าบุพนิมิตของพบพร ไม่แม่น!!
“อย่าทำเป็นล้อเล่น พี่เปิดตำราดูแล้ว ดวงพราวไม่ดีเลย...ปีนี้เบญจเพสด้วย”
“ถูกต้องแล้วครับ พราวจะยี่สิบห้าอีกไม่กี่วัน แล้วไง ยังไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเดทกับผู้ชาย พี่พบยังจะมากักขังไว้ในบ้านอีก อย่างนี้ อนาคตคงได้ปีนตามไปอยู่บนคานไม่ต่างจากคุณพี่ๆ แน่นอน”
“พี่เตือนด้วยความหวังดี ยังจะตีรวนให้เสียอารมณ์” พรพบเสียงเขียว เมื่อพูดถึง ‘คาน’ ก็พลอยใจหายไปอีกคน ด้วยเธออยู่ในข่ายที่หัวใจใกล้จะขึ้นคานทองเต็มทน!
“โธ่ คนแก่ ขี้ใจน้อย” พราวพุธเข้าไปกอดพี่สาว หอมแก้มซ้ายขวาประจบ
“เอางี้ พราวสัญญาว่าจะไม่กลับเช้า โอเคมั้ย” หล่อนหัวเราะคิก ส่งสายตาอ้อน
“เฮ้อ...จะไปให้ได้ใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นต้องรับปากพี่ก่อนถึงจะยอมปล่อยตัวไป” พบพรตัดสินใจเก็บคำทำนายไว้ ก่อน เธอใช้แผนสองด้วยการให้น้องสาวปฏิบัติทั้งกายและใจให้บริสุทธิ์เพื่อให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง
“ว่ามาเลยพี่พบ...ด้วยเกียรตินางสาวพราวพุธ พรหมพยากรณ์ จะยอมทำตามทุกเงื่อนไข” หล่อนทำท่า ต๊ะเบ๊ะอย่างน่ารัก
“พี่อยากให้พราวถือศีลห้าสักเจ็ดวัน ขอแค่นี้ทำได้มั้ย” พบพรเอ่ยขึงขัง
“ตายแล้ว...ศีลสักข้อพราวยังท่องไม่ได้ ใจร้ายจริงให้ถือศีลตั้งห้าข้อ...โหดไปหรือเปล่า” พราวพุธประท้วงหน้าง้ำหน้างอ
“อย่าพูดมาก ถ้าไม่ปฏิบัติตามที่พี่สั่ง วันนี้ก็ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น” พบพรวางมาดขึงขัง ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเป็นห่วงชีวิตคนดวงตก
แต่จู่ๆ พราวพุธก็ยิ้มพราย ในหัวหล่อนฉายแวบถึงศีลเด็กเกรียนซึ่งจำมาจากคนบ้านใกล้เรือนเคียง
ข้อ ๑ห้ามฆ่าสัตว์ ถ้ายุงกัด...เราก็ตบ ,ข้อ ๒ ห้ามลักทรัพย์ ถ้าเขาหลับ...เราก็หยิบ ,ข้อ ๓ห้ามมีชู้ แฟนไม่อยู่...ไปกับกิ๊ก ,ข้อ๔ ห้ามพูดปด ถ้าเราตด...บอกว่าเปล่า , ข้อ๕ ห้ามดื่มเหล้า ถ้าไม่เมา...เอาอีกขวด!!
“นี่ยิ้มอะไรพราว...ห้ามเล่นตุกติกเลยนะ” คนเป็นพี่มองน้องสาวอย่างจับพิรุธ แม่ตัวดีนั้นลูกไม้เยอะและเล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราวสมชื่อ
ครั้นเจอสถานการณ์ที่ต้องจำยอมแบบนี้ หญิงสาวก็เหนื่อยใจสุดๆ หากให้เธอศีลห้าของเด็กเกรียนจะไม่คัดค้านสักคำ แต่พบพรอยากให้ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด แล้วพราวพุธจะรอดหรือ!
กระนั้นคนสมองใสก็ฉีกยิ้มประจบพี่สาว จากนั้นก็ทำเป็นยื่นมือซ้ายไปไว้กลางหลัง หล่อนแอบไขว่นิ้วทำเป็นอุบอิบ และรับคำพี่สาวไปส่งๆ หากในใจหมายมั่นว่า คืนนี้ต้องเจิดจรัสเป็นซิลเดอเรลล่าให้ผู้ชายทั้งงานต้องตะลึง!!
เขมปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 มิ.ย. 2555, 11:45:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ต.ค. 2555, 21:09:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 1681
บทที่ ๑ ชนท้ายหัวใจ >> |
เขมปัณณ์ 19 มิ.ย. 2555, 11:50:55 น.
ไม่ได้มาลงนานมากๆ เลยครับ กลับมาอีกครั้งพร้อมนิยายเรื่องใหม่ ขอบคุณทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
ไม่ได้มาลงนานมากๆ เลยครับ กลับมาอีกครั้งพร้อมนิยายเรื่องใหม่ ขอบคุณทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย