: + : + : + : แผนก่อการรัก : + : + : + : (เอื้อมวิมาน) วางแผงแล้ว + แจกหนังสือค่ะ
ชีวิตรักที่กำลังเป็นไปด้วยดีแท้ๆ กลับต้องมีอันสะดุด
เมื่อมารดาของบุรัณเกลียดความจนของอันดามันอย่างยิ่ง!
แต่แล้วแผนการที่หญิงสาววางไว้เพื่อเอาคืน ‘ใครบางคน’
ก็กลับชักนำให้เธอเข้าไปพัวพันกับศิรามากขึ้นเรื่อยๆ

ระหว่างบุรัณที่เคยสวมแหวนแทนใจให้กัน
กับศิรา ศิวกรณ์...ผู้บริหารหนุ่มหล่อแห่งคีรีธารากรุ๊ป
แต่มีฐานะห้อยท้ายเป็นบุตรชายของคนที่เธอเกลียดเข้าไส้
เธอควรจะเลือกใคร
เพราะอันดามันรู้ดี ว่าซินเดอเรลล่ามีอยู่แค่ในเทพนิยายเท่านั้น!




* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เอื้อมวิมาน จะตีพิมพ์กับ สำนักพิมพ์ อรุณ ชุด Love Square ค่ะ

เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น “แผนก่อการรัก”

คาดว่าจะวางแผงช่วงกรกฎาคมที่จะถึงนี้

เดี๋ยวปกเสร็จแล้วจะเอามาให้เพื่อนๆ ยลโฉมกันนะคะ
Tags: ศิรา ศิวกรณ์ อันดามัน แผนก่อการรัก เอื้อมวิมาน

ตอน: ลงให้อ่านเป็นตอนสุดท้าย

เพียงฤทัยนอนฟังเสียงกุกกักเปิดปิดลิ้นชักตู้เสื้อผ้าที่ดังอยู่เบื้องหลังนิ่งๆ คอยจนได้ยินเสียงประตูห้องงับลงสนิทแล้ว จึงยอมลุกขึ้นมานั่ง ดวงตาเธอบวมช้ำจากการนอนร้องไห้มาตลอดทั้งคืน

หญิงสาวเหม่อมองรอบๆ อดีตห้องหอ คอยจนได้ยินเสียงติดเครื่องรถอันเป็นเครื่องหมายบอกว่าบุรัณออกไปทำงานแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างทอดอาลัย ภาพสะท้อนจากกระจกเงาดูทรุดโทรมผิดตาไปเพียงชั่วข้ามคืน

‘พี่ตั้งใจว่าหลังแต่งงานกับเอ็มแล้ว พี่จะย้ายไปอยู่คอนโด.เขาชั่วคราว เราจะซื้อบ้านหลังใหม่ แล้วค่อยย้ายไปอยู่ด้วยกัน ระหว่างนี้ฤทัยจะอยู่ที่นี่ต่อไปก็ได้นะ’

บุรัณคงไม่รู้ว่าสีหน้าวาดฝันอย่างมีความสุขของเขา เป็นคล้ายมีดคมที่กรีดหัวใจเธอให้ขาดเป็นริ้ว เพียงฤทัยไม่กล้าถามตัวเองด้วยซ้ำ ว่าเขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็นเมินมองไม่เห็นว่าเธอรักเขามากเพียงใด

บางที...หญิงสาวก็กลัวคำตอบที่จะได้รับ หากต้องทำความเข้าใจว่าบุรัณรู้ดีว่าเธอรักเขาเพียงใด แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่แยแสกับมันเลยสักนิด!

เพียงฤทัยเฝ้าหลอกตัวเอง ใช้ความรักบังตา ทำให้ไม่เคยมองเห็นความเห็นแก่ตัวของผู้ชายที่นอนร่วมเตียงเดียวกันมาตลอดหนึ่งปี แต่มาวันนี้...วันที่หัวใจเจ็บจนไม่เหลือที่ว่างไว้หาคำแก้ตัวใดให้กับการกระทำของเขา หญิงสาวจึงยิ่งปวดร้าว เมื่อต้องยอมรับกับสภาพความเป็นจริง

เธอรักผู้ชายคนที่เห็นแก่ตัวเหลือเกิน

นั่นล่ะ...ที่น่าเศร้า

ถ้าเขาแสนดีแล้วเธอยังรัก มันก็คู่ควรกัน แต่นี่...เขาใจร้ายขนาดนั้น แต่เธอกลับยังรัก ช่างเป็นความจริงที่น่าสมเพชอย่างหาที่เปรียบมิได้!

หลังจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย เพียงฤทัยตบใบหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนเริ่มต้นเก็บรวบรวมของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าใบเล็ก กล่องชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่เธอซื้อมาสำรองไว้ ถูกโยนลงถังผงอย่างไม่ไยดี มันไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว ความดีที่กระทำต่อกัน รวมถึงความพยายามทั้งหมดที่เธอพยายามยื้อรั้งชีวิตแต่งงานเอาไว้ มาบัดนี้ทุกสิ่งช่างไร้ค่าสิ้นดี!

หญิงสาวเรียงเสื้อตัวสุดท้ายวางลงในกล่องกระดาษเบื้องหน้า กวาดตามองตู้เสื้อผ้าที่ว่างเปล่าอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่ามิเหลือสิ่งใดตกค้างอยู่แล้ว จึงไปเก็บเครื่องสำอางและขวดครีมทั้งหลายบนโต๊ะเครื่องแป้งเรียงใส่กระเป๋าเดินทาง สุดท้ายจึงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งจากกระเป๋าสะพาย เปิดตู้เซฟหยิบกล่องกำมะหยี่ใส่เครื่องประดับออก แล้ววางกระดาษแผ่นนั้นไว้แทนที่

ดวงตากลมโตกวาดมองรอบห้องคล้ายต้องการจำหลักไว้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนไปหยุดอยู่ยังรูปบ่าวสาวที่ถ่ายในวันแต่งงาน ชีวิตคู่...ที่บัดนี้ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว!

น้ำตาพร่างลงบนพวงแก้มนวล หญิงสาวทรุดฮวบลงบนพื้นซบหน้ากับเตียงหลังใหญ่ที่เคยมีความทรงจำมากมายเกิดขึ้น มือเล็กกำแน่นจนปลายเล็บจิกลงในเนื้อ หากเจ้าตัวไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดนั่นเลยสักนิด เพราะเธอผ่านความเจ็บปวดอย่างที่สุดมาแล้ว

ก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่อก เพียงฤทัยถอนสะอื้นจนเจ็บลึกข้างใน นึกอยากสั่งให้หัวใจเกลียดบุรัณได้ง่ายๆ เหลือเกิน

ดูเถิด...ทั้งที่เขารู้แก่ใจว่าจะหย่ากับเธอทันทีที่แต่งงานครบหนึ่งปี แต่เขาก็ยังใจร้ายมากพอที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ ปล่อยให้เธอเฝ้ารักเฝ้าภักดีเรื่อยมา หลอกให้เธอมีความหวังว่าสักวันเขาคงจะรักเธอได้!

เขาช่างใจร้ายได้อย่างเหลือเชื่อ จะทำดีต่อกันไปทำไม ถ้าไม่เคยคิดจะรักกันเลยสักนิด

ตลอดเวลาที่จำใจต้องเป็นสามีของเธอ เขาเฝ้าแต่นับวันคอยที่จะหย่าร้าง ขนาดนี้แล้วเธอจะมัวไปเสียน้ำตาให้คนอย่างนั้นทำไมกัน ไม่มีประโยชน์ที่จะรักผู้ชายที่ไม่เคยมีหัวใจไว้ให้เธอ!

มือน้อยแตะลงที่หน้าท้องอย่างหวงแหนปกป้อง ริมฝีปากบางแต้มยิ้มเกรียม

เมื่อเขาฆ่าเธอทั้งเป็นได้ จากนี้ไป...เธอก็ไม่จำเป็นต้องถนอมความรู้สึกของเขาแล้วเช่นกัน!





