มนตรากระดังงา
นางพริมา กีรติอนันต์ พัฒนภิรมย์ กับ นายภัทร์ พัฒนภิรมย์ คู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 6 ปี และมีพยานรักเป็นเด็กชายน่ารัก 2 คน ต้องจบชีวิตคู่ที่เริ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยลงเพราะฝ่ายชายไปมีเมียน้อยซึ่งกำลังจะมีลูกสาวด้วยกัน หญิงสาวยอมหย่าให้และยอมเป็นแม่หม้ายในวัยเพียง 30 ปี ชีวิตคู่ที่พังทลายกลับสร้างพริมาคนใหม่ให้แกร่งกว่าเดิม เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้น กระดังงาลนไฟดอกนี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย รวมทั้งภัทร์ พัฒนภิรมย์ ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอดีตภรรยา จนทำให้ความรักที่เขาคิดว่าได้มอดเชื้อไปแล้วนั้นปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา

Tags: รักร้าว มีเมียน้อย คืนดี

ตอน: ตอนที่ 7 (ครบ 100% แล้วจ้า)

อ่านตอนนี้แล้วช่วยเม้นต์กันด้วยนะคะ อยากทราบว่าคนอ่านรับกันได้ไหมกับสิ่งที่พระเอกทำลงไป อยากให้พระเอกมีความเป็น ‘คน’ มากกว่าเป็นเพียงพระเอกในนิยายน่ะค่ะ ชอบไม่ชอบบอกให้ทราบกันด้วยนะคะ...ขอบคุณจากใจค่ะ อาทิตา
ตอนที่ 7

“ปั๊ป! ปั๊ป! รอพี่ก่อน” เสียงร้องเรียกโหวกเหวกของภัทร์ดังไล่หลังมา ชายหนุ่มวิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกล กว่าจะขอตัวจากสาว ๆ กลุ่มนั้นได้ก็ใช้เวลาไปเกือบห้านาที
“มีอะไรอีกล่ะพี่โป๊ป” ภัทราถามด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เพราะเธอกำลังกรุ่นโกรธพี่ชายแทนเพื่อนสาว
“อ้าว! แล้วปริมล่ะ ปริมอยู่ไหน” ภัทร์หน้าตื่นเมื่อไม่เห็นแฟนสาวอยู่มนกลุ่ม ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งเห็นเธอลุกออกมาจากสนามฟุตบอลเมื่อสักครู่นี้เอง
“ปริมกลับไปแล้วน่ะสิ ใครจะอยากอยู่ต่อล่ะ” ภัทราบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนที่จะถามต่อว่า
“ทำอะไรไว้ ไม่รู้ตัวเหรอพี่โป๊ป”
“แล้วปริมกลับยังไง ก็กระเป๋าหนังสือของปริมยังอยู่ในรถพี่นี่นา” ภัทร์ถามด้วยความสงสัย เพราะก่อนที่จะลงสนาม เขาเป็นคนหิ้วกระเป๋าใส่หนังสือเรียนของพริมาไปเก็บไว้ที่รถ และตกลงกันไว้ว่าจะกลับบ้านด้วยกัน
“ปริมมันคงทิ้งกระเป๋าเลยอะค่ะ ขนาด ‘คน’ มันยังทิ้งได้ นับประสาอะไรกับแค่กระเป๋าใบเดียว”วรปรัชญ์ตอบด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นกันพลางก่นด่าชายหนุ่มอยู่ในใจว่า ‘ไม่ทันไร ดีแตกซะแล้วนะพี่โป๊ป’
“เฮ้อ! ผู้หญิงนี่จริง ๆ เลย ทึกทักเอาเองกันทุกคนจริง ๆ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ”
“ค่าาา พี่โป๊ปไม่ผิดอะไรเลยค่าาา เพราะเขาเดินเข้ามาหาพี่เองใช่ไหมคะ” ภัทราประชดประชัน
“นั่นมันเป็นเรื่องจริงเลยนะครับคุณน้องสาว พวกเราก็เห็นอยู่นี่ว่าอะไรเป็นอะไร เฮ้อ! แต่ก็ยังงอนพี่กันหมด เอ้า! จะบอกได้ยังว่าปริมกลับยังไง ไปถึงไหนแล้ว เผื่อพี่จะตามทัน”
“ไม่ต้องตามหรอกค่ะ ไม่ทันหรอก ถึงทันปริมมันก็คงไม่กลับกับพี่หรอก คนมันโกรธซะขนาดนั้นน่ะ แล้วก็ขอบอกให้รู้ไว้เลยว่าพวกเราไม่ช่วยง้อให้หรอกนะ พี่โป๊ปอยากหาเรื่องใส่ตัวเองนี่นา” ภัทราตัดบัวไม่เหลือใย เพราะเห็น ๆ กันอยู่ว่าพี่ชายเธอเป็นฝ่ายผิดเต็มประตู
“พี่ทำอะไร ไหนปั๊ปลองบอกมาสิ” ภัทร์ถามด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายและระอา เพราะเขาอุตส่าห์กลับตัวกลับใจเลิกเจ้าชู้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครยอมเชื่อ แถมตอนนี้ยังมีเรื่องหัวใจให้ยุ่งเข้าไปอีก
“ก็ไปให้เบอร์โทรศัพท์สาว ๆ พวกนั้นทำไมล่ะ” ภัทราตอบด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
“พี่ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับใครทั้งนั้นแหละ” ภัทร์เริ่มชักสีหน้าเพราะไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว เพราะหัวใจมันลอยตามคนที่ชิงหนีกลับคอนโดฯไปก่อนแล้ว
“ไม่เชื่อ!!!” ทั้งวรปรัชญ์และภัทราประสานเสียงตอบพร้อมกันอย่างไม่ต้องนัดหมาย
“เฮ้อ! พอพูดเรื่องจริงกลับไม่เชื่อ งั้นพี่ถามหน่อย พวกเธอสองคนเห็นเหรอว่าพี่ให้เบอร์โทรศัพท์กับพวกเขาน่ะ”
“เอ่ออออ.....ก็ไม่เห็นหรอก เห็นเพียงพี่รับมือถือของผู้หญิงคนนั้นมา แค่นั้นก็รู้แล้วว่าต้องให้เบอร์ไปแน่ ๆ” ภัทราตอบอย่างมั่นใจ
“ใช่ ๆ ไม่เห็นไม่ได้แปลว่าไม่ได้ทำนี่คะ” วรปรัชญ์สนับสนุนเพื่อนสาว
“ไอ้แค่นั้นน่ะของพวกเธอนี่ ก็คือคิดเองสรุปเอง ใช่ไหมฮะ” ภัทร์เขกหัวน้องสาวไปหนึ่งที
“โอ๊ย! เจ็บนะพี่โป๊ป”
“คิดเองคนเดียวหรือสองคนก็จะไม่ว่า นี่คงไปบอกปริมเข้าด้วยล่ะสิ”
“ปริมเขาก็เห็นเหมือนพวกเรานั่นแหละค่ะ ไม่ต้องให้ใครไปบอกหรอก ภาพมันฟ้องซะขนาดนั้น”
“เฮ้อ! งานเข้าล่ะทีนี้ พี่ไม่ได้ให้เบอร์อะไรกับใครทั้งนั้นแหละ เขายื่นมือถือมาให้กดเบอร์ให้ก็จริง แต่พี่ก็บอกเขาไปว่ามีแฟนแล้ว แถมแฟนก็ยืนจ้องตาเขม็งอยู่ด้วย ไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขาดูสิ โน่น เดินมากันแล้ว” ภัทร์บุ้ยปากไปยังทิศทางที่เพิ่งจากมา ซึ่งก็มีกลุ่มหญิงสาวพวกเดิมกำลังเดินตรงมายังพวกเขา
“สวัสดีค่ะ นี่เหรอคะแฟนพี่ น่ารักดีนะคะ แหม! เธอนี่โชคดีจังที่ได้พี่เขาเป็นแฟน รู้ไหม พวกฉันลองขอเบอร์โทร พี่เขายังไม่ยอมให้เลยนะ น่าอิจฉาเธอจริง ๆ เลย” หนึ่งสาวในกลุ่มนั้นที่ทึกทักเอาเองว่าภัทราเป็นแฟนของภัทร์เข้ามาพูดคุยด้วยท่าทีเป็นมิตร
“เป็นไงล่ะ ชัดแจ้งแดงแจ๋ไหมทีนี้” ภัทร์พูดพลางส่ายหัว

************************

ภัทร์หงุดหงิดอย่างหนัก เมื่อพยายามติดต่อแฟนสาวเท่าไรก็ไม่ได้ผล เขากดมือถือหาพริมาตั้งแต่ออกจากมหาวิทยาลัยจนกลับมาถึงคอนโดฯ ซึ่งก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเสียงหวาน ๆ ตอบรับเสียที ขนาดว่าเขาออกปากขอยืมโทรศัพท์จากภัทรามากดโทรหาเธอ เพราะคิดว่าเธอเลี่ยงที่จะไม่รับหมายเลขของเขา ก็ยังโทรไม่ติด
“ทำไมปริมไม่ยอมรับสายสักทีนะ ใช้เครื่องปั๊ปก็ยังไม่ยอมรับอีก โธ่ เว้ย!” ชายหนุ่มสบถด้วยอารมณ์โกรธ คราวนี้ชายหนุ่มจึงลองใช้โทรศัพท์บ้านกดหาแฟนสาวลองดูบ้าง
“เฮ้อ! อะไรกันนี่ ปิดเครื่องหนีเสียแล้ว” ภัทร์บ่นอย่างหัวเสียเมื่อได้ยินเสียง ‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’
“ใจเย็น ๆ น่าพี่โป๊ป ปริมมันคงงอนอยู่น่ะ” ภัทราปลอบใจพี่ชาย เมื่อรู้ว่าตัวเองและเพื่อน ๆ ต่างเข้าใจเขาผิดไป ภัทร์หันมามองน้องสาวด้วยสายตาโกรธขึ้ง
“คนที่ควรจะงอน น่าจะเป็นพี่มากกว่านะ ไม่ได้ทำอะไรผิดแถมยังมาถูกแฟนงอนใส่อีก” ภัทร์ที่เริ่มงุ่นง่านจนอยู่ไม่ติด ในที่สุดชายหนุ่มก็ลุกไปหยิบกุญแจรถยนต์จากเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มที่กั้นส่วนรับแขกกับมุมทำครัวให้เป็นสัดส่วน แล้วเดินตรงไปใส่รองเท้า
“พี่จะออกไปข้างนอกหน่อยนะ เซ็งอะ” ภัทร์บอกกับภัทราก่อนที่จะเปิดประตูออกจากคอนโดฯไป

************************

ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในเวลาประมาณ 22.15 น.
พริมาเพิ่งเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์กับพี่ชาย หญิงสาวซึ่งเริ่มออกอาการง่วงนอนบ้างแล้ว หญิงสาวร่างบางถึงกับเดินคล้องแขนพี่ชายเพื่อพยุงตัวเธอเองไปในตัว สองพี่น้องมาแวะรับประทานอาหารเย็นและเลือกซื้อของใช้จิปาถะก่อนที่จะลงท้ายด้วยการชมภาพยนตร์ต่างประเทศที่เพิ่งลงโรง และกำลังมาแรง ในขณะนี้ หญิงสาวคนสวยออกมาจากมหาวิทยาลัยมากับพี่ชาย ตั้งแต่เห็นภาพบาดตาบาดใจหลังการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรเสร็จสิ้น วันนี้เปรมแวะไปพบเพื่อนเก่า ๆ สมัยเรียนมัธยมปลายที่มหาวิทยาลัยของน้องสาว และช่างบังเอิญขับรถผ่านสนามแข่งฟุตบอลในช่วงเวลาที่พริมาเพิ่งเดินออกมาจากสนามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หญิงสาวรีบกระโดดขึ้นรถแทบจะทันทีที่ผู้เป็นพี่กดแตรเรียกทักทาย เปรมต้องโทรไปยกเลิกนัดกับเพื่อน ๆ เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของน้องสาวคนสวย และกว่าพริมาจะยอมง้างปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังก็ตอนที่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ในทีแรกหญิงสาวไม่อยากเล่าให้พี่ชายฟังเพราะไม่อยากให้ผู้เป็นพี่มองแฟนหนุ่มในแง่ลบไปมากกว่านี้ แต่เมื่อหลีกหนีความจริงไปไม่พ้น ในที่สุดเธอก็ยอมเล่าให้ฟัง แต่แปลกที่เปรมไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย นอกจากรับฟังอย่างสงบและทิ้งท้ายให้เธอได้คิดเพียงว่า
“ปริมเลือกเองแล้ว ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง หรือไม่.......ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่จะตามมา” พริมานิ่งงันไม่คิดว่าพี่ชายจะพูดแบบนี้ ‘คนยิ่งกำลังต้องการกำลังใจอยู่ ดันมาพูดให้ทำใจ’
ก่อนที่จะเดินออกจากตัวห้างสรรพสินค้าเพื่อตรงไปยังลานจอดรถ เปรมก็ถามขึ้นว่า
“กินไอติมไหมปริม” เปรมถามน้องสาวที่ตาเริ่มปรอยเพราะความง่วง
“ไม่ไหวแล้วพี่เปรม เมื่อกี้กินป๊อปคอร์นไปตั้งเยอะ ง่วงแล้ว อยากนอนมากกว่า” พริมาพูดเสร็จก็ซบศีรษะไปบนไหล่หนาของพี่ชาย
“แน่ใจว่าคืนนี้จะนอนหลับ” เปรมแกล้งเย้าน้องสาวเล่นสนุก ๆ
“.....” พริมาเงียบเพราะนึกถึงเรื่องที่คั่งค้างในใจขึ้นมาอีก
“จะไม่หลับก็เพราะพี่นั่นแหละ นี่แน่ะ! อยากมาเตือนความจำปริมขึ้นมาอีก” ว่าแล้วหญิงสาวก็ตีแขนพี่ชายไปหนึ่งที
“อะไรกันปริม มาโยนความผิดใส่พี่เฉยเลย ไปจัดการนายโป๊ปจอมเจ้าชู้โน่นสิ เก่งแต่กับพี่นะเราอะ” เปรมเอามือไปขยี้ศีรษะน้องสาวเพื่อเอาคืน
“จัดการแน่ไม่ต้องห่วงหรอก แต่ตอนนี้ขอกลับไปนอนก่อนนะเจ้าคะ ไม่ไหวแล้ว ตาจะปิด ถ้ายังเป็นเด็กแบบเมื่อก่อนนะ ปริมคงกระโดดขี่หลังพี่ไปนานแล้ว” พริมาพูดเสร็จก็ต้องยกมือปิดปากหาว
“จริง ๆ เลยเราเนี่ย เอ...หรือว่าพี่จะลองแบกปริมดูอีกสักครั้ง” เปรมนึกสนุกขึ้นมาบ้าง
“บ้า! เหรอพี่เปรม ปริมพูดเล่นนะ”
“พี่ก็พูดเล่น โตขนาดนี้แล้วพี่แบกปริมไม่ไหวแล้วล่ะ”
“ปริมไม่ได้อ้วนแต่พี่แบกไม่ไหวแบบนี้ งั้นก็แสดงว่าพี่เปรมแก่แล้วล่ะค่ะ ฮิๆๆ” พริมาล้อพี่ชายอย่างสนุกสนาน จึงโดนผู้เป็นพี่บีบจมูกกลับคืน สองพี่น้องหยอกเย้ากันไปมาราวกับคู่รักหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไประหว่างที่เดินอยู่ในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าอาการสนิทสนมรักใคร่ที่แสดงออกอยู่นั้นอยู่ในสายตาของใครบางคน ใครบางคนที่กำลังโกรธเกรี้ยวเพราะต้องมาเห็นภาพของความสนิทสนม ยิ่งสำหรับคนที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาของพี่ชายแฟนสาวมาก่อนแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ภัทร์จะทวีความโกรธมากขึ้นไปอีกเพราะคิดเอาเองว่านี่คือสาเหตุที่หญิงสาวไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเขา
ภัทร์รู้สึกเหมือนมีของแข็งฟาดไปที่ศีรษะเข้าอย่างจัง เขานึกไม่ถึงว่าแฟนสาวที่คบหาดูใจกันอยู่นั้นจะเป็น ‘นางวันทองสองใจ’ คาสโนว่าอย่างภัทร์จึงรู้สึกเหมือนโดนลูบเหลี่ยมลูบคม เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพริมาจะซ่อนใครไว้อีกคนได้อย่างมิดชิดแบบนี้ แม้แต่น้องสาวของเขาก็ไม่รู้ระแคะระคายอะไรเลย หญิงสาวดูใสซื่อและไร้เดียงสาในเรื่องความรักเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แต่เมื่ออยู่กับชายอีกคน พริมาดูไม่หวงเนื้อหวงตัวเลย
“นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ที่แท้ฉันก็มองเธอผิดไปจริง ๆ” ภัทร์พึมพำกับตัวเองด้วยความผิดหวัง ‘เจ็บ’.....เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้สึก การโดนหลอกมันเจ็บเสียยิ่งกว่าถูกหักอก
“และนี่ก็คือสาเหตุที่เธอไม่เคยบอกรักฉัน ฮึ! คราวนี้ฉันได้หายโง่ซะที” ชายหนุ่มหลับตาไปชั่วขณะก่อนที่จะลืมตาขึ้นพบกับความจริงที่แสนเจ็บปวด....ภาพตรงหน้าที่เห็น คือ แฟนสาวกำลังขึ้นไปนั่งในรถของชายหนุ่มคู่ควง ภาพที่เห็นและความรู้สึกเจ็บแปลบตอกย้ำให้รู้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน
“เธอแตกต่างกับคนอื่นจริง ๆ ปริม เสียดายที่ฉันหลงรักเธอ พอกันที” ภัทร์ตัดใจก่อนที่จะเดินตรงไปยังรถหรูของตนเองแล้วจึงขับกระชากออกไปอย่างเร็ว
“ท่าจะเมา ขับซะเร็วขนาดนั้น บนลานจอดแบบนี้จะรีบไปไหนกัน” พริมาบ่นกับพี่ชายเมื่อได้ยินเสียงดังของเครื่องยนต์ที่ห้อเหยียบออกไปอย่างเร่งรีบ เพราะความที่ง่วงจัด หญิงสาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในรถเลยไม่ได้คิดจะเหลียวหลังไปดูหน้าตาของคนขับรถคันดังกล่าว มิฉะนั้นเธอคงจะได้เห็นว่าคนที่ทำให้เธอปวดหัวใจอยู่ ณ เวลานี้อยู่ไม่ไกลจากเธอเลย

