มนตรากระดังงา
นางพริมา กีรติอนันต์ พัฒนภิรมย์ กับ นายภัทร์ พัฒนภิรมย์ คู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 6 ปี และมีพยานรักเป็นเด็กชายน่ารัก 2 คน ต้องจบชีวิตคู่ที่เริ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยลงเพราะฝ่ายชายไปมีเมียน้อยซึ่งกำลังจะมีลูกสาวด้วยกัน หญิงสาวยอมหย่าให้และยอมเป็นแม่หม้ายในวัยเพียง 30 ปี ชีวิตคู่ที่พังทลายกลับสร้างพริมาคนใหม่ให้แกร่งกว่าเดิม เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้น กระดังงาลนไฟดอกนี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย รวมทั้งภัทร์ พัฒนภิรมย์ ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอดีตภรรยา จนทำให้ความรักที่เขาคิดว่าได้มอดเชื้อไปแล้วนั้นปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา

Tags: รักร้าว มีเมียน้อย คืนดี

ตอน: ตอนที่ 7 (50% แรก)



เรียนนักอ่านทุกท่าน นิยายเรื่อง มนตรากระดังงา นี้เป็นแนวรักโรแมนติคแฝงความเศร้าเคล้าน้ำตาไว้ด้วย ใช้การเล่าเรื่อง / นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตค่อนข้างเยอะพอสมควร คิดเป็น 1 ใน 3 ของเนื้อหาทั้งเล่มนะคะ รบกวนคนอ่านใจเย็น ๆ นะคะ เพราะคนเขียนได้วางโครงเรื่องไว้หมดแล้ว อยากให้คนอื่นได้เติบโตไปกับตัวละครโดยเฉพาะพระเอกและนางเอก จะได้เข้าถึงความรู้สึกของทั้งสองคนว่าเพราะอะไรถึงต้องจบชีวิตรักที่แสนจะหวาน อีกไม่นานก็หมดการย้อนแล้วจ้า รอหน่อยนะจ๊ะ ^ ^ และหากเขียนเฉพาะเหตุการณ์ปัจจุบันก็ไม่มีฉากโรแมนติคเลยสิคะ.....ขอขอบคุณที่คอยทวงตามหาเหตุการณ์ในปัจจุบัน ขอบคุณทุกข้อความที่ท่านเสียสละพิมพ์ให้---เป็นกำลังใจให้คนเขียนได้มากมายจริง ๆ ค่ะ---จะพยายามปั่นให้เร็วขึ้นเพราะช่วงนี้คนเขียนปิดเทอม หากเปิดเทอมแล้วคงเร่งสปีดได้ยากเพราะงานประจำคงจะท่วมหัว --รักคนอ่านนะคะ

ตอนที่ 7



“ปั๊ป! ปั๊ป! รอพี่ก่อน” เสียงร้องเรียกโหวกเหวกของภัทร์ดังไล่หลังมา ชายหนุ่มวิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกล กว่าจะขอตัวจากสาว ๆ กลุ่มนั้นได้ก็ใช้เวลาไปเกือบห้านาที

“มีอะไรอีกล่ะพี่โป๊ป” ภัทราถามด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เพราะเธอกำลังกรุ่นโกรธพี่ชายแทนเพื่อนสาว

“อ้าว! แล้วปริมล่ะ ปริมอยู่ไหน” ภัทร์หน้าตื่นเมื่อไม่เห็นแฟนสาวอยู่มนกลุ่ม ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งเห็นเธอลุกออกมาจากสนามฟุตบอลเมื่อสักครู่นี้เอง

“ปริมกลับไปแล้วน่ะสิ ใครจะอยากอยู่ต่อล่ะ” ภัทราบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนที่จะถามต่อว่า

“ทำอะไรไว้ ไม่รู้ตัวเหรอพี่โป๊ป”

“แล้วปริมกลับยังไง ก็กระเป๋าหนังสือของปริมยังอยู่ในรถพี่นี่นา” ภัทร์ถามด้วยความสงสัย เพราะก่อนที่จะลงสนาม เขาเป็นคนหิ้วกระเป๋าใส่หนังสือเรียนของพริมาไปเก็บไว้ที่รถ และตกลงกันไว้ว่าจะกลับบ้านด้วยกัน

“ปริมมันคงทิ้งกระเป๋าเลยอะค่ะ ขนาด ‘คน’ มันยังทิ้งได้ นับประสาอะไรกับแค่กระเป๋าใบเดียว”วรปรัชญ์ตอบด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นกันพลางก่นด่าชายหนุ่มอยู่ในใจว่า ‘ไม่ทันไร ดีแตกซะแล้วนะพี่โป๊ป’

“เฮ้อ! ผู้หญิงนี่จริง ๆ เลย ทึกทักเอาเองกันทุกคนจริง ๆ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ”

“ค่าาา พี่โป๊ปไม่ผิดอะไรเลยค่าาา เพราะเขาเดินเข้ามาหาพี่เองใช่ไหมคะ” ภัทราประชดประชัน

“นั่นมันเป็นเรื่องจริงเลยนะครับคุณน้องสาว พวกเราก็เห็นอยู่นี่ว่าอะไรเป็นอะไร เฮ้อ! แต่ก็ยังงอนพี่กันหมด เอ้า! จะบอกได้ยังว่าปริมกลับยังไง ไปถึงไหนแล้ว เผื่อพี่จะตามทัน”

“ไม่ต้องตามหรอกค่ะ ไม่ทันหรอก ถึงทันปริมมันก็คงไม่กลับกับพี่หรอก คนมันโกรธซะขนาดนั้นน่ะ บอกให้รู้ไว้เลยว่านะ พวกเราไม่ช่วยง้อให้หรอกนะ พี่โป๊ปอยากหาเรื่องใส่ตัวเองนี่นา” ภัทราตัดบัวไม่เหลือใย เพราะเห็น ๆ กันอยู่ว่าพี่ชายเธอเป็นฝ่ายผิดเต็มประตู

“พี่ทำอะไร ไหนปั๊ปลองบอกมาสิ” ภัทร์ถามด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย เพราะหัวใจมันลอยตามคนที่ชิงกลับคอนโดฯไปก่อนแล้ว

“ก็ไปให้เบอร์โทรศัพท์สาว ๆ พวกนั้นทำไมล่ะ” ภัทราตอบด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

“พี่ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับใครทั้งนั้นแหละ” ภัทร์เริ่มชักสีหน้าเพราะไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว

“ไม่เชื่อ!!!” ทั้งวรปรัชญ์และภัทราประสานเสียงตอบพร้อมกันอย่างไม่ต้องนัดหมาย

“เฮ้อ! พอพูดเรื่องจริงกับไม่เชื่อ งั้นถามหน่อย พวกเธอสองคนเห็นเหรอว่าพี่ให้เบอร์โทรศัพท์กับพวกเขาน่ะ”

“เอ่ออออ.....ก็ไม่เห็นหรอก เห็นเพียงพี่รับมือถือของผู้หญิงคนนั้นมา แค่นั้นก็รู้แล้วว่าต้องให้เบอร์ไปแน่ ๆ” ภัทราตอบอย่างมั่นใจ

“ใช่ ๆ ไม่เห็นไม่ได้แปลว่าไม่ได้ทำนี่คะ” วรปรัชญ์สนับสนุนเพื่อนสาว

“ไอ้แค่นั้นน่ะของพวกเธอนี่ ก็คือคิดเองสรุปเอง ใช่ไหมฮะ” ภัทร์เขกหัวน้องสาวไปหนึ่งที

“โอ๊ย! เจ็บนะพี่โป๊ป”

“คิดเองคนเดียวหรือสองคนก็จะไม่ว่า นี่คงไปบอกปริมเข้าด้วยล่ะสิ”

“ปริมเขาก็เห็นเหมือนพวกเรานั่นแหละค่ะ ไม่ต้องให้ใครไปบอกหรอก ภาพมันฟ้องซะขนาดนั้น”

“เฮ้อ! งานเข้าล่ะทีนี้ พี่ไม่ได้ให้เบอร์อะไรกับใครทั้งนั้นแหละ เขายื่นมือถือมาให้กดเบอร์ให้ก็จริง แต่พี่ก็บอกเขาไปว่ามีแฟนแล้ว แถมแฟนก็ยืนจ้องตาเขม็งอยู่ด้วย ไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขาดูสิ โน่น เดินมากันแล้ว” ภัทร์บุ้ยปากไปยังทิศทางที่เพิ่งจากมา ซึ่งก็มีกลุ่มหญิงสาวพวกเดิมกำลังเดินตรงมายังพวกเขา

“สวัสดีค่ะ นี่เหรอคะแฟนพี่ น่ารักดีนะคะ แหม! เธอนี่โชคดีจังที่ได้พี่เขาเป็นแฟน รู้ไหม พวกฉันลองขอเบอร์โทร พี่เขายังไม่ยอมให้เลยนะ น่าอิจฉาเธอจริง ๆ เลย” หนึ่งสาวในกลุ่มนั้นที่ทึกทักเอาเองว่าภัทราเป็นแฟนของภัทร์เข้ามาพูดคุยด้วยท่าทีเป็นมิตร

“เป็นไงล่ะ ชัดแจ้งแดงแจ๋ไหมทีนี้” ภัทร์พูดพลางส่ายหัว



************************



ภัทร์หงุดหงิดอย่างหนัก เมื่อพยายามติดต่อแฟนสาวเท่าไรก็ไม่ได้ผล เขากดมือถือหาพริมาตั้งแต่ออกจากมหาวิทยาลัยจนกลับมาถึงคอนโดฯ ซึ่งก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเสียงหวาน ๆ ตอบรับเสียที ขนาดว่าเขาออกปากขอยืมโทรศัพท์จากภัทรามากดโทรหาเธอ เพราะคิดว่าเธอเลี่ยงที่จะไม่รับหมายเลขของเขา ก็ยังโทรไม่ติด

“ทำไมปริมไม่ยอมรับสายสักทีนะ ใช้เครื่องปั๊ปก็ยังไม่ยอมรับอีก โธ่ เว้ย!” ชายหนุ่มสบถด้วยอารมณ์โกรธ คราวนี้ชายหนุ่มจึงลองใช้โทรศัพท์บ้านกดหาแฟนสาวลองดูบ้าง

“เฮ้อ! อะไรกันนี่ ปิดเครื่องหนีเสียแล้ว” ภัทร์บ่นอย่างหัวเสียเมื่อได้ยินเสียง ‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’

“ใจเย็น ๆ น่าพี่โป๊ป ปริมมันคงงอนอยู่น่ะ” ภัทราปลอบใจพี่ชาย เมื่อรู้ว่าตัวเองและเพื่อน ๆ ต่างเข้าใจเขาผิดไป ภัทร์หันมามองน้องสาวด้วยสายตาโกรธขึ้ง

“คนที่ควรจะงอน น่าจะเป็นพี่มากกว่านะ ไม่ได้ทำอะไรผิดแถมยังมาถูกแฟนงอนใส่อีก” ภัทร์ที่เริ่มงุ่นง่านจนอยู่ไม่ติด ในที่สุดชายหนุ่มก็ลุกไปหยิบกุญแจรถยนต์จากเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มที่กั้นส่วนรับแขกกับมุมทำครัวให้เป็นสัดส่วน แล้วเดินตรงไปใส่รองเท้า

“พี่จะออกไปข้างนอกหน่อยนะ เซ็งอะ” ภัทร์บอกกับภัทราก่อนที่จะเปิดประตูออกจากคอนโดฯไป



************************



ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในเวลาประมาณ 22.15 น.

พริมาเพิ่งเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์กับพี่ชาย หญิงสาวซึ่งเริ่มออกอาการง่วงนอนบ้างแล้ว หญิงสาวร่างบางถึงกับเดินคล้องแขนพี่ชายเพื่อพยุงตัวเธอเองไปในตัว สองพี่น้องมาแวะรับประทานอาหารเย็นและเลือกซื้อของใช้จิปาถะก่อนที่จะลงท้ายด้วยการชมภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่เพิ่งลงโรงและกำลังมาแรง ในขณะนี้ หญิงสาวคนสวยออกมาจากมหาวิทยาลัยมากับพี่ชาย ตั้งแต่เห็นภาพบาดตาบาดใจหลังการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรเสร็จสิ้น วันนี้เปรมแวะไปพบเพื่อนเก่า ๆ สมัยเรียนมัธยมปลายที่มหาวิทยาลัยของน้องสาว และช่างบังเอิญขับรถผ่านสนามแข่งฟุตบอลในช่วงเวลาที่พริมาเพิ่งเดินออกมาจากสนามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หญิงสาวรีบกระโดดขึ้นรถแทบจะทันทีที่ผู้เป็นพี่กดแตรเรียกทักทาย เปรมต้องโทรไปยกเลิกนัดกับเพื่อน ๆ เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของน้องสาวคนสวย และกว่าพริมาจะยอมง้างปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังก็ตอนที่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว หญิงสาวไม่อยากเล่าให้พี่ชายฟังเพราะไม่อยากให้ผู้เป็นพี่มองแฟนหนุ่มในแง่ลบไปมากกว่านี้