อันดามันกอดตัวเองแน่นเข้า อากาศช่างหนาวจับใจจนเธอร้าวไปถึงกระดูกเลยก็ว่าได้ ร่างเพรียวขดตัวซุกลงในโปงผ้าห่มฟันกระทบกันกึกๆ

เสียงงึมงำที่ดังหึ่งๆ อยู่รอบกายทำให้นึกรำคาญจนต้องยกมือขึ้นปัดมันให้พ้น ทว่าเมื่อเกิดอาการปวดตึงแปลบๆ ที่ใต้ไหปลาร้าด้านขวา อันดามันก็สะดุ้งโหยง ปรือตาขึ้นอย่างยากเย็น

“ดีใจจัง ที่เอ็มตื่นเสียที นี่ถ้าคุณยังไข้สูง แล้วก็หลับสนิทอย่างนี้อีกแค่ห้านาที ผมจะเรียกพยาบาลแล้วนะนี่” ใบหน้าที่ก้มลงมาแทบชิดทำให้หญิงสาวผงะกดศีรษะลงแนบกับหมอนด้วยความตกใจ ตราบกระทั่งภาพเบลอที่เห็นตรงหน้าเริ่มชัดขึ้น อันดามันจึงพึมพำเสียงแหบ

“คุณเล็ก...”

“ลุกไหวไหม ฝืนใจขึ้นมากินยาหน่อยสิ พยาบาลเอามาส่งให้พร้อมข้าวเช้าตั้งนานแล้ว นี่แผลเอ็มคงจะอักเสบน่ะ ตัวร้อนจัดเชียว” พูดพลางบุตรชายรัฐมนตรีก็ถือวิสาสะช้อนมือไปใต้หลังอันดามัน ประคองเธอให้นั่ง แล้วสอดหมอนไว้ด้านหลังให้คนเจ็บพิงได้สะดวก

ยาเม็ดในถ้วยตะไลเล็กถูกส่งมาให้คนเจ็บรับไปทานโดยไม่อิดเอื้อน

“สงสัยเอ็มคงจะไปทำงานไม่ไหว” อันดามันเอนศีรษะพิงหมอน หลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน คงไม่รู้ว่าสารรูปของตนเองนั้นเป็นอย่างไร

“ถึงคุณไปไหว ผมก็ไม่ให้ไปหรอก เอ็มต้องพักผ่อนก่อน อย่างน้อยก็สองสามวันอย่างที่คุณหมอสั่ง ผมจะอยู่ดูแลคุณเอง รับรองไม่ต้องกลัวว่าจะเหงา”

“อะไรกันคะ เย็บแค่ห้าเข็มเอง ทำไมต้องพักนานจังคะ บริษัทคงไล่เอ็มออกแหงๆ ขืนขาดงานนานขนาดนั้นน่ะ” คนพูดเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“ห่วงงาน หรือห่วงใครที่บริษัท กลัวเขาเข้าใจผิดกันแน่ ฮึ!” ศิรากระซิบถาม เป็นผลให้อันดามันแหนบมือลงที่ท่อนแขนเขาทั้งๆ ป่วยนั่นล่ะ

“กลัวเขาจะเข้าใจถูกมากกว่าค่ะ” ขนาดสมองมึนๆ หญิงสาวก็ยังคงตอบโต้กับเขาอย่างไม่ยอมแพ้อยู่ดี “เอ็มไม่อยากให้คุณเล็กเสียการเสียงาน แถมยังอาจเสียชื่อเพราะเอ็มขนาดนี้”

ศิราทั้งขันทั้งฉิว “โลกมันหมุนกลับทิศหรือยังไง เอ็มถึงต้องมาห่วงชื่อเสียงของผมมากกว่าตัวเองน่ะ”

“คนอย่างเอ็ม เจอข่าวมาแล้วทุกรูปแบบ ถ้าจะเจอข้อหาจ้องจับศิรา ศิวกรณ์ ทำเสน่ห์จนเขาต้องมานั่งเฝ้านอนเฝ้าถึงที่โรงพยาบาลอีกสักเรื่อง ก็ไม่เห็นจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้สักเท่าไรหรอก แต่คุณเล็กน่ะมีหน้าที่การงาน หน้าตาขององค์กรที่ต้องรักษา ถูกลือว่าเสียรู้ แพ้มารยาของเอ็ม มันจะส่งผลลบกับคุณมากกว่า”

“ไม่เอา! เราอย่าพูดเรื่องน่าเบื่อกันแต่เช้าเลย เอ็มลุกไหวไหม ไปล้างหน้าแล้วมากินข้าวเช้ากันดีกว่า”

“เอ็มลุกไหวค่ะ” อันดามันขยับตัวช้าๆ เพื่อมิให้กระเทือนแผล เธอทดสอบทิ้งน้ำหนักลงที่เท้าและค่อยๆ ลุกขึ้นยืน โดยมีศิรายืนอยู่ใกล้ๆ พร้อมจะผวาเข้ามารับทันควันถ้าเกิดเธอหมดเรี่ยวแรงกะทันหัน

ร่างเพรียว ที่แม้ใบหน้าจะยังเผือดซีดเนื่องจากเพิ่งฟื้นไข้ ส่งยิ้มภูมิใจให้ชายหนุ่ม “เป็นไข้แค่นี้ สบายมากค่ะ” หญิงสาวสะบัดข้อมือ ทดสอบเหย่าตัวเพื่อให้มั่นใจว่ายืนไหวแน่ๆ แล้ว จึงเดินไปที่ห้องน้ำด้วยตัวเอง

ศิราเดินเคียงข้าง แม้ไม่ประคับประคอง แต่ท่าทีบอกชัดว่าหากเธอซวนเซแม้แต่น้อย เขาก็พร้อมจะคว้าไว้ได้ทันท่วงที

อันดามันชายตาเหลือบมองคนข้างกายพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา เป็นกิริยาที่คนสองคนสื่อสารกันโดยปราศจากคำพูด เมื่อคนหนึ่งภาคภูมิใจกับความเข้มแข็งของคนเจ็บ ขณะที่เจ้าตัวเองบอกด้วยภาษากาย ว่าเธอยังไหว ไม่ต้องเป็นห่วง!





เสียงทุ่มเถียงตะคอกใส่กันที่ดังแว่วๆ อยู่ปลายหู ทำให้ภรตีต้องขยับตัวบิดกายอย่างเกียจคร้าน หากเพราะเสียงนั้นยังคงดังมาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดหญิงสาวจึงลืมตาขึ้นนั่งสลึมสลือมองรอบห้อง พยายามทบทวนว่าตนเองกำลังอยู่ที่ใด

นักแสดงสาวมองชุดนอนวาบหวิวเนื้อบางใสสีแดงสดซึ่งแทบปิดบังอะไรไม่มิดที่สวมอยู่แล้วขมวดคิ้ว เธอนิ่งคิดชั่วครู่จึงนึกได้ว่านี่คือห้องพักส่วนตัวของศิราที่โรงแรมคีรีธารากรุงเทพฯ นั่นเอง

แม้จะผิดหวังที่ทุกอย่างผิดแผนไปหมด เพราะศิราดันไม่กลับมาค้างคืนที่นี่ เพื่อให้เธอบรรเลงเพลงสวาทมัดใจตามที่ตั้งใจไว้ แต่ภรตีก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า...ทำใจ!

หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปตามทิศทางที่ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาให้ได้ยิน ไม่นำพาที่จะหาเสื้อคลุมมาสวมทับเลยด้วยซ้ำ มือที่เกาะอยู่ตรงลูกบิดขยับจะหมุนเปิดประตูเพื่อทะลุไปสู่ห้องทำงานของศิรา แต่คำพูดที่ได้ยินผ่านหูก็ทำให้เธอชะงัก

“พ่อขอร้อง เล็กอย่ายุ่งกับหนูเอ็มเขาได้ไหมลูก”

ภรตีลดมือลงโดยอัตโนมัติ พร้อมกับกดหูแนบประตู ฟังสิ่งที่เกิดขึ้นอีกฟากหนึ่งของบานไม้หนาหนักนี้อย่างตั้งใจ

“ผมยังคงรอฟังเหตุผลจากพ่ออยู่นะฮะ ว่าทำไมผมถึงจะคบกับเอ็มไม่ได้” ภรตียิ้มบางๆ นี่ล่ะ เสียงเรียบๆ นิ่งๆ ตามสไตล์ของศิราตัวจริง!

“เอ็มเขาไม่ใช่คนอย่างที่เล็กคิดว่าเป็นหรอกนะ เล็กรักเขาไม่ได้หรอก”

“แต่ผมก็รักไปแล้ว และที่สำคัญ...ผมกำลังจะแต่งงานกับเอ็ม” เขาโต้ทันควัน ขนาดว่าเคยได้ยินศิราประกาศแบบนี้ด้วยปากตัวเองมาแล้ว แต่ภรตีก็พบว่าการต้องฟังมันเต็มๆ หูอีกครั้ง ให้ความเจ็บใจรุนแรงได้ไม่แพ้ครั้งแรกเลยทีเดียว

“หมายความว่ายังไง นี่ลูกคงไม่ได้...ล่วงเกินหนูเอ็มเขาหรอกใช่ไหม” ขนาดมีบานประตูกั้น ภรตียังจับเสียงสั่นๆ ที่ปลายประโยคนั้นได้ชัดเจน

“ผมขอเอ็มแต่งงาน และเธอก็ตอบตกลงแล้วด้วย เอ็มออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ผมจะพาเอ็มไปกราบพ่อกับแม่อย่างเป็นทางการ”

“เล็กเพิ่งรู้จักหนูเอ็มไม่นานเลยนะ”

“ความรักมันไม่ต้องใช้เวลานี่ฮะ”

“แน่ใจแล้วหรือว่าเล็กรู้จักหนูเอ็มดีพอแล้วน่ะ บางทีเขาอาจไม่ใช่คนดีอย่างที่เล็กคิดก็ได้นะ”

“ไม่ใช่คนดี? พ่อหมายถึงอะไรล่ะฮะ”

ภรตีแนบหูติดกับประตูแน่นเข้า กลัวพลาดฉากสำคัญ เธอได้ยินกระทั่งเสียงทอดถอนใจของคีรีด้วยซ้ำ

“เอ็มเขาขอให้พ่อคอรัปชั่น!”

บุคคลที่สามหูผึ่ง แทบจะตะกายประตูเพื่อเข้าประชิดเหตุการณ์ เก็บรายละเอียดทุกวินาทีเลยก็ว่าได้

“พ่อ! เพียงเพื่อจะแยกผมกับเอ็ม นี่พ่อต้องใส่ร้ายเอ็มขนาดนี้เลยหรือ”

“เล็ก...พ่อไม่ได้ใส่ร้าย ที่เขาถูกปองร้ายก็เป็นเพราะเสี่ยบุญธรรมไม่พอใจที่พ่อยอมให้หนูเอ็มล็อกสเป็ค จนมันเสียผลประโยชน์ยังไงล่ะ เล็กลืมไปแล้วหรือ”

เสี่ยบุญธรรมๆๆๆ ภรตีท่องชื่อตัวละครใหม่ที่โผล่มาในบทสนทนาซ้ำๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ลืม

“ผมไม่เชื่อหรอก ใครเขาก็รู้กันทั้งเมืองว่าพ่อไม่เคยคอรัปชั่น” ศิราโวยเสียงเข้ม

“กับคนอื่นน่ะใช่ แต่ถ้าเป็นโครงการไหนที่หนูเอ็มเขาต้องการ พ่อ...ก็มีข้อยกเว้นให้เขาเป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน ถ้าเล็กไม่เชื่อ จะถามบัณฑิตดูก็ได้ จะได้รู้ว่าพ่อไม่ได้โกหกเรื่องหนูเอ็ม”

“ทั้งที่พ่อยึดถืออุดมการณ์ของตัวเองขนาดนั้น แต่พ่อกลับ...ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ลืมคำมั่นที่บอกกับแม่ว่าจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง พ่อทำทั้งหมดนั่น...เพื่อเอ็มอย่างนั้นหรือ”

“มีเหตุผลอีกมากมายเล็ก แต่พ่อบอกลูกไม่ได้ เอาเป็นว่าพ่อขอร้อง อย่ายุ่งกับหนูเอ็มเขาเลย ที่เล็กขอเขาแต่งงานนั่น ก็...จะยกเลิกจะทำอะไรยังไงก็ได้ ได้ไหม?”

ภรตีไม่คอยฟังคำตอบ เธอย่องกลับมาหยิบเสื้อผ้าชุดเดิมเข้าไปผลัดในห้องน้ำ ล้างหน้าพอให้สดชื่น หยิบข้าวของส่วนตัวปลดล็อกแล้วเปิดประตูบานเล็กอีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นช่องทางสำหรับผ่านเข้า-ออกของพนักงานทำความสะอาด เธอลัดเลาะไปตามเส้นทางที่วกวนเหมือนรังมดแดงที่พนักงานใช้ เพื่อวิ่งลงบันไดหนีไฟจนมายังชั้นที่พักของแขกปกติ แล้วจึงมากดปุ่มเรียกลิฟท์ลงไปยังชั้นล่างสุด

ระหว่างนั้นนักแสดงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดข้อความยิกๆ ส่งไปยังผู้รับหลายราย

“ตี้เพิ่งออกจากห้องเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวของศิรา ศิวกรณ์มาสดร้อนๆ แล้วก็มีข่าวเด็ดเกี่ยวกับท่านรัฐมนตรีคีรีมาขายด้วย พี่นักข่าวคนไหนสนใจโทร.หาตี้ได้นะคะ!”

รอยยิ้มเกรียมแต้มบนใบหน้า บอกชัดว่าเจตนาของสิ่งที่กำลังกระทำอยู่คืออะไร...

ขอโทษทีนะอันดามันที่ต้องใช้วิธีแบบนี้ ช่วยไม่ได้...ในเมื่อเธอดันมาขวางทางฉันเอง!

คราวนี้ดูสิว่าเธอจะมีหน้าไปให้ใครเห็นอีก คั่วพ่อ ควงลูกขนาดนี้ เอาหัวเป็นประกันเลยว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่จะไม่มีวันยอมรับสถานภาพและความสัมพันธ์ระหว่างศิรากับยายนั่น ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม

ผู้หญิงคนนั้น...ธาราริน ศิวกรณ์!





‘ฉาวได้อีก! รัฐมนตรีตงฉินฮั้วประมูล หวังเคลมหญ้าอ่อน!’

ศิรากวาดตาอ่านพาดหัวใหญ่บนหนังสือพิมพ์ข่าวสยามซ้ำไปมาเพื่อให้แน่ใจว่าสายตามิได้รับข้อมูลผิดพลาด เขาเงยขึ้นสบตาเลขาฯ ที่วิ่งหน้าตั้งนำหนังสือพิมพ์มาส่งให้

“คุณพรอ่านเนื้อข่าวหรือยัง”

“เนื้อหาไม่มีรายละเอียดมากนักหรอกค่ะ มีแค่คำอ้างอิงลอยๆ ของแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อที่ยืนยันว่าโครงการที่ท่านรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติไป มีการล็อกสเป็คและฮั้วประมูลกัน”

ศิราเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างร้อนใจ “แล้วมีหนังสือพิมพ์ฉบับไหนพูดถึงข่าวที่ผมกับคุณอันดามันถูกลอบยิงบ้างไหม?”