************************

ถึงแม้ว่าจะง่วงนอนสักเพียงไหน พริมาที่เพิ่งกลับมาถึงคอนโดฯก็รีบตรงเข้าห้องนอนเพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือทันที หญิงสาวพบว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือหมดเกลี้ยง คงเป็นเพราะเธอตั้งปุ่มปิดเสียงและเปิดเป็นระบบสั่นไว้ตั้งแต่ตอนที่นั่งดูการแข่งขันฟุตบอล และเธอก็ทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ในรถพี่ชายเมื่อเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพิ่งจะมาเห็นก็ตอนที่นั่งรถกลับมาจะถึงคอนโดฯแล้ว
ทันทีที่เปิดเครื่องได้ พริมาไล่สายตาดูหมายเลขที่ไม่ได้รับสาย กว่า 20 สายที่ไม่ได้รับเป็นหมายเลขของภัทร์เกือบทั้งหมด ที่เหลืออีก 2 หมายเลข คือ หมายเลขของภัทรา 2 ครั้ง และอีกหมายเลขเป็นหมายเลขที่เธอไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง
“จากไหนเนี่ย” พริมาทำหน้าสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดจะกดโทรกลับไปเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว แต่หญิงสาวกลับลังเลว่าจะโทรกลับไปหาแฟนหนุ่มเพื่อฟังคำแก้ตัวดีไหม
“ไว้พรุ่งนี้ละกัน ต้องเล่นตัวเสียบ้าง ไม่งั้นพี่โป๊ปจะได้ใจ ต้องให้ง้อเสียให้เข็ด” พริมาวางโทรศัพท์มือถือลงข้างเตียงนอนแล้วจึงลุกไปอาบน้ำ หญิงสาวไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรไปหมด จากคนที่จะถูกง้ออย่างเธอก็ต้องกลายเป็นคนที่ต้องไปง้องอนชายหนุ่มแทน ซึ่งคำง้อของเธอนั้นจะได้ผลหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ เพราะภาพที่ชายคนรักได้เห็นนั้นมันแทนคำพูดได้เป็นร้อยคำพันคำ และเขาก็ปักใจเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเสียแล้วด้วย