“กินไอติมไหมปริม” เปรมถามน้องสาวที่ตาเริ่มปรอยเพราะความง่วง

“ไม่ไหวแล้วพี่เปรม เมื่อกี้กินป๊อปคอร์นไปตั้งเยอะ ง่วงแล้ว อยากนอน” พริมาพูดเสร็จก็ซบศีรษะไปบนไหล่หนาของพี่ชาย

“อ้าว จะนอนหลับเหรอ” เปรมแกล้งเย้าน้องสาว

“.....” พริมาเงียบเพราะนึกถึงเรื่องที่คั่งค้างในใจขึ้นมาอีก

“จะไม่หลับก็เพราะพี่นั่นแหละ นี่แน่ะ มาเตือนความทรงจำขึ้นมาอีก” ว่าแล้วหญิงสาวก็ตีแขนพี่ชายไปหนึ่งที

“อะไรกันปริม มาโยนความผิดใส่พี่เฉยเลย ไปจัดการนายโป๊ปจอมเจ้าชู้โน่นสิ เก่งแต่กับพี่นะเราอะ” เปรมเอามือไปขยี้ศีรษะน้องสาวเพื่อเอาคืน

“จัดการแน่ไม่ต้องห่วงหรอก แต่ตอนนี้ขอกลับไปนอนก่อนนะเจ้าคะ ไม่ไหวแล้ว ตาจะปิด ถ้ายังเป็นเด็กแบบเมื่อก่อนนะ ปริมคงกระโดดขี่หลังพี่ไปนานแล้ว” พริมาพูดเสร็จก็ต้องยกมือปิดปากหาว

“จริง ๆ เลยเราเนี่ย เอ...หรือว่าพี่จะลองแบกปริมดูอีกสักครั้ง” เปรมนึกสนุกขึ้นมาบ้าง

“บ้า! เหรอพี่เปรม ปริมพูดเล่นนะ”

“พี่ก็พูดเล่น โตขนาดนี้แล้วพี่แบกปริมไม่ไหวแล้วล่ะ”

“ปริมไม่ได้อ้วนแต่พี่แบกไม่ไหว งั้นก็แสดงว่าพี่เปรมแก่แล้วล่ะ ฮิๆๆ” พริมาล้อพี่ชายอย่างสนุกสนาน จึงโดนผู้เป็นพี่บีบจมูกกลับคืน สองพี่น้องหยอกเย้ากันไปมาราวกับคู่รักหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไประหว่างที่เดินอยู่ในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าอาการสนิทสนมรักใคร่ที่แสดงออกอยู่นั้นอยู่ในสายตาของใครบางคน ใครบางคนที่กำลังโกรธเกรี้ยวเพราะต้องมาเห็นภาพของความสนิทสนม ยิ่งสำหรับคนที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาของพี่ชายแฟนสาวมาก่อน จึงทวีความโกรธขึ้นไปอีกเพราะรู้สาเหตุที่หญิงสาวไม่ยอมรับโทรศัพท์เขา

ภัทร์รู้สึกเหมือนมีของแข็งฟาดไปที่ศีรษะเข้าอย่างจัง เขานึกไม่ถึงว่าแฟนสาวที่คบหาดูใจกันอยู่นั้นจะเป็น ‘นางวันทองสองใจ’ คาสโนว่าอย่างภัทร์จึงรู้สึกเหมือนโดนลูบเหลี่ยมลูบคม เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพริมาจะซ่อนใครไว้อีกคนอย่างมิดชิด แม้แต่น้องสาวของเขาก็ไม่รู้ระแคะระคายอะไรเลย หญิงสาวดูใสซื่อและไร้เดียงสาในเรื่องความรักเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แต่เมื่ออยู่กับชายอีกคน พริมาดูไม่หวงเนื้อหวงตัว

“นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ที่แท้ฉันก็มองเธอผิดไปจริง ๆ” ภัทร์พึมพำกับตัวเองด้วยความผิดหวัง ‘เจ็บ’.....ครั้งแรกที่เขาเคยรู้สึก

“และนี่ก็คือสาเหตุที่เธอไม่เคยบอกรักฉัน ฮึ! คราวนี้ฉันได้หายโง่ซะที” ชายหนุ่มหลับตาไปชั่วขณะก่อนที่จะลืมตาขึ้นพบกับความจริงที่แสนเจ็บปวด....ภาพตรงหน้าที่เห็น คือ แฟนสาวกำลังขึ้นไปนั่งในรถของชายหนุ่มคู่ควง ภาพที่เห็นและความรู้สึกเจ็บแปลบตอกย้ำให้รู้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน

“เธอแตกต่างกับคนอื่นจริง ๆ ปริม เสียดายที่ฉันหลงรักเธอ พอกันที” ภัทร์ตัดใจก่อนที่จะเดินตรงไปยังรถหรูของตนเองแล้วจึงขับกระชากออกไปอย่างเร็ว

“ท่าจะเมา ขับซะเร็วขนาดนั้น บนที่จอดแบบนี้ จะรีบไปไหนกัน” พริมาบ่นกับพี่ชายเมื่อได้ยินเสียงดังของเครื่องยนต์ห้อเหยียบออกไป เพราะความที่ง่วงจัด หญิงสาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในรถของพี่ชายเลยไม่ได้คิดจะเหลียวหลังไปดู มิฉะนั้นเธอคงจะได้เห็นว่าคนขับคือคนที่ทำให้เธอปวดหัวใจอยู่ ณ เวลานี้



************************



ถึงแม้ว่าจะง่วงนอนสักเพียงไหน พริมาที่เพิ่งกลับมาถึงคอนโดฯรีบตรงเข้าห้องนอนเพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือทันที หญิงสาวพบว่าโทรศัพท์มือถือแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง คงเป็นเพราะเธอตั้งปุ่มปิดเสียงและเปิดเป็นระบบสั่นไว้ตั้งแต่ตอนที่นั่งดูการแข่งขันฟุตบอล และเธอก็ทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ในรถพี่ชายเมื่อเข้าไปในห้างฯ เพิ่งจะมาเห็นก็ตอนที่นั่งรถกลับมาจะถึงคอนโดฯแล้ว

ทันทีที่เปิดเครื่องได้ พริมาไล่สายตาดูหมายเลขที่ไม่ได้รับสาย กว่า 20 สายที่ไม่ได้รับซึ่งเป็นหมายเลขของภัทร์เกือบทั้งหมด มีหมายเลขของภัทรา 2 ครั้ง และอีกหมายเลขเป็นหมายเลขที่เธอไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง

“จากไหนเนี่ย” พริมาสงสัยแต่ก็ไม่ได้กดโทรฯกลับไปเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว แต่หญิงสาวกลับลังเลว่าจะโทรฯกลับไปหาแฟนหนุ่มเพื่อฟังคำแก้ตัวดีไหม

“ไว้พรุ่งนี้ละกัน ต้องเล่นตัวเสียบ้าง ไม่งั้นพี่โป๊ปจะได้ใจ ต้องให้ง้อเสียให้เข็ด” พริมาวางโทรศัพท์มือถือลงข้างเตียงแล้วลุกไปอาบน้ำ หญิงสาวไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรไปหมด จากคนที่จะถูกง้ออย่างเธอก็ต้องกลายเป็นคนที่ต้องไปง้องอนชายหนุ่มแทน ซึ่งคำง้อของเธอนั้นจะได้ผลหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ เพราะภาพที่ชายคนรักได้เห็นนั้นมันแทนคำพูดได้เป็นร้อยคำพันคำ และเขาก็ปักใจเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเสียแล้วด้วย



************************


ฝาก eBook เรื่องภารกิจรัก ภารกิจแค้นไว้ด้วยค่ะ ราคา 199 บาท / 6.99 $ ค่ะ

https://www.hytexts.com/ebook/book/B000358

ไปให้กำลังใจที่ facebook กันได้นะคะ

http://www.facebook.com/ภารกิจรักภารกิจแค้น









อาทิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.ค. 2555, 00:27:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.ค. 2555, 00:27:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 2007





<< eBook ภารกิจรัก ภารกิจแค้น ค่ะ   ตอนที่ 7 (ครบ 100% แล้วจ้า) >>
violette 8 ก.ค. 2555, 01:00:15 น.
โอ้ มันมีปมตรงนี้ด้วยสินะคะ..
ตอนนี้แอบเคืองพี่โป๊ปไปเรื่อยค่ะ พอดีอินกับกระแสเมียน้อยไปหน่อย เกลียดนักคนแบบนี้


พนาศิลป์ 9 ก.ค. 2555, 11:04:05 น.
มาตามต่อค่ะ^^


pumkin 11 ก.ค. 2555, 22:43:25 น.
มาเม้นให้กำสังใจ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account