อ้อมพรเบิกตากว้าง “คุณศิราถูกลอบยิงหรือคะ ดิฉัน...ดิฉันไม่ทราบเลย ในหนังสือพิมพ์ก็ไม่เห็นมีฉบับไหนพูดถึงเลยด้วย”

“ไอ้บุญธรรมมันซื้อนักข่าวไว้ได้ทั้งหมดเลยหรือเนี่ย บ้าชะมัด!” ศิราปัดหนังสือพิมพ์ทั้งกองกวาดลงจากโต๊ะด้วยความฉุนเฉียว จนเลขานุการิณีสาวใหญ่ถึงกับสะดุ้ง แม้ที่ผ่านมาศิราจะใจร้อน เอาแต่ใจตัวเองอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาแสดงความไม่พอใจรุนแรงเช่นนี้มาก่อนเลย

“คุณพรมีอะไรก็ไปทำเถอะ” เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายออกจากห้อง ซึ่งอ้อมพรก็รีบค้อมตัวแล้วเผ่นออกไปทันทีที่ได้รับอนุญาต

ศิราหยิบโทรศัพท์มาต่อสาย เขาทนฟังเสียงสัญญาณว่างด้วยหัวใจที่รุ่มร้อนราวมีกองเพลิงสุมขอนที่พร้อมจะลุกเริงแรงได้รวดเร็ว

“สวัสดีครับคุณศิรา ผมบัณฑิตครับ” เสียงที่ตอบกลับมา ทำให้ชายหนุ่มต้องดึงโทรศัพท์ออกมาดูที่หน้าจอด้วยความประหลาดใจ เพราะเขามั่นใจว่าเมื่อครู่ต่อสายหาบิดา มิใช่ที่ปรึกษาส่วนตัวของท่าน!

“ท่านไม่สะดวกรับสายน่ะครับ” บัณฑิตอธิบายราวกับได้ยินคำถามที่ดังอยู่ในใจของเขากระนั้น

“คุณเห็นข่าวหรือยัง”

“เห็นแล้วครับ”

“งั้นคุณบัณฑิตช่วยบอกให้ผมฟังที ว่านี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน” ศิราพบว่าขนาดจะบังคับให้ตนเองเชื่อเช่นนั้น เขายังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

“ขออภัยครับคุณศิรา แต่ผมไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลทางราชการกับบุคคลภายนอก”

ความโกรธ ไม่พอใจ และอึดอัดทำให้ศิรากดตัดสายโดยไม่บอกลา เขานิ่งคิด แล้วจึงเรียกไปยังเลขหมายของใครอีกคนหนึ่งแทน...

“พี่สุ...พ่อยอมให้อันดามันล็อกสเป็คโครงการจริงหรือ?” เขาถามตรงประเด็น มุ่งไปสู่สิ่งที่ต้องการทราบโดยไม่มีการทักทายสักคำด้วยซ้ำ

“คุณเล็ก...” สุรีย์พึมพำเสียงแผ่ว “ไปเอามาจากไหนกันคะ อย่าบอกนะว่าเชื่อข่าวในหนังสือพิมพ์น่ะ”

“พ่อบอกผมเอง แต่ผมไม่เชื่อ จนเห็นข่าวนั่นแหละ ผมแน่ใจว่าพี่สุน่ะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพ่อ เพราะฉะนั้น...ขอร้องล่ะ บอกผมทีว่าข่าวนั่นจริงเท็จแค่ไหน” ศิราอ้อนวอนสาวใหญ่ผู้เป็นเลขานุการิณีคนสนิทของบิดา

เขาได้ยินเสียงถอนใจลอดมาเบาๆ ก่อนที่สุรีย์จะยอมเปิดปาก

“เรื่องนี้มีแค่ท่าน คุณที่ปรึกษา แล้วก็พี่เท่านั้นที่รู้ อันที่จริงแล้วมันไม่ควรจะไปถึงหูนักข่าวได้เลย เพราะเราทั้งสามคนไม่มีวันแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปโดยเด็ดขาด”

ศิราหลับตาลงอย่างผิดหวัง “แปลว่าข่าวนั่นเป็นเรื่องจริง”

“คุณเล็กจำได้ใช่ไหมที่พี่เคยเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนนี้สนิทสนมกับท่าน แถมยังชอบออดอ้อนกันเป็นพิเศษด้วยน่ะ พี่น่ะพยายามมองในแง่ดีว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกัน แต่ลึกๆ ก็อดคิดไม่ได้นะคะ เพราะงานอื่นๆ ที่ท่านอนุมัติไปน่ะ พี่รับประกันได้เลยว่าเป็นการประกวดราคาที่บริสุทธิ์ผุดผ่องร้อยเปอร์เซ็นต์ จะมีก็แต่งานที่อันดามันคนนี้ได้ไปเท่านั้นแหละ ที่มีการล็อกสเป็ค”

“ขอบคุณมากนะครับพี่สุ” ศิราฝืนอือออสนทนาต่ออีกสองสามประโยคก็วางสายลงอย่างหมดเรี่ยวแรง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกที่หลากหลายอยู่ในหัวใจคืออะไรกันแน่

มือคร้ามลูบหน้าแรงๆ เพื่อสลัดความหดหู่ออกจากใจ ถึงตรงนี้แล้วศิราไม่กล้าถามตัวเองว่าเขาผิดหวังกับสิ่งใดมากกว่ากัน

ระหว่างการได้รู้ว่าบิดาปันใจให้กับสตรีอื่น แถมยังรักมาก...เสียจนยอมทรยศต่ออุดมการณ์ และหักหลังความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้หญิงที่ตนเองเคยประกาศให้โลกรู้ว่ารักที่สุดอย่างคุณหญิงธารารินผู้เป็นภรรยา

หรือการต้องยอมรับว่าอันดามันมิใช่คนอย่างที่เขาคิดว่าเธอเป็น! เธอรู้ตัวว่าเป็นที่รักใคร่เสน่หาของคีรี และใช้ความรักนั้นแหละบีบให้คีรีจำต้องคอรัปชั่น!

ศิรานิ่งอยู่ในอิริยาบถเดิมเนิ่นนานกว่าจะได้สติ เขาเรียกไปยังเลขหมายที่คฤหาสน์ของบ้านศิวกรณ์ เพื่อจะพบว่าปลายทางมีแต่สัญญาณสายไม่ว่าง

เขาลองใหม่ด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือของมารดา ก็พบว่าท่านปิดเครื่อง

ชายหนุ่มไม่ละความพยายาม เขาต่อสายไปยังหมายเลขสายพิเศษของบ้านศิวกรณ์อีกครั้ง

“ป้าน้อมใช่ไหม เดี๋ยวป้ารีบไปเก็บหนังสือพิมพ์ทั้งหมดออก อย่าให้คุณแม่เห็นนะ แล้วก็ห้ามใครในบ้านเปิดทีวีหรือวิทยุโดยเด็ดขาดเข้าใจไหม”

“ป้าเกรงว่าคงจะไม่ทันการณ์แล้วล่ะค่ะคุณเล็ก เพราะ...คุณหญิงท่านเห็นข่าวนั่นแล้ว”

ศิราวางสายหมดเรี่ยวแรง เขาลุกขึ้นอย่างคนไร้วิญญาณ ซองเอกสารที่เพลินพิศส่งมาให้จากภูเก็ตวางนิ่งอยู่บนโต๊ะเตือนใจให้นึกไปถึงอันดามัน สุดท้ายชายหนุ่มคว้าซองสีน้ำตาลนั้นติดมือกลับมาที่รถ เขาติดเครื่องแล้วชั่งใจ ก่อนตัดสินใจทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง...

ถึงวินาทีนี้แล้วไม่มีใครหรืออะไรจะสำคัญไปกว่ามารดาของเขาอย่างแน่นอน!