************************

พริมานอนลืมตาโพลงอยู่บนที่นอนได้สักพักแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์เธอจึงไม่ต้องรีบตื่นเพื่อไปเรียน หญิงสาวหันไปดูเวลาบนนาฬิกาปลุกที่วางไว้ข้างเตียง
“10 โมงกว่าแล้วเหรอ” หญิงสาวเอื้อมมือไปดึงสายชาร์จให้หลุดออกจากโทรศัพท์มือถือ แล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู....ไม่มีใครโทรมา พริมารู้สึกน้อยใจแฟนหนุ่มขึ้นมาทันที เมื่อวานเธอยอมรับว่ารู้สึกโกรธที่เขายังไม่เลิกเจ้าชู้ โกรธที่เขาเคยรับปากว่าจะไม่มองใครอีกต่อไป จะมีเธอเพียงคนเดียว ที่แท้ก็เป็นเพียงลมปากพล่อย ๆ ของหนุ่มเพลย์บอย ‘เธอก็อยู่ตรงนั้นแท้ ๆ เขายังทำแบบนี้ได้ ถ้าลับหลังเธอ จะขนาดไหน’ พริมาถอนหายใจเพราะนึกถึงคำพูดของพี่ชายที่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาตอนที่นั่งรถกลับมาด้วยกัน
“ปริมไม่เคยได้ยินเหรอที่เขาบอกว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ น่ะ” เปรมเตือนน้องสาวด้วยคำคม และเลี่ยงที่จะพูดว่า
“ก็พี่เตือนปริมแล้วนี่นา”
พริมานั่งคิดตริตรองเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานและย้อนไปถึงช่วงเวลาที่คบกันมากว่า 4 เดือน ที่ผ่านมานั้นเธอมั่นใจในตัวภัทร์มาโดยตลอด ทั้งจากการกระทำของเขาเองและจากการรับรองจากภัทรา แต่วันนี้เธอชักไม่แน่ใจ ขนาดว่าตัวเธอเคยคิดเผื่อใจและทำใจไว้แล้วว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นสักวัน แต่พอเอาเข้าจริงก็เจ็บไม่น้อยเลย ‘เรารักเขาเข้าแล้วนี่นะ ยิ่งรักก็ยิ่งเจ็บ อย่างที่เขาพูดไว้จริง ๆ’ พริมามองหน้าจอโทรศัพท์มือถืออีกครั้งก่อนจะพูดออกมาว่า
“ทำผิดแล้วยังไม่ยอมโทรมาขอโทษอีก” หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วจึงกดโทรศัพท์โทรออก เธอไม่ต้องรอสายนาน ฟังเพลงรอสายยังไม่จบท่อนที่สองดีเสียด้วยซ้ำ
“ว่าไงปริม มีอะไรแต่เช้าจ๊ะ” เสียงงัวเงียของภัทรา
“เช้าบ้านแกสิปั๊ป นี่จะ 11 โมงอยู่แล้วนะ” พริมาบอกเพื่อนสนิทที่เธอนึกภาพออกว่ายังคงนอนอุตุอยู่บนเตียง
“ก็วันเสาร์ จะให้รีบตื่นไปไหนละยะ แล้วแกโทรมามีอะไรหรือเปล่า วันนี้จะนัดไปไหนเหรอ นี่ฉันอยู่บ้านพ่อแม่นะ ไม่ได้นอนที่คอนโดฯ” ภัทราอารัมภบท
“เปล่าไม่ได้จะชวนไปไหน”
“อ้าว! แล้วโทรมาปลุกตั้งแต่เช้าทำไมละยะ”
“เอ่อ....ฉันแค่อยากรู้ว่าพี่โป๊ปอยู่ไหน เขากลับมาที่บ้านกับแกด้วยไหม” พริมาถามเพื่อนสนิท
“เปล่าจ้ะ อ้าว! นี่พวกแกคืนดีกันแล้วเหรอ เร็วจริงนะยะ เห็นเมื่อวานพี่โป๊ปโทรหาแกมือแทบหงิก ฉันนึกว่าแกจะโกรธพี่เขานานซะแล้ว พี่เขาง้อยังไงถึงยอมคืนดีล่ะ อ้อ! ตายจริงฉันลืมไปว่าพี่โป๊ปไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา พวกเราวู่วามด่วนตัดสินกันไปเองเนอะ ดีแล้วล่ะที่แกปรับความเข้าใจกันซะได้ ไม่งั้นฉันต้องโดนเล่นงานอีกแน่ที่ไม่ดูตาม้าตาเรือไปกับแกด้วย” ภัทราตอบกลับมาเสียยืดยาว
“ปั๊ป แกพูดอะไรของแกอะ ฉันไม่เข้าใจ เรื่องเมื่อวานฉันยังไม่ได้คุยกับพี่โป๊ปเลยนะ เมื่อวานฉันไม่ได้รับสายพี่เขาเพราะทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถพี่เปรมน่ะ แบตหมดเกลี้ยงเลยน่ะ แต่วันนี้พี่แกยังไม่โทรมาเลย แล้วแกว่าอะไร ใครวู่วามด่วนตัดสินเรื่องอะไร ฉันงงไปหมดแล้ว นี่ฉันปริมเพื่อนแกนะ แกกำลังนึกว่าคุยกับคนอื่นอยู่หรือเปล่า” พริมาถามอย่างงงงวย