ในบ้านเดี่ยวชานเมือง ณ อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันนั้น กลับก่อความรู้สึกแก่คนอ่านเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

ปัณรสียิ้มพอใจ มีความหวังเต็มเปี่ยมว่าเมื่อบุรัณเห็นข่าวมั่วฉาวโฉ่ของอันดามัน บุตรชายของท่านจะต้องตัดใจจากผู้หญิงคนนั้นได้เด็ดขาดเสียที!

ทว่าความวาดหวังของปัณรสีก็ต้องพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า เมื่อเธอละสายตาจากข้อความเบื้องหน้าและพบว่าเพียงฤทัยกำลังหิ้วกระเป๋าเดินทางลงบันไดมาด้วยตนเอง

“ฤทัย! เกิดอะไรขึ้น นี่หนูจะเก็บกระเป๋าไปไหนกันจ๊ะ”

เพียงฤทัยมิได้หยุดตอบคำถามเธอ แต่กลับลากกระเป๋าออกจากบ้านไปดุจว่าไม่ได้ยินคำถามนั้น

“ฤทัย!” ปัณรสีถลันไปคว้าแขนลูกสะใภ้เอาไว้ แต่เพียงฤทัยบิดแขนออกอย่างสุภาพ สีหน้าที่หันมาทางอดีตแม่สามีมีร่องรอยพิศวง

“นี่พี่รัณเขายังไม่ได้เรียนให้คุณป้าทราบหรอกหรือคะ ว่าฤทัยกับเขาหย่ากันแล้ว ฤทัยจะกลับไปอยู่บ้านแม่ ส่วนบ้านหลังนี้...” เธอแหงนมองบ้านทั้งหลังที่มารดาซื้อให้เป็นของขวัญวันแต่งงานแล้วยิ้มหยัน

“ก็แล้วแต่คุณป้าจะจัดการก็แล้วกัน”

“หย่า! นี่หนูล้อแม่เล่นใช่ไหม”

เพียงฤทัยหัวเราะเสียดสี “ถ้าเป็นคุณป้าเอง จะเอาเรื่องอย่างนี้มาล้อเล่นหรือคะ”

“แม่ไม่เข้าใจ เมื่อวานฤทัยกับตารัณก็ยังดีๆ กันอยู่ ทำไมวันนี้จู่ๆ มาบอกว่าหย่ากันแล้ว”

“ถามลูกชายคุณป้าเถอะค่ะ เพราะคนที่ต้องการหย่าไม่ใช่ฤทัย ถ้าคุณป้าสงสัยอะไร ไปคุยกับพี่รัณนะคะ ส่วนตอนนี้ฤทัยต้องขอตัวก่อน” หญิงสาวพนมมือทำความเคารพอดีตแม่สามี แล้วลากกระเป๋าออกจากบ้าน ไปใส่รถยุโรปคันโต ขับออกไปโดยไม่สนใจคำทัดทานใดๆ ทั้งสิ้น

ปัณรสีขยำหนังสือพิมพ์บนโต๊ะจนแหลกยับคามือ ดวงตาวาววับด้วยความโกรธเกรี้ยว

ที่ชีวิตครอบครัวของบุรัณต้องย่อยยับป่นปี้อย่างนี้ เป็นเพราะเธอคนเดียว...อันดามัน!

ในเมื่อเตือนกันดีๆ ก็แล้ว ใช้ความรุนแรงก็แล้ว แต่เธอก็ยังหน้าด้านไม่เปลี่ยน

เพราะฉะนั้นฉันคงต้องสั่งให้คนของฉันลงมือซ้ำอีกครั้งเสียแล้ว

รับรองว่าคราวนี้เธอคงไม่มีหน้ามาอวดดีกับฉันหรือใครๆ อีกเลยอย่างแน่นอน!





ธารารินนั่งมองภาพข่าวที่กำลังปรากฎบนหน้าจอโทรทัศน์ซึ่งแทรกรายการปกติของหลายช่องสถานีด้วยสีหน้านิ่งงัน

ผู้สื่อข่าวทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์พากันสืบประวัติย้อนหลังถึงการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการของคีรีอย่างละเอียด และพบว่ามีงานประมูลระบบคอมพิวเตอร์มูลค่า ๗๘ ล้านบาทเพียงงานเดียวเท่านั้นที่เกี่ยวพันกับบริษัทฟิวเจอร์เทคโนโลยีและอันดามัน ซึ่งนำไปสู่บทสรุปที่ว่าอาจมีการล็อกสเป็คเพื่ออันดามันจริงๆ !

ธารารินลองเปลี่ยนช่องโทรทัศน์เพื่อจะพบว่าช่วงข่าวของทุกสถานีพร้อมใจกันเสนอข่าวนี้ และบางช่องถึงกับทำเป็นสกู๊ปพิเศษ ระบุวันเวลาที่เด็กสาวคราวลูกผู้นั้นเข้าพบสามีของเธอแต่ละครั้ง ทั้งยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของหน่วยรักษาความปลอดภัยที่กระทรวงฯ เป็นหลักฐานยืนยันว่าทั้งคู่สนิทสนมกันมากมายเพียงใด!

ไม่เพียงเท่านั้นข่าวเก่าเมื่อครั้งฟิวเจอร์เทคโนโลยีโดนข่มขู่ ก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาตั้งข้อสันนิษฐานใหม่ ว่าอันดามันอาจการสร้างข่าวขึ้นเองเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ มิให้ผู้คนพุ่งเป้าไปที่การคอรัปชั่น

เนื้อข่าวส่วนที่เลวร้ายที่สุดก็คือบทสัมภาษณ์ผู้ชายหลายคนซึ่งปิดบังชื่อและใบหน้า ซึ่งอ้างว่าเป็นอดีตลูกค้าผู้เคยเรียกใช้บริษัทฟิวเจอร์เทคโนโลยี ที่ออกมาเปิดเผยว่าอันดามันมีผลประโยชน์แอบแฝงบางอย่างมอบให้กับลูกค้าเพื่อแลกกับการชนะงานประมูล

ตอนท้ายของสกู๊ปพิเศษมีการสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีถึงกระแสเรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนหาข้อเท็จจริง เรื่องที่รัฐมนตรีคีรีรับสินบน และมีการฮั้วประมูล ทั้งที่ก่อนหน้าชื่อเสียงของคีรี ศิวกรณ์นั้นไม่เคยด่างพร้อยในเรื่องการคอรัปชั่นโกงกินเลยสักครั้ง

ท่านนายกฯ มีสีหน้าลำบากใจ หากก็ยังปกป้องคีรีด้วยการยืนยันความบริสุทธ์ใจ และเชื่อว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่ก็เป็นการใส่ความป้ายสีกันทางการเมืองเพื่อลดความน่าเชื่อถือของคีรีเท่านั้น โดยจะขอสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วยตนเอง และยืนยันกับสื่อมวลชนว่าหากคีรีผิดจริง ท่านก็จะลงดาบอย่างหนักเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคณะรัฐมนตรีคนอื่นๆ ต่อไป

ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่กระทรวงป้องกันสาธารณภัยและบ้านพักส่วนตัวของคีรี ศิวกรณ์ด้วยความหวังว่ารัฐมนตรีผู้อื้อฉาวจะยอมให้สัมภาษณ์บ้าง ทว่าต่างก็ต้องคว้าน้ำเหลวกันหมด

ธารารินมองภาพที่คีรีปฏิเสธการตอบทุกคำถามและฝ่ากลุ่มนักข่าวมาขึ้นรถเบนซ์กันกระสุนที่จอดคอยอยู่ฉายซ้ำไปมา ขณะเนื้อหาจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับขุดคุ้ยรายละเอียดข่าวกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

คุณหญิงแห่งบ้านศิวกรณ์ย้ำให้ตนเองหนักแน่นเข้าไว้ ตราบเท่าที่ยังไม่ได้รับฟังคำอธิบายจากสามี เธอจะเชื่อมั่นในตัวบุรุษผู้เป็นที่รัก ว่าเขาไม่มีวันทำผิดศีลธรรมอย่างที่นักข่าวพยายามชี้นำอยู่แน่นอน

ด้วยความที่เผชิญสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สุภาพสตรีสูงวัยจึงตั้งสติสั่งการเด็กในบ้านเพื่อเตรียมรอรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ

โทรศัพท์ทุกเครื่องในบ้านถูกยกสายออกเพื่อตัดการติดต่อจากคนรู้จักและไม่รู้จักทั้งหลาย ขณะประตูรั้วซึ่งเคยเปิดกว้างไว้ตลอดสำหรับให้แขกไปใครมาได้สะดวก บัดนี้ก็ถูกปิดจนสนิทคล้ายต้องการโดดเดี่ยวตนเองจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง

ฝูงนกน้อยในไร่ส้มมุงกลุ้มรุมกันเข้าหารถที่คีรีใช้เป็นประจำ จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับสิบนายที่ประจำการอยู่ตรงหน้าประตูต้องมากันฝูงชนให้แหวกออกเป็นแนว ให้รถแล่นผ่านรั้วเข้าไป แล้วประตูก็ปิดสนิทลง กีดกั้นอาณาบริเวณภายนอกและภายในออกจากกันอีกครั้ง

ธารารินคอยรับหน้าเขาอยู่แล้ว สีหน้าของผู้เป็นภรรยาทั้งกังวลและเป็นทุกข์เสียจนรัฐมนตรีอาวุโสแทบหมดแรง ไม่กล้าสู้หน้า

“ขอโทษทีนะคุณริน ที่ทำให้คุณต้องเป็นทุกข์เพราะผมน่ะ” คือคำแรกที่คีรีเอ่ยเมื่อลงจากรถ

“พูดอะไรอย่างนั้นคะคุณ เข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ มีอะไรไว้ค่อยคุยกัน” ธารารินเข้ามาแตะแขนสามีจูงมือกันเดินช้าๆ

“คุณเป็นยังไงบ้าง ไม่ตกใจใช่ไหม” ผู้เป็นสามีเอ่ยถาม

“ตกใจน่ะมีบ้างค่ะ แต่ยังรับมือได้อยู่ค่ะ” ธารารินตอบให้คนฟังสบายใจ แล้วตั้งคำถามในสิ่งที่ค้างคาใจ “คุณไม่ได้คอรัปชั่นอย่างที่ในข่าวกล่าวหา...ใช่ไหมคะ”

คีรีหลบตาภรรยาทันควัน เสเปลี่ยนเรื่อง “นี่เล็กกลับมาหรือยัง”

เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รับข่าวสาร ที่ธารารินนิ่งอยู่ดังเดิมไม่ไหวอีกต่อไป เธอบีบมือลงบนท่อนแขนสามี รั้งเขาไว้ แล้วเน้นเสียงเอ่ยปากทีละคำ

“บอกให้ดิฉันทราบก่อนได้ไหม ว่าข่าวนั่นจริงหรือเท็จ”

คีรีหลับตาลงอย่างอ่อนล้า สุดท้ายจึงพยักหน้านิดๆ แทนการยอมรับ

มือที่เกาะอยู่บนท่อนแขนเขาตกลงข้างตัว ดวงตาทั้งคู่ฉายแววเจ็บปวด หยาดน้ำตารื้นขึ้นรวดเร็วธารารินไม่เอ่ยอะไรสักคำ แต่เบี่ยงตัวออกห่างจากสามี ก้าวขึ้นบันไดหน้ามุกผ่านเข้าสู่ตัวบ้านเงียบๆ ปล่อยให้คนมองตามหลังไหล่ค้อมลู่ ลำคอแห้งผากราวกับทุกคำพูดถูกกลืนหายไปในเขาวงกตอันแสนซับซ้อนจนหมดสิ้นแล้ว!

เฟอรารี่ ๔๓๐ สีดำแล่นมาจอดเอี๊ยดต่อท้ายรถเบนซ์คันโต แล้วผู้บริหารหนุ่มซึ่งทำหน้าที่สารถีด้วยตนเองก็เปิดประตูเผ่นพรวดลงมา เพื่อวิ่งตามมารดาเข้าไปติดๆ

“แม่! แม่! รอผมด้วย” เสียงนั้นรั้งให้ธารารินชะงัก และเพียงหันมาสบตาบุตรชาย ท่านก็โถมเข้ามากอดร่างสูงใหญ่ตรงหน้ายึดไว้เป็นหลัก พร้อมกับปล่อยให้น้ำตารินลงมาช้าๆ

“พ่อเขารับ...ว่าข่าวนั่นเป็นเรื่องจริง” น้ำเสียงที่พยายามกดให้ราบเรียบที่สุดบอกทุกความคับแค้นอัดอั้นในใจคนพูดจนหมดสิ้น เธอหรือสู้อุตส่าห์เชื่อใจ ภาคภูมิกับความรักของเขาตลอดมา มิคาด...วันหนึ่งความรัก ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันจะกลับกลายเป็นสิ่งไร้ค่าเพียงนี้!

เขานอกใจเธอไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคราวลูกคนนั้น!

ศิราลูบหลังมารดาอย่างปลอบโยน “พ่อเขารับแค่เรื่องคอรัปชั่นเท่านั้นเองครับแม่ ไม่ได้บอกว่าเรื่องชู้สาวนั่นเป็นจริงสักหน่อย”

“เล็กรู้ได้ยังไง เล็กเพิ่งมาถึงบ้าน ยังไม่ได้พูดกับพ่อเขาสักคำ”

“ที่ผมรู้ก็เพราะ...” ศิราคิดหนัก สุดท้ายจึงกลั้นใจอธิบาย “ผู้หญิงคนที่เป็นข่าวกับพ่อ เขาเป็นแฟนผมเอง!”

ธารารินตกตะลึง มือที่โอบบุตรชายอยู่เมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นผลักไสรุนแรง กระทั่งน้ำเสียงที่อ่อนโยนเนืองนิจก็แปรเป็นดุกร้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“เล็กว่ายังไงนะ”

“แม่ไม่ได้ฟังผิดหรอกครับ” ชายหนุ่มลูบหน้าแรงๆ เรียบเรียงคำพูดให้ออกมาฟังดูเลวร้ายน้อยที่สุด “แรกสุดเลยผมทราบมาว่าพ่อสนิทกับเอ็ม ตอนนั้นผมก็เข้าใจผิดคิดว่ามีเรื่องชู้สาวเหมือนที่นักข่าวว่านั่นแหละ ผมถึงได้พยายามแทรกเข้าไปตรงกลาง ดึงอันดามันให้หันมาหาผมแทน สุดท้าย...ผมถึงได้รู้ว่าเอ็มกับพ่อไม่ได้มีอะไรกัน แค่...ทำงานด้วยกันเท่านั้นเอง”

“ถ้าไม่ได้มีอะไรกัน แล้วทำไมพ่อของเล็กถึงกับยอมคอรัปชั่นเพื่อเด็กคนนั้น” ธารารินย้อนถามด้วยความคับแค้นใจ

“ให้ผมเป็นคนอธิบายได้ไหม...คุณริน” บุตรชายคนเล็กยังไม่ทันตอบ คีรีซึ่งเพิ่งจะเผยตัวออกจากด้านหลังบานประตูเอ่ยด้วยน้ำเสียงทรมานใจ

“ขอร้องล่ะ คุณรินฟังผมสักนิด ผมมีเหตุผลของผม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหตุผลที่อาจจะทำให้คุณเจ็บปวด แต่อย่าตัดสินผมจากสิ่งที่คนอื่นๆ เขาพูดกันเลย”