“เออ! รู้แล้วว่าเป็นคุณพริมาว่าที่พี่สะใภ้ฉัน อ้าว! นี่แกกะพี่โป๊ปยังไม่ได้คุยกันอีกเหรอ ฉันก็นึกว่าคุยกันเรียบร้อยแล้วเสียอีก คืองี้นะไอ้ที่พวกเราวู่วามคิดกันไปเองอะ ก็ที่เราเห็นพี่โป๊ปรับมือถือสาวมหา’ลัยโน้นมาแล้วคิดว่าพี่เขาให้เบอร์ไปน่ะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะแก พี่โป๊ปเขาไม่ได้ให้เบอร์สาว ๆ พวกนั้นไปหรอกนะ พี่โป๊ปเขาบอกพวกนั้นไปว่า เขามีแฟนแล้ว และแฟนก็มาคุมเสียด้วย เขาเลยไม่ให้ หรือไม่กล้าให้ฉันก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ ต่อไปพี่ฉันสงสัยจะเข้าชมรมคนกลัวเมียแหง ๆ” ภัทราหัวเราะลั่น
“พี่โป๊ปบอกแกเหรอว่าเขาไม่ได้ให้เบอร์สาว ๆ กลุ่มนั้นไป แกเชื่อเขาเหรอปั๊ป” พริมายังไม่ปักใจเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“เชื่อดิ เพราะสาว ๆ พวกนั้นมายืนยันกับฉันเองว่า ไม่ได้เบอร์จากพี่โป๊ป พวกเขายังนึกว่าฉันเป็นแฟนพี่โป๊ปอยู่เลย นี่ปริมคราวนี้พี่ฉันไม่โกหกหรอกนะ รับรองได้ ถ้าแกไม่เชื่อก็โทรไปถามนังปรัชญ์ดูก็ได้นะ เมื่อวานมันก็อยู่ตอนที่สาว ๆ พวกนั้นเข้ามาบอกฉันน่ะ” ภัทรายืนยันความบริสุทธิ์ของพี่ชาย
“จริงเหรอนี่ ไม่อยากจะเชื่อเลย เฮ้อ! เวรกรรมจริง ๆ ทำเอาฉันคิดไปไกล คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” พริมาสารภาพตรง ๆ
“นี่ไงล่ะ ที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนไว้ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเสมอไป คราวหน้าคราวหลังต้องมีสติและคิดให้รอบคอบนะคะคุณพริมาขาาา” ภัทราได้ทีรีบเตือนสติเพื่อนสาว
“แหม! ปั๊ป เมื่อวานแกก็ขาดสติเหมือนกันนั่นแหละ หนอยแน่! ทำมาว่าแต่ฉันนะ”
“ฮิๆๆ ได้ทีต้องรีบขี่แพะสิแก” ภัทราชอบใจ
“แล้วนี่พี่ชายแกอยู่ไหนละ” พริมาถามพลางวางแผนการไปขอโทษชายหนุ่มอยู่ในใจ
“คงอยู่ที่คอนโดนั่นแหละ แต่เมื่อคืนคงกลับดึกมั้ง เพราะหงุดหงิดที่แกไม่รับสายสักที พี่เขาออกไปข้างนอกตอนทุ่มกว่าแล้ว พอเขาออกฉันก็กลับมาบ้านเลยไง ไม่อยากโดนด่าอีก เมื่อวานพี่โป๊ปบ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยนะแก ว่าพวกเราอะมองเขาในแง่ร้ายตลอด ขนาดเขากลับตัวกลับใจเลิกเจ้าชู้ก็ยังไม่ไว้ใจเขา แกต้องไปขอโทษเขาแล้วล่ะปริมที่ไปปรักปรำเขาแบบนั้น ฉันขอแนะนำว่า.....แกยอมให้พี่ฉันหอมแก้มสักทีสองทีสิ รับรองหายงอน ชัวร์ ฮิๆๆ”
“ไอ้บ้าปั๊ป! ความคิดทุเรศจริงนะแกเนี่ย!”
“แหม! ล้อเล่นอะ ใครจะไปยุให้เพื่อนทำแบบนั้น ฉันแค่พูดเล่นจ้า.....แต่ถ้าแกจะทำตามก็ไม่ว่ากันนะ ฮ่าๆๆ อ้อ! แกเข้าไปหาพี่เขาสิ เขาอยู่ที่คอนโดนั่นแหละ” ภัทราบอกหมายเลขห้องคอนโดฯให้พริมาอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่าพริมาจะจำหมายเลขห้องได้ พริมาเคยแวะไปที่คอนโดฯของเธอเพียงครั้งเดียวเท่านั้นซึ่งก็นานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่รู้จักกันใหม่ ๆ ในช่วงรับน้องตอนอยู่ปีหนึ่ง ครั้งนั้นภัทราชวนพริมามาอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะจากกิจกรรมรับน้องที่คอนโดฯของเธอซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากมหาวิทยาลัย เพราะทั้งคู่ต้องกลับไปทำกิจกรรมรับน้องในช่วงเย็นด้วยกันอีก
“นั้นเดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะแวะเข้าไป เพราะต้องไปเอากระเป๋าหนังสือที่ฝากไว้ในรถพี่เขาด้วย มีการบ้านตั้ง 2-3 วิชาที่ต้องทำ โอเค งั้นฉันไม่กวนเวลาบรรทมของแกแล้ว แค่นี้นะปั๊ป กลับไปนอนต่อได้เลยย่ะ”
“โอ๊ย! ป่านนี้แล้ว ใครจะไปนอนหลับลงล่ะยะ แค่นี้แหละ แล้วเจอกันวันจันทร์นะปริม บ้าย บายจ้า”
“จ้า เจอกันวันจันทร์นะปั๊ป บ้าย บาย” พริมาวางสายจากเพื่อนสนิท หญิงสาวยิ้มพราวไปทั้งหน้าเมื่อรู้ความจริง และเมื่อรู้ตัวว่าผิดเธอก็ต้องไปขอโทษคนที่ตกเป็นจำเลยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิด พริมาจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปง้อแฟนหนุ่ม