คีรีก้าวเข้ามาตรงหน้าภรรยา เขาเอื้อมมือไปพยายามจะแตะท่อนแขนเธอ แต่ธารารินกลับเบี่ยงตัวหลบ

“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ” น้ำเสียงเยียบเย็นเฉียบขาด ทำให้ศิรารีบเข้าไปโอบมารดาไว้

“ใจเย็นครับแม่”

ธารารินยืดกายตรง เชิดหน้าขึงขัง “คุณจะแก้ตัวยังไงก็ว่ามา ฉันพร้อมจะฟังแล้ว”

คีรีเบือนหน้าไปสบตาบุตรชาย และหัวใจที่เต้นโรยอยู่แล้วด้วยความทุกข์ก็แทบจะไร้เรี่ยวแรงทำงานต่อไป เมื่อเห็นสายตาที่แสดงออกถึงความผิดหวังลึกซึ้ง

“เล็ก...พ่อขอโทษ”

ศิราเมินหน้าหนี ทำทีเป็นก้มลงถามมารดา “แม่ไปนั่งที่โซฟาดีกว่านะครับ”

คีรีมองตามแผ่นหลังของสองแม่ลูกที่ประคองกันไปด้วยความสะท้อนใจ รู้ดี...สิ่งที่กำลังจะเปิดเผยออกมา มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับหัวใจทุกดวง

ทว่า...นับจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้ว

บุรุษสูงวัยเชื่อมั่นว่าคงไม่มีสิ่งไหนจะทำร้ายความรู้สึกกันไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่หรอก!








* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *





_/\_

กราบขออภัย เพื่อน พี่ น้อง ทุกท่านค่ะ
สิริณเพิ่งเซ็นสัญญาตีพิมพ์ไป
และจากการอ่านสัญญา
ทำให้พบว่า...การโพสต์เรื่องบนเน็ตต่อ
อาจมีผลกับตัวสัญญา และตัวสิริณเอง

ดังนั้นต้องกราบเรียนให้ทราบว่า
ตอนที่โพสต์ให้อ่านในวันนี้
จะเป็น ตอนสุดท้าย ค่ะ
จากนี้คงต้องรบกวนเพื่อนพี่น้อง
ติดตามต่อในฉบับหนังสือนะคะ

ขอกราบอภัยจริงๆค่ะ
ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามที่ตั้งใจเอาไว้ได้ T_T

วันนี้โพสต์ตอนที่ ๔๐ ค่ะ
นิยายมี ๔๕ ตอนจบ
น่าจะประมาณ ๖๐-๗๐ หน้าหนังสือค่ะ
(ยังไม่มีหนังสือในมือเหมือนกัน เลยประมาณไม่ถูกค่ะ)
แต่ถ้าในไฟล์ต้นฉบับ
เหลือเนื้อเรื่องอีกราว ๑/๖ ค่ะ

ถ้ายังไงต้องฝาก แผนก่อการรัก ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
หากมีเมตตาคนเขียน
ช่วยอุดหนุนกันด้วยนะคะ

นักเขียนจะอยู่ได้
ก็ด้วยแรงสนับสนุนและกำลังใจดีๆ จากเพื่อนๆ นี่ล่ะค่ะ



สิริณเคยสัญญาไว้แล้วว่าผู้ที่ร่วมคอมเม้นต์
จะได้สิทธิ์จับสลากรับหนังสือฟรี

และวันนี้...ก็ได้ชื่อมาแล้วค่ะ
ด้วยการเอาชื่อทุกคนที่เคยคอมเม้นต์มาแรนดอมหาผู้โชคดี
เม้นต์หลายหนก็ได้สิทธิ์มากหน่อย
แล้ว...ผลก็ออกมาดังนี้ค่ะ

แผนก่อการรัก 2 เล่ม ขอมอบให้

1. คุณหมูอ้วน
2. คุณปอแก้ว

สองท่านนี้สิริณมีที่อยู่แล้ว
เดี๋ยว แผนก่อการรัก มาถึงบ้านแล้ว
จะส่งให้เลยนะคะ
(หรือถ้าจะอัพเดทที่อยู่ ก็ส่งมาทางกล่องไปรณีย์ของเว็บเลิฟได้เลยค่ะ)

สำหรับรางวัลปลอบใจ
ขอมอบนิยายเรื่อง "รอยตะวัน"
ให้แก่คุณ minafiba ค่ะ

อันนี้ถ้าไม่ถือสา ขอที่อยู่เมืองไทยแบบด่วนๆ ให้ด้วยนะคะ
หนังสือหนัก ค่าส่งไปไกล
สิริณอาจจุกแอ้กได้ แหะแหะ

สำหรับท่านอื่นๆ
นอกจากคำขอบคุณแล้ว
สิริณ ยินดี ส่งโปสการ์ดไปขอบคุณเพิ่มเติม
ท่านใดยังไม่ได้หย่อนที่อยู่ไว้ให้
โปรดแนบที่อยู่ไว้ในกล่องไปรษณีย์ด้วยนะคะ
เดี๋ยวจะส่งข้อความไปทักทายกันค่ะ

ขอบคุณมากมายที่ร่วมแบ่งปันความคิดเห็น
ให้กำลังใจ
ส่งมอบความสุขให้กันมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาค่ะ

เดี๋ยวเขียนเรื่องใหม่จบ
จะรีบนำมาโพสต์ให้อ่านกันอีกนะคะ ^^



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ค. 2555, 15:22:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ค. 2555, 15:22:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 2696





<< ตอนที่ ๓๙   
สิริณ 6 ก.ค. 2555, 15:24:20 น.
# คุยกันหลังโพสต์ #

คุณ sai : สาบานได้ว่าฉากส่งท้ายหวานกว่านี้อีกค่ะ อิอิ
หากอยากเก็บความหวานของคุณเล็กไว้อ่านซ้ำๆ
ฝากอุดหนุน แผนก่อการรัก ที่ร้านหนังสือใกล้บ้านด้วยนะค้า ^^



คุณ minafiba : ไชโย! หนังสือวางแผงแล้วค่ะ
ทันจริงๆ ด้วยกับวันที่ที่คุณ minafiba จะกลับเมืองไทย
ขอบคุณล่วงหน้าที่จะอุดหนุนกันนะคะ ^^



คุณ whitelabel : แฮ่...รู้สึกผิดกันเลยทีเดียว m -_- m
ตอนที่ลงให้อ่านวันนี้
เป็นตอนสุดท้ายที่จะโพสต์ให้อ่านแล้วค่ะ
เหลืออีก ๕ ตอนค่ะ
ถ้ายังไงต้องรบกวนให้ติดตามตอนเฉลยต่อในหนังสือนะคะ



คุณหมีสีชมพู : เนื่องจากในตัวสัญญาระบุเรื่องการเผยแพร่ไว้
สิริณมีความจำเป็นต้องระงับการโพสต์ไว้แต่เพียงเท่านี้
ต้องขออภัยซ้ำอีกครั้งจริงๆ ค่ะ
รู้สึกผิดมากๆ เลยนะนี่ T_T

ฝากคุณหมีสีชมพู
ติดตามตอนที่เหลืออีก ๕ ตอน
จากในแผนก่อการรัก ที่ร้านหนังสือใกล้บ้านแทนนะคะ

ไปตามอ่านกันว่าใครกันแน่ที่เป็นคนร้ายของเรื่อง
และเหตุผลสำคัญที่คีรีห้ามไม่ให้ศิรารักกับอันดามันคืออะไร



คุณหมูอ้วน : ขอบคุณกำลังใจดีๆ ที่มีให้กัน
มาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ค่ะ
หวังว่าคุณหมูอ้วนจะได้รับความสุข และสนุกสนาน
ระหว่างที่อ่านแผนก่อการรัก ไม่มากก็น้อยนะคะ



คุณnunoi : หวานกันจนแทบหมดแม็กแล้ว
(แต่ยังมีกั๊กไว้ตอนจบนะคะ)
ระหว่างนี้หากมีเมตตาจะช่วยอุดหนุน
ติดตามฉากดราม่าเต็มๆ ในแผนก่อการรักได้เลยนะคะ



คุณแล่นแต๊ : ถ้าน่ารักแล้วก็ต้องรักนะคะ
ถ้ารักแล้ว ก็จะชวนกันไปสอยแผนก่อการรักกลับบ้านด้วยค่ะ ฮิฮิ



คุณ agentaja : เงื่อนงำได้รับการคลี่คลายแล้ว
ที่แผงหนังสือใกล้บ้านค่ะ
ขออภัยจริงๆ ที่ไม่สามารถลงต่อจนจบได้
นี่ถ้าใครมาเห็นหน้าสิริณตอนนี้จะรู้เลย
ว่าจ๋อยสุดขีด ตอนที่รู้ว่าโพสต์ต่อไม่ได้แล้วอ่ะ -_-'



คุณ Auuuu : สัญญาว่าเมื่อไหร่ที่ได้ดริฟท์รถ
จะรีบมาเล่าให้ฟังเลยค่ะ
สารภาพว่าที่ไม่กล้าดริฟท์
เพราะกลัวมันแหกโค้งค่ะ
ใจไม่ด้านพอจริงๆ แฮ่...



คุณ wane : กรี๊ซซซซซ เค้าเครีดยเลย
ทำไงดี...นักอ่านอยู่ต่างประเทศ T_T
ร้านหนังสือก็หายาก แงๆๆๆ

คุณ wane อยู่ประเทศใดค้า
เห็นหลายแห่งมี se-ed books
น่าจะมี แผนก่อการรักให้สอย
หรือหากจะเมตตา สั่งผ่านเว็บ amarinpocketbook ก็ได้นะคะ
หนังสือได้ลดราคาพิเศษด้วย แหะแหะ

ขออภัยจริงๆ นะคะ
สิริณอยากโพสต์ให้จบจริงๆ นะ
แต่มันติดขัดเรื่องข้อสัญญาการตีพิมพ์อ่ะ T_T
น้ำตาไหลพราก แงๆๆๆ



คุณปอแก้ว : โหยยยย คุณปอแก้วยังเคลียร์งานไม่หมดเหรอคะเนี่ย
มา! ส่งมาให้สิริณช่วยไหม ^^

ขอบคุณล่วงหน้าที่จะช่วยอุดหนุนนะคะ
หากอ่านแล้วมีคำติชมใดๆ
จะมาส่งข่าวให้ทราบด้วย
ก็จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ



ขอบคุณเพื่อนๆ ทั้ง ๖๓๗ ท่านที่ติดตามอ่านผลงานกันเรื่อยมานะคะ
ต้องบอกว่านี่เป็น counter ที่คาดไม่ถึงจริงๆ
แม้จะไม่มากในสายตาบางคน
แต่สำหรับสิริณแล้ว
นี่ถือเป็นน้ำใจดีๆ ที่ไม่รู้จะหาคำพูดใดมาอธิบายได้เลย
แม้ไม่แสดงตัว แต่เคาน์เตอร์เล็กๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บอกได้ดีกว่าอยู่แล้ว ^^

ขอบคุณเพื่อนที่กดไล้ค์ทั้ง ๒๐ ท่านด้วย
(ว่าแต่ทำไมตอนขอแต่งงาน มีคนชอบน้อยกว่าตอนก่อนหน้าเนี้ย?)

หากท่านใดอุดหนุนแผนก่อการรักแล้ว
มีข้อติชมใดๆ มาแจ้งกันได้เลยนะคะ
สิริณจะนำไปพัฒนาในโอกาสต่อๆ ไปค่ะ

รู้สึกเหมือนละครกำลังจะรูดม่านทั้งที่ยังเล่นไม่จบ
ใจหาย แต่ยังหายใจ (เอ๊ะยังไง!)

ถ้ายังไงขอฝาก แผนก่อการรัก ไว้อีกครั้งนะคะ
หวัง...ว่าจะได้รับความเอ็นดูจากเพื่อนพี่น้องที่นี่
ช่วยกันอุดหนุนคนละไม้ละมือ ^^


Siang 6 ก.ค. 2555, 15:41:19 น.
ขอบคุณที่ลงนิยายสนุกๆให้อ่านค่ะ ขอให้หนังสือขายดีนะคะ


ปอแก้ว 6 ก.ค. 2555, 15:42:16 น.
โอ๊ะ...ได้หนังสือหรือคะนี่! ดีใจมากเลยค่าาาา ขอบคุณนะค้าาาาา
ไว้จะอ่านๆๆให้หนำใจเลย ชดเชยที่ไม่ได้อ่านมา
งานปอแก้วยังไม่เสร็จเลยค่ะ มันมีรายงานมาเรื่อยๆเลยล่ะ คิดถึงคุณล็กมากมายยย
คิดถึงคุณสิริณด้วยค่ะ ไว้จะช่วยโปรโมทคุณเล็กให้เพื่อนๆฟังนะคะ :)
ปล. รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ ฮี่ๆๆๆ


Auuuu 6 ก.ค. 2555, 15:42:33 น.
แงงงง ตัดฉากสำคัญพอดีเลยยยยยยยย TT^TT
งบประมาณมีน้อยยยย ยังซื้อตอนนี้มิได้ เศร้า


วาดจันทร์ 6 ก.ค. 2555, 15:54:07 น.
อ้าว... ซะงั้น - -*
เฮ้อ ช่างเถอะ เอาไว้จะรอซื้อแล้วกันค่ะ


sai 6 ก.ค. 2555, 16:56:47 น.
ตัดฉับเลยอ่ะ ความจริงกำลังจะเปิดเผยเลยยย แต่ไม่เปนไรรอ อุดหนุน อิอิ


minafiba 6 ก.ค. 2555, 17:56:50 น.
Thank you very much ka and very appreciate ka ^_____________^


ฟิน 6 ก.ค. 2555, 18:46:15 น.
ตัดฉากสำคัญเลย เง้อ ตามไปลุ้นในเล่มต่อ


agentaja 6 ก.ค. 2555, 19:18:54 น.
ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวไปลุ้นต่อในเล่มค่ะ ขอบคุณที่ให้ลุ้นมาถึงขนาดนี้ค่ะ
หวังว่าจะได้อ่านเรื่องซับซ้อนแบบนี้อีกในเรื่องต่อไปนะคะ


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 6 ก.ค. 2555, 22:58:02 น.
อ่านแล้วไม่ค่อยต่อเนื่อง ง่ะ และไม่รู้ว่าในเล่มจะเป็นชาเย็น น่าจะเกริ่นท้ายเล็กน้อย ให้คอยติดตามเพิ่มขึ้น


หมูอ้วน 6 ก.ค. 2555, 23:25:32 น.
เดี๋ยวตามไปลุ้นต่อในเล่มค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สำหรับหนังสือ แผนก่อการรัก ขอให้หนังสือขายดี ยอดพุ่งจนต้องตีพิมพ์รอบสองเลยนะค่ะ
สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ และจะคอยติดตามผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปค่าาาา


แล่นแต๊ 6 ก.ค. 2555, 23:49:14 น.
ค้างงงง เดี๋ยวต้องไปหาด้อมๆมองๆแถวร้านหนังสือ สอยมาเก็บไว้ซะแล้วค่ะ


wane 7 ก.ค. 2555, 05:18:26 น.
ค้างอย่างแรงงงงง ... ไว้กลับเมืองไทยจะไปหาซื้อมาอ่านค๊า ...

ขอให้หนังสือขายดีนะค๊าาา


จิรารัตน์ 7 ก.ค. 2555, 12:22:08 น.
ขอบคุณค่ะ

ขอให้หนังสือขายดีดีได้พิมพ์ซ้ำนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account