************************

ณ คอนโดฯหรูแห่งหนึ่งกลางเมืองกรุง พริมาซึ่งอยู่ในลิฟต์ตามลำพัง พยายามเรียบเรียงคำพูดที่จะใช้ขอโทษแฟนหนุ่ม
‘ต้องทำยังไงดีนะ ถึงจะให้พี่เขาไม่โกรธเรากลับที่ไม่ไว้ใจ’
ยิ่งใกล้ถึงที่หมาย หญิงสาวยิ่งใจเต้นแรงขึ้นทุกทีเพราะที่ผ่านมาทั้งคู่ยังไม่เคยมีเรื่องให้ต้อง ‘เคลียร์’ กันเลย
‘เราผิด ยังไงก็ต้องยอมรับผิดสิ เป็นไงก็เป็นกัน’ หญิงสาวให้กำลังใจตัวเอง
นอกจากจะใจเต้นแรงเพราะเรื่องที่กังวลอยู่ในใจแล้ว พริมาก็ยังรู้สึกประหม่าที่ต้องมาอยู่ในที่มิดชิดกับแฟนหนุ่มสองต่อสอง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองดูตัวเลขที่บอกระดับชั้นของคอนโดฯ แล้วจึงมองเงาตัวเองในจากประตูลิฟต์เพื่อเช็คความเรียบร้อย วันนี้เธอเลือกใส่กางเกงยีนส์เข้ารูปสีเข้มกับเสื้อยืดพอดีตัวสีขาว เพิ่มความเก๋ด้วยสร้อยคอเส้นยาวที่ทำจากลูกปัดไม้หลากสีสัน พริมารวบผมตึงเป็นหางม้าและแต่งหน้าอ่อน ๆ หญิงสาวรูปร่างเพรียวอย่างเธอจึงดูสวยใสสมวัยและทันสมัย
พริมาก้าวออกมาจากลิฟต์แล้วเลี้ยวไปตามทางเดิน ซึ่งออกแบบไว้กว้างขวางเป็นพิเศษสมกับที่เป็นคอนโดฯราคาแพงลิบลิ่ว หญิงสาวสำรวจความโอ่โถงและหรูหราของสถานที่ระหว่างที่ก้าวเท้าเดินไปเรื่อย ๆ พื้นหินแกรนิตสีเหลืองนวลให้ความรู้สึกอบอุ่น กระจกใสที่ใช้เพิ่มแสงสว่างและช่วยคั่นพื้นที่ระหว่างห้องชุดแต่ละห้องให้แยกจากกันทำให้เจ้าของห้องมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
‘จำนวนห้องในแต่ละชั้นก็มีไม่มากแสดงว่าพื้นที่ในแต่ละห้องนั้นจะต้องใหญ่โตกว้างขวางน่าดู มิน่าราคาถึงเป็นหลักสิบล้าน’ พริมาแอบคิดในใจ
หญิงสาวคนสวยเดินตรงไปยังประตูไม้บานใหญ่สีโอ๊คซึ่งมีช่องสำหรับเสียบการ์ดเข้า – ออกประตูติดอยู่ เมื่อเช็คดูหมายเลขห้องว่าตรงกับที่ได้ยินมาจากภัทราแล้ว เธอก็เอื้อมมือไปกดออดบนกำแพงที่ข้างประตูซึ่งมีไฟสัญญาณแสดงอยู่ พริมายืนรอเพียงไม่นานก็มีเสียงปลดล็อคจากด้านในพร้อมกับบานประตูที่ค่อย ๆ แง้มออก ทันทีที่เห็นหน้าเจ้าของห้องพริมาก็ส่งยิ้มหวานให้
“ปริม” เสียงเจ้าของห้องเรียกขาน ภัทร์รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยเพราะคาดไม่ถึงว่าผู้มาเยือนจะเป็นหญิงสาวตรงหน้า แต่เมื่อตั้งสติได้แล้วชายหนุ่มก็จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีรอยยิ้มให้อย่างทุกครั้งที่ได้เจอกัน
“ค่ะ ปริมเอง” พริมาขานรับ
“ปั๊ปไม่อยู่หรอกนะ” ภัทร์บอก
“ปริมไม่ได้มาหาปั๊ปค่ะ ปริมมาหาพี่โป๊ป พี่โป๊ปเพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอคะ” พริมาเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ และมีหยดน้ำเกาะพราวตามหน้าอกที่มองเห็นจากรอยแยกของสาบเสื้อ
“ใช่” ชายหนุ่มตอบอย่างห้วน ๆ และยิ้มหยันเมื่อเห็นสายตาสำรวจของหญิงสาว
“ยังโกรธปริมเหรอคะ ปริมมาขอโทษอยู่นี่ไง” พริมาบอกด้วยเสียงหวานและท่าทางที่ยอมรับผิดเพราะต้องการที่จะเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าคมเข้มที่ยังดูเรียบเฉย
“ขอโทษ! ขอโทษเรื่องอะไรล่ะ” ภัทร์แกล้งถาม
‘เรื่องที่เธอหลอกฉันนะเหรอ’ ชายหนุ่มถามอยู่ในใจ
“ก็เรื่องเมื่อวาน เรื่องที่ปริมเข้าใจพี่ผิดไงล่ะคะ ปริมขอโทษนะคะที่ไม่ไว้ใจพี่น่ะ หายโกรธปริมนะคะ” พริมาพูดพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อขอคืนดี แต่ภัทร์กลับมองด้วยสายตาว่างเปล่า
“ว้า! ยังไม่ยอมหายโกรธอีก ผู้ชายอะไรขี้ใจน้อยจัง” พริมาล้อแฟนหนุ่มที่ยังคงมีสีหน้ามึนตึงใส่เธอ หญิงสาวยังไม่ละความพยายามเพราะเธอรู้ว่าถ้าเธอเป็นเขา เธอก็คงโกรธไม่น้อย
‘ผู้ชายก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะปริม’ เปรมบอกกับเธอเองหลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมด หญิงสาวจึงบอกกับพี่ชายว่าจะออกมาพบกับภัทร์เพื่อปรับความเข้าใจกัน
“ปริมต้องทำยังไง พี่โป๊ปถึงจะหายโกรธละคะ” พริมาถามพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับคนตรงหน้าอีกครั้ง ยิ้มที่ภัทร์เคยชมว่าสวย แต่ไฉนวันนี้ชายหนุ่มกลับไม่อยากเห็นมันอีก
“อยากรู้จริง ๆ เหรอ” ภัทร์ถามออกมาในที่สุดด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ค่ะ พี่โป๊ปจะให้ปริมทำยังไงคะ” พริมาเอียงคอไปมา จากที่เคยดูน่ารักสำหรับเขา กลับเป็นเพียง ‘มารยา’ ในวันนี้
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก ขอแค่.....ขอแค่ปริมออกจากชีวิตพี่ไปก็พอแล้ว” ภัทร์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังและชัดเจน
พริมาที่เริ่มมองเห็นเค้าลางของความผิดปกติทำสีหน้าฉงน
“หมายความว่าไงคะ”
“ก็หมายความตามนั้นนั่นแหละ ไม่เข้าใจเหรอ” ภัทร์ตอบกลับอย่างมะนาวไม่มีน้ำ
“พี่โป๊ปพูดเล่นใช่ไหมคะ” พริมายังคงมองโลกในแง่ดี ถึงแม้สีหน้าของเธอจะเริ่มแสดงอาการตระหนกตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว
“เปล่า พูดจริง”
พริมายืนนิ่งงันไร้คำพูดใด ๆ เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่ได้ล้อเล่นของภัทร์ และก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกไปอีก ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาว่า
“โป๊ปคุยอยู่กะใครคะ” เจ้าของเสียงหวานที่ค่อย ๆ ยื่นใบหน้าสวยเฉี่ยวที่แต่งเติมด้วยเครื่องสำอาง ชั้นดีมาจากทางด้านหลังของชายหนุ่มเจ้าของห้องชุด หญิงสาวอยู่ในชุดกระโปรงสั้นเกาะอกสีดำ และสวมสร้อยคอสีทองแวววาวซึ่งเป็นเกลียวยาวมาถึงหน้าอก เธอปล่อยผมที่ดัดหยิกเป็นลอนให้ยาวสยายเต็มแผ่นหลัง เธอดูสวยและเซ็กซี่
พริมาเบิกตามองบุคคลที่สามด้วยอาการตกตะลึง และ ‘ช็อค’ เมื่อเห็นความสนิทสนมของคนทั้งคู่ที่อยู่หน้าเธอ หญิงสาวคนดังกล่าวยื่นมือบางไปแตะไหล่ของภัทร์ ก่อนที่จะแทรกตัวเธอเองออกมายืนประจันหน้ากับพริมา และทิ้งน้ำหนักของตัวเธอเองโดยการพิงไปบนอกของชายหนุ่ม
“เธอเป็นใคร”
ไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ เพิ่มเติม พริมาก็เข้าใจทุกอย่างได้ไม่ยากนัก ‘เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่อก มันเป็นเช่นนี้เอง’ หญิงสาวจ้องมองหน้าคนรักและรอให้เขาเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา....ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีแม้คำแก้ตัว ชายหนุ่มมองใบหน้าที่เริ่มไร้สีสันของเธอดดยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา แต่ข้างในนั้น เขาก็เจ็บเช่นกัน ภัทร์และพริมาประสานสายตากัน แต่คราวนี้ไม่มีความหวานเจออยู่เลยในแววตาของทั้งคู่ มีเพียงความปวดร้าว
พริมาหลับตาลงเพื่อตั้งสติ เมื่อลืมตาขึ้นเธอจึงก้าวถอยหลังออกมา แล้วจึงหมุนตัวกลับมายังทางเดิม พริมาสาวเท้าให้ก้าวเร็วขึ้นถึงแม้จะไม่มีเสียงใครตามหลังมาก็ตาม

************************
ขอบคุณกำลังใจจากคุณ violette / คุณต่าย พนาศิลป์ และ คุณ pumkin มาก ๆ ค่ะ


ฝาก e-Book เรื่องภารกิจรัก ภารกิจแค้นไว้ด้วยค่ะ ราคา 199 บาท / 6.99 $ ค่ะ
https://www.hytexts.com/ebook/book/B000358
ไปให้กำลังใจที่ facebook กันได้นะคะ
http://www.facebook.com/ภารกิจรักภารกิจแค้น






อาทิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2555, 00:43:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2555, 00:43:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 1935





<< ตอนที่ 7 (50% แรก)   ตอนที่ 8 >>
พนาศิลป์ 12 ก.ค. 2555, 09:44:49 น.
อ่านะ ไอ้คุณโป๊ป เลวได้อีก ผู้ชายมักจะอ้างว่านอนกับผู้หญิงโดยไม่รู้สึกอะไรมันก็แค่เซ็กซ์ เป็นไปตามสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ผู้ชาย แต่แค่เห็นผู้หญิงไปเดินกับผู้ชายอื่นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ (555 เค้าคิดแบบนี้ล่ะคุณติ๊ก)


อาทิตา 12 ก.ค. 2555, 11:22:18 น.
5555 คุณต่ายพูดได้ตรงมากค่ะ ว่าแต่โกรธโป๊ปมากจนถอดออกจากตำแหน่งพระเอกไหมคะเนี่ย (อยากรู้จัง)


zilvermoon 12 ก.ค. 2555, 13:06:41 น.
เห็นด้วยกับคุณพนาศิลป์มากๆ ค่ะ ค่านิยมเห่ยๆผู้ชายเป็นของแบบนี้แหละ ความจริงอยากถามโป๊ปตั้งกะต้นเรื่องแล้วละค่ะว่าไอ้ที่บอกว่าต้องดูแลผู้หญิงอีกคนเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แล้วภรรยากับลูกที่บ้านไม่ต้องรับผิดชอบหรือคะ แล้วถ้าปริมไปมีผู้ชายอื่นบ้างทำได้มั้ยคะ ความจริงแล้วถ้าปริมมีคนใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาอยากให้ปริมเดินหน้าไม่ต้องกลับมาเก็บของเก่าแบบโป๊ปอีกค่ะ ไม่รู้ว่าขัดใจไรเตอร์หรือเปล่านะคะ (- -")


violette 12 ก.ค. 2555, 21:31:33 น.
เห็นด้วยกับคุณพนาศิลป์ค่ะ
ยิ่งพอเรื่องปัจจุบันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อยากปลดนายโป๊ปออกค่ะ
ปริม ให้อภัยแล้วรอบนึง (เพราะกลับมาแต่งงานกันได้) แต่อีกรอบไม่ควรจะให้อภัยจริงๆค่ะ


violette 12 ก.ค. 2555, 21:31:53 น.
ปล.เห็นด้วยกับคุณ zilvermoonด้วยค่ะ


pumkin 18 ก.ค. 2555, 23:43:28 น.
หายไปไหนหลายวัน รออ่านอยู่นะคะ ^_^


saralun 14 พ.ย. 2555, 15:43:27 น.
สงสารปริมจริง ๆ TT


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account